คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เล็กหมูน้ำตก : ชามที่สาม 1OO%
Chapter 3
“จองกุก นายจะพาพี่ไปไหน?”
ผมชะโงกหน้าถามคนข้างหน้าที่กำลังขี่มอเตอไซค์อยู่
หลังจากที่ปลีกตัวออกมาจากจิมินและเจโฮปได้
ผมก็ต้องทำหน้าที่สก๊อยสาวให้เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่ไปโดยปริยาย
“ไปทำธุระไง"
“ธุระอะไรอ่ะ คนอย่างนายมีธุระด้วยรึไง” คนน่ารักถามต่อ
“ธุระหัวใจไงครับ ผมจะพาพี่ไปเดทไง” ร่างสูงตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ผมส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจของเจ้าเด็กนี่เบาๆ ก่อนจะนั่งสงบปากสงบคำซ้อนท้ายมันไปแต่โดยดี
ไม่ได้ใจอ่อนหรอกนะ แต่ขี้เกียจเถียงด้วยต่างหาก
นั่งตากลมชมวิวไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ตั้งแต่ย้ายบ้านมาก็ไม่ได้ลองไปเที่ยวเล่นแถวนี้สักเท่าไร
“ถึงแล้วจ้ะพี่วีจ๋า” จองกุกพูดพลางถอดหมวกกันน็อคออกจากหัวก่อนจะสะบัดผมสองสามที
เจ้าเด็กนี่มันหล่อขึ้นทุกครั้งที่เจอเลยครับ
แค่สะบัดผมสองสามทียังดูดี ผมนี่หัวยุ่งจนไม่เป็นทรง แถมยังชี้ไปมาเหมือนหางเป็ด
ไหนจะปวดขาที่ต้องนั่งเกร็ง ก็น้องจอนมันเล่นปาดเบาะรถซะเรียบ
นั่งทีผมนี่ลื่นลงไปแทบจะขี่คอคนข้างหน้า
การเป็นสก๊อยนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดเลย
“พี่วีปวดขาหรอ ให้จอนอุ้มมั้ยจ้ะ” ร่างสูงพูดจบก็เดินเข้ามาทำท่าจะอุ้มอีกคน
“เห้ย ไม่ต้อง พี่แค่ปวดขาไม่ได้พิการ” ร่างบางบอกปัด
“งั้นเข้าไปนั่งพักในร้านกัน”
ไม่ทันรอให้แทฮยองตอบ ร่างสูงก็จูงมืออีกคนเข้าไปในร้านเบเกอรี่
ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยสีขาวสลับชมพู ตามผนังมีรูปแมวน่ารัก หลายหลายสายพันธุ์
“เห้ย! เมื่อวันก่อนร้านยังไม่ใช่แบบนี้นี่”
ร่างบางอุทาน
“วันก่อน... พี่วีมากับใคร นี่จอนพามาทับรอยคนอื่นเหรอ
งั้นเปลี่ยนร้าน”
จองกุกพูดจบก็ดึงมือแทฮยองออกไป แต่เจ้าตัวกลับรั้งเอาไว้ก่อน
เพราะสายตาของร่างบางไปพบกันสิ่งมีชีวิตสี่ขาขนฟูกำลังเดินเข้ามาคลอเคลียที่ข้อเท้าของเขา
“ร้านเบเกอรี่นี้ถูกเปลี่ยนเป็นคาเฟ่แมวแล้วนะ
ไม่ซ้ำหรอก นั่งเล่นที่นี่กันเถอะ”
“เอางั้นก็ได้ จอนตามใจพี่วีเลยจ้ะ” พูดจบก็พาแทฮยองไปนั่งที่โต๊ะตรงมุมร้าน
“ขอบคุณนะที่พามา พี่ชอบแมวมากๆเลยล่ะ ฮี่ๆ” ร่างบางยิ้มกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจ
ทำเอาคนที่ได้รับรอยยิ้มนั้นถึงกับสติหลุดไปชั่วขณะ
โอ้ย พี่วีน่ารักกว่าแมวทุกตัวในร้านนี่อีก ให้ตายเถอะครับ
จอนอยากจะฟัดคนน่ารักตรงหน้าซะตอนนี้เลย
ระหว่างที่กำลังเลือกเมนูกันอยู่
เจ้าตัวขนฟูสีเทาก็กระโดดขึ้นมานั่งบนตักของแทฮยอง อ้อนถูไถไปมาตามประสาแมว
ร่างบางก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู
“ชื่ออะไรน่ะเรา”
“จอนจองกุกจ้ะ” ร่างสูงตอบทันทีที่สิ้นเสียงของคนน่ารัก
“พี่ถามแมว ไม่ได้ถามนาย”
“พี่วี! สนใจแมวมากกว่าจอนได้ไงอ่ะ
นี่จอนพามาเดทนะ พี่ต้องคุยกับจอนดิ”
จองกุกพูดก่อนจะทำหน้าบึ้งปากเบะเล็กน้อย
เรียกร้องความสนใจจากคนน่ารักที่กำลังกอดฟัดเจ้าแมวน้อย
“ก็แมวน่ารักกว่านายอีกนี่นา
อย่าขี้งอนไปหน่อยเลยไอ่เด็กบ้า” แทฮยองพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้า
“พี่วีอ่ะ จอนอิจฉาแมวมากเนี่ยบ่องตง
ถ้ารู้ว่าพี่วีชอบแมวมากขนาดนี้ ตอนจะเกิดคงบอกพระเจ้าให้ส่งจอนไปเกิดในท้องแมวแทน”
ร่างสูงมองแมวบนตักคนน่ารักด้วยความหมั่นไส้
“โอ๋ เด็กน้อยอย่างอแงนะ” ร่างบางพูดพลางยื่นมือไปเกาคางคนตรงหน้า
“เมี้ยววววว พี่วี! จอนไม่ใช่แมว
เกาซะเคลิ้มลืมตัวเลยนี่”
“เวลานายอยู่แบบนี้ก็น่ารักดีนะจอน ฮ่าๆ”
คนบ้าอะไรอิจฉาแม้กระทั่งแมว
จะว่าไปเวลาเจ้าเด็กนี่ไม่กวนตีนก็ดูน่ารักดีนะครับ ไม่คิดว่าจอนเขาจะมีมุมงอแง
เหมือนเด็กด้วยอ่ะ
“น่ารักก็รักสิจ้ะพี่วีจ๋า” จองกุกพูดก่อนจะส่งยิ้มฟันกระต่าย
“พี่ขอถอนคำพูดที่ชมนายไปนะ”
ไม่น่าไปหลวมตัวชมมันเลยครับ ไอ่เด็กนี่มันร้าย
มันจะต้องไม่เผลอใจไปกับเจ้าเด็กแว๊นซ์นี่เด็ดขาด
“พี่วีอยากกินอะไรอ่ะ สั่งก่อนดิ
ค่อยเล่นก็ได้กับไอ่แมวปีศาจมารความรักของจอนนั่นน่ะ” มือหนายื่นเมนูให้อีกคน
“เอาอะไรก็ได้ นายเลือกเลย”
“อ้าว แล้วจอนจะสั่งให้ถูกไหมเนี่ย พี่วีชอบกินอะไรอ่ะ”
ร่างสูงเอ่ยถาม
“ฮันนี่โทสต์กับชาเขียวแอปเปิ้ลครับ” เสียงทุ้มตอบ
“อ๋องั้นเอาฮันนี่โทสต์กับช.. เอ๊ะ”
นี่ไม่ใช่เสียงพี่วีนี่ครับ แล้วใครตอบผมล่ะ
เงยหน้าไปดูที่มาของเสียงสักหน่อย ไม่ใช่แค่ผม
พี่วีเองก็เงยหน้าขึ้นไปยังที่มาของเสียงปริศนาเช่นกัน เท่านั้นแหละครับ
ผมถึงกับอ้าปากค้างก็เจ้าของเสียงคือไอ้หมอนั่นที่ผมเจอที่ห้องพี่วีเมื่อคืน
“พ..พี่จิน” ร่างบางพูดเสียงแผ่ว
“เจอกันอีกแล้วนะครับน้องวี
วันนี้มาหาพี่ถึงที่ร้านแบบนี้แสดงว่าคิดถึงพี่ใช่มั้ย” ผู้ชายไหล่กว้างเอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม
“หึ ถ้าผมรู้ว่าเป็นร้านพี่ผมก็ไม่เหยียบเข้ามาหรอก”
แทฮยองตอบกลับ
“นี่พี่ซื้อกิจการร้านมาปรับใหม่เป็นคาเฟ่แมวให้น้องวีเลยนะครับ
อยู่แถวใกล้บ้านด้วยจะได้แวะมาบ่อยๆไง” ซอกจินยังคงพูดด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่จะตามผมไปถึงเมื่อไหร่ พูดภาษาคนไม่เข้าใจรึไงครับ
ต้องให้ผมสาดน้ำไล่พี่รึเปล่าครับพี่จิน”
“เข้าใจครับ แต่ทำไม่ได้ พี่จะตามตื้อจนกว่าน้องวีจะกลับมาคบกับพี่..
