คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ลำดับตอนที่ 5
3 : So Hot ประเด็นร้อนซ่อนรัก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“กลับดึกอีกแล้วนะ - -” โยซอบที่นั่งอ่านบทละครอยู่บนโซฟาทักกีกวังที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ผู้จัดการส่วนตัวยักไหล่แทนคำตอบก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งแรงๆข้างเขาราวกับคนที่มีเรื่องกลุ้มใจ และเหมือนว่าไม่ได้เพิ่งกลับจากไปเดตกับแฟนมายังไงยังงั้น
“เฮ้อ”
“ทะเลาะกันหรือไง”
“เปล่า”
“แล้วถอนหายใจทำไม”
“ฉัน... เฮ้อ โยซอบ นายคิดว่าเขาจะหวังจากฉันแค่เรื่องอย่างว่าหรือเปล่า” กีกวังถอนหายใจแรงอีกครั้งแล้วเอ่ยออกมา ก่อนที่โยซอบจะลดบทละครลงจากระดับสายตาแล้วหันหน้าคุยกับกีกวังอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
“ถ้าถามฉัน ฉันว่าใช่”
“แล้วนายก็จัดการให้เขาคบกับฉันเนี่ยนะ” กีกวังเอียงคอถามอย่างสงสัย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาอยากจะได้ยินคำตอบจากโยซอบในด้านที่มันบวกกว่านี้
“ก็เขาดูกระตือรือร้นที่จะคบกับนายดีนี่ ฉันก็เลยคิดว่าน่าจะลองให้โอกาสเขาดู”
“คำตอบมันเหมือนกับว่านายเป็นคบกับหมอนั่นเองเลยนะ” กีกวังพูดเสียงต่ำ
“อย่างที่นายกับฉันรู้ เขามันเพลย์บอย แต่เพลย์บอยอย่างเขาก็ตามตื้อนายนะ นั่นมันอาจเป็นสัญญาณว่าเขาชอบนายจริงๆก็ได้”
“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเนี่ยนะ”
“รักแรกพบไง ว่าแต่นายถามทำไม หรือว่า...!!” โยซอบร้องเสียงดังก่อนจะเงียบไปแล้วเอามือป้องปากตัวเองไว้ราวคนที่ตกใจกับเรื่องหนึ่งมากๆ กีกวังหรี่ตาให้เล็กลงก่อนจะถามอย่างคนที่ไม่เข้าใจ
“หรือว่าอะไร”
“ก็หรือว่าเขาขอแบบนั้นกับนายน่ะสิ!!”
“เฮ้ย ไม่ใช่ เขาแค่...”
“เขาแค่ทำให้นายเกิดความรู้สึกแบบนั้น!!”
“ไม่ใช่ นี่มันไปกันใหญ่แล้วนะโยซอบ” กีกวังร้องออกมาอย่างไม่ชอบใจ เพราะความคิดแต่ละอย่างของโยซอบมันดูจะรุนแรงเกินจริงไปหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นอะไรล่ะ นายก็พูดออดมาเร็วๆสิ”
“เขาแค่ขอจูบฉัน -///-”
“จูบ!!!? ให้ตายเถอะ แค่นี้นายก็คิดว่าเขาหวังจากนายแค่เรื่องแบบนั้นแล้วงั้นเหรอ คนเป็นแฟนกันจูบกันเรื่องปกติจะตาย”
“แต่นี่มันเพิ่งอาทิตย์กว่าๆ”
“ถ้าเป็นฉันวันแรกก็จูบกันแล้ว - -”
“!!” กีกวังมองคนข้างๆตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเท่าไหร่นัก แล้วรอยยิ้มกว้างๆกับอาการหัวเราะจนท้องแข็งของโยซอบก็ทำให้เขารู้ว่าเจ้าตัวคงแค่ล้อเล่นเท่านั้น
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ คิดมากน่า ตราบใดที่เขายังไม่ขอเข้ามาในห้องนอนหรือพานายไปที่ห้องนอนเขาในเร็ววันนี้ นายก็มั่นใจได้เลยว่าเขาคงชอบนายจริงๆ”
“แล้วถ้าเขาทำล่ะ...”
