ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นางนพมาศ
    .
              “และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะครับ”
              “ค่ะ ช่วงสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ทราบกันว่านางนพมาศปีนี้จะเป็นใคร”
              “เอาล่ะครับ ผลการตัดสินอยู่ในมือของผมแล้ว คุณนุ่นครับดูซิครับมือผมสั่นไปหมดแล้ว”
              “แหมคุณเอกคะ ระวังตก มาค่ะมาให้นุ่นอ่านเองนะ”
              “ผลการตัดสิน นางนพมาศปีนี้ได้แก่”
              “นางสาวกรนภา ศรีสภาวสุ จากคณะวิทยาศาสตร์”
              “เฮ้ย นังกิ๊กมันได้ว่ะ ไม่น่าเชื่อเลย แหมน่าเสียดาย ถ้าฉันขึ้นไปนะนังกิ๊กมันไม่ได้หรอก”
              “อย่างแกนี่นะ ฉันว่าตกตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวทีแล้ว”
              “โธ่อย่ามาดูถูกกันนะ ตอนเด็กๆฉันก็เป็นนางนพมาศของโรงเรียนนะ”
              “ก็นั่นมันสมัยเด็กๆ หัดดูสมัยนี้สิ แกอย่าหวังแค่จะขึ้นเวทีเลย แค่ยืนขอบเวทีก็พอแล้ว”
              “ไงเพื่อน มาร่วมยินดีกับเราหน่อยสิ”
              “อ้าวลงมาแล้วเหรอ แหวกฝูงจารชนหนุ่มๆมาได้ไงล่ะเนี่ย”
              “ก็จูนน่ะสิ ช่วยเราแหวกมาได้ ใครเห็นจูนก็ไม่กล้าแล้วล่ะ”
              “ไหนล่ะจูน”
              “นั่นไง กำลังแจกเบอร์โทรแทนเราอยู่ให้พวกหนุ่มๆตรงนั้นไง”
              “อ้าวแล้วเธอกล้าให้เบอร์โทรไปเหรอ”
              “เปล่าหรอกเบอร์โทรจูนเค้าน่ะ เค้ารับปากจะคุยแทนเรา”
              “อ้าวเป็นซะงั้นไป ไอ้เราก็นึกว่าจะแจกเบอร์กิ๊กจริงๆ”
              “ว่าแต่วันนี้จะพาพวกเราไปเลี้ยงที่ไหนล่ะ”
              “ขนาดต้องมีเลี้ยงเลยเหรอ”
              “อ้าวก็เงินรางวัลได้มาตั้งเยอะ แหม ไม่ให้ค่าช่วยเชียร์กันบ้างเลยเหรอ”   
              “อ่ะก็ได้ นี่เห็นว่าเป็นพวกเธอนะเนี่ย งั้นไปกินข้าวที่โรงอาหารก็แล้วกัน จูนไปกันเหอะ” กิ๊กตะโกนเรียก
              “ขอโทษนะคะ วันนี้กิ๊กเค้ามีธุระต้องไปทำต่ออีก วันหลังถ้าเจอกันอีกค่อยให้เบอร์นะคะ วันนี้ขอตัวก่อน” แล้วจูนก็แหวกวงล้อมออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน
              “เอ้อ จูนเป็นไงแจกเบอร์เหนื่อยไหมล่ะ”
              “ลองมาเป็นชั้นดูซิ จะรู้ว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเป็นอย่างไร ยิ่งกว่าได้รับตำแหน่งเองนะเนี่ย”
              “นั่นน่ะสิ ถ้าจูนขึ้นไปบนเวทีสงสัยเราคงไม่ได้ตำแหน่งแน่เลย สงสัยจะต้องยกให้จูน”
              “ไม่หรอก ไม่งั้นหนุ่มๆพวกนั้นก็คงมาขอเบอร์เราแทนกิ๊กแล้วล่ะ”