เหมือนเดิม” ซอกจินเน้นท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและชัดเจน
อื้อหือ ไอ้จอนไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหน ตรัสรู้ได้ด้วยตัวเองเลยครับ
เต็มสองรูหู ไอ้ไหล่กว้างปากห้อยนี่เป็นคนรักเก่าของพี่วี แถมยังมาตามง้อพี่วีอีก
อย่าหวังว่าพี่วีจะใจอ่อนให้แกเลยไอ้ปากห้อย!
พี่วีด่ามันเลย ตบมันเลยพี่วี ถีบมันแบบที่พี่ถีบจอนอ่ะ!!!!!!
ผมได้แต่คิดในใจนะครับ พูดออกไปไม่ได้ รอดูท่าทีของพี่วีก่อนดีกว่า
ถ้าเกิดออกตัวแรงมาเดี๋ยวหน้าหล่อๆแตกเพล้งแบบหมอเย็บกลับยังไงก็ไม่อาจหล่อเท่าเดิมได้
“จอน เรากลับกันเถอะ” แทฮยองบอกอีกคนที่นั่งเงียบอยู่สักพัก
“เอ่อ ได้จ้ะพี่วี”
ลุกสิครับจะอยู่ทำไมให้มันมาเป็นกว้างขวางคอ แค่แมวของมันก็ขัดขวางการเดทของผมกับพี่วีมากพอแล้ว
ยังจะมีไอ้เจ้าของร้านที่พ่วงสถานะแฟนเก่าพี่วีอีก
“หนีพี่ได้แค่วันนี้เท่านั้นแหละครับ
หลังจากวันนี้เป็นต้นไป พี่จะไม่ปล่อยเราไปอีกแล้ว จำไว้นะครับน้องวี” ซอกจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะยิ้มกว้างให้
“แฟนผมเขาก็คงไม่ปล่อยผมไปให้ใครเหมือนกันครับพี่จิน
ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
ทันทีที่พูดจบ ร่างบางก็หันไปจุ้บเบาๆที่แก้มขาวของจองกุก
ที่อยู่ข้างเขา
จอนอยากจะกรี้ดให้ดังไปถึงขั้วโลกใต้ พี่วีจุ๊บแก้มจอนครับแม่จ๋า
ต้องขอบคุณผู้ชายปากห้อยคนนั้นเลยครับทำให้จอนได้รับสิ่งดีๆแบบนี้
“หึ อะไรที่เคยเป็นของพี่
มันก็ต้องเป็นของพี่อยู่วันยังค่ำแหละครับน้องวี ไว้เจอกันใหม่นะครับคนดี”
“อย่าได้พบเจอกันอีกเลยครับ แฟนผมเขาขี้หึง ลาก่อนครับพี่จิน”
พูดจบแทฮยองควงแขนของร่างสูงแล้วออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว
“ไปไหนดีจ้ะพี่วี”
“จะไปไหนก็ไปเหอะ แต่ช่วยรีบพาพี่ไปจากที่นี่ เร็ว!!!!” ร่างบางออกคำสั่งก่อนจะก้าวขาคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเดิม
จองกุกขี่รถไปเรื่อยๆตามถนนเส้นใหญ่ อย่างไร้จุดหมาย
เขารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่แผ่นหลัง
“ฮรึก....”
“พี่วี” ร่างสูงเรียกชื่ออีกคนข้างหลัง
“.....” ไม่มีเสียงตอบกลับ
“พี่วี จอนเป็นห่วงพี่วีนะ”
“อื้อ...” มีเพียงเสียงตอบรับเบาๆกลับมา
มอเตอร์ไซค์ถูกจอดลงที่ริมทาง
จองกุกดึงมือร่างบางให้เดินตามเขาไปโดยไม่พูดอะไร
ก่อนจะไปหยุดตรงริมแม่น้ำแล้วดึงให้อีกคนลงมานั่งข้างๆเขาตรงพื้นหญ้า
“พี่วีจ๋า ยิ้มหน่อยเร็ว” ร่างสูงพูดแล้วนิ้วชี้ดันมุมปากตัวเองทั้งสองข้างให้ฉีกยิ้ม
“พี่อยากอยู่คนเดียว”
“พี่ก็คิดว่าผมไม่ได้อยู่ตรงนี้”
“กวนตีน” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เปล่ากวนตีน แค่เป็นห่วง”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไร นายไม่ต้องมาเป็นห่วงหรอก”
“พี่วี ถึงจอนจะโง่สอบตกแต่จอนก็ดูออกนะว่าพี่วีกำลังรู้สึกแย่
ถ้าพี่อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ”
จองกุกพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ก็คนตรงหน้าเขาตอนนี้น้ำตาคลอเตรียมจะไหลออกมาอยู่แล้ว
ยังจะมาปากแข็งบอกไม่เป็นอะไรอีก
“ฮรึก....ฮืออออออออออออออ” ร่างบางปล่อยโฮออกมาทันที
“อ้าว เห้ยพี่วี อย่าร้องดิ”
“ฮืออออออ ฮรึก... ฮือออออออออ” แทฮยองร้องแหกปากลั่น
“พี่วีจ้ะ ไม่ร้องนะ โอ๋ๆๆ” มือหนาดึงตัวร่างบางมากอดปลอบ
ใครจะไปคิดว่าพี่วีจะร้องไห้ออกมาเป็นเขื่อนแตกขนาดนี้ล่ะครับ
จอนก็คิดว่าจะน้ำตาหยดลงแก้มสักสองสามหยดแบบนางเอกละคร
นี่พี่วีเล่นร้องยังกับน้อยหน่าโดนเจี๊ยบตัดหนังยางในเรื่องแฟนฉัน
“นายบอกให้.. ฮรึกก พี่ร้องเองนี่นา... ฮือออ” แทฮยองสะอึกสะอื้น
“งั้นผมบอกให้พี่วีหยุดร้อง ตอนนี้เลย ฮึ้บ!”
“ฮึ้บ ฮรึก.... ฮืออออออออออ” ร่างบางหยุดไปชั่วขณะแต่ก็ปล่อยโฮออกมาต่อ
“ถ้าพี่วีไม่หยุดร้อง จอนจะร้องตามแล้วนะ ฮือออออออ”
“ฮือออออออออ นายจะร้องทำไม”
“ก็คนที่จอนรักร้องไห้อ่ะ จอนก็ร้องด้วย ฮือออออ”
จองกุกทำท่าจะร้องไห้
“ฮรึก... ไอ่เด็กบ้า!”
ผมหมดอารมณ์จะร้องไห้ น้ำตาไหลย้อนกลับ
ก็เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่จะมาร้องไห้ตามผมทำไมกันเล่า
“เงียบแล้วก็ห้ามร้องอีกนะพี่วี
ไม่งั้นจอนจะจับปล้ำในโพรงหญ้าแถวนี้เลย55555555555555”
ร่างสูงพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนทีเอียงตัวหลบจนหน้าจะทิ่มกอหญ้าอยู่แล้ว
“ไอ้เด็กลามก! ไอ้บ้า!”
