ความรักของพี่นั้น เฮ้อ…มีแต่ให้ - ความรักของพี่นั้น เฮ้อ…มีแต่ให้ นิยาย ความรักของพี่นั้น เฮ้อ…มีแต่ให้ : Dek-D.com - Writer

    ความรักของพี่นั้น เฮ้อ…มีแต่ให้

    การรักใครสักคน ไม่ต้องการผลตอบแทนใช่ไหม แล้วถ้าฉันเป็นคนรับล่ะ จะเข้าใจจิตใจคนให้ได้ดีแค่ไหนกันนะ ( ชั้นไปชอบแฟนพี่สาว ทำไงดี ไม่ต้องลงทุนแย่ง พี่ก็ให้เอง )

    ผู้เข้าชมรวม

    1,344

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.34K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ม.ค. 49 / 22:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      .
                      การเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในปีแรกของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกถึงการกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม กิจกรรมต่างๆที่มหาลัยจัดขึ้น ทำให้ฉันรู้สึกเป็นผู้ตาม จากคนที่เคยเป็นหัวโจกในกิจกรรมต่างๆ ต้องเป็นผู้น้อมรับคำสั่งจากรุ่นพี่ในคณะ เค้าบอกว่าเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ แต่ชั้นว่ามีไว้ให้เป็นที่ระบายแค้นที่แต่ก่อนเคยถูกกระทำมาก่อน ชั้นรู้ดีเพราะความรู้สึกนี้เมื่อตอนอยู่ ม.6 ก็เคยรู้สึกมาก่อน แต่อาจจะไม่ใช่ ความรู้สึกของเด็ก กับความรู้สึกของคนที่มีวุฒิภาวะแล้วอาจจะแตกต่างกันไป


                      ชั้นเข้าเรียนในคณะวิศวะ คณะที่หาผู้หญิงทำยาได้น้อยมาก ในคณะของชั้นมีผู้หญิงอยู่เพียง 30 กว่าคน และในสาขาที่ชั้นเรียนอยู่มีชั้นอยู่เพียงคนเดียว ชั้นชื่อมายด์ เป็นผู้หญิงที่ตัวค่อนข้างเล็ก ค่อนข้างจะนิสัยแก่นๆ ออกจะทอมๆนิดๆ ชั้นจึงเข้ากับผู้ชายในคณะได้อย่างไม่ต้องสงสัย จนทุกคนคิดว่าชั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่งด้วยซ้ำ คิดอยากจะเตะ ก็เตะอย่างไม่ค่อยเกรงใจเลย


                      ในตอนแรกชั้นไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเรียนคณะวิศวะ คิดเพียงว่าได้เข้าคณะวิทยาศาสตร์ก็สุดหรูแล้ว  ชั้นยอมรับตรงๆ ว่าที่กล้าที่เอนฯ เข้าคณะนี้ก็เพราะว่า “พี่สา” พี่สาเป็นพี่ที่โรงเรียนสมัยม.ปลาย พี่สาเป็นสาวกิจกรรมตัวยง และเป็นคนชักจูงชั้นให้หันมาทำกิจกรรมทุกชนิดที่สามารถทำได้ แต่การเรียนของพี่สาก็ไม่ได้ตกเลยสักนิด พี่สาเป็นคนที่ทำให้ชั้นรู้จักแบ่งเวลา แยกเรื่องเรียนกับกิจกรรมออกจากกัน เวลาเรียนก็คือเรียนเวลาเล่นพี่สาก็สนุกสนานเฮฮาไม่แพ้ใคร ชั้นได้สิ่งเหล่านี้จากพี่สามาโดยตรง


                      “มายด์ ปีนี้พี่จะเอ็นฯเข้าวิศวะนะ”


                      “เหรอพี่ สุดยอดเลย พี่สาเรียนวิศวะนะเท่ห์ไม่หยอกเลย” ชั้นทำเสียงภูมิใจสุดๆ


                      “แล้วมายด์ล่ะ ปีหน้าจะเอ็นฯแล้วนะคิดไว้แล้วหรือยัง”



                      “ยังเลย แต่หัวอย่างมายด์ คงไม่อาจเอื้อมวิศวะ อย่างพี่สาหรอก แค่เอ็นฯติดก็บุญโขแล้ว”



                      “แหม ทำไมดูถูกตัวเองอย่างงั้นล่ะจ๊ะ แม่สาวหัวหน้าชมรมวิทยาศาสตร์ จะมายอมแพ้อย่างหมดรูปตั้งแต่ยังไม่ยอมแข่งแบบนี้ได้ไง”



