ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KRAY 's ShortFic รวมเรื่องสั้น

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Love in Thailand . . . with KrisLay (end)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 56


    Love in Thailand . . . with KrisLay



     
     
     
    "ลู่หาน นายทำไรอยู่?"
     
    "ชู่ววววว" ร่างบางเจ้าของชื่อทำมือห้ามไม่ให้คนมาใหม่ส่งเสียงดัง ก่อนจะพยักเพยิดไปยังห้องนั่งเล่นในหอ
     
     
     
    "...................."
     
     
     
    สองหนุ่มที่อยู่ในห้องนั้นกำลังทำหน้าเคร่งเครียดกันอยู่สองคน น้ำเสียงแว่ว ๆ บ่งบอกถึงความไม่พอใจในอีกฝ่าย
     
     
     
    "ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูดกัน!"
     
     
    "จะตัดบทดื้อ ๆ ใช่มั้ย เลย์!?"
     
    เสียงทุ้มส่งตามหลังเมื่ออีกฝ่ายที่ยืนด้วยกันอยู่เมื่อกี้หันหลังควับแล้วเดินจากไป
     
     
    คริสกระแทกตัวลงบนโซฟาอย่างแรงด้วยความโมโห ก็รู้อยู่หรอกว่าเลย์มีเหตุผลที่เพียงพอ แต่ใจมันไม่ได้เชื่อตามที่ปากบาง ๆ นั้นบอกเลยสักนิด
     
    มือใหญ่กำแน่นแล้วทุบบนที่เท้าแขนเบา ๆ
     
     
     
    "เฮ้ เป็นอะไรไป?"
     
    ซิ่วหมิ่นที่เดินเข้ามา ถามไถ่คนที่มีอาการหงุดหงิดค้างอยู่
     
     
    "เปล่า"
     
     
    แม้ว่าร่างสูงจะตอบเสียงห้วน แต่ซิ่วหมิ่นก็เข้าใจดีกว่ามันตรงข้ามกับความเป็นจริง เขาพอรู้จากลู่หานคร่าว ๆ ถึงเรื่องที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน
     
     
    "อารมณ์เย็นหน่อยน่า นายเป็นหัวหน้านะ จะเอาเรื่องแค่นี้มาทะเลาะกันทำไม"
     
     
    "ก็มันน่า......." คริสมองไปทางลู่หานแล้วก็เงียบลง
     
    รู้อยู่เต็มอกว่าจะพูดว่าอะไรเลย์ไม่ได้ถ้ามีลู่หานอยู่ด้วย สองคนนี้เค้าซี้กันอย่างกับอะไร แล้วตอนนี้ตากลม ๆ ก็จ้องเขาอย่างเอาผิด คริสไม่เสี่ยงจะต่อว่าใคร เพราะถ้าลู่หานไม่พอใจขึ้นมา เดือดร้อนที่เขาจะต้องทำดีแก้ตัวไปอีกหลายวัน
     
     
    "เฮ้อ เบื่อ ไปหาอะไรดูดีกว่า"
     
    ชายหนุ่มลุกขึ้น กะจะไปให้พ้นสองคนนี้ พูดอะไรไปเขาก็คงผิดอยู่ฝ่ายเดียว เพื่อนรักกันน้อยซะเมื่อไหร่ = = อย่าว่าแต่ลู่หานเลย ซิ่วหมิ่นเองก็เหอะ รักเลย์อย่างกะอะไรดี
     
     
     
    ป้าบ!
     
    ซิ่วหมิ่นฝากรักไปหนึ่งทึ ก่อนจะเอ่ยไล่หลัง
     
    "จะไปไหนก็ไป ไปทำหัวให้เย็นลง แล้วก็อย่าทำตัวหวงคนอื่นให้มาก พวกนั้นก็แค่คู่ซ้อม"
     
     
    คริสหันมาทำหน้าไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ ตาโตเท่าไข่ห่านจ้องเขาจนขนลุกไปหมดแล้ว
     
     
     
     
    "เรื่องไร้สาระจริง ๆ ท่านหัวหน้าเราเนี่ย"
     
     
    "เค้าเรียกว่ารักมากก็หวงมากน่า หนูเลย์ของเราก็น่ารักน้อยซะเมื่อไหร่ ไม่แปลกใจที่ทำไมใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้"
     
    "ถ้ามีคนที่รักแล้วเข้าใจยากแบบนี้ ฉันอยู่เป็นโสดดีกว่า"
     
     
    "ฮ่า ๆ เสี่ยวลู่น้อยเอ๊ยยยย เคยส่องกระจกบ้างไหม?? หือ??"
     
    ลู่หานคงคิดว่าอย่างเขาคงจะรอดปากเหยี่ยวปากกาน่ะสินะ ซิ่วหมิ่นสายหัวเพื่อนอย่างเอ็นดู
     
     
     
     
    "เอาล่ะ นี่เป็นตารางงานที่เมืองไทย ทุกคนอ่านและทำความเข้าใจ มีอะไรก็ถามฉันก็แล้วกัน"
     
     
    "ทำไมไม่ให้ไปพร้อม ๆ กันนะ ฉันคิดถึงชานยอล แพคน้อยแย่สิ"
     
    เสี่ยวลู่ทำหน้ายู่ บ่นพึมพำ ทั้ง ๆ ที่ก็เพิ่งซ้อมด้วยกันมาเมื่อคืน ไม่รู้พวกนี้เข้าขาอะไรกันนักหนา
     
     
     
    "ก็ตามมาแค่วันเดียว" เสียงคริสบ่นเข้ม
     
     
    "ไหนดูสิ ตารางมีว่างบ้างไหม พวกเราจะได้ไปรับ"
     
    เสี่ยวลู่ยั่วโมโหท่านหัวหน้าด้วยการเปิดกระดาษไปมาตบท้ายคำถามด้วยความหมั่นไส้
     
     
    "เนอะเลย์เนอะ"
     
     
    เลย์เหลือบตามมองคริสแว่บนึง ก่อนจะนิ่งไป
     
     
    "ถ้าไม่มีอะไร ฉันเตรียมไปซ้อมก่อนนะ"
     
    เลย์ลุกไปจากที่ประชุมตรงนั้น ก่อนที่คริสจะแจ้งว่าถ้าไม่มีอะไร เขาจะไปอ่านหนังสือที่ห้อง
     
     
    ที่ห้อง....เลย์
     
     
     
     
    "ทำไมไม่หยุดสักวัน"
     
    เสียงทุ้มถามมือทั้งสองยกขึ้นกอดอก
     
     
    "วันสุดท้ายแล้ว นัดไว้ว่าจะไปซื้อของด้วย"
     
     
    "กับใคร?"
     
     
     
    "กับไค"
     
     
     
     
    คริสเดินเข้ามาจับที่แขนของอีกฝ่ายไว้แล้วจ้องตามเขม็ง
     
    หากแต่เลย์ก็จ้องกลับอย่างไม่กลัวเกรง จนคริสรู้ตัวว่ายิ่งแข็งใส่เลย์ก็คงไม่มีประโยชน์
     
     
    "ไม่ไปไม่ได้เหรอ?"
     
    เมื่อน้ำเสียงยอมอ่อนให้ อีกฝ่ายเลยไม่ได้แข็งขืน
     
     
    "นัดไว้แล้ว"
     
     
    "ก็เลื่อนไปก่อนสิ บอกว่า ต้องเตรียมตัวพักผ่อน หรืออะไรก็ได้ที่...ที่ไม่ต้อง..."
     
     
     
     
    "ก็นัดไว้แล้ว และก็ไปกันหลายคน ไม่ได้ไปแค่คนสองคน"
     
     
    "อ้าว แล้วทำไมไม่บอก นึกว่าไปสองต่อสอง...."
     
     
    "ก็ถามไหมล่ะ?" เลย์หน้านิ่งค้อนให้ ต้นเหตุที่ต้องมามึนตึงกันอยู่อย่างนี้ ก็เพราะไม่พูดไม่คุยกันดี ๆ ไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเขาหรอก ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ไม่มีอะไรสักหน่อย
     
    ร่างสูงกว่าที่เพิ่งเข้าใจก็แสดงอารมณ์ขุ่นมัวไปเท่าไหร่แล้ว ทอดสายตาสงบลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากหลบตาที่สื่อความหมายบางอย่างเท่านั้น
     
    มือใหญ่คว้าร่างที่ห่างตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะประคองใบหน้าด้วยสองมือ
     
     
    "ไปด้วยนะ"
     
     
    น้ำเสียงออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยคิดว่าท่านหัวหน้าวงจะพูดได้ ทำเอาเลย์หลุดยิ้มขำ
     
     
    "แล้วใครห้ามครับท่าน"
     
     
     
    น่ารักแบบนี้ให้รางวัลสักทีสิน่า.....
     
     
     
     
     
     
    เมืองไทย เมืองแห่งรอยยิ้ม
     
     
    "ไม่คิดว่าคนไทยจะมารับเลยเนอะ"
     
    "นั่นสิ ตกใจมาก" ซิ่วหมิ่นกับลู่หานนั่งทำตาโต ตกใจกับสถานการณ์ที่สนามบินเมื่อกี้ 
     
     
    พวกเขาเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก มีตารางงานแฟนไซน์และโชว์ตัวตามรายการต่าง ๆ ตลอดเวลาทั้ง 3 วัน โดยที่ยังไม่แน่ใจว่าแฟนคลับในประเทศไทยนั้นมากน้อยแค่ไหน
     
    บนรถตู้ต่างคนต่างก็ตื่นตาตื่นใจกับวิวด้านนอก และก็ชี้ไม้ชี้มือพูดคุยไปตามที่ใจอยาก
     
     
    "นี่....สองคนนั้นยังไม่ดีกันอีกเหรอ?"
     
