คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เล็กหมูน้ำตก : ชามที่สอง 1OO%
Chapter 2
แกร๊ก..
ร่างบางเปิดประตูเข้ามาภายในห้องนอนของตัวเอง
ก่อนจะโยนกระเป๋าลงบนเตียง โดยที่ยังไม่ได้เปิดไฟ
วันนี้เลิกเรียนเร็ว ตอนบ่ายจิมินกับโฮซอกพาผมไปกินส้มตำไก่ย่าง
ต่อด้วยขนมหวานร้านเบเกอรี่ชื่อดังแถวย่านนี้
ตกเย็นพวกเราก็แวะไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ยุนกิมาด้วย อร่อยมากๆเลยครับ
ผมมีความสุขที่สุดเวลาที่ได้กิน แต่ความสุขมันมักผ่านไปไวเพียงแค่นึกว่าไอ่เจ้เด็กแว๊นซ์นั่นต้องมาโวยวายที่ผมไม่ไปเป็นสก๊อยให้มัน
ผมจะหาข้อแก้ตัวอะไรดีเนี่ย
“......”
ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มีใครสักคนอยู่ในห้องนี้ด้วย
ถ้าเซ้นส์ของผมไม่ผิดพลาดก็น่าจะเป็นเขา... คนที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิต
คนที่ผมพยายามหนีเท่าไร เขาก็ยังตามหาผมเจอ
“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้...” แทฮยองเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ว้า โดนจับได้ซะแล้ว” ใครอีกคนภายในห้องตอบกลับมาก่อน
“ออกไปซะถ้าไม่อยากตาย” ร่างบางเสียงแข็ง
“ถ้าวีอยากให้พี่ตายจริงๆ พี่คงตายไปตั้งแต่หนึ่งปีก่อนแล้วล่ะ
ไม่ปล่อยให้พี่มายืนคุยกับวีอยู่ตรงนี้หรอกครับ”
ร่างสูงตอบกลับมาก่อนจะเดินมาโอบกอดร่างบางจากด้านหลัง
กอดที่แน่นจนอึดอัด คางแหลมของอีกคนเกยอยู่บนไหล่ของแทฮยอง โดยที่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“ต่อให้พี่จะชดใช้ยังไง ผมก็ไม่มีวันให้อภัยพี่
พี่ควรเลิกยุ่งกับผมสักที”
“วียังรักพี่อยู่ พี่รู้
ลืมเรื่องในอดีตแล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับ” ร่างสูงกระชับกอดแน่นขึ้นราวกับกลัวจะเสียคนตรงหน้าไป
“ผมเริ่มต้นใหม่แล้ว ชีวิตที่ไม่มีพี่ และไม่มีฮยองวอนไง หึ..” ร่างบางแสยะยิ้ม
ผมตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ พ่อและแม่ของผมก็ด้วย
ช่วงเวลาที่มันเกิดขึ้นพอดีกับผมต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
พวกเราเลยย้ายบ้านใหม่ให้มาอยู่ใกล้กับมหาลัยของผม เพื่อที่ผมจะไปเรียนได้สะดวก
และเพื่อที่ครอบครัวของผมจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
หวังเพียงแค่ว่าจะได้ลืมเลือนเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตไปบ้าง... สักนิดก็ยังดี
“น้องวี จะให้พี่ชดใช้ให้ยังไง พี่ต้องทำอะไรครับ
ถึงจะทำให้เราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ร่างสูงพูดเสียงอ่อน
เพื่อให้อีกคนเห็นใจ
“พี่ทำให้ฮยองวอนกลับมาได้รึเปล่าล่ะ
เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการ” แทฮยองพูดพลางแกะมืออีกคนออก
ผมเริ่มสะอิดสะเอียดที่จะต้องอยู่ในอ้อมกอดของคนๆ นี้เกินจะทน
“วีก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนที่ตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาได้ยังไง
ทำไมวีต้องเอาเรื่องของคนที่จากไปมาทำให้คนที่ยังอยู่ต้องทรมานด้วยล่ะ
ถ้าฮยองวอนรู้เขาก็คงเสียใจนะที่ทำให้วีไม่มีความสุข” ร่างสูงพูดแล้วกอดร่างบางแน่น
เขาไม่อยากเสียแทฮยองไปจริงๆ
“พี่จิน... ปะ.. ปล่อยผมไปเถอะ...”
ร่างบางพูดเสียงสะอึ้น น้ำไหลออกจาดวงตาคู่สวยหยดลงบนแขนของอีกคนที่กอดเขาอยู่
พอร่างสูงรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังร้องไห้ เขาจึงค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก
มือหนาจับไหล่บางนั่นให้หันตัวมาหาเขา
“พี่จะอยู่ยังไงถ้าไม่มีวี ใครจะคอยมาอ้อนพี่ล่ะ
ใครจะมางอแงให้พี่พาไปเที่ยวล่ะ เวลาที่ผ่านมาวีไม่เสียดายเหรอ
ความรักของเราวีจะให้มันจบลงแค่นี้เหรอ”
“ฮึก... ฮือ”
“พี่รอให้วีหายโกรธและให้อภัยพี่
พี่รู้ว่าวียังรักพี่อยู่ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมครับคนดี” มือหนาประคองแก้มร่างบาง ก่อนจะใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่แก้มนิ่มนั้น
“ผม... เกลียดพี่... ฮึก...” แทฮยองพูดเสียงสะอื้น
น้ำตายังคงไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวย
“พี่ขอโทษที่ทำให้วีร้องไห้ แต่ถ้าวีให้โอกาสพี่สักครั้ง
พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้วีต้องเสียน้ำตาอีก เราจะมีความสุขกันเหมือนเมื่อก่อนไง”
“พี่เลิกพูดถึงเรื่องเก่าๆ ฮึก....
ออกไปจากชีวิตผมได้แล้ว!!!!!!!!!”
ผลั่ก!!!
แทฮยองใช้แรงที่มีผลักออกคนตรงหน้าออกจนเขาเซไปกระแทกกับสวิตซ์ไฟ
ทำให้แสงไฟในห้องสว่าง
เผยให้เขาเห็นร่างบางวิ่งไปหยิบมีดคัตเตอร์ในลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วเอามาชี้ขู่เขา
แขนเรียวนั้นสั่นเทา ดวงตาคู่สวยนั้นน้ำตาคลอ
“เอาสิ ถ้าชีวิตพี่มันทดแทนกันได้
ทำให้วีหายโกรธแล้วให้อภัยพี่ พี่ก็ยอม แทงพี่เลยสิครับ” ร่างสูงเอ่ยแล้วจ้องหน้าอีกคน
“อย่ามาท้าผมนะ!!!!!!!!!!!!” ร่างบางตะคอกใส่
“พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรานะวี พี่รักวี
พี่ยอมทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตของพี่ พี่ก็ให้วีได้ถ้าวีต้องการ”
“แต่ผมเกลียดพี่ ได้โปรดเถอะ ฮึก...
ลืมเรื่องระหว่างเราแล้วก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน
ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการจากพี่นะ พี่จิน...”
“พี่รักวีนะ
พี่จะรอจนกว่าวีจะใจอ่อนแล้วกลับมาให้พี่ได้ดูแลและเคียงข้างวีเหมือนเดิม
วันนี้พี่กลับก่อน วีจะได้หยุดร้องไห้”
ร่างสูงพูดก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง
เขารู้ดีว่าพูดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ แทฮยองยังคงโกรธ
ยิ่งตื้อยิ่งจะมีแต่ทำให้ร่างบางนั้นร้องไห้ ซอกจินอยากจะทำให้แทฮยองมีความสุข
อยากดูแลและปกป้องรอยยิ้มน่ารักนั่นไม่ใช่ทำให้เขาต้องร้องไห้เสียใจแบบนี้
พี่จะรอจนกว่าวันที่วีจะยอมใจอ่อนและยกโทษให้พี่
พี่หวังว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ชีวิตที่ไม่มีวีมันอ้างว้างและทรมาน
พี่ทนไม่ไหวจริงๆ พี่ขอโทษนะที่พี่ทำตามคำขอให้บอกให้พี่ปล่อยวีไป
พี่ทำไม่ได้จริงๆ
“ฮืออออออออออ”
ร่างบางทรุดตัวลงข้างเตียงแล้วปล่อยโฮออกมา
หยดน้ำตามากมายไหลออกจากดวงตาคู่สวยไม่ขาด
ร้องไห้สะอึกสะอื้นปล่อยความรู้สึกแย่ทั้งหมดที่มีในใจ
ผมเกลียดพี่ ผมเกลียดที่คนรักของผม ทำให้ผมสูญเสียคนที่ผมรักไป
ผมเกลียดเขา ทั้งที่ผมพยายามจะลืมและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขากลับยังมาคอยวนเวียน
ทุกครั้งที่ผมเห็นหน้าพี่จิน ภาพวันวานก็ย้อนกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวดของผมเสมอ
กึ่ก กึ่ก!
เสียงดังจากระเบียงห้องนอน
แทฮยองหันไปเห็นเงาสูงอยู่หลังประตูกระจกระเบียงข้างนอกนั่น
ผัวะ!!!
ร่างบางลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยความโมโหก่อนจะปล่อยหมัดใส่คนที่ยืนอยู่ตรงหลังประตูบานนั้นจนล้มลงไปกองที่พื้น
“ถ้าพี่ยังไม่เลิกตอแย ผมจะฆ่าพี่จริงๆ แน่! ฮึก” ร่างบางตะคอกใส่ก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา
“โอ๊ย! พี่วีต่อยจอนทำไมเนี่ย หน้าหล่อๆ
เสียโฉมไปจะทำยังไง” ร่างสูงที่นอนกองอยู่โอดครวญ
“เห้ย!!! แกหรอกเหรอ ไอ่เด็กบ้า”
แทฮยองตกใจทันทีที่เห็นว่าคนที่เขาปล่อยหมัดใส่ไปเป็นคนละคนกับคนที่ทำให้ร้องไห้เมื่อสักครู่นี้
ซวยแล้วครับ ผมต่อยผิดคน ทำยังไงดี?!
