คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 2 : So Hot ประเด็นร้อนซ่อนรัก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ห้องตรงนั้นว่าง นายอยู่ห้องนั้นไปแล้วกัน - -” นายแบบดังบอกกับฮยอนซึงแค่นั้นหลังจากที่ทั้งคู่มาถึงคอนโดของจุนฮยองเรียบร้อยแล้ว ร่างบางมองปราดเดียวก็รู้ว่าจุนฮยองไม่พอใจกับข้อตกลงนี้แค่ไหนแต่เพราะเขาปฏิเสธมันไม่ได้จึงต้องยอมแต่โดยดี
“เฮ้ย สาบานว่าห้องนอน =[]=” ฮยอนซึงร้องออกมาเสียงดังเมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกับสภาพห้องที่น่าอนาถใจอย่างไม่น่าเชื่อ ผ้าปูที่นอนยับๆยังคงเต็มไปด้วยคราบที่คนโตแล้วน่าจะรู้ดีว่ามันคืออะไร ไหนจะถุงยางหลากแบบหลากสีที่ทั้งใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้วางเกลื่อนอยู่ทั่วห้อง อีกทั้งโซ่ กุญแจมือ เทียนไข ชุดแมวพร้อมแส้?
ฉันอยากจะเป็นลม หมอนี่มันโรคจิตชัดๆเลย = =
“หึ”
“ขำอะไรของนาย - -”
“เปล่า ขอให้สนุกในการจัดห้องนะ” จุนฮยองพูดเท่านั้นก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งและทิ้งให้ร่างบางยืนอารมณ์บูดอยู่หน้าห้องนอนเพียงคนเดียว สมุดเล่มเล็กถูกนักเขียนหน้าสวยหยิบขึ้นมาใช้งานอีกครั้งสิ่งที่เขาเขียนลงไปในครั้งนี้อาจจะนำไปเขียนในหนังสือไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้จักคนตรงหน้ามากขึ้น
‘นิยมความรุนแรงในเรื่องอย่างว่า’
น่ากลัวชะมัดเลย TT
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“สวัสดีครับทุกคน สวัสดีครับ J” โยซอบทักทายทุกครั้งในกองถ่ายพร้อมฉีกยิ้มกว้างให้อย่างเป็นมิตร เพราะนี่คือวันแรกของการแสดงละครเรื่องใหม่เขาจึงต้องทำตัวดีเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีผู้จัดที่ชอบมาวอแวกับนักแสดงนำอย่างจินอุน และผู้กำกับที่เขาเกลียดขี้หน้าที่สุดในเกาหลีอย่างดูจุนก็ตาม แต่ว่าวันนี้มีกีกวังมาด้วยซึ่งเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้จัดการคนสนิทจะสามารถปรามเขาได้เวลาที่เขาทำตัวแรงเกินเหตุ
“คุณโยซอบ สวัสดีครับ J”
ตายยากจริงๆ เป็นผู้จัดจะมาที่กองหาพระแสงอะไรเนี่ย - -
“สวัสดีครับ” โยซอบทักตอบตามมารยาทพร้อมกับสะกิดกีกวังที่มาด้วยกันให้ช่วยทำอะไรสักอย่าง ซึ่งผู้จัดการของเขาก็ทำหน้าที่นั้นได้เป็นอย่างดี
“โยซอบเดี๋ยวนายต้องไปแต่งตัวแล้วนะ รีบไปสิ ผู้จัดมีอะไรหรือเปล่าครับ คุยกับผมได้นะครับ”
“คือผม...”
“หรือว่าผู้จัดยังไม่ได้ทานอาหารเช้า ทานกับผมก็ได้นะครับผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน”
“เรื่องนั้น...”
