ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หมออิฐ
.
              “เอาปลาเก๋าราดพริก ผัดผักรวมมิตร แกงจืดเต้าหู้สาหร่าย ต้มยำกุ้งนะคะ” วิสาสั่งอย่างกับว่าเธอมาร้านนี้เป็นประจำทั้งๆที่ผมพึ่งจะพาเธอมาเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ
              “คุณนี่สั่งของคล่องจังนะครับ ท่าทางจะเคยมาร้านนี้รู้ด้วยว่าร้านนี้มีอะไรอร่อยโดยไม่ต้องถาม”
              “ค่ะ ร้านนี้ฉันเคยมาก่อนค่ะ มาวันแรกเลยนะคะที่กลับมาประเทศไทย แต่ก็ทำตัวเปิ่นๆไว้ที่ร้านนี้ จนคนในร้านนี้จำได้ตอนแรกกะว่าจะไม่เข้าจะขอคุณเปลี่ยนร้านแล้วด้วยซ้ำนะคะเนี่ย “
              “เมื่อกลางวัน ผู้จัดการเรียกฉันเข้าไปคุยงาน แล้วก็เล่าเรื่องของคุณให้ฟังด้วยนะ ว่าคุณเป็นคนขยันมากเลย รู้จักนิสัยลูกน้องทุกคน มีแต่คนรัก ดิฉันเข้ามาเนี่ยไม่รู้จะมีใครรักได้เท่าคุณหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะเนี่ย “
              ผมฟังอย่างหมันไส้เล็กๆ แต่เมื่อนึกได้ว่า เค้าคงพูดอย่างไม่มีอะไร ทำให้ผมโกรธเธอไม่ลง เรายังคงกินข้าวกันต่อไป จนเธอพูดขึ้นมาว่า
              “คุณประทีปคะ คุณอยู่แถวนี้มานาน คุณรู้ไหมคะว่า แถวนี้มีที่ไหนมีหมอดูแม่นๆ บ้างไหม ตอนอยู่เมืองนอกนะ ฉันไปดูมาหลายที่มากเลย แต่ละคนบอกตรงกันหมดทุกอย่างว่า ฉันไม่มีเนื้อคู่ อุ๊ยพูดเล่นคะ เค้าว่าฉันจะไม่ได้ตายในโลกนี้ แล้วก็ดวงช่วงนี้ไม่ค่อยดีด้วย ฉันก็อยากรู้ว่าหมอดูเมืองไทยเค้าจะทายว่าอย่างไร ไม่รู้ว่าเค้าใช้ตำราเดียวกันหรือเปล่านะคะ ถ้าตำราเดียวกันทายอย่างเดียวกันฉันคงแย่แน่ๆเลย ยิ่งยังไม่ได้แต่งงานอยู่ด้วย คุณประทีปแต่งงานแล้วใช่ไหมคะ”
              “ใช่แล้วครับ ผมแต่งงานแล้ว มีลูก 1 คน โตแล้วด้วยครับ ผมรีบปกป้องตัวเองเต็มที่ เพราะนึกว่าเธอจะมาจีบผม “
              “แหมน่าเสียดายจังเลยนะคะ พูดเล่นค่ะ อย่าคิดมากนะคะ ถึงฉันยังไม่แต่งงาน ก็ไม่คิดแย่งใครหรอกค่ะ พูดเล่นนะคะ ว่าแต่คุณประทีป นึกออกหรือยังคะว่า มีหมอดูที่ไหนบ้างแถวๆนี้ “
              “อึม” ผมเริ่มใช้ความคิด แล้วก็นึกได้ว่า ในซอยถัดจากบ้านผมประมาณ 3 ซอย มีหมอดูคนนึง ซึ่งแกค่อนข้างมีอายุมากแล้ว แต่ยังแข็งแรงอยู่มาก วันๆนึงมีคนเข้ามาต่อคิวให้แกดูร่วม 20 คน แล้วแกก็คิดเงินแพงมากเสียด้วยสิ