“ยัง ยังอีก ยังจะยืนเฉยอีก
ใจคอพี่วีจะไม่มาช่วยพยุงจอนเลยหรอ จะยืนมองจนท้องเลยไหมน่ะ”
“ปากแบบนี้โดนอีกสักทีดีมั้ยว้ะ” ร่างบางพูดแต่ก็ช่วยเข้าไปพยุงตัวอีกคนเข้ามานั่งพักในห้อง
“ไม่จ่ะไม่ เห็นหน้าน่ารักหมัดหนักเหมือนกันนะเนี่ย
ทีเดียวสมองจอนก็กระทบกระเทือนจนลืมทางกลับบ้านแล้วจ้ะพี่วีจ๋า” จองกุกพูดพลางยกมือขึ้นจับหัว
“จู่ๆ แกไปโผล่ตรงระเบียงนั่น ฉันก็ตกใจดิว้ะ
คิดว่าโจรปืนจะเข้ามาปล้นบ้าน”
ผมพยายามหาเหตุผลมาหักล้างการกระทำพลาดของผม
อันที่จริงเจ้าเด็กนี่ก็ผิดเองที่ไปยืนอยู่ตรงระเบียงห้องนอนผม เดี๋ยวนะ! นี่มันชั้นสองแล้วไอ่เด็กนี่มันไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง
อย่าบอกนะว่าปีนขึ้นมา...
“ก็แม่พี่วีล็อคบ้านแล้วอ่ะ
จอนไม่อยากรบกวนเลยปีนขึ้นมาเองเนี่ย คิดถึงพี่วีขนาดไหนคิดดูดิ ซึ้งป่ะๆๆๆๆๆ”
แม่ของพี่วียังไม่ล็อคบ้านหรอกครับแต่ผมเห็นรถยนต์จอดอยู่หน้าบ้านพี่วี
คิดว่าต้องมีคนมาส่งพี่วีแน่ๆอยากจะมาดูหน้ามันสักหน่อย เลยแอบปีนขึ้นมา
“นี่แกเป็นเด็กแว๊นซ์หรือโจรกันแน่”
ผมถามกลับ ก็เจ้าเด็กบ้านี่ดันปีนขึ้นมาจริงๆ ด้วยครับ
“ถ้าเป็นโจร จอนก็ขอเป็นโจรปล้นใจพี่วีนะจ้ะ55555555555555555555555555555555555555555555”
ร่างสูงหยอดมุก
“ฉันจะเป็นตำรวจจับแกเข้าคุกเอง เด็กเวร” ร่างบางตอบกลับ
“พี่ไม่ต้องมาทำเป็นดุผมเลย พี่ผิดสัญญา ปล่อยให้ผมรอพี่อีกแล้วนะ”
จองกุกวกกลับเข้าประเด็นที่ทำให้เขาต้องปีนระเบียงชั้นสองเพื่อมาหาคนน่ารัก
ก็เมื่อเช้ายังรับปากอยู่เลยว่าจะเป็นสก๊อยสาวให้เขาคอยรับส่งไปเรียนที่มหาลัย
พอตกเย็นกลับปล่อยให้เขารอจนฟันยื่น หนีกลับมาเองอีกแล้ว
“ฉัน เอ่อ.. ฉัน...ลืมอ่ะ”
“โหหหหหหหหหหหหหหหห พี่วีแม่ง ทำไมทำกับจอนแบบนี้อ่ะ
จอนปวดใจ ใจจอนมันร้าว” ร่างสูงโอดครวญก่อนจะเอามือกุมหน้าอกข้างซ้าย
“ขอโทษ...” ร่างบางพูดเสียงอ่อน
ที่ขอโทษน่ะ ผมก็แค่รู้สึกไม่ดีที่ผิดคำพูดก็เท่านั้นเอง
ไม่ได้รู้สึกผิดกับเจ้าเด็กบ้านี่หรอกนะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย ใจจอนร้าว คนทั้งคน ลืมได้ไง
จอนอยากจะกรี๊ด ไหนจะที่โดนต่อยร่วงอีก” จองกุกยังคงแอคติ้งเจ็บปวดต่อ
“พี่ขอโทษนะที่ลืม แล้วก็ที่ต่อยแกเมื่อกี้ด้วย” แทฮยองพูดก่อนจะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในลิ้นชัก
แล้วมานั่งตรงปลายเตียงข้างๆ ร่างสูง
ผมหาข้อแก้ตัวไม่ได้จริงๆ มาถึงขนาดนี้ก็ขอโทษไปตามตรงเลยดีกว่าครับ
ลูกผู้ชายทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ต่อยผิดคนก็ต้องขอโทษ
“พี่วี จอนโกรธพี่วีไม่ลงหรอก รักจะตาย
แกล้งแอคติ้งไปงั้นแหละ5555555555555 โอ้ยยยย!!!”
จองกุกร้องเสียหลงเพราะจู่ๆ คนน่ารักก็หยิบยามาทาแผลที่มุมปากโดยไม่ทันตั้งตัว
“ไหนอ่ะ ไอ่เด็กที่ปากดีไปไหนแล้วล่ะ ฮี่ๆ” แทฮยองยิ้มเยาะเย้ย
“โห พี่วีเล่นแปะยาป้าบมาแบบนี้ ก็แสบดิ”
“สมน้ำหน้า ก็นายชอบเถียงพี่ดีนัก แบร่ๆ” ร่างบางแลบลิ้นใส่อีกคน
“เห้ย พี่วีไม่สบายตรงไหน ทำไมพูดจาน่ารักกับจอนจังเลยอ้ะ”
ร่างสูงถามด้วยความแปลกใจ ก็ปกติฉันกับแกใส่เขาตลอด
ไม่รู้ว่านี่อารมณ์ไหนมาเรียกแทนว่า พี่กับนาย แถมยังท่าทางน่ารักนั้นอีก
“กะ ก็พูดจาดีด้วยเป็นการไถ่โทษที่พี่ลืมนายล่ะกัน”
“พูดแบบนี้ไปตลอดเลยนะพี่วี น่ารักจอนชอบ ชอบพี่วีอ่ะ5555555555555555 โอ้ยยยยยยยยยย!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆ เป็นไง ขำดีนัก” แทฮยองหัวเราะที่ทำให้ร่างสูงหยุดขำแล้วร้องเสียงหลงแทนเพราะเขาใส่ยาให้
ผมแกล้งแปะยาไปที่มุมปากเจ้าเด็กบ้านั่น โดยที่เขาไม่รู้ตัว
ก็มันกวนตีนผมดีนัก แกล้งกลับซะเลยครับ
“พี่วีแกล้งจอนหรอ เดี๋ยวจะโดนนะจ้ะ” ร่างสูงรวบข้อมืออีกคนที่หัวเราะอยู่
“ปล่อยพี่นะ”
“ไม่ปล่อย จนกว่าจะบอกว่าไอ่คนที่มันมาทำให้พี่ร้องไห้
มันเป็นใคร?”
จองกุกถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
ที่จริงเขาปีนขึ้นมาเห็นเหตุการณ์ตอนที่ร่างบางกำลังยื่นมีดคัตเตอร์ขู่ไอ่ผู้ชายไหล่กว้างปากห้อยคนนั้นพอดี
ตอนแรกจะเข้าไปช่วย แต่ดันได้ยินที่เจ้าหมอนั่นพูดซะก่อน
บทสนทนามันดูเหมือนไม่ใช่คนรู้จักกันธรรมดา ทว่ามันคล้ายคนรักเก่า
เลยไม่อยากเข้าไปแทรก ขอเก็บข้อมูลอยู่ข้างนอกเงียบแล้วรอถามจากคนน่ารักเองดีกว่า
“นี่นายแอบฟังหรอ นายมาตั้งแต่ตอนไหนน่ะ” ร่างบางตกใจไม่คิดว่าจะมีใครมาเห็นเหตุการณ์นั่น
“ผมปืนมาเห็นตอนเขาออกไปแล้วพี่ก็ร้องไห้น่ะ ก็แค่นั้น
บอกผมมามันทำอะไรพี่ ผมจะไปจัดการ” มือหนาเปลี่ยนจากจับข้อมือเป็นจับมือเรียวของอีกคนไว้แทน
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนเก่าน่ะ ทะเลาะกันนิดหน่อย”
ผมก็โกหกไปแบบนั้น
เพราะไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องอดีตอันเลวร้ายของผมและครอบครัว
“เพื่อนหรอ... แต่ผมได้ยินพี่วีเรียกเขาว่าพี่อ่ะ” จองกุกถามย้ำ
“เพื่อนรุ่นพี่น่ะ นี่นายยังเจ็บแผลอยู่อีกรึเปล่า?” ร่างบางพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“ผมไม่เจ็บแล้ว พี่วีนั่นแหละเจ็บตารึเปล่า บวมสองข้างเลยน่ะ”
ร่างสูงพูดก่อนจะใช้มือหนาเชยคางอีกคนแล้วโน้มหน้าไปใกล้ๆ
“เห้ย จะทำอะไรน่ะ”
“ผมจะดูตาพี่วีเฉยๆ พี่คิดทะลึ่งเหรอ?” จองกุกเลิกคิ้วถาม
“เด็กบ้า ทำแผลเสร็จ หมดธุระก็กลับไปได้แล้ว พี่จะพักผ่อน”
ผมพูดจบก็ลุกขึ้นเอากล่องปฐมพยาบาลไปเก็บ
ผมเหนื่อยและอยากจะพักผ่อนเต็มที ทั้งวันนี้มีแต่คนมาวุ่นวายให้เหนื่อยใจ
“จอนกลับไม่ได้อ่ะ ปีนขึ้นได้ แต่ลงไม่ได้อ่ะพี่วี
ขอนอนด้วยคืนนึงนะครับ นะๆๆๆๆๆๆ” ร่างสูงทำตาแป๋วอ้อนวอน
เจ้าเด็กบ้านี่มองผมด้วยดวงตากลมโตนั่น อ่า.. น่าเอ็นดูจังเลยแหะ...
