ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KRiSLAY ... FEEL & FOOL

    ลำดับตอนที่ #1 : FEEL & FOOL Intro

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 56


    FEEL & FOOL

    ภาคเริ่มต้น KaiLu feat. Lay
     
     
     
     
     
    :
     
     
     
    "ทั้งสองคน"
     
    สตาฟของบริษัทเข้ามาเรียกเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังซ้อมเต้นอยู่ภายในห้องใต้ดิน
     
     
     
     
    "ฝากด้วยอีกคน ลู่หาน นี่คิมจงอิน และก็นั่น...จางอี้ชิง พวกนายต้องพยายามให้มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างกำลังใกล้จะเรียบร้อยแล้ว"
     
     
    ทั้งสองคนก้มหน้ารับคำ แล้วมองตามแผ่นหลังที่เดินลับไป
     
     
     
    "หวัดดี"
     
     
    "หวัดดี / หวัดดี" ทั้งสามคนทักทายอย่างเป็นกันเอง
     
     
    ลู่หาน เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนั้น...ได้กลายมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับไคและเลย์อย่างรวดเร็วและเริ่มเรียกชื่อเล่นกัน แม้ว่าลู่หานจะมีอายุมากกว่าพวกเขาสองคน แต่ด้วยนิสัยบวกกับหน้าตาก็พอหยวน ๆ ให้เป็นเพื่อนร่วมแกงค์กันได้ 
     
    น่าแปลกที่บริษัทผลิตศิลปินชื่อดังของเกาหลี ได้ตัวเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักอย่างนี้มาจากสถานที่ช้อปปิ้ง
     
     
    "จู่ ๆ เขาก็ยื่นนามบัตรมาให้"
     
     
    "ไม่เหมือนพวกเรา เข้ามาด้วยการออดิชั่น" ไคบอกก่อนจะหันไปมองหน้าเลย์ แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนก็ตาม แต่ระยะเวลา 2-3 เดือนที่ซ้อมเต้นด้วยกัน มันทำให้พวกเขาสนิทกันพอสมควร
     
     
    "นั่นสิ ถึงว่า...ดูพวกนายสนิทกันจังเลย"
     
     
    เลย์ยิ้มรับ ส่วนไคนั้นไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ลู่หานเริ่มเข้ามาฝึกในบริษัทนี้อะไรหลาย ๆ อย่างก็ดูเปลี่ยนไป
     
     
     
     
    "พวกเราก็สนิทกันแล้วนิ"
     
     
     
     
     
     
    ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนเหมือนก่อน....
     
     
     
    "ฉันต้องกลับบ้านนะอาทิตย์นี้" เลย์บอก ช่วงหยุดพักปลายสัปดาห์ ขอเวลาไปนอนที่บ้านสัก 2-3 วันเพื่อทานอาหารฝีมือคุณยาย พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว
     
     
    "............"
     
    เลย์สวมเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำแล้วเดินไปที่เตียงของตนเอง เขาทั้งสองมาเช่าห้องพักใกล้ ๆ บริษัท เพื่อสะดวกในการเดินทางไปห้องซ้อม โดยที่แต่ละอาทิตย์ทางบริษัทอนุญาตให้กลับบ้านได้
     
     
    และในทุกอาทิตย์นั้น....
     
     
     
    "นายจะไปด้วยไหม ฉันจะได้บอกแม่ไว้"
     
     
     
    ไค กลายเป็นสมาชิกเพิ่มในครอบครัวของเลย์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากบ้านไคอยู่ใกล้ ๆ บริษัท จึงสามารถไป ๆ มา ๆ ได้ไม่ลำบาก แต่ส่วนมากไคก็มักจะกลับมานอนที่หอเป็นเพื่อนเลย์เสมอ และวันไหนที่เลย์กลับบ้าน เขาก็มักจะขอตามไปด้วยจนกลายเป็นแขกประจำไปแล้ว
     
     
    "อาทิตย์นี้ฉันต้องซ้อมเต้นให้ลู่หานอ่ะ"
     
     
    ดวงตากลมโตจ้องอมองเพดานอย่างไร้ความรู้สึก เลย์รับคำในลำคอก่อนจะหลุบตาลง
     
     
    "ฝากบอกแม่นายด้วยว่าฉันคิดถึง"
     
    ไคนอนตะแคงข้างจากเตียงของตนเองแล้วส่งยิ้มเหมือนดั่งจะฝากไปถึงแม่ของอีกคน
     
     
     
    "แม่คงคิดถึงนายแย่ ไม่มีใครไปป่วน"
     