              “คุณวิสาครับ ผมนึกออกแล้ว มีหมอดูคนนึง เก่งมากเลย แต่ว่าแกออกจะคิดแพงสักนิดนะครับ แต่ผมมั่นใจแกดูแม่นแน่ๆ ขนาดวันนึงมีคนไปดูร่วม 100 เลยนะครับ”
              “เว่อร์ไปคะคุณประทีป หมอดูที่ไหนจะนั่งดูได้วันนึงเป็น 100 คนคะ “
              “เอางี้ละกัน ผมพาคุณไปดูวันนี้เลยละกัน คุณรีบทานข้าวกันเถอะ จะได้รีบไป”
              ภายในซอยซึ่งค่อนข้างเล็กและมีน้ำขังนองๆ อยู่ที่พื้น บอกลักษณะซึ่งไม่ค่อยจะปลอดภัยสำหรับเราเท่าไหร่นัก แล้วเราก็มาถึงบ้านเก่าๆหลังนึง ซึ่งแต่ก่อนผมก็เคยเข้าไปให้แกดูดวงมาก่อน แต่วันนี้ต่างจากทุกวันทุกครั้งที่ผมเคยมา สภาพบ้านซึ่งเก่าลงมากเหมือนจะไม่มีใครอยู่มาก่อน ทั้งๆที่แต่ก่อนมีคนครึกครื้นมากๆ
              ผมตะโกนเข้าไปว่า ”มีใครอยู่ไหมครับ”  ผมตะโกนอยู่สองสามที จนได้มีเสียงเปิดประตูออกมาอย่างเบาๆ
              “ใครวะมาส่งเสียงกันดึกๆดื่นๆ คนเค้าจะหลับจะนอน “
              ผมได้ยินเสียงพร้อมทั้งกลิ่นเหล้าที่รุนแรงออกมา จนผมอยากจะพาคุณวิสากลับไปให้ได้
              “ผมจะมาให้ลุงดูดวงให้ผู้หญิงคนนี้หน่อยนะครับ”
              “เอ็งกลับไปเถอะ ข้าเลิกดูดวงให้คนอื่นนานแล้ว “
              “หน่อยน่าลุงผมพาผู้หญิงคนนี้มาไกล เค้าอยากจะให้ลุงดูให้จริงๆนะ”
              “ไม่เอาไม่เอาข้าจะนอนแล้ว เหล้าหมดแล้วด้วยโว๊ย “ ผมได้ยินพร้อมกับเสียงเตะฝาผนังอย่างแรง ผมจึงคิดได้ว่า “ลุงเอาเหล้าไหมเดี๋ยวผมไปซื้อมาให้”  ด้วยความที่รู้มาว่าแต่ก่อนแกคิดเงินค่าดูแพง แกน่าจะเห็นแก่สินจ้างรางวัล
              “เออ เอ็งไปซื้อมาให้ข้าหน่อย เอ๊า เอาเงินไป “
              “ไม่เป็นไรลุง ผมซื้อมาให้ลุงก่อนก็แล้วกัน”  แล้วผมก็รีบเดินไป ซื้อเหล้าที่ร้านหน้าปากซอย
              “มาแล้วลุง ให้ผมขึ้นไปนั่งกินกับลุงข้างบนด้วยได้ไหม ค่าเหล้าผมไม่คิดหรอก”
              “เออ ก็ได้วะขึ้นมาข้างบนก่อนก็ได้” ผมกับคุณวิสาก็เลยได้ขึ้นไปบนบ้าน
              หลังจากผมก้าวขึ้นไปบนบ้าน ลุงแกก็มีสีหน้าตกใจ บอกตะโกนออกมาว่า “เอ็งยังเข้ามาไม่ได้ เอ็งเอาอะไรมาด้วยวะ ขึ้นไม่ได้โว๊ย”
              ผมก็ตกใจ บอกแกว่า “ไม่ได้เอาอะไรมานี่ครับ ก็มีแค่เสื้อผ้าแล้วก็กระเป๋าเอกสาร 1 ใบเพราะนอกนั้นก็เก็บไว้ในรถหมดแล้ว”
              “ในกระเป๋าเสื้อเอ็งนั่นล่ะ มันอะไรวะเอาเข้ามาด้วยไม่ได้นะโว๊ย ไม่งั้นของข้าจะเสื่อมหมด”
