ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : FEEL & FOOL Intro
FEEL & FOOL
ภาคเริ่มต้น KaiLu feat. Lay
ภาคเริ่มต้น KaiLu feat. Lay
:
"ทั้งสองคน"
สตาฟของบริษัทเข้ามาเรียกเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังซ้อมเต้นอยู่ภายในห้องใต้ดิน
"ฝากด้วยอีกคน ลู่หาน นี่คิมจงอิน และก็นั่น...จางอี้ชิง พวกนายต้องพยายามให้มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างกำลังใกล้จะเรียบร้อยแล้ว"
ทั้งสองคนก้มหน้ารับคำ แล้วมองตามแผ่นหลังที่เดินลับไป
"หวัดดี"
"หวัดดี / หวัดดี" ทั้งสามคนทักทายอย่างเป็นกันเอง
ลู่หาน เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนั้น...ได้กลายมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับไคและเลย์อย่างรวดเร็วและเริ่มเรียกชื่อเล่นกัน แม้ว่าลู่หานจะมีอายุมากกว่าพวกเขาสองคน แต่ด้วยนิสัยบวกกับหน้าตาก็พอหยวน ๆ ให้เป็นเพื่อนร่วมแกงค์กันได้
น่าแปลกที่บริษัทผลิตศิลปินชื่อดังของเกาหลี ได้ตัวเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักอย่างนี้มาจากสถานที่ช้อปปิ้ง
"จู่ ๆ เขาก็ยื่นนามบัตรมาให้"
"ไม่เหมือนพวกเรา เข้ามาด้วยการออดิชั่น" ไคบอกก่อนจะหันไปมองหน้าเลย์ แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนก็ตาม แต่ระยะเวลา 2-3 เดือนที่ซ้อมเต้นด้วยกัน มันทำให้พวกเขาสนิทกันพอสมควร
"นั่นสิ ถึงว่า...ดูพวกนายสนิทกันจังเลย"
เลย์ยิ้มรับ ส่วนไคนั้นไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ลู่หานเริ่มเข้ามาฝึกในบริษัทนี้อะไรหลาย ๆ อย่างก็ดูเปลี่ยนไป
"พวกเราก็สนิทกันแล้วนิ"
ไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนเหมือนก่อน....
"ฉันต้องกลับบ้านนะอาทิตย์นี้" เลย์บอก ช่วงหยุดพักปลายสัปดาห์ ขอเวลาไปนอนที่บ้านสัก 2-3 วันเพื่อทานอาหารฝีมือคุณยาย พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว
"............"
เลย์สวมเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำแล้วเดินไปที่เตียงของตนเอง เขาทั้งสองมาเช่าห้องพักใกล้ ๆ บริษัท เพื่อสะดวกในการเดินทางไปห้องซ้อม โดยที่แต่ละอาทิตย์ทางบริษัทอนุญาตให้กลับบ้านได้
และในทุกอาทิตย์นั้น....
"นายจะไปด้วยไหม ฉันจะได้บอกแม่ไว้"
ไค กลายเป็นสมาชิกเพิ่มในครอบครัวของเลย์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากบ้านไคอยู่ใกล้ ๆ บริษัท จึงสามารถไป ๆ มา ๆ ได้ไม่ลำบาก แต่ส่วนมากไคก็มักจะกลับมานอนที่หอเป็นเพื่อนเลย์เสมอ และวันไหนที่เลย์กลับบ้าน เขาก็มักจะขอตามไปด้วยจนกลายเป็นแขกประจำไปแล้ว
"อาทิตย์นี้ฉันต้องซ้อมเต้นให้ลู่หานอ่ะ"
ดวงตากลมโตจ้องอมองเพดานอย่างไร้ความรู้สึก เลย์รับคำในลำคอก่อนจะหลุบตาลง
"ฝากบอกแม่นายด้วยว่าฉันคิดถึง"
ไคนอนตะแคงข้างจากเตียงของตนเองแล้วส่งยิ้มเหมือนดั่งจะฝากไปถึงแม่ของอีกคน
"แม่คงคิดถึงนายแย่ ไม่มีใครไปป่วน"
"อารายยย นายอิจฉาฉันล่ะสิ ที่ฉันไปคอยเป็นลูกมือคุณแม่นายน่ะ ระวังนะ อีกหน่อย แม่นายจะรักฉันมากกว่านาย"
เมื่ออะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม สุดสัปดาห์ที่รอคอยกลับว่างเปล่า ไม่มีเสียงคนให้หัวเราะร่วมกัน
"ทำไมกลับมาคราวนี้ อิ้ชิงของแม่ดูไม่ร่าเริงเลย" มือนุ่มละไปที่เส้นผมของคนที่นอนหนุนตักอยู่อย่างเบา ๆ
"เหนื่อยหรือลูก?"