     
     
     
    "อารายยย นายอิจฉาฉันล่ะสิ ที่ฉันไปคอยเป็นลูกมือคุณแม่นายน่ะ ระวังนะ อีกหน่อย แม่นายจะรักฉันมากกว่านาย"
     
     
    เมื่ออะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม สุดสัปดาห์ที่รอคอยกลับว่างเปล่า ไม่มีเสียงคนให้หัวเราะร่วมกัน
     
     
     
     
    "ทำไมกลับมาคราวนี้ อิ้ชิงของแม่ดูไม่ร่าเริงเลย" มือนุ่มละไปที่เส้นผมของคนที่นอนหนุนตักอยู่อย่างเบา ๆ
     
     
    "เหนื่อยหรือลูก?"
     
     
     
    "เปล่าฮะ" เด็กหนุ่มคว้ามือของผู้เป็นมารดามากุมไว้ พร้อม ๆ กับส่งจูบให้เบา ๆ ที่หลังมือ
     
     
     
     
    "ถ้าเหงา จะรีบกลับแม่ก็ไม่ว่านะ"
     
     
    เธอไม่ว่าอะไร หากว่าลูกชายที่เธอรักจะมาแต่ตัวและไร้หัวใจอย่างนี้ เธอยอมให้ลูกกลับไปแล้วมีรอยยิ้มแต้มที่ใบหน้าจะดีกว่า
     
     
    "ผมอยากอยู่กับแม่ กับยายฮะ"
     
     
     
     
    'เลย์ ฉันชวนลู่หานมานอนเป็นเพื่อนนะ หมอนั่นทะเลาะกับพ่ออีกแล้ว'
     
     
    เพื่อนใหม่ ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา...แล้วเขาจะกลับไปยืนตรงไหน??
     
     
     
     
     
    2-3 วันที่กลับไปอยู่บ้าน ใจมันไม่ได้เป็นสุขอย่างที่เคย เลย์กลับมาถึงห้องเช่า ก็พบว่าลู่หานยังอยู่ในห้องของเขา
     
     
     
    "ขอโทษ ที่ฉันมาตอนที่นายไม่อยู่นะเลย์"
     
     
    "ไม่เป็นไรฮะ" รอยยิ้มน่ารักจากคน ๆ นั้น ไม่สามารถปฏิเสธหรือถือโทษโกรธเขาได้ลง
     
     
     
    "หมอนั่นทะเลาะกับที่บ้านอีกแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าใจนะ ถ้าไงฉันจะไปช่วยพูดให้อีกแรง ให้พ่อไปพูดก็ได้"
     
     
     
    เรื่องของลู่หานมันกลายเป็นเรื่องของไคภายในสามวัน....
     
     
    เลย์สรุปได้เช่นนั้น 
     
     
     
    คืนนั้นเลย์พอจะทราบเรื่องราวคร่าว ๆ ว่าทางบ้านของลู่หานไม่ค่อยพอใจที่ลู่หานมาเป็นเด็กฝึกหัด ครอบครัวของลู่หานหวงคนน่ารักนี่อย่าบอกใคร ก็แน่ล่ะ ดูจากภายนอกแล้วก็คุณหนูดี ๆ นี่เอง แต่หลังจากรู้จักกันไม่นาน เขาก็พอจะรู้นิสัยใจคอว่า คนน่ารักคนนี้ไม่ใช่มีดีแต่หน้าตาเท่านั้น ความตั้งใจในสิ่งที่รับปากและมุ่งมั่นว่าจะทำนั้น ก็ทำให้เลย์ทึ่งอยู่ไม่น้อย....
     
    คนที่ให้คำปรึกษาได้ดีก็คงไม่พ้นไค เพราะขานี้ก็คุณหนูเช่นกัน พื้นฐานของครอบครัวไคนั้น ก็มีฐานะพอสมควร เห็นอย่างนี้ก็ลูกชายนักการเมืองเลยทีเดียว หากแต่ทางบ้านของไค มักจะตามใจให้ไคทำในสิ่งที่ชอบและพร้อมที่จะสนับสนุน
     
     
    ไม่แปลก...ที่ไคจะเป็นทุกข์เป็นร้อนอยากจะเข้าไปช่วยอธิบายให้ทางบ้านลู่หานเข้าใจ
     
     
     
    "ฉันนอนข้างล่างก็ได้"
     
     
    สองคนนี้ยังเถียงกันในเรื่องเดิมตั้งแต่เขาเดินเข้าไปอาบน้ำ แถมกลับออกมาก็เห็นไคถูลู่ถูกังลากคนตัวเล็กขึ้นเตียงให้ได้
     