“ทีงี้มาทำเป็นด่า ก่อนหน้านี้พี่ยังจุ๊บแก้มผมอยู่เลย”
“นั่นมันเป็นการแสดง พี่แค่หลอกพี่จินเขาก็เท่านั้นแหละ”
ร่างบางอธิบาย
“แต่สำหรับจอนทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ทุกอย่างที่จอนทำให้พี่วีมันคือเรื่องจริง..นะจ้ะ” จองกุกพูดก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า
เกือบจะโรแมนติกแล้วครับ ติดตรงไอ้คำว่านะจ้ะของมันนี่แหละ
ยังไงก็ไม่ทิ้งลายความเป็นเด็กแว๊นซ์ในตัวเลยสินะ
ถ้าไม่ติดว่ามันแว๊นซ์และกวนตีนผมอาจจะตกหลุมรักจอนแล้วก็ได้ครับ
“พี่หิวอ่ะ พาไปหาอะไรกินหน่อย”
“พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง บอกผมมาก่อนว่าพี่ร้องไห้ทำไม
พี่ยังรักผู้ชายปากห้อยคนนั้นหรอ” จองกุกถาม
“เปล่า ไม่ได้รัก พี่เกลียด เกลียดมากที่สุดในชีวิต
ไม่เคยเกลียดใครเท่านี้มาก่อนเลย”
“ผู้หญิงบอกเกลียดแปลว่าผู้หญิงรักนะพี่วี”
“แต่พี่เป็นผู้ชายโว้ย เกลียดก็บอกเกลียด
แมนๆคุยกันนี่พูดตรงๆเลย” แทฮยองยืนยันเสียงหนักแน่น
“งั้นแมนๆคุยกัน พี่วีชอบจอนบ้างรึยัง?”
“ก็นิดนึง เห้ย!!!!!!!!!!!” แทฮยองอุทานเสียงดัง
ไอ้จอน ไอ้เด็กร้ายกาจ ผมพลาดท่าให้มันอีกแล้วครับ โอ้ย
อายจนจะโดดลงแม่น้ำตรงหน้าแล้วเปื่อยย่อยสลายกลายเป็นอาหารปลาไปเลย
“ห้ะ พี่วีชอบจอนจริงดิ ชอบมากแค่ไหน” ร่างสูงถามต่อ
“ไม่ชอบ ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น!!!!!!!”
“หึ ปากแข็งให้ได้ตลอดล่ะกัน อย่าเผลอล่ะ
ระวังในหัวใจพี่จะมีแต่จอน จอน จอน จอน จอน จอน55555555555555555555555555555555555555”
“ไอ่เด็กหลงตัวเอง อย่าขี้มโน ตื่น!!” มือเรียวตบไปที่แก้มขาวนั่นเบาๆเพื่อเรียกสติ
“เมื่อกี้พี่วียังเรียกจอนว่าแฟนอยู่เลยนะ นี่ไม่ได้ฝัน
ได้ยินเต็มสองหู หรือจะกลับไปถามไอ้ซอกจินอะไรนั่นก็ได้” จองกุกแซวจนคนน่ารักแก้มเปลี่ยนสี
“หยุดพูดชื่อมัน แล้วก็อย่าดีใจไป
พี่แค่ดีกับนายเพราะเอ็นดูนายเหมือนน้องพี่ก็เท่านั้น”
“จอนไม่ได้อยากเป็นน้อง จอนอยากเป็นคนรักของพี่วี”
ไอ้เด็กแว๊นซ์มันย้ำอะไรนักหนา คนฟังมันเขินเว้ย
นี่เก็กอยู่อย่ามาทำให้หลุดอีกดิ
“ตอนนี้เป็นน้องไปก่อนแล้วกัน”
ห้ะ หูจอนไม่ได้ฝาดใช่ไหมครับ พี่วีบอกตอนนี้เป็นน้องไปก่อนแสดงว่าในอนาคตก็อาจจะพัฒนาเป็นอย่างอื่นได้
ตู้วหู้ววววววววว จอนรู้สึกมีความหวังในหัวใจ
“พร้อมจะให้จอนเป็นอย่างอื่นเมื่อไหร่ก็รีบบอกจอนเลยนะพี่วี”
“เออๆ หิวแล้ว จะพาไปหาอะไรกินได้รึยัง”
“ยัง พี่วีหลับตาก่อน” ร่างสูงบอกคนน่ารักตรงหน้า
“เรื่องมากจริงโว้ย” บ่นแต่ก็หลับตาตามที่อีกคนบอก
มือหนาล้วงไปหยิบดอกกุหลาบขาวที่เสียบไว้ดานในของเสื้อกั๊กมายื่นให้แทฮยอง
ด้วยรอยยิ้มและสายตาที่จริงใจ
“คิดว่าพระเอกมากป่ะที่ทำอยู่ ลงถามใจตัวเองดูนะ” แทฮยองถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พี่วีไม่คิดจะเขิน จะซึ้งสักนิดเลยจริงดิ
จอนถามใจแล้วก็มีแต่พี่วีเป็นคำตอบเลยนะจ้ะ ฮริ้ววววววววว”
“ไม่อ่ะ พี่หิว ไปได้ยัง” มือเรียวคว้าดอกกุหลาบขาวตรงหน้าแล้วลุกเดินกลับไปที่รถ
“เป็นคนประเภทไหนกันว้ะเนี่ย จอนตั้งใจให้แทบตายสุดท้าย
แป้ก...” จองกุกบ่นอิดออดก่อนจะเดินตามร่างบางไป
นอกจากแมวหมา และของกินอร่อยๆ ผมน่ะชอบดอกกุหลาบขาวที่สุดเลยครับ
แต่จะดีใจต่อหน้าเจ้าเด็กนี่น่ะเหรอ ฝันไปเถอะ เดี๋ยวก็ได้ใจกันพอดี
.
.
.
.
.
ณ ตลาดบางท่าน
มือเรียวแบกของเต็มมือ พยายามใช่เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มียกมือที่ยังถือถุงพลาสติกจำนวนมากขึ้นเพื่อเรียกวินมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ผ่าน
“ไปไหนจ้ะ”
ชายร่างสูงผิวขาว ปากแดง ดวงตากลมโต
สวมเสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์สีส้มกำลังเอ่ยถามคนที่โบกเรียกให้เขาจอด
“ไปท้ายตลาดบางท่านอ่ะครับ ซอย12”
“ขึ้นมาเลยจ้ะ”
“เอ่อ ช่วยถือของให้ก่อนได้ไหมครับ ผมขึ้นรถไม่ถนัด” ร่างบางขอความช่วยเหลือ
ผู้ชายหรือตุ๊ดว้ะเนี่ยบอบบางจัง ถือของหนักแค่นี้ก็ไม่ไหว
ผมได้แต่คิดในใจครับ แต่ก็รับถุงของมาถือแต่โดยดี
ขืนพูดออกไปมีหวังผู้โดยสารตบกะบาลแยก ไหนขอดูหน้าให้ชัดๆหน่อย
อยากรู้ว่าหน้าตาจะเป็นยังไง ถ้าน่ารักก็จะให้แล้วไปไม่ว่ากัน
ร่างสูงใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่เปิดกระจกหน้าที่หมวกกันน็อคขึ้นเพื่อจะดูหน้าของอีกคนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดวงตากลมถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจกับคนตรงหน้า ดวงตาสวย จมูกโด่ง กับปากบางนั่น
รวมกันแล้วมันน่ารักยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก
ตึกตักๆ ตึกตักๆ
ได้ยินไหมเสียงหัวใจจอน มันกำลังบอกรักผู้โดยสารตรงหน้าอยู่ครับ
“เอ่อ มีอะไรรึเปล่าครับ หรือว่าจะไม่ไป ผมจะได้เรียกคันอื่น”
ร่างบางเอ่ยเรียกคนที่จ้องหน้าเขาอยู่
“เปล่าจ้ะๆ ไปจ้ะไป ขึ้นมาเลยจ้ะ ของเดี๋ยวจอนดูแลให้เอง” มือหนาเอาถึงของทั้งหมดแขวนไว้กับแฮนด์รถ
“อ่า ขอบคุณครับ” คนน่ารักโค้งหัวให้เล็กน้อยก่อนจะกว้าขาขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์สีแดงคันใหญ่
“กอดเอวก็ได้นะจ้ะ ถ้ากลัวตก” ร่างสูงพูดทิ้งท้ายก่อนจะออกตัวรถด้วยความเร็ว
ผมเพิ่งรู้นะครับว่าเด็กแว๊นซ์แถวนี้มันใช้เวลาว่างจากการซิ่งรถมาขี่วินด้วย
ก็ดีที่คิดได้ที่จะทำอะไรที่เกิดประโยชน์บ้างนอกจากซิ่งรถบนถนนทางหลวง
รบกวนชาวบ้านไปวันๆ
“เอ่อ พี่จ้ะ น้ำมันจะหมด ขอแวะเติมน้ำมันก่อนนะจ้ะ”
ไม่ทันรอให้คนที่ซ้อนท้ายอยู่ตอบตกลง จองกุกก็เลี้ยวรถเข้าปั้มน้ำมัน
เมื่อเติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็แล่นต่อไปยังท้องถนน
“เอ่อ พี่จ้ะ ขอแวะซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เพื่อนแปบนึง
เพื่อนมันฝากซื้อพอดี”
“อ่ะ เอ่อ”
ผมยังไม่ทันพูดจบมันก็จอดรถที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือริมน้ำที่ไม่ไกลจากตลาดบางท่านนัก
นี่ผมจะถึงบ้านตอนไหนครับเนี่ย ไอ้วินเด็กแว๊นซ์คนนี้มันขอจอดแวะโน่น
แวะนี่ตลอดทาง สรุปใครผู้โดยสารกันแน่ ผมนี่งง
“พี่จะยืนตากแดกสังเคราะห์แสงอีกนานป่ะจ้ะ
ผมว่าพี่เข้ามาหลบแดดในร้านก่อนที่พี่จะไหม้ไปมากกว่านี้55555555555555555555555”
ร่างสูงกวักมือเรียก
ด่ามันในใจแต่ก็เดินเข้าไปในร้านครับ ไอ่เด็กเวรนี่ เดี๋ยวเถอะ
อย่าให้คิมแทฮยองหมดความอดทน!
