ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อนใหม่
.
                  “เพื่อนใหม่เหรอ ฉันไปรู้จักคุณตั้งแต่ตอนไหนเหรอ “ จูนถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อว่าเธอจะไปรู้จักคนที่ไม่คุ้นเสียงแบบนี้มาจากไหน
                  “ชื่ออะไรล่ะคุณน่ะ” จูนถามไปอีกทีเพื่อไม่ยอมให้ฝ่ายนั้นรู้ชื่อตัวเองเพียงฝ่ายเดียว
                  \"อืมชื่ออะไรดีล่ะครับ จูนอยากเรียกผมว่าไรดีล่ะ “
                  “นี่นาย อย่ามากวนเรานะ ชื่ออะไรบอกมาซะที ไม่บอกเราวางสายแล้วนะ” จูนพูดพร้อมกับใช้ไม้ตายสุดท้ายเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมเผยความลับออกมา
                  “บอกก็ได้ แหมแค่นี้ทำไมต้องมาขู่กันด้วยล่ะ ชื่อแชมป์ พอใจหรือยังล่ะครับ คุณจูน”
                  “อืม พอใจก็ได้ ว่าแต่นายไปเอาเบอร์เรามาจากไหนล่ะ” จูนถามอีกเพื่อให้ความอยากรู้กระจ่างขึ้นทีละนิด
                  “อ้าว ก็จูนเป็นคนแจกจ่ายไปทั่วเองไม่ใช่เหรอ ในงานวันลอยกระทงน่ะ แค่นี้ทำเป็นจำไม่ได้”
                  “ก็เราไม่ได้บอกใครนี่ว่าเป็นเบอร์ของเรา” จูนพูดพร้อมทั้งเอามือมาเกาที่หัวตัวเอง พร้อมทำหน้าสงสัย
                  “ถึงไม่บอกว่าเป็นเบอร์จูนเราก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เบอร์ของกิ๊ก ก็เพื่อนเราหลายคนเลยเคยโทรมาขอสายกิ๊กแล้ว แต่ว่าก็มีคนหนึ่งเสียงคล้ายคุณแม่ของกิ๊กมารับสาย ไม่มีคนไหนเคยได้พูดกับกิ๊กผ่านโทรศัพท์”
                  “อะไรนะนายว่าใครเสียงเหมือนคุณแม่” จูนพูดพร้อมทั้งเริ่มยัวะที่นายแชมป์จับพิรุธได้
                  “อ๋อ เสียงจูนเองเหรอ แต่ว่าเราว่าไม่เหมือนเสียงคุณแม่เลย เสียงจูนออกจะเพราะจะตาย ใครนะช่างว่าเสียงจูนเป็นคุณแม่ไปได้”
                  “อ่ะนะ ทำตบหัวแล้วลูบหลังหรือไงนาย”
                  “เปล่านะ เราพูดจริงๆ “
                  “ว่าแต่เข้าเรื่อง อย่านอกเรื่อง แล้วไปรู้ได้ไงว่าเราชื่อจูน เราไม่ได้บอกใครที่โทรมาเลยนะว่าชื่อจูน”
                  “เรื่องนั้นเราก็ต้องสืบสิ ที่ไหนมีคนน่ารักอยู่ เรารู้หมดแหละ”
                  “แหม นายนี่ขี้หลีชะมัดเลยนะ”
                  “เปล่าเราล้อเล่น แหม อย่าทำจริงทำจังอย่างงั้นสิ อย่ามองเราในแง่ร้ายแบบนั้น ที่เราโทรมาเนี่ยก็แค่อยากจะมาคุยกับจูนแค่นั้นแหละ อยากรู้จักไว้ “
                  “แค่นั้นแน่นะ” จูนพูดย้ำ
                  “แน่สิ เราสัญญาด้วยเกียรติแห่งลูกเสือสำรอง”
                  “นี่นายอย่ามาเล่นลิ้นกับเรา ว่าแต่นายอยู่คณะไรล่ะ”
                  “แหมคนหล่อๆเค้าอยู่คณะไหนกันล่ะ”
                  “คณะวิศวะเหรอ”
