คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Intro
Intro
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“นายเลิกขอร้องฉันได้แล้วกีกวังเพราะยังไงฉันก็ไม่ยอมกลับไปแน่ๆ หมอนั่นมันกวนบาทาและไร้มารยาทเกินกว่าที่ฉันจะทำงานด้วยได้” ร่างบางกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างคนที่ยังคงมีอารมณ์โกรธอยู่ จากเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนมันทำให้เขายอมใจอ่อนกลับไปช่วยกีกวังอีกครั้งไม่ได้อีกแล้ว
.
..
..
‘จางฮยอนซึงครับ ผมคือนักเขียนที่จะมาเขียนหนังสือเล่มนี้ให้กับคุณ หวังว่าเราจะทำงานนี้ร่วมกันจนสำเร็จไปด้วยดีนะครับ’ หนุ่มหน้าสวยพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างถึงแม้ผู้ชายตรงหน้าจะไร้ปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมาก็ตาม ความจริงก่อนหน้าที่เขาจะรับงานนี้ก็ทำใจมาระดับหนึ่งแล้วล่ะว่าคนในวงการพวกนี้ต้องหยิ่งแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็คงรับมือได้ล่ะมั้ง
‘ก่อนอื่นผมขอทราบเรื่องราวทั่วไปของคุณหน่อยน่ะครับ อย่างเช่นความฝันในวัยเด็ก เรื่องที่สนใจ แนวเพลงที่ชอบ สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณประทับใจที่สุด แนวเพลงที่...’
‘ฉันไม่บอก’
‘คะ...ครับ?’ เขาร้องถามอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเท่าไหร่นัก ไม่บอกอย่างนั้นเหรอทั้งที่สิ่งที่เขาถามมันแค่เรื่องทั่วไปเนี่ยนะ - -
‘จุนฮยองนี่มันแค่เรื่องทั่วไปเองนะ นายก็แค่...’
‘ฉันไม่ตอบ ถ้าพวกนายคิดว่านี่เป็นเรื่องทั่วไปก็ไปหาเอาตามอินเตอร์เน็ตไม่ก็ห้องสมุดสิ มาถามฉันทำไม’ ฮยอนซึงได้แต่นั่งกัดฟันกรอดและพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุด ไอ้เรื่องอาการหยิ่งเขารับมือได้นะ แต่ไอ้เรื่องกวนบาทากับไร้มารยาทนี่บอกตามตรงว่าเขาไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนว่าจะต้องมาเจอ
ไอ้หมอนี่...!
‘นั่นนายจดอะไรน่ะ’ เขาถามฮยอนซึงที่กำลังจดอะไรสักอย่างใส่สมุดเล่มเล็กๆเอาไว้ คนหน้าสวยไม่ตอบนอกจากส่งรอยยิ้มหวานมาให้ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้เต็มใจทำอย่างนั้นก็เถอะ
‘ฉันถามว่านายจดอะไร!!’
‘ขอโทษที่ฉันต้องตอบว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว’ คำพูดที่สุภาพก่อนหน้านี้ได้หายไปหลังจากที่จุนฮยองเริ่มทำตัวไร้มารยาทกับเขา ฮยอนซึงไม่สนอีกต่อไปแล้วว่าคนๆนี้เป็นนายแบบชื่อดังและเป็นคนที่อยู่ใต้ความดูแลของเพื่อนสนิทเขา...อีกีกวัง
‘ถ้านายกำลังบอกว่าไอ้ที่นายเขียนด่าฉันมันเป็นเรื่องส่วนตัวล่ะก็...ฉันว่านายก็ออกจะไร้มารยาทกับฉันไปสักหน่อยนะ’
ไร้มารยาทงั้นเหรอ? นั่นเป็นคำที่ฉันควรเอาไว้ใช้ด่านายต่างหาก!! แต่ฉันไม่สนหรอก...ฉันมีสำรอง
‘อย่างนั้นพฤติกรรมของนายคงเข้าข่ายคำว่าหยาบคายเลยสินะ’
‘นาย!!!’ จุนฮยองตะโกนออกมาเสียงดังแล้วจ้องหน้าสวยๆนั่นอย่างไม่วางตา หากแต่มันไร้ซึ่งอารมณ์เสน่หาเพราะมันเต็มไปด้วยความไม่พอใจเสียมากกว่า
‘เอ่อ...ฉันว่าใจเย็นๆดีกว่านะจุนฮยอง ฮยอนซึงด้วย เรามาคุยงานกันนะคิดถึงแต่เรื่องงานดีกว่า’
‘ถ้านายจะเอาอย่างนั้นฉันก็ขอบอกนายไว้เลยว่าฉันไม่เอานักเขียนคนนี้!’