คนน่ารักได้แต่นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามร่างสูง
“พี่หิวป่ะ กินอะไรมายังจ้ะ?” เขาเอ่ยถามอีกคนก่อนจะหยิบกระดาษบนโต๊ะมาเขียนรายการอาหาร
“รีบซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เพื่อนนายแล้วก็ช่วยไปส่งฉันกลับบ้านโดยเร็วที่สุด”
ร่างบางพูดแกมสั่งอีกคน
ไอ่วินมอเตอร์ไซค์นี่มันชิวมากไหมครับ อยากให้มันลองถามใจตัวเองดู
ลืมไปรึเปล่าว่าผมเป็นผู้โดยสารที่โบกเรียกมันเพื่อจะกลับบ้าน ให้ตายเถอะ ทั้งร้อน
ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว
ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูน้ำตกร้อนๆสองชามถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าของผู้ชายทั้งสองคน
คนผิวขาวหยิบช้อน
ตะเกียบวางให้บนชามก๋วยเตี๋ยวของคนผิวสีแทน
“กินดิพี่ ร้อนๆเลย ร้านนี้อร่อยมาก จอนชวนชิมเองเลยนะจ้ะ”
“ไหนบอกจะซื้อให้เพื่อนไง แล้วสั่งมากินทำไมเนี่ย?!!!!”
“ก็ซื้อให้เพื่อนด้วย แต่จอนหิวอ่ะจ้ะ ขอกินแปบนึงนะพี่” ร่างสูงพูดจบก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“แล้วสั่งมาให้ฉันทำไม ไอ่บ้า” ตอนนี้เขากำลังโมโหคนตรงหน้านี้อย่างมาก
“ก็กินเป็นเพื่อนกันหน่อย เดี๋ยวจอนเลี้ยงเอง
พาไปส่งบ้านฟรีเลยด้วยพี่” จองกุกตอบก่อนจะคีบลูกชิ้น
“ฉันไม่กิน ไม่หิว แกรีบกินให้ไวเลย” แทฮยองจ้องอีก
ปากบางเบะเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ
โคร่ก.. คร่อก...
ท้องจะมาร้องทำไมตอนนี้
ยิ่งเป็นต่อหน้าไอ้วินมอไซค์กวนตีนคนนี้ด้วยเนี่ย ผมอายจนหน้าชาแล้วครับ
“กระเพาะพี่นี่ไม่สามัคคีกับปากพี่เลยนะจ้ะ” จองกุกแซว
“หึ่ย!!”
โมโหแต่ก็กินครับ แม่บอกว่าด้านได้อายอด(กิน) แถมยังเป็นของฟรีอีกต่างหาก
เจ้าบ้านั่นบอกเองว่าจะเลี้ยง แล้วก็ไม่คิดค่าโดยสาร ก็โอเคครับ
ถึงบ้านช้าหน่อยคงไม่เป็นไร ไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว(?)
“พี่จ้ะ โทรศัพท์มีเงินไหม” ร่างสูงถามคนน่ารักตรงหน้าที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ฉันใช้รายเดือน ทำไมหรอ” หยุดตอบคำถามแปบนึงก่อนจะตักหมูเข้าปากต่อ
“ยืมโทรหาเพื่อนหน่อยดิพี่ จอนลืมอ่ะว่าเพื่อนมันฝากซื้ออะไร”
“อือ” มือเรียวล้วงหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นให้อีกคน
จองกุกแตะหน้าจอสามสี่ครั้งก่อนจะส่งคืนกลับให้เจ้าของเครื่องด้วยร้อยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์จนร่างบางสงสัยอะไรบางอย่าง
“ไม่โทรถามเพื่อนแล้วหรอ”
“ไม่แล้วจ้ะ จอนนึกออกแล้ว เมื่อกี้เลยจ้ะ ว่าแต่พี่ชื่ออะไรอ่ะ
จอนจะได้เมมถูก เอ้ยเรียกถูก”
“เอ่อ จำเป็นจะต้องบอกด้วยหรอ” แทฮยองถาม
ไอ้วินมอเตอร์ไซค์คนนี้มันจะเยอะเกินแล้วนะ! ถ้าไม่ติดว่าได้กินฟรีนะด่าให้เป็นผ้ารีดไม่เรียบเลย! ด่าให้ยับเลยล่ะครับ!!
“ก็อยากรู้ว่าคนน่ารักแบบนี้จะชื่ออะไรไงจ้ะ
บอกหน่อยน่าพี่อย่างกไปหน่อยเลย”
“ไอ่เด็กบ้า น่ารักบ้าอะไร ใครเขาชมผู้ชายว่าน่ารักกัน”
ตั้งแต่เกิดและโตมาจนทุกวันนี้ ใครๆก็บอกว่าผมน่ารักครับ
ไม่มีใครเข้าใจจิตใจผมเลยว่าอยากให้ชมว่าผมหล่อบ้าง ผมเป็นผู้ชายแมนๆนะ
ซังนัมจาอ่ะรู้จักไหม
“แหนะ ไม่กล้าบอกนี่แสดงว่าชื่อบ้านนอกอ่ะดิ หว่ายยยยยยยยยย”
“ฉันชื่อแทฮยอง คิมแทฮยอง
หรือเรียกวีก็ได้”
“ชื่อน่ารักเหมือนหน้าตาเลยจ้ะพี่วี งั้นต่อไปจอนเรียกพี่วีนะจ้ะ”
“ไม่ต้องเรียกเพราะต่อไปเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ กินเสร็จแล้ว
ไปจ่ายเงินดิฉันจะได้กลับบ้านสักที”
“จ้ะพี่วีจ๋า” ร่างสูงลุกขึ้นไปจ่ายเงินก่อนจะเดินตามคนน่ารักที่เดินหน้างอไปที่รถ
เอ๊ะ แล้วไหนถุงก๋วยเตี๋ยวที่มันบอกจะซื้อให้เพื่อนล่ะครับ เออช่างมันเหอะ
ผมจะไปสนใจเรื่องของมันทำไม
เมื่อแทฮยองก้าวขาขึ้นรถเสร็จ
ร่างสูงก็ออกตัวขี่รถไปยังถนนเส้นยาวเพื่อพาเขากลับบ้าน
“ส่งปากซอยก็พอฉันเดินเข้าไปเองได้”
ร่างบางพูดจบก็อีกคนก็จอดรถให้แต่โดยดี
มือเรียวเอื้อมไปหยิบถุงที่แฮนด์รถก่อนจะเดินเข้าไปในซอยโดยไม่หันกลับมามองคนข้างหลัง
แทฮยองไม่รู้เลยว่าตอนนี้วินมอเตอร์ไซค์คนนั้นได้เดินตามเขามาห่างๆ
จนเห็นว่าเขาได้เดินเข้าบ้านไป ร่างสูงจึงเดินกลับไปที่รถแล้วขี่รถกลับไปอย่างอารมณ์ดี
ตือดึง!!
เสียงเตือนดังจากแอพพลิเคชั่นแชทสีเขียวสุดฮิต
JeonJK : ขอบคุณที่ใช้บริการนะจ้ะพี่วี
หวังว่าจะได้เจอกันเร็วๆนี้
“เห้ยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!”