     
     
     
    "นายตัวนิดเดียว เตียงแค่นี้ไม่เบียดหรอกน่า"
     
     
    นั่นสิ....ถ้าจะยกเตียงเขาให้ลู่หานไป แล้วเขาไปนอนเตียงเดียวกับไค มันคงจะแน่นพิลึก
     
     
     
    "เกรงใจอ่า นอนข้างล่างดีกว่า"
     
     
    "เลิกพูดได้แล้วนอน ๆ" ไคดันร่างบาง ๆ ของลู่หานให้ชิดกำแพงด้านใน ส่วนตัวเขาก็หันมามองอีกคนที่กำลังยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วเดินมาล้มตัวลงที่เตียงอีกฝั่งของห้อง
     
     
    ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งที่ลงข้าง ๆ เตียง
     
     
    "ไม่สบายหรือเปล่า ดูเงียบ ๆ"
     
     
    ไคก็ยังเป็นไค ยังเป็นคนที่คอยห่วงใยอยู่เสมอ คนที่มีความสุข ได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองชอบ คนที่มีคนคอยสนับสนุนอยู่เสมอ มักจะมีความใจดีเผื่อแผ่มาถึงคนอื่นด้วย....ไคคือคนเช่นนั้น
     
     
    "ไม่เป็นไรหรอก แค่อดนอน คุยกับแม่จนเพลิน"
     
     
     
     
    "พรุ่งนี้เล่าให้ฟังบ้างสิ ยายบ่นถึงฉันหรือเปล่า แล้วแม่นายทำไรให้กิน พรุ่งนี้ค่อยเล่านะ"
     
     
     
    ปกติแล้วถ้าไคไม่ได้กลับไปที่บ้านเขาด้วย ก็จะมาเซ้าซี้ให้เขาเล่าโน่นเล่านี่ถึงเรื่องที่บ้านให้ฟัง ไคชอบที่จะฟังเรื่องของครอบครัว ที่บ้านไคก็อยู่รวมกันหลายคน เขาบอกเช่นนั้น การที่เขาต้องมาอยู่คนเดียวกับเพื่อนร่วมห้องอย่างนี้ อาจจะทำให้ไคเหงา ๆ ไปบ้าง แต่ก็เพื่อความฝันเขาต้องยอมตัดคนรอบข้างออกไปก่อน
     
     
    แต่สำหรับคืนนี้ ไคไม่พร้อมจะฟังเขาเล่า....เกรงใจคนที่หลับไปก่อนหน้านี้น่ะสิ
     
     
    "ไปนอนได้แล้ว ปิดไฟด้วย" คนนอนอยู่เอ่ยเสียงเบา
     
     
     
    หมับ
     
     
    มือใหญ่ของไคคว้ามือของเจ้าของเตียงมาบีบไว้แน่น
     
     
    "ราตรีสวัสดิ์นะ ไม่สบายก็เรียกละกัน"
     
     
     
    มันคงแปลความหมายในความเป็นห่วงระหว่างเพื่อน...กับเพื่อนสินะ
     
     
     
     
    :
     
     
     
    "ฉันคงต้องอยู่เกาหลี"
     
     
    ไคบอกเบา ๆ 
     
     
    "คงออกไปไกลบ้านบ่อย ๆ ไม่ได้หรอก ฉันเกรงใจพ่อกับแม่ ท่านให้โอกาสฉันขนาดนี้แล้ว ฉันไม่อยากทำให้ท่านเป็นห่วงมากไปกว่านี้"
     
     
     
    ถึงเวลาที่เด็กฝึกหัดชุดใหญ่จะเตรียมตัวออกอัลบั้มแล้ว โปรเจคที่วางไว้คือต้องแบ่งกลุ่มออกเป็นสองฝั่ง โดยที่ทำการโปรโมทไปพร้อม ๆ กัน เพลงที่ทำก็เพียงแต่เปลี่ยนภาษาเท่านั้น พวกเราคือหนึ่งเดียว แต่แยกฝั่ง.....
     
     
    เลย์พูดอะไรไม่ออก เขาเป็นคนจีนในเกาหลี ฝีมือการเต้นของเขาพอ ๆ กับไค ดังนั้น จึงเป็นตัวหลักในการวางตัวให้โปรโมทในประเทศจีน
     
    และเขาคิดว่าไคอาจจะได้ไปด้วยกัน.....
     