“ไว้ถึงตอนที่เขาทำนายก็จะรู้เองล่ะว่าจะทำยังไง พรุ่งนี้ฉันมีถ่ายละครแต่เช้าไปนอนแล้วนะ”
“อืม ฝันดี” กีกวังบอกพร้อมยิ้มน้อยๆ แม้ว่าโยซอบจะเข้าไปนอนนานแล้วแต่กีกวังก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด สำหรับกีกวังแล้วการที่จะรักใครหรือคบใครสักคนมันเป็นเรื่องใหญ่ ถึงดงอุนจะทำดีกับเขามากมายแต่ถ้าจะให้ทำมากกว่าจับมือกันในตอนนี้เขารู้สึกว่ามันยังเร็วเกินไป ในตอนนี้กีกวังยังไม่สามารถไว้ใจดงอุนได้เลยด้วยซ้ำ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ว่าไงมึง J” ดงอุนที่เพิ่งมาถึงทักจุนฮยองแล้วยิ้มร่าให้อย่างคนอารมณ์ดี ส่วนคนที่ถูกทักก็ยังคงนั่งหน้านิ่งเหมือนเดิม
“มึงเพิ่งไปส่งกีกวังมาไม่ใช่หรอ ส่งเสร็จก็มาผับต่อเลยหรือไง”
“เออ คืนนี้กูอยากหาอะไรทำ J” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บวกกับสายตาที่มองไปที่คนโน่นที่คนนี้ทีไม่หยุดของดงอุนทำให้จุนฮยองเดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนสนิทเขาตัวเองต้องการอะไร จุนฮยองแค่นหัวเราะเบาๆแล้วยกบรั่นดีขึ้นจิบ
“ขำเชี้ยไร”
“แล้วมึงคิดว่ากูจะขำอะไรล่ะ ถ้าผู้จัดการกูรู้คงดีใจตาย กลางวันอยู่กับเขากลางคืนมั่วไปทั่ว”
“มึงไม่พูด กูไม่พูด เขาก็ไม่รู้ J” ดงอุนยังคงยิ้มร่าก่อนที่จะตัวจะยกแก้วขึ้นจิบ โดยที่สายตาสอดประสานกับผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ไม่โต๊ะไม่ไกลกันนัก
“กูไม่พาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้ามึงไม่จริงจังก็อย่าคบกันเป็นแฟนเลย กูไม่อยากให้กีกวังเสียใจ”
“ทำไม มึงแอบชอบแฟนกูหรือไง” ดงอุนพูดไปขำไปอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่นัก ความจริงเขาไม่เคยจริงจังกับใครอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าสำหรับกีกวังมันคืออะไร ดงอุนก็คงบอกได้แค่ว่ากีกวังนั้นคือถูกใจเขามากที่สุดในตอนนี้
“เปล่า กูแค่ไม่อยากให้มึงทำร้ายคนดีๆ กูไปนะ” จุนฮยองบอกแล้วลุกออกมาก่อนที่ผู้ชายตัวเล็กที่ดงอุนจ้องตาด้วยเมื่อครู่นี้จะเดินเข้ามาหาเพื่อนรักของเขา ต่อจากนั้นก็คงเหมือนเดิม...สุดท้ายดงอุนก็จบกับทุกคนที่เตียง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“Zzzz Zzzz Zzzz”
“หึ” จุนฮยองหัวเราะเบาๆทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า อีกหนึ่งชีวิตในคอนโดของเขานอนอยู่ที่โซฟาในสภาพที่ทุกคนต้องคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายหน้าตาสวยๆอย่างจางฮยอนซึงจะสามารถนอนโดยที่แขนไปทาง ขาไปทาง แถมตัวก็เกือบจะหล่นจากโซฟาอยู่แล้วแบบนี้ได้ เขาควรจะทำอย่างไรกับคนตรงหน้าดีเนี่ย
นายทำให้สิ่งแวดล้อมในห้องดูแย่ลงไปเยอะเลยนะ
สองขาของจุนฮยองพาเขาไปยังโซฟาที่ฮยอนซึงนอนอยู่ก่อนที่เขาจะจับแขนและขาเล็กๆนั่นวางให้ถูกที่ถูกทาง แล้วก้มตัวลงไปใกล้กับร่างบางก่อนที่จะอุ้มฮยอนซึงขึ้นเพื่อให้จัดให้นอนบนโซฟาได้อย่างเต็มตัว
“เฮ้ย นายคิดจะทำอะไรฉันเนี่ย OoO”
ตุ้บ!