    "ดีกันแล้ว เมื่อคืนท่านหัวหน้าก็ออกไปด้วยนะ แต่ทำไมเมื่อเช้าเงียบกันอีกแล้ว"
     
    ลู่หานบอกกับซิ่วหมิ่นเบา ๆ ก่อนจะทำหน้ายู่
     
    "ก็....เลย์เดินยกมือไหว้มาตลอดทาง ตามที่ไคสอนมาไง"
     
     
    "หา? ไคเป็นคนสอนมาเหรอ? แล้วน้องมันรู้ได้ไงว่าที่นี่เค้าไหว้กันยังไง?"
     
    ซิ่วหมิ่นทำตาโตเท่าที่ทำได้ และส่งเสียงดังจนลู่หานต้องปรามด้วยสายตาเอาไว้
     
     
    "อย่าพูดย้ำสิ ก็ไครู้มาจากแทมินอีกทีไง วงนั้นเค้าเคยมาที่นี่อ่ะ"
     
     
    "อ่า.... ท่านหัวหน้าเลยไม่พอใจสินะ"
     
     
    "คงงั้น" สองคนกระซิบด้วยความเป็นห่วงกึ่งนินทา หากแต่สองคนหลังที่นั่งอยู่รั้งท้ายในรถตู้ กลับหันหน้าไปคนละทาง
     
     
    จนมาถึงครึ่งทาง ท่านหัวหน้าของวงจึงยอมเอ่ยปาก
     
     
    "เจ็บไหม?"
     
     
    "..........." ไม่มีคำตอบแต่ส่ายหน้า
     
     
    คริสหันไปจับแขนข้างขวาของเลย์ เขาดึง...ไม่สิ กระชากแขนอย่างแรงเลยต่างหากเมื่อตอนที่เดินออกจากสนามบิน ก็เพราะเขาแอบเห็นว่าแฟนคลับกำลังกรูเข้ามาใกล้ตัว และหมอนี่ก็รู้อยู่ว่าไม่ค่อยสนใจอะไรอยู่แล้ว
     
    เขาอาจจะรุนแรงไปหน่อย ถึงได้นั่งหน้านิ่งเงียบอย่างนี้
     
     
     
    "................." คริสอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออกสักที จนกระทั่งเลย์หันมา
     
     
    "ไม่เป็นไรหรอกน่า"
     
     
     
    "ไม่ต้องไหว้บ่อยก็ได้นะ"
     
    คริสบ่นเบา ๆ เลย์ไม่ได้สนใจในคำบ่นนั้น เขาเองก็รู้สึกว่า การไหว้เป็นการแสดงออกที่น่ารักอย่างที่ไคบอกมาจริง ๆ เห็นรอยยิ้มของแฟนคลับที่ได้เห็นเขาไหว้แล้วก็ชื่นใจดี
     
     
     
     
     
    "เป็นไรมากเปล่า?" ลู่หานเดินเข้ามาหาเลย์ในห้องแต่งตัว ร่างบางแสดงอาการแปลก ๆ จนเป็นที่กังวล หลังจากไปอัดรายการในช่วงเช้า
     
     
    "ไม่รู้ ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่"
     
     
     
    "อืม หายาทานไหม?" ลู่หานแกล้งพูดให้เสียงดังเข้าไว้ เผื่อว่าคนที่สนใจอยากจะฟังคำสนทนาจะได้จัดการหาหยูกยามาให้
     
     
    "คงจะหายไว"
     
    ลู่หานอมยิ้ม เมื่อนั่งถามไถ่อาการได้สักพักแล้วเห็นเงาสูง ๆ ในกระจกเดินเข้ามา ถ้ามองไม่ผิดในมือถือแก้วน้ำมาด้วย อิอิ แล้วก็ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับท่านหัวหน้าขี้เก๊ก ก่อนจะสะบัดหน้าแลบลิ้นล้อ
     
     
    "กินซะหน่อย จะได้ดีขึ้น"
     
    "........" เลย์รับยาจากมือคริส เอาเข้าปากแล้วก็จิบน้ำตาม
     
     
    "ถ้าไม่ดีก็พักซะ"
     
     
    "ไม่เป็นไร" เลย์พยายามบอก เพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นกังวล แต่สีหน้าไม่ได้ดีอย่างที่ปากว่าเลย
     
     
    "อย่าฝืนเลยน่า" มือใหญ่ ๆ วางบนศีรษะแล้วอดไม่ได้ที่จะลูบไปมาเบา ๆ
     
    เลย์เงยหน้ามายิ้มให้กับความอ่อนโยนที่หัวหน้าวงมีให้
     
     
    ก่อนจะจับมือนั้นให้ความมั่นใจ
     
    "ไม่เป็นไรง่าย ๆ หรอก เดี๋ยวเย็นนี้ก็ต้องซ้อมกันครบแล้ว"
     
     
    พอพูดถึงอีกฝั่งขึ้นมา ท่านหัวหน้าก็อารมณ์ขึ้นขึ้นมาทันที
     
     
    "กลัวใครบางคนเป็นห่วงรึไง ถึงได้ฝืนแบบนี้?"
     
    "คริส....ทำไมพี่พูดแบบนั้น"
     
     
    "เสียดายนะที่นายไม่สบายอย่างนี้ ไม่งั้นนายคงไปรับหมอนั่นที่สนามบินได้?"
     
    นี่ก็...ถ้าได้ขึ้นแล้วลงยากแฮะ
     
     
     
    "พี่คริส!"
     
     
    "หรือที่แท้นายสำออยเพื่อจะเรียกร้องความสนใจจากใคร?"
     
     
     
     
    "คิดบ้าอะไรเนี่ย?" ร่างบางถึงกับต้องลุกขึ้นแล้วตรงเข้าผลักเข้าที่อกชายหนุ่ม
     
    หากแต่สองมือของท่านหัวหน้ากระชับมือที่เหวี่ยงมาได้ซะก่อนที่จะกระซิบถาม
     
     
    "ฉันคิดถูกใช่มั้ย?"
     
     
    "จะไปบ้าที่ไหนก็ไปเลยไป!"
     
    เลย์ผลักอกอย่างแรง แล้วเดินหนีออกมาจากอารมณ์กระพือโหมอย่างไร้สาระนั่น ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ไร้สาระที่สุด ไม่ไว้ใจกันบ้างหรือไงนะ!!?? 
     
    เลย์เดินลิ่วไปยังหน้าห้องพักของลู่หานและซิ่วหมิ่น ก่อนจะหยุดเพื่อปรับอารมณ์แล้วเคาะประตูเข้าไป
     
     
    อีกฝ่ายที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรงี่เง่าออกไป ก็ได้แต่ยืนนิ่งรับสภาพที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้อง จนเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
     
     
    "ก็พูดอย่างนั้น ใครจะทนได้ล่ะ"
     
    ซิ่วหมิ่นเดินเข้ามาแล้วกอดอกประจันหน้ากับร่างสูง
     
     
     
    "เมื่อไหร่จะเลิกค่อนขอดน้องมันซะที"
     
     
    "ก็...."
     
     
    "นี่ มากไปมันก็น่าอึดอัดนะ ถ้านายเป็นอย่างนี้บ่อย ๆ น้องมันจะไม่สบายใจที่จะอยู่ด้วย ที่ตรงไหนอยู่แล้วสบายใจ ก็น่าอยู่กว่ามั้ยล่ะ คิดดี ๆ ละกัน"
     
    ใบหน้ากลมถอนหายใจแล้วเดินผละออกมา ซิ่วหมิ่นไม่รู้ว่าสองคนนี้ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร แต่เมื่อบังเอิญมาได้ยินเรื่องที่คริสกล่าวหาแล้วก็พอจะเดาได้ว่า คนที่อยู่อีกฝั่งของวงต้องโดนพาดพิงอยู่แน่ ๆ สองคนนั้นสนิทกันก็จริง เพราะต้องเป็นคู่ซ้อมกันบ่อย ๆ จนป่านนี้แล้ว คริสยังไม่มั่นใจอะไรในตัวน้องชายของเขาอีกนะ
     
     
     
     
    "ไคมาขอคบหรือยัง?"
     