‘ด้วยความเต็มใจ เพราะฉันก็ไม่คิดจะร่วมงานกับคนอย่างนายเหมือนกัน!’
ซ่า!!!
น้ำเปล่าในแก้วที่วางอยู่ใกล้มือถูกคนหน้าสวยหยิบขึ้นมาสาดใส่คนตรงหน้า กีกวังได้แต่นั่งอ้าปากค้างอย่างไม่คิดว่าเพื่อนตัวเองจะโกรธจัดจนทำอะไรรุนแรงได้ขณะนี้ ในขณะที่นายแบบในความดูแลของตนเหมือนจะช็อกจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว
‘สวัสดี J’ นักเขียนหน้าสวยกล่าวลาอย่างคนมีมารยาทโดยมีรอยยิ้มกว้างระบายบนใบหน้า กีกวังได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไปในขณะที่คนหน้าสวยเดินออกไปจากร้านอย่างอารมณ์ดี
คิดจะมาเล่นกับฉันเร็วไปสิบปีเหอะ!
.
..
..
[ฮยอนซึงฉันขอร้องล่ะนะ ถ้าไม่ใช่นายฉันก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครอีกแล้วล่ะ เราคบกันมานานและ...]
“เราสนิทกัน...ฉันรู้ แต่หมอนั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง ตราบใดที่เขายังคงยืนยันว่าจะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับฉัน ทั้งที่หนังสือเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขาล้วนๆ ฉันก็ต้องบอกว่าฉันเสียใจ”
[ฮยอนซึง...]
“กีกวังฉันว่า...”
[ฉันรู้นะว่าฉันไม่ควรเอาเรื่องนี้มาพูดกับนาย แต่ถ้าฉันหานักเขียนไปเขียนหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ฉันจะถูกไล่ออก]
“!!!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ขอโทษนะครับ ผมว่าผมได้ยินไม่ชัด เมื่อครู่นี้คุณบอกว่าใครจะมาแสดงนำในละครเรื่องนี้นะครับ”
“ยังโยซอบครับ เขาจะมาแสดงนำในเรื่องนี้ J” ผู้จัดละครตอบเขาอย่างอารมณ์ดีในขณะที่ดูจุนได้แต่ย้ำกับตัวเองในใจว่าเขาต้องได้ยินผิดไปแน่ๆ
“ถ้าผมจะขอถามอีกครั้ง...”
“นักแสดงนำเรื่องนี้คือผมเอง ผู้กำกับมีปัญหาอะไรอย่างนั้นเหรอครับ” ผู้มาใหม่พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ดูจุนเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง...ยังโยซอบ
“สวัสดีครับทุกๆคน J” โยซอบกล่าวอย่างอารมณ์ดีแล้วโค้งให้ทุกคนในห้อง ก่อนที่จะทรุดตัวลงในบนเก้าอี้ในฝั่งตรงข้ามกับดูจุน รอยยิ้มยังคงถูกวาดอย่างสวยงามบนใบหน้าเนียนใสนั่นซึ่งดูจุนมองว่า...มันคือการแสดง
“ผมดีใจจริงๆเลยนะครับที่คุณโยซอบมาทั้งที่วันนี้มีคิวแน่นทั้งวันแท้ๆ J”
“ผมก็แค่อยากรู้น่ะครับว่าคนเบื้องหลังเขาประชุมอะไรกันบ้าง เรามาประชุมกันต่อเลยดีไหมครับ”
“จริงๆเราก็ไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วล่ะครับจะเลิกประชุมกันอยู่แล้ว เหลือก็แค่แจ้งรายชื่อนักแสดงกับผู้กำกับยุนเท่านั้นล่ะครับ J” จินอุนหรือผู้จัดละครเรื่องนี้ยังคงพูดอย่างอารมณ์ดีโดยฉีกยิ้มให้กับโยซอบเป็นพิเศษ ดูจุนรับรู้ถึงความผิดปกติของสายตาจินอุนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา บางทีคนตรงหน้าเขาอาจจะชอบมันก็ได้
“ว่าแต่ผู้กำกับยังมีปัญหาอะไรกับนักแสดงนำหรือเปล่าครับ”
“ไม่ล่ะครับ ผมมีงานต่อขอตัวนะครับ” ดูจุนตอบอย่างมีมารยาทแล้วเดินออกไปจากห้องเป็นคนแรกก่อนที่โยซอบจะเป็นอีกคนที่ขอตัวออกไป
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมก็ขอตัวนะครับ J”
“เดี๋ยวสิครับ คือถ้าคุณโยซอบจะพอมีเวลาสักหน่อย...”