                      “ก็มันไม่เหมือนกันนี่นา” ชั้นทำหน้าเบ๊เมื่อถูกพี่สาดูถูกเอาแบบนั้น



                      “เอางี้ไหม มาเข้าคณะเดียวกับพี่ พี่จะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ไว้ให้ก่อน แล้วตามพี่เข้าไปให้ได้นะ”



                      “อ๊ะ จะลองดู ถ้ามายด์เอ็นฯไม่ติด พี่สาต้องรับผิดชอบนะ”



                      “จ๊ะ พี่สัญญา” พี่สาพูดพร้อมทั้งชูสองนิ้วเป็นเชิงสัญญา





                      หลังจากพักทานข้าวกลางวันชั้นมักจะมานั่งเล่นในห้องคอมของคณะ เพราะห้องนี้ติดแอร์ให้ความฉ่ำที่แตกต่างจากอากาศข้างนอก และห้องนี้ยังมีรุ่นพี่คนหนึ่งทำหน้าที่เป็นคนคุมเครื่อง server อีกด้วย ชั้นไม่รู้จักชื่อเค้าหรอก จนกระทั่งพี่สาโทรศัพท์เข้ามา



                      “มายด์เหรอ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ห้องคอมหรือเปล่า”



                      “ค่ะ อยู่ห้องคอมค่ะ”



                      “ช่วยบอกพี่พล ปริ้นงานในโฟล์เดอร์พี่ให้หน่อยนะ มีอยู่ไฟล์เดียว ขอบใจมากนะ”



                      “ค่ะพี่สา แต่ว่าพี่พลคนไหนคะ มายด์ไม่รู้จัก”



                      “ตอนนี้พี่พลคงจะคุมเครื่อง server อยู่มั้ง หาไม่ยากหรอก”



                      “ค่ะ มายด์รู้แล้วล่ะว่าคนไหน มายด์จะบอกให้นะคะ”





                      นั่นเป็นครั้งแรกที่ชั้นรู้จักชื่อของรุ่นพี่คนนั้น และด้วยความที่ชั้นมาห้องคอมเป็นประจำ และมีโอกาสได้พูดคุยกับพี่พลจึงรู้ว่าพี่พลเป็นคนที่คุยสนุกและเป็นกันเองเป็นที่สุด



                      “น้องมายด์ เย็นนี้ว่างไหม พี่จะไปซื้อของขวัญให้เพื่อน ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ”



                      ใจชั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่พลเอ่ยปากชวนชั้น ชั้นเริ่มแอบปลื้มพี่พลมานานแล้ว นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชั้นใช้เวลาส่วนใหญ่มานั่งเล่นคอมในห้องนี้ นอกจากจะมาหัดเขียนโปรแกรมที่เป็นวิชาที่ต้องเรียนแล้ว พี่พลยังเป็นคนคอยแนะนำให้ชั้นตลอด แตกต่างจากคนอื่นที่อยู่ในห้องคอมด้วยกัน เอ๊ะนี่ชั้นคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า



                      “ค่ะ ว่างค่ะ เย็นนี้มายด์ไม่มีเรียนพอดี”



                      “งั้นตกลง เย็นนี้ สี่โมงครึ่งเจอกันที่หน้าห้องคอมนี้นะ”





                      เรื่องราวความรักของชั้นกับพี่พลดูเหมือนจะเริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น แต่ไม่ใช่เลยมันเป็นจุดจบต่างหาก สิ่งที่ชั้นเข้าใจมาตลอดถึงความหวังดี และเอาใจใส่ที่มีต่อชั้น มันมีเหตุผล และมีต้นเหตุของมันเอง





                      “มายด์ว่าจะซื้อของขวัญสักชิ้นให้ผู้หญิงในวันเกิดจะซื้ออะไรดีล่ะ”        



                      “แล้วเค้าชอบแบบไหนล่ะคะ”        



                      “อืม ไม่รู้สิ แล้วมายด์ล่ะชอบแบบไหนล่ะ เป็นผู้หญิงนี่”



                      “อืม ถ้าเป็นมายด์นะ มายด์ชอบอะไรที่น่ารักๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม”



                      “แหม พี่ว่าไม่เหมาะกับเราเลยนะ เราน่ะออกจะห้าวขนาดนั้น พี่นึกว่าเราจะชอบพวกหุ่นยนต์ซะอีก”



