คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part II :: ห้องของผม
“หายไปไหนมาคยูฮยอน”
ทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องพี่ฮีชอลก็ถามผมทันที ด้วยคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบเขายังไง จะให้บอกว่าผมไปรับพี่ฮีชอลแล้วก็โดนโปะยาสลบไปฟีทเจอริ่งกับใครก็ไม่รู้แถมยังโดนถ่ายคลิปไว้อีกอย่างนั้นหรอ ผมตอบไม่ได้หรอก
“เอ่อ...”
“ว่าไง เมื่อคืนพี่นั่งรอที่ผับจนสร่างเมาเลยนะ พอเริ่มทรงตัวได้ก็รีบมาหาเราเลยเนี่ย พอกลับมาแล้วไม่เจอก็ยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่”
“คือผม...”
“ก็พูดมาสิ”
“ผมไปค้างบ้านเพื่อนมาครับ”
“ก็เท่านี้ล่ะ เห็นเราถึงบ้านปลอดภัยพี่ก็สบายใจ งั้นพี่กลับหอล่ะนะ บาย”
“เดินทางปลอดภัยครับ”
พอพี่ฮีชอลออกไปแล้วผมก็เดินไปทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที...
ขอบคุณสวรรค์ที่พี่ฮีชอลไม่สงสัย! เป็นโชคดีของผมจริงๆที่พี่เขาไม่ใช่คนสนใจเรื่องของคนอื่นนัก ผมก็เลยรอดตัวไปได้ ทั้งที่ข้ออ้างเรื่องไปค้างบ้านเพื่อนนั้นงี่เง่าสุดๆ ใครก็รู้ว่าผมรักห้องนี้จะตายจนแทบไม่ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นเรื่องค้างที่อื่นน่ะยากสุดๆไปเลย
แต่ก็เอาเถอะ ยังไงผมก็นอดมาได้แล้วนี่ ตอนนี้ขอนอนเอาแรงก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นคงเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอีกแน่เลย
“รายงานสภาพอากาศวันนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่...”
???
ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงงอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา หลังจากที่อยู่ๆเสียงรายงานข่าวจากโทรทัศน์ก็ดังขึ้น ผมมั่นใจมากเลยนะว่าก่อนนอนผมไม่ได้เปิดมัน แล้วทำไมมันถึงจัดการเปิดตัวเองได้ล่ะเนี่ย
ถ้าเป็นคนผมสู้ตาย แต่ถ้าเป็นผี...
ผมกลัวว่าตัวเองจะช็อคตายก่อนจะสู้น่ะสิ TT
แต่ช่างมันเถอะ เพราะถ้ามันคิดจะหลอกผมจริงๆ ผมจะกระโดถีบขาคู่ให้มันหงายตกเตียงไปเลย เป็นไงเป็นกัน!!
พรึ่บ!!
(- -)(O.O)
บางทีผมคงจะดีใจกว่านี้นะถ้าเกิดเป็นผี แต่นี่มันดันเป็นคน! แถมยังเป็นคนที่ผมจำหน้าได้ดีอีกด้วย
ผู้ชายคนเมื่อเช้า!!
ถึงแม้ว่าตอนนี้ภายในห้องจะไม่ได้เปิดไฟ และมีเพียงแสงเล็กน้อยจากโทรทัศน์เครื่องเล็ก แต่นั่นก็พอแล้วที่จะทำให้ผมเห็นใบหน้าของเขา ผู้ชายที่ในชีวิตนี้ผมไม่คิดว่าจะได้เจออีกเป้นครั้งที่สอง!!
“แก! ไอ้เลว!!”
“เฮ้ ผมก็มีชื่อเหมือนกันนะครับคุณ”
“แต่ฉันไม่อยากรู้ ออกไปได้แล้ว!!”
“ชเว วีวอนครับ ^-^”
“ประสาทกลับหรือไง ฉันบอกว่าไม่อยากรู้!”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณโจว คยูฮยอน”
“อะ...ไอ้ แกออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ”
“แต่ผมยังไม่ได้พูดธุระกับคุณเลยนะ”
“ฉันไม่ฟัง แกออกไปได้แล้ว!”