ตกใจแทบจะปาไอโฟนหกที่เพิ่งซื้อมาไม่นานทิ้งเลยครับ
ไอ้เด็กแวนซ์วินคนเมื่อกี้มันเอาไลน์ผมไปตอนไหน
ร่างบางครุ่นคิดสักพักก็นึกออกถึงเหตุการณ์ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ
ไอ้เด็กกะล่อน ร้ายกาจมาก นี่ผมโดนมันหลอกหรอเนี่ย เสียรู้ให้เด็กแว๊นซ์
คิมแทฮยองจะบ้าตาย!
.
.
.
.
.
“พี่วีกินอะไรดีจ้ะ” จองกุกถามพลางหยิบกระดาษบนโต๊ะมาจดเมนู
“อะไรก็ได้”
“งั้นเอาเส้นเล็กหมูน้ำตกนะจ้ะ
แบบเดิมที่จอนเคยสั่งให้พี่วีกินตอนเราเจอกันครั้งแรก”
นึกแล้วก็แค้นใจไม่หายครับที่พลาดยื่นโทรศัพท์ให้จองกุกไปวันนั้น
มันเลยเอาไปแอดไลน์เมมเบอร์ผมจนตามมาจีบผมจนทุกวันนี้
“สองสัปดาห์แล้วนะที่จอนเจอพี่วีอ่ะ
เวลาที่มีความสุขนี่มันผ่านไปไวจัง”
“ทำไมของพี่รู้สึกว่ามันผ่านไปช้ามากกกกกกกกก”
ร่างบางลากเสียงยาว
“อ่ะแหน่ะ อยากใช้เวลาให้ช้าจะได้อยู่กับจอนนานๆอ่ะดิ”
“หลงตัวเอง!!!”
“จอนอ่ะหลงพี่วีต่างหากจ้ะ” พูดจบก็ลุกขึ้นไปเอากระดาษที่จดเมนูให้ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยว
“มันก็เรื่องงของนาย”
“เรื่องของจอนก็มีแต่พี่วี”
“ไม่เถียงด้วยแล้ว!”
“ไม่เถียงงั้นรับรักจอนเลยดิ”
“ไอ่เด็กบ้า ถ้าไม่หยุดพูดจะแทงด้วยตะเกียบ” มือเรียวหยิบตะเกียบขึ้นมาขู่อีกคน
“ไม่อยากตายด้วยตะเกียบอ่ะ จอนอยากตายคาอกพี่วี55555555555555555555555555555”
“ตายคาตีนก่อนไหมล่ะ”
“ไม่จ้ะ ช่วงนี้จอนกินโปรตีนบ่อยแล้ว” พูดจบจองกุกก็สงบปากสงบคำ
“เออจอน พรุ่งนี้ตอนเย็นไม่ต้องมารับพี่นะ
พี่มีธุระต้องไปทำงานที่บ้านเพื่อน”
“เพื่อนคนไหน บ้านอยู่ไหน กลับกี่โมง” จองกุกถามรัว
“นี่มันชักจะเยอะแล้วนะ จีบก็อยู่ส่วนจีบ อย่ามาก้าวก่าย”
มันก็ถูกของพี่วีครับ แต่ผมหวงนี่ หึงด้วย ห่วงสุดพลังก็เท่านั้นเอง
ไม่ได้คิดจะจู้จี้จุกจิกให้พี่วีเขารำคาญใจหรอกนะครับ
“งั้นเสร็จธุระพี่วีก็บอกจอนนะ จอนจะได้ไปรับ
ไม่อยากให้กลับคนเดียวเดี๋ยวสก๊อยสาวของจอนโดนใครลากไป จอนทำไงล่ะทีนี้” ร่างสูงพูดเสียงอ่อน
“อืมๆ ก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว กินกันเถอะ” พูดจบแทฮยองก็ใช้ตะเกียบม้วนเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
ในเมื่อผมไล่มันก็ไม่ไป
ห้ามไม่ได้ก็ปล่อยให้น้องจอนมันจีบผมไปตามใจมันเถอะครับ
ขอแค่อย่ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผมมากไปก็พอ
“อร่อยมั้ยจ้ะ พี่วีจ๋า” จองกุกถามพลางมองคนน่ารักตรงหน้าที่กินอย่างตั้งใจ
“อือ” ร่างบอกตอบพลางเคี้ยวแก้มตุ่ย
ไม่ว่าพี่วีจะกิน นอน เดิน นั่ง หรือถีบจอนก็น่ารักไปหมดเลยครับ
จะทำอะไรก็น่ารักอ่ะ แบบนี้ไม่ให้จอนหลงจอนรักยังไงไหว
สรุปแผนการพาพี่วีไปเดทที่ร้านขนมก็พังทลาย
แถมไปเจอไอ่ปากห้อยแฟนเก่าพี่เขาอีก มันน่าหงุดหงิดชะมัดเลยนะว่าไหม
จะรักใครจริงจังสักทีดูมีแต่มารผจญ จอนจะถือคติอุปสรรคก่อให้รักบังเกิด
ได้เจอแฟนเก่าพี่วีก็ดีทำให้ผมได้รู้ข้อมูลแถมยังได้อีกหนึ่งจุ๊บ
สิ่งดีที่สุดคือการได้มานั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับพี่วีที่เดิมที่เคยมากินตอนเจอพี่เขาครั้งแรก
อยากจะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกับพี่วีแบบนี้บ่อยๆเลยครับ อาหารอร่อย กินกับคนที่เรารัก
แค่นี้จอนก็เป็นเด็กแว๊นซ์ที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว
.
.
.
.
.
ตือดึง!
แทฮยองไถหน้าจอไอโฟนสองสามทีหลังจากที่ได้ยินเสียงเตือน
JeonJK : ฝันดีนะจ้ะพี่วีจ๋า
คืนนี้นอนคนเดียวก็ฝันถึงจอนด้วยนะ เจอกันพรุ่งนี้เช้าจ้ะ
VtaehyungV : วันนี้ขอบคุณนะ ฝันดีไอ่เด็กบ้า ;P
JeonJK : ขอเป็นฝันวี แทนฝันดีนะจ้ะพี่วีจ๋า <3
VtaehyungV : จะฝันอะไร ฝันถึงใครมันก็เรื่องของนาย
JeonJK
: งั้นขอฝันว่านอนกอดพี่วีแล้วก็...
VtaehyungV
: ไอ่เด็กลามก!!
JeonJK : แล้วเราสองคนก็หลับไปไงจ้ะ พี่วีแหละลามก
คิดไปถึงไหนอ่ะจ้ะ555555555555555555555555
VtaehyungV : เด็กบ้า!! นอนได้แล้ว
อย่ามารับพี่สายล่ะ!
JeonJK : คร้าบบบบบ คนน่ารักของจอน ราตรีสวัสดิ์ฮะ
JeonJK : จอนรักพี่วีนะ :3
JeonJK : sent you a sticker.
โอ้ย เขินดิครับ มาบอกรักงี้ไม่คิดถึงจิตใจคนอ่านเลยรึไง! ภูมิคุ้มกันอาการหวั่นไหวยิ่งบกพร่องอยู่
ร่างบางกำลังยิ้มคนเดียวหลังจากที่ได้อ่านข้อความของอีกคน ก่อนจะวางมันลงที่โต๊ะข้างๆดอกกุหลาบขาวที่ได้มาจากจองกุกเมื่อตอนเย็น
เปลือกตาของร่างบางค่อยๆ ปิดลงเพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อน
ตือดึง!
ไอ่เด็กแว๊นซ์นี่ส่งมาอยู่ได้ คนจะหลับจะนอน!