              ผมควัก วัตถุสีเงินนั้นออกมาให้แกดู ถามแกว่า “ไอ้นี่ใช่ไหม แกรีบคว้าไปจากมือของผมทันที”
              “เออ ไอ้นี่หล่ะ ที่ข้าหมายถึง เอ็งไปเอามาจากไหนวะเนี่ย มันมีพลังลบล้างอาคมข้าหมดเลยนะเนี่ย”
              “อืม ผมก็ไม่รู้จะบอกลุงว่าอย่างไรดี ถ้าผมบอกว่าเอามาจากในฝันลุงก็อาจจะไม่เชื่อ”
              “มีหรือวะที่คนอย่างข้า จะไม่เชื่อ ข้าหมออิฐนะโว๊ย มองเห็นอนาคต มองเห็นอดีตแม้แต่ความฝันของเอ็งก็เหอะ เอ็งเอานี้ไว้ข้างนอกก่อนแล้วเข้ามาคุยกันข้างในละกัน ข้าชักสนใจเอ็งขึ้นมาแล้วสิวะพ่อหนุ่ม”
              “เอ้อลุง เรื่องของผมไว้ก่อนได้ป่ะ คุณผู้หญิงคนนี้เค้าจะมาให้ลุงดูหมอให้หน่อยน่ะ คือว่าเค้าต้องรีบกลับบ้านเพราะว่าบ้านเค้าอยู่ไกลนะ เรื่องของผมวันหลังผมจะมาหาลุงใหม่มาให้ลุงซักให้ละเอียดเลยแล้วกันนะครับ”
              “อ่ะนะ เอ็งนี่เรื่องมากได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง เออก็ได้วะ ไอ้หนูไหนเอ็งเอาวันเดือนปีเกิดเวลามาให้ข้าดูหน่อยสิ เอ้อ ยื่นมือมาด้วยแล้วกัน จะดูให้พร้อมๆกันเลย”
              หมออิฐ นั่งดูไปได้พักนึง หลังจากทายเรื่องทั่วไปจนเป็นที่พอใจแก่วิสาแล้ว หมออิฐก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วทักขึ้นมาด้วยเสียงอย่างประหลาดว่า  “ไอ้หนูนี่มันท่าจะไม่ยืนซะแล้วสิวะ ดวงเอ็งไม่ค่อยดีนะพักนี้ “
              “แล้วไงต่อคะคุณลุง หนูใกล้ตายแล้วเหรอคะ “
              “ยังหรอก เอ็งยังไม่ตายตอนนี้หรอก อีกนานนะกว่าเอ็งจะตาย อีกเป็น 200 ถึง 300 ปีได้มั้ง”
              “อะไรกันคะ ใครมันจะอายุยืนได้อย่างนั้น”
              “นี่ข้ายังไม่ได้บอกเลยนะว่าอายุแกจะยาวน่ะ ข้าหมายถึงเอ็งน่ะจะตายในอีก 200 ปีข้างหน้าแต่ไม่ได้บอกนะว่าเอ็งจะอายุยืน “
              “งงจังค่ะ แล้วตกลงหนูจะตายที่โลกนี้ไหมคะ” วิสาถามอย่างกับรู้ว่าหมออิฐจะพูดว่าอย่างไรต่อ
              “อืม เอ็งก็รู้นี่นาว่าเอ็งจะไม่ได้ตายในโลกนี้ แล้วยังมาถามข้าทำไมวะ”
              “ก็หนูอยากให้ลุงช่วยหนูนี่คะ หนูยังไม่อยากตาย ลุงรู้ไรอีกบอกมาเถอะนะคะ”
              “ข้ารู้เท่าที่รู้นี่แหละวะ ข้าช่วยเอ็งไม่ได้หรอก ขอให้เอ็งโชคดีนะ เอ้อข้ามีไรจะให้เอ็งไว้ด้วย”
              หมออิฐหยิบของออกมาจากพานข้างหน้าหิ้งพระของแก แล้วก็ยื่นให้วิสา เธอรับไปด้วยมือสั่นๆ