              “แหม พวกนั้นเค้าบ้าตำแหน่ง เห็นว่าจีบนางนพมาศแล้วจะเข้าทีกว่าล่ะมั้ง”
              “ก็อาจจะเป็นอย่างงั้นนะ ลองให้จูนแต่งหน้าทาปากดูซิ ว่าพวกนั้นจะเลือกใครระหว่างจูนกับกิ๊ก”
              “แหม อย่ามายอเราเลย เราไม่สวยหรอก” ว่าแล้วจูนก็ก้มหน้าแกล้งมุดลงใต้โต๊ะ
              “เมื่อคืนเป็นไงบ้างจูน หนุ่มๆ โทรมาหาเยอะไหม “ กิ๊กถามเมื่อเช้าวันใหม่มาถึงแล้วเจอกัน
              “ก็ประมาณว่าวางสายแล้วอีกสายหนึ่งโทรต่อเลยน่ะสิ ขนาดไม่ได้ทำสายเรียกซ้อนไว้นะเนี่ยที่บ้าน ถ้าทำสงสัยจะบานตะไทกว่านี้แน่ๆเลย”
              “ไงเราก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำให้จูนมาเดือดร้อน”
              “ไม่เป็นไร เพื่อนกันต้องช่วยกันสิ เรื่องแค่นี้หมูๆ ไม่ต้องห่วง”
              “แล้วมีรายไหนน่าสนใจบ้างป่ะล่ะ” กิ๊กถาม
              “ก็มีแต่พวกหน้าหม้อทั้งนั้นล่ะ อย่าไปสนใจเลย เราก็เบื่อๆ”
              “แล้วมีคนไหนที่จูนสนใจบ้างล่ะ”
              “จะไปมีที่ไหนล่ะ แหม พวกเสือสิงห์กระทิงแรด ขืนเราไปสนใจได้ปลื้มมีหวัง เราตายแน่เลย”
              “อ่ะนะ ไปเหอะ ไปเรียนกันเหอะ วันนี้อาจารย์จะให้รายงานด้วย”
              ในห้องเรียน
              “เอ้ยจูนเมื่อวานเป็นไงบ้าง มีคนไหนดูดีบ้างป่ะ แบ่งให้เราด้วยนะ”
              “จะบ้าเหรอ เธออยากได้วันหลังเราบอกเธอไปเองแล้วกันเอาป่ะ”
              “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวแม่ฉันได้เพ่นกะบาลตายสิ ขืนมีหนุ่มๆหล่อๆน่ารักๆ มาทำให้ใจสาวน้อยคนนี้ต้องหวั่นไหว”
              “โอ๊ยจะอ๊วก”
              “นี่พวกเธอเงียบกันหน่อยอาจารย์จะสั่งรายงานแล้วนะ” กิ๊กเตือน
              “รายงานที่พวกเธอจะต้องทำส่งกันในต้นเดือนหน้าขอให้ทำให้เรียบร้อย ทำกันกลุ่มละ 4 คนนะ แล้วถ้ารู้ว่าใครเอาเปรียบเพื่อนขอให้มาบอกครูด้วยแล้วกัน”
              “ทำกลุ่มละสี่คนเหรอ งั้นพวกเราจับกลุ่มกันเลยแล้วกันนะ”
              “มีกิ๊ก จูน หมี แล้วก็ ”
              “ขอเราอยู่ด้วยนะ”
              “โอ๋เหรอ ก็ได้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ต้องช่วยเราทำนะ”
              “ได้อยู่แล้ว ไม่รู้เหรอ ว่าฉันเป็นมือวางอันดับที่เท่าไหร่ของห้อง”
              “รู้แล้วน่า เราถึงรับเธอเข้ากลุ่มไง รายงานของเราจะได้เพอร์เฟ็ค”
              “ดีแล้วล่ะรายงานกลุ่มเราจะต้องได้เต็ม”
              “งั้นเดี๋ยวเที่ยงนี้ไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดเลยแล้วกันนะ”
              “ได้งั้นเจอกันตอนเที่ยงตรงหน้าห้องสมุดนะ”
