ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ล่วงภพห้วงขนาน ภาค 1 (เจนิสนคร)

    ลำดับตอนที่ #1 : วัตถุสีดำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 46


    .          

              ในความมืด ที่ไม่ค่อยจะชินตาเท่าไหร่นัก เพราะเคยอยู่แต่ในเมืองรถวิ่งกันพล่าน  แต่ขณะนี้นี่มันที่ไหน รถไม่มีสักคันและถนนก็ว่างเปล่า ไม่มีผู้คนเลยสักนิด แม้ว่านี่จะเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็เหมือนไม่มีใครเลยในเวลานี้ อ้างว้าง คือความรู้สึกของผมในตอนนี้ ไม่มีใครเลย แต่แล้วเสียงนึงก็ทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว มันคือเสียงของของตกลงมาจากที่สูง ห่างจากตัวผมไปไม่ถึงฟุต ผมลองนึกสภาพดูหากมันหล่นใส่หัวผม ป่านนี้ผมคงไม่มายืนเล่าให้ฟังแน่ๆเลย เมื่อผมไปยืนสังเกตดูใกล้ๆ จึงพบว่าสิ่งที่หล่นลงมามันเป็นไม้สีดำ สีคล้ายกับไม้ที่ไหม้แล้ว ขนาดพอที่จะตีหัวคนสลบได้ คราวนี้ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเดินมา ด้วยสัญชาติญาณ ผมจึงแอบอยู่มุมตึก คอยจ้องอยู่ว่าคนๆนี้เป็นมิตรหรือว่าเป็นศัตรูกันแน่



             \"เอ๊ย เอ็งแน่ใจเหรอที่จะไปวัดกันตอนนี้\"



             \"อ้าวทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็หลวงพ่อแกบอกให้เรามากันนี่นา\"



            \" แต่มันก็ผิดวิสัยพระนะให้พวกเรามากันค่ำคืนอย่างนี้น่ะ มันชักจะยังไงนะ มีใครไหนบ้างล่ะที่ถูกอนุญาตให้ออกมากลางคืนช่วงนี้\"



             \"น่าหลวงพ่อท่านคงจะมีเหตุผลแหละเอ็งนี่อย่าถามมาก ให้มาเป็นเพื่อนก็มาเถอะน่า\"



             \"เออ ถ้าไม่เห็นแก่เงิน 100 ดีน่า ข้าไม่ไปกับเอ็งหรอก\"



             เมื่อสองคนนั้นผ่านไป ทำให้ผมยืนนิ่งงวยงงอยู่สักพักหนึ่ง เอ๊ะนี่มันอะไรกัน 100 ดีน่า นี่มันหน่วยเงินของประเทศเราด้วยเหรอ แล้วทำไมสองคนนั้นถึงพูดเหมือนกับว่าออกมาข้างนอก ค่ำๆมืดๆอย่างนี้ไม่ได้ มันชวนให้ผมเกิดความสงสัยอย่างยิ่ง ดังนั้น ความคิดแรกคือผมน่าจะสะกดรอยเค้าสองคนนั้นไปดูเผื่อจะได้มีอะไรดีๆให้เห็นแล้วรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง แต่จะทำอย่างไรดีล่ะในเมื่อบรรยากาศตอนนี้มันก็มืดแล้วก็เงียบเสียเหลือเกิน ถ้าตามไปเค้าอาจจะได้ยินเสียงผมขึ้นมาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า สองคนนี้เค้าจะมีความลับอะไร จะฆ่าปิดปากผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ความกลัวทำให้ผมก้าวขาไม่ออก แล้วยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกที่สองคนนั้นก็คลาดสายตาผมไปเสียแล้ว



             เช้าแล้วนี่อาจจะเป็นเช้าที่น่าเบื่อของผม เพราะผมจะต้องออกไปทำงานแต่เช้าอย่างนี้ทุกวัน แอน วันนี้มีอะไรกิน ผมร้องเรียกบอกภรรยาที่รักของผม เธอก็ตะโกนออกมาว่า ที่รักคะ วันนี้คุณตื่นสายอีกแล้วนะ ถ้าคุณมัวแต่กินคุณจะไปทำงานสายนะ แต่ฉันเตรียมกาแฟไว้ให้คุณแล้วล่ะค่ะ เออ จะลืมแวะไปส่งจิมที่โรงเรียนก่อนนะ ทางผ่านไปที่ทำงานอยู่แล้วนี่นา เธอเหมือนจะเตือนความจำให้ผม ว่าต้องไปส่งลูกไปโรงเรียนด้วย เธอคงเห็นพักนี้สมองของผมเบลอๆ อยู่กระมัง



             \"วันนี้พ่อไม่ไปส่งลูกที่ในโรงเรียนนะ วันนี้พ่อสายมากแล้วล่ะ เช้านี้พ่อก็มีประชุมด้วยสิ ลูกคงไม่ว่าพ่อนะ \"



             \"ครับ ไม่ว่าพ่อหรอกครับ แต่ผมขออนุญาตอะไรพ่อสักอย่างหน่อยนะครับ คือว่าเย็นนี้ผมกับเพื่อนนัดกันว่าจะไปเล่นที่บ้านเนเน่น่ะครับ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวพ่อของเนเน่เค้าจะให้คนรถของเค้าไปส่งให้\"



             \"อืมได้ แต่ไงก็อย่ากลับบ้านดึกนักนะ แล้วเย็นนี่แม่เราบอกว่าจะทำสุกี้ให้กินกัน อยากกินกันพร้อมหน้าน่ะ\"