                      “พี่พล มายด์ไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะมาเล่นหุ่นยนต์น่ะ ฮิอิ ถ้าตุ๊กตาล่ะก็ไม่แน่ มายด์ว่าซื้อตุ๊กตาให้ดีกว่านะ” ชั้นยิ้มในใจ แอบหวังเล็กๆว่าพี่พลจะซื้อให้เราหรือเปล่า เพราะว่าอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดชั้นแล้ว พี่พลไปแอบรู้มาได้ยังไง



                      “อืม ใช่  พี่ว่าเค้าต้องชอบแน่เลย”



                      แล้วเราสองคนก็เลือกตุ๊กตามาได้หนึ่งตัว พี่พลสั่งให้ห่อของขวัญด้วย  ชั้นแอบดีใจพี่พลคงจะเซอร์ไฟส์ชั้นแน่ๆ เมื่อถึงวันเกิดชั้น แต่ชั้นลืม วันเกิดชั้นเป็นวันเดียวกับพี่สา พี่สาวที่ชั้นรักที่สุด ชั้นไม่เฉลียวใจเลยว่าคนนั้นของพี่พลจะไม่ใช่ชั้น นี่ละหนอ ความรักเมื่อเกิดกับใครแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผล มันก็มีเหตุผลรองรับให้เข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว



                      วันเกิดชั้นวันนั้น ชั้นนั่งรอให้พี่พลอยู่ในห้องคอมตั้งแต่เที่ยง แต่ก็ไม่เจอพี่พลเข้ามาทำหน้าที่เช่นเคย ชั้นรอจนกระทั่งบ่ายถึงเวลาเข้าเรียน ชั้นก็ยังนั่งรออยู่เช่นนั้น สักพักพี่สากับพี่พลก็เดินเข้ามา ในมือพี่สากอดตุ๊กตาตัวนั้นไว้แนบอกด้วยความทะนุถนอม



                      “อ้าว มายด์เวลานี้เวลาเรียนไม่ใช่เหรอทำไมไม่ยอมไปเรียนล่ะ”



                      “อ๋อเดี๋ยวก็จะไปค่ะ มายด์รู้สึกไม่ค่อยจะดี ไม่แน่มายด์อาจจะโดดสักหน่อย”



                      “อืมม เหรอ แล้วกินข้าวหรือยัง”



                      “กินแล้วค่ะ”



      งั้นอ่ะนี่” พี่สาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบยาพาราออกมาให้ชั้น “กินซะ”



      “ขอบคุณค่ะ”



      “แล้วเดี๋ยวเย็นนี้เราไปฉลองกันนะ จำได้ไหมวันนี้วันอะไร”



      “จำได้ค่ะ มีหรือมายด์จะจำวันเกิดตัวเองกับวันเกิดพี่สาไม่ได้”



      “เป็นอันว่าตกลง เย็นนี้พี่พลเค้าจะไปฉลองกับเราด้วยนะ”



      “สา ทำไมไม่บอกเราหน่อยล่ะ ว่าวันนี้วันเกิดของมายด์ เราเลยไม่ได้ซื้อของให้มายด์ด้วยเลย”



      “ไม่เป็นไรคะพี่พล พี่พลไม่รู้นี่คะ งั้นมายด์ขอตัวก่อนนะคะ”





      หลังจากแยกกับพี่สากับพี่พล ชั้นเดินไปเรื่อยๆในมือยังคงกำยาพาราไว้แน่นคล้ายกับจะบดตัวยาให้ละเอียดแหลกคามือ เหมือนดังเช่นหัวใจของชั้นตอนนี้ที่กำลังจะแหลกสลายลงไป ภาพบาดตามันยังฟ้องอยู่ ชั้นเหวี่ยงยาออกไปอย่างสุดแรงหมายจะให้ภาพนั้นได้ลบออกไปจากใจ



      เย็นนั้นชั้นไม่ได้ไปหาพี่สาหรอก ชั้นตรงกลับบ้านทันที นี่คงเป็นครั้งแรกสินะ ที่งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเรา ไม่มีกันและกันอีกต่อไป และจะไม่มีอีกต่อไป





      หลังจากวันนั้นชั้นก็ไม่เห็นพี่พลที่ห้องคอมอีกเลย พี่พลหมดหน้าที่คุม server ในห้องคอมแล้วและเปลี่ยนเวรให้รุ่นพี่คนอื่นมาอยู่แทน ยิ่งรุ่นพี่คนใหม่ชั้นไม่ชอบขี้หน้าด้วยแล้ว ชั้นตัดสินใจซื้อคอมและรีบกลับไปเล่นคอมที่บ้านแทน