     
    'คิม จงอิน เป็นตัวหลักการเต้นโปรเจคฝั่งเกาหลี'
     
     
     
    เลย์หน้าชาเล็กน้อย เมื่อเพื่อนรักเห็นด้วยกับการวางตัวอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
     
     
     
    "ลู่หาน ต้องการอยู่โปรเจคไหน?"
     
     
    "ผมยังไงก็ได้ครับ"
     
     
     
    "โอเค งั้นลงฝั่งจีนก็แล้วกัน ยังขาดคน"
     
     
    การประชุมทุกอย่างเสร็จสรรพ เมื่อสมาชิกร่วมโปรเจคแยกย้ายกันเดินออกจากห้องซ้อมไปหมดแล้ว แม้ว่าจะไม่ครบตามที่ตั้งไว้ แต่คนที่มาก็พอจะคุ้นหน้าค่าตากันหลายคนแล้ว
     
    จากนั้นเลย์ก็ต้องตกใจที่จู่ ๆ ไคก็มีอารมณ์ไม่พอใจอะไรบางอย่าง
     
     
     
    ปั่ก!
     
     
     
     
     
    "ทำไมไม่ปฏิเสธไป!?"
     
     
    เสียงไคตะคอกดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
     
     
     
    "ทำไมไม่อยู่เกาหลี!!??"
     
     
     
    กลับไปโปรโมทที่จีนก็น่าสนใจอยู่ อย่างน้อยมันก็เป็นบ้านเกิดของเลย์ 
     
    แต่ไคไม่ได้อยากรู้เรื่องของเลย์หรอก เพราะเขายืนประจันหน้ากับร่างบางทีเอาแต่หลบตา ไม่ตอบคำถาม....
     
     
     
     
    "มันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม??"
     
     
     
    พวกเขายังคงไม่ลืมหรอกนะ ว่ายังมีอีกคนที่ยังนั่งอยู่ภายในห้องซ้อมใต้ดินแห่งนี้
     
     
    "ฉันยังไงก็ได้ ถึงจะกลับจีน นั่นมันก็บ้านฉันนะ"
     
     
     
    "แล้วถ้าห่างกัน นายไม่นึกถึงฉันบ้างหรือไง???"
     
     
     
    ถ้าคำถามนั้น ถามเลย์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นล่ะก็ เลย์คงจะมีคำตอบให้อย่างไม่ต้องถามซ้ำอีก หากแต่อีกคนไม่ได้ให้คำตอบแก่คนที่อยากรู้
     
     
     
     
     
    "ลู่หาน นายลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้วใช่มั้ย?"
     
     
     
     
    "ลืมไปซะเถอะ ฉันมันใจง่ายเอง"
     
     
     
     
     
     
     
    "พวกนาย......"
     
     
     
    สองคำที่เตือนสติว่ายังมีอีกคนที่อยู่ในห้องนั้น
     
     
     
    "..........................." เพื่อนรักของเลย์ได้แต่มองตรงไปยังร่างบางอย่างไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เลย์อยากรู้
     
     
     
     
     
    "นายกับลู่หาน....?"
     
     
    เลย์ย้ำถามต่อหน้าอีกครั้ง หากแต่อาการหลบหน้าหลบตาเขาแบบนั้น มันคือคำตอบที่ทำให้เลย์เข้าใจในทันทีว่าไคไม่ปฏิเสธในคำถามที่เขาสงสัย
     
    นี่หรือคือสาเหตุที่ีระยะหลังไคไม่ค่อยสนใจอยากที่จะกลับบ้านไปพร้อมเขา...และนั่นก็เป็นสิ่งที่ตอนนี้มันเกินจะรับไหว เลย์หันหลังจะก้าวขาออกไปจากห้องที่แสนจะอึดอัดนั้น หากแต่เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นมาเสียก่อน
     
     
     
     
    "เลย์!"
     
     
     
     
    "ฉันรู้นะว่านายไม่พอใจฉัน!"
     
     
    คนที่ฟังตัวชาดิก ไม่หันกลับมาแย้งในสิ่งที่โดนกล่าวหา
     
     
     
    "ไหน ๆ เราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ฉันไม่อยากมีเรื่องค้างคาใจ นายไม่พอใจที่ฉันมาแทรกระหว่างนายสองคนใช่มั้ย" 
     
     
     
    "จริงหรือเลย์?" เสียงไคถามอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
     
     
    "ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น ลู่หาน นายคิดมากไปแล้ว" เลย์ฝืนยิ้ม นอกจากจะพยายามสงบใจลงแล้ว ยังต้องพยายามไม่ให้คนที่ดูแสนบอบบางคนนั้นเข้าใจผิดอีก
     
     
     
     
     
    "ไม่จริง! นายไม่เคยยิ้มให้ฉันเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่เข้าห้องนาย นายไม่เคยคุยกับฉันเลย นายไม่เคยมองฉันเป็นเพื่อน!"
     