              \"ได้ครับป๊ม จะกลับไม่ดึกครับ พ่อก็เหมือนกันนะครับ ห้ามกลับดึก ไม่งั้นฟ้องแม่ \"



              \"ได้ไอ้ลูกตัวดี ไม่เอาล่ะเดี๋ยวพ่อสายกันพอดี รถยิ่งติดๆอยู่ด้วย\"



             \" คุณประทีปครับเอกสารที่เตรียมมาให้ผมวันนี้อยู่ที่ไหนครับ\"



            \" เอ่อ รอสักครู่นะครับ ขอผมหาสักครู่นะครับ \"



            \" ผมก้มลงค้นดูเอกสารที่เตรียมมาในวันนี้แต่ปรากฎว่า มันไม่ได้อยู่ในกระเป๋าที่ผมถือมาซะแล้ว ผมลืมมันไว้ที่บ้านนั่นเอง \"



            \" ขอโทษนะครับ ผู้จัดการ ผมคงจะลืมไว้ที่บ้าน ขอโทษจริงๆอีกครั้งนะครับ\"



             \"ไม่เป็นไรคุณประทีป ไงเดี๋ยวคุณรีบเข้าห้องประชุมแล้วกัน อีก 10 นาทีจะเริ่มแล้วนะ \"



             ในวันนี้ผมเข้าประชุมด้วยอาการของคนเบลอๆ ขนาดเอกสารที่เตรียมเอาไว้แล้วก็นั่งทำทั้งคืนก่อนที่จะหลับไปนั้น ก็ยังลืมเอามาได้



             \"คุณประทีป คุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ \"



             ผมสะดุ้งอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร เพราะว่า ไม่ได้ฟังคำถามนั้นเลย ผมก็เลยตอบไปว่า \"ครับเห็นด้วยครับ ดี ดีทุกอย่าง\"

             แล้วก็ได้ยินเสียงตบมือดังออกมา



            \" ผมยินดีที่จะแนะนำให้รู้จักเพื่อนร่วมงานใหม่ของเรา นี่คือคุณวิสา ย้ายมาจากบริษัทชั้นนำจากอเมริกา จะมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของผม และจะต้องทำงานติดต่อสัมพันธ์กับคุณนะ คุณประทีป\"



             \"ยังไงช่วยแนะนำด้วยนะคะคุณประทีป\"



             \"ครับ ไม่มีปัญหาครับ \"



             ผมในฐานะ เป็นพนักงานที่ทำงานที่นี่มานาน และก็นานพอที่ย้ายตำแหน่งขึ้นไปทำหน้าที่ที่เธอพึ่งจะได้รับมอบหมายไปนั่นได้แท้ๆ แต่ผมก็ยังเก็บความน้อยเนื้อต่ำใจไว้คนเดียว



             นี่ก็เย็นมากแล้ว ผมรีบเก็บข้าวของในที่ทำงาน แล้วพร้อมที่จะกลับบ้าน บังเอิญก็มีเสียงทักมาจากข้างหลัง \"คุณประทีปคะ พรุ่งนี้คุณรีบมาแต่เช้าหน่อยนะคะ ดิฉันยังไม่รู้งานอะไรมากนักอยากให้คุณมาสอนฉันหน่อยนะคะ \"



            \" ได้ครับ\" ผมจำเป็นจะต้องตอบไป แม้ใจจริง อยากจะนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ นานๆ ไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากไปทำงานเสียด้วยซ้ำ



             วันนี้เป็นวันอะไรของผมกันแน่ได้ทราบข่าวร้ายตั้งแต่เช้า กลุ้มใจแต่ก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี ไม่เอาดีกว่าเลิกคิด วันนี้ผมขับรถกลับบ้าน แต่ก็ยังขับรถเลยบ้านตัวเองเลยคิดดูซิ



             \"กลับมาแล้วเหรอคะ\" เสียงภรรยาที่รักของผม ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาอีกเยอะเลย \"วันนี้มีสุกี้ของโปรดของคุณด้วยนะ แต่เก็บไว้ก่อนนะคะ ไว้รอจิมกลับมาก่อนแล้วกัน แล้วเราค่อยกินพร้อมๆกันนะ\"



             ในใจของผมตอนนี้หิวมากแล้ว แต่ในความเป็นพ่อ ก็ต้องรอลูกชายตัวนี้ที่แอบไปบ้านเพื่อนกลับมาก่อน



             เอี๊ยด เสียงรถที่มาจอดหน้าบ้านเป็นสัญญาณว่าลูกชายตัวดีของผมกลับมาแล้ว



             \"แม่ครับ วันนี้เพื่อนผมเนเน่ กับ กิต เค้ามากินข้าวด้วยกันกับเรานะครับ \"



             \"ได้จ๊ะ  แม่ทำไว้เยอะเชียว แล้วชวนคุณลุงที่ขับมาส่งกินด้วยกันเลยสิ\"



             \"ไม่เป็นไรครับ ให้เด็กๆกินกันเถอะครับ \"



             หลังจากกินสุกี้กันเสร็จ ผมก็ขึ้นไปบนห้อง ค้นหาเอกสารที่ผมลืมไว้ แต่มันก็ไม่อยู่บนโต๊ะ มันคงจะปลิวไปไหนแน่ๆเลย ผมก้มดูที่พื้น ผมก็เจอเอกสารนั้น กองอยู่กับพื้น แต่มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น มันทำให้ผมสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งในวันนี้ มันเป็นวัตถุสีดำ ขนาดกำลังพอดี มันคือ “ไม้ที่จะหล่นใส่หัวผมเมื่อคืนนี่เอง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×