              “อืมตกลง เดี๋ยวเจอกันนะ”
              ที่ห้องสมุด
   
              “เฮ้ยหมี หนังสือที่อาจารย์ให้หาทำรายงานมันหมดแล้วน่ะจะทำไงดี” กิ๊กพูด
              “อ้าวเหรอ เรามาช้าไปเหรอเนี่ย แล้วจะทำไงดีล่ะ” หมีพูด
              “เอางี้ เราลองไปหาหนังสือที่ห้องสมุดคณะอื่นดูป่ะ” โอ๋เสนอแนะ
              “แล้วคณะไหนมันจะมีบ้างล่ะ ที่มันพอมีน่ะ” หมีพูด
              “ก็คณะวิศวะไง น่าจะมีไปกันป่ะ” โอ๋พูด
              “คณะวิศวะเหรอ ตื่นเต้นว่ะ นี่เราไม่เคยเข้าไปเฉียดเลยนะเนี่ย เข้าไปทีไรหัวใจมันแป๊วๆทุกทีเลย” จูนพูด
              “เราก็ไม่เคยเข้าไป มีแต่กิ๊กคนเดียวล่ะมั้งที่เคยเข้าไป” หมีพูด
              “ไม่หรอก เราไม่เคยเข้าไป”
              “งั้นก็เคยมันซะก็คราวนี้ล่ะ มีกิ๊กอยู่ทั้งคนเข้าไปไม่ต้องกลัว มีคนคอยประสานงานอย่างดี”
              “พูดอะไรก็ไม่รู้หมีนี่ก็” กิ๊กพูดพร้อมทั้งเอามือปิดหน้าด้วยความเอียงอาย
              ที่คณะวิศวะ
              “เอาล่ะ เรามาถึงคณะวิศวะแล้วนะ คณะที่เราใฝ่ฝัน” หมีพูด
              “ใฝ่ฝันอยากจะเข้าเหรอ “ กิ๊กถาม
              “เปล่าใฝ่ฝันที่จะได้มีแฟนคณะนี้ต่างหากล่ะ” หมีพูดพร้อมทั้งทำท่าจะหัวเราะ
              “เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลาเลย เดี๋ยวจะติดบ่ายสามมีเรียนกันอีกวิชานะพวกเรา” โอ๋รีบเตือนเพื่อไม่ให้โอ้เอ้
              เมื่อทั้งสี่คนผ่านไปสนามฟุตบอลคอนกรีตที่หนุ่มวิศวะมักจะเล่นบอลกันอยู่เป็นประจำ ลูกบอลไม่ปรากฎสัญชาติก็ลอยละลิ่วปลิวละล่อง มาโดนที่หัวไหล่ของจูนอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็แรงพอที่จะทำให้จูนต้องกระเด็นกระดอนก้นกระแทกลงไปที่พื้น
              “นี่พวกนายไม่มองกันเลยเหรอ” จูนพูดอย่างหาเรื่อง
              “ขอโทษ ๆ ก็พวกเธอผ่านมาไม่ระวังเองนี่นา ไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังเล่นบอล ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะครับ”
              “นี่ไม่ทันไร มาหลีเพื่อนฉันแล้วเหรอ” หมีพูดพร้อมทั้งกันท่าจูนให้พ้นจากกลุ่มวิศวะเหล่านั้น
              “อ้าว ไม่ได้หลีแค่จะได้พูดขอโทษชื่อกันถูกไง”
              “เอาล่ะเรายกโทษให้ ว่าแต่ห้องสมุดคณะนายนี่ไปทางไหนเหรอ ตอบมาแล้วเราจะยกโทษให้”
              “ตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาขึ้นลิฟท์ชั้นสามแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็ถึง”
              “โหทำไมมันซับซ้อนงี้ล่ะ พูดช้าๆขออีกที”