"เปล่าฮะ" เด็กหนุ่มคว้ามือของผู้เป็นมารดามากุมไว้ พร้อม ๆ กับส่งจูบให้เบา ๆ ที่หลังมือ
"ถ้าเหงา จะรีบกลับแม่ก็ไม่ว่านะ"
เธอไม่ว่าอะไร หากว่าลูกชายที่เธอรักจะมาแต่ตัวและไร้หัวใจอย่างนี้ เธอยอมให้ลูกกลับไปแล้วมีรอยยิ้มแต้มที่ใบหน้าจะดีกว่า
"ผมอยากอยู่กับแม่ กับยายฮะ"
'เลย์ ฉันชวนลู่หานมานอนเป็นเพื่อนนะ หมอนั่นทะเลาะกับพ่ออีกแล้ว'
เพื่อนใหม่ ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา...แล้วเขาจะกลับไปยืนตรงไหน??
2-3 วันที่กลับไปอยู่บ้าน ใจมันไม่ได้เป็นสุขอย่างที่เคย เลย์กลับมาถึงห้องเช่า ก็พบว่าลู่หานยังอยู่ในห้องของเขา
"ขอโทษ ที่ฉันมาตอนที่นายไม่อยู่นะเลย์"
"ไม่เป็นไรฮะ" รอยยิ้มน่ารักจากคน ๆ นั้น ไม่สามารถปฏิเสธหรือถือโทษโกรธเขาได้ลง
"หมอนั่นทะเลาะกับที่บ้านอีกแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าใจนะ ถ้าไงฉันจะไปช่วยพูดให้อีกแรง ให้พ่อไปพูดก็ได้"
เรื่องของลู่หานมันกลายเป็นเรื่องของไคภายในสามวัน....
เลย์สรุปได้เช่นนั้น
คืนนั้นเลย์พอจะทราบเรื่องราวคร่าว ๆ ว่าทางบ้านของลู่หานไม่ค่อยพอใจที่ลู่หานมาเป็นเด็กฝึกหัด ครอบครัวของลู่หานหวงคนน่ารักนี่อย่าบอกใคร ก็แน่ล่ะ ดูจากภายนอกแล้วก็คุณหนูดี ๆ นี่เอง แต่หลังจากรู้จักกันไม่นาน เขาก็พอจะรู้นิสัยใจคอว่า คนน่ารักคนนี้ไม่ใช่มีดีแต่หน้าตาเท่านั้น ความตั้งใจในสิ่งที่รับปากและมุ่งมั่นว่าจะทำนั้น ก็ทำให้เลย์ทึ่งอยู่ไม่น้อย....