    คำถามนึงที่จู่ ๆ ลู่หานก็ถามโพล่งขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
     
     
    "เฮ้ย ไปเอามาจากไหน ผมกับไคคุยกันธรรมดาน่า"
     
    "จริงเหรอ??" ลู่หานนี่ก็ร้ายชะมัด ทำหน้าตาเหมือนไม่เชื่อ แถมยังกระแซะหาคำตอบอีก
     
     
    "ไม่มีอะไรจริง ๆ"
     
     
    "หน้าแดงนะ!.....ไม่เผลอใจกันบ้างหรือไง เจ้าไคออกจะหล่อนะ"
     
     
    "พี่ก็เอาเองป้ะ"
     
    สมน้ำหน้า เป็นไงล่ะ โดนน้องมันตอกกลับเข้าให้
     
     
     
    "อี้ชิง ถ้าพูดไม่สวยแบบนี้ ฉันจะงอนล่ะนะ"
     
    ขานี้ก็ลูกเล่นแพรวพราว วิธีงอนมาขู่แบบนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องยอมศิโรราบ
     
     
    "โอเค ๆ ผมขอโทษ ผมล้อเล่น พี่ก็อย่ามาล้อเรื่องผมกับไคดิ"
     
     
    "อ๋อ หัวใจไม่ว่างสินะ"
     
    กวางน้อยของพวกเราทำตาวิ้ง ๆ จนน้องหน้าเหว๋อไปเลย
     
     
     
     
    "อะ...อะไร"
     
     
     
     
    "อย่ามาปิดเลยนะ คบกับตุ้ยจ่างก็บอกมาเถอะ"
     
    "ปะ...เปล่านะ"
     
     
    เด็กหนอเด็ก ยังมีหน้ามาปฏิเสธอีก ไม่รู้ตัวเหรอว่าเค้ารู้กันหมดแล้ว นี่ลู่หานมาเช็คความถูกต้องเลยนะเนี่ย
     
    "หลอกใครได้ก็หลอกไป หลอกใจตัวเองได้หรือไง เฮอะ"
     
     
    "ไม่เอาแล้ว พูดกับพี่แล้วไม่รู้เรื่อง ผมไปซ้อมล่ะ"
     
     
    "ตุ้ยจ่างเราก็เต้นเก่งน้า~ ไม่เห็นต้องลำบากคนอื่นเลย"
     
     
    หนูน้อยเลย์หันมาหน้าเหวออีกครั้ง ก่อนจะวิ่งหิ้วกระเป๋าออกไปพร้อมใบหน้าแดง ๆ ทิ้งเอาพี่ ๆ สุดที่รักยิ้มขำอยู่ในห้อง
     
     
    "ร้ายไปนะ"
     
     
     
    ซิ่วหมิ่นยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงวันนั้น วันที่แหย่น้องอย่างมีความสุข แต่มาวันนี้ไม่คิดเลยว่าทำไมสองคนนั้นถึงไม่เข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายสักที
     
     
    ตกเย็นยิ่งเป็นเรื่องเครียดของสองเพื่อนซี้ประจำวงเข้าไปอีก
     
     
    "ป่านนี้แล้ว น้องยังไม่คุยด้วยอีกเหรอ?"
     
     
    "อืม"
     
    คริสเงยหน้ามองสองคนที่ยืนแยกเขี้ยวใส่
     
     
    "แล้วทำไมไม่ง้อน้องล่ะ" ซิ่วหมิ่นยังไล่เบี้ยอยู่
     
     
    "นายก็เห็นว่าหมอนั่นเมินฉันแค่ไหน"
     
     
    "ก็แน่ล่ะ สมน้ำหน้า" ลู่หานยื่นหน้ายื่นตา รู้สึกสะใจเล็ก ๆ เมื่อนึกถึงตอนให้สัมภาษณ์ ไม่ว่าท่านหัวหน้าจะยื่นไมค์ ส่งเสียงเรียก หรือสะกิดเลย์สักแค่ไหน น้องก็ไม่ได้ให้ความสนใจ กลับตีหน้านิ่งราวกับอีกฝ่ายไม่มีตัวตน
     
    นึกแล้วก็น่าสงสารอยู่หรอก ปกติแล้วคู่นี้หยอกล้อกันออกอากาศอย่างกับจะประกาศให้คนทั้งโลกได้รู้กันทุกรายการ มีวันนี้แหละที่รู้สึกว่าเลย์ไม่ได้มาออกรายการด้วย =___=
     
     
    "น้องอาจจะไม่สบายก็ได้ ดูนิ่ง ๆ ไปตั้งแต่บ่ายแล้ว"
     
     
    "คงโกรธที่ฉันไม่ให้ไปรับฝั่งโน่นล่ะสิ"
     
     
    "ท่านหัวหน้า! ถ้าคิดแบบนั้นอีกครั้งเดียว จะยุให้เลย์ไม่สนใจไปตลอดชีวิตนะ!"
     
    ลู่หานเริ่มจะทนไม่ได้กับความงี่เง่าของหัวหน้า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องถึงได้เบื่อขี้หน้า ไม่อยากคุยด้วยขนาดนี้
     
    "ก็เพราะเป็นอย่างนี้แหละ คืนนี้ไล่เจ้าเฉินไปนอนกับเทาเลยนะ" ซิ่วหมิ่นบอกแผนการให้แบบซึ่งหน้า
     
     
     
    หลังจากไปอัดรายการรวมกันทั้งวง สองฝั่งนักร้องเกาหลีและจีนก็แยกย้ายกันกลับห้องพัก
     
    มือที่ค้างอยู่หน้าบานประตูต้องลดลงแนบตัว ก่อนจะมองหน้าคนเปิดแล้วเอ่ยตะกุกตะกัก
     
     
    "ฉัน...เอ่อ ได้ยินว่าเทาซื้อเกมใหม่มา คือ...เอ่อ เลย์...ไม่ค่อยสบาย?"
     
     
    "โอเค ครับท่านหัวหน้า" เฉินวิ่งโร่ไปหาน้องเล็ก โดยที่ไม่ต้องฟังเหตุผลอะไร เพราะรู้จากซิ่วหมิ่นอยู่แล้วว่าคืนนี้ท่านหัวหน้าจะมาอยู่ดูแลเลย์
     
     
    ร่างสูงเก้ ๆ กัง ๆ อยู่พักนึงก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เมื่อมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นร่างเล็กนอนอยู่บนเตียง เลยเดินเข้าไปสำรวจใกล้ ๆ ห้องน้ำ

     
     
    กริ๊ก
     
     
     
    "อ่า...มาดูว่าโอเคหรือยัง?"
     
    ด้วยว่าประจันหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว คริสเลยต้องเอ่ยปากไปเช่นนั้น อีกฝ่ายยังไม่ได้ตอบอะไร แค่ตีหน้านิ่งเหมือนจะรอให้คำตอบว่าคนที่มาต้องการอะไรอีก
     
    แต่เมื่อเห็นแววตาอยากรู้อยากเห็นแล้วก็เลยต้องแจ้งแถลงไขไป
     
     
    "ก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ปวดท้องด้วย"
     
     
    "แล้วกินเข้าไปทำไม รู้อยู่ว่ามันรสจัดอย่างนั้น" เลย์ที่แอบนั่งทานอาหารไทยในรายการตอนอัดเสร็จ รสชาติแปลก ๆ ไม่น่าไว้ใจยังจะกินเข้าไปเยอะอีก
     
    ปากพูดไปมือก็เนียนดึงผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหัวให้ หนูเลย์ของพี่ ๆ ก็ยืนนิ่งทำหน้างง ๆ ปล่อยให้ท่านหัวหน้ากระทำชำเรา(?)กับศีรษะของตัวเองไปเรื่อย ๆ
     
     
    "ตัวยังรุม ๆ อยู่นะ"
     
    มือใหญ่เท่าใบลานโพธิ์(?) อังที่หน้าผากแคบ
     
     
    "ไม่เป็นไรแล้ว"
     
    เมื่อคนที่ตัวเล็กกว่าไม่เชื่อ ร่างสูงจึงขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเพื่อทดสอบ คราวนี้ไม่ใช่แค่มือ แต่คริสใช้หน้าผากของตัวเองกดลงที่หน้าผากอีกฝ่าย ที่ต้องยืนนิ่งเมื่อแขนทั้งสองข้างประคองเข้าไว้แนบตัว
     
     
    "คราวนี้ร้อนจริง ๆ นะ"
     
    ฝ่ายที่ครั่นเนื้อครั่นตัวส่ายหน้ากับการทดสอบที่ไร้สาระแบบนั้น ในความคิดอยากจะเถียงอะไรออกไปบ้าง แต่ก็ไม่ทัน.....
     
     
     
     
     
     
     
    "................................."
     
     
     
    "ปากก็ร้อนด้วย"
     
     
     
    จบกัน....
     
    จะโกรธก็โกรธไม่ลง ออกแนวหมั่นไส้แรง ๆ มากกว่า ทำไมช่วงนี้ถึงได้ทำตัวได้งี่เง่าอย่างนี้นะ เขาตามไม่ทันเลยจริง ๆ
     
     
    "ง่วงแล้ว"
     
    ร่างสูงจึงปล่อยมือข้างหนึ่งที่จับไหล่แล้วประคองให้น้องเดินไปที่เตียง
     
    ก่อนจะขยับผ้าห่มให้
     
     
    "พักซะ"
     
    แม้จะพูดอย่างนั้น แต่คนที่นอนอยู่ก็ส่งตาแป๋วมาอย่างมีคำถามมากมายที่อยากจะเอ่ย
     
     
     
    "..........................."
     
     
     
    "มาใจดีทำไม"
     
     
    คริสไม่ตอบ และไม่ได้หันมาสบตา เขาเองก็ยอมรับว่าตอบตรง ๆ ออกไปไม่ได้ว่าเป็นห่วงแค่ไหน ทั้ง ๆ ที่ก่อนนี้ก็มีเรื่องขัดใจกันอยู่ไม่น้อย
     
     
    "ตอบสิ"
     
     
     
    "....เป็น...เป็นห่วง"
     
     
    "ว่าอยู่ทุกวัน จะมาห่วงทำไมกัน"
     
     
     
    "เลย์ นายไม่รู้เลยเหรอ ว่าฉันรู้สึกยังไง?"
     