“ก็กระโดดลงไปดิ” แทฮยองเสนอ
“โหยพี่วีอยากมีแฟนพิการเหรอ ใจร้ายจุงเบย
จอนปวดใจ ฮืออออออออออ” จองกุกแกล้งแอคติ้งดราม่า
“เดี๋ยวพี่ลงไปเปิดประตูบ้านให้แล้วนายก็ลงไป”
“ยังไงตอนเช้าจอนก็ต้องไปส่งพี่วีอยู่ดีอ่ะ ขอนอนนี่ด้วยเลยนะ
อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว” จองกุกพยายามหาเหตุผลชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้อนวอน
“ไม่ได้ นายต้องกลับบ้านไปเดี๋ยวนี้” แทฮยองยืนยันเสียงแข็ง
“พี่วีจ๋า จอนสัญญาเลยว่าจะไม่ทำอะไร
ถึงทำอะไรพี่วีก็กระทืบจอนตายคาตีนพี่อยู่ดีอ่ะ นะๆๆ ขี้เกียจขี่รถไปมา
เราต้องช่วยกันประหยัดน้ำมันนะพี่วีจ๋า” ร่างสูงกอดแขนร่างบางแล้วเอาหัวถู
“อี๋ ปล่อย คิดว่าน่ารักมากหรอ ทำแบบนี้น่ะ”
ไอ่เจ้าเด็กบ้านี่มาอ้อนแบบนี้มันก็น่ารักดีนะ
ยังกับเด็กอ้อนอยากกินขนม ทำให้ผมนึกถึงน้องชายผมเลย
“นะครับ นะพี่วีจ๋า ให้จอนค้างด้วยคืนนึงนะ นอนพื้นก็ได้” พูดแล้วจ้องตาอีกคน กระพริบตาถี่ๆ
“นายพูดเองนะจอนว่าจะนอนพื้น” แทฮยองถามย้ำ
“เอ่อ.. นอนพื้นก็ได้ ให้นอนนะพี่วี จอนง่วงแล้วขี่รถไม่ไหว”
พูดแล้วแกล้วหาว
“อืมๆ ให้นอนด้วยได้ แค่คืนนี้คืนเดียวนะไอ่เด็กบ้า”
ร่างบางตอบอนุญาตก่อนจะลุกไปอาบน้ำ
ครั้งนี้เขาไม่ลืมที่จะหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัวข้างในห้องน้ำด้วย
จองกุกยิ้มปริ่มที่คนน่ารักยอมให้เขาค้างด้วย
จะว่าไปก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าคนน่ารักอาจจะเริ่มใจอ่อนให้แล้วรึเปล่า
เพราะทั้งเปลี่ยนสรรพนามการเรียกแล้วยังพูดจาดีๆด้วย อีกทั้งยังยอมให้ค้างที่บ้าน
พี่วีต้องเริ่มมีใจให้จอนแล้วแน่ๆ อิ้อิ้ แบบนี้มีกำลังใจจีบต่อแล้วจ้า5555555555555555555555
ถึงจะดีใจขนาดไหน แต่ก็ยังคาใจ
เกิดคำถามมากมายว่าคนที่เข้ามาทำให้คนน่ารักของเขาต้องเสียน้ำตามันเป็นใคร
เกี่ยวข้องอะไรกับร่างบางกันแน่
จอนจะต้องรู้ให้ได้เลยว่าไอ่ไหล่กว้างนั่นมันเป็นใคร
มันเคยเกี่ยวข้องกับพี่วียังไง แล้วเจ้าฮยองวอนอะไรนั่นด้วย
จอนจะไม่ให้ใครมาทำให้พี่วีของจอนเสียใจเป็นอันขาด
20 นาทีผ่านไป
“นายไปอาบน้ำดิ”
ทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำ
แทฮยองก็หยิบผ้าขนหนูผืนใหม่ในตู้แล้วโยนให้อีกคนที่นอนอยู่บนเตียงนอนของเขา
ไอ่เด็กบ้านี่มันนอนยังกับว่านี่เป็นห้องของมันเลยครับ
จะสบายเกินไปแล้ว!!!
“จอน จอง กุก ไป
อาบ น้ำ” ร่างบางพูดทีละใส่อีกคนเพื่อปลุกให้ตื่น
“.....”
“นี่หลับจริงหรือว่าแอคติ้งกันเนี่ย ลุกไปอาบน้ำ”
แทฮยองสะกิดตัวร่างสูงเบาๆ
“....”
“ย๊า!!! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ”
ร่างบางตะโกนใส่
“อืม...” ร่างสูงพลิกตัวแล้วเอาหน้าซุกหมอน
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะไอ่เด็กบ้า!!! เห้ย!!!”
ผมพยายามจะดึงเขาไปอาบน้ำ
แต่เจ้าเด็กนี้มันกลับดึงตัวผมจนเซลงไปทับตัวมันแทน ให้ตายสิครับ
ผมว่าผมคิดผิดที่ยอมให้มันมาค้างที่บ้านจริงๆ
“พี่วี จอนเป็นห่วงพี่วีนะ”ร่างสูงพูดพลางสบตาอีกคนที่อยู่บนตัวเขา
“เออ ถ้าห่วงพี่ก็ช่วยปล่อยพี่เพราะตอนนี้พี่รู้สึกไม่ปลอดภัย”
ก็เจ้าเด็กบ้านี่มันเล่นกอดเอวผมไว้แน่นเลยครับ ร่างผมอยู่บนตัวมันโดยที่หน้าห่างกันคืบเดียวเนี่ย
อ่า... ทำไมผมรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าจัง
“พี่วียอมให้ผมค้างที่นี่ก็แสดงว่าพี่เชื่อใจผมใช่ไหมล่ะ
พี่วางใจเถอะผมไม่ปล้ำพี่หรอก ผมแค่อยากกอดพี่เฉยๆ ก็เท่านั้นเอง” พูดพลางสบตาอีกคน
“เอ่อ.. อือ” แทฮยองเบือนหน้าหนีหลบสายตาคนตรงหน้า
“พี่วีเขินหรอ หลบตาแบบนี้แสดงว่าแอบหวั่นไหวกับจอนใช่ป่ะ55555555555555555555555555555555555555”
“เขินบ้าเขินบออะไร
พี่รังเกียจเด็กสกปรกไม่ยอมอาบน้ำต่างหาก”
“แหนะๆ เขินก็บอกว่าเขิน อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องนะจ้ะ555555555555555555555555555555”
ร่างสูงแซวคนน่ารักที่ตอนนี้แก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงไปแล้ว
“ก็บอกว่าไม่ได้เขินไง!!!” แทฮยองหันหน้ากลับมาจ้องตาอีกคน
“ถึงผิวพี่จะคล้ำแต่มันก็ยังดูออกนะว่าหน้าพี่อ่ะแดง555555555555555555555555555555555555555”
“อยากโดนอีกสักหมัดรึไง” ร่างบางขู่
“เปลี่ยนจากมือเป็นปากพี่วีต่อยมาที่แก้มจอนอ่ะ
จะยินยอมให้ต่อยอีกหลายๆ ทีเลยจ้ะ”
“อย่ามาทะลึ่งนะ ถ้าอยากนอนที่นี่ก็ปล่อยฉันแล้วก็ลุกอาบน้ำ
ก่อนที่ฉันจะโมโหไปมากกว่านี้” ร่างบางยื่นคำขาด
“ถึงกับเปลี่ยนสรรพนาม ความดุแปรผันตรงกับความน่ารักหรอเนี่ยพี่”
ร่างสูงบ่น
“ถ้าอยากให้พูดดีๆ ก็อย่าดื้อ!! แล้วนายก็ต้องเชื่อฟังพี่ เข้าใจไหม?!”
จะว่าไป จอนจองกุกนี่ก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของผมเลยครับ
ต่างก็ตรงนิสัยนี่แหละ น้องผมน่ะเรียบร้อย
ไม่ดื้อ ไม่เถียง ผมเลยรักและเอ็นดูเขามากๆ
ถ้าจองกุกได้นิสัยแบบน้องชายผมมาสักนิดก็คงจะดี
“จอนทั้งรักทั้งเชื่อฟังเลยจ้ะ พี่วีจ๋า
งั้นจอนไปอาบน้ำก่อนนะ”
โอ้โห!! ขุ่นพระ!! ยังกับมันได้ยินความคิดในหัวผมครับ ว่านอนสอนง่ายทันตาเห็น
ร่างสูงปล่อยตัวคนน่ารักและดันตัวเองขึ้นจากเตียง
มือหนาหยิบไอพอดทัชสีแดงแล้วกดสองสามที
จากนั้นหยิบหูฟังใส่ให้ร่างบางที่นั่งอยู่บนเตียง
ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
เจ้าเด็กนี่มันอารมณ์ไหน อยากให้ผมฟังเพลงก็บอกดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องยัดใส่หูขนาดนี้
กวนประสาทแล้วยังเอาแต่ใจชะมัด
ก็เป็นคนธรรมดาไม่พิเศษ
ก็เป็นคนที่เดินดินอย่างคนทั่วไป
ไม่ได้ดีเกินกว่าคนไหน มีแค่ใจดวงเดียวให้เธอ
ก็เป็นเพียงคนๆ หนึ่ง ไม่เลิศเลอ
แค่บังเอิญมาเจอเธอแต่ไม่รู้ทำไม
ยิ่งใกล้กันก็ยิ่งหวั่นไหว
อยากค้นใจเธอดูสักครั้ง
หากบังเอิญถ้าเธอต้องการใคร
หากวันใดที่เธอนั้นอ่อนแอ
เจ้าเด็กนี่ฟังเพลงไม่เหมาะกับนิสัยเลยนะเนี่ย ตอนแรกคิดว่าพวกเด็กแว๊นซ์จะฟังสกาเร็กเก้
เพลงร็อคอะไรประมาณนี้ซะอีก ผมเอนตัวลงนอนเพื่อจะได้
ตั้งใจฟังเพลงจากไอพอดทัชสีแดงของจองกุก
หากว่าเธอยังลังเลไม่แน่ใจ
ก็ปล่อยให้มันเป็นไป ให้ตัวฉันได้พิสูจน์
ว่ารักเธอมากสักแค่ไหน โปรดไว้ใจฉันดูสักครั้ง
หากบังเอิญถ้าเธอต้องการใคร
หากวันใดที่เธอนั้นอ่อนแอ
ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่ผมเผลอยิ้มไปกับเพลงที่ได้ฟังโดยไม่รู้ตัว
เจ้าเด็กนี่ตั้งใจให้เพลงนี้กับผมเหรอเนี่ย จะว่าไปถ้าไม่นับเรื่องกวนตีนและปากหมา
จอนจองกุกเขาก็น่ารักดีนะครับ ผมตั้งใจฟังเพลงต่อจนมาถึงท่อนสุดท้าย
ให้ฉันดูแลเธอรักเธอได้ไหม
ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอเมื่อเธอเหงาใจ
ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน
จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี
“เด็กน้อยอย่างนายจะมาดูแลพี่ได้เหรอ...” ร่างบางพูดแล้วส่ายหัวเบาๆ
เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่จะมาดูแลผมเนี่ยนะ
เรียนก็แค่ม.ปลายจะมาดูแลนักศึกษามหาลัยได้ยังไง คิดแล้วก็ขำ
คนเป็นพี่สิต้องดูแลน้องถึงจะถูก เฮ้อ...