Rrrrrr Rrrrrr
“ผู้จัดการผมโทรมาแล้ว ขอตัวนะครับ J ว่าไงกีกวัง” แล้วโยซอบก็เดินคุยโทรศัพท์ออกไปโดยที่จินอุนได้แต่ยืนเสียดาย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ฮู้วววว รอดแล้วเรา -O-” โยซอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่รอดออกมาจากผู้จัดคนนั้นได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่หมอนั่นมาเสนอบทให้เขาด้วยตัวเองจนกระทั่งสายตาเมื่อครู่นี้ในห้องประชุม เขามองออกอย่าง่ายดายว่าจินอุนไม่ได้ขาดหวังจากเขาแค่การเป็นเพื่อนร่วมงาน ดีนะที่เขากดปุ่มโทรหลอกได้ทันไม่อย่างนั้นเขาคงต้องไปกินข้าวกลางวันกับหมอนั่นแน่นอน
อันตรายชะมัดเลย TT
“ไม่คุยโทรศัพท์กับผู้จัดการแล้วหรอครับ”
“แล้วนั่นมันเรื่องอะไรของนายล่ะ” โยซอบบอกอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นักที่อยู่ๆยุนดูจุนผู้กำกับคนเมื่อครู่ก็มาถามเขาแบบนี้ ทำตัวอย่างกับรู้ว่าเขาทำอะไรและทำไปเพื่ออะไรอย่างนั้นแหละ บอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบคนแบบนี้เลย แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันโยซอบว่าคงไม่เท่ากับที่ผู้กำกับคนนี้ไม่ชอบเขาหรอก ผู้กำกับยุนคนนี้เกลียดนักแสดงทุกคนที่ขยันเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์และที่น่ายินดีก็คือเขาเป็นหนึ่งในนั้น - -
“ก็ไม่ใช่เรื่องของอะไรของผมหรอก แต่ถ้าชอบก็ไม่เห็นต้องเล่นตัวเลยนี่หน่า”
“ชอบ?”
“ไม่ต้องอายหรอก ผมเข้าใจ อ้อ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ” ร่างสูงพูดไว้แค่นั้นพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะเดินจากไป โยซอบได้แต่ยืนแค่นหัวเราะให้กับท่าทางที่แสนจะไม่จริงใจนั่น
คิดว่าด่าฉันแล้วจะเดินหนีไปได้ง่ายๆอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ!
“นี่ผู้กำกับ คุณไร้มารยาทแบบนี้กับนักแสดงทุกคนที่เพิ่งเจอกันหรือเปล่า” ดูจุนชะงักไปก่อนจะเดินกลับมาที่เดิมอีกครั้ง ดูเหมือนว่ายังโยซอบคงจะไม่อยากจบกับเขาง่ายๆอย่างนั้นสินะ ซึ่งดุจุนเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองเท่าไหร่ ในเมื่อทางนั้นเสนอมาขนาดนี้เขาก็พร้อมที่จะสนองอยู่แล้ว
“ไม่ครับ ผมเลือกปฏิบัติเฉพาะบางคนเท่านั้น กับคนดีๆผมไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ J”
“นายจะบอกว่าฉันเป็นคนไม่ดีอย่างนั้นเหรอ!!” โยซอบร้องออกมาเสียงดังอย่างฉุนขาด เขาไม่เคยเถียงเลยเวลาใครบอกว่าเขาอารมณ์ร้อนเพราะเขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ และเรื่องความแรงเขาน่ะหรอ...นั่นก็จริงเหมือนกัน
“คุณพูดเองนะครับ J”
