ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTS] "Noodle Project รักนี้ต้องลวก" เล็กหมูน้ำตก | KOOKV FT.BTS

    ลำดับตอนที่ #6 : เล็กหมูน้ำตก : ชามที่ห้า 1OO%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 58




     Chapter 5



                “จอน ทำแบบฝึกหัดเสร็จรึยังน่ะ”

     

                “.....”

     

                “จอน อ้าว..”

     

     

    มือเรียววางไอโฟนลงบนโต๊ะก่อนจะมองคนตรงหน้าที่หลับฟุบกองหนังสือ

     

    เจ้าเด็กแว๊นซ์หลับไปตอนไหนเนี่ย ผมก็มัวแต่เล่มเกมเพลินเลย

     

     

    “จอน ตื่นสิ” ร่างบางเรียกพลางเขย่าไหล่คนตรงหน้า

     

    “.....”

     

                “จอนจองกุก ง่วงก็ไปนอนที่เตียงให้ดีสิ นอนตรงนี้ปวดหลังนะ”

     

     

                สมควรจะง่วงไหมล่ะ เมื่อคืนก็มาส่งผมที่บ้าน กว่าจะได้นอนก็คงจะดึก แถมยังเล่นมาปลุกผมแต่เช้าอีก เจ้าเด็กคนนี้ได้นอนไปกี่ชั่วโมงกันนะ

     

                ตือดึง!

     

                เสียงเตือนจากไอโฟนของคนที่หลับอยู่ดัง ทำให้หน้าจอสว่างจนร่างบางหันไปเห็นภาพทัชกรีนหน้าจอพอดี

     

                เห้ย นั่นมันรูปผมนี่! เจ้าเด็กบ้านี่ขโมยไปแล้วเอามาตั้งเป็นรูปหน้าจอแบบนี้เลยหรอเนี่ย ไม่ขออนุญาตสักคำ มันจะเกินไปแล้วนะ

     

               

                “จอน! จะตื่นไม่ตื่น?!” ร่างบางเพิ่มระดับความดังของเสียงเรียก

     

                “อื้อ....” ร่างสูงครางในลำคอ

     

                “นับหนึ่ง”

     

                “....”

     

                “พี่นับสองแล้วนะ”

     

                “อื้ม..” จองกุกยังคงฟุบโต๊ะอยู่

     

                “นับสาม!!

     

     

              ผั่วะ!!!!!!!!!!!!!

               

                มือเรียวฟาดไปตรงหัวของคนที่หลับอยู่เต็มแรง ทำเอาฝ่ายที่โดนกระทำสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ

     

     

                “โอ้ยยยยยยย พี่วีจ๋าตบหัวจอนทำไมเนี่ย”

     

                “พี่ปลุกไง ให้มาติวไม่ใช่มานอน” ร่างบางตอบด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

     

                “ปลุกแบบนุ่มนวลแบบที่คนปกติเขาทำกันไม่ได้หรอจ้ะ ทำไมต้องใช้กำลังด้วย หรือพี่วีชอบความรุนแรง ซาดิสม์ เป็นมาโซคิสม์รึไง?”

     

     

                ร่างสูงพูดพลางเอามือลูบหัวตัวเองเบาๆ

     

     

                “ไอ้เด็กบ้า จะติวไหมถ้าไม่ตั้งใจก็กลับไปเลย” แทฮยองตะคอกกลับ

     

                “ติวจ้ะ แต่จอนแค่พักสายตาแปบเดียวเอง นี่ทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้วนะเลยงีบไปไม่ได้บอก เพราะเห็นพี่วีเล่นเกมอยู่อ่ะจ้ะ” ร่างสูงอธิบาย

               

                “ไหนเอามาดูหน่อยว่าทำถูกรึเปล่า”

     

     

    มือเรียวหยิบหนังสือตรงหน้าจองกุกมาตรวจเช็ค

     

     

    “ถ้าจอนทำถูกแล้วพี่วีจะให้รางวัลอะไรจ้ะ?” จองกุกเอียงคอยถาม

     

    “ไม่ให้อะไรทั้งนั้น”

     

    “โหยยย อะไรกันอ่ะ คุณครูไม่คิดจะมีรางวัลเป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์เลยรึไงจ้ะ”

     

    “ไม่มี” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง

     

    “ถ้าจอนทำถูก เราไปกินก๋วยเตี๋ยวกันนะ บ่ายสามแล้วเนี่ย ข้าวต้มกุ้งฝีมือแม่พี่วีย่อยหมดแล้วอ่ะ จอนนะหิ๊ววววววหิว”

     

     

    มือหนาจิ้มแขนคนน่ารัก สายตามองอ้อน ทำหน้าน่าสงสารอย่างสุดพลัง

     

     

                “คิดว่าพี่จะหลงเชื่อการแสดงของนายอีกเหรอจอน” ร่างบางถามกลับ

     

                “นี่ไม่แอคติ้งนะจ้ะ นี่หิวจริงจัง กินพี่วีได้ทั้งตัวแล้วนะ”

     

                “ทะลึ่ง!!” แทฮยองโยนปากกาใส่อกคนตรงหน้า

     

                “ทะลึ่งอะไรพี่วี จอนยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะมีแต่พี่แหละที่คิดทะลึ่งกับจอนอ่ะ”

     

                “ไอ่เด็กบ้า!! กล้าเถียงพี่เหรอ”

     

                “ไม่จ้ะไม่ เอาเป็นว่าติวเสร็จเราไปหาอะไรกินกันนะจ้ะ”

     

                “อื้อ ก็ได้”

     

     

                แทฮยองตอบตกลง ก่อนจะไล่ตรวจแบบฝึกหัดไปจนถึงข้อสุดท้าย

     

     

                “เป็นไงพี่วี ถูกไหมจ้ะ” ร่างสูงถามด้วยความอยากรู้

     

                “ห้าข้อ”

     

                “ผิดห้าข้อเองอ่ะ จอนนี่มันเก่งจริงๆ” จองกุกกอดอกภูมิใจ

     

                “เปล่า ถูกห้าข้อจากสามสิบข้อ นอกนั้นผิดรวด”

     

     

                มือเรียวยื่นหนังสือแบบฝึกหัดคืนให้คนตรงหน้าดู

     

     

                “อ้าวหรอจ้ะ แฮะๆ” ร่างสูงยิ้มเจื่อน

     

                “ตั้งใจหน่อยสิจอนจองกุก”

     

                “พี่วีจ๋า นี่ปกติถ้าทำเองผิดหมดเลยนะจ้ะ นี่พี่วีสอนไม่กี่ชั่วโมงจอนทำได้ห้าข้อนี่ก็มหัศจรรย์แล้วนะจ้ะ”

     

                “วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน กลับบ้านไปทวนดูตรงข้อที่ผิดทั้งหมดว่าเพราะอะไรแล้ว หาคำตอบที่ถูกมาให้พี่ ตรงไหนที่ยังไม่เข้าใจก็ไลน์มาถาม”

     

                “โอเคจ้ะ แล้วถ้าสงสัยว่าเมื่อไหร่พี่วีจะรับรักจอนล่ะจ้ะ ไลน์มาถามได้ไหม?”

     

     

                จองกุกถามพลางเก็บของใส่กระเป๋าเป้สีแดงใบโตที่แบกมาด้วย

     

     

                “ไม่ได้”

     

                “ใจร้ายอ่ะ งั้นถามตอนนี้เลยได้ไหม”

     

                “ไม่ตอบ หิว รีบเก็บของสิอย่ามัวแต่พูดมาก” คนน่ารักสั่งอย่างเอาแต่ใจ

     

                “จ้ะๆ พี่วีจ๋าของจอน”

     

     

    จองกุกพูดพลางรีบเก็บของเข้ากระเป๋าจนหมด ก่อนจะสะพายเป้ไว้ข้างหลังแล้วเดินนำร่างบางออกไป

     

    เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่จะดูแลผมรอดเหรอครับเนี่ย ผมล่ะท้อใจแรง

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าประจำ

     

    ผมพาพี่วีมากินก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมครับ ร้านที่เรามากินด้วยกันครั้งแรก ร้านที่มีแต่ความทรงจำของผมกับพี่วี

     

    “เห้ยมึง น้องคนนั้นน่ารักว่ะ”

     

    “ไหนว้ะ”

     

    “นั่นไง ที่กำลังเดินเข้าร้านมากับเด็กฟันจอบนั่นอ่ะ”

     

     

    โอ้โห ไอ่จอนเจ็บไปถึงหัวใจ มองพี่วีไม่พอยังว่าผมฟันจอบอีก นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่วีอยู่ด้วยจะพุ่งเข้าไปถีบยอดหน้ามันแล้วเอาหัวกดลงชามก๋วยเตี๋ยว

     

     

    “เขามากับแฟนรึเปล่ามึง”

     

    “เห้ย ไม่มั้ง อาจจะเพื่อนกันก็ได้”

     

     

    ยัง ยังไม่หยุดนินทา เดี๋ยวเถอะ พี่วีเป็นถึงว่าที่แฟนของจอนเชียวนะ

     

     

    “เข้าไปขอไลน์น้องเขาดีป้ะว้ะ”

     

    “เออๆ เดี๋ยวรอกินเสร็จไปขอกัน นานทีจะเจอคนน่ารักตรงสเปค”

     

     

    ผมหันไปส่งสายตาอาฆาตให้ผู้ชายที่นั่งซุบซิบนินทาผมกับพี่วีอยู่ ถ้ามันสามารถอ่านใจของผมได้ จะรับรู้ว่านี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกพวกมัน

     

    พวกมึงอยากกินตีนกูแทนก๋วยเตี๋ยวไหม

     

     

    “จอน เป็นอะไรอ่ะ หน้าบึ้งเชียว”

     

    “เปล่าจ้ะพี่วีจ๋า”

     

     

    ผมหันกลับมายิ้มให้คนน่ารักตรงหน้า

     

     

    “อากาศร้อนเนอะ”

     

     

    ไม่พูดเปล่า มือเรียวพับแขนเสื้อยืดของตัวเองขึ้นมาจนเห็นต้นแขนเนียน

     

     

    “แขนเรียวตัวบาง ผิวสีแทนน่ารักเซกซี่มากมึง”

     

     

    โอ้ย พี่วีจะรู้ไหมว่ามีคนจ้องจับงาบพี่วีอยู่ข้างๆ เนี่ย ขืนปล่อยไว้แบบนี้สักวันต้องมีคนมาแย่งพี่วีไปจากจอนแน่เลย ไม่ได้การแล้ว ไอ้จอนต้องรุกฆาต!