“ไปทานข้าวกันเถอะครับ” แล้วกีกวังก็ผายมือเชิญผู้จัดคนดังให้เดินนำไปก่อนแล้วขยิบตาให้โยซอบเป็นเชิงบอกว่าเรียบร้อยแล้ว นักแสดงนำของเรื่องส่งยิ้มให้กับทั้งคู่น้อยๆแล้วเดินออกมา เมื่อห่างจากจุดเดิมพอสมควรแล้วโยซอบก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
ถึงจะเช้าขนาดนี้แต่ก็ยังเตรียมมุขมายุ่งกับฉันจนได้สินะ ไอ้ผู้จัดหื่นเอ๋ย - -
“เล่นตัวเพื่อเพิ่มมูลค่างั้นเหรอ เข้าใจคิดดีนี่” เสียงนิ่งๆที่ดังมาจากด้านหลังทำให้โยซอบต้องหันขวับไปมองในทันที แล้วก็เป็นอย่างที่คิดอีกคนที่เขาไม่ชอบในกองถ่าย...ยุนดูจุน
“การแอบดูเรื่องของคนอื่นก็ไม่ใช่มารยาทที่ดีนักหรอก - -”
“ขอโทษนะ แต่ไอ้เรื่องแบบนี้ฉันเองก็ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่หรอก แต่เหมือนว่าบางคนจะตั้งใจโชว์ซะเต็มที่ถึงได้คุยเรื่องแบบนั้นกันกลางกองถ่าย”
“แบบนั้นน่ะแบบไหน พูดให้มันดีๆนะ” โยซอบพูดเสียงดัง ถึงเขาจะพอเดาได้ก็เถอะว่าแบบนั้นที่ดูจุนว่าน่ะมันแบบไหน
“ก็แล้วแต่จะคิดสิ ก็โตแล้วนะน่าจะคิดเองได้” ดูจุนทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเตรียมเดินกลับเข้าไปในกองอีกครั้งหนึ่ง แต่นักแสดงนำที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อครู่กลับมายืนขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“พูดให้เคลียร์ก่อนแล้วนายค่อยไป”
“ไม่ยักรู้ว่าผู้กำกับเดี๋ยวนี้ต้องเชื่อฟังนักแสดงด้วย”
“อย่ามาทำเป็นวางอำนาจกับฉันนะ ต่อให้นายเป็นลูกเจ้าของสถานีฉันก็ไม่สนหรอก”
“เราคิดเหมือนกันเลยนะ” ดูจุนพูดสั้นๆก่อนจะเดินชนโยซอบจนคนตัวเล็กถึงกับเซ นักแสดงนำของเรื่องได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจที่คราวนี้เขาต้องยอมให้ผู้กำกับนั่นดูถูกอีกแล้ว
ไอ้คนบ้าอำนาจ!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
‘คัท ใช้ไม่ได้’
‘คัท อารมณ์ห่วยมาก’
‘คัท เล่นเฟคเกินไป’
‘คัท...’
‘คัท...’
‘คัท...’
‘คัท...’
.
..
..
วันนี้เขาต้องเจอกับคำเดิมๆและเหตุผลห่วยๆของผู้กำกับบ้าอำนาจนั่นไม่ต่ำกว่าร้อยรอบ ฉากหนึ่งเขาต้องเล่นไม่ต่ำกว่าสิบเทคทั้งที่ปกติไม่เกินสามเทคเขาก็ผ่านแล้ว ผู้กำกับนั่นเอาแต่สั่งคัทด้วยเหตุผลบ้าๆบอๆที่ทำให้เขาดูห่วยในสายตาของทุกคนในกอง ขนาดตัวประกอบที่แค่เดินผ่านในฉากผู้กำกับนั่นยังชมแต่ทีเขา...ด่าเอาๆ
“นายโอเคกับบทใช่ไหมโยซอบ นี่เพิ่งจะวันแรกถ้านายรู้สึกว่าไม่ไหวฉันจะไปขอถอนตัวให้” กีกวังถามอย่างเป็นห่วง โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นจะยิ่งทำให้โยซอบอารมณ์บูดมากขึ้นไปอีก
“ไม่ต้อง ฉันไหวอยู่แล้ว นายก็เห็นกีกวัง...บทนี่ฉันอาจมาจะร้อยรอบอยู่แล้ว ถ้าฉันไม่เข้าใจจนเล่นไม่ได้ฉันก็ไม่ควรเป็นนักแสดงแล้วล่ะ”
“แต่ว่านาย...”