              “เอาปลาเก๋าราดพริก ผัดผักรวมมิตร แกงจืดเต้าหู้สาหร่าย ต้มยำกุ้งนะคะ” วิสาสั่งอย่างกับว่าเธอมาร้านนี้เป็นประจำทั้งๆที่ผมพึ่งจะพาเธอมาเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ
              “คุณนี่สั่งของคล่องจังนะครับ ท่าทางจะเคยมาร้านนี้รู้ด้วยว่าร้านนี้มีอะไรอร่อยโดยไม่ต้องถาม”
              “ค่ะ ร้านนี้ฉันเคยมาก่อนค่ะ มาวันแรกเลยนะคะที่กลับมาประเทศไทย แต่ก็ทำตัวเปิ่นๆไว้ที่ร้านนี้ จนคนในร้านนี้จำได้ตอนแรกกะว่าจะไม่เข้าจะขอคุณเปลี่ยนร้านแล้วด้วยซ้ำนะคะเนี่ย “
              “เมื่อกลางวัน ผู้จัดการเรียกฉันเข้าไปคุยงาน แล้วก็เล่าเรื่องของคุณให้ฟังด้วยนะ ว่าคุณเป็นคนขยันมากเลย รู้จักนิสัยลูกน้องทุกคน มีแต่คนรัก ดิฉันเข้ามาเนี่ยไม่รู้จะมีใครรักได้เท่าคุณหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะเนี่ย “
              ผมฟังอย่างหมันไส้เล็กๆ แต่เมื่อนึกได้ว่า เค้าคงพูดอย่างไม่มีอะไร ทำให้ผมโกรธเธอไม่ลง เรายังคงกินข้าวกันต่อไป จนเธอพูดขึ้นมาว่า
              “คุณประทีปคะ คุณอยู่แถวนี้มานาน คุณรู้ไหมคะว่า แถวนี้มีที่ไหนมีหมอดูแม่นๆ บ้างไหม ตอนอยู่เมืองนอกนะ ฉันไปดูมาหลายที่มากเลย แต่ละคนบอกตรงกันหมดทุกอย่างว่า ฉันไม่มีเนื้อคู่ อุ๊ยพูดเล่นคะ เค้าว่าฉันจะไม่ได้ตายในโลกนี้ แล้วก็ดวงช่วงนี้ไม่ค่อยดีด้วย ฉันก็อยากรู้ว่าหมอดูเมืองไทยเค้าจะทายว่าอย่างไร ไม่รู้ว่าเค้าใช้ตำราเดียวกันหรือเปล่านะคะ ถ้าตำราเดียวกันทายอย่างเดียวกันฉันคงแย่แน่ๆเลย ยิ่งยังไม่ได้แต่งงานอยู่ด้วย คุณประทีปแต่งงานแล้วใช่ไหมคะ”
              “ใช่แล้วครับ ผมแต่งงานแล้ว มีลูก 1 คน โตแล้วด้วยครับ ผมรีบปกป้องตัวเองเต็มที่ เพราะนึกว่าเธอจะมาจีบผม “
              “แหมน่าเสียดายจังเลยนะคะ พูดเล่นค่ะ อย่าคิดมากนะคะ ถึงฉันยังไม่แต่งงาน ก็ไม่คิดแย่งใครหรอกค่ะ พูดเล่นนะคะ ว่าแต่คุณประทีป นึกออกหรือยังคะว่า มีหมอดูที่ไหนบ้างแถวๆนี้ “
              “อึม” ผมเริ่มใช้ความคิด แล้วก็นึกได้ว่า ในซอยถัดจากบ้านผมประมาณ 3 ซอย มีหมอดูคนนึง ซึ่งแกค่อนข้างมีอายุมากแล้ว แต่ยังแข็งแรงอยู่มาก วันๆนึงมีคนเข้ามาต่อคิวให้แกดูร่วม 20 คน แล้วแกก็คิดเงินแพงมากเสียด้วยสิ
              “คุณวิสาครับ ผมนึกออกแล้ว มีหมอดูคนนึง เก่งมากเลย แต่ว่าแกออกจะคิดแพงสักนิดนะครับ แต่ผมมั่นใจแกดูแม่นแน่ๆ ขนาดวันนึงมีคนไปดูร่วม 100 เลยนะครับ”