     

     

    พี่!!! เรามาแข่งกินก๋วยเตี๋ยวกัน

     

    หึ ได้สิ ฉันเอาเส้นเล็กหมูน้ำตกสิบถ้วยเลยแล้วกัน แล้วนายจะได้รู้ว่าท้าผิดคนไอ่เด็กบ้า

     

    ถ้าจอนชนะพี่วีต้องยอมเป็นแฟนจอน โอเคป้าวววว

     

    แล้วถ้านายแพ้ล่ะ?”

     

    ถ้าจอนแพ้ จอนจะไม่ยุ่งกับพี่อีกเลย

     

     

    ในเมื่อถามตรงๆ ขอเป็นแฟนแล้วก็ไม่ยอมตอบ คนปากแข็งแบบพี่วีจอนต้องใช้วิธีบังคับแบบนี้แหละ ความรักครั้งนี้มีเส้นเล็กหมูน้ำตกเป็นเดิมพัน

     

     

    “ได้แล้วจ้ะ เส้นเล็กหมูน้ำตกยี่สิบชาม”

     

     

    ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวยกชามร้อนๆ มากมายมาวางให้บนโต๊ะ

     

     

    “กินให้อร่อยนะจ้ะเด็กๆ”

     

    “ขอบคุณครับป้า” , “ขอบคุณจ้ะป้า”

     

     

    ทันทีที่เส้นเล็กหมูน้ำตกยี่สิบชามถูกวางให้ตรงหน้า ทั้งสองก็ต่างก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองอย่างตั้งใจ

     

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

     

     

    “เอร่อออออออออ โอ้ยอิ่ม” ร่างบางเรอเสียงดังก่อนจะเอามือลูบหน้าท้อง

     

    “พี่วีเรอขนาดนี้ อ้วกเลยไหมจ้ะ555555555555555555555

     

     

    จองกุกเอ่ยแซวคนน่ารักตรงหน้าก่อนจะระเบิดหัวเราออกมา ก็ไม่คิดว่าคนน่ารักอย่างแทฮยองจะกล้าทำอะไรน่าอายแบบนี้ต่อหน้าเขา

     

     

    “ขำอะไร คนเรอมันน่าขำตรงไหน เรื่องธรรมชาติ”

     

    “ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้อ่ะจ้ะ55555555555555555555

     

    “ทำไม หรือนายไม่เคยเรอ พี่ก็เป็นคนปกติที่เรอได้ ร้องไห้เป็น” ร่างบางพูดพลางกอดอก

     

    “พี่วีเป็นคนหรอ จอนเข้าใจผิดมาตลอดเลยเนี่ยว่าพี่วีคือนางฟ้า”

     

     

    มือหนาเท้าคางจ้องหน้าแทฮยอง ทำเอาอีกคนที่ถูกชมถึงกับหันหนี

     

     

    “กินคนละสิบชามเท่ากันนี่ เสมอแบบนี้ถือว่าเป็นโมฆะไปก็แล้วกัน”

     

    “เห้ย ได้ไงอ่ะ”

     

     

    จองกุกโวยวายก่อนจะสำรวจมองชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า ทันใดนั้นสายตาไปปะทะกับอะไรบางอย่างในชามก๋วยเตี๋ยวของแทฮยอง

     

     

    “พี่วีแพ้นะจ้ะ” ร่างสูงยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายให้อีกคน

     

    “อย่ามาโกง เรากินเท่ากันคนละสิบชามนะจอน” ร่างบางเถียงกลับ

     

     

    ผมขอใช้คำว่ายัดเส้นเล็กหมูน้ำตกสิบชามเข้าปากจนหมดดีกว่า นี่เพื่อศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเลยนะ จะแพ้ไม่ได้ต่อให้อิ่มตั้งแต่ชามที่ห้าแล้วก็ตาม

     

     

    “พี่วีกินไม่หมดอ่ะ เหลือผักบุ้งสองบ้องนะจ้ะ”

     

    มือหนายกชามก๋วยเตี๋ยวโชว์หลักฐานผักบุ้งสองบ้องให้คนตรงหน้าดู ก่อนจะวางมันกลับลงบนโต๊ะแล้วกอดอกยิ้มอย่างมีชัยชนะ

     

     

    “แค่เศษผักบุ้งเองนะ”

     

    “ไม่ได้จ้ะ จอนกินเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำ พี่วีกินไม่หมดอ่ะถือว่าแพ้นะจ้ะ”

     

    “โกงพี่นี่!!

     

    “ยุติธรรมกว่านี้ก็เรียกเปาปุ้นจิ้นมาตัดสินแล้วพี่วีจ๋า พี่แพ้จอนแล้วยอมรับผลซะเถอะจ้ะ” จองกุกยิ้มเยาะเย้ย

     

    “ไอ้เด็กบ้า!!

     

    “ตามนั้นนะจ้ะ แฟนจ๋าของจอน” ร่างสูงเรียกเสียงหวาน

     

    “ห้ะ?!

     

     

    นี่ผมจะต้องเป็นแฟนไอ้เด็กแว๊นซ์นี่เพราะผักบุ้งสองบ้องนี่เหรอ บ้าที่สุด!

     

     

     

    “พี่วีแฟนจอน จอนแฟนพี่วี จากนี้ไปเราเป็นแฟนกัน ผักบุ้งสองบ้องเป็นพยาน โอเคนะจ้ะพี่วีจ๋า” มือหนาดึงมืออีกคนมาจับไว้

     

    “นายมันร้ายกาจ จอนจองกุก!

     

     

    ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเถียงกันอยู่นั้น ผู้ชายที่ดูเหมือนนักเลงก็เดินมาที่โต๊ะของพวกเขา

     

     

    “น้องๆ น่ารักจังอ่ะ พี่ขอไลน์หน่อยสิ” ชายร่างใหญ่ยังยักษ์ไททันเอ่ยถามแทฮยอง

     

    “เอ่อ...” ร่างบางอึกอัก

     

     

    ไอ้สองคนนี้ดูท่างทางน่ากลัวจังครับ ตัวก็ใหญ่หน้าก็เหมือนโจร ผมจะปฏิเสธยังไงดีให้พวกมันไม่โมโห ถ้าปกติคงจะถีบปากมันไป แต่ตอนนี้อิ่มจนลุกไม่ขึ้นเลยครับ

     

     

    “พี่ครับ นี่แฟนผม” จองกุกพูดไปอย่างไม่เกรงกลัว

     

    “ไอ้ฟันจอบ หุบปากไปไม่ได้ถามมึง”

     

    “อยู่มหาลัยแล้วใช่มั้ย มีคนจ่ายค่าเล่าเรียนให้ยังจ้ะ สนใจให้พี่รับเลี้ยงรึเปล่าน้อง”

     

     

    ชายร่างยักษ์พูดจบก็ยื่นมาจะมาจับตัวแทฮยอง แต่ถูกจองกุกห้ามไว้

     

     

    “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงพี่ ก็บอกว่านี่แฟนผม”

     

     

    ร่างสูงพูดเสียงแข็ง มือหนาจับข้อมือของชายร่างยักษ์ไว้แน่น

     

     

    “มึงนี่กวนกูจริง อยากเจ็บตัวหรอไอ้หน้าจืด”

     

     

    ชายร่างยักษ์พูดพลางกำหมัดจะต่อยร่างสูง แต่ทันใดนั้นก็ถูกน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวร้อนๆราดลงที่กลางหัว จนเขาแหกปากร้องลั่น

     

     

    “โอ้ยยยยยยยยยย ร้อน!!!! ไอ่เชี้ยร้อนนนนนนนนน”

     

    “ขอโทษนะพี่ แต่ผมมีแฟนแล้ว คนนี้แหละครับแฟนผม”

     

     

    ชามก๋วยเตี๋ยวถูกวางลงบนโต๊ะด้วยมือของร่างบาง

     

     

    “พี่วี หนีเร็ว!

     

     

    จองกุกรีบวางเงินให้ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวก่อนจะพาแทฮยองวิ่งออกมาจากร้านแล้วรีบขี่รถออกไปทันที

     

     

    5555555555555555555555555555555555555555555555

     

     

    จู่ๆ ร่างสูงก็ระเบิดหัวเราะออกมา หลังจากที่ขี่รถออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมาได้สักพัก

     

     

    “ขำอะไร”

     

    “ขำพี่วีอ่ะ เห็นน่ารักแบบนี้ก็สายโหดนะเนี่ย” จองกุกตอบ

     

    “พี่ช่วยไม่ให้นายโดนต่อยนะ แทนที่จะขอบคุณ ยังจะมาขำ รู้งี้ปล่อยให้โดนต่อยคว่ำก็ดี”

     

    “เป็นห่วงกลัวจอนโดนพวกมันต่อยเหรอจ้ะ” ร่างสูงถามอีกคน

     

    “เปล่า”

     

    “ทำถึงขนาดนี้แล้วยังจะปากแข็งอีกนะพี่วีเนี่ย”

     

    “เปล่าสักหน่อย ไม่ได้ปากแข็ง” ร่างบางเถียงกลับ

     

     

    ก็จอนเขาจะช่วยผมนี่ ผมก็ต้องช่วยเขากลับสิครับ เป็นห่วงตรงไหนกัน

     

     

    “พี่วีจ๋า”

     

    “อะไร”

     

    “แฟนจ๋า”

     

    “...”

