ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ได้อ่านบทความนี้ช่วยบอกต่อด้วยนะครับเพราะข้อมูลที่ท่านได้ทราบต่อไปนี้คือเทคโนโลยีแห่งอนาคตในสาขาการแพทย์และโภชนาการ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการความหวังในการมีชีวิตรอดจากโรคร้ายต่างๆ เช่น เอดส์ มะเร็ง เบาหวาน SLE สะเก็ดเงิน โรคเกี่ยวกับกระดูก หัวใจ หลอดเลือด ตา และโรคเกี่ยวกับความเสื่อมถอยของร่างกาย และยังมีประโยชน์กับผู้ต้องการดูแลสุขภาพ ผิวพรรณ การควบคุมน้ำหนักและการลดความอ้วนด้วยนะครับ ยังมีผู้คนอีกมากที่เป็นโรคร้ายแรงนั้น มีหลายท่านที่หมดหนทางในการรอด ซึ่งอาจเป็นคนที่ท่านรัก คนในครอบครัวของท่าน คนที่ท่านรู้จัก การที่ท่านได้ทราบข้อมูลเหล่านี้และบอกต่อไป เพียงแค่นี้ท่านก็จะสามารถช่วยผู้คนมากมายที่กำลังทรมานจากโรคร้ายได้นะครับ
ภัยคุกคามแห่งความเจ็บป่วยคือโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับพวกเรา ทุกคนทราบหรือไม่ ? โรคภัยที่คร่าชีวิตของผู้คนในโลกยุคใหม่ไปมากมายที่สุดคือ โรคแห่งความเสื่อมถอยเรื้อรัง ได้แก่ โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ( Cardiovascular disease ) โรคลมปัจจุบัน ( Stroke ) อันเกี่ยวกับอาการผิดปกติของเส้นเลือดหล่อเลี้ยงสมองและโรคมะเร็ง ซ้ำร้ายไปกว่านั้น โรคเบาหวานเพิ่มขึ้นกว่า 400 % ภายใน 20 ปีที่ผ่านมา ภูมิแพ้เพิ่มขึ้นกว่า 500 % ภายใน 30 ปี ฯลฯ คงไม่มีครอบครัวใดในปัจจุบันที่ไม่เคยสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปเพราะโรคร้ายแรงเหล่านี้.......
งานวิจัยทางการแพทย์ระบุชัดเจนว่าโภชนาการมีบทบาทสำคัญในการต่อต้านโรคร้าย
ผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่าเทคโนโลยี ฟู้ดแมทริกซ์ เป็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการโภชนาการ สารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ เป็นสารอาหารที่ใกล้เคียงกับอาหารตามธรรมชาติมากที่สุด......
ฟู้ดแมทริกซ์ หรือ ฟู้ดเสตท คือ...กระบวนการผลิตสารอาหารโดยมีการเกาะเกี่ยวในระดับโมเลกุลกับสารโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมันในรูปสารประกอบเชิงซ้อนซึ่งเป็นรูปแบบที่พบในสารอาหารธรรมชาติ ทั้งยังเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ขอร่างกายโดยการปรากฏในเนื้อเยื่อหลังได้รับสารอาหาร ( Bioavailability ) ของโภชนาหารแบบนี้จะสูงกว่าวิตามินและเกลือแร่สังเคราะห์ ที่วางขายในท้องตลาดถึง 6 เท่าตัว และร่างกายยังสามารถกักเก็บไว้ได้ยาวนานกว่าด้วย นอกจากนี้ เนื่องจากสารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ ถูกดูดซึมได้ง่ายเหมือนอาหารธรรมชาติ และคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าวิตามินและแร่ธาตุในท้องตลาดหลายเท่าตัวจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องบริโภคในปริมาณมากมาย.....
เทคโนโลยีนี้ก็เปรียบได้กับการส่งจดหมาย หากเราไม่จ่าหน้าซอง จดหมายก็จะถูกส่งไปไม่ได้ก็เหมือนกับการที่เราได้รับสารอาหารต่างๆเข้าไปในร่างกายการที่ไม่มีโปรตีนเป็นรหัสนำพาเข้าไป สารเหล่านั้นก็จะเข้าไปไม่ถูกจุด กว่า90%ก็จะถูกขับถ่ายออกจากร่างกาย มีเพียงแค่0.1-0.4%เท่านั้นที่จะเข้าไปตรงจุด แล้วอีกเกือบ10%ก็จะกลายเป็นอนุมูลอิสระที่ล่องลอยอยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นอันตราย ทำให้โรคภัยต่างๆยิ่งทรุดหนักลง และอาจก่อมะเร็งได้ แต่การที่มีโปรตีนนำเข้าไปนั้นจะไปถูกจุดเช่น ไวตามินC ก็จะมีโปรตีนที่เป็นรหัสเฉพาะของไวตามินC นำไปหาส่วนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ไวตามินCได้ และในสารอาหารและแร่ธาตุแต่ละตัวก็จะมีโปรตีนเฉพาะตัว เช่น โปรตีนที่มีรหัสเกาะกลุ่มกับแคลเซียมก็จะมีรหัสเฉพาะของโปรตีนที่เป็นตัวเกาะกับแคลเซียม ก็จะพาไปสู่จุดที่ต้องการแคลเซียม เป็นต้น
ผลประโยชน์คืออะไร ?