“เหอะ ถ้านายจะพูดขนาดนี้ก็ไม่ต้องมารักษามารยาทกับฉันหรอก อ้อ ไอ้เรื่องเสแสร้งบอกว่ายินดีที่ได้ร่วมงานนั่นก็ด้วย ถ้านายไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดมันออกมาหรอก เพราะมันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเท่าไหร่ L”
“ถ้านายจะเอาอย่างนั้นก็โอเค เพราะฉันเองก็ไม่ได้ชอบเสแสร้งเหมือนใครบ้างคนแถวนี้ ตอนอยู่ในห้องก็ยิ้มทักทายคนนู่นคนนี้ไปทั่วแต่พอออกมานี่สิ หึ”
“นาย!!” เป็นอีกครั้งที่โยซอบรู้สึกว่าตัวเองโกรธมากจนไม่อาจควบคุมได้ คนตรงหน้าเขา...มันมากเกินไปจริงๆ ดูถูกเขามากเกินไปแล้ว
“เหอะ ฉันคิดว่าผู้กำกับยุน! ดู! จุน! ที่ใครๆเขาพูดกันจะน่านับถือมากกว่านี้เสียอีก น่าผิดหวังชะมัด นายเองไม่ได้ต่างอะไรจากนักข่าวไร้จรรยาบรรณพวกนั้นเลย คิดไปเอง! ตัดสินคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักเขาดีด้วยซ้ำ! น่ารังเกียจ” โยซอบรัวคำพูดออกมาอย่างทนไม่ได้และเน้นที่เสียงที่คำสุดท้าย ตั้งแต่เขาเดบิวต์เป็นนักแสดงมาไม่เคยมีผู้กำกับคนไหนดูถูกเขาเท่าคนๆนี้ คนตรงหน้ายังไม่เคยเห็นฝีมือการแสดงของเขาด้วยซ้ำแต่กลับดูถูกเขามากมายขนาดนี้ นี่มันแย่มากจริงๆ
“หึ นายจะคิดว่าฉันเป็นยังไงก็เรื่องของนาย และถ้าฉันจะคิดว่านายเป็นยังไงนั่นมันก็เรื่องของฉัน เพราะนี่มันเป็นเรื่องส่วนตัว อ้อ แล้วนายก็ช่วยแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ได้ด้วยนะ ถ้านายมีฝีมือพอ J”
“!!!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“วันนี้วันปิดกล้องของฉัน กีกวังต้องไปกับฉัน!”
“เอ่อ...โยซอบใจเย็นๆสิ คือฉันเข้าใจนะว่านี่เป็นวันปิดกล้องของนายแต่งานนี้ฉันจำเป็นต้องไปกับจุนฮยองจริงๆ” กีกวังพยายามบอกให้โยซอบใจเย็นลง หลังจากที่ดาราดังบุกมาที่คอนโดของจุนฮยองและเริ่มต้นโวยวายเพื่อให้เขาไปงานปิดกล้องละครของตัวเองให้ได้ แม้ว่านี่จะผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วก็ตามแต่คนตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะหมดแรงโวยวายเลย
“ฉันไม่สน! ถ้าฉันอย่างได้ฉันต้องได้!”
“โยซอบ...เฮ้อ จุนฮยองนายช่วยฉันพูดอะไรบ้างสิ”
“ไปกันเถอะ” ร่างสูงพูดแค่นั้นก่อนจะคว้าแขนกีกวังและพาเดินออกไปนอกห้องทันที ผู้จัดการของเขาถึงจะยังงงอยู่ไม่น้อยแต่ก็เดินตามออกมาโดยดี ภายในคอนโดหรูจึงเหลือแต่ดาราดังที่ยังคงโวยวายดังลั่นเพียงคนเดียว
“ไอ้บ้าจุนฮยอง!!! >O<”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“คราวหลังนายจะทำอะไรก็บอกฉันก่อนสิ ลากออกมาดื้อๆแบบนี้ฉันตามไม่ทันนะ”
“ก็ฉันเบื่อหมอนั่น มาตะโกนโหวกเหวกโวยวายอะไรก็ไม่รู้ ทำอย่างกับเด็ก - -”
“โยซอบเขาก็แบบนั้นล่ะ นาย... อ๊ะ!” ร่างของกีกวังถูกผู้มาใหม่กระแทกจนเซไปอีกฝั่งหนึ่ง ใครคนนั้นแทรกกลางระหว่างเขากับจุนฮยองที่เดินข้างกันมาเมื่อครู่ แขนข้างนึงก็โอบไหล่จุนฮยองราวกับคนที่สนิทกันมานาน
หมอนี่มันใครเนี่ย?