“ไม่! ผมไม่ไปจนกว่า...”
“งั้นฉันไปเอง”
ประโยคเด็ดขาดที่ผมพูดทำเอาเขานิ่งไป แต่นั่นก็เป็นโอกาสดีของผมที่จะได้ออกไปจากห้องนี้ได้อย่างสะดวก บางทีคืนนี้ผมอาจจะต้องไปนอนบ้านเพื่อนจริงๆแล้วก็ได้มั้งเนี่ย
ผมรีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังตามมา และคนๆนั้นคงป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้โรคจิตที่เพิ่งบุกเข้าห้องผมเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว คนอะไรไม่รู้หน้าด้านสุดๆขนาดไล่แล้วก็ยังไม่ไป หนีออกมาจากห้องก็ยังเดินตามมาอีก ผมจะทำยังไงกับเขาดีนะ
อากาศวันนี้ก็หนาวสุดๆไปเลยด้วย ขืนเดินต่อไปผมคงแข็งตายแน่เลย ไม่น่ารีบจนลืมสวมเสื้อโค้ตเลยเรา จะทำยังไงดีล่ะทีนี้ หมอนี่ก็เกาะแน่นอย่างกับปลิงสลัดยังไงก็ไม่ยอมหลุด หยุดแล้วหันกลับไปต่อยหน้าเลยดีไหมเนี่ย...
จะว่าไปแล้วก็ดีเหมือนกันนะ ^_______^
พลั่ก!
“โอ๊ย”
“เฮ้ย เป็นอะไรมากไหมเนี่ย เลือดออกเลย”
ผมนึกโกรธตัวเองจริงๆที่ปล่อยหมัดเมื่อครู่ออกไป TT
“โอ๊ย~ ><”
“เจ็บหรอ”
“ก็เจ็บน่ะสิถามได้ พอแล้วไม่ทำแล้ว นายไปไกลๆฉันเลยไป T^T”
ผมออกปากไล่เขาและรีบชักมือของตัวเองกลับมาทันทีหลังจากที่เขาทำแผลให้อย่างกับผมสลบอยู่ หรือถึงผมจะสลบอยู่เขาก็ไม่ควรทำแบบนี้อยู่ดี ขนาดแค่เอาน้ำสะอาดล้างแผลเขายังลูบมาที่แผลได้เลย อย่างนี้ถ้าตอนแปะพลาสเตอร์เขาไม่กดลงมาบนแผลผมเลยหรือไง
คนทำแผลไม่เป็นอย่างหมอนี่มันคนไร้อารยธรรมชัดๆ >O<^
อู้ย~ เจ็บแผลก็เจ็บ เจ็บใจก็เจ็บ อยากกระโดดงับหัวหมอนี่จริงๆเลย ถ้าตอนที่ผมต่อยเขา เขาไม่หลบและปล่อยให้ผมต่อยแต่โดยดี มือผมคงไม่เป็นแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าข้างหลังเขาไม่เป็นกำแพง...
ผมคงได้ชกลม ไม่ใช่อิฐแข็งๆอย่างนั้นหรอก!! T^T
เพราะแก! เพราะแกคนเดียวเลย!!
“นี่คุณ ผมขอโทษ ผมแค่แกล้งคุรเล่นไม่คิดว่าคุณจะเจ็บขนาดนี้”
“แกล้งงั้นหรอ นายเป็นอะไรกับฉันล่ะถึงมาแกล้งฉันได้”
“ผมก็เป็นแฟนคุณไง”
“แฟน? ฉันไม่เห็นจำได้ว่าเคยคบกับนายด้วย ฉันจำได้แค่ว่านายเป็นไอ้โรคจิตที่โปะยาสลบคนมาข่มขืนหมู่แล้วก้ถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ หรือมันไม่ใช่ล่ะ?”
“ใช่ มันไม่ใช่”
“นี่ อย่ามากวนประสาทฉันนะ ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อย่ามาพูดจาวกวน ฉันไม่ชอบ”
“ผมหมายถึงว่า...”
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากฟัง นายออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ไปซะ!”
