คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ขโมย o_O"
“ฉันนึกว่าจะเป็นบ้านหลังใหญ่ๆซะอีก”
“.......” เมื่อไม่มีคำตอบจากเพื่อนซี้ น้ำส้มเลยเอ่ยปากถามต่อ
“แล้วที่นี่เอาไงต่อยะ เจ้าแม่แผนการ”
ทิชายังคงเงียบ ถอดแล่นตากันแดดออก นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองไปเบื้องหน้า คอนโดสูงสีครีมที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้าดึงดูดความสนใจของเธอไปจากทุกสิ่งรอบตัว แม้มันจะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ล้อมรอบด้วยรั่วสูงอย่างที่จินตนาการไว้ แต่ก็มั่นใจได้เลยว่าชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่มีปัญญาเข้ามาอยู่ในคอนโดหรูหราแบบนี้ได้ ให้ตายเหอะ!!! อีตานี่ไฮโซชะมัดเลย
“ยัยทิชา เอาไงต่อยะ” น้ำส้มตะโกนเสียงลั่น
“โอ๊ยย!! พูดเบาเบาก็ได้” ทิชาร้องพลางเอามือลูบหูขวาเบาๆ
“ฉันรู้แล้วล่ะ” ทิชาส่งยิ้มให้
ต้องแผนนี้แหละ ถึงจะเข้าไปในตึกนี้ได้
“จะบ้ารึไง”ยัยน้ำสัมโวยใหญ่
“เอาน่าเชื่อฉันสิ” ทิชาทำหน้ามั่นใจ
“แกเห็นนั่นมั้ย”น้ำส้มชี้นิ้วตรงไปที่รปภ.คนหนึ่งที่เดินอยู่ตรงประตูทางเข้าคอนโด
“เพื่อแกจะไม่สังเกต ถ้าคืนเราเข้าไปขโมยกุญแจห้องคุณทีรวิชล่ะก็ คืนนี้ได้นอนในตารางแน่” น้ำส้มพูดจบพร้อมส่งสายตาดุดุมาให้
ทิชากลืนน้ำลายก่อนที่จะพูดต่อ
“แกไม่เคยได้ยินเหรอ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่มีทางจะได้ลูกเสือ”
“แล้วไง”
“ก็แกบอกเองว่าเราต้องรู้ข้อมูลของเขา และในห้องนั้น ห้องของตานั่นคือแหล่งข้อมูลนะ”เมื่อเห็นน้ำส้มเงียบทำหน้าชั่งใจทิชาจึงพูดต่อ
“เราอุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้วนะ” ทิชาทำหน้าออดอ้อน
“แต่ว่าถ้าแกไม่เต็มใจช่วยฉันก็ไม่ว่าอะไร” ทิชาหยักไหล่ก่อนทำท่าจะเดินจากไป
“เออ เออ ทำก็ทำ”
“ต้องงี้สิเพื่อนรัก”ทิชาเดินเข้ามาโอบไหล่เพื่อนซี้ แล้วส่งยิ้มกว้างให้
ทิชากระซิบกระซาบบอกแผนการที่วางไว้ให้น้ำส้มทำตาม
“ที่นี้เข้าใจแผนแล้วนะ” น้ำส้มพยักหน้ายึกๆอย่างไม่เต็มใจนัก
“ก็ดีงั้นลุยเลย”
ทิชากับน้ำส้มเดินตามกันเข้าไปในตัวตึก เมื่อเดินไปถึงห้องสุดท้ายที่อยู่ในสุดของทางเดินชั้นหนึ่งที่มีป้ายแขวนหน้าห้องว่า housekeeper หลังจากหันซ้าย แลขวาจนมั่นใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ทิชาก็รีบเข้า
ไปในห้องนั้น ทิ้งให้น้ำส้มยื่นเฝ้าอยู่ข้างหน้า
“ใส่เร็วๆเข้าสิยัยทิชา”
“ก็พยายามอยู่นี้แหละ เอาเสร็จแล้ว” ประตูห้องเปิดออก ทิชาค่อยๆก้าวออกมาในชุดแม่บ้านของคอนโด
“จะว่าไปแกก็ใส่ชุดนี้ขึ้นนะเนี่ย” น้ำส้มแกล้งแหย่เพื่อน
“เชอะ” ทิชาสะบัดหน้าไปอีกทางก่อนเอ่ยถาม
“ห้องนายนั่นมันเบอร์อะไรนะ”
“2116”
ทันทีที่น้ำส้มพูดจบ ทิชาออกเดินนำโดยมีน้ำส้มเดินตาม ทิชาเดินเข้าไปหาพนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งที่ตอนนี้ก้มๆเงยๆจัดของบนรถเข็นที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาด
“ขอโทดนะคะพี่” เสียงเรียกของทิชาทำให้พนักงานคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามอง แม้ไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่จากแววตาที่มองมา ทิชาก็รู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าอยากจะถามว่า ‘เธอเป็นใครเนี่ย’
“คือ..หนูเป็นพนักงานใหม่นะคะพี่” คนตรงหน้าพยักหน้างึกๆ แต่นัยน์ตายังเปล่งประกายความสงสัย
“คือคุณผู้หญิงคนนี้นะคะ”ทิชาพูดพลางผายมือมาที่น้ำส้ม ซึ่งปรับสีหน้าจากงุนงงมาเป็นยิ้มสู้ภายในพริบตา ยัยนี้ก็เล่นละครเก่งเหมือนกันนะเนี่ย
“เขาทำกุญแจห้องหายนะคะ แล้วหนูก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเอากุญแจจากไหน” ทิชาแซ่งทำสีหน้ากังวลใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“พี่พอจะช่วยบอกคุณผู้หญิงคนนี้ได้ไหมค่ะ”
“คุณอยู่ห้องไหนล่ะ” พนักงานทำความสะอาดถาม
“ฉ...ฉันอยู่ห้อง 2116ค่ะ” น้ำส้มพูดเสียงไม่มั่นใจ สายตาก็ก้มมองพื้นผลัดกับมองตาเพื่อนรักที่ยื่นลุ้นอยู่ข้างๆ
พนักงานทำความสะอาดจ้องมาที่น้ำส้มสักพักราวกับพยายามจับผิด น้ำส้มเงยขึ้นมาสายตาเป็นพักๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลากับการมองลายกระเบื้องบนพื้นทางเดินมากกว่า ทิชาตัดสินใจใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนรักหนึ่งครั้ง นั่นช่วยเรียกความกล้าของยัยน้ำส้มได้เป็นอย่างดี
“นี่คุณ หรือว่าจะต้องให้ฉันไปขอความช่วยเรื่องในเรื่องเล็กๆแบบนี้ กับผู้จัดการของคุณเหอะ” น้ำส้มแกล้งว่างมาดเป็นผู้ดีพร้อมส่งสายตาข่มขวัญไปให้พนักงานคนนั้น และนั้นทำให้เพื่อนซี้ที่ยืนข้างเกือบหัวเราะพรืดออกมา ดีที่ปิดปากได้ทัน เมื่อเห็นพนักงานคนนั้นเริ่มลังเลใจ ทิชาก็เสริมอีก
“พี่ค่ะหนูว่าถ้าคุณคนนี้ไปฟ้องผู้จัดการมันจะเป็นเรื่องใหญ่นะคะ ดีไม่ดีอาจจะถูกไล่ออกก็ได้” ทิชาทำหน้าจริงจัง พนักงานทำความสะอาดดูจะเชื่อในคำยุของสองสาว
“งั้นเอากุญแจสำรองนี่ไปก็ได้ค่ะ” สำเนียงที่พนักงานคนนั้นพูดบ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ แต่ทันทีที่พนักงานก้มหน้าลงแกะกุญแจดอกหนึ่งออกมาจากพวงกุญแจใหญ่สองสาวก็แอบส่งยิ้มให้กัน
“นี่ค่ะกุญแจห้อง 2116” พนักงานพูดพร้อมส่งกุญแจมาให้น้ำส้ม
“แต่ว่าต้องเอาคืนนะคะ” พนักงานรีบพูดเสริม
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวปั๊มเสร็จก็จะรีบเอามาคืนเลย” ทิชาหลุดปากตอบแทนน้ำส้ม ยัยตัวดีรีบยกมือขึ้นมาปิดปากแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพื่อนซี้ที่ยืนข้างๆหันมาทำตาดุใส่
“เอ๊ะ นี่...” ไม่ทันที่พนักงานจะพูดจบ
“หมายความว่า หนูจะเอาไปปั๊มให้คุณผู้หญิงคนนี้นะคะพี่” ทิชารีบแก้ตัว
“งั้นหนูรีบไปปั๊มก่อนนะ” พูดจบทิชาก็รีบวิ่งออกไป ทิ้งให้น้ำส้มยืนประจันหน้ากับพนักงานทำความสะอาด
เกือบยี่สิบนาทีต่อมา............