มือเรียวเอื้อมไปหยิบไอโฟนมาดูก่อนจะเห็นว่าคนที่ส่งข้อความมากลับไม่ใช่คนที่เขาคิด
seokJIN
: น้องวีนอนรึยังครับ?
seokJIN : ขึ้นreadแสดงว่ายังไม่นอน
seokJIN : ไม่ต้องตอบพี่หรอก อ่านอย่างเดียวก็ได้ครับ
พี่แค่คิดถึง
seokJIN
: วันนี้พี่รู้นะว่าน้องวีเล่นละครตบตาพี่
น้องวีกับไอ้เด็กแว๊นซ์นั่นไม่ได้เป็นแฟนกันใช่ไหมครับ
VtaehyungV : จอนจองกุกกับผมเราเพิ่งคบกันครับ
ผมไม่ได้รักพี่แล้ว ต่อไปพี่อย่ามายุ่งกับผมอีกนะ โชคดีครับพี่จิน
seokJIN : น้องวีอย่าดื้อได้ไหม
คิดว่าพี่ไม่รู้หรอครับว่าเราเป็นคนยังไง
น้องวีไม่คบกับใครที่เพิ่งมาจีบได้มานานหรอก คนอย่างน้องวีต้องมั่นใจแล้วถึงจะคบเป็นแฟน
ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าที่ทำวันนี้น้องวีแค่ประชดพี่
VtaehyungV
: ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องประชดพี่ครับ เลิกยุ่งกับผมเถอะ
ผมขอร้องล่ะ แล้วก็เลิกส่งคนมาสะกดรอยตามผมด้วย ก่อนที่ผมจะเกลียดพี่ไปมากกว่านี้
seokJIN : ถ้าเกลียดพี่มากทำไมตอนนั้นไม่ฆ่าพี่ไปเลยล่ะ
ทำไมถึงยังร้องไห้เวลาเจอกัน ทำไมล่ะครับ?
seokJIN : น้องวีอาจจะหลอกใจตัวเองได้ แต่หลอกพี่ไม่ได้หรอกนะ
เรื่องมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว หนึ่งปีที่พี่ทรมานเพราะไม่มีน้องวี
ตอนนี้พี่จะกลับมาเอาตัวคนรักของพี่คืน
VtaehyungV
: ผมเกลียดพี่ ผมไม่ใช่น้องวีคนเดิมของพี่อีกต่อไป
ลืมทุกย่างแล้วก็ชีวิตใครชีวิตมันเถอะนะพี่จิน ถือว่าทำให้ผมเป็นครั้งสุดท้าย
seokJIN
: สิ่งที่พี่จะทำคือให้น้องวีกลับมา ถ้าพี่ไม่ได้
ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะได้น้องวีไป เราบีบให้พี่ทำแบบนี้เองนะ...
ฝันดีนะครับคนดี แล้วเจอกัน :)
ผมเกลียดพี่! และผมก็เกลียดตัวเองที่ยังลืมพี่จินไม่ได้
ถ้าเลือกได้ผมขอให้เราไม่รู้จักกันซะยังดีกว่าต้องมาทนเจ็บปวดอยู่อย่างนี้
คนรักของผมพรากชีวิตของน้องชายของผมไป ต่อให้รักมากแค่ไหน
แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำ มันเกินจะให้อภัย
จะให้ผมคบกับฆาตกรที่ฆ่าน้องชายผมน่ะเหรอ หึ
ผมปิดเครื่องก่อนจะโยนมันกลับที่เดิม โดยไม่คิดจะตอบข้อความของคนๆ
นั้นอีก ผมไม่อยากจะเสียน้ำตาให้เรื่องนี้อีกแล้ว
ผมควรจะเข้มแข็งและเริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้แล้ว ผมสัญญากับตัวเอง
และฮยองวอนว่าต่อไปผมจะไม่ร้องไห้อีก
ร่างบางนอนซุกหมอนก่อนจะหลับไป
.
.
.
.
.
“พี่แทฮยอง ผมหิวอ่ะ ไปซื้อขนมกันนะฮะ”
“แต่นี่มันดึกแล้วนะฮยองวอน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนอีกนะ”
“ก็ผมหิว นะๆๆพี่แทฮยอง พาไปหน่อยนะ เซเว่นใกล้ๆนี่เอง”
เด็กน้อยกอดอ้อนผู้เป็นพี่อายุห่างกันหนึ่งปี
เพราะช่วงวัยที่เกิดไล่เลี่ยกันดั้งนั้นทั้งสองคนจึงเป็นพี่น้องที่รักและสนิทกันมาก
ตัวติดกันตลอดเวลาราวกับฝาแฝด
“อื้ม ก็ได้” ร่างบางดึงจูงมือน้องชายก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
“พี่แทฮยอง มันมืดอ่ะ ผมกลัว” ฮยองวอนกำมือพี่ชายแน่น
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่กับฮยองวอนตรงนี้ไง”
ไฟริมถนนนี่มันจะมีไว้เพื่ออะไรครับ มีหลอดไฟแต่หลอดไฟเสีย
ควรเขียนจดหมายไปร้องเรียนรายการเรื่องเล่าเช้านี้ให้พี่สรยุทธช่วยดีไหม
“พี่แทฮยองดูนั่น ลูกแมวอยู่ที่เกาะกลางถนน”
ฮยองวอนสลัดมือพี่ชายก่อนจะวิ่งไปอุ้มลูกแมวขึ้นมากอด
เพราะเป็นเวลากลางคืนจึงทำให้ไม่ค่อยมีรถสักเท่าไหร่
“ฮยองวอน อย่าวิ่งไปแบบนี้สิมันอันตราย”
แทฮยองพูดพลางก้าวขาไปหาน้องชายที่ยืนอยู่ตรงเกาะกลางถนน
แต่ไม่ทันที่ร่างบางจะเดินได้ถึงฝั่ง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“พี่แทฮยอง ระวัง!!!” ฮยองวอนวิ่งเข้ามาผลักพี่ชายออกไป
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด โครม!!!!!!!!!!
“ฮยองวอน!!!!!!!!!!!!!”
สิ้นเสียงตะโกนของร่างบาง
ภาพที่เห็นตรงหน้าของเขาคือร่างของน้องชายกระเด็นลอยไปอยู่ตรงพื้นถนน
ของเหลวสีแดงค่อยๆไหล่ออกมาจากร่างที่นอนนิ่ง มันเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
ทำเอาแทฮยองยืนช็อคกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“น้องวี เป็นอะไรรึเปล่าครับ?!” เสียงทุ้มถามด้วยความตกใจหลังจากที่วิ่งลงมาจากรถ
ชายผู้เป็นเจ้าของรถที่ชนน้องชายของเขากำลังเรียกเขาเพื่อให้ได้สติ
“พ... พี่จิน ฮยองวอน”
แทฮยองวิ่งไปกอดร่างของร้องชายที่นอนจมกองเลือด
“รีบพาฮยองวอนไปโรงพยาบาลก่อนเร็ว”
ชายไหล่กว้างแย่งอุ้มร่างของเด็กผู้ชายที่หมดสติขึ้นรถ
โดยมีพี่ชายที่วิ่งตามขึ้นรถไปทั้งน้ำตา
“ฮรึก... ฮือ... ฮยองวอนอดทนไว้นะ”
“น้องวีอย่าร้องนะ ฮยองวอนจะต้องปลอดภัย” ร่างสูงปลอบอีกคน
“ฮรึก.. พี่จินต้องช่วยฮยองวอนนะ ช่วยน้องผมนะพี่จิน
ฮือออ..”
“ครับ พี่จะไม่ให้ฮยองวอนเป็นอะไรไปเป็นอันขาด
น้องวีอย่าร้องนะ”
ไม่นานร่างของเด็กชายก็ถูกวางลงบนเตียงรถเข็นของโรงพยาบาล
แล้วถูกเคลื่อนที่เข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ฮือออออ.. พี่จินช่วยฮยองวอน ฮรึก... ด้วยนะครับ”
ร่างบางร้องให้สะอื้นในอ้อมกอดของคนไหล่กว้าง
“ฮยองวอนจะต้องปลอดภัยนะครับ
แล้วนี่น้องวีบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
มือหนาลูบหัวปลอบอีกคน ก่อนจะคลายกอดแล้วไล่ดูตามตัวของคนตรงหน้า
“ผม ฮรึก.. ไม่เป็นอะไร ฮือออออ” น้ำตายังคงไหลออกจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย
“น้องวี พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ถนนมันมืดพี่ไม่ทันเห็นจริงๆ”
“ผมไม่โกรธ.. ฮรึก พี่จินหรอก ขอแค่น้องชายผมปลอดภัยก็พอ
ฮรึก...” ร่างบางสะอึกสะอื้น
“พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษจริงๆ..”