“โอ๊ย ก้นฉัน” ฮยอนซึงที่เพิ่งถูกปล่อยทิ้งลงจากอ้อมแขนนั่นร้องออกมาเสียงดังพร้อมลูบบั้นท้ายตัวเองปอยๆ จุนฮยองที่เพิ่งสร้างความเจ็บปวดให้คนตรงหน้าคลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจ เขาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาก่อนจะเบียดฮยอนซึงที่นั่งอยู่ก่อนให้ถอยออกไป และถึงแม้จะถูกคนหน้าสวยส่งสายตาอาฆาตมาให้แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
“นี่นาย อยู่ๆก็อุ้มฉันแล้วอยู่ๆก็ปล่อยลงมาแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน - -”
“ก็เมื่อกี้นายพูดเหมือนอยากให้ฉันปล่อยฉันก็เลยปล่อย”
“ถ้ามีคนมาอุ้มนายตอนที่นายหลับตื่นมานายจะไม่ตกใจหรือยังไง - -”
“ไม่รู้สิ ยังไม่มีใครเคยอุ้มฉันเลย”
ตอบได้น่าถีบหล่นจากโซฟามาก เก่งจริงๆเรื่องกวนชาวบ้านเขาเนี่ย - -
“จ้องหน้าฉันแบบนั้นหมายความว่ายังไง” นายแบบดังถามนักเขียนหน้าสวยที่นั่งจ้องเขาอย่างไม่วางตา แถมพอเขาถามยังขมวดคิ้วใส่อีก
“นายไปเที่ยวผับมาใช่ไหม ทั้งกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่คลุ้งเต็มไปหมด เพราะไอ้นี่แน่ๆฉันเลยตื่นขึ้นมา - -”
“แล้วยังไง”
“นายไม่ชวน ฉันบอกแล้วไงถ้านายจะไปไหนต้องบอกก่อนเพราะฉันจะไปด้วย”
“ถึงฉันชวนนายก็ไม่ไปหรอก ดูหน้านายสิ ไม่ชอบกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่แล้วจะไปผับทำไม”
“ฉันไม่ชอบกลิ่นพวกนี้ก็จริงแต่ในเมื่อเป็นเรื่องงานฉันก็ต้องไป อย่างน้อยฉันก็จะได้รู้ว่านายชอบดื่มแบบไหน คอแข็งแค่ไหน แล้วก็เรื่องความรักในผับอะไรแบบนี้” ฮยอนซึงตอบ ความจริงไม่ใช่แค่กลิ่นนะแต่ถ้าให้เขาไปดื่มก็คงไม่ไหวเพราะเขาน่ะคออ่อนจนต้องบอกลาของพวกนี้ไปตั้งแต่ดื่มครั้งแรกเลยล่ะ
“นายจะยอมทนเพื่องานอย่างนั้นหรอ”
“อืม สำหรับฉันเรื่องเพื่อนมาเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องงานมาเป็นอันดับสอง ส่วนอันดับสุดท้ายก็คือเรื่องส่วนตัว”
“ฉันดื่มได้ทุกประเภทแต่ชอบพวกเหล้าแรงๆเป็นพิเศษ ส่วนความคอแข็งก็ถ้าไม่ใช่วอดก้าสามขวดก็เอาฉันไม่อยู่ เรื่องความรักในผับฉันไม่สนหรอก คนที่ไปหาใครสักคนในที่แบบนั้นก็หวังความสัมพันธ์แค่ข้ามคืนเท่านั้นแหละ” จุนฮยองพูดยาวๆก่อนที่จะลุกและเดินหายเข้าห้องนอนตัวเองไป
ปัง
เสียงประตูเมื่อครู่คือสิ่งที่เรียกสติฮยอนซึงให้กลับมาอีกครั้งนึง เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่ตัวเองหูฝาดหรือว่าเขายังไม่ตื่นกันแน่ ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิดนายแบบนั่นตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้ใช่ไหมทั้งเรื่องประเภทของแอลกอฮอลล์ที่ชอบดื่ม เรื่องความคอแข็งและเรื่องความรัก แล้วฮยอนซึงก็หยิบสมุดเล่มเล็กเล่มเดิมขึ้นมาจดเรื่องเมื่อครู่นี้เอาไว้อีกครั้งหนึ่ง...