“นอนดีกว่า”
แทฮยองพูดกับตัวเอง เขาตั้งใจจะนอนหลับไป
เพราะไม่อยากที่จะนึกถึงเรื่องในอดีตอีก ไม่อยากที่จะต้องร้องไห้อีกแล้ว
ไม่อยากผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคนสำคัญ
ขอบคุณนะไอ่เด็กบ้า ขอบคุณที่ทำให้พี่หยุดร้องไห้
ขอบคุณที่เข้ามาในช่วงเวลาที่พี่ต้องการใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน
ขอบคุณสำหรับเพลงของนายนะ จอนจองกุก
ดวงตาคู่สวยๆ ค่อยปิดลง
ไม่นานจองกุกก็ออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูผูกเอวไว้
ก็คนน่ารักให้ผ้าเช็ดตัวแต่ลืมให้เสื้อผ้าที่จะใส่นอนมาด้วยนี่สิ
“พี่วี... อ่า.. หลับซะแล้วหรอ” จองกุกเดินไปใกล้ๆคนน่ารักที่นอนหลับอยู่บนเตียง
“อื้อ...” แทฮยองงัวเงีย
“พี่วีนอนเถอะ หลับฝันดีนะ” ร่างสูงลูบหัวอีกคนก่อนจะดึงผ้ามาห่มให้
“งื้ม....” แทฮยองนอนซุกผ้าห่มแล้วหลับไป
“โอ้ยยยยยยย ขนาดหลับยังน่ารัก
น่ากิน...”
อยู่กันสองคนแบบนี้ มันยากเกินจะอดใจไหว ร่างสูงค่อยๆ โน้มตัวลง
ริมฝีปากประทับลงไปที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไล่จูบลงไปที่ปลายจมูก เลื่อนมายังแก้มนิ่ม
จนมาถึงปากบางรูปหัวใจนั่น
มือหนาเชยคางแหลมของคนที่หลับอยู่ ก่อนจะก้มลงประกบปากอีกครั้ง
ร่างสูงมอบจูบที่อ่อนหวานและนุ่มนวลให้ โดยที่ฝ่ายที่ถูกกระทำอยู่นั้น ตอนนี้ร่างกายก็ตอบสนอง
จูบตอบเขาเช่นกัน
จองกุกค่อยๆ ผละออกจากริมฝีปากบางนั่น
ก่อนจะพรมจูบไปยังซอกคอของอีกคน ทำรอยสีแดงเข้มลงไปบนผิวเนียนนั่น
“อื้อ....” แทฮยองร้องครางเบาๆ ในลำคอ
โดยที่ยังหลับอยู่
“พี่วี... นี่มันยั่วกันชัดๆ หึ่ย!!” ร่างสูงหยุดการกระทำก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดหาเสื้อผ้าในตู้ของเจ้าของห้องมาใส่นอน
ขืนทำมากกว่านี้มีหวังจะหยุดไม่ได้แน่ๆ
ร่างกายของพี่วีเล่นตอบรับสัมผัสของเขาขนาดนี้ แต่ถึงยังไงร่างบางก็หลับอยู่
ถ้าทำอะไรลงไปก็เท่ากับว่าฉวยโอกาส มีแต่จะทำให้โดนเกลียดแน่ๆ
หรือไม่ก็ตอนพี่วีตื่นมา คงกระทืบเขาตายคาตีน
หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จ จองกุกก็เดินกลับไปยังเตียงนอน ก่อนจะค่อยๆ
สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนที่หลับอยู่
แขนแกร่งดึงตัวร่างบางมาไว้ในอ้อมกอด
“งื้ม...ฮยองวอน” ร่างบางขยับหน้าซุกอกอีกคน
“ไอ่ฮยองวอนนี่มันเป็นใคร พี่วีละเมอถึงมันตลอดเลยอ่ะ”
“.....”
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากแทฮยอง
“โอ้ยยยยยยย จอนปวดใจหลายๆ มันจึ่ก อ่ะมันจึ่กกกก”
ผมทำได้แค่หงุดหงิดคนเดียวในใจครับ ก็พี่วีละเมอพูดชื่อมันตลอดจะให้ผมปลุกมาถามก็กระไรอยู่
วันนี้พี่วีเหนื่อยมามากพอแล้ว ผมควรให้พี่เขาได้นอนพักผ่อน
เรื่องอะไรที่คาใจก็ช่างมันเถอะครับ
“ราตรีสวัสดิ์นะพี่วี จอนรักพี่วีนะครับ” ร่างสูงพูดก่อนจะหลับตามอีกคนไป
อย่างน้อยก็ได้นอนกอดพี่เขา
จอนจองกุกจะยอมเป็นไอ่ฮยองวอนฮยองเวรอะไรนั่นให้พี่วีก็ได้ครับ
มีพี่วีอยู่ในอ้อมกอดของจอน แล้วนอนหลับไปพร้อมกันแบบนี้
ยังกับความฝันที่เป็นจริงครับ
.
.
.
.
.
“จองโฮซอก ปาร์คจิมิน นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะบริหาร คณะเดียวกับวีหรอ อืม...”
ซอกจินอ่านข้อมูลในแฟ้มที่ลูกน้องเอามาตั้งไว้ที่โต๊ะในห้องนอน
ก่อนจะเดินไปหยิบกรอบรูปตรงหัวเตียง รูปของเขาคนนั้นที่เขาเพิ่งไปหามาเมื่อตอนค่ำ
นิ้วชี้ลูบไปที่แก้มของคนน่ารักในรูปเบาๆ
ร้อยยิ้มรูปหัวใจนั่นกำลังยิ้มมาให้เขาที่เป็นคนถ่ายรูปๆนี้
“พี่จินคิดถึงน้องวีนะครับ” เขามองกรอบรูปด้วยแววตาเศร้า
ภายนอกอาจจะดูว่าคิมซอกจินคนนี้แข็งแกร่ง แต่ลึกๆ แล้ว
หัวใจของเขาอ่อนแอเหลือเกิน ตั้งแต่อดีตคนรักของเขาได้เดินออกไป
ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาเหมือนจะตาย เขารักน้องวีมาก
มากจนไม่อาจจะยอมปล่อยไปได้
“พี่รู้ว่าพี่สร้างบาดแผลไว้ในหัวใจของวี มันยากเกินจะให้อภัย
แต่ขอโอกาสให้พี่ได้รักษาแผลนั่นไม่ได้หรอครับ
พี่สัญญาด้วยชีวิตพี่ว่าจะไม่ทำให้วีต้องเสียใจอีก”
ร่างสูงพูดกับคนในกรอบรูปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“กลับมาหาพี่เถอะนะครับ ได้โปรดเถอะนะคนดี กลับมาทำคืนวันของให้มีความสุขเหมือนเมื่อก่อนไง”
ดวงตาของร่างสูงเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
ใครจะรู้ว่าผู้ชายไหล่กว้างแข็งแรงอย่างเขา กลับมาร้องไห้คนเดียวทุกคืน
เพียงเพราะความคิดถึง
“วีจำตอนที่เราไปทะเลด้วยกันได้ไหม ตอนนั้นพี่มีความสุขมากเลยนะครับ”
น้ำไหลออกจากดวงตา ซอกจินใช้มือเช็ดน้ำตาที่กรอบรูปนั่น ก่อนจะยิ้มบาง
.
.
.
.
.
ซ่า... ซ่า...
เสียงคลื่นกระทบฝั่ง
“ว้าววววว ทะเลสวยจังเลยพี่จิน” ร่างบางยิ้มกว้าง
“ทะเลสวยแบบนี้ไม่คิดจะลงไปเล่นน้ำหน่อยเหรอวี?” ร่างสูงเอ่ยถามคนที่เกาะหลังเขาแน่น
“ไม่เอาอ่ะ ผมไม่อยากให้เท้าเลอะน้ำ
พี่จินเดินลงไปให้เท้าพี่โดนน้ำสิครับ”
“ชอบทะเล แล้วทำไมไม่ลงไปเอง หื้ม”
ซอกจินบ่นแต่ก็ทำตามคำบอกของคนน่ารักแต่โดยดี
เขาเดินลงไปจนถึงระยะที่คลื่นซัดน้ำทะเลมาโดนเท้า
“ฮ่าๆๆๆ พี่จินโดนน้ำก็เหมือนผมโดนด้วยนั่นแหละ
ก็ตอนนี้ผมขี่หลังพี่อยู่ไง”
“เรานี่นะ แปลกคนจริงๆ เด็กบ๊องเอ้ย” พูดพลางส่ายหัวเบาๆ ให้กับความคิดของอีกคน
“ฮ่าๆๆ ไว้คราวหน้าพาผมมาอีกนะ พาฮยองวอนมาด้วยนะพี่จิน
นะครับ นะๆ” ร่างบางอ้อนพลางเอาคางเกยไหล่กว้าง
“ได้ครับได้ คนดีอยากไปไหน อยากได้อะไรขอแค่เอ่ยมา
พี่ยินดีทำให้ถ้ามันทำให้วีมีความสุข”
“พี่จินตามใจผมจนเสียคนหมดแล้วเนี่ย แต่ก็ดีครับ55555555555555555555555555555”
แทฮยองพูดก่อนจะหัวเราะลั่น
.