ซอกจินพูดพลางกอดร่างบางไว้แน่น
เพราะเขาเพิ่งขับรถชนน้องชายของคนรักของตัวเองเมื่อกี้นี้
ตามจริงเขาตั้งใจจะขับรถไปหาแทฮยองที่บ้านแต่กลับเจอเข้ากับเหตุการณ์เลวร้ายนี้ขึ้นมาซะก่อน
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ใช่ญาติของคนเจ็บรึเปล่าคะ” พยาบาลสาวถาม
“ใช่ครับ ผมเป็นพี่ชายของเขาเองครับ
น้องผมเป็นยังไงบ้างครับ ปลอดภัยใช่ไหม” แทฮยองถามรัว
“จะขอให้ญาติช่วยเซ็นเอกสารอนุญาตยินยอมให้ผ่าตัดด้วยน่ะค่ะ
อาการของคนเจ็บน่าเป็นห่วง อาจจะเพราะศีรษะกระแทก
ทำให้มีเลือดคั่งในสมองเราต้องผ่าตัดด่วน” หญิงสาวอธิบาย
“ได้ครับ ผ่าตัดได้เลย
ทำยังไงก็ได้ให้น้องชายของผมปลอดภัย ช่วยน้องชาย ฮรึก.... ของผมด้วยนะครับ ฮืออออออออ”
มือเรียวขีดเขียนไปที่กระดาษก่อนจะปล่อยโฮออกมา
“น้องวีใจเย็นก่อนนะ ถึงมือหมอแล้ว ฮยองวอนต้องปลอดภัย”
มือหนาดึงตัวร่างบางมาไว้ในอ้อมกอดแล้วปล่อยให้พยาบาลกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ฮรึก...... ฮืออออออออ.... ฮยองวอน.. ฮรึก...”
แทฮยองยังคงร้องไห้ฟูมฟายตั้งแต่น้องชายของเขาถูกพาตัวเข้าไปในห้องผ่าตัด
จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว
“น้องวีหยุดร้องเถอะนะ ฮยองวอนจะต้องปลอดภัย
เชื่อพี่นะครับคนดี” ซอกจินใช้นิ้วปาดน้ำตาที่แก้มนิ่มก่อนจะจับหัวอีกคนให้มาซบอกของตัวเอง
“พี่..จิน.. ฮรึก... ต้องช่วยฮยองวอน..ฮรึก.. นะครับ...”
แทฮยองพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
อาจเพราะความเหนื่อยล้าจากการร้องไห้เป็นเวลานานทำให้ตอนนี้ร่างบางหลับไปในอ้อมกอดของอีกคน
ดวงตาบวมก่ำ แก้มเนียนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
ยิ่งทำให้ซอกจินรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นไปอีกที่เป็นต้นเหตุทำให้คนรักต้องเสียใจขนาดนี้
.
.
.
.
.
“ฮยอง..วอน..” ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมขึ้น
“ตื่นแล้วหรอลูก” หญิงผู้เป็นแม่ลูบหัวลูกชายเบาๆด้วยความรัก
“ผมกลับมาที่บ้านได้ไง แล้วฮยองวอนล่ะครับ
ฮยองวอนอยู่ไหน น้องปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับแม่ ผมจะไปหาฮยองวอน” ร่างบางพูดพลางจะลุกขึ้นจากเตียง
“จินเขาโทรบอกแม่แล้วเขาก็พาเรามาส่งที่บ้านน่ะลูก
แม่กับพ่อเฝ้าน้องที่โรงพยาบาลทั้งคืน เพิ่งกลับมาเมื่อเช้า”
“ฮยองวอนอยู่ไหนครับแม่ ผมจะไปหาน้อง” แทฮยองถามต่อ
“น้อง..เอ่อ..อยู่ที่โรงพยาบาล”
“น้องปลอดภัยดีใช่ไหมครับแม่ แม่รีบบอกผมมาสิครับ
ผมจะไปหาน้อง” ร่างบางคาดคั้น
“น้องหลับอยู่จ่ะ แทฮยองอาบน้ำกินข้าวก่อนนะลูก
เดี๋ยวเราจะไปหาน้องด้วยกัน..”
หญิงผู้เป็นแม่ยิ้มบางให้แทฮยองก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
เพราะไม่อยากให้ลูกชายเห็นน้ำตาของตัวเอง
ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร็วที่สุด ผมอยากจะไปเจอฮยองวอนไวๆ
ผมมาถึงโรงพยาบาลแล้วครับ ผมเป็นห่วงน้องมาก
ตลอดทางที่นั่งรถมาผมกระวนกระวายใจจริงๆ ยิ่งพ่อกับแม่มีท่าทางแปลกไปด้วยแล้ว
ผมยิ่งกังวลไปใหญ่
ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองผมก็ไม่วางใจหรอกครับว่าน้องของผมจะปลอดภัย
พ่อกับแม่ของผมเดินพาผมไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ห้องเดียวกับที่ผมเห็นน้องครั้งสุดท้ายเมื่อคืนก่อนจะหายเข้าไปในห้องนั้น
พวกท่านทั้งสองนิ่งเงียบมาตลอดทางจนผมรู้สึกแปลกใจ
มือเรียวค่อยแหวกผ้าม่านที่กั้นอยู่ก่อนจะเดินเข้าไป
ภาพที่เห็นคือมีร่างนอนนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าผืนใหญ่ที่คลุมปิดไปตั้งแต่หัวจรดเท้า
ผมยื่นมือที่สั่นเทาไปเปิดผ้าออก ทันทีที่เห็นหน้าของคนภายใต้ผ้านั่น
ตัวของผมชาไปทั้งร่าง สมองมันตื้อไปหมด นี่ผมกำลังฝันร้ายอยู่รึเปล่า
“ฮยองวอน..” เขาลองเรียกชื่อคนที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า
“....”
“ฮยองวอน ตื่นสิ ถ้านายตื่นพี่จะพาไปซื้อขนมนะ” ร่างบางลองเรียกพลางใช้มือเขย่าไปที่หัวไหล่ของน้องชาย
“...” แต่ผลก็เหมือนเดิม ไม่มีการตอบกลับใดๆ
“ฮรึก.... ฮยองวอน ตื่นสิ พี่บอกให้ตื่นไง
ลืมตาเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำตาคลอที่ดวงตาของแทฮยอง
“แทฮยอง น้องไปสบายแล้วนะลูก” หญิงสาวผู้เป็นแม่พูดก่อนจะวางมือลงบนไหล่ของลูกชายเพื่อเป็นการปลอบ
“ฮรึก...ไม่จริง ทุกคนหลอกผมใช่ไหม แกล้งผมใช่มั้ย
ฮยองวอนแค่หลับไปก็เท่านั้น”
“มันคือความจริง ลูกต้องยอมรับความจริงนะแทฮยอง
เราทุกคนต่างก็เสียใจเหมือนกัน”
“ฮืออออ.. ฮยองวอน ตื่นมาเดี๋ยวนี้ พี่บอกให้ตื่นไง!! ฮรึก... ฮือออออออ พี่บอกให้ตื่น ได้ยินไหมฮยองวอน!!!!” ร่างบางตะโกน
“แทฮยอง น้องไปดีแล้ว อย่าทำแบบนี้สิลูก
ถ้าน้องรู้ว่าลูกร้องไห้ น้องคงไม่สบายใจนะ” ชายผู้เป็นพ่อบอกลูกชายที่ตอนนี้กำลังร้องไห้ฟูมฟาย
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เอาชีวิตผมไปแทน
คืนชีวิตน้องผมมาเถอะ ฮือ.....”
มือเรียวเขย่าตัวน้องชายอย่างรุนแรง
เพื่อที่จะปลุกฮยองวอนให้ตื่นขึ้นมา
“แทฮยอง ตั้งสติหน่อยสิลูก อย่าทำแบบนี้” ทั้งพ่อและแม่ช่วยกันห้ามลูกชาย
“ฮรึก... ฮยองวอน ฮือออออ... กลับมาอยู่กับพี่
นายอย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้”
แทฮยองกอดร่างที่นอนนิ่งอยู่พลางร้องไห้ฟูมฟายราวกับคนเสียสติ
น้ำตาไหลออกมาจากด้วยตาคู่สวยไม่ขาดสาย
“น้องวี พี่ขอโทษ..” ซอกจินพูดเสียงในลำคอก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ผมไม่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับน้องวีตอนนี้หรอกครับ
ทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปกอดเขาไว้แทบตาย
แต่เพราะสิ่งที่ผมทำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจมันส่งผลให้น้องชายของเขาต้องเสียชีวิต
ผมได้แต่ยืนดูคนรักของผมร้องไห้อยู่ไกลๆ
ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้
“ฮรึก... ฮยองวอนจะต้องไม่ตายฟรี” แทฮยองพูดกับร่างของน้องชายก่อนจะลูบหัวเบาๆ
“.....”
