คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3 do for your girl(?)
Just แค่นี้เท่านั้น 3
ตึง!
เสียงตบโต๊ะดังขึ้น ภายในห้องสีขาวโพลน หลังจากที่การ BATTLE สิ้นสุดลง...
“นายต้องไป!” ผมตะคอกใส่ผู้ชายที่นั่งไม่รู้สึกรู้สา ทำหน้าไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับอะไรทั้งสิ้น
“ก็ฉันบอกฉันไม่ไป!” ยงกุกตวาดกลับ ทั้งที่หน้ายังนิ่งเฉยอยู่
“แต่นายต้องไป” ผมตะคอกกลับอีกครั้ง พร้อมกับขอบตาที่มันเริ่มร้อนผ่าว
“ก็ฉันบอกว่า...” ยงกุกเริ่มนิ่งลงก่อนจะหยุดพูในที่สุด
“ขอร้องละ....ไปเข้าวงกับฉันเถอะนะ...”ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลงกว่าเดิมพร้อมกับคุกเข่าลง ตอนนี้น้ำตาของผมไหลลงมาสะแล้ว โดยที่ผมก็แทบไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
“เฮ้ย! ร้องไห้อ่อ?” ยงกุกพูดด้วยน้ำเสียงตกใจไม่ใช่น้อยแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
“ขอร้องละ...ขะ..ขอร้องละนะ” เสียงที่เริ่มมีอาการสะอึกทำให้ผมรู้ดีว่าคงห้ามน้ำตาอีกไม่ไหว(ฉันได้ข่าวพี่ร้องแล้วไม่ใช่หรอ-ไรเตอร์)
“เออๆ ใจเย็นๆ หยุดร้องได้แล้ว นี่!” มือใหญ่ๆแตะที่ไหลของผมอยู่2-3ที ก่อนจะค่อยๆลูบหลังผมอย่าเบามือ
“ฮึก...ฮึก...” ผมเริ่มสะอื้นเมื่อผมพยายามจะหยุดน้ำตาพวกนี้ไว้แต่มันคงยากเกินไปสำหรับผมในสถานการณ์อย่างนี้
“เฮ้!ร้องไห้เป็นเด็กขี้แยไปได้ นายเป็นผู้ชายนะ”
“แล้วผู้ชายมันร้องไห้ไม่ได้หรอ???” ผมหันไปสบตาเขาแต่ภาพมันเบอลไปหมดเพราะน้ำตาที่มันเกาะอยู่เต็มขอบตา
“ร้องไห้ได้แต่ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องแค่นี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ
“นายไม่เข้าใจหรอก” ถ้าเรื่องที่ผมกำลังขอร้องเขาไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับ ฮยอนจิน ผมจะไม่ทำขนาดนี้ไม่เป็นขนาดนี้เลย
“ก็บอกฉันสิฉันจะได้เข้าใจ”
“มันไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรู้ ไม่ต้องมายุ่ง แค่ไปบริษัทกับฉันก็พอ”
ผมตัดสินใจเดินออกมาจากห้องก่อนโดยที่เขาก็เดินตามมาติดๆ เราตัดสินใจไปด้วยรถเมล์เพราะ เราทั้งคู่ไม่มีรถ....หลังจากที่เราพลัดกันหลับไปหลายตื่นในที่สุดก็ถึง
‘TS ENT’
.
.
.
.
YONGGUK’S PART
ระหว่างทางที่มา เจลโล่ไม่ยอมพูดอะไรเลย ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาก็เอาแต่เหม่อลอยออกไปข้างทางด้วยแววตาที่ไม่สื่อความหมายใดๆ....หรือ..ผมเองที่อ่านแววตาคู่นั้นไม่ออก ผมไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรทำให้เขาถึงกับร้องไห้ ผมอยากจะรู้จริงๆนะว่าเรื่องนี้มันสำคัญกับเขามากขนาดนี้...เพราอะไร? ผมชัก..อยากจะรู้เรื่องของเด็กคนนี้ให้มากขึ้นซะแล้วสิ
“นี่นาย!”