                  “เก่งมาก เธอนี่ฉลาดสมคำร่ำลือจริงๆนะ”
                  “แหม ไม่ฉลาดจะเป็นจูนเหรอ” จูนพูดพรางยิ้มไปด้วย
   
                  แล้วทั้งสองก็คุยกันต่อเพื่อสอบถามเรื่องราวกันด้วยความสนุกสนานจนลืมเวลาว่าผ่านไปราวสองชั่วโมง
                  “แชมป์เราไปนอนก่อนนะ เริ่มง่วงแล้วล่ะ”
                  “อืม ไงก็นอนหลับฝันดีด้วยนะ ฝันถึงเราบ้าง”
                  “ บ้าใครเค้าจะไปฝันถึงนาย หน้าตาเราก็ยังไม่เคยเห็น”
                  “งั้นไม่เป็นไรเราจะฝันถึงเธอเองก็แล้วกันนะ เพราะเราเคยเห็นหน้าเธอแล้ว”
                  “เห็นหน้าเราตอนไหน งานลอยกระทงเหรอ”
                  “เปล่า ตอนนั้นเราไม่ได้ไปงานลอยกระทงที่มหาลัยหรอก”
                  “แล้วไปเห็นเราตอนไหนล่ะ” จูนถามด้วยความสงสัย
                  “ก็ที่สนามบอลไง เมื่อวันนี้เอง”
                  “อะนะ นายเองหรือที่เตะบอลใส่เรา”
                  “เปล่านั่นเพื่อนเราต่างหาก” แชมป์พูดแก้ตัวอย่างทันที
                  “แล้วไป นึกว่านาย ไม่งั้นรู้ฤทธิ์จูนซะบ้าง” จูนพูดพร้อมทั้งทำเสียงขู่อีกรอบ
                  “เอาล่ะเราไปจริงๆแล้วนะ กู๊ดไนท์”
                  “จ๊ะ กู๊ดไนท์”
                  ที่มหาวิทยาลัยตอนเช้าเมื่อสี่สาวได้มาประชุมกันตอนเช้าเรื่องรายงาน
   
                  “ไงโอ๋เธอไปนั่งอ่านมาเป็นไงบ้างล่ะ” หมีถาม
                  “อืม ก็ยากอยู่นะ ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเอาหัวข้อไหนมาทำดี” โอ๋บอก
                  “แล้วกิ๊กล่ะ อ่านไปถึงไหนแล้ว” หมีถามอีกคนเพื่อถามความเห็น
                  “เราก็มีแนวทางเดียวกับโอ๋แหละ นึกไม่ออก” กิ๊กหันหน้ามาทางหมีแล้วก็ยิ้มๆ
                  “แล้วจูนล่ะ”หมีถามอีกคน
                  “เราเหรอ ไม่ได้อ่านมาเลยอ่ะ ขอโทษทีนะ ติดภารกิจสำคัญของนังกิ๊กน่ะ ถ้าจะโทษ โทษมันก็แล้วกันนะ” จูนพูดพร้อมทำท่าจะวิ่งหนี เมื่อกิ๊กเงื้อมมือจะพาดไปที่จูน
                  “อะไรนี่เธอมาโทษเราได้ไงล่ะ เธอก็แค่เอาหูออกแค่นี้สายก็ไม่ว่างแล้ว อย่ามาพูดเลย เหตุผลฟังไม่ขึ้นหรอก แอบงีบหลับเอาเปรียบพวกเราเหรอไง”
                  “เปล่านะเห็นเราเป็นคนแบบนั้นเหรอ”
                  “เห็นสิ” ทั้งสามคนตอบแทบจะพร้อมกันออกมา
                  วันนี้ทั้งสี่คนนัดกันเพื่อที่จะไปหาหนังสือเพิ่มเติมที่คณะวิศวะ โดยที่จูนเป็นคนเสนอความคิดนี้ ทั้งสี่ก็เห็นด้วย
                  ห้องสมุดคณะวิศวะ
                  “โอ๋ เรื่องนี้ใช้ได้ไหมล่ะ” หมีถาม
                  “ไม่ได้หรอก เราว่านะเรื่องนี้ข้อมูลน้อยนะ เดี๋ยวจารย์ถามมากๆเราจะตอบไม่ได้นะ ว่าแต่จูนกับกิ๊กเค้าไปหาหนังสือกันตรงมุมไหนล่ะ หาไม่เจอเลย ห้องสมุดยิ่งกว้างๆอยู่”