              “เว่อร์ไปคะคุณประทีป หมอดูที่ไหนจะนั่งดูได้วันนึงเป็น 100 คนคะ “
              “เอางี้ละกัน ผมพาคุณไปดูวันนี้เลยละกัน คุณรีบทานข้าวกันเถอะ จะได้รีบไป”
              ภายในซอยซึ่งค่อนข้างเล็กและมีน้ำขังนองๆ อยู่ที่พื้น บอกลักษณะซึ่งไม่ค่อยจะปลอดภัยสำหรับเราเท่าไหร่นัก แล้วเราก็มาถึงบ้านเก่าๆหลังนึง ซึ่งแต่ก่อนผมก็เคยเข้าไปให้แกดูดวงมาก่อน แต่วันนี้ต่างจากทุกวันทุกครั้งที่ผมเคยมา สภาพบ้านซึ่งเก่าลงมากเหมือนจะไม่มีใครอยู่มาก่อน ทั้งๆที่แต่ก่อนมีคนครึกครื้นมากๆ
              ผมตะโกนเข้าไปว่า ”มีใครอยู่ไหมครับ”  ผมตะโกนอยู่สองสามที จนได้มีเสียงเปิดประตูออกมาอย่างเบาๆ
              “ใครวะมาส่งเสียงกันดึกๆดื่นๆ คนเค้าจะหลับจะนอน “
              ผมได้ยินเสียงพร้อมทั้งกลิ่นเหล้าที่รุนแรงออกมา จนผมอยากจะพาคุณวิสากลับไปให้ได้
              “ผมจะมาให้ลุงดูดวงให้ผู้หญิงคนนี้หน่อยนะครับ”
              “เอ็งกลับไปเถอะ ข้าเลิกดูดวงให้คนอื่นนานแล้ว “
              “หน่อยน่าลุงผมพาผู้หญิงคนนี้มาไกล เค้าอยากจะให้ลุงดูให้จริงๆนะ”
              “ไม่เอาไม่เอาข้าจะนอนแล้ว เหล้าหมดแล้วด้วยโว๊ย “ ผมได้ยินพร้อมกับเสียงเตะฝาผนังอย่างแรง ผมจึงคิดได้ว่า “ลุงเอาเหล้าไหมเดี๋ยวผมไปซื้อมาให้”  ด้วยความที่รู้มาว่าแต่ก่อนแกคิดเงินค่าดูแพง แกน่าจะเห็นแก่สินจ้างรางวัล
              “เออ เอ็งไปซื้อมาให้ข้าหน่อย เอ๊า เอาเงินไป “
              “ไม่เป็นไรลุง ผมซื้อมาให้ลุงก่อนก็แล้วกัน”  แล้วผมก็รีบเดินไป ซื้อเหล้าที่ร้านหน้าปากซอย
              “มาแล้วลุง ให้ผมขึ้นไปนั่งกินกับลุงข้างบนด้วยได้ไหม ค่าเหล้าผมไม่คิดหรอก”
              “เออ ก็ได้วะขึ้นมาข้างบนก่อนก็ได้” ผมกับคุณวิสาก็เลยได้ขึ้นไปบนบ้าน
              หลังจากผมก้าวขึ้นไปบนบ้าน ลุงแกก็มีสีหน้าตกใจ บอกตะโกนออกมาว่า “เอ็งยังเข้ามาไม่ได้ เอ็งเอาอะไรมาด้วยวะ ขึ้นไม่ได้โว๊ย”
              ผมก็ตกใจ บอกแกว่า “ไม่ได้เอาอะไรมานี่ครับ ก็มีแค่เสื้อผ้าแล้วก็กระเป๋าเอกสาร 1 ใบเพราะนอกนั้นก็เก็บไว้ในรถหมดแล้ว”
              “ในกระเป๋าเสื้อเอ็งนั่นล่ะ มันอะไรวะเอาเข้ามาด้วยไม่ได้นะโว๊ย ไม่งั้นของข้าจะเสื่อมหมด”
              ผมควัก วัตถุสีเงินนั้นออกมาให้แกดู ถามแกว่า “ไอ้นี่ใช่ไหม แกรีบคว้าไปจากมือของผมทันที”