ปึก!
ยังไม่ทันทีผมจะเอ่ยถามข้อข้องใจ ร่างบางที่เดินนำอยู่ก็ผลักประตูห้องประชุมเข้าไปสะก่อน เผยให้เห็น ประธานบริษัท KIM TAE-SUNG และเหล่าสมาชิกภายในวงที่ผมรู้จักทั้งหมด(เพราะพวกนี้เคยมาตื้อให้ผมเข้าวงหมดแล้วทุกคน)
“ลากมันมาได้ด้วยเว้ย!” ไอฮิมชานกับผมสีน้ำตาลสุดแสนจะภาคภูมิใจของมัน พูขึ้น
ผมน่ะรู้จักกับมันมานานละ กวนประสาทได้โล่เลย(แอร๊ยยย ได้โล่555-ไรเตอร์)
ส่วนจงออบ กับยองแจ ก็ค่อนข้างไม่กล้าพูดกับผมสักเท่าไหร่เพราะ ตอนที่พวกมันมาตื้อนะ ผมอาละวาดไปสะเละเลย เหอะ ส่วนคนสุดท้าย แดฮยอน มันนะเป็นคนที่มาตื้อผมเมื่อปีสองปีก่อน แต่ผมยังอยากใช้ชีวิตใต้ดินผมเลยขอเวลามัน วันนี้มันก็เลยส่งคนสุดท้ายของวงมาท้วงสัญญาจนได้
“เอาละ มาแล้วก็รีบๆมาคุยprojectกัน” ประธานคิม พูดแทรกขึ้นในขณะที่ผมนั่งลงข้างๆฮิมชาน ซึ่งตรงข้ามกับเจลโล่พอดี
“ อ่ะ ก็ขอบคุณนะที่ในที่สุดยงกุกก็ยอมมาร่วมวงกับเราสักที”ประธานคิมพูดขึ้นอีกครั้ง
“ครับ...”ผมเอ่ยรับในขณะที่ยังคงสังเกตอาการของคนตรงข้ามอยู่ตลอด
“เอาละ.....” ผมไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังสิ่งที่อีตาลุงประธานพูดสักเท่าไหร่ แต่พอจะจับใจความได้ว่า เขาจะให้ผมปล่อยเพลงใต้ดินที่ผมแต่งเองและอีกเพลงให้ผมแร็ปคู่กับเจลโล่ แล้วระหว่างนั้นก็ให้พวกที่เหลือฝึกหรือทำงานอื่นไปเรื่อยๆแล้วค่อยปล่อยเพลงเดบิวต์ของพวกเรา ซึ่งก็ไม่มีใครคัดค้านอะไรเลย
“เดี๋ยว2ทุ่มเจอกันที่ห้องอัดนะ”
“ห๊ะ??” นี่ เจลโล่เขาพูดกับผมหรอ? คือว่าพูดแล้วก็เดินไปเลยเนี่ยนะ-0-
“ทำใจ คืนนี้แกไม่ได้นอนแน่ๆ ฮ่าฮ่า”ฮิมชานพูดแล้วตบบ่าผมเบาๆ(ฮิมชานพูดสะเราคิดลึกเลย55-ไรเตอร์)
“โอ๊ย!” ก่อนที่มันจะเดินไปผมก็จัดบาทาไปให้มันกินสักข้าง กวนจริงๆนี่มันเพิ่งจะ5โมงเองนะ แล้วผมจะทำอะไรละ อีกตั้งหลายชม.
.
.