              “เอางี้ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมล่ะครับ”
              “ไม่เอาล่ะขอบใจพวกนายมากเดี๋ยวเราไปแล้วถามคนต่ออีกทีก็ได้ คณะพวกนายมันก็ไม่ได้กว้างมากไม่ใช่เหรอ”
              “อืมไม่ได้กว้างมากแต่กลัวพวกเธอหลงไง”
              “ขอบใจย่ะ” แล้วทั้งสี่สาวก็เดินจากไป
              “เฮ้ยน่าสนใจว่ะ สวยเลย” หนึ่งในกลุ่มเด็กวิศวะเอ่ยขึ้น
              ที่ห้องสมุดคณะวิศวะ
              “ไม่น่าเลยนะพวกเรา มาเจอพวกวิศวะที่ทำให้ความฝันของฉันต้องมัวหมอง” หมีเอ่ย
              “นั่นน่ะสิ นึกว่าจะเจอแบบสุภาพบุรุษในฝัน สมาร์ท หล่อ เท่ห์ “ กิ๊กพูดตาม
              “เอาล่ะเราอย่ามาเสียเวลา มาช่วยกันหาหนังสือกันดีกว่า นี่ก็เสียเวลาหาห้องสมุดกันมากพอแล้วกว่าจะเจอ” โอ๋พูด
              “ก็เธอเล่นไม่ถามใครเลยนี่นา” หมีพูด
              “อ้าวก็พวกเด็กวิศวะมันไม่น่าไว้วางใจกันทุกคนนี่นา” โอ๋เสริม
   
              แล้วเวลาเย็นหลังเลิกเรียนจบทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านพอดีที่กิ๊กกับจูนต้องกลับบ้านทางเดียวกัน
              “นี่จูน เมื่อวานนอนกี่โมงเหรอ”
              “ถามทำไมเหรอ”
              “อ๋อ ก็เราอยากเช็คเรตติ้งน่ะสิ ว่ามีคนโทรมาหาเยอะป่ะ”
              “แหมนี่เธอ ถ้าสนนักตอนนั้นทำไมไม่ให้เบอร์ตัวเองล่ะ มาให้เบอร์เราทำไมกัน”
              “ก็นะ จูนก็ “
              “เมื่อคืนกว่าจะนอนก็จะตีหนึ่ง ทนไม่ไหวก็เอาเอาสายออกเลยแหละ”
              “ฮ็อตเหมือนกันนะเราเนี่ย” กิ๊กพูดพร้อมทำหน้ายิ้มๆ
              “เฮ้อ น่ารำคาญซะมากกว่า”
              “น่าเดี๋ยวสักพักก็คงซาไปเองแหละ แล้วเธอบอกพวกนั้นว่าไงล่ะเวลาโทรมา”
              “ก็บอกว่า “
              “บอกว่าไร”
              “ถึงแล้วเราลงรถแล้วนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
              “โธ่จูนก็ไปซะแล้ว ยังไม่ทันรู้เรื่องกันพอดีเลย”
              “กริ๊งงงงงง”
              “สวัสดีค่ะ”
              “ขอสายกิ๊กหน่อยครับ”
              “กิ๊กเหรอ นอนไปแล้วล่ะ มีไรจะสั่งไว้ไหมล่ะ”
              “อ๋อบอกว่าต้อมเพื่อนใหม่โทรมานะครับ สวัสดีครับคุณแม่”
              “เฮ้ย” แต่สายก็วางไปเสียแล้ว
              “อะไรกันเนี่ย เสียงฉันแก่จนเป็นเสียงคุณแม่ไปแล้วเหรอ” จูนบ่น
              “กริ๊งงงง”
              “อะไรกันมาอีกแล้ว เอาล่ะสายสุดท้ายแล้วนะ พ่อหนุ่ม”
              “สวัสดีครับ ขอสายจูนหน่อยครับ”
              “จูนพูดอยู่ค่ะ นั่นใครคะ”
              “เพื่อนใหม่ของคุณไง”
   
   