“เรื่องนี้จะต้องมีคนชดใช้ ฮรึก... ด้วยชีวิต”
ร่างบางพูดจบก็ก้มลงจูบที่หน้าผากของน้องชายอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะคลุมผ้าปิดหน้าคืนดังเดิม
“เดี๋ยวผมไปทำธุระก่อนนะครับ พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
พูดจบแทฮยองก็รีบวิ่งออกไปจากห้องโรงพยาบาล
ขึ้นรถแท็กซี่แล้วบอกที่ที่เขาจะไป ระหว่างทางก็ร้องไห้เป็นระยะ
มีเพียงแค่หยดน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่กลับไม่มีเสียงร้องสะอึกสะอื้นเหมือนก่อนหน้า
“สวัสดีครับคุณแทฮยอง” ชายร่างสูงโปร่งเอ่ยทักก่อนจะโค้งหัวให้
“พี่จินอยู่ไหน”
“คุณหนูอยู่บนห้องครับ เดี๋ยวผมไปตามให้”
“ไม่ต้อง ผมขอขึ้นไปเอง”
“เอ่อ ได้ครับ เชิญครับ”
“พี่นัมจุนไม่ต้องพาไปหรอก
ผมมาบ่อยจนจำทางได้หมดแล้วครับ เดี๋ยวผมไปหาพี่จินเอง” ร่างบางบอกก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป
“ครับ” นัมจุนตอบรับสั้นๆ
ก่อนจะมองตามคนที่เดินไปจะพ้นสายตา
แทฮยองหยิบขวดแก้วที่ใส่ดอกไม้ประดับไว้ตรงทางเดิน
เขาโยนดอกกุหลาบสีขาวทั้งหมดทิ้งลงพื้น
มือเรียวจับคอขวดแล้วทุบเข้ากับขอบโต๊ะด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เพล้ง!!!!!!!!!!
ขวดแก้วแตก จนกลายเป็นฟันแหลมคม ร่างบางกำขวดไว้แน่น
ก่อนจะใช้มืออีกข้างผลักประตูห้องนอนเข้าไปหาอีกคนที่ยืนหันหลังอยู่
“อ้าว น้องวี อั่ก...”
สวบ...
เจ้าของห้องพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกคนที่เปิดประตูเข้ามาแทงด้วยขวดในมือ
แก้วแหลมคมทิ่มผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวปักเข้าไปยังผิวหนังของเขา
ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทุกอย่างภายในห้องหยุดเคลื่อนไหว
มีเพียงของเหลวสีแดงข้นที่ค่อยๆ
ซึมและไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนมือเรียวบางของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา
“พี่ทำให้ฮยองวอนต้องตาย ฮรึก..พี่ก็อย่าอยู่เลย”
น้ำตาไหลออกจาดวงตาที่แดงก่ำ
“น้อง.. วี พี่ข..ขอโทษ” ร่างสูงพูดเสียงสั่นเครือ
ความเจ็บปวดทางกายก็ไม่เท่ากับความเจ็บปวดภายในใจของเขาตอนนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนน่ารักจะกล้าทำแบบนี้กับเขาได้ลงคอ
“พี่ฆ่าน้องชายผม ฮรึก... ผมเกลียดพี่จิน”
“ถ้าชีวิตพี่มันแลกชีวิตฮยองวอนได้
ถ้าฆ่าพี่แล้วฮยองวอนจะฟื้นขึ้นมา น้องวีก็ทำเลย”
ร่างสูงบอกด้วยใบหน้านิ่ง
ดวงตาเศร้านั้นกำลังจ้องมองไปที่ดวงตาคนของที่อยู่ตรงหน้า
“ฮรึก.. ผมเกลียดพี่จิน”
“หมดชีวิตของพี่ให้น้องวี
ถ้าพี่ตายแล้วมันชดเชยความคิดพลาดที่พี่ทำไปได้ พี่ก็ยอมครับ”
“ไม่ต้องมาพูดมาก ผมไม่อยากฟังคำจากฆาตกรที่ฆ่าน้องชายผม!!!!!”
ร่างบางตะโกนใส่หน้าอีกคน
“ฆ่าพี่สิ ฆ่าพี่เลย”
ไม่เพียงแต่พูด
มือหนาก็จับมือเรียวของอีกคนแล้วดันเข้ามาหาตัวเพื่อให้แผลมันลึกลงไปยิ่งขึ้น
“ฮรึก.. ผมเกลียดพี่ เราเลิกกันเถอะครับ หลังจากนี้
ฮึก.... เราอย่ามาข้องเกี่ยวกันอีกเลยนะพี่จิน..”
มือสั่นเทาของอีกคนปล่อยขวดแก้วลงก่อนจะถอยไปจนชิดกับผนังห้อง
ร่างบางทรุดตัวลงนั่งแล้วร้องไห้
สองมือของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือดของคนรักของคนซึ่งเป็นคนเดียวกับที่พรากชีวิตของน้องชายเขาไป
“ฮรึก ฮือออออออออออ..................” แทฮยองปล่อยโฮ
ถ้าผมฆ่าพี่จิน ฮยองวอนก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก นี่ผมทำบ้าอะไรลงไป
ผมเกือบจะฆ่าคนรักของผม ผม.. ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร ผมต้องทำยังไง
ผมไม่เข้มแข็งพอที่จะแบกรับเรื่องราวเลวร้ายนี่ได้จริงๆ
“คุณหนู!!!!!!!!!!!!!!!!!” ร่างสูงโปร่งวิ่งมาพยุงซอกจิน
“ฉันไม่เป็นไร นายไปส่งน้องวีที่บ้านหน่อย” ร่างสูงสั่ง
“แต่คุณหนูบาดเจ็บ ผมจะพาไปโรงพยาบาลนะครับ”
“ฉันบอกว่าไม่เป็นไรไง! นายทำตามที่ฉันบอก
ไปส่งน้องวีที่บ้าน แล้วโทรตามหมอมาทำแผลให้ฉันก็พอ” ซอกจินสั่ง
“ได้ครับ เอ่อ คุณแทฮยองเดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”
“ฮรึก..” ร่างบางสะอื้น ไม่ตอบอะไร
นัมจุนพยุงตัวแทฮยองที่ร้องไห้สะอื้นออกจากห้องนอนไปตามคำสั่งของคนที่เป็นเจ้านายเขา
ถึงแม้ใจจะเป็นห่วงซอกจินเพียงใด แต่ก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งได้
ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ผมก็ทรุดตัวลงที่พื้นห้อง
น้องวีเขาเกลียดผมจริงๆเหรอ ผมรู้ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเกินจะให้อภัย
แต่ความรักของเราล่ะ ที่ผ่านมาน้องวีจะให้มันจบลงตรงนี้อย่างนั้นเหรอ
บาดแผลที่คนรักได้สร้างไว้ที่กาย
ก็ไม่เจ็บปวดรวดร้าวเท่ากับบาดแผลจากคำพูดที่บอกว่าเลิกกัน
มันได้กรีดแทงหัวใจเขาลึกกว่าแผลจากขวดแก้วที่ร่างบางแทงเขาเสียอีก
.
.
.
.
.
“พี่คิดถึงน้องวีนะ พี่จะรอวันที่วีจะให้อภัยพี่นะครับ”
ซอกจินพูดกับรูปโปรไฟล์ไลน์ของแทฮยอง
ก่อนจะวางสมาร์โฟนเครื่องหรูที่โต๊ะไม้ข้างหัวเตียง
ทุกครั้งที่มองรูปภาพของคนรัก เขาก็ได้แต่นึกถึงวันเก่าๆ
เหตุการณ์เลวร้ายเหล่านั้นคอยตอกย้ำความผิดพลาดที่เขาทำเสมอ
สำหรับเขาต่อให้แทฮยองบอกว่าเลิกกันไป แต่ถึงยังไงคนรักของเขาก็ยังเป็นคนเดิม
ซอกจินได้แต่รอคอยว่าสักวัน บาดแผลในใจของเขาจะหายดี สักวันเขาจะได้กลับไปดูแลและมีแทฮยองเคียงข้างเหมือนเดิม
ความคิดเห็น