คนที่ให้คำปรึกษาได้ดีก็คงไม่พ้นไค เพราะขานี้ก็คุณหนูเช่นกัน พื้นฐานของครอบครัวไคนั้น ก็มีฐานะพอสมควร เห็นอย่างนี้ก็ลูกชายนักการเมืองเลยทีเดียว หากแต่ทางบ้านของไค มักจะตามใจให้ไคทำในสิ่งที่ชอบและพร้อมที่จะสนับสนุน
ไม่แปลก...ที่ไคจะเป็นทุกข์เป็นร้อนอยากจะเข้าไปช่วยอธิบายให้ทางบ้านลู่หานเข้าใจ
"ฉันนอนข้างล่างก็ได้"
สองคนนี้ยังเถียงกันในเรื่องเดิมตั้งแต่เขาเดินเข้าไปอาบน้ำ แถมกลับออกมาก็เห็นไคถูลู่ถูกังลากคนตัวเล็กขึ้นเตียงให้ได้
"นายตัวนิดเดียว เตียงแค่นี้ไม่เบียดหรอกน่า"
นั่นสิ....ถ้าจะยกเตียงเขาให้ลู่หานไป แล้วเขาไปนอนเตียงเดียวกับไค มันคงจะแน่นพิลึก
"เกรงใจอ่า นอนข้างล่างดีกว่า"
"เลิกพูดได้แล้วนอน ๆ" ไคดันร่างบาง ๆ ของลู่หานให้ชิดกำแพงด้านใน ส่วนตัวเขาก็หันมามองอีกคนที่กำลังยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า แล้วเดินมาล้มตัวลงที่เตียงอีกฝั่งของห้อง
ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งที่ลงข้าง ๆ เตียง
"ไม่สบายหรือเปล่า ดูเงียบ ๆ"
ไคก็ยังเป็นไค ยังเป็นคนที่คอยห่วงใยอยู่เสมอ คนที่มีความสุข ได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองชอบ คนที่มีคนคอยสนับสนุนอยู่เสมอ มักจะมีความใจดีเผื่อแผ่มาถึงคนอื่นด้วย....ไคคือคนเช่นนั้น
"ไม่เป็นไรหรอก แค่อดนอน คุยกับแม่จนเพลิน"
"พรุ่งนี้เล่าให้ฟังบ้างสิ ยายบ่นถึงฉันหรือเปล่า แล้วแม่นายทำไรให้กิน พรุ่งนี้ค่อยเล่านะ"
ปกติแล้วถ้าไคไม่ได้กลับไปที่บ้านเขาด้วย ก็จะมาเซ้าซี้ให้เขาเล่าโน่นเล่านี่ถึงเรื่องที่บ้านให้ฟัง ไคชอบที่จะฟังเรื่องของครอบครัว ที่บ้านไคก็อยู่รวมกันหลายคน เขาบอกเช่นนั้น การที่เขาต้องมาอยู่คนเดียวกับเพื่อนร่วมห้องอย่างนี้ อาจจะทำให้ไคเหงา ๆ ไปบ้าง แต่ก็เพื่อความฝันเขาต้องยอมตัดคนรอบข้างออกไปก่อน
แต่สำหรับคืนนี้ ไคไม่พร้อมจะฟังเขาเล่า....เกรงใจคนที่หลับไปก่อนหน้านี้น่ะสิ
"ไปนอนได้แล้ว ปิดไฟด้วย" คนนอนอยู่เอ่ยเสียงเบา
หมับ
มือใหญ่ของไคคว้ามือของเจ้าของเตียงมาบีบไว้แน่น
"ราตรีสวัสดิ์นะ ไม่สบายก็เรียกละกัน"
มันคงแปลความหมายในความเป็นห่วงระหว่างเพื่อน...กับเพื่อนสินะ
:
"ฉันคงต้องอยู่เกาหลี"
ไคบอกเบา ๆ
"คงออกไปไกลบ้านบ่อย ๆ ไม่ได้หรอก ฉันเกรงใจพ่อกับแม่ ท่านให้โอกาสฉันขนาดนี้แล้ว ฉันไม่อยากทำให้ท่านเป็นห่วงมากไปกว่านี้"
ถึงเวลาที่เด็กฝึกหัดชุดใหญ่จะเตรียมตัวออกอัลบั้มแล้ว โปรเจคที่วางไว้คือต้องแบ่งกลุ่มออกเป็นสองฝั่ง โดยที่ทำการโปรโมทไปพร้อม ๆ กัน เพลงที่ทำก็เพียงแต่เปลี่ยนภาษาเท่านั้น พวกเราคือหนึ่งเดียว แต่แยกฝั่ง.....
เลย์พูดอะไรไม่ออก เขาเป็นคนจีนในเกาหลี ฝีมือการเต้นของเขาพอ ๆ กับไค ดังนั้น จึงเป็นตัวหลักในการวางตัวให้โปรโมทในประเทศจีน
และเขาคิดว่าไคอาจจะได้ไปด้วยกัน.....