หลังจากที่ผมนั่งคิดอยู่นานว่าผมจะทำอะไรดีในเวลา2-3ชม สุดท้ายผมก็ทำได้แค่เดินไปมาอยู่ในตึก จนผมไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องซ้อมเต้น ผมเห็นพวกเด็กฝึกหัดเต้นกันแทบเป็นแทบตาย บางคนก็ล้ม บางคนก็โดนครฝึกว่าแต่บางคนก็เต้นตามได้แทบทุกสเต็ป.....ผมก็เคย...เป็นแบบนั้นนะ..อยากเป็นนักร้องอยากเป็นศิลปิน ทำทุกอย่างโดยไม่สนใจใคร ไม่แคร์ ว่าใครจะเป็นยังไง รู้สึกยังไง จนสุดท้ายผมก็เสียเขาไป...และไม่เหลือใคร
“เอาละ วันนี้พอแค่นี้!” เสียงของครูฝึกดังขึ้นมาจากในห้องทำให้ผมได้สติ
จ้อกกกกก!
อ่า...ผมเริ่มหิวสะแล้วสิ ลงไปหาอะไรกินหน่อยดีกว่า ผมเดินลงไปที่มินิมาร์ทใต้ตึก เพราะคงเป็นที่เดียวที่มีทุกอย่าง
“เอาเบอร์เกอร์ไก่ครับ”ผมสั่งกับพนักงานที่เคาว์เตอร์ก่อนจะเดินไปกดน้ำมากินสักแก้ว
“8000วอนค่ะ ขอบคุณค่ะ” ผมยื่นตังตังค์ให้พนักงานก่อนจะเดินออกจากร้านเพื่อไปหาที่นั่งกิน ตาผมสะดุดเข้ากับภาพร่างที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งกลางสวน
“อ่ะ กินป่ะ?” ผมยื่นน้ำไปตรงหน้าของเจลโล่ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาก่อนบอกปัด
“ไม่เอา” ผมไม่เข้าใจว่าเขาจะเครียดอะไรหนักหนา
“นี่ ทำไมนายถึง อยากทำเพลงนี้มากขนาดนั้นละ”ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้คาดคั้นอะไรเพียงแต่ถามเพราะความอยากรู้ของผมเท่านั้น..
“ฉันทำมันให้คนนึงนะ...” เจลโล่ตอบโดยที่เขายังมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา
“คนๆนั้น คงสำคัญกับนายมากใช่มั้ย??” ผมถามต่อ...คนๆนึงจะทำเพื่อใครอีกคนได้มากขนาดนี้เลยหรอ
“มากๆเลยละ” แววตาของเขาเปลี่ยนจากที่ดูเย็นชาเป็นอ่อนโยนวูบนึงแค่วูบนึงจริงๆ ผมเห็นเขาอมยิ้มด้วยมั้ง น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขายิ้มเลยมั้ง
“อย่างนี้นี่เอง” ผมรู้สึกดีนะผมรู้สึกเหมือนว่าก็ยังดีที่เขายอมตอบคำถามผมบ้าง ดีว่าผลักไสไม่ให้ผมรู้อะไรเลย
“ถามอยู่ได้ไหนๆก็อยู่นี่แล้วงั้นก็ไปห้องอัดเลยละกัน” เขาพูดแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปเลย
“เฮ้ย!เดี๋ยวดิ ฉันยังกินไม่หมดเลยนะ” ผมพดขึ้นก่อนจะรีบยัดเบอร์เกอร์ที่เหลือใส่ปากให้หมด ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเขาหัวเราะนะ
อ๊ะ! นี่มันรูปใครนะ ผมก้มลงเก็บรูปโพราลอยด์ที่พื้นช้าๆ ...มันคือรู้ของเจลโล่กับผู้หญิงคนนึง.....
‘คงเป็นเธอคนนี้สินะ ที่ทำให้นายทำได้มากขนาดนี้’
YONGGUK'S PART END
..................................................................................................................................................................
พี่โล่ร้องไห้ T^T ผู้หญิงคนนั้นคือใครกันนะ?? ติดตามตอนต่อไปนะค่ะ :)
(คอมเม้นกันด้วยนะ)
ความคิดเห็น