‘เครื่องดื่ม(แอลกอฮอลล์) - ดื่มได้ทุกประเภทโดยเฉพาะเหล้าแรงๆ
ระดับความคอแข็ง ต้องวอดก้าสามขวดถึงจะเอาอยู่
ความรักในผับ ไม่สนใจ คนที่ไปหาใครสักคนในที่แบบนั้นก็หวังความสัมพันธ์แค่ข้ามคืน’
“นี่ยงจุนฮยอง! ไว้ถ้าฉันไปผับฉันจะชวนนายไปนะ! นายคอแข็งชะมัดเลย! แล้วทัศนคติเรื่องความรักในผับของนายฉันชอบมันนะ!” ฮยอนซึงตะโกนเสียงดังเพื่อให้คนในห้องนอนได้ยินด้วยถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าจุนฮยองหลับไปหรือยังก็ตามก่อนที่ตัวเขาเองจะไปนอนบนเตียงนุ่มๆในห้องของตัวเองเหมือนกัน
ปัง
เสียงปิดประตูที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้คนในห้องแอบหัวเราะเบาๆออกมาไม่ได้
นึกว่าคืนนี้นายจะนอนที่โซฟาซะอีกนะ...จางฮยอนซึง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“คัท เลิกกองได้” ดูจุนพูดเสียงดังหลังถ่ายฉากสุดท้ายของวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาวาง ว. ไว้หน้ามอนิเตอร์แล้วพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ เป็นอีกวันที่เขาต้องอยู่ที่กองถ่ายนี่ตั้งแต่เช้าจนถึงสามทุ่มกว่า และต้องนั่งดูโยซอบแสดงฉากเดิมๆผ่านหน้าจอมอนิเตอร์นับสิบรอบ ทั้งที่ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกชอบใจในนักแสดงคนนี้เท่าไหร่เลย
“นี่นาย ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” โยซอบบอกพร้อมยืนกอดอกมองผู้กำกับด้วยใบหน้าที่นิ่งสนิท ถึงแม้ว่าเขาจะถ่ายละครนี่มานานนับสัปดาห์แล้วแต่ก็ถ่ายได้วันละฉากเท่านั้นทั้งๆที่ถ่ายตั้งแต่เช้าถึงค่ำ และวันนี้เขาคิดว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้งานมันคืบหน้ากว่านี้ได้แล้ว
“พูดมาสิ” ดูจุนตอบสั้นๆ ซึ่งนั่นทำให้คนตัวเล็กอดจิ๊ปากไม่ได้ก่อนที่เขาจะลากเก้าอี้แถวนั้นมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งเผชิญหน้ากับดูจุนโดยตรง
“ฉันว่าเราถ่ายละครช้ากว่าที่มันควรจะเป็นนะ ฉันอยู่ที่กองนี่ทั้งวันแต่ก็ถ่ายได้แค่วันละฉาก”
“แล้วยังไง นายจะมาโทษฉันงั้นเหรอ ทั้งหมดมันเป็นเพราะนายแสดงไม่ดีต่างหากงานเลยช้า” ร่างสูงตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลุกขึ้นแล้วออกจากการสนทนาเสียดื้อๆ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่นักแสดงนำผู้ไม่เคยแสดงได้ดั่งใจเลยมายืนขวางเขาไว้
“นั่นมันเพราะนายคิดว่าฉันแสดงไม่ดีต่างหาก ทั้งที่ตั้งแต่ถ่ายครั้งแรกจนถึงตอนที่นายบอกว่าผ่านฉันก็เล่นเหมือนเดิมมาตลอด”
“เผื่อนายจะไม่รู้ แต่ฉันจะช่วยบอกให้ว่ามันไม่เหมือนเดิมเลยสักครั้ง”
“ยังไง” โยซอบพยายามควบคุมอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัวเขาเอาไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่ามือทั้งสองข้างของเขาจะกำแน่นอยู่ข้างลำตัวก็ตามที
“ตอนถ่ายครั้งแรกนายตั้งใจเกินไปเพราะนายอยากจะเอาชนะฉัน นายอยากจะให้ฉันบอกว่าผ่านตั้งแต่ครั้งแรกเลยพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด และนั่นมันคือความหมายของคำว่า ‘เฟค’ ตอนที่ฉันสั่งคัท”
“
”
“แต่พอนายโดนฉันว่าไปเรื่อยๆนายก็เริ่มรู้สึกเบื่อ รำคาญหรืออะไรก็ตามที่ทำให้นายไม่อยากตั้งใจทำอีกแล้ว นายถึงได้แสดงแบบที่มันควรจะเป็นว่านายคือตัวละครตัวนั้น ไม่ใช่นักแสดงที่อยากจะเอาชนะผู้กำกับ ทีนี้นายเข้าใจความแตกต่างหรือยัง”
“
” โยซอบยืนนิ่งและไม่ได้ตอบอะไรออกไป มือที่กำอยู่เริ่มคลายออก ในหัวเขาคิดเพียงอย่างเดียวว่า...