                  “ไม่รู้สิ นั่นไง” หมีชี้ไปที่จูนกับกิ๊กที่ไปหาหนังสือตรงมุมนิยายอยู่
                  “นี่พวกเธอ มาหารายงานนะไม่ใช่มานั่งอ่านนิยาย”
                  “แหม นิดเดียวเอง” จูนทำบ่น
                  “นี่จูนเธอเป็นคนบอกให้เรามาเองนะ ทำตัวงี้ได้ไง เร็วไปช่วยพวกเราหาเลย”
                  “แหม ได้จ๊ะได้ ไปเถอะกิ๊ก” จูนพร้อมทั้งลากมือของกิ๊กแล้วเดินลิ่วๆไป ในจังหวะนั้นเองจูนก็ชนกับหนุ่มวิศวะเข้าคนหนึ่งด้วยความที่รีบจนไม่มองว่ามีคนขวางอยู่
                  “ขอโทษค่ะ” จูนกับกิ๊กรีบเอ่ยข้อความขอโทษ
                  “ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ไม่เจ็บหรอกครับ” เค้าพูดพร้อมทั้งยิ้มส่งทักทายให้ทั้งจูนและกิ๊ก แล้วก็หันหลังกลับไปเพื่อหาหนังสือของเค้าต่อ
                  “แหม คนนี้เค้ามีมารยาทดีเนอะ ไม่ว่าเราสักคำ” กิ๊กพูด
                  “ก็เพราะเราเป็นคนสวยไง เค้าเลยไม่ว่าอะไรเรา” จูนพูดพร้อมทั้งทำลอยหน้าลอยตาให้รู้ว่าฉันสวย
                  “ใครว่าเพราะเราต่างหาก เราเป็นนางนพมาศนะ ใครๆก็รู้จักเราทั้งนั้นแหละ”
                  “ใครเค้าจะจำได้ วันนั้นเธอโบ๊ะหนาอย่างงั้น พอลอกคราบดูซิไม่ได้เรื่อง “
                  “อะไรนะ เธอว่าไงนะ”
                  “นี่พวกเธอสองคนเงียบๆกันหน่อย นี่ห้องสมุดนะ” หมีปราม
                  “รู้แล้วนะ ก็พวกเราเห็นคนหล่อ แล้วทำใจไม่ได้นี่นา” กิ๊กพูดแล้วทำท่ายิ้มๆอย่างไม่สนใจ
                  และแล้วตอนเย็นก็มาถึงเมื่อทั้งสี่สาวแยกย้ายกันกลับบ้าน กิ๊กกับจูนซึ่งกลับบ้านทางเดียวกัน
                  “จูนวันนี้เราขอตัวนะ เธอกลับไปก่อนแล้วกัน”
                  “อ้าวทำไมล่ะกิ๊ก ว๊า แย่จังสาวสวยอย่างเราต้องกลับบ้านคนเดียว” จูนพูดพร้อมทำหน้าเซ็งๆ
                  “เราต้องไปซื้อของให้พี่สาวน่ะ”
                  “ให้เราไปเป็นเพื่อนไหมล่ะ วันนี้ก็ว่างๆอยู่ด้วย” จูนพูดเสนอ
                  “ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะวันนี้เราจะไปลับเฉพาะเป็นการส่วนตัว”
                  “อ้าวเหรอ งั้นก็ตามใจเห็นว่าไปคนเดียวจะไปเป็นเพื่อน”
                  “งั้นเราไปก่อนนะ”
                  “กลับบ้านคนเดียวแล้วเหรอเรา แย่จัง” จูนบ่นเมื่อกิ๊กลับตาข้ามถนนไปแล้ว
                  “กริ๊งงงงง” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเวลาสี่ทุ่ม
                  “ใครกันอีกนะ ยังไม่เลิกหายคลั่งนังกิ๊กกันอีกเหรอ มีเหยื่อหลงมาติดกับอีกเหรอ นึกว่าจะท้อๆเลิกกันไปหมดแล้วนะเนี่ย” จูนพูดพร้อมกับบ่นอย่างน่าเบื่อหน่ายในชีวิตตัวเอง