     

    “เราเป็นแฟนกันแล้วนะ”

     

    “....” ร่างบางไม่ตอบได้แต่หันหน้ามองไปริมข้างทาง

     

     

    ตึกตักๆ... ตึกตักๆ...

     

    หัวใจผมเต้นแรงจนจะระเบิดออกมาแล้วเนี่ย จอนจะพูดย้ำอะไรนักหนา

     

     

    “พี่วีจ๋า”

     

    “....”

     

    “พี่วีครับ”

     

    “หืม..”

     

    “เลิกปากแข็งแล้วตอบจอนหน่อยได้ไหม”

     

    “อะไร”

     

    “เป็นแฟนกันนะ” จองกุกถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    “อื้ม”

     

    “จอนรักพี่วีนะ”

     

    “อื้อ”

     

     

    ผมเขินเจ้าเด็กแว๊นซ์นี่จนอยากจะระเบิดตัวตายกลายเป็นโกโก้ครั้นช์

     

     

    “พี่วีไม่ต้องรักจอนตอนนี้ก็ได้ แต่จอนอยากให้พี่วีรู้ไว้ก็พอว่าจอนรักพี่วีจริงๆนะ พี่วีอาจจะคิดว่าเร็วไป แต่สำหรับจอน จอนมั่นใจ จอนไม่อยากให้เวลาหลังจากนี้ผ่านไปอย่างศูนย์เปล่า จอนอยากอยู่ดูแลพี่วีนะ”

     

    “อื้อ ขอบคุณนะ”

     

     

    ร่างบางตอบอีกคนก่อนจะอมยิ้มด้วยความเขินอาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกคนตรงหน้าแอบมองแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อของตัวเองจากกระจกข้างรถ

     

     

    “ไอ่จอนมีแฟนอย่างเป็นทางการแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย” จองกุกตะโกนลั่น

     

    “นี่ ไม่อายคนรึไง!

     

    “ไม่อายจ้ะ พี่วีรับรักจอนจะอายทำไม อยากจะบอกคนทั้งโลกเลยด้วยซ้ำว่าแฟนจอนน่ะน่ารัก5555555555555555555” ร่างสูงตอบอีกคนด้วยรอยยิ้ม

     

    “เด็กบ้า!!!!!” มือเรียวตีไหล่อีกคนเบาๆ

     

    “เขินก็บอกว่าเขินไม่ต้องใช้กำลังนะพี่วีจ๋า”

     

    “จอนจองกุก!!!!!!!!!”  แทฮยองตะคอก

     

    “คุณแฟนอย่าดุสิจ้ะ พูดดีๆจอนก็ยอมพี่วีหมดทุกอย่างแล้วจ้า55555555555

     

    “ขี่รถดีๆ เลย มัวแต่พูดมากอยู่นั่นแหละ” แทฮยองส่ายหัวให้กับคนตรงหน้า

     

    “พี่วีจ๋า”

     

    “อะไรอีก”

     

    “จอนจะรอพี่วีนะ”

     

    “นายจะรออะไรพี่” แทฮยองถามกลับด้วยความสงสัย

     

    “ก็คำว่ารักไง พี่วีรู้สึกมันเมื่อไหร่ก็ช่วยบอกให้จอนรู้ด้วยนะจ้ะ จอนจะรอฟังคำนั้นจากปากพี่วี”

     

    “นายจะรอพี่ได้นานแค่ไหนล่ะ” ร่างบางถามต่อ

     

    “จอนจะรอจนกว่าพี่วีจะรักจอนไง จะอีกกี่เดือน หรือกี่ปีจอนก็รอได้”

     

    “แล้วถ้าเกิดพี่รักคนอื่นที่ไม่ใช่นายล่ะ...”

     

     

    ใจแป้วเลยไอ้จอน เพิ่งดีใจได้ไม่นาน พี่วีถามงี้น้ำตาจะไหลขอแชร์นะครับ

     

     

    “ถ้าพี่วีเจอคนที่รักเมื่อไหร่ แล้วเขาก็รักพี่วี จอนจะไปจากพี่เองจ้ะ”

     

    “พระเอกมากไหมที่ทำอยู่” แทฮยองถามต่อ

     

    “ความสุขของพี่วีคือความสุขของจอนไง นี่รักมากนะเลยยอมอ่ะ”

     

    “รักมากก็รอพี่ให้ได้แล้วกันนะจอน”

     

     

    ผมลองเปิดโอกาสให้ตัวเอง และให้โอกาสจอน หวังว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจทำลงไป มันจะเป็นไปด้วยดีนะครับ หวังว่าจอนจะเป็นคนที่ใช่สำหรับผม

     

     

    “อย่าหลอกให้รอแล้วจากไปนะจ้ะพี่วีจ๋า”

     

     

    นี่ผมไม่ได้มโนไปเองใช่ไหม พี่วีบอกให้รอ แสดงว่าพี่เขาก็คิดจะรักผมเหมือนกันใช่ไหมครับ ไอ้จอนมีความหวังแล้วสินะ

     

     

    “จอนจองกุก” ร่างบางพูดพลางยื่นคางไปเกยไหล่คนข้างหน้า

     

    “จ๋า”

     

    “ขอบคุณนะจอน.. ขอบคุณที่รักกัน”

     

     

    สิ้นสุดคำพูดของแทฮยอง ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มกว้างเขินจนหน้าแดง เพียงแค่คำขอบคุณธรรมดา กลับทำให้เขารู้สึกดีใจจนระบายออกมาไม่ถูก

     

    คนที่มีความสุขที่สุดในโลกคือผมเองครับ จอนจองกุก

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     


     

                ติ๊งต่อง

     

     

    “สวัสดีครับ คุณแม่”

     

     

    ร่างสูงเอ่ยทักทันทีที่เห็นแม่ของแทฮยองเดินออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนซอกจินคงเปิดประตูบ้านแล้วเดินเข้าไปเองได้โดยไม่ต้องมากกริ่งหน้าบ้านแบบนี้ แต่ตอนนี้สถานะระหว่างเขากับแทฮยองได้เปลี่ยนไปแล้ว จึงไม่สามารถทำเหมือนอย่างเคยได้อีกต่อไป

     

     

    “สวัสดีจ้ะ ลมอะไรหอบมาถึงนี่ล่ะจิน”

     

    “ผมเอาขนมมาให้น้องวีน่ะครับ”

     

    “น้องไม่อยู่น่ะลูก ออกไปข้างนอกสักพักใหญ่แล้วล่ะจิน”

     

    “น้องวีได้บอกไหมครับว่าจะกลับมาตอนไหน?”

     

    “น่าจะใกล้กลับแล้วนะ บอกแม่ว่าแค่ออกไปหาอะไรกินแถวนี้น่ะจิน เข้ามารอในบ้านก่อนไหมล่ะลูก” พูดจบก็เปิดประตูให้อีกคนเข้ามา

     

    “ก็ได้ครับ ขอรบกวนหน่อยนะครับคุณแม่”

     

     

    ร่างสูงเดินตามแม่ของแทฮยองเข้าไปในบ้านเพื่อรอที่จะเจอกับคนน่ารัก ระหว่างที่รอก็นั่งคุยกับพ่อและแม่ของร่างบางอย่างสนิทสนม ถึงซอกจินจะถูกอดีตคนรักเกลียดแค่ไหน แต่พ่อและแม่ของเขาก็ยังคงดีกับชายไหล่กว้างคนนี้เหมือนเดิม

     

     

    “อ้าว รถใครมาจอดขวางหน้าบ้านพี่วีแบบนี้เนี่ย”

     

     

    จองกุกพูดก่อนจะบิดกุญแจดับเครื่องและจอดรถมอเตอรไซค์ไว้ข้างรถยนต์คันหรู ทันทีที่แทฮยองเห็นรถที่จอดขวางหน้าบ้านเขาอยู่ก็ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังรถคันเดิม ป้ายทะเบียนเดียวกับคันที่พรากชีวิตของน้องชายเขาไปเมื่อหนึ่งปีก่อน

     

     

    “พี่วีจ๋า เป็นอะไรรึเปล่าจ้ะ”

     

    “ห้ะ อะไรนะ” ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย

     

    “ตกใจอะไร จอนเห็นพี่วีนิ่งไปไงจ้ะ เลยเป็นห่วง ไม่สบายรึเปล่า?” จองกุกเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

     

    “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ขอบคุณนะจอนที่เป็นห่วงพี่” ร่างบางพูดพลางยิ้มกว้างให้อีกคน

     

    “แฟนจอน จอนก็ต้องเป็นห่วงสิจ้ะ นี่ทั้งห่วง หวง หึงพี่วีเลยรู้ไหม”

     

    “หึง? นายจะหึงพี่ทำไมจอน” คนน่ารักเอียงคอถาม

     

    “ก็พี่วีน่ารัก เวลาคนมองพี่วีจอนก็หึงแล้วเนี่ย พี่วีเล่นกับแมวตัวผู้จอนยังหึงเลยอ่ะคิดดูดิ” จองกุกพูดพร้อมกับทำหน้างอ

     

    “เด็กบ้าเอ้ย หึงอะไรแม้กระทั่งแมว55555555555555555

     

    “ไม่รู้แหละ ต่อไปห้ามทำตัวน่ารักกับใครนะจ้ะ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว จอนมีสิทธิ์ที่จะหึงหวงพี่วีอย่างเต็มที่” ร่างสูงกอดอกพูดกับคนน่ารักตรงหน้า

     

     

    ก็พี่วีอ่ะชอบทำตัวน่ารักตลอดเวลา ใครเห็นเป็นต้องมอง จอนหวงแฟนจอนอ่ะ นี่จะเลิกขับวินมอเตอร์ไซค์แล้วมาเปลี่ยนเป็นยามเฝ้าหน้าบ้านี่พี่วีแทนแล้วครับ

     

     

    “นายตามติดพี่ยิ่งเหาฉลามขนาดนี้ คงไม่มีใครมายุ่งกับพี่แล้วล่ะจอน สบายใจเถอะ” ร่างบางพูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปยีผมของคนตัวสูงที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงอยู่