              “และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายกันแล้วนะครับ”
              “ค่ะ ช่วงสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ทราบกันว่านางนพมาศปีนี้จะเป็นใคร”
              “เอาล่ะครับ ผลการตัดสินอยู่ในมือของผมแล้ว คุณนุ่นครับดูซิครับมือผมสั่นไปหมดแล้ว”
              “แหมคุณเอกคะ ระวังตก มาค่ะมาให้นุ่นอ่านเองนะ”
              “ผลการตัดสิน นางนพมาศปีนี้ได้แก่”
              “นางสาวกรนภา ศรีสภาวสุ จากคณะวิทยาศาสตร์”
              “เฮ้ย นังกิ๊กมันได้ว่ะ ไม่น่าเชื่อเลย แหมน่าเสียดาย ถ้าฉันขึ้นไปนะนังกิ๊กมันไม่ได้หรอก”
              “อย่างแกนี่นะ ฉันว่าตกตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวทีแล้ว”
              “โธ่อย่ามาดูถูกกันนะ ตอนเด็กๆฉันก็เป็นนางนพมาศของโรงเรียนนะ”
              “ก็นั่นมันสมัยเด็กๆ หัดดูสมัยนี้สิ แกอย่าหวังแค่จะขึ้นเวทีเลย แค่ยืนขอบเวทีก็พอแล้ว”
              “ไงเพื่อน มาร่วมยินดีกับเราหน่อยสิ”
              “อ้าวลงมาแล้วเหรอ แหวกฝูงจารชนหนุ่มๆมาได้ไงล่ะเนี่ย”
              “ก็จูนน่ะสิ ช่วยเราแหวกมาได้ ใครเห็นจูนก็ไม่กล้าแล้วล่ะ”
              “ไหนล่ะจูน”
              “นั่นไง กำลังแจกเบอร์โทรแทนเราอยู่ให้พวกหนุ่มๆตรงนั้นไง”
              “อ้าวแล้วเธอกล้าให้เบอร์โทรไปเหรอ”
              “เปล่าหรอกเบอร์โทรจูนเค้าน่ะ เค้ารับปากจะคุยแทนเรา”
              “อ้าวเป็นซะงั้นไป ไอ้เราก็นึกว่าจะแจกเบอร์กิ๊กจริงๆ”
              “ว่าแต่วันนี้จะพาพวกเราไปเลี้ยงที่ไหนล่ะ”
              “ขนาดต้องมีเลี้ยงเลยเหรอ”
              “อ้าวก็เงินรางวัลได้มาตั้งเยอะ แหม ไม่ให้ค่าช่วยเชียร์กันบ้างเลยเหรอ”   
              “อ่ะก็ได้ นี่เห็นว่าเป็นพวกเธอนะเนี่ย งั้นไปกินข้าวที่โรงอาหารก็แล้วกัน จูนไปกันเหอะ” กิ๊กตะโกนเรียก
              “ขอโทษนะคะ วันนี้กิ๊กเค้ามีธุระต้องไปทำต่ออีก วันหลังถ้าเจอกันอีกค่อยให้เบอร์นะคะ วันนี้ขอตัวก่อน” แล้วจูนก็แหวกวงล้อมออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน
              “เอ้อ จูนเป็นไงแจกเบอร์เหนื่อยไหมล่ะ”
              “ลองมาเป็นชั้นดูซิ จะรู้ว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเป็นอย่างไร ยิ่งกว่าได้รับตำแหน่งเองนะเนี่ย”
              “นั่นน่ะสิ ถ้าจูนขึ้นไปบนเวทีสงสัยเราคงไม่ได้ตำแหน่งแน่เลย สงสัยจะต้องยกให้จูน”
              “ไม่หรอก ไม่งั้นหนุ่มๆพวกนั้นก็คงมาขอเบอร์เราแทนกิ๊กแล้วล่ะ”