                  “สวัสดีครับจูน ผมแชมป์นะ”
                  “แชมป์เหรอ เป็นไงบ้างวันนี้สบายดีเหรอ”
                  “สบายดี แต่วันนี้นั่งอ่านหนังสือทั้งวันเลย”
                  “เหรอ ใกล้สอบแล้วสิเนอะ ถึงขยันใหญ่”
                  “ใช่แล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวสอบตกล่ะก็แย่เลย แล้วจูนล่ะวันนี้เป็นไงบ้าง”
                  “ก็สบายดีน่ะ วันนี้ไปห้องสมุดคณะเธอมาด้วยล่ะ”
                  “เหรอ เราเห็นแล้วล่ะ วันนี้ตอนเธอมาเราก็นั่งอยู่ในห้องสมุดตลอดเวลาเลย”
                  “จริงเหรอ “ จูนทำเสียงตื่นเต้น “แล้วเธอคนไหนล่ะ ในห้องสมุดจริงๆมันมีอยู่ไม่กี่คนเองนะ”
                  “อยากรู้จริงๆเหรอ อยากรู้เราก็ไม่บอกหรอก อ่ะใบ้ให้ คนที่หล่อที่สุดในนั้นล่ะ”
                  “นี่เธอ อย่ามาหลงตัวเองหน่อยนักเลย ในนั้นฉันไม่เห็นมีหล่อสักคนเลยนะ เด็กวิศวะมีแต่หน้าเห่ยๆทั้งนั้นล่ะ”
                  “โห เธอกล้ามาว่าหน้าเราเห่ยอย่างงั้นเชียวเหรอ แล้วใครกันนะที่แอบซุบซิบนินทาเรา”
                  “ใคร ใครจะไปนินทาเธอ คนไหนเรายังไม่รู้เลย”
                  “นั่นสิ คนไหนดีล่ะ”
                  “นี่เธอบอกมานะว่าคนไหน เห็นเราเราไม่เห็นเธอเอาเปรียบ”
                  “ใครว่าเธอไม่เห็นเรา”
                  “ก็ไม่เห็นจริงๆนี่นา”
                  “เรานะเห็นเธอจังๆห่างไม่ถึงก้าวเลย”
                  “เหรอ” จูนพูดเหมือนทำท่าจะไม่เชื่อ
                  “เฮ้อ เราก็คนที่เธอมาชนไง”
                  “อะไรนะ คนที่เราชนน่ะเหรอ”
                  “ก็ใช่น่ะสิ”
                  “แล้วทำไมไม่แนะนำตัวตอนนั้นเลยล่ะ โธ่” จูนพูดพร้อมทั้งทำท่าเสียดายเพราะไม่คิดว่าแชมป์จะหล่อบาดใจได้ถึงเพียงนี้
                  “ก็เราเขินนิ สาวๆสวยๆมากันตั้งสี่คน”
                  “นี่นายจะปากหวานเกินไปแล้ว พออยู่ตัวคนเดียวไม่เห็นจะได้เรื่องปากดีอย่างงี้เลยนะ”
                  “แหม ก็เราพูดไม่เก่งนี่นา”
                  “อืม ดีแล้ว คราวนี้เรารู้จักหน้านายแล้ว วันหลังเจอกัน”
                  “แน่ใจเหรอ ว่าจะเจอกับเรา”
                  “แน่ใจสิ นายมีไรน่ากลัวเหรอ เห็นก็เห็นมาแล้ว ดูซิเวลาเจอจริงๆจะพูดได้อย่างงี้หรือเปล่า”
                  “นั่นสิเนอะ ต้องลองดูกัน งั้นแค่นี้ก่อนนะ ต้องไปอ่านหนังสือต่อแล้วล่ะ”
                  “อืมเชิญตามสบาย เดี๋ยวเราไปนั่งอ่านหนังสือก่อน ไม่งั้นเราจะโดนเพื่อนว่าอีก เพราะเธอน่ะล่ะทำเราโดนเพื่อนว่า”
                  “อ้าวไหงว่ากันงี้ล่ะ บายนะ”
                  “บาย”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น