      เวลาผ่านไป นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ พี่สาพยายามเข้ามาคุยกับชั้น แต่ชั้นก็ยังไม่สนใจพี่สาอยู่ดี ชั้นยังเคืองพี่สาอยู่มาก รู้ทั้งรู้ว่าน้องชอบพี่พลอยู่ ก็ยังมาทำแบบนี้อีก ชั่งไม่รักน้องบ้างเลย แต่ชั้นสิไม่รู้เลย ว่าพี่พลกับพี่สาชอบกันอยู่ก่อนที่ชั้นจะเข้ามาเรียนเสียอีก นั่นสิ ชั้นต่างหาก ที่ไม่รู้อะไรเลย





      แล้ววันหนึ่งชั้นก็ได้ทราบข่าวไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายของชั้น พี่สาจะต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อไปเรียนต่อ  โดยการไปครั้งนี้เพื่อไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อที่กำลังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลในอเมริกา โดยพี่สาจะต้องอยู่จนกว่าพ่อจะรักษาหาย ซึ่งนั่นก็เหมือนหยุดเรียนไป พี่สาจึงต้องโอนหน่วยกิตทั้งหมดไปเรียนอเมริกาด้วย



      ชั้นคิดว่า นี่คงจะเป็นข่าวดีมากกว่า ถ้าพี่สาไม่อยู่ พี่พลอาจจะหันกลับมามองชั้นบ้าง (หรือเปล่า)  วันที่พี่สาเดินทาง ชั้นก็ยังคงไม่ไปส่งพี่สาอยู่ดี





      “พี่พลคะ มานั่งอะไรอยู่ตรงนี้” ชั้นร้องเรียกพี่พลซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง



      “อ๋อ มายด์เองเหรอ เป็นไงบ้าง ขึ้นปีสองยากกว่าปีหนึ่งไหมล่ะ”



      “ก็ยากอ่ะนะ แต่ไม่เกินความสามารถของเด็กโง่ๆคนหนึ่งหรอก ถ้ามีครูดีมายด์มีหวังท๊อปแน่นอน ขอบอก” ชั้นทำเสียงอ้อนเพราะหวังว่าจะใช้ลูกไม้หลอกล่อให้พี่พลมาสอนชั้นนั่นเอง



      “ใครมาเป็นครูมายด์ สงสัยปวดหัวตายแน่เลย เด็กดื้อ แบบนี้”



      “แล้วพี่พลจะลองมาปวดหัวกับมายด์หน่อยไหมล่ะ”



      “อ่ะ จะลองดูสักตั้ง” ชั้นดีใจมากไม่คิดว่าแผนง่ายๆแบบนี้จะได้ผล เย้เย้ สำเร็จแล้ว ชั้นคิดในใจ







                      “มายด์ พรุ่งนี้เย็นๆเราไปหาข้าวกินกันนะ” พี่พลเอ่ยปากชวนชั้นขณะกำลังสอนชั้นอยู่            



                      “พี่พลจะมาไม้ไหนกันคะ ชวนสาวกินข้าวเนี่ย รู้นะคิดะไรอยู่”



                      “ก็พรุ่งนี้วันเกิดมายด์ไม่ใช่เหรอ ทำมาเป็นจำไม่ได้”



                      “จำได้แล้วเหรอคะ นึกว่าจะจำไม่ได้” ชั้นพูดไปก็นึกเจ็บใจ ปีที่แล้ววันนี้เองเป็นวันที่ชั้นปวดใจเป็นที่สุด



                      “เป็นอันว่าตกลงนะ”



                      “ค่ะ ได้ไม่มีปัญหา แต่มายด์ไม่เอาตุ๊กตานะ”



                      “อ้าว ไหงงั้นล่ะ พี่ซื้อไว้แล้ว”



                      “พี่พลก็เอาไว้ให้คนอื่นแล้วกัน ถ้าแบบนั้นน่ะ”



                      “ก็ได้ๆๆๆ ไว้พี่จะหาไว้ให้ใหม่แล้วกัน เดือดร้อนเราอีกแล้ว”



                      “เฮ้อ” ชั้นถอนหายใจเบาๆ ไม่ให้พี่พลได้ยิน ทำไมหนอต้องเอาตุ๊กตามาให้ด้วย มันทรมานหัวใจนะจะบอกให้





                      ขณะนี้ชั้นเรียนจบแล้ว และกำลังเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร พี่พลหอบหิ้วดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีให้ชั้น ตอนนี้จะเรียกว่าพี่พลเป็นแฟนชั้นแล้วก็ได้ ชั้นลากพี่พลไปถ่ายรูปตรงโน้นที ตรงนี้ที แนะนำพี่พลให้รู้จักกับเพื่อนๆของชั้นในฐานะแฟน