“ได้แล้ว ได้แล้ว” ทิชาวิ่งตรงกลับมายังที่ที่เดิมซึ่งบัดนี้สถานการณ์ตึงเครียดที่เคยมีอยู่ดูจะหายไปหมดแล้ว
“ได้แล้วเหรอ” น้ำส้มเอ่ยทัก
“อืม” ทิชายื่นกุญแจให้น้ำส้มหนึ่งดอก ส่วนอีกดอกก็ส่งคืนให้พี่พนักงานคนนั้น
“ขอบคุณมากนะค่ะพี่แจ๋ว” น้ำส้มเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้ แต่นั้นกลับเรียกความสนใจของทิชาได้
“เมื่อกี้แกเรียกเค้าว่าพี่อะไรนะ” ทิชาถามเมื่อทั้งคู่เดินออกมาจนถึงประตูทางเข้าด้านหน้า ขณะที่น้ำส้มแค่ยิ้มๆ
“ฉันไม่อยู่แป๊ปเดียวเนี่ย แกไปตีซี้พี่เค้าเลยเหรอ” ทิชาพูดเสียงกลั้วหัวเราะ
“รู้งี้ให้แกไปตีซี้พี่เค้าแต่แรกก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว” สองสาวพากันหัวเราะใหญ่
“ในที่สุดก็ได้มาแล้วววววว” ทิชาพูดพลางวิ่งนำไปข้างหน้า ในขณะที่น้ำส้มได้แต่มองพฤติกรรมเด็กๆของเพื่อนสาว
“ทิชา”น้ำส้มตะโกนเสียงดัง เมื่อเห็นรถสปอร์ตสีดำคันหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ทิชาเองไม่เห็นเพราะหันหลังกลับมามองน้ำส้ม และเมื่อหันกลับไปอีกครั้งรถคันนั้นก็เชี่ยวจนเธอล้มลงไปนอนอยู่กับพื้น
“โอ๊ยยย” ทิชาร้องเมื่อลุกขึ้นนั่ง สำรวจตัวเอง แม้จะไม่ได้มีแผลอะไรมากมาย แต่มันก็เจ็บก้นชะมัดที่ต้องล้มลงไปกองแบบนี้
“ขับรถประสาบ้าอะไรเนี่ย ไม่เห็นคนเดินรึยัง” ทิชาพูดเสียงหงุดหงิดทันทีที่ได้สติ
รถสปอร์ตคันนั้นเบรกทันทีที่เห็นเธอล้ม ขณะนี้คนขับเดินลงมาจากรถและตรงมาที่ทิชา ผู้ชายตรงหน้าใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวกับกางเกงยีนสีเข้มตัวใหญ่ ผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตัดกันดีกับผิวสีขาวราวหิมะ ท่วงท่าในการเดินก็ดูสง่างามราวเจ้าชาย ตอนนี้เขาเข้ามาหยุดอยู่ใกล้ๆแล้วก้มตัวลงมาตรงหน้า มือข้างหนึ่งยกขึ้นไปจับขาแว่นตากันแดดเพื่อทอดมันออก ส่วนอีกข้างก็ยื่นลงมาตรงหน้าเพื่อจะฉุดคนที่ล้มอยู่ให้ลุกขึ้น
“นี่คุณ จะไม่ขอ....” ทิชาหยุดพูดทันทีที่แว่นตาของคนตรงหน้าถูกถอดออก คำด่ามากมายที่กำลังจะพูดถูกกลืนกลับคืนไปหมด เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเงยขึ้นไปสบกับนัยน์ตาอีกคู่ที่อยู่ตรงหน้า สิ่งเดียวที่สามารถหลุดออกมาจากปากยัยตัวดีได้ก็คือ
..
“นายทีรวิช”
...........................................................................................
ความคิดเห็น