    เลย์ลุกขึ้นนั่งหลังตรง กะว่าจะคุยกันให้รู้เรื่องสักที ปล่อยให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันลอย ๆ แบบนี้ไม่ได้ มันไม่สบายทั้งตัวและหัวใจ
     
     
     
    "แล้วพี่ล่ะ เคยไว้ใจกันบ้างไหม"
     
     
    "......................." คริสตอบน้องไม่ได้
     
     
    "ไม่เคยฟังกัน แล้วยังมาว่าเหน็บกันอีก ต้องฟังแบบนี้ทุกวันมันเหนื่อยนะ"
     
    คริสตาโต อย่าพยายามพูดอะไรทำนองนั้น หมายความว่าที่เขาเป็นอยู่ทำให้น้องรำคาญมากเกินไปใช่มั้ย?
     
     
    "เอ่อ...ขอโทษ ........ขอโทษจริง ๆ"
     
     
    "ไม่ได้ตั้งใจ?" แต่ก็หาเรื่องแขวะเขาได้ทุกวัน
     
     
     
    "อืม ไม่ได้ตั้งใจจะคิดอย่างนั้น ฉันไม่อยากให้นายให้ความสำคัญกับคนอื่น"
     
     
     
     
    "จะบ้าหรือไง ก็เป็นที่หนึ่งอยู่เนี่ย"
     
    เลย์หมั่นไส้ จึงเขวี้ยงหมอนใส่คนขี้เก๊กสักที
     
     
    ร่างสูงตอบโต้ด้วยการคว้าตัวหนุ่มแสนดื้อเข้ามาใกล้แล้วแทบจะกระซิบถาม
     
     
     
     
    "แสดงว่าจะมีคนต่อ ๆ ไปรึไง?"
     
     
     
     
     
    "คิดได้นะ" สองมือพยายามผลักอกคนที่รวบตัวเองแน่น
     
     
    "ไว้ใจได้ที่ไหน"
     
     
    "ก็ไม่รู้ ถ้าทำตัวหน้าเบื่อมาก ๆ ก็ไม่แน่"
     
     
     
    "นายใจร้ายเกินไปแล้วนะ" คริสกดร่างคนอ่อนแรงลงบนเตียง
     
    "นอกจากจะใจร้ายแล้วยังเมินเก่งอีก ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาเลย"
     
    แล้วเสียงเข้มก็ตัดพ้อต่อร่างบางที่เขากอดอยู่
     
     
     
    "ก็หมั่นไส้ ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง"
     
    "ก็ใครชอบทำให้คิดล่ะ"
     
     
    "ผมทำอะไรล่ะ พี่คิดไปเองมากกว่า"
     
     
     
    "...................................."
     
     
    ต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะยิ้มให้กันและกัน
     
     
     
     
     
     
     
    "ก็......."
     
     
     
     
    เลย์ยิ้มกับคำกระซิบแผ่วนั่น....ก่อนที่ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ค่อย ๆ เขยิบตัวเองขึ้นมาประทับจูบที่เปลือกตา
     
     
    "ไม่ป่วยแล้วใช่มั้ย?"
     
     
    "เฮ้ย........."
     
     
     
    ไม่ทันแล้วล่ะ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ปล่อยความรู้สึกที่มีต่อกัน สื่อสานด้วยการสัมผัสเพื่อให้เข้าใจกันและกันตลอดทั้งคืน
     
     
     
     
    "เฮ้ นี่มันเสื้อผมนี่ พี่เอามาทิ้งทำไม"
     
    คริสหันมามองตามเสียงโวยวาย เสื้อที่เลย์ใส่ไปอัดรายการวู้ดดี้เมื่อวานโดนโยนทิ้งในตระกร้าผ้าใส่แล้ว
     
     
    "จะใส่อีกทำไม ไม่ให้ใส่แล้ว"
     
     
    "เอามาแบบนี้ พี่สตาฟไม่หาแย่เหรอ? เดี๋ยวก็หาว่าผมไม่รับผิดชอบพอดี"
     
     
    "ใครว่าก็มาคุยกับฉันนี่"
     
    คริสเดินเข้ามาใกล้ ก่อนแกล้งผลักให้ร่างเล็กที่ยืนโวยวายอยู่เดินไปทางกระจก
     
     
     
     
    เสียงทุ้มกระซิบเนิบ ๆ ข้าง ๆ หู
     
     
    "ไอ้เสื้อแบบนั้นใส่ไปก็เห็นความลับหมดสิ"
     
     
     
     
    คนฟังเริ่มหน้าแดง ยิ่งมองไปที่กระจกยิ่งเข้าใจลึกซึ้งในสิ่งที่พูดชัดเจน 
     
     
    "ใครใช้ให้ทำแบบนี้!!"
     
    ว่าแล้วก็หันไปโวยวายกับท่านหัวหน้าวงแก้เขินซะงั้น
     
     
     
    "โอ๊ย โอย เบา ๆ เจ็บนะ"
     
    เสียงทุ้มโวยวายลั่นห้อง ก่อนจะสงบศึกแล้วเตรียมตัวไปงานแฟนไซน์ต่อไป
     
     
     
     
     
    "ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ?" ซิ่วหมิ่นเดินมาทักเลย์ ขณะที่ EXO ทั้งวงกำลังเตรียมตัวในห้องแต่งตัว
     
     
    "อืม ฮะ"
     
     
    "อะไร ยาไม่ดีหรือไง?"
     
    ลู่หานแหย่น้อง จนน้องเขิน
     
     
    "ไปแต่งตัวกันเลยไป"
     
     
     
    "ดีแล้ว แต่สีหน้าไม่ดีเลยนะนายว่ามั้ย เกิดอะไรขึ้นนี่ต้องโทษหัวหน้าแล้วล่ะงานนี้"
     
    ซิ่วหมิ่นบอกเพื่อน ซึ่งลู่หานก็เห็นด้วยอย่างสุดซึ้ง
     
     
     
    บรรยากาศพบปะแฟนคลับในประเทศไทยกำลังจะจบลงอย่างสวยงาม
     
     
    "พวกเค้าเรียกนายแน่ะ"
     
    คริสสะกิดให้เลย์หันไปมอง เมื่อแฟนคลับพยายามตะโกนเรียกเลย์ให้ได้ยิน
    พวกเขาต้องการส่งกำลังใจให้ เมื่อเห็นสภาพที่อ่อนล้าของเลย์ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
     
     
    ....ถึงให้นั่งห่างไม่ได้ไงล่ะ
     
     
    นี่ถ้าฟุบลงบนโต๊ะได้คงทำไปแล้ว ไม่สิ ฟุบไปแล้วด้วย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตกใจและเป็นห่วงแค่ไหน แต่ตอนนี้เลย์คงได้กำลังใจจากแฟนคลับมากโข ถึงกับลุกขึ้นยืนแล้วก็ขอบคุณพวกเขาด้วยการไหว้อย่างที่ใครบางคนสอนมาอีกแล้ว....
     
    เอาเถอะ ถือว่าเป็นเรื่องดี
     
    คริสอมยิ้มเมื่อเห็นว่าแฟนคลับเป็นห่วงเลย์จริง ๆ แม้ว่าคนตัวเล็กจะแอบบ่นว่าไม่ค่อยมีใครชอบเขาเลยก็ตาม
     
     
    "โอเคไหม?"
     
    "อืม"
     
     
    ต้องให้ห่วงอยู่เรื่อย แม้ว่าตัวเองจะล้าเหลือเกินแต่ก็ยังเต็มที่กับสิ่งที่ทำเสมอ 
    ร่างสูงต้องคอยเหลือบมองคนที่จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่อยู่นั้น ในช่วงมินิคอน 
    ที่สำคัญ ใครบางคนที่ไม่ค่อยอยากให้เข้าใกล้ก็ใกล้ชิดเลย์มากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ!!
     
    ชั่วแว่บหนึ่งที่เขามองแฟนคลับตะโกนขึ้นมาว่า 'คริสหาน คริสหาน'
    พร้อมกับป้ายเชียร์ที่มีชื่อเขากับเจ้ากวางน้อยโชว์เด่นอยู่นั้น
     
    เลย์หันมามองเพียงชั่วครู่ แล้วก็เมินกลับไป ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปว่าแอบเคืองเขาหรือเปล่า 
     
     
    เพราะตอนที่ตั้งใจจะแทคมือด้วย ก็เมิน....
     
     
     
    "พักซะนะ ห้ามไปไหนทั้งนั้น"
     
    ร่างสูงมากำกับเขาถึงในห้อง เพราะอีกไม่กี่ชม. ก็ต้องเดินทางกลับกันแล้ว
     
     
     
    ก๊อก ก๊อก
     
     
    "........" คริสเปิดประตูแล้วก็ทำหน้าไม่ค่อยถูก
     
     
    "อี้ชิงเป็นไงบ้าง?"
     