'คิม จงอิน เป็นตัวหลักการเต้นโปรเจคฝั่งเกาหลี'
เลย์หน้าชาเล็กน้อย เมื่อเพื่อนรักเห็นด้วยกับการวางตัวอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
"ลู่หาน ต้องการอยู่โปรเจคไหน?"
"ผมยังไงก็ได้ครับ"
"โอเค งั้นลงฝั่งจีนก็แล้วกัน ยังขาดคน"
การประชุมทุกอย่างเสร็จสรรพ เมื่อสมาชิกร่วมโปรเจคแยกย้ายกันเดินออกจากห้องซ้อมไปหมดแล้ว แม้ว่าจะไม่ครบตามที่ตั้งไว้ แต่คนที่มาก็พอจะคุ้นหน้าค่าตากันหลายคนแล้ว
จากนั้นเลย์ก็ต้องตกใจที่จู่ ๆ ไคก็มีอารมณ์ไม่พอใจอะไรบางอย่าง
ปั่ก!
"ทำไมไม่ปฏิเสธไป!?"
เสียงไคตะคอกดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทำไมไม่อยู่เกาหลี!!??"
กลับไปโปรโมทที่จีนก็น่าสนใจอยู่ อย่างน้อยมันก็เป็นบ้านเกิดของเลย์
แต่ไคไม่ได้อยากรู้เรื่องของเลย์หรอก เพราะเขายืนประจันหน้ากับร่างบางทีเอาแต่หลบตา ไม่ตอบคำถาม....
"มันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม??"
พวกเขายังคงไม่ลืมหรอกนะ ว่ายังมีอีกคนที่ยังนั่งอยู่ภายในห้องซ้อมใต้ดินแห่งนี้
"ฉันยังไงก็ได้ ถึงจะกลับจีน นั่นมันก็บ้านฉันนะ"
"แล้วถ้าห่างกัน นายไม่นึกถึงฉันบ้างหรือไง???"
ถ้าคำถามนั้น ถามเลย์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นล่ะก็ เลย์คงจะมีคำตอบให้อย่างไม่ต้องถามซ้ำอีก หากแต่อีกคนไม่ได้ให้คำตอบแก่คนที่อยากรู้
"ลู่หาน นายลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้วใช่มั้ย?"
"ลืมไปซะเถอะ ฉันมันใจง่ายเอง"
"พวกนาย......"
สองคำที่เตือนสติว่ายังมีอีกคนที่อยู่ในห้องนั้น
"..........................." เพื่อนรักของเลย์ได้แต่มองตรงไปยังร่างบางอย่างไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เลย์อยากรู้
"นายกับลู่หาน....?"
เลย์ย้ำถามต่อหน้าอีกครั้ง หากแต่อาการหลบหน้าหลบตาเขาแบบนั้น มันคือคำตอบที่ทำให้เลย์เข้าใจในทันทีว่าไคไม่ปฏิเสธในคำถามที่เขาสงสัย
นี่หรือคือสาเหตุที่ีระยะหลังไคไม่ค่อยสนใจอยากที่จะกลับบ้านไปพร้อมเขา...และนั่นก็เป็นสิ่งที่ตอนนี้มันเกินจะรับไหว เลย์หันหลังจะก้าวขาออกไปจากห้องที่แสนจะอึดอัดนั้น หากแต่เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นมาเสียก่อน
"เลย์!"
"ฉันรู้นะว่านายไม่พอใจฉัน!"
คนที่ฟังตัวชาดิก ไม่หันกลับมาแย้งในสิ่งที่โดนกล่าวหา
"ไหน ๆ เราก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ฉันไม่อยากมีเรื่องค้างคาใจ นายไม่พอใจที่ฉันมาแทรกระหว่างนายสองคนใช่มั้ย"
"จริงหรือเลย์?" เสียงไคถามอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
"ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น ลู่หาน นายคิดมากไปแล้ว" เลย์ฝืนยิ้ม นอกจากจะพยายามสงบใจลงแล้ว ยังต้องพยายามไม่ให้คนที่ดูแสนบอบบางคนนั้นเข้าใจผิดอีก
"ไม่จริง! นายไม่เคยยิ้มให้ฉันเลยสักครั้ง ทุกครั้งที่เข้าห้องนาย นายไม่เคยคุยกับฉันเลย นายไม่เคยมองฉันเป็นเพื่อน!"