     

     

    เจ้าเด็กแว๊นซ์คนนี้ชักจะน่ารักขึ้นทุกวันแล้วครับ กวนตีนน้อยลงแต่กลับทำตัวอบอุ่นขึ้นแทน เป็นแฟนกันแล้วต้องทำตัวน่ารักขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย

     

     

    “ถ้าไม่มีใครมายุ่งกับพี่วีจริงๆ ก็ดี เพราะจอนขี้หึงมากนี่บอกไว้เลยนะจ้ะพี่วีจ๋า”

     

    “รู้แล้วน่า เข้าบ้านกันเถอะ” ร่างบางสาวเท้าเข้าไปในบ้านโดยมีจองกุกเดินตามไป

     

    “สวัสดีครับน้องวี”

     

     

    ซอกจินเอ่ยทักก่อนจะยิ้มหวานให้ทันทีที่เห็นคนน่ารักที่เขากำลังรอจะเจอเดินเข้ามาในบ้าน ถึงจะขัดหูขัดตาเล็กน้อยที่มีใครอีกคนเดินตามเข้ามาด้วยท่าทางสนิทสนมก็ตาม แต่ความสนใจของเขาก็ยังคงเป็นแทฮยองมากกว่า

     

     

    “มาทำไมอีก” แทฮยองสวนกลับทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา

     

    “ทำไมพูดกับพี่เขาแบบนั้นล่ะลูก” หญิงผู้เป็นแม่ห้ามปรามลูก

     

    “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ น้องวีเขาอาจจะยังไม่ยกโทษให้ผม”

     

    “รู้แล้วก็กลับไปสิครับ จะมานั่งอยู่ทำไม” ร่างบางไล่

     

     

    “พี่เอาขนมมาให้น้องวีเต็มเลยนะครับ มีแต่ของที่เราชอบทั้งนั้นเลยนะ”

     

    “พี่ช่วยออกไปจากบ้านผม แล้วเอาขนมของพี่กลับไปด้วยครับ เชิญ” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะผายมืออกไปนอกบ้าน

     

    “แทแท อย่าทำแบบนี้สิลูก ไม่น่ารักเลยนะ พี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจ”

     

    “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมนึกได้ว่ามีธุระพอดี ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ลาล่ะครับคุณพ่อคุณแม่” ซอกจินพูดจบก็ลาผู้ใหญ่ด้วยความอ่อนน้อม ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากบ้านไป

     

    “ไปส่งพี่เขาเลยนะแทแท แล้วก็ขอโทษพี่เขาด้วยที่ทำตัวไม่น่ารักแบบนั้น”

     

    “แต่..”

     

    “ไม่มีแต่  ไหนเราเคยคุยกันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอลูก อย่าเอาเรื่องราวในอดีตมาเป็นความแค้นให้มันทำลายอนาคตเลยนะ”

     

    “ก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่มานะจอน”

     

     

    ร่างบางพูดจบก็เดินสาวเท้าเดินตามร่างสูงออกไป แทฮยองเรียกซอกจินแล้วก็คุยอะไรกันบางอย่างโดยมีจองกุกคอยมองทุกเหตุการณ์

     

    อยากจะเข้าไปขวางแต่ก็ทำไม่ได้ครับ จอนเชื่อใจพี่วีแต่ไม่เชื่อใจผู้ชายปากห้อยคนนั้นเลย ยิ่งพ่วงตำแหน่งคนรักเก่าของพี่วีด้วย พ่อกับแม่ดูท่าทางจะยังเอ็นดูมันอีก แล้วจอนล่ะ จอนเป็นแฟนคนปัจจุบันนะครับ ต้องเอ็นดูจอนมากกว่าสิ

     

     

    “น้องวีเดินมาส่งพี่ด้วย ดีใจจัง” ร่างสูงหันมาบอกคนน่ารักที่เดินตามเขาออกมา

     

    “ผมแค่ทำเพื่อความสบายใจของแม่ พี่ไม่ต้องดีใจหรอกครับ”

     

    “เมื่อไหร่เราจะเลิกปากแข็ง การที่คบกับเด็กแว๊นซ์นั่นประชดพี่มันไม่ได้ผลหรอกนะ พี่ไม่มีทางตัดใจจากน้องวีง่ายๆ หรอกครับ”

     

    “เมื่อไหร่พี่จะเลิกเข้าข้างตัวเองสักทีครับ ผมมีแฟนแล้ว เรารักกันมาก และพี่ก็อย่ามาทำลายความสุขของเราเลยครับ” แทฮยองเถียงกลับ

     

    “พี่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเห็นแบบนี้ยังจะรักกันอยู่ไหม”

     

     

    ทันทีที่พูดจบมือหนาดึงตัวร่างบางมากอดแน่น กอดที่เขาโหยหาและคิดถึง ซอกจินตั้งใจกอดและอยากจะให้จองกุกที่มองอยู่ในบ้านนั้นเห็น

     

     

    “ไอ่พี่จิน ปล่อย!!” แทฮยองตะคอก

     

    “ไว้เจอกันใหม่นะครับน้องวี” ร่างสูยอมผละออกแต่โดยดีก่อนจะขึ้นรถยนต์คันหรูของตัวเองและขับออกไป

     

    “ขึ้นห้องกันเถอะจอน” มือเรียวคว้าแขนร่างสูงหลังจากที่เดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะพาขึ้นบันไดบ้านไปยังห้องนอนของตัวเอง

     

     

                ตุบ ตุบ

                ร่างบางกระโจนลงบนเตียงนุ่มทันทีที่เข้ามาในห้องนอนของตัวเอง โดยมีร่างสูงที่เดินตามมานั้นทิ้งตัวลงมานอนด้วยข้างๆ

     

               

                “มองอะไร?” แทฮยองเอ่ยถามคนที่นอนอยู่ข้างกาย

     

                “มองหน้าแฟนครับ”

     

                “กวนเหรอจอนจองกุก”

     

    “เปล่าครับ”

     

    “เป็นอะไร?” แทฮยองถามด้วยความสงสัย

     

                “เป็นแฟนพี่วีไง”

     

                “ไม่คุยด้วยแล้ว นอนดีกว่า” เมื่อพูดจบคนน่ารักก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างกัน

     

    “นี่จอนหึงพี่วีอยู่นะ จะมาหันหนีจอนแบบนี้ไม่ได้นะพี่วี”

     

     

    ไม่พูดเปล่า จองกุกยังยื่นมือไปดึงตัวคนน่ารักให้มาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง จนแผ่นหลังบางนั่นชิดกับอกแกร่ง

     

     

                “นี่ อย่าคิดว่ายอมตกลงเป็นแฟนด้วยแล้วจะทำอะไรรุ่มร่ามกับพี่ก็ได้นะ” แทฮยองพูดพลางแกะมืออีกคนออก

     

                “จอนขออนุญาตกอดแฟนหน่อยนะจ้ะ”

     

                “ไม่ได้”

     

                “ไม่ได้ก็จะกอดอ่ะจ้ะ ทีไอ่ปากห้อยนั่นยังกอดพี่วีของจอนได้เลย”

     

                “พี่จินเขาจงใจให้นายเห็นเพื่อจำทำให้เราทะเลาะกันนะจอน”

     

                “จอนรู้ แต่จอนก็ยังหึงอยู่ดี ไม่รู้แหละ แฟนจอน จอนกอดได้คนเดียว ใครหน้าไหนก็ห้ามมากอดพี่วีจ๋าของจอน”

     

                “นายไม่เชื่อใจพี่เหรอจอน”

     

                “จอนเชื่อพี่วีทุกอย่าง แต่จอนแค่ไม่ชอบที่มันมายุ่งกับพี่วี จอนไม่ไว้ใจมันอ่ะ”

     

                “เด็กบ้า เลิกหึงได้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นมันเจอตีนพี่แน่”

     

                “เจอตีนนี่แบบที่พี่วีให้จอนบ่อยๆ ใช่มั้ยจ้ะ” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท

     

    “เอาตีนอีกไหมจอน ตอนนี้เลยไหมล่ะ!?”

     

     

    ขนาดหึงอยู่นะครับ ยังจะกวนตีน เจ้าเด็กคนนี้ทำตัวอบอุ่นได้ไม่เกินสามนาทีจริงๆ สินะ

     

     

    ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วเปลี่ยนจากตีนเป็นปากพี่วีประทับลงมาที่ปากจอนแทนได้ไหม555555555555555555” ร่างสูงกระซิบข้างหูคนน่ารักในอ้อมกอด

     

                “จอนจองกุก!!!!!!!” แทฮยองขึ้นเสียง

     

                “เขินอ่ะดิ พี่วีเขินจอนใช่มั้ยล่ะ”

     

                “เออออออออออออออ!!!!

     

                “ท่าทางจะเขินมากจริงๆ เขินจนตัวดำไปหมดแล้ว55555555555555555555” จองกุกหัวเราะลั่น

     

                “....”

     

     

                กล้ามากครับ ว่าผมตัวดำ  คิมแทฮยองโมโห! เกรี้ยวกราด! หงุดหงิด! ต่อให้เป็นแฟนก็เถอะ มาว่าผมตัวดำนี้โกรธมากครับ แบบพี่น่ะเขาเรียกผิวสีน้ำผึ้งโว้ยไอ้เด็กฟันจอบ!!

     

     

                “อุ่ย.. เงียบ”

     

                “...”

     

                “พี่วีจ๋า งอนหรอ จอนแซวเล่นเอง”

     

    “....”

     

    “พี่วีจ๋า นี่จอนหึงพี่วีอยู่ พี่วีจะมางอนจอนกลับแบบนี้ไม่ได้นะ”

     

    “....”