     
    อี้ชิง...? สนิทกันถึงขั้นเรียกชื่อเลยอย่างนั้นเหรอ ขนาดกับเขายังเรียกแค่ 'เลย์' เอง
     
     
     
    "ก็ ไม่ค่อยดี หลับอยู่"
     
    พูดสองคำท้ายออกไปก็ตอนที่ไคตั้งท่าจะก้าวขาเข้ามา
     
     
    "อ่า....งั้น ผมไม่กวนแล้วฮะ"
     
     
    "อืม" คริสพยักหน้าอย่างไม่ใยดีนัก เรื่องอะไรจะให้เจ้าตัวแสบมาป่วนในห้องนี้เล่า
     
     
     
     
    "พี่เมเนมาเหรอ? โดนว่ามั้ย?"
     
     
    "เปล่า..."
     
     
    "ตอนกลับก็ต้องเจอแฟนคลับอีกสิ" เลย์พึมพำเบา ๆ 
     
     
     
    "อย่าฝืนตัวเองหน่อยเลยน่า ให้ลู่หานรับหน้าไปก็แล้วกัน"
     
     
    "ทำไมต้องทำเสียงดุด้วย...?"
     
     
     
     
    "ก็นายมันดื้อ! ไม่เคยระวังตัวเองเลย ฉันพูดอะไรก็ไม่ฟังกันบ้าง"
     
     
     
     
    "อย่าเอาแต่โมโหใส่ได้ไหม" เสียงแหบ ๆ แบบหน่าย ๆ พูดเบา ๆ
     
    "จะไม่ให้ฉันโมโหได้ไง!? หมอนั่นมันแกล้งยั่วฉันบนเวที เวลาที่สบตาฉันเหมือนยิ้มเยาะกัน แถมเมื่อกี้ยังจะมาหานายอีก"
     
    หากแต่อีกฝ่ายยังโวยวายต่อ...
     
     
    "ไคมาเหรอ?"
     
    "ก็ใช่น่ะสิ!"
     
     
    "แล้วทำไมไม่ให้เข้ามาล่ะ"
     
     
     
    "ถ้านายอยากเจอมันนัก ฉันจะไปเรียกมาให้มั้ย???"
     
     
     
    "พี่คริส"
     
    เลย์ลุกขึ้นพร้อมกับเดินเขาไปใกล้
     
    "ถ้าพี่จะเข้าใจผมบ้าง ผมอยากให้เขาเข้ามา พี่ก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหน พี่จะได้เข้าใจว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับไคมากกว่าเพื่อน"
     
     
    "แล้วไคมันคิดแบบนายน้อยกว่าเพื่อนหรือเปล่าล่ะ!?"
     
     
     
    "......................."
     
     
    "เห็นมั้ยนายก็ตอบไม่ได้" คริสหัวเสียจนต้องสะบัดหน้าหนีสายตาที่จ้องมองมา
     
     
    "โอเค ฉันผิดที่อาจจะไม่เชื่อใจนาย .....แต่ตอนนี้ ฉันรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ"
     
     
     
     
    "......พี่..ค......."
     
     
    คนที่อยากจะเรียกรั้งให้กลับมา เดินพ้นจากประตูห้องไปแล้ว ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างอ่อนล้า ไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกอึดอัดนี้ดี แต่ตอนนี้หัวที่หมุนติ้วกับความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวมันทำให้เขาต้องจบความคิดทุกอย่างแล้วผล็อยหลับไป
     
     
     
     
    "ตายแล้ว ทำไมตัวร้อนอย่างนี้ เลย์....เลย์!"
     
    เสียงเล็ก ๆ ของลู่หานเรียกให้สติกลับมาอีกครั้ง
     
     
    "กินยาหรือยัง??"
     
    เขาส่ายหัว
     
     
    "อะไรกัน นึกว่าคริสจะหายาให้น้องแล้วซะอีก"
     
     
    คนที่สะลึมสะลืออยู่ส่ายหัวหนัก ๆ อีกครั้ง
     
     
    "โกรธกันอีกแล้วสิ โกรธฉันด้วยหรือเปล่าเนี่ย"
     
    "ไม่...ไม่คิดมากขนาดนั้น" คนป่วยพยายามแก้ตัว แม้ว่าในใจหวั่น ๆ ไม่น้อย คือจริง ๆ ก็แอบน้อยใจว่าทำไมไม่มีใครรู้ หรือดูไม่ออกกันนะ เออ ช่างเถอะ ตอนนี้จะเป็นไงก็ช่างล่ะ....
     
     
    "เออ เนอะ คนที่คิดมากมันท่านหัวหน้ามากกว่า อย่าไปใส่ใจเลย เค้าน่ะเป็นคนตรง ๆ อย่างนั้นแหละ"
     
     
    "....ถ้าเข้าใจง่าย ๆ ก็ดี"
     
     
     
    "อืม คิดในแง่ดีสิ ว่าไม่ต้องเดาใจ เค้าพูดอะไรออกมาก็แสดงว่าในใจเค้าคิดอย่างนั้นจริง ๆ"
     
     
    "ชอบเข้าใจผิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง บอกอะไรก็พาลไปหมดเลย"
     
     
    "ทนหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ ฉันว่าเหตุผลที่ท่านหัวหน้าทำตัวได้งี่เง่าเฉพาะเรื่องของนายขนาดนี้ มันเพราะอะไร"
     
    มือเล็ก ๆ ของลู่หานลูบเบา ๆ ที่ศีรษะอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะบอกให้คนป่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนตัวเองก็ช่วยเก็บของ เพราะถึงเวลาต้องไปสนามบินแล้ว
     
     
    คนที่ควรจะมาช่วยถือของบ้างก็ไม่ขึ้นมาช่วยเลย ตั้งแต่ก่อนเขาหลับไป เลย์ก็ไม่ได้เจอกับคริสอีกจนกระทั่งขึ้นรถตู้มา เขาขึ้นไปแล้วก็ต้องชะงักไปนิด เมื่อที่นั่งข้างคริสไม่ได้ว่างตามปกติ
     
    โอเค อาจจะคิดไปเองก็ได้ ที่ปกติแล้วเมื่อขึ้นรถคริสก็จะเว้นที่ไว้ให้เขานั่งข้าง ๆ เสมอ
     
     
    "เอ้า เร็ว ๆ เดี๋ยวไม่ทัน"
     
    เสียงพี่เมเนเจอร์ร้องบอก คนตัวเล็กก็เลยเลือกที่จะนั่งลงข้าง ๆ พี่เขา ถามไถ่อาการกันพอสมควร จึงรู้ว่าให้รีบเดินเข้าเกทไปดีกว่า และปล่อยให้ลู่หานรับหน้าที่ดูแลแฟนคลับแทน
     
     
     
     
    "เดินระวังนะ"
     
    ซิ่วหมิ่นพยายามเดินข้าง ๆ แต่พี่เมเนเจอร์ก็เตรียมประคองไม่ให้เลย์ล้ม พร้อมกับรีบเดินให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่มีสายตาของท่านหัวหน้าวงส่งมาเลยสักครั้ง
     
     
    จนทั้งหมดได้เข้ามาสู่ภายในที่พักรับรองก่อนจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง
     
     
    "โอยยย"
     
     
    "เจ็บเหรอ? มีความรู้สึกเหรอ? น้องมันจะตายอยู่แล้ว"
     
    ลู่หานแอบมาบ่น เมื่อทนเห็นสภาพของน้องสุดที่รักอย่างนั้นไม่ได้
     
     
    "จะงอนอะไรกันนักหนานะ" ตาโตเท่าที่จำได้ และคริสก็รู้เลยว่า ถ้าไม่ทำตามที่ลู่หานต้องการแล้วล่ะก็ หมอนี่จะใช้ลูกเล่นแบบชนิดที่ว่าง้อเท่าไหร่ก็ไม่คืนดีด้วยใส่เขาในทันที และนั่นแหละที่เขาจะลำบากล่ะ
     
     
    "เออ ๆ เดินไปก่อนเลยไป"
     
     
     
    ท้ายที่สุดแล้วร่างสูงก็ต้องเดินกลับหลังมาหาคนที่รั้งท้ายที่สุดอยู่ดี
     
     
    "ผมจัดการน้องเองครับ" เขาโค้งบอกพี่เมเนอย่างสุภาพแล้วหันไปมองใบหน้าเซียวนิ่ง
     
    ก่อนจะคว้าเป้ใบเก่งของอีกฝ่ายมาถือให้
     
     
     
    ความขุ่นเคืองใจทั้งหมดตัดออกไปก่อน เมื่อเลย์มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาโอบกอดรอบคอแล้วค่อย ๆ เดินประคองไปด้วยกัน
     
    คนป่วยที่แสนล้าก็พึ่งพาหัวหน้าวงด้วยการกอดรอบเอว
     
    ดู ๆ แล้วก็คงเหมือนเพื่อนฝูงธรรมดาเขาทำกัน หากมีใครจะคิดให้ลึกไปกว่านั้นว่าสัมผัสที่แนบแน่นนั้นหมายถึงอะไร ลับตาคนเข้า....ก็แนบประสานมืออุ่นเข้าด้วยกันอย่างที่ไม่มีช่องว่างระหว่างนิ้วกันเลยทีเดียว
     
     
     
     
    หอพัก EXO-M
     
     
    อย่าได้บอกว่าดูแลคนป่วยกันยังไง ห้องหับถึงได้กระจัดกระจายอย่างนี้ = = สุดหล่อของวงสะบัดผมให้เขาทรง ก่อนจะขยับผ้าห่มขึ้นมาชิดหน้าอกของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ
     
    เห็นผลงานตามตัวแล้วอยากจะต่อยหน้าตัวเองแรง ๆ ซะจริง ไม่ยั้งมือเลย ทั้ง ๆ ที่น้องก็ไม่สบายอย่างนี้
     
     
    "เลย์ ตื่นได้แล้ว"
     
     
     
    ".........."
     