“ผู้กำกับนั่นมันแกล้งฉันนายดูไม่ออกหรือไง ถ้าการแสดงของฉันมันห่วยอย่างที่หมอนั่นบอกจริงๆ ฉันคงดังอย่างทุกวันนี้ไม่ได้หรอก อ้อ แล้วต่อไปนายก็ไม่ต้องไปกองนั่นกับฉันอีกแล้วนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ” กีกวังทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาข้างๆดาราดังแล้วถามอย่างสงสัย เมื่อเช้าตอนไปด้วยกันโยซอบยังบอกกับเขาอยู่เลยว่า ‘ยังไงก็ต้องไปด้วยทุกวัน’ แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าไม่ต้องไปแล้วซะได้
“ฉันมีเหตุผลส่วนตัว ตามนั้นนะ” แล้วโยซอบก็เดินหายเข้าห้องนอนตัวเองไปโดยที่กีกวังทำได้เพียงมองตาม ถึงเขาเองจะไม่เข้าใจเหตุผลของโยซอบเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นความต้องการของนักแสดงในความดูแลเขาก็คงต้องทำตาม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“กีกวัง >O<~” คนถูกเรียกได้แต่ก้มหน้าเดินเข้ามา เมื่อถูกดงอุนตะโกนเรียกดังลั่นทั้งที่เขาเพิ่งเดินเขาประตูร้านอาหารชื่อดังมาแท้ๆ แขกในร้านต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว นี่ถ้าดงอุนไม่โทรมาเป็นร้อยสายแล้วเขาไม่ยอมรับจนโยซอบต้องเป็นคนมารับให้ แล้วจากนั้น...นักแสดงในความดูแลของเขาก็จัดการตอบรับนัดให้เสร็จสรรพ แถมยังไล่ให้เขาออกมาโดยที่กีกวังไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้อีกด้วย
‘ถ้านายไม่ไป ฉันจะขอเปลี่ยนผู้จัดการ - -’
บางทีช่วงนี้เขาก็เสี่ยงต่อการได้เปลี่ยนงานบ่อยเกินไปแล้วนะ - -
“เฮ้ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจหรือไงที่ได้ออกมาดินเนอร์กับฉัน”
“นายคงไม่อยากฟังหรอก มีธุระอะไรก็พูดมาสิ - -”
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องมากินข้าวด้วยกันสิ ^___________^”
“แต่เราเป็นผู้ชายกับผู้ชาย” กีกวังเน้นที่คำว่าผู้ชายเป็นพิเศษเผื่อว่าคนตรงหน้าจะลืม แต่เหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเพราะดงอุนยังคงดึงมือเขามากุมเอาไว้โดยไม่แคร์สายตาของคนในร้านที่มองมาเลย
“นี่มันยุคไหนแล้ว เรื่องเพศไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก” แล้วดงอุนก็จูบเบาๆที่มือของกีกวัง ร่างเล็กชักสีหน้าอย่างไม่พอใจเขาเกลียดคนฉวยโอกาสแบบนี้ที่สุด
“อย่ามาทำแบบนี้ฉันไม่ชอบ!”
“แต่ฉันชอบนี่ ฉันชอบนายนะกีกวัง ^__________^”
“คำหวานๆพวกนี้มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกชอบนายมากขึ้นหรอกนะ”
“นายไม่ชอบงั้นเหรอ ทำไมล่ะ? คนอื่นๆเขาก็ชอบกันทั้งนั้นแหละ ^___________^”
“เพราะฉันไม่ใช่คนอื่นๆพวกนั้นไงล่ะ ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบเดียวกับที่นายเคยคบด้วย ฉันไม่ชอบพฤติกรรมสกินชิพพวกนี้ ฉันไม่ชอบคำหวานๆของนาย ฉันไม่ชอบทุกอย่างที่เป็นนาย!” กีกวังบอกอย่างอดใส่อารมณ์ลงไปในคำพูดพวกนั้นไม่ได้
“เฮ้ ใจเย็นๆสิ ถ้านายไม่ชอบฉันไม่ทำก็ได้ ยังไงตอนนี้ฉันก็ชอบนายและฉันก็เป็นแฟนกับนาย ฉันแคร์แค่นายอยู่แล้ว”
“แต่เมื่อกี้นายเพิ่งพูดถึงคนอื่น!” กีกวังกระแทกเสียง
“นายทำอย่างกับหึงฉันอย่างนั้นแหละ J” ประโยคน่าขนลุกที่ดงอุนเพิ่งเอ่ยออกมมาทำเอากีกวังแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
“ฉันไม่ชอบนายด้วยซ้ำ แล้วจะหึงนายทำไม”
“ก็นั่นน่ะสิ J”
“นี่ ถ้านายยังเอาแต่ยิ้มเลี่ยนๆแล้วก็พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้ฉันจะกลับแล้วนะ - -” คนตัวเล็กเตรียมจะลุกออกไปแต่ก็เป็นอีกครั้งที่มือหนาคว้าข้อมือของเขาไว้แน่น
“โอเค ไม่พูดแล้ว สั่งอาหารกันเถอะนะ ^__________^” ดงอุนยอมอย่างว่าง่าย แล้วดินเนอร์ที่(ไม่ค่อยจะ)สงบสุขนั้นก็ได้เริ่มต้นเสียที
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