     

    “แฟนครับ ไม่งอนนะ หันมาพูดกับจอนหน่อยนะครับ จะหันมาด่า มาถีบจอนก็ได้นะ แต่อย่างเงียบแบบนี้สิ” ร่างสูงพูดเสียงอ่อน

     

     

    โอ้ย ทำไมเวลาง้อแล้วอบอุ่นแบบนี้ล่ะครับ เวลาจอนพูดครับแทนจ้ะจ๋านี่มันทำให้ผมเขินมากเลย

     

     

    “พี่วีคนน่ารักของจอน อย่าเงียบแบบนี้สิใจคอไม่ดีเลย”

     

    “หึ.. ” ร่างบางเปล่งเสียงในลำคอ

     

     

    อันที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธหรืองอนอะไรหรอกนะ แต่เพราะกินก๋วยเตี๋ยวเยอะเกินไป หนังท้องตึงหนังตาหย่อน ตอนนี้ผมง่วงมากครับเลยขี้เกียจเถียงจอนเขาน่ะ

     

     

    “พี่วีครับ จอนขอโทษที่ปากหมา หายงอนนะครับ พี่วีไม่คุยกับจอน แล้วจอนจะคุยกับใครล่ะ จอนเหงานะ”

     

    “....” ร่างบางยังคงไม่ตอบอะไร

     

     

    แกล้งงอนต่ออีกสักนิดดีกว่าครับ ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าเด็กแว๊นซ์จะทำยังไงต่อ ได้โอกาสงอนก็ขอเอาคืนเจ้าเด็กปากหมาหน่อยแล้วกัน  

     

     

    “พี่วีครับ” จองกุกกระชับกอดให้แน่นขึ้นแล้วเอาคางเกยไหล่ร่างบาง

     

    “...”

     

     

    เห็นใครๆ ก็บอกว่าคนน่ารักชอบเอาแต่ใจ..

     

     

    จองกุกฮัมเพลงออกให้คนในน่ารักในอ้อมกอดฟัง

     

     

    “เอาแต่ใจแล้วทำไม ไม่ชอบก็ออกไปเลย” ร่างบางไล่

     

     

    เห็นใครๆ ก็บอกว่าพี่วีเจ้าชู้จะตาย...

     

     

    “จอนจองกุก!!

     

     

    เจ้าเด็กนี้บอกว่าผมเจ้าชู้เหรอ ผมน่ะเป็นคนรักเดียวใจเดียวนะ คบใครก็คบทีละคน พูดจาแบบนี้ต่อยกันเลยไหม สาบานว่านี่วิธีการง้อของนายน่ะจอนจองกุก

     

     

    ผมได้ฟังบ่อยๆ เริ่มกลัวซะแล้วก็เลยปิดตัว

    ผมนั้นยังไม่พร้อมจะเอาอะไรมาปวดหัว

     

    ตั้งแต่วันที่วีเดินเข้ามา ตั้งแต่วันที่เราได้นั่งมองตา

    ก็บอกหัวใจเอาไว้ว่าอยากลองอีกสักครั้ง

    If you wanna be my baby

    If you wanna be my ‘V’

    ช่วยบอกให้จอนมั่นใจว่าจะไม่ไปไหน

     

    คงเป็นวีเท่านั้นที่ให้ใจจอนหยุดเหงา

    ก็มีแต่วีเท่านั้นที่ทำให้ใจจอนคลายเศร้า

    คงไม่มีโอกาส ถ้าวีไม่ให้โอกาส

    คงจะต้องทำพลาดอีกครั้งหนึ่ง

     

     

    ตึกตัก... ตึกตัก...

     

    ใครสั่งใครสอนให้มันง้อวิธีนี้ครับ น่ารักเกินไปแล้วจอน ทั้งเขินทั้งอยากจะขำเลยครับ มีแฟนเด็กกว่านี้มันดีอย่างนี้นี่เอง ฮี่ๆ

     

     

    “พี่วีครับ ดีกันนะ จอนขอโทษ ให้โอกาสคนปากหมาคนนี้หน่อยนะครับ” ร่างสูงออดอ้อน

     

    “อื้อ ยกโทษให้ก็ได้”

     

    “งั้นหันมาหน่อย จอนจะได้มั่นใจว่าพี่วีหายโกรธจอนแล้ว”

     

    “อ่ะ พอใจรึยัง”

     

     

    ร่างบางพูดพลางพลิกตัวหันหน้ามาหาอีกคนแล้วยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจให้ ตั้งแต่รู้จักกันมา จองกุกเป็นคนเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้เสมอ แม้กระทั่งในเวลาที่แทฮยองโมโห หรือเสียใจ

     

     

    “สบายใจแล้วจ้ะ รักพี่วีนะจ้ะ” จองกุกพูดจบก็ยิ้มกว้างให้อีกคนเช่นกัน

     

    “จอนจองกุก”

     

    “อะไรจ้ะพี่วีจ๋า”

     

    “พี่ขออะไรนายสักอย่าง นายจะทำให้พี่ได้ไหม” ร่างบางสีหน้าจริงจัง

     

    “จะขอแต่งงานหรอจ้ะ จอนตกลง555555555555555

     

    “จอนจองกุก!!” ร่างบางตะคอก

     

    “ล้อเล่นจ้ะ อย่าโมโหนะจ้ะเดี๋ยวตีนกาขึ้น แฟนจ๋าจะขออะไรจอนว่ามาเลย จอนทำให้ได้ทุกอย่างเลยจ้ะ” จองกุกพูดเสียงอ่อน

     

    “แก้ศูนย์สิบสามตัวให้หมด เรียนให้จบแล้วสอบเข้ามหาลัยให้ได้ ทำได้ไหม?”

     

    “โอ้โห งานยากเลย จอนกับการเรียนเราเป็นศัตรูกันอ่ะพี่วีจ๋า”

     

    “มันไม่ใช่เพื่อพี่ แต่เพื่อตัวนายเองนะจอน นายจะมาทำตัวเล่นไปวันๆ ซิ่งรถโดดเรียนมาขับวินแบบนี้ไปตลอดชีวิตน่ะหรอ” ร่างบางพูดต่อ

     

    “แต่จอนโง่อ่ะ”

     

    “จอน ของแบบนี้มันอยู่ที่ความตั้งใจ พี่เชื่อว่าจอนทำได้ ก่อนที่จะรักพี่ นายต้องรักตัวเอง และอนาคตของตัวเองก่อนนะ”

     

     

    ไม่เคยมี ใครมาคอยใส่ใจเรื่องการเรียนของเด็กแว๊นซ์เกเรอย่างผมเลยจนได้มาเจอพี่วีนี่แหละ พี่วีเขาเชื่อมั่นในตัวผมขนาดนี้ ผมก็ควรทำให้ความเชื่อมั่นของพี่วีเป็นจริง ผมจะทำให้เขาเห็นว่าผมก็ทำได้ครับ

     

     

    “ก็ได้จ้ะ แต่พี่วีต้องติวให้จอนนะ ถ้าพี่วีคอยสอนจอนจะตั้งใจเรียนเลยจ้ะ”

     

    “นายนี่มัน.... ”

     

    “น่ารักใช่มั้ยจ้ะ” ร่างสูงพูดต่อทันที

     

    “ร้ายกาจต่างหาก” แทฮยองยู่ปากใส่อีกคนด้วยความหมั่นไส้

     

    “ร้ายแล้วรักมั้ยจ้ะ พี่วีจ๋า”

     

     

    ดวงตากลมจ้องหน้าคนน่ารักเพื่อรอฟังคำตอบ

     

     

    “สอบเข้ามหาลัยให้ติดแล้วค่อยถามพี่ใหม่นะ”

     

    “โอ้โหหหหหหหหห อีกนานเลยอ่ะพี่วีจ๋า แล้วถ้าสอบเข้าไม่ติดก็ไม่ได้ฟังอ่ะดิ”

     

    “ตกลงตามนี้ แล้วตอนเช้าก็ไม่ต้องมารับพี่ไปส่งที่มหาลัยด้วย นายต้องไปโรงเรียน ห้ามโดดเรียนอีกเป็นอันขาด เข้าใจมั้ย”

     

    “โหหหหหหหหห พี่วีจ๋า จอนใจจะขาด ไหนเราตกลงกันแล้วว่าต้องให้จอนรับส่งพี่วีไง”

     

    “แล้วแต่นายนะจอน ถ้าไม่ทำเราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”

     

    “โอเคจ้ะ จอนจะไปโรงเรียน แต่ตอนเลิกเรียนแล้วจอนขอไปรับพี่วีนะจ้ะ นะครับ นะนะนะพี่วีจ๋า ขอให้จอนได้เจอหน้าพี่วีทุกวันไม่อย่างนั้นจอนจะต้องเหี่ยวเฉาตายเหมือนต้นไม้ขาดน้ำแน่เลยอ่ะ”  ร่างสูงพูดอ้อนทำหน้าตาน่าสงสาร

     

    “เล่นใหญ่ตลอด ก็ได้ ตกลงตามนี้นะ”

     

     

    มือเรียวดึงแก้มกลมของจองกุกด้วยความหมั่นไส้

     

    ถ้าฮยองวอนยังอยู่ก็เท่าจอนนี้แหละครับ ผมอยากมีโอกาสได้น้องชายของผมเรียนจบมัธยมแล้วสอบเข้ามหาลัยได้จัง จอนจองกุก... นายช่วยเป็นตัวแทนของฮยองวอน ทำความต้องการของพี่ให้เป็นจริงหน่อยนะ

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    ณ มหาวิทยาลัย

     

     

    งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ไว้เจอกัน

     

     

    แทฮยองโค้งลารุ่นพี่ทั้งสองคนและหันไปบอกเพื่อน จากนั้นเดินไปตามแรงจูงมือของจองกุก

     

     

    นี่น้องวีเขาชอบแนวนี้เหรอว้ะมึง... กูปวดใจ คุณแม่ครับต้วนปวดใจ! กูเล็งมาตั้งแต่มหาลัยเปิด หายไปอาทิตย์เดียวน้องเขามีแฟน

     

     

    หลังจากตั้งสติได้สายตามองแผ่นหลังของคนทั้งสองที่เดินจูงมือกันออกไปก็โวยวายออกมา มือใหญ่ของมาร์คยกขึ้นมากุมที่ตำแหน่งหัวใจ