              “แหม พวกนั้นเค้าบ้าตำแหน่ง เห็นว่าจีบนางนพมาศแล้วจะเข้าทีกว่าล่ะมั้ง”
              “ก็อาจจะเป็นอย่างงั้นนะ ลองให้จูนแต่งหน้าทาปากดูซิ ว่าพวกนั้นจะเลือกใครระหว่างจูนกับกิ๊ก”
              “แหม อย่ามายอเราเลย เราไม่สวยหรอก” ว่าแล้วจูนก็ก้มหน้าแกล้งมุดลงใต้โต๊ะ
              “เมื่อคืนเป็นไงบ้างจูน หนุ่มๆ โทรมาหาเยอะไหม “ กิ๊กถามเมื่อเช้าวันใหม่มาถึงแล้วเจอกัน
              “ก็ประมาณว่าวางสายแล้วอีกสายหนึ่งโทรต่อเลยน่ะสิ ขนาดไม่ได้ทำสายเรียกซ้อนไว้นะเนี่ยที่บ้าน ถ้าทำสงสัยจะบานตะไทกว่านี้แน่ๆเลย”
              “ไงเราก็ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำให้จูนมาเดือดร้อน”
              “ไม่เป็นไร เพื่อนกันต้องช่วยกันสิ เรื่องแค่นี้หมูๆ ไม่ต้องห่วง”
              “แล้วมีรายไหนน่าสนใจบ้างป่ะล่ะ” กิ๊กถาม
              “ก็มีแต่พวกหน้าหม้อทั้งนั้นล่ะ อย่าไปสนใจเลย เราก็เบื่อๆ”
              “แล้วมีคนไหนที่จูนสนใจบ้างล่ะ”
              “จะไปมีที่ไหนล่ะ แหม พวกเสือสิงห์กระทิงแรด ขืนเราไปสนใจได้ปลื้มมีหวัง เราตายแน่เลย”
              “อ่ะนะ ไปเหอะ ไปเรียนกันเหอะ วันนี้อาจารย์จะให้รายงานด้วย”
              ในห้องเรียน
              “เอ้ยจูนเมื่อวานเป็นไงบ้าง มีคนไหนดูดีบ้างป่ะ แบ่งให้เราด้วยนะ”
              “จะบ้าเหรอ เธออยากได้วันหลังเราบอกเธอไปเองแล้วกันเอาป่ะ”
              “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวแม่ฉันได้เพ่นกะบาลตายสิ ขืนมีหนุ่มๆหล่อๆน่ารักๆ มาทำให้ใจสาวน้อยคนนี้ต้องหวั่นไหว”
              “โอ๊ยจะอ๊วก”
              “นี่พวกเธอเงียบกันหน่อยอาจารย์จะสั่งรายงานแล้วนะ” กิ๊กเตือน
              “รายงานที่พวกเธอจะต้องทำส่งกันในต้นเดือนหน้าขอให้ทำให้เรียบร้อย ทำกันกลุ่มละ 4 คนนะ แล้วถ้ารู้ว่าใครเอาเปรียบเพื่อนขอให้มาบอกครูด้วยแล้วกัน”
              “ทำกลุ่มละสี่คนเหรอ งั้นพวกเราจับกลุ่มกันเลยแล้วกันนะ”
              “มีกิ๊ก จูน หมี แล้วก็ ”
              “ขอเราอยู่ด้วยนะ”
              “โอ๋เหรอ ก็ได้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ต้องช่วยเราทำนะ”
              “ได้อยู่แล้ว ไม่รู้เหรอ ว่าฉันเป็นมือวางอันดับที่เท่าไหร่ของห้อง”
              “รู้แล้วน่า เราถึงรับเธอเข้ากลุ่มไง รายงานของเราจะได้เพอร์เฟ็ค”
              “ดีแล้วล่ะรายงานกลุ่มเราจะต้องได้เต็ม”
              “งั้นเดี๋ยวเที่ยงนี้ไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดเลยแล้วกันนะ”
              “ได้งั้นเจอกันตอนเที่ยงตรงหน้าห้องสมุดนะ”