.
.
.
.
ก๊อกๆ
“คุณหนูครับ ผมเองครับ”
ร่างสูงเช็ดคราบน้ำตาก่อนจะวางกรอบรูปกลับไว้ที่เดิม
ทุกคืนเขาจะดูรูปของแทฮยองแล้วคิดถึงเรื่องราวความสุขในอดีต ภาพวันเก่าๆ
ความทรงจำที่เขามีร่วมกับคนน่ารักอย่างนี้เป็นประจำจนกลายเป็นกิจวัตรของเขาไปแล้ว
“เข้ามาได้”
ประตูถูกเปิดโดยลูกน้องของเขา
นัมจุนเดินมาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลในมือ
เขายื่นมันให้ร่างสูงก่อนจะรายงานความคืบหน้าของสิ่งที่ซอกจินสั่งให้เขาไปทำ
“เอกสารโฉนดบ้านและที่ดิน พร้อมเอกสารสัญญาเซ้งกิจการร้านเบเกอรรี่แถวตลาดบางท่านที่คุณหนูต้องการครับ”
“ขอบคุณมาก แล้วเจ้าของคนเก่าว่าไงบ้าง” ซอกจินรับเอกสารมาเปิดอ่าน
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะจำนวนเงินที่คุณหนูเสนอให้
เขาเลยยินดียกกิจการให้เราแต่โดยดีครับ”
“อืม ทำงานดีมาก ขอบคุณนะนัมจุน ดึกแล้วนายก็ไปพักผ่อนเถอะ”
“แล้วพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปดูความเรียบร้อยรึเปล่าครับ
ผมจะได้เตรียมรถให้คุณหนู” นัมจุนเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไร ฉันขับรถไปเองได้ ขอบใจนะ” ร่างสูงตอบ
“แต่...”
“ฉันไปเองได้ นายไปเช็คว่านอกจากเพื่อนสองคนนี้ยังมีใครมายุ่งกับน้องวีอีกรึเปล่า
ถ้ามีก็เอาประวัติมันมาให้ฉันได้ เข้าใจไหม” ซอกจินสั่งก่อนยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ให้อีกคนออกไปจากห้อง
“ครับคุณหนู เอ่อ.. ฝันดีนะครับ”
นัมจุนโค้งเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป
เหลือเพียงร่างสูงที่นั่งเช็คเอกสารบนโต๊ะทำงาน
เขาได้ซื้อกิจการร้านเบอเกอรี่แถวบ้านของแทฮยอง
เขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้แทฮยองมากขึ้น
ต่อให้คนน่ารักจะหนีเขาไปแสนไกลแค่ไหน คิมซอกจินคนนี้ก็จะตามไป
วีขอให้พี่ปล่อยวีไป ขอให้เรากลายเป็นคนไม่รู้จักกัน
เรื่องราวในอดีตที่พี่ทำมันเลวร้ายเกินจะให้อภัย พี่เข้าใจที่วีผลักไสพี่
พี่เข้าใจแต่พี่คงทำให้วีไม่ได้จริงๆ ไม่มีใครรักและดูแลวีได้เท่าพี่อีกแล้ว
พี่จะทำทุกอย่างให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม
.
.
.
.
.
แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องผ่านเข้ามาภายในห้อง
ทำให้ร่างบางที่นอนออยู่นั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมารับรุ่งอรุณของวันใหม่
“อื้อ... เช้าแล้วหรอเนี่ย”
ดวงตาของผมเปิดกว้าง
ภาพแรกที่ผมเห็นคือหน้าของเจ้าเด็กแว๊นซ์จอนจองกุกในระยะประชิดจนปลายจมูกของเราสองคนแตะกัน
“นี่ต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ” ร่างบางกระพริบตาถี่
ไม่ใช่ฝันหรอกเหรอ นี่คือความจริงที่จองกุกมานอนร่วมเตียงเดียวกับผม
ก็เหี้ยแล้วครับ ไหนมันบอกจะนอนที่พื้นไง แล้วผมหลับไปตอนไหนเนี่ย ทำไมจำไม่ได้เลย
เจ้าเด็กบ้านี่มันทำอะไรผมรึเปล่าครับเนี่ย คิมแทฮยองคนนี้อยากจะบ้าตาย!!
“อื้ม... พี่วี” คนตรงหน้าพูดในลำคอ
ดวงตาของเขายังปิดอยู่
“ละเมอเหรอเนี่ย” แทฮยองพูดเสียงเบาเกรงว่าจะทำให้คนตรงหน้าตื่น
เพราะหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมากเกินไป
ทำให้ผมเห็นหน้าของเจ้าเด็กบ้าคนนี้ได้ชัดเจน จมูกโด่ง ปากแดงตัดกับแก้มสีขาวนั่น
ใบหน้าที่ดูดื้อรั้น ทุกสัดส่วนบนใบหน้าเมื่อรวมกันแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
จองกุกเขาหล่อและดูดีมากเลยครับ
ตึกๆ ตึกๆ ...
เสียงหัวใจผมมันจะเต้นดังเกินไปแล้ว
เดี๋ยวเจ้าเด็กนี่ได้ยินก็เข้าใจผิดคิดว่าผมหวั่นไหวกับมันพอดี บ้าจริง!
เปลือกตาของร่างสูงค่อยๆเปิดขึ้นจนสบตากับคนตรงหน้า
ดวงตาของทั้งสองประสานกัน ต่างฝ่ายตางจ้องมองกันก่อนที่จะมีใครคนนึงเอ่ยคำพูดออกมา
“อรุณสวัสดิ์จ้ะพี่วีจ๋า” ร่างสูงพูดพลางจะยื่นหน้าเข้ามาแล้วทำปากจู๋
“ไอ้บ้า” แทฮยองพูดพลางใช้มือมาดันหน้าอีกคนออกไป
ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“อดมอนิ่งคิสเลยไอ้จอนเอ้ย ไม่เป็นไรโอกาสหน้ายังมี” ร่างสูงยิ้มกับตัวเองก่อนจะพลิกตัวแล้วนอนต่อ
“ไอ้เด็กนี่เผลอไม่ได้เลย หึ่ย!!”
ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะหยิบยาสีฟันมาบีบใส่แปรงแล้วเอาเข้าปาก
ทันทีที่ผมเห็นตัวเองในกระจกก็ถึงกับอุทานว่า
“เหี้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”
ไม่ได้ตกใจในความหล่อทะลุมิติของตัวเองนะครับ
แต่ตกใจกับรอยสีแดงที่คอของผมนี่ต่างหาก ผู้ต้องสงสัยมีเพียงหนึ่งเดียวครับ
ไอ้เด็กแว๊นซ์นอกห้องน้ำนั่น มันคนเดียว รอพี่เดี๋ยวนะ
อาบน้ำเสร็จจะออกไปกระทืบให้ฟับหน้ายุบเลย!!
ระหว่างที่รอร่างบางอาบน้ำอยู่นั้น
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาและช่วยชาติประหยัดน้ำ
ผมจึงเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดที่ตัวเก่งที่ใส่มาหาพี่วีเมื่อคืน
แล้วนั่งเล่นรอพี่วีบนเตียง ไม่นานนักพี่เขาก็ออกมาในชุดนักศึกษาด้วยสีหน้าจริงจัง
พร้อมกับเดินพุ่งตรงมายังผม
“ไอ้เด็กเวร!! เมื่อคืนนายทำอะไร?!” ร่างบางตะคอกใส่
“เอ่อ พี่วีหมายถึงอะไรหรอจ้ะ จอนไม่เข้าใจ” พูดพลางเสมองไปทางอื่น
ซวยแล้วจอน พี่วีต้องเห็นรอยที่พลาดไปทำไว้เมื่อคืนแน่เลย
งานเข้าจริงจังจะโดนตีนอีกแล้ว โอ้ยยยยยยย คิดแล้วก็ปวดม้ามลามไปไส้ติ่ง
“ก็รอยทุเรศที่คอพี่นี่ไง นายกล้าลักหลับพี่เหรอ?!” ร่างบางกระชากคอเสื้อของคนที่นั่งอยู่บนเตียง
“เอ่อ จอนขอโทษ ก็อารมณ์มันพาไป เจอเผลอไปนิดเดียวเองจริงๆนะ”
พูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“รอยชัดขนาดนี้ยังจะมาบอกว่าเผลอ
ถ้าตั้งใจนายไม่เอาฟันจอบมากัดขอพี่เลยรึไงว้ะ”
โอ้ยยยยยยยย แม่จ๋าพี่วีด่าจอนฟันจอบ
เจ็บกว่าเอาตีนเหยียบหน้าจอนอีก!!