การศึกษามากมายแสดงให้เห็นว่าการเกาะเกี่ยวของวิตามินและเกลือแร่กับโปรตีนดังเช่นที่พบอยู่ในอาหารธรรมชาติเอื้ออำนวยให้โภชนาหารดังกล่าวถูกนำไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพนี่คือเหตุผลที่อธิบายว่าเหตุใดโภชนาหารในสภาวะอาหารจึงมีประสิทธิภาพกว่าอย่างมากมายจากการศึกษาวิจัยต่าง ๆ มีข้อสรุปว่าการดูดซับสู่ร่างกายมีประสิทธิภาพมากกว่า 5 เท่าตัว การคงอยู่ ( retention ) และการปรากฏปริมาณสารอาหารในเนื้อเยื่อมีประสิทธิภาพกว่าถึง 16 เท่า ดังนั้นจึงทำให้เกิดโภชนาหารสำรองที่มีศักยภาพอย่างสูงที่ร่างกายสามารถใช้สอยได้ในยามต้องการ และที่สำคัญจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันเป็นผลลบใดๆเลยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่นผลกระทบที่อาจเกิดกับตับ ลำไส้ หลอดเลือด และหัวใจ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
| NOBEL PRICE |
รางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยา หรือการแพทย์ ปี 1999 กับการค้นพบภายใต้ทฤษฎีที่ว่า....... " โปรตีนมีสัญญาณภายในตัวเองซึ่งควบคุมการข่นส่งและการกำหนดตำแหน่งเฉพาะของตัวมันเองภายในเซลล์ " |
|
| | Food Matrix เป็นผลิตภัณฑ์ทีผลิตขึ้นโดยอยู่บนพื้นฐานงานวิจัยที่ได้รับรางวัลโนเบล ปี 1999 โดยดร.กุนเทอร์ บลอเบล | | | |
|
คดีความ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ |
| |
ค.ศ. 1991 ได้มีคดีความสำคัญเกิดขึ้น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นคดีความครั้งยิ่งใหญ่และมีความสำคัญมากทางด้านอุตสาหกรรมอาหาร ฟ้องร้อง โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งผลิตสารอาหารเคมีชนิดเดี่ยว ได้ยื่นคำร้องคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับความจริงที่ว่าสารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ มีการดูดซึมดีกว่า คงสภาพอยู่ในร่างกายได้นานกว่า และร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า ศาลได้แต่งตั้งนักวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติจากองค์การอาหารและยา ( FDA ) ออกเป็น 5 กลุ่ม ทำงานเป็นเอกเทศ โดยใช้เทคโนโลยีขององค์การนาซ่า และวิธีการของ NMR ( Nuclear Magnetic Resonance ) ให้รายงานผลไปยังผู้พิพากษา |
บทสรุป 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 ศาลได้มีคำพิจารณาคดีเลขที่ C 8920658SW ให้ ฟู้ดแมทริกซ์ ชนะคดีและได้รับเงินชดเชย 3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีคำพิพากษาสรุป ดังนี้ - สารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ มีคุณภาพดีกว่า สารอาหารชนิดเดี่ยว USP
- สารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ มีการดูดซึมได้ดีกว่า คงสภาพอยู่ในร่างกายได้นานกว่า และนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า สารอาหารชนิดเดี่ยว USP
- สารอาหาร ฟู้ดแมทริกซ์ ได้มีการจดสิทธิบัตรถูกต้องตามกฎหมาย
|
จากข้อมูลที่กล่าวมาผมไม่ได้กล่าวเกินจริง ผมเพียงนำเสนอข้อมูลตามจริงเท่านั้น
ผมไม่จำเป็นต้องการันตีให้ใคร แต่สิ่งที่การันตีคือรางวัลโบเบล คือการตัดสินของศาล
และจากการแชร์ประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์โดยตรง
ผมไม่โฆษณาให้ชวนเชื่อ แต่ขอให้ท่านใช้วิจารณญาณตัดสินนะครับ
นี่อาจจะเป็นฟางแห่งชีวิตเส้นสุดท้ายสำหรับใครหลายๆคน
โปรดตัดสินใจอย่างรอบคอบและรวดเร็ว เพราะชีวิตรอไม่ได้แม่แต่นาทีเดียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อ คุณสิทธิชัย แก้วโสธร
Tel. : 086-707-5112
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น