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาถึงแม้ว่าผมจะเพิ่งออกปากไล่เขาไปเมื่อครู่นี้ หมอนี่มันต้องเป็นโรคจิตแน่ๆถึงได้โดนด่าแล้วยิ้มเนี่ย แต่จากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้มันก็พิสูจน์ได้แล้วล่ะว่าเขามันโรคจิตจริงๆ
“นี่คุณ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลอยู่ไหนล่ะ”
“
”
“ไม่เป็นไร หาเองก็ได้”
“ไอ้บ้า นี่มันห้องฉันนะ!!”
ไร้ปฏิกิริยาตอบรับใดๆทั้งสิ้นจากเขา ไอ้โรคจิตยังคงเดินร่อนไปทั่วห้องของผมเพื่อหาอุปกรณ์ปฐมพยาบาลโดยไม่ฟังเสียงร้องตะโกนโวกเวกโวยวายจากผม จนกระทั่งเขาพบมันนั่นแหละถึงได้หันกลับมาสนใจผมอีกครั้งหนึ่ง
“ไปทำแผลกันเถอะครับ”
“นี่ ฉันบอกว่าไม่ทำไง หม้ายยย~! >O<”
เสียงร้องของผมยังไม่สามารถทำให้เขาสนใจได้เช่นเดิม ไอ้โรคจิตลากผมไปที่เตียงก่อนจะนั่งลงข้างๆ
หยุด! ถ้าคุณกำลังคิดเรื่อวพิลึกๆอยู่ มันไม่มีอะไรอย่างที่คุณคิดหรอก
เขาค่อยๆจับมือผมขึ้นมาแล้ว
ฟู่ว~
เป่ามันเบาๆ
การกระทำของเขาทำเอาผมรู้สึกร้อนที่แก้มแปลกๆ ก่อนที่มันจะเปลี่ยนมาเป็นร้อนจัดเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วคลี่ยิ้มบางๆให้ผม
เอ่อ...ไม่รู้จะบรรยายอะไรเลยแหะ >//////////////////////////////<
“อ่ะ เสร็จแล้ว ฟู่ว~ หายไวๆนะ ^________^”
“พอแล้ว เสร็จแล้วก็กลับไปเลยไป”
“ไม่อ่า ขี้เกียจ ขออยู่ต่ออีกแปปนึงนะ”
นั่นไง ผมว่าแล้ว ผมเคยไล่หมอนี่ได้สำเร็จบ้างไหมเนี่ย ฮึ่ย! ยิ่งคิดผมก็ยิ่งอารมณ์เสีย ยิ่งเห็นหน้าผมก็ยิ่ง...
ฉ่า~
เขิน >/////////////////////////<
“นี่คุณ แผลคุณอักเสบหรือไงนะ หน้าแดงเชียว มีไข้ใช่ไหมเนี่ย ไหนผมขอวัดไข้หน่อยสิ”
“ฉันไม่...”
แหมะ
( ^)(‘ //////)
“หน้าผากก็ไม่ร้อนนี่หน่า หรือว่าต้องวัดที่แก้มกันนะ”
แหมะ
(^ ^)(‘///////////’)
“ตรงนี้ร้อนแหะ งั้นเป่าซะหน่อยดีกว่าจะได้หายร้อน”
ฟู่ว~
( ^)(‘//////////////’)
ลมอุ่นๆที่เพิ่งเป่ารดแก้มทำเอาสติของผมแทบจะหายไปในทันที แค่แทบนะเพราะมันยังไม่หายไปหรอกจนกระทั่ง...
จุ๊บ!
ริมฝีปากนุ่มๆทาบลงมาที่แก้มผม!!
นั่นแหละ สติของผมถึงหายไปเลย _/////////////////////////_
“นะ...นาย ทำอะไรน่ะ”
“กู๊ดบายคิสไง ไปนะ ^_________^”
แล้วเขาก็เดินออกจากห้องผมไป ทำไมหมอนี่ถึงทำตัวแบบนี้นะ กลับมารับผิดชอบจุ๊บของนายก่อนเซ่~ >////<
..
ความคิดเห็น