     

     

    เอาหน่า เด็กนั่นอาจจะมีอะไรดีที่ชนะใจน้องแทฮยองก็ได้แจ็คสันตบบ่าปลอบใจเพื่อนตัวสูง

     

     

    หลังจากที่ปลีกตัวออกมาจากมาร์คได้ จองกุกก็เดินจับมือของร่างบางเดินไปยังรถที่จอดไว้หน้ามหาลัยด้วยกัน  อาจเพราะผู้ชายหน้าตาดีสองคนเดินจับมือกันในชุดนิสิตและชุดนักเรียนจึงทำให้ระหว่างทางมีเสียงซุบซิบและสายตาทั้งหญิงและชายของคนในมหาลัยจ้องมองมา

     

     

    “พี่วีจ๋า อายคนรึเปล่า? ให้จอนเดินไปก่อนแล้วอีกสักพักพี่วีค่อยเดินตามไปที่รถก็ได้นะจ้ะ” ร่างสูงเอ่ยถามคนน่ารักที่ตอนนี้มัวแต่เดินก้มหน้า

     

    “เปล่าหรอก”

     

     

    ผมไม่ได้อายสายตาของคนที่มองมานะครับ แต่ผมเขินที่เราเดินจับมือกันต่างหาก

     

     

    “รอก่อนนะพี่วี อีกไม่นานจอนจะเป็นแฟนที่ดีที่ทำให้พี่วีภูมิใจและไม่อายใครเวลาเดินด้วยกัน” มือหนากุมมือของคนน่ารักแน่น

     

     

    จอนเขาแคร์ความรู้สึกผมขนาดนี้เลยเหรอครับ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เขาก็ยังใส่ใจ เด็กคนนี้โตกว่าที่ผมคิดไว้จริงๆ แค่ความคิดนะ แต่ไอ้ที่ชอบพูดจากวนตีนนั่นก็ยังเหมือนเด็ก

     

     

    “คิดว่าพี่เป็นคนแบบไหนกันน่ะ พี่ไม่ได้อายที่เราเดินด้วยกันสักหน่อย แค่..เอ่อ.. เขินน่ะ”

     

    “อ้าว เขินหรอกหรอ 5555555555555555555555555555” จองกุกหัวเราะลั่น

     

    “ก็ใช่น่ะสิ ตั้งแต่คบกับนาย ภูมิคุ้มกันพี่บกพร่องไปเลย อะไรนิดหน่อยก็เขินแล้วเนี่ยนายผิดนะจอน ยังจะมีหน้ามาขำอีก!!!

     

    “พี่วีเวลาอยู่เฉยนี่ว่าน่ารักแล้วนะ แต่พอเขินแล้วน่ารักกว่าเดิมอีกจ้ะ555555555555555555555

     

    “แกล้งให้พี่เขินนี่สนุกมากรึไง” แทฮยองพูดก่อนจะเบะปาก

     

    “เขินแล้วน่ารักจริงๆ นี่จ้ะ แต่พี่วีห้ามไปเขินคนอื่นนะ เขินได้แค่จอนคนเดียวนั้น จอนหวงแฟนจอน”

     

    “อื้อ จะให้ไปเขินใครที่ไหนได้อีกล่ะ”

     

     

    หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้จอนเขาทำตามที่เราตกลงกันไว้ทุกอย่าง เขาไปโรงเรียน ไม่โดดเรียนเหมือนแต่ก่อน พอโรงเรียนเลิกจอนเขาจะมารับผมกลับบ้านทุกวันเลยครับ ได้แต่หวังว่าจอนเขาจะตั้งใจเรียนแบบนี้ไปตลอดนะครับ

     

    เมื่อทั้งสองเดินไปถึงจุดที่ร่างสูงได้จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ สายตาก็ปะทะกับผู้ชายไหล่กว้างที่ยืนพิงรถยนต์คันหรูที่จอดเทียบข้างรถของเขา

     

     

    “น้องวีครับ พี่มารับกลับบ้าน” ซอกจินเอ่ยทักทันทีที่เห็นคนน่ารักเดินจับมือมากับจองกุก

     

    “ขอโทษที่ต้องปฏิเสธนะครับ พอดีว่าผมมีคนมารับกลับบ้านแล้ว” แทฮยองตอบกลับ

     

    “รถพี่สบายกว่าอีกมอเตอร์ไซค์เศษเหล็กคันนี้อีกนะครับ น้องวีก็เคยนั่งประจำน่าจำได้นะ” ซอกจินพูดพลางมองเหยียดคนที่เดินมากับแทฮยอง

     

    “ขอโทษนะจ้ะ แต่พี่วีแฟนจอน จอนพากลับเองได้จ้ะ” ร่างสูงพูดแทรก

     

    “เด็กอย่างแกจะดูแลอะไรน้องวีได้ ไอ้กระจอก”

     

    “ถึงจอนเขาจะไม่ได้รวยอะไรแต่เขาก็ดูแลผมได้ดีและผมก็มีความสุขมากที่คบกับจอนครับ พี่จินกลับไปเถอะ”

     

    “แต่พี่มีเรื่องอยากคุยกับน้องวีนะครับ”

     

    “แต่ผมไม่อยากคุยครับพี่จิน” แทฮยองปฏิเสธเสียงแข็ง

     

    “น้องวีจะประชดพี่อีกนานไหม คิดว่าพี่ดูไม่ออกเหรอครับว่าที่เรายอมคบกับไอ้กระจอกนี้ก็เพื่อให้พี่ตัดใจจากเราใช่ไหมล่ะ” ซอกจินพูดจบก็ยื่นมือมาคว้าข้อมือของร่างบางไว้

     

     

    โอ้โห จอนใจร้าวเลย พี่วีไม่ได้คบจอนเพื่อประชดไอ้ปากห้อยจริงๆ ใช่ไหมจ้ะ

     

     

    “พี่จะดูถูกผมมากเกินไปแล้วนะพี่จิน อย่าสำคัญตัวเองมากไปเลยครับ ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องประชดพี่” ร่างบางเถียงกลับ

     

     

    นั่นไง!! พี่วีเขาไม่ได้คบกูประชดมึงเว้ย ไอ้ปากห้อย อย่าจะตอกกลับใส่หน้ามันไปครับ แต่ทำได้แค่คิดในใจ...

     

     

    “ช่วยให้เกียรติแฟนผมด้วย ปล่อยพี่วีด้วยนะจ้ะ”

     

    จองกุกจับข้อมือหนาของซอกจินก่อนจะบีบมันเพื่อเป็นเชิงให้ปล่อยข้อมือของแทฮยอง ร่างสูงจ้องมองอดีตคนรักของแฟนตัวเองด้วยสายตาที่ดูก้าวร้าว ซอกจินก็ไม่ได้หลบสายตาแต่อย่างใด จ้องมองกลับเช่นกันด้วยอารมณ์เช่นเดียวกัน

     

     

    ถ้ามึงไม่ปล่อยแฟนกู มีเรื่องแน่ไอ่ปากห้อย...

     

     

    จองกุกส่งคำพูดผ่านไปยังสายตาก้าวร้าวที่จ้องมองชายไหล่กว้าง

     

     

    กูไม่ปล่อย มีปัญหาอะไรไหมไอ้เด็กฟันจอบ!!

     

     

    ซอกจินเองก็ส่งผ่านคำด่าไปทางสายตาเช่นกัน

     

     

    “หึ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน เด็กกระจอกอย่างนายไม่เกี่ยว” ซอกจินแสยะยิ้ม

     

    “ถึงจะกระจอกแต่จอนก็ไม่เคยทำให้คนที่จอนรักเสียใจหรือร้องไห้ว่ะ”

     

    “ปากดีนักนะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!!

     

    “จะเมื่อวานซืน วันนี้ หรือมะรืนนี้ เด็กแว๊นซ์อย่างจอนนี่แหละแฟนพี่วี คนเก่าที่เขาไม่เอาแล้ว ถ้ารู้ตัวก็ช่วยเลิกวุ่นวายกับพี่วีได้แล้ว..นะจ้ะ” จองกุกพูดก่อนจะยิ้มกว้างทำหน้ากวนตีนให้อีกคน

     

     

              ผลั่วะ!!!!!

     

              สิ้นสุดคำพูดของจองกุก มือหนาของอีกคนก็ส่งหมัดมากระแทกหน้าของเขาอย่างจังด้วยความโกรธ จนทำให้ร่างสูงเซล้มลงไป ทำให้แทฮยองที่เห็นเหตุการณ์ตกใจ สะบัดมือออกจากอดีตคนรักก่อนจะเข้าไปพยุงตัวของจองกุกไว้

     

     

                “จอน นายเจ็บมากมั้ย” ร่างบางถามด้วยความเป็นห่วง

     

                “ลูกผู้ชายเจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอกจ้ะพี่วีจ๋า” จองกุกหันไปตอบคนน่ารักก่อนจะยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายให้

     

     

    กล้าต่อยกูเชียวเหรอไอ่ปากห้อย เดี๋ยวมึงจะได้รู้ว่าเด็กกระจอกอย่างกูทำอะไรได้บ้าง!!แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ต่อหน้าพี่วี แถมผมยังอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนด้วย ผมไม่อยากให้พี่วีเขามองว่าผมเป็นเด็กเกเร ไม่อยากให้โรงเรียนต้องเสียชื่อเสียด้วยครับ หากมีเรื่องชกต่อยกัน

     

     

                “พี่จิน ทำไมต้องทำอะไรรุนแรงแบบนี้ด้วย อยากโชว์กร่างก็ไปที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่!!!!” ร่างบางหันไปตะคอกอีกคนด้วยความโมโห

     

                “นี้น้องวีเห็นมันดีกว่าพี่เหรอครับ...”