              “อืมตกลง เดี๋ยวเจอกันนะ”
              ที่ห้องสมุด
   
              “เฮ้ยหมี หนังสือที่อาจารย์ให้หาทำรายงานมันหมดแล้วน่ะจะทำไงดี” กิ๊กพูด
              “อ้าวเหรอ เรามาช้าไปเหรอเนี่ย แล้วจะทำไงดีล่ะ” หมีพูด
              “เอางี้ เราลองไปหาหนังสือที่ห้องสมุดคณะอื่นดูป่ะ” โอ๋เสนอแนะ
              “แล้วคณะไหนมันจะมีบ้างล่ะ ที่มันพอมีน่ะ” หมีพูด
              “ก็คณะวิศวะไง น่าจะมีไปกันป่ะ” โอ๋พูด
              “คณะวิศวะเหรอ ตื่นเต้นว่ะ นี่เราไม่เคยเข้าไปเฉียดเลยนะเนี่ย เข้าไปทีไรหัวใจมันแป๊วๆทุกทีเลย” จูนพูด
              “เราก็ไม่เคยเข้าไป มีแต่กิ๊กคนเดียวล่ะมั้งที่เคยเข้าไป” หมีพูด
              “ไม่หรอก เราไม่เคยเข้าไป”
              “งั้นก็เคยมันซะก็คราวนี้ล่ะ มีกิ๊กอยู่ทั้งคนเข้าไปไม่ต้องกลัว มีคนคอยประสานงานอย่างดี”
              “พูดอะไรก็ไม่รู้หมีนี่ก็” กิ๊กพูดพร้อมทั้งเอามือปิดหน้าด้วยความเอียงอาย
              ที่คณะวิศวะ
              “เอาล่ะ เรามาถึงคณะวิศวะแล้วนะ คณะที่เราใฝ่ฝัน” หมีพูด
              “ใฝ่ฝันอยากจะเข้าเหรอ “ กิ๊กถาม
              “เปล่าใฝ่ฝันที่จะได้มีแฟนคณะนี้ต่างหากล่ะ” หมีพูดพร้อมทั้งทำท่าจะหัวเราะ
              “เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลาเลย เดี๋ยวจะติดบ่ายสามมีเรียนกันอีกวิชานะพวกเรา” โอ๋รีบเตือนเพื่อไม่ให้โอ้เอ้
              เมื่อทั้งสี่คนผ่านไปสนามฟุตบอลคอนกรีตที่หนุ่มวิศวะมักจะเล่นบอลกันอยู่เป็นประจำ ลูกบอลไม่ปรากฎสัญชาติก็ลอยละลิ่วปลิวละล่อง มาโดนที่หัวไหล่ของจูนอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็แรงพอที่จะทำให้จูนต้องกระเด็นกระดอนก้นกระแทกลงไปที่พื้น
              “นี่พวกนายไม่มองกันเลยเหรอ” จูนพูดอย่างหาเรื่อง
              “ขอโทษ ๆ ก็พวกเธอผ่านมาไม่ระวังเองนี่นา ไม่เห็นเหรอว่าคนกำลังเล่นบอล ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะครับ”
              “นี่ไม่ทันไร มาหลีเพื่อนฉันแล้วเหรอ” หมีพูดพร้อมทั้งกันท่าจูนให้พ้นจากกลุ่มวิศวะเหล่านั้น
              “อ้าว ไม่ได้หลีแค่จะได้พูดขอโทษชื่อกันถูกไง”
              “เอาล่ะเรายกโทษให้ ว่าแต่ห้องสมุดคณะนายนี่ไปทางไหนเหรอ ตอบมาแล้วเราจะยกโทษให้”
              “ตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาขึ้นลิฟท์ชั้นสามแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็ถึง”
              “โหทำไมมันซับซ้อนงี้ล่ะ พูดช้าๆขออีกที”
              “เอางี้ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมล่ะครับ”