              “เออ ไอ้นี่หล่ะ ที่ข้าหมายถึง เอ็งไปเอามาจากไหนวะเนี่ย มันมีพลังลบล้างอาคมข้าหมดเลยนะเนี่ย”
              “อืม ผมก็ไม่รู้จะบอกลุงว่าอย่างไรดี ถ้าผมบอกว่าเอามาจากในฝันลุงก็อาจจะไม่เชื่อ”
              “มีหรือวะที่คนอย่างข้า จะไม่เชื่อ ข้าหมออิฐนะโว๊ย มองเห็นอนาคต มองเห็นอดีตแม้แต่ความฝันของเอ็งก็เหอะ เอ็งเอานี้ไว้ข้างนอกก่อนแล้วเข้ามาคุยกันข้างในละกัน ข้าชักสนใจเอ็งขึ้นมาแล้วสิวะพ่อหนุ่ม”
              “เอ้อลุง เรื่องของผมไว้ก่อนได้ป่ะ คุณผู้หญิงคนนี้เค้าจะมาให้ลุงดูหมอให้หน่อยน่ะ คือว่าเค้าต้องรีบกลับบ้านเพราะว่าบ้านเค้าอยู่ไกลนะ เรื่องของผมวันหลังผมจะมาหาลุงใหม่มาให้ลุงซักให้ละเอียดเลยแล้วกันนะครับ”
              “อ่ะนะ เอ็งนี่เรื่องมากได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง เออก็ได้วะ ไอ้หนูไหนเอ็งเอาวันเดือนปีเกิดเวลามาให้ข้าดูหน่อยสิ เอ้อ ยื่นมือมาด้วยแล้วกัน จะดูให้พร้อมๆกันเลย”
              หมออิฐ นั่งดูไปได้พักนึง หลังจากทายเรื่องทั่วไปจนเป็นที่พอใจแก่วิสาแล้ว หมออิฐก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วทักขึ้นมาด้วยเสียงอย่างประหลาดว่า  “ไอ้หนูนี่มันท่าจะไม่ยืนซะแล้วสิวะ ดวงเอ็งไม่ค่อยดีนะพักนี้ “
              “แล้วไงต่อคะคุณลุง หนูใกล้ตายแล้วเหรอคะ “
              “ยังหรอก เอ็งยังไม่ตายตอนนี้หรอก อีกนานนะกว่าเอ็งจะตาย อีกเป็น 200 ถึง 300 ปีได้มั้ง”
              “อะไรกันคะ ใครมันจะอายุยืนได้อย่างนั้น”
              “นี่ข้ายังไม่ได้บอกเลยนะว่าอายุแกจะยาวน่ะ ข้าหมายถึงเอ็งน่ะจะตายในอีก 200 ปีข้างหน้าแต่ไม่ได้บอกนะว่าเอ็งจะอายุยืน “
              “งงจังค่ะ แล้วตกลงหนูจะตายที่โลกนี้ไหมคะ” วิสาถามอย่างกับรู้ว่าหมออิฐจะพูดว่าอย่างไรต่อ
              “อืม เอ็งก็รู้นี่นาว่าเอ็งจะไม่ได้ตายในโลกนี้ แล้วยังมาถามข้าทำไมวะ”
              “ก็หนูอยากให้ลุงช่วยหนูนี่คะ หนูยังไม่อยากตาย ลุงรู้ไรอีกบอกมาเถอะนะคะ”
              “ข้ารู้เท่าที่รู้นี่แหละวะ ข้าช่วยเอ็งไม่ได้หรอก ขอให้เอ็งโชคดีนะ เอ้อข้ามีไรจะให้เอ็งไว้ด้วย”
              หมออิฐหยิบของออกมาจากพานข้างหน้าหิ้งพระของแก แล้วก็ยื่นให้วิสา เธอรับไปด้วยมือสั่นๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น