“ว่าไงนายแบบดัง มาซะสายเชียวนะมึง”
“อย่างน้อยกูก็มา - -”
“ฮู้วว ดังแล้วหยิ่งหรอมึง -O-”
“กูมาทำงานเรื่องส่วนตัวไว้นอกรอบ ห้องแต่งตัวอยู่ไหนกูจะได้ไปเปลี่ยนชุด”
“ตรงไปสักพักก็เจอ ห้องอยู่ขวามือ ช่างแต่งหน้าทำผมเขารอมึงอยู่ในนั้น เสร็จแล้วเดี๋ยวเขาก็พามึงมาหากูเอง รีบไปทำงานเถอะพ่อคนดี”
“- -” จุนฮยองได้แต่ส่งสายตานิ่งๆไปให้แล้วเดินไปตามทางที่เพื่อนตัวเองบอก กีกวังเองพอเห็นจุนฮยองเดินไปแล้วก็เดินตามไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมทักคนที่น่าจะสนิทกับจุนฮยองตรงหน้าเขา
“สวัสดีครับ ผมอีกีกวัง ผู้จัดการของจุนฮยองครับ J”
“*O*”
โอ้ววววววววววว ใช่เลย! ตัวเล็กยิ้มสวยแบบนี้ สเปคกูเลย \*O*/
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมซนดงอุนเป็นเพื่อนสนิท สนิทมากๆของจุนฮยองครับ แล้วก็เป็นช่างภาพในโปรเจคนี้ด้วย” แล้วดงอุนก็คว้ามือกีกวังมาจับไว้แน่นอย่างถือวิสาสะ จนร่างเล็กตรงหน้าได้แต่ยิ้มแห้งๆให้
เมื่อไหร่จะปล่อยมือฉันสักทีเนี่ย - -
“เอ่อ...”
“อ้อ บางทีคุณอาจจะอยากไปชมสตูดิโอนี้ มาครับ ผมจะพาไปทัวร์เอง ผมเคยทำงานที่นี่หลายครั้งแล้วรู้ทุกซอกทุกมุมของที่นี่ดี ^________^” ร่างสูงสรุปเอาเองเสร็จสรรพแล้วถือโอกาสโอบไหล่กีกวังจนเจ้าตัวสะดุ้ง ดงอุนรู้ถึงความผิดปกตินั่นดีแต่ก็ยังคงโอบไหล่คนตัวเล็กต่อไป จนกีกวังปัดแขนนั่นออกเจ้าตัวถึงได้ยอมรับว่าคนข้างๆคงไม่ชอบพฤติกรรมนี้เท่าไหร่นัก
“ขอโทษนะครับแต่ผมมาทำงาน ขอตัวครับ”
“เฮ้ ไม่เห็นต้องเครียดเลยนี่ เรามาทำงานสบายๆกันดีกว่านะครับ ^________^” เป็นอีกครั้งที่ดงอุนคว้ามือกีกวังมาจับเอาไว้ หากแต่ครั้งนี้คนตัวเล็กสะบัดมันทิ้งและสัญญากับตัวเองว่าจะไม่รักษามารยาทกับร่างสูงอีก เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองทำมันมามากพอแล้ว
“อย่ามาฉวยโอกาสกับฉัน เพราะการที่นายเป็นเพื่อนกับจุนฮยองไม่ได้แปลว่านายจะมาทำแบบนี้กับฉันได้”
“ถ้าอย่างนั้นผมต้องเป็นอะไรล่ะครับ ถึงจะทำแบบนี้...” ดงอุนบอกอย่างมีเล่ห์นัยแล้วคว้ามือเล็กนั่นมากุมไว้
“แบบนี้...” ร่างสูงโน้มศีรษะลงไปจนห่างจากใบหน้าเล็กนั่นไม่ถึงสามเซนติเมตร
“และแบบนี้ได้...” ริมฝีปากบางฝังลึกลงไปบนแก้มใสในขณะที่กีกวังได้แต่ยืนนิ่งและอ้าปากค้าง
หมอนี่มัน... O_O!!!
“คบกับผมนะครับ ^________^”
“!!!”
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk Talk Talk
อินโทรมาแล้วนะค่ะทุกคน!! แลดูยั่วรีดเดอร์มากๆเลย 5555
กับเรื่องนี้รูปแบบอาจจะดูแปลกตาไปบ้างนะค่ะ แต่ก็หวังว่าจะถูกใจทุกคน
ในพาร์ทต่อๆไปไรเตอร์จะค่อยๆเพื่อดีกรีความแรงขึ้นเรื่อยๆ
หวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้อ่านฟิคบีสท์ในแบบที่ต่างไปจากเดิมนะค่ะ
ยังไงฝากติดตามฟิคเรื่องนี้ด้วย ยิ่งคอมเม้นท์เยอะยิ่งอัพไวเน้อ J
ความคิดเห็น