     
    คนตัวบางที่แสนจะคิดมากเสียจริง ๆ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    "นายชอบไคใช่มั้ยเลย์?"
     
     
     
    คิดในเรื่องที่แทงใจซะด้วย
     
    เลย์หันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ไว้ใจมากที่สุด ดวงตาสีดำเข้มนั้นมองกลับมาหาเขาอย่างอยากรู้คำตอบ
     
     
     
     
     
    "....ไม่"
     
     
     
    เลย์ส่ายหน้าพร้อมเอ่ยออกมาเบา ๆ
     
     
     
    "ถามอะไรแบบนั้น ฉันกับเลย์เป็นเพื่อนกัน" ไคเดินก้าวเข้ามาหาลู่หาน ในขณะที่ร่างบางถอยหลังไป
     
     
    "ถ้าฉันมาทีหลัง ฉันก็ไม่อยากแย่งใคร...." ลู่หานพูดเสียงสั่นเครือ ยิ่งทำให้หัวใจของอีกสองคนแทบจะหล่นลงตาตุ่ม
     
     
     
    เลย์อยากจะเดินเข้าไปกอดปลอบ เมื่อน้ำตาของร่างบางค่อย ๆ ไหลลงมา
     
     
    "...ลู่หาน"
     
     
     
     
    แต่มันคงจะไม่สำคัญอะไร เพราะคนที่เข้าไปโอบร่างบาง ๆ ไว้ในอ้อมแขนก่อนนั้นคือเเพื่อนสนิทเขาเอง
     
     
    "ปล่อย ฉันไม่อยากทำให้ใครเสียใจ ฉันจะไปเอง นายไม่ต้องมาสนใจฉันเลย"
     
     
     
    "ชูว์....ชู่ววว"
     
     
     
     
    เลย์ยิ้มออกมาจาง ๆ เมื่อเห็นเพื่อนที่กำลังพยายามปลอบใจคนที่กำลังร้องไห้อยู่
     
     
     
     
     
     
     
     
    'นายชอบไคใช่มั้ยเลย์?'
     
     
     
    '.......ไม่'
     
     
     
    ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย....
     
     
    หากแต่ภาพที่สองคนกอดกันกลม มันยังติดตาเขามาจนถึงตอนนี้ เด็กหนุ่มมองออกไปจากหน้าต่างราวกับจะผลักภาพนั้นให้ไกล ๆ ออกไป แต่มันกลับยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
     
     
    ไม่...เขาไม่อยากทำลายกำแพงระหว่างเขากับไค
     
    ไม่...ไม่ใช่หรอก นายไม่ได้มาทีหลังหรือแย่งใครหรอก เพราะเลย์รู้ดีว่าไคไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่แรก
     
     
     
    ไม่...ไม่สามารถเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั่นได้เลย.....
     
     
     
    เลย์เงยหน้าให้น้ำอุ่น ๆ ไหลย้อนกลับเข้าไปในดวงตา เมื่อได้ยินเสียงคนเดินบันไดลงมา
     
    เขาละสายตาจากหน้าต่างบานใหญ่แล้วเดินขึ้นไปโดยไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีใครเดินลงมาด้านล่างนี้
     
     
     
     
    "ขอโทษครับ ห้องซ้อมไปทางไหนครับ?"
     
     
     
    ร่างสูงกว่าเขามากนัก มองตรงมาอย่างต้องการคำตอบ
     
     
    "เดินลงไปแล้วเลี้ยวซ้าย"
     
     
    เลย์พูดเบา ๆ เขาไม่รู้จักหรอกว่าใครเป็นคนถามเขา และไม่รู้หรอกว่า คนตรงหน้าเขาต้องการถามไปเพื่ออะไร 
     
     
     
    "ขอบคุณครับ"
     
     
     
     
    เพราะตอนนี้เขายังมองภาพเจ้าของเสียงนี้ยังไม่ชัดเลย
     
     
     
     
     
     
     
    "เฮ้...คุณร้องไห้?"
     
     
     
     
     
     
     
     
    -จบตอน-
     
     
     
    พระเอกมาตอนจบ อิอิ
     
    ยังมีเรื่องราวจากนี้อีก ไว้มาโพสต์เร็ว ๆ นี้นะคะ
     
     
    >/////<
     
    รักน้องลู่รัว ๆ และพร้อมแอนตี้ฉิงค่ะ 5555555
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×