     
     
    "ตื่นเดี๋ยวนี้ จะได้อาบน้ำ"
     
     
     
    "ไม่..อาว"
     
     
     
    "อย่าดื้อนะครับ" 
     
    ซ้อมมาอย่างดีแล้วที่ประเทศไทย ลองเอามาใช้กับคนที่ชอบดื้อกับเขาดูบ้างสิ
     
     
    เด็กดื้อที่ว่ารีบซุกตัวเข้าที่อกของคนที่โวยวายหนวกหู ขัดขวางเขาที่จะนอนสบาย ๆ เนี่ย
     
    "อาบน้ำเถอะ จะได้กินข้าวกินยา หายหรือยัง?"
     
    เลย์พยายามยกตัวขึ้นอย่างขี้เกียจ ทั้งไม่สบายอยู่ก่อนแล้วแถมยังมาเมื่อยตัวเพิ่มอีก อยากจะค้อนคนตรงหน้า แต่ก็แลกกับความเข้าใจที่ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันบ่อย ๆ ก็ถือว่าคุ้ม
     
     
    "จะหายได้ไง โดนสูบพลังไปหมดแล้ว"
     
    แม้ว่าจะอาการหนักสักแค่ไหน แค่ได้ยาและขอพักผ่อนนิดหน่อย ก็คงจะดีขึ้น หากแต่ร่างเล็กก็ขอบ่นอุบ เมื่อลืมตาแล้วสำรวจความเสียหายให้ชัด ๆ นี่เขาจะตายก่อนป่วยใช่ม๊ายยยย~
     
     
     
    "ใครมายั่วก่อน?"
     
    เสียงกระซิบเย้าเรียกให้แก้มแดงขึ้นสี ถ้าไม่ใช่เพราะพิษไข้ เลย์คงไม่ทำให้เขาอดใจไม่ไหวหรอก
    เล่นมากอดนัวเนียตั้งแต่บนเครื่อง(คิดเอาเองป่าวคริส?) ไม่เว้นแม้กระทั่งทางกลับหอ(โมเมฝุด ๆ =__=) จนทนไม่ได้ต้องลากเข้ามานอนที่ห้องด้วยเนี่ย
     
    อย่าได้ถามถึงข้อสงสัยของเพื่อนร่วมวง เดี๋ยวดูหลักฐานก็คงเข้าใจ
     
     
     
    "โว้ววววว น้องหายดีแล้วหรือ?" 
     
    ทุกคนจ้องท่านหัวหน้าวงเป็นตาเดียว ใบหน้าอันทรงคุณค่าของท่านก็ได้แต่อืมในลำคอ แล้วพยักหน้าเบา ๆ เท่านั้น
     
    เสียงคิกคักทำให้คนที่เขาจับมืออยู่หน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็รีบสะบัดจนหลุดจากการเกาะกุม
     
     
    "หาไรทานซะ เดี๋ยวจะป่วยไปอีกรอบ"
     
    "ทำไรกันอยู่เหรอฮะ"
     
     
    "ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย นี่ รูปพวกเรามาแล้วนะ ไวมาก ๆ" ทั้งซิ่วหมิ่น ทั้งลู่หาน ช่วยกันกวักมือให้เลย์เข้ามานั่งข้าง ๆ ไม่มีใครสนใจคนประทุษร้ายคนป่วยเลยนะ สม!
     
     
     
    "รูปนี้นายหล่ออ่ะเฉิน วู้ววว มีท่านคริสของแฟนคลับด้วย อ๊ะ ๆ นี่มันไรเนี่ย มีเรียกป๊าม๊าด้วย ฮ่า ๆ ๆ ชานยอลเหมือนเด็กไปนะ ฮ่า ๆ ๆ อันนี้นายตลกอ่ะเสี่ยวลู่ เอ๊ยย นี่มันไค โอ๊ะ รูปนี้ติดเรทไปนะ ฮ่า ๆ ๆ"
     
    คอมเม้นท์อีกหลายสิ่งที่หลุดออกมาจากปากพวกเขา คริสไม่ได้สนใจอะไรนักนอกจากเวลาที่เพื่อนร่วมวงพูดถึงเมนเต้นของอีกฝั่ง เพราะรู้ว่ารูปที่ออกมา มันจะต้องเป็นตอนที่โชว์บนเวทีอย่างแน่นอน
     
    โมเม้นท์คู่นั้น จะรู้ว่ามองขึ้นมายังฟินาเล่ไม่เท่าดูจากบนเวทีเลย!!!
     
     
    ว่าจะไม่คิดแล้วนะ หากแต่หลงลืมไปว่า หลังจากตอนนั้น...ก็คงจะมีภาพออกมาทิ่มแทงใจอีกมาก
     
     
     
    เลย์เหลือบมองคริสอย่างกังวล ใจระแวงว่าอาจจะมีเรื่องไม่เข้าใจกันอีกแล้วน่ะสิ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันแล้วนะ พวกเขาแค่พ่อแง่แม่งอนกันไปตามประสา แม้ว่าจะไม่เคยทะเลาะกันจริงจังสักครั้ง ฝ่ายคนพี่แค่สงบอารมณ์ลงมาแล้วก็พูดดี ๆ ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม
     
    โชคดีที่เลย์เป็นคนไม่คิดอะไรมาก คริสจึงเหนื่อยแค่เรื่องจัดการกับความคิดของตัวเองและการหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ปากเสียใส่น้องก็เท่านั้น
     
    แค่นี้ทั้งสองก็กลับมางุ้งงิ้งกันให้เพื่อนร่วมวงเห็นเหมือนเดิมแหละ
     
     
    "รีบ ๆ หายไว ๆ ฉันคิดถึงกับข้าวนายแล้ว" ลู่หานกอดรอบเอวน้อง ออดอ้อนไม่สมกับเป็นพี่เลย
     
     
     
    "ให้หายดีก่อน"
     
    เสียงทุ้มดุมาแต่ไกล เมื่อท่านหัวหน้าเดินกลับเข้ามาพร้อมของกินนิด ๆ หน่อย ๆ ที่เฉินบอกว่าทำเผื่อเลย์ไว้
     
     
     
    "นั่นอะไร?"
     
     
    คริสเหลือบมองหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เห็นรูปแดนซิ่งแมชชีนของทั้งสองฝั่งยืนคู่กันคาไว้บนหน้าจอ ภาพที่รวมมาเป็นเซ็ทกระซิบกันชนิดที่ว่าแก้มแนบแก้ม 
     
     
    "อ่ะ อะ ดูรูปต่อไป"
     
    ซิ่วหมิ่นแกล้งพูดเสียงดัง เมื่อท่านหัวหน้าออกอาการเคืองอย่างเห็นได้ชัด
     
     
     
     
    "เอามาให้?"
     
     
    "อืม"
     
     
    นิ่งอีกแล้ว แต่เลย์ก็ต้องนั่งก้มหน้าทานข้าวที่รับมาอย่างเงียบ ๆ เพื่อนร่วมวงลี้ภัยไปนั่งอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ปล่อยให้บรรยากาศบนโต๊ะทานข้าวนั้นอึมครึมอยู่อย่างนั้น
     
     
    "ไค คอยถามเฉย ๆ ว่าเป็นไร เค้ารู้ว่าไม่สบาย"
     
    เลย์อธิบายเชิงกระซิบ เพราะไม่แน่ใจว่าคนฟังรับรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
     
    ภาพมันก็แค่มุมกล้องล่ะน้า...แต่ยกนิ้วให้แฟนคลับจริง ๆ แค่เสี้ยววินาทีก็สามารถกดชัตเตอร์ออกมาได้เป็นช็อต ๆ ให้น่าเข้าใจผิดเล่นเช่นนั้น แม้แต่ตัวเขาก็ยังอึ้ง ๆ เลย
     
    (เลย์ : คิดถึงรูปเมื่อกี้แล้วเหมือนคนเป็นห่วงเป็นใยกันมากจริง ๆ อ่ะแหละ Y_Y)
     
     
    "อืม"
     
     
    ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ เขาเองก็อยู่ในมุมที่เห็นไม่ค่อยถนัดบนเวทีนั่น แต่เขาก็สังเกตว่าอีกฝ่ายคอยกระซิบอะไรอยู่ตลอดเวลา
     
     
    "อย่าคิดมากน้า"
     
    คนที่ยังไม่ค่อยหายดีกังวลใจอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ อ่ะแหละ
     
     
    "รีบ ๆ กินข้าวซะ จะได้กินยา"
     
    ร่างสูงลุกจากเก้าอี้แล้วเดินลับไป คนตัวเล็กถึงกับรู้สึกเซ็ง หากแต่ยิ้มออกได้เมื่ออีกฝ่ายเดินกลับมาหาพร้อมด้วยขวดยาในมือ
     