คนตัวบางที่แสนจะคิดมากเสียจริง ๆ
"นายชอบไคใช่มั้ยเลย์?"
คิดในเรื่องที่แทงใจซะด้วย
เลย์หันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ไว้ใจมากที่สุด ดวงตาสีดำเข้มนั้นมองกลับมาหาเขาอย่างอยากรู้คำตอบ
"....ไม่"
เลย์ส่ายหน้าพร้อมเอ่ยออกมาเบา ๆ
"ถามอะไรแบบนั้น ฉันกับเลย์เป็นเพื่อนกัน" ไคเดินก้าวเข้ามาหาลู่หาน ในขณะที่ร่างบางถอยหลังไป
"ถ้าฉันมาทีหลัง ฉันก็ไม่อยากแย่งใคร...." ลู่หานพูดเสียงสั่นเครือ ยิ่งทำให้หัวใจของอีกสองคนแทบจะหล่นลงตาตุ่ม
เลย์อยากจะเดินเข้าไปกอดปลอบ เมื่อน้ำตาของร่างบางค่อย ๆ ไหลลงมา
"...ลู่หาน"
แต่มันคงจะไม่สำคัญอะไร เพราะคนที่เข้าไปโอบร่างบาง ๆ ไว้ในอ้อมแขนก่อนนั้นคือเเพื่อนสนิทเขาเอง
"ปล่อย ฉันไม่อยากทำให้ใครเสียใจ ฉันจะไปเอง นายไม่ต้องมาสนใจฉันเลย"
"ชูว์....ชู่ววว"
เลย์ยิ้มออกมาจาง ๆ เมื่อเห็นเพื่อนที่กำลังพยายามปลอบใจคนที่กำลังร้องไห้อยู่
'นายชอบไคใช่มั้ยเลย์?'
'.......ไม่'
ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย....
หากแต่ภาพที่สองคนกอดกันกลม มันยังติดตาเขามาจนถึงตอนนี้ เด็กหนุ่มมองออกไปจากหน้าต่างราวกับจะผลักภาพนั้นให้ไกล ๆ ออกไป แต่มันกลับยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
ไม่...เขาไม่อยากทำลายกำแพงระหว่างเขากับไค
ไม่...ไม่ใช่หรอก นายไม่ได้มาทีหลังหรือแย่งใครหรอก เพราะเลย์รู้ดีว่าไคไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่แรก
ไม่...ไม่สามารถเข้าไปแทรกระหว่างสองคนนั่นได้เลย.....
เลย์เงยหน้าให้น้ำอุ่น ๆ ไหลย้อนกลับเข้าไปในดวงตา เมื่อได้ยินเสียงคนเดินบันไดลงมา
เขาละสายตาจากหน้าต่างบานใหญ่แล้วเดินขึ้นไปโดยไม่ได้ใส่ใจว่าจะมีใครเดินลงมาด้านล่างนี้
"ขอโทษครับ ห้องซ้อมไปทางไหนครับ?"
ร่างสูงกว่าเขามากนัก มองตรงมาอย่างต้องการคำตอบ
"เดินลงไปแล้วเลี้ยวซ้าย"
เลย์พูดเบา ๆ เขาไม่รู้จักหรอกว่าใครเป็นคนถามเขา และไม่รู้หรอกว่า คนตรงหน้าเขาต้องการถามไปเพื่ออะไร
"ขอบคุณครับ"
เพราะตอนนี้เขายังมองภาพเจ้าของเสียงนี้ยังไม่ชัดเลย
"เฮ้...คุณร้องไห้?"
-จบตอน-
พระเอกมาตอนจบ อิอิ
ยังมีเรื่องราวจากนี้อีก ไว้มาโพสต์เร็ว ๆ นี้นะคะ
>/////<
รักน้องลู่รัว ๆ และพร้อมแอนตี้ฉิงค่ะ 5555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น