‘เบื่อ! เซ็ง!’ คือสองคำที่ลอยวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวของฮยอนซึงนับแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาจนถึงตอนนี้ เขาต้องใช้ชีวิตอย่างคนที่ไร้เป้าหมาย ‘กิน นอน’ คือกิจกรรมหลักๆที่เขาทำ แม้ว่าเจ้าตัวจะรู้ดีว่าเขามาที่นี่เพื่อทำงานก็เถอะ
“นี่ ชีวิตนายจะเรียบไปไหนเนี่ย วันๆนึงนายแทบไม่ได้ไปที่ไหนเลยนะ นอกจากห้องนอนกับห้องครัว” ฮยอนซึงพูดขึ้นขณะที่จุนฮยองยืนรินน้ำดื่มอยู่ที่หน้าตู้เย็น นายแบบดังเพียงแค่ปรายตามองแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะด้วยนิสัยแล้วจุนฮยองจะเป็นคนที่พูดน้อยมาก โดยเฉพาะกับคนที่เขาไม่ถูกชะตาด้วยเท่าไหร่แบบ...จางฮยอนซึง
หยุกหยิกๆ
เป็นอีกครั้งแล้วที่จุนฮยองต้องยืนมองนักเขียนหน้าสวยจดอะไรก็ไม่รู้ในสมุดเล่มเล็กๆ ที่เขาไม่เคยเข้าใจสักทีว่าถ้าจะเขียนด่าเขาทำไมต้องมาเขียนต่อหน้าด้วย - -
“เขียนด่าฉันจนสมุดใกล้หมดหรือยังล่ะ - -”
“ฉันว่าฉันอธิบายไปตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันแล้วนะว่าฉันไม่ได้เขียนด่านาย”
“นายไม่เคยอธิบาย นายแค่บอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว - -” คำพูดของคนตรงหน้าทำเอาฮยอนซึงต้องนึกย้อนไปเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกและอีกหลายๆครั้งต่อมาที่จุนฮยองถามเขาเรื่องสมุดนี่ จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่เคยอธิบายจริงๆนั่นล่ะ
“อ้อ ใช่ แล้วยังไงล่ะ”
“ไม่ยังไงหรอก” จุนฮยองตอบหน้านิ่งๆก่อนที่จะหมุนตัวเตรียมเดินกลับห้องนอนของตัวเอง แต่เสียงเรียกจากด้านหลังก็ทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้าของตัวเอง
“นี่ เดี๋ยวสิ เราไปเที่ยวกันไหม ฉันอยากรู้ว่านายชอบเที่ยวแบบไหนน่ะ”
“งานฉันยุ่ง - -”
“งานนายเนี่ยนะยุ่ง ฉันเห็นนายอยู่ในคอนโดนี่อย่างเดียวมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”
“ฉันนี่นะอยู่แต่ในคอนโด เหอะ ฉันว่านายเพี้ยนแล้วล่ะ”
“นี่ อย่ามาแค่นหัวเราะใส่ฉันนะ ก็ตอนที่ฉันมาจากห้องนอนฉันก็เห็นแค่นายเดินเข้าออกห้องนายกับครัวแค่นั้น แบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่างานยุ่ง”
“ฉันมีงานทุกวัน ไม่เชื่อนายโทรไปถามกีกวังได้ แล้วไอ้พฤติกรรมเข้าออกแค่ห้องนอนกับครัว...ฉันว่านั่นมันนายมากกว่านะ”
ไอ้หมอนี่!
“ก็ได้ๆ ฉันจะลองเชื่อนายดู แต่ต่อไปเวลานายไปทำงานนายต้องบอกฉันล่วงหน้าด้วยนะ เพราะฉันจะไปด้วย J”
“เสียใจ เพราะฉันไม่มีวันยอมให้นายไปทำงานด้วยแน่ๆ” จุนฮยองบอกพร้อมยกยิ้มที่มุมปากอย่างคนมีชัย ยิ่งได้เห็นสีหน้าไม่พอใจของฮยอนซึงด้วยแล้วเขายิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นไปอีก ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาหวังจะได้เอาคืนคนตรงหน้าแบบนี้มานานแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ให้ฉันเขาห้องนายสิ ฉันจะได้มีข้อมูลไว้เขียนหนังสือ”
“หาข้อมูลนั่นมันหน้าที่ของนาย ฉัน-ไม่-เกี่ยว”
ปัง
ประตูห้องนอนที่ถูกปิดลงก็เหมือนประตูสู่ความสำเร็จของฮยอนซึงที่ปิดลงเช่นกัน มีงานก็ไม่บอก ห้องนอนก็ไม่ให้เข้า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆอีกสามปีหนังสือเล่มนี้ก็คงเขียนไม่เสร็จแน่ๆ บางทีเขาควรจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลนั่นเสียแล้วและแน่นอนว่าต้องคิดบัญชีแค้นกับจุนฮยองด้วย
คิดว่านายจะทำให้ฉันตกเป็นรองได้ฝ่ายเดียวหรือยังไง หึ เร็วไปเถอะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk Talk Talk
บทที่สองมาเสิร์ฟแล้วจ้า~~ >O<
สำหรับบทนี้ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากให้ติดตามแต่ละคู่ไปเรื่อยๆด้วย
ร.ร.ไรเตอร์ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ยังไงถ้าต่อไปช้าบ้างอะไรบ้างก็อย่าว่ากันนะ
*PS.คอน Beautiful Show ไรเตอร์ไม่ได้ไป เศร้ามากจริงๆ ใครได้ไปฝากกรี๊ดเผื่อด้วยนะค่ะ TT
ความคิดเห็น