     
    หลังจากนั้นวันสองวัน ร่างกายที่อ่อนล้าด้วยพิษไข้จากประเทศไทยก็หายดีขึ้นตามลำดับ
     
    EXO-M กลับมาทำงานตามปกติ และมีรูปตามงานที่ผ่านมาโพสต์ตามโลกไซเบอร์เยอะแยะมากมายให้ตามเก็บ เรื่องตะกอนในหัวใจค่อย ๆ จางลง ทั้งคู่กลับมาเป็นเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี หากแต่ตารางงานใหม่ที่จะต้องไปทำงานร่วมกับอีกฝั่งก็ถึงวันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ 
     
     
    "เหนื่อยจัง ต้องซ้อมอีกตั้งสองวัน"
     
    ลู่หานบ่นอุบ EXO ทั้ง 12 คนต้องซ้อมร่วมกันเพื่อขึ้นเวที SMTown ที่ญี่ปุ่นในอีกสี่วันข้างหน้า เหลือเวลาเที่ยวเล่นไม่มากแล้ว แถมยังต้องซ้อมหนักอีก
     
    "พรุ่งนี้ไปหาอะไรกินกันเหอะ เซฮุนชวนฉัน"
     
     
    "ไม่ว่างอ่ะ ต้องไปซื้อกระเป๋า" เฉินแจ้งตารางส่วนตัวให้ทราบ
     
    "ผมไปด้วย ผมอยากได้รองเท้าอ่ะ"
     
    น้องคนสุดท้องเอ่ยปาก
     
     
     
    "นายล่ะ? ไปกับฉันไหม" ลู่หานหันไปชวนซิ่วหมิ่น ซึ่งก็พยักหน้ารับก่อนจะก้มลงอ่านหนังสือในมือต่อ
     
    "ผมไปด้วย อยากกินเนื้อย่าง" เลย์แทรกขึ้นมาด้วยคน
     
     
    "เดี๋ยวบอกพวกนั้นอีกที อ่า แล้วท่านตุ้ยจ่างล่ะขอรับ ไปด้วยกันไหม?"
     
    คริสนิ่งไปนิดนึง แต่ก็นึกได้ว่าอยากพักผ่อนอ่านหนังสือมากกว่า เลยส่ายหัว
     
     
     
    "โอเค เดี๋ยวฉันโทรบอกเซฮุนก่อน"
     
    ลู่หานเดินหายไปสักพักแล้วกลับมาไล่ชื่อคนที่จะนัดเจอกันให้ฟัง
     
     
    "โอเค เซฮุนบอกว่าพรุ่งนี้นัดซ้อมกับชานยอล แพคฮยอนแล้วก็ไคด้วย เลิกซ้อมแล้วค่อยไปกันนะ"
     
     
    เสียงลู่หานไม่ได้เบาเลยแม้แต่น้อย คนที่นั่งฟังแต่นิ่งเงียบอยู่ก็ได้แต่ครุ่นคิดคนเดียว
     
     
     
     
     
    "พรุ่งนี้อยากไปซื้อหนังสือ"
     
    จู่ ๆ คริสก็พูดขึ้นมา ขณะที่กำลังนั่งทาครีมอยู่ข้าง ๆ คนที่เกากีต้าร์ไปมาในห้องพัก
     
     
     
    "อืม"
     
    เลย์รับคำขณะกำลังนั่งแต่งเพลงเล่น ๆ ละจากสายกีต้าร์แล้วก็หยิบดินสอแท่งสั้น ๆ ขึ้นมาจด ๆ อะไรบางอย่าง แล้วก็นั่งเกาอีก 2-3 ที
     
     
     
    "ไปด้วยกันหน่อย"
     
     
     
    "อะไรนะ" ตายังคงจ้องสาย 5-6 เส้นในมืออีกข้าง หูแว่ว ๆ ว่าคนข้าง ๆ เอ่ยบอกอะไรสักอย่าง
     
     
    "ไปด้วยกันหน่อยได้ไหม?"
     
    "พรุ่งนี้เหรอ?"
     
     
    "อือ"
     
     
    "ก็นัดกับลู่หานไว้แล้ว"
     
     
    "กินเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันพาไปก็ได้"
     
    เลย์วางกีต้าร์ลง ดูเหมือนคริสจะมีปัญหาอะไรสักอย่างที่ไม่ยอมเอ่ยออกมาตรง ๆ แต่กลับงึมงำกล้อมแกล้มอยู่ข้าง ๆ ในช่วงเวลาที่เขากำลังแต่งเพลงอย่างนี้
     
     
    "แล้วเมื่อเย็นทำไมไม่พูด?"
     
    "เพิ่งนึกได้"
     
     
    "นัดเค้าไปแล้ว ถ้าอยากให้ไปด้วยก็บอกกันก่อน เข้าใจหรือยัง?"
     
    เสียงตีเข้มเล็กน้อย เขากำลังมีสมาธิในการแต่งเพลงนะ ไม่ใช่เวลามาสนใจคนงอแงพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้
     
     
     
    คริสลุกขึ้นแล้วเอาอุปกรณ์กระปุกครีมไปเก็บ ในเมื่อความสำคัญของเขาถูกลดลง เขาก็ไม่มีอะไรไปต่อรอง นอกจากเดินกลับไปนอนที่เตียงฝั่งตัวเองอย่างเซ็ง ๆ
     
     
     
     
    หลังจากซ้อมเสร็จแล้ว ฝ่ายเกาหลีและจีนต่างก็แยกย้ายกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอของตนเอง นักร้องฝั่งเกาหลีเดินมาหาเพื่อนอีกฝั่งของวงที่หอ ชานยอลกับแพคยอนเดินเข้าไปนั่งเล่นเกมกับซิ่วหมิ่นในทันที ส่วนเซฮุนก็ขึ้นไปห้องลู่หาน เพื่อนั่งคุยกับเทาและเฉินที่กำลังจะออกไปเดินเล่นที่ห้างใกล้ ๆ นี่เช่นกัน
     
    คนที่ตามมาด้วยอีกคน วิ่งขึ้นไปหาเพื่อนบนห้อง หยุดยิ้มนิดนึงแล้วเคาะประตู
     
     
     
    ก๊อก ก๊อก
     
     
     
    "....................."
     
     
     
    "...เดี๋ยวนี้ท่านหัวหน้าย้ายห้องมาอยู่กับอี้ชิงแล้ว?"
     
    คนถามทำตาโต แอบอึ้งเล็กน้อยที่เขาจะต้องเจอคริสทุกครั้งในยามที่จะมาหาเพื่อน
     
     
    "ใช่ มีอะไรหรือไง?"
     
    น้ำเสียงดุจนไม่อยากจะคุยด้วย ไคได้แต่อ้ำอึ้ง
     
     
    "คือ....."
     
     
    "ใครอ่ะ อ้าว มาแล้วเหรอ เข้ามาดิ" เจ้าของห้องชวนแขกเข้ามาโดยไม่คิดว่าจะขัดใจใคร คริสตีหน้านิ่งแล้วเดินเข้าไปหยิบหนังสือมาอ่าน ท่าทางขวางโลกอยู่ในห้องนั้นอย่างไม่คิดจะออกไปไหน
     
    เรื่องอะไรจะปล่อยให้อยู่ด้วยกัน!
     
     
     
    "อ่ะ เอามาให้แล้ว เพิ่งเสร็จเรียบร้อย"
     
     
    "สวยจัง" เลย์ยิ้ม ก่อนจะดึงตุ๊กตาช้างออกมาจากถุง ร่างสูงเหลือบมองของในมือก็พอจะนึกขึ้นได้ว่า หมอนี่ได้มาจากรายการที่ไปออกตอนอยู่เมืองไทย
     
     
    แต่สิ่งที่เห็น มันไม่ใช่แค่นั้น.....
     
     
     
    "ขอบคุณมาก"
     
    "ไม่เป็นไร ไปรอข้างล่างนะ" คนผิวเข้มรู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตกระจายอยู่ทั่วห้อง เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็ขอลี้ภัยก่อนดีกว่า
     
     
    ".........." เลย์พยักหน้า เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของคนที่นั่งอยู่ไม่ไกล 
     
     
    เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย...?
     
     
     
     
     
    "มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ?"
     
     
    ร่างสูงก้าวเข้ามาหา เมื่อแขกออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว
     
     
     
    "หือ อะไร?"
     
     
    "ถึงกับต้องเชื้อเชิญขึ้นมาบนห้อง??"
     
     
    "พูดเรื่องอะไร?" เลย์ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงคำพูดแบบนั้น
     
     
     
    "อย่ามาตีหน้าซื่อใส่ฉันนะเลย์!!??"
     
     
     
    "แล้วนี่อะไร??? ต่อหน้าต่อตาฉันเนี่ย หรือหมอนั่นไม่รู้ว่านายเป็นอะไรกับฉัน"
     
    คริสทำหน้าไม่พอใจ จนอีกฝ่ายตกตะลึง แล้วค่อย ๆ พูดตอบอย่างสงบนิ่งที่สุด
     
     
    "ไปกันใหญ่แล้ว ไครู้เรื่องของผมกับพี่อยู่แล้ว ทุกคนก็ทราบดีนี่"
     
     
    "รู้..?? แต่ยังทำอะไรอย่างนี้ให้นายอ่ะนะ หึ ไคเลย์เหรอ?? ไคเลย์มีที่ไหนในโลก!!??"
     
    มือยาวคว้าเอาตุ๊กตาช้างสีชมพูแล้วมองด้วยสายตารังเกียจ
     
     
    "เฮ้ เดี๋ยวก่อน ไคให้ผมนะ!"
     