     

                “อย่าให้ผมต้องเกลียดพี่มากไปกว่านี้เลยครับ” แทฮยองพูดจบก็ช่วยพยุงร่างสูงให้ลุกขึ้นยืน

     

                “น้องวีบีบให้พี่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ได้ครับแล้วเราจะได้เห็นดีกันนะน้องวี มึงด้วยไอ่เด็กฟันจอบ ระวังตัวไว้เถอะ” ซอกจินพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

     

     

                เราเลือกเองนะครับวี ในเมื่อพี่ง้อเราดีๆ แล้วไม่สนใจกัน พี่ก็จะใช้วิธีอื่น หึ

     

     

                “พี่วีจ๋า จอนเป็นห่วงพี่วี”

     

     

    จองกุกบอกคนน่ารักหลังจากที่รถยนต์คันหรูของจินเคลื่อนตัวออกไปจนพ้นสายตา ระหว่างนั้นเองมือเรียวก็ใช้แขนเสื้อของตัวเองซับไปเบาๆ ที่มุมปากของร่างสูง

     

     

                “ห่วงตัวเองก่อนไหม ดูสิเลือดออกด้วยเนี่ย”

     

                “เสื้อเลอะหมดนะพี่วี จอนไม่เป็นไรหรอก พี่วีถีบจอนยังเจ็บกว่าหมัดนี้อีกอ่ะ”

     

                “ยังจะกล้ามาปากดี อีกสักหมัดจากพี่ดีไหมจอน” มือเรียวกำหมัดขู่

     

                “แฟนจ๋าอย่าโหดสิ จอนเป็นห่วงพี่วีจริงๆ นะเนี่ย ถ้าเวลาจอนไม่อยู่แล้วมันมายุ่งกับพี่วี ใครจะปกป้องพี่วีอ่ะ” จองกุกพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

     

    “พี่ดูแลตัวเองได้ นายอย่าลืมสิว่าพี่ก็เป็นผู้ชายนะเว้ย”

     

     

    อยากบอกจอนว่าผมเคยแทงพี่จินเกือบตายมาแล้ว จอนจะได้หายห่วง แต่ก็กลัวจอนเขาจะกลัวผมแทนน่ะสิ

     

     

    “ผู้ชายอะไรน่ารักยิ่งกว่าผู้หญิงอีกพี่น่ะ” จองกุกพูดจบก็ยื่นมือไปบีบแก้มนิ้มของอีกคนเบาๆ

     

     

                เป็นห่วงพี่วีจริงๆ นะเนี่ย ผมกังวลจะไม่เป็นอันทำอะไรแน่ จะโดดเรียนก็ไม่ได้อีก สัญญาไว้แล้วว่าจะตั้งใจเรียน เพื่อความปลอดภัยของพี่วีสงสัยต้องหาตัวช่วยซะแล้ว

     

               

                “กลับบ้านไปพี่จะทำแผลให้นะ แล้ววันนี้มีการบ้านไหม ถ้าไม่มีพี่จะได้ติวคณิตศาสตร์ให้ เมื่อคืนพี่หาข้อสอบเก่าๆ มาไว้ให้นายด้วยนะ”

     

                “ไม่มีจ้ะ โชคดีจังเลยจอน มีแฟนน่ารักแล้วยังดูแลดีขนาดนี้อีก”

     

     

    ร่างสูงขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ก่อนจะยื่นหมวกกันน็อคให้แทฮยอง

     

     

                “ขอบคุณนะจอน”

     

     

    แทฮยองรับหมวกมาใส่ก่อนจะขึ้นไปประจำที่คนซ้อน มือเรียวกอดเอาของคนตรงหน้าไว้อย่างไม่เคอะเขินอีกต่อไป

     

     

                พี่ก็โชคดีเหมือนกันที่มีนายนะ จอนจองกุก...

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                ตือดึง!

     

                JeonJK : ลูกพี่ จอนมีเรื่องรบกวนหน่อย

     

                Hohope : มีเรื่องอะไร

     

                JeonJK : ลูกพี่ช่วยไปรับพี่วีไปเรียนหน่อยดิ จอนเป็นห่วงพี่วีอ่ะ อยากไปเองแต่พี่วีสั่งห้ามไว้ให้เข้าเรียนไง ห้ามโดดเรียน

     

     

                จอนมันจะห่วงอะไรแทแทขนาดนี้เนี่ย หรือว่าเกิดเรื่องอะไรไม่ดีกับแทแทรึเปล่า

     

     

                Hohope : เออได้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแทแทรึเปล่าไอ้จอน

     

                JeonJK : แฟนเก่าพี่วีมาหาเรื่องดิลูกพี่ นี่โดนต่อยมาด้วยหนึ่งหมัดเนี่ย ไว้ชำระแค้นทีหลัง ตอนนี้จอนเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่วีมากกว่า

     

    Hohope : มันเป็นใคร

     

    JeonJK : คิมซอกจิน มันเปิดคาเฟ่แมวอยู่ในตลาดอ่ะจ้ะ มันตั้งใจย้ายมาแถวนี้เพราะจะได้ใกล้ชิดพี่วีนี่แหละ

     

    Hohope : เรื่องไปรับแทแท เดี๋ยวจัดการให้ ยังไงก็เพื่อนพี่ แค่นี้ไม่รบกวนหรอก ส่วนไอ่คิมซอกจินอะไรนั่น ขอเวลาหาข้อมูลมันก่อนได้จัดการชำระแค้นแน่

     

    JeonJK : ขอบคุณนะลูกพี่ ช่วยดูแลพี่แทแทหน่อย แต่ห้ามจีบนะเว้ย ถึงจะเป็นลูกพี่แต่จอนก็หวงแฟนจอน

     

    Hohope : เออ กูไม่แย่งแฟนน้องตัวเองหรอก นอนได้แล้วไอ้จอน ต้องตื่นเช้าไปเคารพธงชาติ ไปสายกูจะฟ้องแทแทนะ

     

    JeonJK : คุยกับแฟนอีกแปบก็จะนอนแล้วจ้ะ ฝันดีนะลูกพี่

     

     

    เห็นน้องมีความสุขกับคนที่มันรักผมก็ดีใจด้วยครับ แถมยังปรับปรุงตัว ตั้งใจเรียน ไม่เกเรอีก แทแททำให้ไอ้จอนมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ขนาดนี้ ผมก็อยากให้ทั้งสองคนเขารักกันนานๆ ครับ ผมทำถูกแล้วที่เลือกถอยให้จอนแล้วกลับไปมั่นคงกับพี่ยุนกิ

     

     

                “ฮัลโหล มีเรื่องให้ช่วยหน่อย”

     

                [สำคัญมากสินะ ถึงยอมโทรมาหาขนาดนี้]

     

                “อือ ไปหาประวัติคนชื่อ คิมซอกจิน ให้หน่อย”

                [ชื่อคุ้นหูจังว่ะ เออเดี๋ยวจัดการให้ ว่าแต่มันไปทำอะไรนายล่ะ]

     

                “มันไม่ทำอะไรผมหรอก แต่มันจะทำแทแท”

     

                [ห้ะ เออๆ เดี๋ยวจะให้คนรีบหาข้อมูลแล้วจะเอาไปให้] ปลายสายตอบกลับด้วยความตกใจ

     

                “ขอบใจ แค่นี้แหละ บาย” โฮซอกกดวางสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างเตียง

     

               

                ใจจริงเขาก็ไม่อยากจะโทรไปหรอก แต่เรื่องของแทฮยองมันจำเป็นที่จะต้องยอมไปขอความช่วยเหลือจากชายคนที่เขาเพิ่งวางสายไป

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                “อรุณสวัสดิ์แทแท”

     

                “อ้าว โฮซอก มาทำอะไรแต่เช้าอ่ะ”

     

                “มารับแทแทไปเรียนด้วยกันไง ยืนงงอะไรอยู่ล่ะ กำลังจะไปเรียนไม่ใช่รึไง ขึ้นรถสิ” โฮซอกบอกคนน่ารักที่กำลังยืนนิ่งอยู่

     

                “แต่..”

     

                “ไอ้จอนมันให้ฉันมารับแทแทน่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจอนรู้แล้วจะเข้าใจผิดหรอก”

     

    “เห้ย ฉันเปล่าคิดแบบนั้นนะ” ร่างบางรีบปฏิเสธ

     

    “งั้นก็ขึ้นรถสิ”

     

     

    สิ้นสุดคำพูดของโฮซอก ร่างบางก็ยอมเดินมาขึ้นรถที่ตำแหน่งที่ว่างข้างคนขับแต่โดยดี มือเรียวดึงเข็มขัดนิรภัยมาขาดไว้ ก่อนที่คนขับรถจะออกตัวไปยังถนนใหญ่

     

     

    แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นโฮซอกมารับด้วยรถสีดำคันหรูนี่  ก็โฮซอกดูเป็นคนบ้านมีฐานะ แต่ไม่คิดว่าจะรวยจนสามารถซื้อรถ BMW 118i สีดำนี่ได้ เพื่อนคนนี้ไม่เคยเปิดเผยเรื่องของตัวเองเท่าไหร่นัก สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วมั้ง

     

     

    “ขอบคุณนะที่มารับ แต่จริงๆ ฉันไปเองก็ได้นะโฮซอกจะได้ไม่ต้องลำบาก”

     

     

    แทฮยองพูดเพื่อทำลายความเงียบในรถ นานแล้วที่เขาสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้

     

    “เพื่อความสบายใจของไอ้จอน แล้วก็ฉันด้วย ฉันเป็นห่วงแทแทไม่ได้รึไง”

     

    “เอ่อ..”

     

                “หื้ม? ว่าไง ลำบากใจหรอที่ต้องอยู่กับฉันสองต่อสอง”

     

                “เปล่านะ เอ่อ.. คือ...”