นาย...รู้ได้ไง
ดูจุนจ้องคนตรงหน้านิ่งๆก่อนที่จะเดินจากไป โยซอบยังคงยืนอยู่ที่เดิมแต่สายตากลับมองตามผู้กำกับคนเมื่อครู่ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนตัวเล็กพยายามตั้งสติอีกครั้งนึงแล้วทบทวนความรู้สึกของตัวเองในขณะนี้ว่ามันคืออะไรกันแน่
โกรธ...
อับอาย...
หรือชื่นชม...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“นี่นาย เดี๋ยวก่อน” ดูจุนคลายมือที่จับประตูรถอยู่ก่อนจะหันไปหาเสียงเรียกทางด้านหลัง โยซอบหอบแฮ่กอย่างคนที่เหนื่อยจากการวิ่งมาไกลมือข้างนึงก็เท้าตัวรถของดูจุนไว้
“จะตามมาด่าอะไรฉันอีกล่ะ”
“เปล่า ฉันแค่จะมาเคลียร์กับนาย” โยซอบทุบหน้าอกตัวเองก่อนหายใจเข้าแรงๆ บางทีอาจเป็นเพราะช่วงนี้เขาไม่ได้เข้าฟิตเนสเลยถึงได้เหนื่อยง่ายแบบนี้
“เคลียร์อะไร?”
“ทุกอย่าง โดยเฉพาะเหตุผลที่นายเกลียดฉัน”
“ฉันไม่เคยเกลียดนาย”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมนายถึงได้ทำตัวแย่ๆแบบนี้ใส่ฉันล่ะ นายรู้ตัวไหมว่าฉันเป็นคนเดียวในกองนะที่นายทำตัวไม่ดีด้วย”
“รู้ แล้วยังไงล่ะ” ดูจุนพูดนิ่งๆอีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกเบื่อบทสนทนาที่ใกล้จะนำไปสู่การทะเลาะนี่เต็มทีแล้ว บางทีเขาน่าจะเมินใส่โยซอบที่ตะโกนเรียกเขาเมื่อครู่นี้แล้วขับรถกลับบ้านไปซะ บอกตามตรงว่าเขาไม่เข้าใจเลยว่าคนตรงหน้าคิดจะทำอะไรกันแน่ถึงได้พูดกับเขาแบบนั้น
“มันไม่ได้ยังไงหรอก แต่ฉันแค่อยากให้งานมันเดินไปเร็วกว่านี้ บางทีถ้าเราเคลียร์กัน
”
“เราไม่มีอะไรต้องเคลียร์กัน”
ปัง
ร่างสูงพูดแค่นั้นก่อนที่จะปิดประตูรถแล้วขับหนีจากไปโดยทิ้งให้โยซอบยืนเคว้งอยู่ที่เดิม
เมิน! เมิน! เมิน! ถ้านายอยากจะเปิดสงครามกับฉันนักก็เอาสิ!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk Talk Talk
ดูซอบเริ่มแรงขึ้นแล้วนะเนี่ย 555 หวังว่ารีดเดอร์จะถูกใจกันนะค่ะ
ส่วนจุนซึงก็ต้องลุ้นกันต่อไป จะอะไรยังไงก็ต้องตามเชียร์กันนะค่ะ
อุ่นกวางคบกันแล้วนะ แต่นี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นต้องดูกันไปยาวๆ
PS.เป็นบทสุดท้ายที่ไรเตอร์เขียนเก็บเอาไว้ ต่อไปถ้าช้าก็ขอโทษนะค่ะ TT
ความคิดเห็น