     
     
    "ให้เหรอ!?"
     
     
    คริสถามลอดไรฟันก่อนจะเขวี้ยงตุ๊กตาไปมุมห้อง ต่อหน้าต่อตาผู้เป็นเจ้าของด้วยความโมโห
     
     
     
     
    "พี่คริส! ทำไมทำอย่างนี้!?"
     
    "นายเห็นตุ๊กตาสั่ว ๆ นั่นสำคัญกว่าฉันรึไง?"
     
     
    "พี่คริส!!"
     
     
    "ทำไม หรือนายอยากจะให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าต้องการอย่างนั้น ฉันก็หลีกทางให้ได้นะ"
     
     
     
     
    "ไอ้คนบ้า! หยุดพูดไปเลยนะ ไม่มีเหตุผลที่สุดเลย รู้ตัวบ้างมั้ย หา??"
     
     
     
     
    "ฉันมันไม่มีเหตุผล ไม่เหมือนหมอนั่นใช่มั้ย? นายจะเอายังไงกันแน่ บอกกันมาตรง ๆ สิ"
     
    "ผมไม่เอายังไงทั้งนั้น พี่นั่นแหละ บ้ากันไปใหญ่แล้ว ผมกับไคไม่มีอะไรนะ!"
     
     
    "ถ้าไม่มี มันจะมาสลักชื่อย่อให้นายรึไง??"
     
     
     
    "หรือที่แท้จริงนายอยากให้เป็นอย่างนั้น? ฉันมันตัวเกะกะของพวกนายสินะ"
     
     
     
     
    "....................." อยากที่จะเอ่ยคำอธิบาย ความรู้สึกในตอนนี้มันจุกขึ้นมาถึงคอ
     
     
     
    "เคยไว้ใจกันบ้างไหม.....?"
     
    เขาถามคำถามนี้มาสองครั้งแล้ว นึกว่าอะไร ๆ จะดีขึ้น จะเข้าใจเขามากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว คริสก็ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยสักนิด
     
     
    "แล้วนายล่ะ เคยทำอะไรให้ฉันไว้ใจ หมอนั่นเคยทำอะไรให้ฉันไว้ใจ?"
     
     
    "ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย" น้ำในตาค่อย ๆ ไหลล้นออกมา
     
     
     
     
     
    "เหตุผล...มันง่ายนิดเดียว"
     
     
     
    ปัง!
     
     
     
    อีกแล้ว.... กี่ครั้งกี่หนแล้วที่อีกฝ่ายเดินผละจากเขาไป แล้วก็ทิ้งให้เขาจมอยู่กับคำถามอย่างนี้
     
     
    มันเกิดอะไรขึ้น...??
     
     
     
    เลย์เดินไปเก็บตุ๊กตาที่ไคอุตส่าห์ไปเย็บตัวอักษรแปะไว้ข้าง ๆ แถมมีรูปหัวใจสีแดงดวงใหญ่ ๆ นั่นอีก
     
    เขาร้องไห้มากกว่าที่ผ่าน ๆ มา ครั้งนี้มันคงเป็นการทะเลาะกันสินะ คำพูดที่คริสพูดกับเขามันถึงได้ทำให้หัวใจของเขาเจ็บจี๊ด ๆ อย่างนี้.....
     
     
    หัวหน้าวงเดินลงมาชั้นล่าง ทุกคนที่อยู่ในหอพักนั่งรวมตัวกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนด้านบนเมื่อกี้ลงมานั่งอยู่กลางวงเรียบร้อยแล้ว ก็ดี จะได้ไม่ต้องมีใครขึ้นไปอีก
     
    คิดได้อย่างนั้นแล้วก็เหลือบมองด้วยหางตาเพียงเล็กน้อย แล้วก็เดินออกไปจากหอพักเงียบ ๆ อย่างที่ไม่มีใครจะเอ่ยอะไรออกมา
     
     
     
    "งี่เง่าสิ้นดี"
     
    เสียงเล็ดลอดออกมาจากลู่หานที่นั่งโอบไหล่น้องชายเอาไว้
     
    คนตัวเล็กนั่งจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่คนที่ทำกลับไม่สนใจอะไรเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นว่าคนที่เอาใจใส่ดูแลเพื่อนร่วมวงอย่างดีนั้น ใจร้ายแค่ไหน....
     
     
     
    ไคจิ้มกดอะไรบางอย่างลงไปในมือถือ หวังว่าจะช่วยเพื่อนรุ่นพี่อย่างเลย์ได้บ้าง
     
     
     
     
    .......ตัวเองก็ชื่อ Kris ไม่ใช่เหรอท่านตุ้ยจ่าง?.......
     
     
     
     
    ส่งเสร็จก็หันมากอดตุ๊กตาที่อุตส่าห์เอามาให้ แต่กลับเป็นต้นเหตุให้คนเขาทะเลาะกัน พี่ ๆ กอดคอให้กำลังใจไค เพราะรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่ผิด คนที่น่าโมโหคือคนที่ไม่ฟังอะไรเลยต่างหาก
     
    สงสารก็แต่ตุ๊กตาช้าง KL ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นี่แหละ =__=
     
     
     
    จะไปสังสรรค์ซะหน่อย แต่กลับงานเข้าซะงั้น ทุกคนอยู่ในอาการเซ็งกันหมด
     
     
    "ไปเถอะ ผมไม่อยากให้ทำให้งานกร่อย"
     
    เลย์พูด ถึงออกไปก็คงหาความสุขในการกินไม่เจอ
     
     
     
    ติ๊ด ติ๊ด
     
     
    เสียงเตือนข้อความจากมือถือของเลย์ เมื่อเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอ ก็ไม่อยากที่จะเปิดอ่าน
     
     
    "ฉันอ่านให้" ซิ่วหมิ่นดึงมือถือที่วางอยู่ขึ้นมา เพราะเสียงเตือนให้อ่านข้อความมันดังซ้ำ ๆ อยู่
     
     
     
     
    .......ออกไปร้านหนังสือไหม.......
     
     
     
    เกิดอะไรขึ้นมากมาย ส่งมาถามแค่นั้นอ่ะนะ << ตอนนี้หน้าตาทุกคนที่ร่วมลุ้น ต่างมีคำถามเดียวกัน
     
     
     
     
    ติ๊ด ติ๊ด
     
     
     
    .......จะรออยู่ใกล้ ๆ นี่นะ.......
     
     
     
    "ไม่มีใครตอบว่าจะไปสักหน่อย" ลู่หานส่งเสียงให้โทรศัพท์ ราวกับว่ามันจะเปลี่ยนเสียงเป็นข้อความตอบกลับส่งไปอย่างนั้นแหละ
     
     
     
    ติ๊ด ติ๊ด
     
     
    "ผมดูเอง"
     
     
    เลย์ตั้งใจว่าจะตอบ ๆ ส่ง ๆ กลับไปจะได้ไม่ต้องมาถามโน่นถามนี่อีก
     
    เขาเริ่มเบื่อกับความอึดอัดเช่นนี้แล้วนะ หรือท้ายที่สุดแล้ว เราสองคนจะไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ
     
     
     
    ติ๊ด ติ๊ด
     
     
     
     
    "......................................"
     
     
     
     
     
     
    "ไปเถอะ"
     
     
    ทุกคนเอ่ยออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
     
     
    เมื่อเลย์อ่านข้อความล่าสุดแล้วก้มหน้าร้องไห้ ทุกคนได้เห็นตัวอักษรไม่กี่คำที่ถูกส่งมาจากคน ๆ เดียวกันซ้ำ ๆ หลายข้อความ
     
     
     
     
    จางอี้ชิง รีบลุกแล้ววิ่งออกจากบ้านไป
     
     
    คนที่นั่งอยู่ในบ้านลุกฮือแล้ววิ่งไปแอบมองที่กระจก เห็นเงาของร่างสูงยืนเด่นอยู่ แล้วมีคนที่เพิ่งวิ่งออกไปโผเข้าไปกอด
     
    สองร่างอยู่ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายเล็กน้อย เสื้อโค้ทตัวใหญ่ขยับคลุมร่างเล็กที่จมมิดในอ้อมแขน 

     
     
    ทุกคนยิ้ม แล้วคาดหวังว่าเนื้อย่างมื้อนี้คงจะอร่อยที่สุด
     
     


     
    และหวังว่าเลย์ของพวกเราคงไม่กลับมาป่วยอีกรอบนะ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    .......ขอโทษ ที่ไม่มีเหตุผลอื่น.......
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    .......มีแค่ "ป๊า รัก ม๊า".......
     
     
     
     
     
     

     
     
     
    +FiN+



    อารมณ์แค่มโนรัว ๆ ช่วงมาไทย เลยอยากเก็บทุกโมเม้นท์เอาไว้
    #ปุ่ม 6 พังไป 8 โหลแล้วค่ะ Y__Y

    สองคนนั้นเป็นไงต่อมา ก็ดูไฟล์คลิปที่สนามบินตอนไปญี่ปุ่นเอาเองก็แล้วกัีน 55555
    ไม่ห่างเลย ไม่ห่างเลย โฮวววว ๆ บู่ ๆ --3-- หมั่นไส้!


    #แอนตี้รัวรัววววววววววววววววววว




    วศ. วันศุกร์ ^__^

    @friday128
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×