              “ไม่เอาล่ะขอบใจพวกนายมากเดี๋ยวเราไปแล้วถามคนต่ออีกทีก็ได้ คณะพวกนายมันก็ไม่ได้กว้างมากไม่ใช่เหรอ”
              “อืมไม่ได้กว้างมากแต่กลัวพวกเธอหลงไง”
              “ขอบใจย่ะ” แล้วทั้งสี่สาวก็เดินจากไป
              “เฮ้ยน่าสนใจว่ะ สวยเลย” หนึ่งในกลุ่มเด็กวิศวะเอ่ยขึ้น
              ที่ห้องสมุดคณะวิศวะ
              “ไม่น่าเลยนะพวกเรา มาเจอพวกวิศวะที่ทำให้ความฝันของฉันต้องมัวหมอง” หมีเอ่ย
              “นั่นน่ะสิ นึกว่าจะเจอแบบสุภาพบุรุษในฝัน สมาร์ท หล่อ เท่ห์ “ กิ๊กพูดตาม
              “เอาล่ะเราอย่ามาเสียเวลา มาช่วยกันหาหนังสือกันดีกว่า นี่ก็เสียเวลาหาห้องสมุดกันมากพอแล้วกว่าจะเจอ” โอ๋พูด
              “ก็เธอเล่นไม่ถามใครเลยนี่นา” หมีพูด
              “อ้าวก็พวกเด็กวิศวะมันไม่น่าไว้วางใจกันทุกคนนี่นา” โอ๋เสริม
   
              แล้วเวลาเย็นหลังเลิกเรียนจบทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านพอดีที่กิ๊กกับจูนต้องกลับบ้านทางเดียวกัน
              “นี่จูน เมื่อวานนอนกี่โมงเหรอ”
              “ถามทำไมเหรอ”
              “อ๋อ ก็เราอยากเช็คเรตติ้งน่ะสิ ว่ามีคนโทรมาหาเยอะป่ะ”
              “แหมนี่เธอ ถ้าสนนักตอนนั้นทำไมไม่ให้เบอร์ตัวเองล่ะ มาให้เบอร์เราทำไมกัน”
              “ก็นะ จูนก็ “
              “เมื่อคืนกว่าจะนอนก็จะตีหนึ่ง ทนไม่ไหวก็เอาเอาสายออกเลยแหละ”
              “ฮ็อตเหมือนกันนะเราเนี่ย” กิ๊กพูดพร้อมทำหน้ายิ้มๆ
              “เฮ้อ น่ารำคาญซะมากกว่า”
              “น่าเดี๋ยวสักพักก็คงซาไปเองแหละ แล้วเธอบอกพวกนั้นว่าไงล่ะเวลาโทรมา”
              “ก็บอกว่า “
              “บอกว่าไร”
              “ถึงแล้วเราลงรถแล้วนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
              “โธ่จูนก็ไปซะแล้ว ยังไม่ทันรู้เรื่องกันพอดีเลย”
              “กริ๊งงงงงง”
              “สวัสดีค่ะ”
              “ขอสายกิ๊กหน่อยครับ”
              “กิ๊กเหรอ นอนไปแล้วล่ะ มีไรจะสั่งไว้ไหมล่ะ”
              “อ๋อบอกว่าต้อมเพื่อนใหม่โทรมานะครับ สวัสดีครับคุณแม่”
              “เฮ้ย” แต่สายก็วางไปเสียแล้ว
              “อะไรกันเนี่ย เสียงฉันแก่จนเป็นเสียงคุณแม่ไปแล้วเหรอ” จูนบ่น
              “กริ๊งงงง”
              “อะไรกันมาอีกแล้ว เอาล่ะสายสุดท้ายแล้วนะ พ่อหนุ่ม”
              “สวัสดีครับ ขอสายจูนหน่อยครับ”
              “จูนพูดอยู่ค่ะ นั่นใครคะ”
              “เพื่อนใหม่ของคุณไง”
   
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น