“จอนขอโทษนะพี่วีจ๋า ใจเย็นก่อนนะ โกรธคือโง่โมโหคือบ้านะจ้ะพี่วี” จองกุกออดอ้อนทำตาแป๋ว
“หึ่ย!! ต่อไปอย่ามาทำรุ่มร่ามกับพี่อีก
ไม่งั้นจะกระทืบแม่งให้ตายคาตีน” ร่างบางพูดก่อนจะเดินไปหยิบฮู้ดสีเทาในตู้เสื้อผ้ามาสวมทับ
มือเรียวหยิบหมวกฮู้ดมาสวมหัว
รอดแล้วเว้ยจอนรอดแล้ว นี่ขนาดไม่ใช่แฟนยังโหดขนาดนี้
ถ้าเป็นแฟนนี่ไม่ยิ่งกว่านี้เหรอ ตอนนี้คำว่ากลัวเมียเขียนอยู่ตรงหน้าผากแล้วครับ
ผมโมโหเจ้าเด็กบ้านั่นนะครับ แต่กระทืบมันไปก็เหนื่อยเปล่า ไหนๆ
น้องมันก็ขอโทษแล้ว ก็ปล่อยมันไปสักครั้งนึง
ไม่อยากจะทะเลาะกับใครให้อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้าด้วย เดี๋ยวจะพลอยเจอแต่เรื่องแย่ไปทั้งวัน
“วันนี้พี่วีเลิกเรียนกี่โมงอ่ะ?” จองกุกถาม
หลังจากที่ร่างบางก้าวขาลงจากรถมอเตอไซค์คันเก่งของเขา
“บ่ายสามครึ่ง นายไม่ต้องมารับหรอก พี่กลับเองได้” ร่างบางพูดพลางยื่นหมวกกันน็อคคืนให้
“ไม่ได้! จอนจะมารับ ห้ามเบี้ยวจอนอีกนะ
วันนี้จอนมีธุระ พี่วีต้องไปกับจอน”
“เด็กแว๊นซ์อย่างนายมีธุระด้วยเหรอ แล้วทำไมพี่ต้องไปด้วยอ่ะ?”
“เอาหน่า เอาเป็นว่าถึงเวลาพี่วีก็จะรู้เอง ห้ามหนี
ห้ามเบี้ยวให้จอนเจ็บหัวใจอีกนะ โดนพี่วีลืมบ่อยตอนนี้หัวใจจอนมันอ่อนแอ” ร่างสูงพูดก่อนจะทำหน้างอ ก็คนน่ารักเล่นปล่อยทิ้งให้เขารอเก้อมาสองวัน
“อื้อๆ ไม่ลืม ขอบใจนะที่มาส่ง นายกลับบ้านได้แล้วไป” แทฮยองไล่
“พี่วีจ้ะ ก่อนจะไป จอนมีอะไรจะบอก” ร่างสูงพูดรั้ง
“อะไรของนายอีกว้ะเนี่ย” พูดพลางมองหน้าด้วยความสงสัย
“ดูแลตัวเอง แล้วก็ยิ้มเยอะๆนะพี่วี ถ้าว่างก็คิดถึงจอนบ้างนะ จุ้บๆ”จองกุกพูดก่อนจะทำปากจู๋ให้คนตรงหน้า
“อื้อ” แทฮยองตอบรับสั้นๆ
ก่อนจะกลับหันหลังแล้วเดินเข้ามหาลัยไป
“เด็กน้อยเอ้ย มาจงมาจุ้บ คิดว่าน่ารักมากมั้ง”
ผมพูดกับตัวเองพลางเดินเข้าไปหาที่รอเพื่อนของผมอีกสองคนในมหาลัย
ตอนนี้ผมเริ่มจะชินกับการที่เจ้าเด็กแว๊นซ์นี่มาคอยป่วยชีวิตผมแล้วล่ะครับ ไม่นับที่ชอบทำให้ผมโมโห
จองกุกเขาก็ทำให้ผมไม่เหงาและจมอยู่กับความเศร้า ก็ดีเหมือนกันครับ
“แทแท อารมณ์ดีอะไรมาน่ะ ยิ้มอยู่คนเดียว”
โฮซอกเอ่ยทักแทฮยองที่กำลังยิ้มอยู่คนเดียว
อันที่จริงเขาเห็นตั้งแต่ร่างบางลงจากรถมอเตอไซค์ของใครสักคนหน้ามหาวิทยาลัย
แต่เพราะคนขับใส่หมวกกันน็อคแบบปิดหน้า จึงทำให้เขาไม่สามารถเห็นหน้าของคนที่มาส่งเพื่อนคนน่ารักของเขาได้
“ยิ้มอะไร ฉันเปล่าสักหน่อย” แทฮยองรีบปฏิเสธ
ผมจะไปยิ้มเพราะคิดถึงเรื่องเจ้าเด็กแว๊นซ์ได้ไงกันล่ะ
“ก็ฉันเห็นแทแทยิ้มอยู่นี่นา” พูดพลางเอามือจิ้มแก้มนิ่ม
“ฉันก็อารมณ์ดีที่.. ที่.... ที่จิมินไม่มาสายไง
ดูนั่นสิโฮซอก” ร่างบางชี้ให้อีกคนหันไปดูตรงประตูทางเข้ามหาลัย
“เห้ย วันนี้หิมะต้องตก ภูเขาไฟระเบิด น้ำป่าไหลหลาก
ภัยพิบัติต้องบังเกิดแน่เลยเพราะไอ้เตี้ยมาเช้า”
“นินทาอะไรไอ้หน้ายาว กูมาเช้าผิดตรงไหน” จิมินถามทันที่ที่เดินมาถึงตรงหน้าเพื่อนทั้งสองคน
“ไม่ผิด แต่แปลก
กูเป็นเพื่อนมึงมาหกปีจนจะเข้าปีที่เจ็ดแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่มึงมาเรียนก่อนเวลา”
โฮซอกตอบ
“คนเรามันต้องปรับปรุงตัวบ้างไงมึง
กูแค่เปลี่ยนไปในทางที่ดีให้เหมือนหน้าตา55555555555555555555555”
“ฮ่าๆๆๆ ดีแล้วล่ะจิมิน ต่อไปก็มาเช้าแบบนี้อีกนะ”
แทฮยองตบบ่าจิมินเบาๆ
“อุต๊ะ อ่ะจร่ะบะฮรึ่ย! นี่แอบแต๊ะอั๋งเราเหรอแทฮยอง
จับแบบนี้บอกพ่อแม่มาสู่ขอเราไปเป็นลูกเขยเลยนะ5555555555555555555555”
“ให้มันน้อยๆหน่อยไอ้เหี้ยเตี้ย แทแทเขาไปโดนตัวมึง
กูนี่ต้องรีบพาแทแทไปล้างมือ” โฮซอกพูดพลางดึงตัวร่างบางออกห่าง
“แค่นี้ทำเป็นรังเกียจกูนะไอ้หน้าม้า
ทีเมื่อก่อนตอนมึงไปค้างที่หอกู มึงยังนอนกอดกูอยู่เลย” พูดพลางเอาแขนกอดตัวเอง
“ไอ้หมู มึงอย่าพูดให้แทแทเข้าใจผิด กูแค่นอนเกาะมึงไว้ก็เตียงห้องมึงมันเล็ก
กูกลัวตกเตียง” โฮซอกรีบแก้ตัว
“มึงตัวใหญ่เองไอ้เจโฮป เตียงกูมันทำมาพอดีกับตัวกูแล้ว”
“ฮ่าๆๆ พวกนายเคยนอนด้วยกันหรอ เอ่อ ฉันหมายถึงไปนอนค้างน่ะ”
แทฮยองถาม
“อื้ม บ่อยเลยล่ะแทฮยอง เพื่อนกันนอนด้วยกันก็ปกติ
แต่ถ้าเป็นคนอื่นมานอนด้วยนี่ก็ไม่ปกติ” จิมินตอบ
“เหมือนเวลาที่มึงพาเด็กๆของมึงไปนอนค้างใช่ไหมไอ่เตี้ย
ควงคู่ขาขึ้นห้องไม่ซ้ำหน้า”
“ไอ้หน้ายาวมึงนี่ชอบขายกูให้อับอายต่อหน้าแทฮยอง
เดี๋ยวแทฮยองเข้าใจว่ากูเป็นคนเจ้าชู้พอดี” ร่างเล็กส่ายหัว
“เอ่อ ถ้าให้คนอื่นที่ไม่ใช้เพื่อน
ไปนอนด้วยนี่มันผิดปกติยังไงเหรอจิมิน” แทฮยองถามต่อ
“ก็นอกจากเพื่อน
ถ้าไปนอนค้างบ้านกันก็ต้องเป็นแฟนหรือไม่ก็กิ๊กไงแทฮยอง5555555555555555555555555555555555555”
พูดแล้วทำสีหน้าเจ้าเล่ห์
“แทแทถามทำไมอ่ะ มีอะไรรึเปล่า? เอ๊ะ...
หรือแอบให้ใครนอนค้างด้วยน่ะ” โฮซอกแกล้งถาม
“เห้ย!!!!!!!!!ไม่มีนะ เปล่านะ
ไม่ได้ให้ใครไปนอนค้างด้วยจริงๆนะ” ร่างบางรีบปฏิเสธ
“เอ่อ ไม่เห็นต้องตกใจเลยแทแท” โฮซอกลูบหัวคนน่ารัก
ทำไมต้องรีบปฏิเสธขนาดนั้น หรือจะแอบพาใครขึ้นห้อง
แต่คนน่ารักใสซื่ออย่างแทแทเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้หรอก
แทนที่ผมจะกลัวว่าแทแทจะทำอะไรใคร ผมควรกลัวว่าใครจะมาหลอกพาเพื่อนคนน่ารักของผมคนนี้ขึ้นห้องดีกว่าครับ
“เห้ย หิวอ่ะ ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันแล้วค่อยเข้าเรียนนะ
มื้อเช้าคือมื้อสำคัญทำให้สมองแล่น” จิมินพูดพลางลากแขนของเพื่อนทั้งสองคนเดินไป
“แต่กูเห็นสมองมึงหลับตลอดเลยเวลาเรียนน่ะ” โฮซอกเหน็บแนม
“ให้กูกินข้าวเสร็จก่อนแล้วจะมาเถียงกับมึงครับเพื่อนรัก
ตอนนี้กูต่อให้มึงแต้มนึง กูหิวจนไม่อาจไปต่อปากต่อคำกับมึงได้”
“ย๊า!! ถ้าจิมินหลับตอนเรียน
ฉันจะปลุกเอง” คนน่ารักพูดจบก็กอดคอจิมิน
“ต่อให้บ้านไฟไหมคนอย่างไอ้เตี้ยก็ไม่ตื่น ถ้าแทแททำให้จิมินมันตื่นได้
ฉันจะเลี้ยงเค้กเลย”โฮซอกท้า
“พูดแล้วนะว่าจะเลี้ยงคอยดูก็แล้วกัน จองโฮซอก” คนน่ารักตอบกลัวด้วยความมั่นใจ
ผมคิดแผนการกินฟรีออกแล้วล่ะครับ ฮี่ๆ
.