      

                “เอ่อคืออะไร หรือวันนี้ฉันหล่อมากจนพูดไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะแทแท55555555555555555555

     

     

    โฮซอกพูดติดตลกก่อนจะหัวเราะออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด เขาไม่อยากให้ร่างบางลำบากใจที่จะต้องอยู่กับเขาสองคน

     

     

                “ฉันยังหล่อกว่าโฮซอกอีกนะ แบร่!” ร่างบางแลบลิ้นใส่อีกคนก่อนจะหันมองไปนอกหน้าต่างรถ

     

                “นี่แทแท ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ”

     

                “อย่าถามยากนะ เดี๋ยวฉันตอบไม่ได้” คนน่ารักตอบอีกคนในขณะที่ดวงตาคู่สวยยังคงมองทิวทัศน์นอกรถ

     

                “แทแทรักไอ้จอนบ้างรึเปล่า?”

     

                “ทำไมโฮซอกถึงถามแบบนี้ล่ะ...” ร่างบางหันกลับไปมองเจ้าของคำถามด้วยความสงสัย

     

                “ฉันอยากรู้ไง เพราะไอ้จอนรักแทแทมากนะ มันเป็นห่วงมากด้วย ถึงกับขอร้องให้ฉันมาช่วยดูแลแทแทในช่วงที่มันไปโรงเรียน”

     

                “ฉันดูเหมือนไม่รักจอนเลยหรอ?” แทฮยองถามกลับ

     

                “ก็เปล่า แต่ฉันอยากถามให้แน่ใจ ฉันไม่อยากเห็นน้องมันเสียใจ แทแทรู้ไหมว่าไอ้จอนมันไม่เคยฟังเลยนะเวลาฉันกับจิมินเตือนมันเรื่องเรียนอ่ะ แต่พอเป็นแทแทพูด จอนมันกลับเชื่อฟังอย่างง่ายดาย ตอนนี้แทแทคือทุกสิ่งทุกอย่างของมันนะ”

     

                “ฉันก็มีความรู้สึกดีๆ ให้จอนนะ ถึงตอนนี้มันอาจจะยังไม่มากเท่ากับที่จอนมีให้ฉัน คำว่ารักฉันจะพูดออกไปก็ต่อเมื่อฉันมั่นใจแล้วเท่านั้น โฮซอกเข้าใจฉันใช่ไหม” ร่างบางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

     

               

                ความรู้สึกที่ผมมีให้จอนมันมากขึ้นทุกวัน แต่ถ้าให้ผมพูดว่ารักเลยตอนนี้มันยังเร็วไปสำหรับผม ได้แต่หวังว่าจอนเขาจะรอฟังคำนั้นจากผมนะครับ...

     

     

                “อื้ม ฉันเข้าใจ แทแทบอกแบบนี้ฉันก็สบายใจแล้วล่ะ ยังไงก็ฝากดูแลน้องฉันด้วยนะ ถึงมันจะปากหมากวนตีนไปบ้าง แต่มันก็เป็นคนดี”

     

                “ปากหมากวนตีนนี่จอนเขาติดมาจากนายรึเปล่าน่ะโฮซอก” ร่างบางแกล้งถาม

                                                                                                                            

     

                โอ้โห แทแทเขาอัพเลเวลอีกแล้วครับ คนน่ารักเขาว่าผมปากหมากวนตีน!

     

     

                “ตั้งแต่คบกับไอ้จอน ปากร้ายนะเนี่ย แทแทเปลี่ยนไป! แทแทใจร้าย! ฉันจะฟ้องไอ้จิมิน!” โฮซอกโวยวาย

     

     

                “ไม่เคยได้ยินเหรอ คนน่ารักมักใจร้ายไงล่ะ555555555555555” ร่างบางหัวเราะลั่นก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกคนที่ขับรถอยู่

     

               

                “ก็เพราะน่ารักแบบนี้ไง ไอ้จอนมันเลยทั้งหวงทั้งห่วงหนักหนา” โฮซอกแซวกลับ

     

                “ห่วงอะไรกันมากมายเนี่ย แต่ละคนทำอย่างกับฉันเป็นเด็ก” คนน่ารักพูดพลางกอดอกแล้วยู่ปาก

     

                “เฮ้อ จองโฮซอกล่ะเหนื่อยใจจริงจริ๊ง มีเพื่อนน่ารักเนี่ย” พูดจบก็ส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อไปยังมหาลัย

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 15 นาทีก่อน...

     

     

                “นั่นใครมารับน้องแทฮยองว้ะ รถยนต์ดูแพงใช่เล่นเลยน่ะนั่น”

     

     

    ยุนกิพูดกับตัวเองก่อนจะมองตามรถยนต์BMW 118i สีดำไปจนสุดสายตา มือเล็กวางถุงผักที่ไปจ่ายตลาดมา ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแล้วบรรจงพิมพ์ข้อความลงไป



                ตือดึง!

     

                Minsuga : อยู่ไหนอ่ะ?

     

                Minsuga : มีรถยนต์คันหรูมาพาน้องแทฮยองไปไหนไม่รู้ว่ะ

     

                Minsuga : มัวแต่ทำอะไรอยู่ ระวังหมาคาบไปแดกนะเว้ย

     

               

                ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจองกุกกับแทฮยองเป็นแฟนกันแล้ว ร่างเล็กจึงส่งไลน์ไปหาจองกุกด้วยความหวังดี กลัวว่าเพื่อนบ้านตรงข้ามที่น้องจีบอยู่จะถูกคนอื่นแย่งไป

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

                ณ โรงเรียนบางท่าน

     


                ครืด... ครืด...

               

     

                “ใครรัวไลน์มาขนาดนี้ว่ะเนี่ย สั่นเป็นเจ้าเข้า”

     

     

    ร่างสูงบ่นกับตัวเองก่อนจะแอบล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงนักเรียน ทันทีที่สายตาเจอเข้ากับข้อความที่ยุนกิส่งมาให้ จองกุกถึงกับตกใจดวงตากลมเบิกกว้าง

     

    เห้ยยยยยยย รถสีดำคันหรูมันต้องเป็นไอ้ปากห้อยคิมซอกจิน มันมายุ่งกับพี่วีจ๋าของจอนอีกแล้วเหรอว้ะเนี่ย แล้วลูกพี่ไปไหน ทำไมไม่ไปรับพี่วี เมื่อคืนก็รับปากจะช่วยดูแลพี่วีแทนแล้วทำไมปล่อยให้เป็นแบบนี้

     

    จองกุกทำได้แต่โวยวายในใจ เพราะตอนนี้เพิ่งจะเข้าเรียนคาบแรกของวัน อาจารย์ก็สอนอยู่หน้าห้อง แต่สมาธิของเขาไม่จดจ่ออยู่กับการเรียนเลย ในหัวของเขาคิดถึงแต่เรื่องของแทฮยอง ว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับคนน่ารักของเขารึเปล่า

     

     

                “ทำไงดีเนี่ย ไอ้จอนจะคลั่งตาย”

     

                “ไอ้จอน มึงเป็นอะไร?” เพื่อนที่นั่งข้างกันหันมาถามร่างสูง เพราะเห็นท่าทางหงุดหงิดของจองกุกตั้งแต่ดูโทรศัพท์นั่นแล้ว

     

                “กูแบบ คือมันแบบ โอ้ยยยยยย กูจะบอกมึงยังไงดีล่ะซูอุง” มือหนาทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด

     

                “ใจเย็นเว้ยเพื่อน มีอะไรไม่สบายใจบอกกูได้”

     

                “กูเป็นห่วงแฟนกูอ่ะ อยากออกไปหาตอนนี้เลยแต่ก็ทำไม่ได้ กูสัญญากับพี่เขาไว้แล้วว่าจะไม่โดดเรียนอีก”

     

                “ตู้วหู้ว! มีแฟนตั้งแต่ตอนไหนไม่บอกเพื่อนบ้างไอ้จอน มิน่าล่ะที่มึงมาโรงเรียนทุกวันนี้ก็เพราะแฟนสั่งไว้ รักเขามากสินะ” ซูอุงเอ่ยแซวเพื่อนร่างสูง

     

                “เออ กูรักพี่เขามาก มันใช่เวลามาแซวกูไหมเนี่ย กูเป็นห่วงพี่เขาจนจะคลั่งตายแล้ว”

     

                “จอน มึงใจเย็น ค่อยๆ คิด ว่าแต่ทำไมมึงถึงหงุดหงิดแบบนี้  หรือใครทำอะไรแฟนมึง?”

     

                “ก็ไอ้แฟนเก่าพี่เขามาวุ่นวายไม่เลิกว่ะ กูห่วงพี่เขา กลัวไอ้ห่านั่นจะคิดไม่ดีกับพี่วี” ร่างสูงพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง

     

                “มึงไม่เชื่อใจแฟนมึงอ่อว้ะ” ซูอุงถามต่อ

     

                “กูเชื่อใจพี่วี แต่กูไม่เชื่อใจไอ้แฟนเก่าปากห้อยนั่น กูไม่ไหวแล้วมึง เดี๋ยวกูมา”

     

                “เห้ยไอ้จอน มึงจะไปไหน?!

     

     

                ร่างสูงรีบลุกพรวดจากเก้าอี้ โดยไม่ตอบคำถามของซูอุง ก่อนจะตะโกนบอกอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้อง

     

     

                “ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำครับ”

     

                “อื้ม รีบไปรีบมาล่ะเด็กชายจองกุก” ครูสาวสวยพูดตอบก่อนจะกันไปสอนต่อ

     

                “ที่มึงบอกไม่ไหวแล้วนี่คือปวดฉี่ใช่ไหม ไอ่เพื่อนเชรี้ย!

     

     

    ซูอุงบ่นไล่หลังร่างสูงที่เดินออกไปนอกห้องก่อนจะหันหน้ากลับไปมองกระดานแล้วตั้งใจเรียนต่อ

     

     

     





    ลงครบแล้วนะคะ!!

    ประกาศจากไรท์เตอร์ รับสมัครบอทฟิค #ฟิคเล็กหมูน้ำตก #ฟิคใหญ่แห้งไม่งอก

    สนใจติดต่อได้ที่ไรท์เตอร์นะจ้ะ @friend9X @_doubleep

    บอทหิคน้องจอนมีแล้วนะจ้ะ ไปคุยกันได้ @noodlejeon 



    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×