.
.
.
.
“ไปไหนจ้ะ พี่ยุนกิคนสวย”
“ปากหมาไม่เปลี่ยนนะน้องจอน ไปส่งพี่ที่บ้านหน่อย” ร่างเล็กตอบพลางก้าวขาขึ้นรถมอเตอไซค์
“โหพี่ก็ดุเหมือนเดิมอ่ะแหละ จับดีๆนะพี่ ตกไปไม่เก็บนะ” ร่างสูงพูดก่อนจะขี่รถไปตามถนน
“จะจับยังไงว้ะ มือพี่ถือของอยู่เนี่ย นายอ่ะขี่ให้ดีเลยจอน”
ร่างเล็กตอบกลับ
“จ้า ท่านผู้โดยสาร
จอนจะขี่รถไปส่งพี่ยุนกิของลูกพี่ให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย” จองกุกเอ่ยแซว
“พี่ไม่ได้เป็นของใครเว้ย นายน่ะปากหมาแบบนี้ เมื่อไหร่จะหาแฟนได้ว้ะ”
“โห พี่ยุนกิอย่าดูถูกคนอย่างจอนดิ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจีบอยู่
อีกไม่นานเกินรอจอนจะพาแฟนมาอวดพี่ น่ารักมากบ่องตง”
แค่นึกถึงพี่วีผมก็อารมณ์ดีแล้วครับ
ระหว่างรอพี่วีเรียนผมก็รับส่งผู้โดยสารรอฆ่าเวลาไปพลางๆ
บังเอิญเจอพี่ยุนกิพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคนสวย(?) มาจ่ายตลาดพอดี
เคยมีโอกาสได้ไปกินร้านพี่ยุนกิอยู่บ่อยครั้ง
เพราะลูกพี่ของผมเขาแอบชอบพี่ยุนกิมาหกปีแล้วครับ ไม่รู้ทำไมพี่โฮซอกเขาไม่จีบพี่ยุนกิแบบจริงจังไปเลย
มัวแต่มองอยู่นั่นแหละ
คนอย่างจอนจองกุก
ถ้าเจอคนที่ใช่ที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงแซงรถเมล์สายแปดอย่างพี่วีเข้าแล้ว
ผมไม่รีรอนั่งมองเฉยๆหรอกครับ รักต้องบอก ชอบต้องจีบ
ผมจะคว้าหัวใจของพี่วีมาให้ได้เลย
“พี่ยุนกิ ช่วยอะไรจอนหน่อยได้ป่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามขณะรถติดไฟแดง
“จะยืมเงินเหรอ พี่จ๊นจนอ่ะช่วงนี้”
“ไม่ใช่เว้ยพี่ คือจะขอให้พี่ช่วยเลือกของบางอย่างให้หน่อย”
“ของอะไร จะซื้อของไปจีบสาวเหรอนาย” ยุนกิถามอย่างรู้ทัน
“พี่นี่แสนรู้อ่ะ ไหนขอมือหน่อย”
“ลามปามแล้วไอ้น้อง เดี๋ยวก็ไม่ช่วยแม่งเลยนี่”
“แซวเล่นนิดเดียว ถ้าพี่ยุนกิไม่ช่วยผมนี่ผมจะร้องทิ้งพี่ไว้กลางทาง
ตรงสี่แยกไฟแดงนี่แหละ” ร่างสูงพูดพลางทำท่าจะจอดรถ
“ไอ้เด็กเวรนี่ ขอช่วยหรือบังคับ” ร่างเล็กถามกลับ
“ขอช่วยจ้ะพี่ยุนกิจ๋า ช่วยเลือกหน่อย
ตอนเย็นจะไปรับว่าที่แฟนที่มหาลัย ไม่อยากไปมือเปล่า”
“นายก็หิ้วก๋วยเตี๋ยวร้านพี่ไปฝากสิ” ยุนกิตอบ
“พี่ยุนกิจะบ้าเหรอ ใครเอาก๋วยเตี๋ยวไปจีบสาวกัน
นี่ไม่ใช่เวลาที่พี่จะมาขายของเว้ย จอนจริงจังดูหน้าจอนดิ นี่จริงจังมาก” ร่างสูงคิ้วขมวด
“พูดเล่นน่ะ คนของนายเขาชอบอะไรล่ะ”
“อ่าวถ้าผมรู้ผมจะให้พี่ช่วยไหมอ่ะ พี่นี่ถามไม่คิด” จองกุกพูดพลางบิดแฮนด์รถออกตัวด้วยความเร็วพอประมาณ
“ไอ้เด็กนี่ แกจีบเขาแกก็ต้องรู้ข้อมูลเขาหน่อยสิ
พี่ไม่ได้ไปจีบกับแกด้วยนะ”
“อืม พี่เขาน่าจะชอบกินขนมรึเปล่า จอนก็ไม่แน่ใจอ่ะ
ตอนเจอพี่เขาครั้งแรกก็เห็นซื้อขนมเต็มไม้เต็มมือ” จองกุกนึกก่อนจะตอบอีกคน
“งั้นก็ซื้อขนมให้ ไม่เห็นจะยากเลย
หรือไม่ตอนไปรับเขานายก็พาเขาไปกินเองเลยสิ”
ผมเห็นจอนจองกุกมาตั้งแต่เด็ก
ก็เพิ่งเห็นน้องมันดูทีท่าจริงจังก็วันนี้แหละครับ รู้สึกมันจะคิดเยอะกว่าปกติ
แสดงว่าคนที่มันกำลังจีบอยู่นี้ต้องน่ารักตรงใจมันมากแน่ๆเลย อยากรู้จังว่าเป็นใคร
“เออจริงด้วย พาพี่เขาไปกินขนมดีกว่า จะได้มีช่วงเวลาร่วมกันด้วย
แค่คิดจอนก็ฟิน555555555555555555555555555555” จองกุกหัวเราะลั่น
“นี่ไปติดสาวบ้านไหนเข้าล่ะ น่ารักป่ะ” ยุนกิเอ่ยถามคนที่ขี่รถอยู่
“ไม่อ่ะ” ร่างสูงตอบ
“ไม่น่ารักเหรอ แล้วนายไปชอบเขาทำไม” ร่างเล็กถามกลับ
“เปล่า พี่เขาน่ารักมาก แต่พี่ยุนกิอ่ะไม่เสือกดิ5555555555555555555555555555555555555555”
“ไอ้เด็กเวร!!!!!!!!!!!!!” ยุนกิตะโกนใส่หูคนข้างหน้า
“จอนล้อเล่นจ้ะ โถ่ ใครจะกล้าว่าพี่ยุนกิ”
“นี่ถ้านายลดนิสัยกวนตีน ปากหมาลงไปหน่อยนะจะดูหล่อขึ้น 99.99% เลยนะ”
ถึงภายนอกน้องมันจะกวนตีนปากหมาไปหน่อย
แต่ความจริงแล้วจองกุกเขาเป็นเด็กดีมากเลยนะครับ ใครได้คบรับรองมันจะดูแลอย่างดี
ยิ่งถ้าใครที่มันคิดจะจริงจังด้วยขนาดนี้
ผมว่าคนๆนั้นต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดเลยล่ะ
“กวนตีนนี่แหละพี่สาวๆชอบ จะได้ดูไม่น่าเบื่อ555555555555555555555555555555555555”
“เออ เอาที่แกสบายใจ แล้วสรุปไปติดสาวบ้านไหนมา
ช่วยตอบให้พี่คลายความสงสัย ไม่งั้นทำก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อยแน่เลย”
ผมอยากรู้อ่ะ นี่เตรียมปูเสื่อรอเผือกเลยครับเนี่ย เรื่องชาวบ้านคืองานของยุนกิ
“ก็เพื่อนบ้านพี่ยุนกินั่นแหละ ที่เขาเพิ่งย้ายมาไม่นานอ่ะ
วันที่พี่เขาย้ายมาวันแรก พี่เขาโบกเรียกจอนให้พาไปตลาด”
“บ้านตรงข้ามพี่อ่ะหรอ เห้ย น้องเขาน่ารักมากเลยอ่ะ
พี่กำลังจะไปผูกมิตรกับน้องเขาอยู่พอดี”
ร่างเล็กตกใจที่คนที่จองกุกชอบกลับเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงที่เขาเพิ่งรู้จักเมื่อวานซืน
แถมยังน่ารักมากซะด้วย
“น่ารักอ่ะดิ55555555555555555 ตั้งแต่จอนได้เจอพี่เขาครั้งแรกจอนก็รู้ทันทีเลยว่าสวรรค์ได้ส่งเนื้อคู่มาให้จอนแล้วอ่ะ”
ร่างสูงตาเป็นประกาย
“ตาถึงนะนายเนี่ย น้องเขาน่ารักจริงจัง
มิน่าล่ะช่วงนี้มาขี่รถเวียนแถวซอยบ้านพี่บ่อย ที่แท้ติดสาว เอ้ยหนุ่มนี่เอง”
ร่างเล็กคลายความสงสัย
“อาฮะ ก็เพราะน่ารักจริงจังไงจอนเลยต้องไปวนเวียนดูบ่อยๆ
กลัวคนจะมาแย่ง พี่ยุนกิรู้แล้วก็ช่วยดูให้ด้วยนะ
ถ้ามีใครไปหาหรือไปส่งพี่วีที่บ้านรีบบอกจอนนะเว้ย”
“เอ่อ ก็มีนะ วันก่อนเห็นอยู่สองคน”
“ห้ะ ใครว้ะ มันเป็นใคร เพื่อนที่มหาลัยพี่วีหรอ มันหล่อป่ะ
เทียบกับจอนใครหล่อกว่า จอนหล่อกว่าอยู่แล้วใช่ป่ะ”
“ถามเองตอบเอง หลงตัวเองจริงไอ่เด็กนี่” ร่างเล็กส่ายหัวเบาๆ
“โหยพี่ยุนกิรีบบอกมา มันเป็นใคร” จองกุกพูดก่อนจะจอดรถ
“อ่ะนี่ค่ารถ พี่เข้าบ้านก่อนนะ ต้องรีบเตรียมของไปขายตอนเย็น”
ยุนกิยัดเงินเข้าเสื้อกั๊กวินสีส้มของจองกุก
ก่อนจะตัดบทแล้วเดินเข้าบ้านไปโดยไม่ตอบคำถาม
ปล่อยให้อีกคนสงสัยกระวนกระวายใจอยู่คนเดียว
ถ้าผมบอกไปว่าเพื่อนที่มาส่งแทฮยองคือโฮซอกกับจิมิน
ลูกพี่ของไอ้จอนมันเองก็ไม่สนุกสิครับ
กวนตีนดีนักขอแกล้งให้เด็กคนนี้มันคาใจต่อไปดีกว่า
“พี่ยุนกิแม่งทำไมทำงี้ มาตอบคำถามจอนก่อนดิ” ร่างสูงตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา
ไม่บอกก็ไม่ต้องบอก ผมค่อยสืบหาเองก็ได้ครับ
พี่ยุนกิใจร้ายมาทำให้อยากรู้แล้วจากไป หึ ผมไปขี่รถวนหาผู้โดยสารต่อดีกว่าครับ
จะได้มีเงินไปซื้อขนมให้พี่วีกิน อยากจีบใครสักคนมันต้องลงทุนกันหน่อย
.
.
.
.
.
ณ แผงขายดอกไม้ริมฟุตบาท
“ป้าๆ ดอกกุหลาบนี่เท่าไรอ่ะ” ร่างสูงถามผู้หญิงสูงวัยที่ขายดอกไม้อยู่ริมทางฟุตบาท
“ดอกละยี่สิบจ้ะพ่อหนุ่ม เอากี่ดอกดีจ้ะ”
“เอ่อ เอากุหลาบสีขาวดอกเดียวพอครับ ขอสวยๆนะป้า
เลือกให้หน่อย”
ดอกเดียวพอครับ ไม่ได้จะให้หมายถึงรักแรกพบอะไรหรอกนะ
แต่งบมันมีแค่นี้ครับ555555555555555 ดอกไม้กินไม่ได้ เก็บเงินที่เหลือไว้ซื้อขนมให้พี่วีกินอิ่มๆดีกว่า
“นี่จ้ะ พ่อหนุ่ม โรแมนติกน่ะเรา ซื้อดอกไม้ให้แฟน”
ป้าพูดพลางยื่นกุหลาบให้ร่างสูง
“ยังไม่ใช่แฟนครับ แต่อีกไม่นาน5555555555555555555555”
จองกุกยื่นแบงค์ยี่สิบให้ก่อนจะรับดอกกุหลาบมาแล้วสอดไว้ในเสื้อกั๊กวิน
“ขอให้ได้เป็นแฟนไวไวนะพ่อหนุ่ม แล้วพามาให้ป้าดูบ้าง”
หญิงสูงวัยพูดก่อนจะยิ้มกว้างให้จองกุก
เอ็นดูในความน่ารักของรักวัยรุ่น
“สมพรปากครับป้า ขอบคุณนะครับ” จองกุกโค้งหัวให้เล็กน้อยก่อนจะออกตัวขี่รถไปตามถนนเวียนหาผู้โดยสารต่อ
อารมณ์ดีเพราะมีความสุขจังเลยครับ ตั้งแต่ได้เจอพี่วี
จอนสัมผัสได้ถึงความสดใสในชีวิต ถึงผิวพี่วีเขาจะมืดไปหน่อยก็ตาม
ขี่รถวนหาผู้โดยสารอีกสักสองสามคนแล้วกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆดีกว่า
ความจริงก็หล่ออยู่แล้วนะครับ แต่อยากหล่อกว่านี้จะได้บาดตาบาดใจพี่วี
.
.
.
.
.
ตึกคณะบริหารธุรกิจและการจัดการ
“จิมินอ่า อยากกินขนมฟรีมั้ย” ร่างบางกระซิบถามคนข้างๆที่กำลังสลึมสะลือ
“หื้อ ขนม ไหนๆขอกิน” จิมินมองหาซ้ายขวา
“ถ้าจิมินตั้งใจเรียนคาบนี้โดยไม่หลับ
โฮซอกจะเลี้ยงขนมฉันล่ะ แล้วฉันจะแบ่งให้จิมินด้วยนะ”
“จริงอ่ะ แทฮยองน่ารักที่สุดเลย
งั้นคาบนี้ปาร์คจิมินจะยอมถ่างตาเพื่อของฟรี” เขาพูดจบก็ตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อให้ตื่น
“ฮี่ๆ ดีมาก เราต้องร่วมมือกันเพื่อขนมฟรีจากโฮซอกนะ
จิมินสู้!!” แทฮยองพูดพลางชูสองนิ้วให้
“โอเค สู้!!!!!!!”
“สู้อะไรกันหรอสองคนนี้ แอบคุยกันไม่ชวนฉันบ้าง
น้อยใจนะแทฮยอง” โฮซอกพูดแล้วยื่นหน้าเขามาใกล้ร่างบางที่นั่งอยู่ตรงกลาง
“หัวก็ไม่ล้านขี้น้อยใจจังเลยนะโฮซอก
ฉันก็แค่ให้กำลังใจจิมิน เขาจะได้ไม่หลับไง”
“กูไม่คุยกับมึงหรอก ตอนนี้กูกำลังตั้งใจเรียนครับเพื่อน”
จิมินตอบก่อนจะหันหน้าไปมองไปหน้าห้อง
“เหอะ เดี๋ยวมึงก็หลับ ไอ้เตี้ย”
“ฉันอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจจิมินอยู่ ไม่หลับหรอก
โฮซอกจะต้องเลี้ยงขนมฉันแน่นอน คอยดู!” ร่างบางยู่ปาพูดอย่างมั่นใจ
“คร้าบบบบ แล้วโฮซอกจะคอยดู ถ้าเกิดจิมินมันหลับ
แทแทจะให้อะไรฉันล่ะ” โฮซฮกถามกลับ
“ฉันก็จะเลี้ยงขนมโฮซอกแทนไง”
“ฉันไม่อยากกินขนมอ่ะ
เปลี่ยนเป็นแทแทต้องไปทำความสะอาดห้องให้ฉัน โอเคมั้ย”
“อื้อ ก็ได้ แต่คงไม่ได้ทำหรอก เพราะยังไงฉันต้องชนะ!”
พูดจบก็หันไปหาเพื่อนตัวเล็กข้างๆที่ตอนนี้กำลังฟุบหลับกับโต๊ะ
“ว้าว ดีจัง จะมีคนไปทำความสะอาดห้องให้” โฮซอกยิ้มกว้าง
“จิมินตื่นสิ ตื่น!”
ผมพยายามปลุกเท่าไรเพื่อนผมก็ไม่ตื่นเลยครับ
ทำไมจิมินเขาหลับง่ายแบบนี้ล่ะ
ผมต้องอดขนมฟรีแถมยังต้องไปทำความสะอาดห้องให้โฮซอกอีกเหรอเนี่ย
ให้มันได้อย่างนี้สิชีวิตผม
“โฮซอกอ่า ฉันไปทำความสะอาดห้องให้ก็ได้
แต่เป็นพรุ่งนี้นะ วันนี้ฉันมีธุระน่ะ” แทฮยองหันไปบอกอีกคน
“ธุระอะไรน่ะ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย?”
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก
โฮซอกต้องพาจิมินไปร้านพี่ยุนกินี่นา ฉันไปเองได้” ร่างบางพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ผมไม่รู้จะตอบโฮซอกว่ายังไงเหมือนกันครับ
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจองกุกเขามีธุระอะไร แล้วทำไมต้องให้ผมไปด้วย
แต่ผมผิดนัดเจ้าเด็กแว๊นซ์นั่นมาสองครั้งแล้ว วันนี้เลยไม่อยากผิดคำพูดอีก
“โอเค แล้วแต่แทแทล่ะกัน
พรุ่งนี้อย่าลืมไปทำความสะอาดห้องให้ฉันล่ะ” โฮซอกพูดจบก็ใช้มือยีผมคนน่ารักเบาๆ
ต้องของคุณจิมินที่ทำให้ผมมีคนไปทำความสะอาดห้องให้
ความจริงห้องผมก็ไม่ได้สกปรกอะไรหรอกครับ
ที่คอนโดมีแม่บ้านที่พ่อผมส่งมาคอยดูแลห้องให้ทุกวันอยู่แล้ว แต่ที่บอกแทฮยองไปแบบนั้นเพราะผมอยากแกล้งคนน่ารักก็เท่านั้นเอง
TBC
.
.
.
.
.
อัพครบ 1OO% แล้วนะคะ
ให้กำลังใจแทแทกันหน่อยเร็ว ร้องไห้ทุกตอนเลย
สงสารน้องจอนหล่อลื่นปรื้ดด้วย โดนตีนทุกฉาก5555555555555
เอ๊ะ!! นี่มันฟิคแนวไหนกันแน่ ผู้อ่านทุกท่านอาจจะงงกันนะคะ
ตอบเลยตรงนี้ว่า ฟิคเล็กหมูน้ำตกเป็นฟิคแนวตั้งนะคะ
เพราะเวลานอนแต่งแล้วหลับตลอดเลย (หลบตีน)
5555555555555555555555555555
ความคิดเห็น