                      “มายด์หยุดก่อน พี่เหนื่อยแล้วนะ ตกลงวันนี้จะถ่ายสักกี่ม้วนเหรอ”



                      “ค่ะ พักสักครู่ก็ได้ พี่พลจะกินน้ำไหม”



                      “อืมก็ดี กำลังหิวเลย”



                      “งั้นพี่พลไปซื้อให้หน่อยนะ”



                      “อ้าวพูดเหมือนจะไปซื้อให้พี่เลย”



                      “น่า นะๆๆ นี่ค่ะเงินไปซื้อมาหน่อยเร็ว มายด์หิวแล้ว”





                      พี่พลเดินกลับมา อีกครั้งคราวนี้หนีบผู้หญิงผมสั้นกลับมาด้วย ชั้นเห็นแล้วเคืองมากๆ แต่พอเห็นหน้าแล้วชั้นกลับเคืองเข้าไปอีก เค้าคนนั้นก็คือพี่สานั่นเอง



                      “คอนเกรส ยินดีด้วยนะจ๊ะมายด์ พี่กลับมาทำธุระ เลยแวะมางานมายด์ด้วยเลย”



                      “ขอบคุณค่ะ” ชั้นยกมือไหว้พี่สาอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก



                      “นี่จ๊ะ พี่ซื้อมาให้ “ พี่สายื่นสร้อยคอเป็นรูปตัวเอสอยู่ในหัวใจให้ชั้น



                      “ขอบคุณค่ะ” ชั้นก็ยังรับมาไว้ แต่ในใจนึกไว้ชั้นจะไม่ใส่มันเด็ดขาด



                      “งั้นพี่ไปแล้วนะจ๊ะ น้องๆ อีกหลายคนเค้ารอถ่ายรูปกับพี่อยู่ ฝากพี่พลด้วยนะ”



                      “ค่ะ มายด์จะดูแลพี่พลเอง” ชั้นพูดกลับไปอย่างประชดประชัน แล้วพี่สาก็เดินหันหลังกลับไป ใครเลยจะเห็นน้ำตาของพี่สาที่ไหลขณะหันหลังกลับไป ที่อีกนิดเดียวก็จะไหลต่อหน้าชั้นแล้ว



                      หลังจากพี่สาจากไปโดยที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับชั้นสักใบ พี่สาก็เดินทางต่อไปยังสนามบินโดยทันที พี่สาไม่มีธุระที่ไหนทั้งนั้น จุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวคือมาร่วมแสดงความยินดีกับชั้น แต่ชั้นก็ยังทำตัวไม่ดีกับพี่สาต่อไปนั่นเอง





                      แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชั้น วันหนึ่งขณะที่ชั้นได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่บริษัท ท่ามกลางสายฝนที่พัดผ่านยามฤดูมรสุม รถบัสที่ชั้นนั่งเกิดอุบัติเหตุตกจากหน้าผาบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกคนถูกส่งยังโรงพยาบาลในตัวเมืองอย่างเร่งด่วน บ้างก็เสียชีวิต แต่ชั้นโชคดีที่ไม่เสียชีวิต แต่ชีวิตก็ยังแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั่นเอง



                      ชั้นยังคงอยู่ในห้องไอซียู ในตัวยังมีเครื่องช่วยหายใจอยู่



                      “ลูกชั้นเป็นยังไงบ้างคะ” แม่ของชั้นถามหมอผู้ดูแล



                      “ลูกของคุณเสียเลือดมากครับ ตอนนี้เรากำลังติดต่อผู้ที่สามารถบริจาคอยู่ครับ”



                      “งั้นผมบริจาคเลือดได้ไหมครับ เลือดของมายด์กรุ๊ปอะไรนะครับ”



                      “ผมเกรงว่าจะไม่ได้นะครับ เลือดของคนไข้เป็นกรุ๊ปพิเศษน่ะครับ”



                      “กรุ๊ปอะไรครับ” พลถามอย่างใจร้อน



                      “โอเนกกาทีปครับ ตอนนี้เลือดกลุ่มนี้หายากมากครับ ยิ่งอยู่ในต่างจังหวัดอย่างนี้ กว่าจะติดต่อให้เอาเลือดมาให้ก็อาจจะไม่ทันการณ์ เรากำลังค้นดูว่ามีผู้ที่มีกลุ่มเลือดตรงกันไหม”



                      “โธ่ลูกแม่” แม่ทรุดลงกับพื้นความหวังอันน้อยนิดของแม่ กำลังจะหมดไปทุกที





                      ในวินาทีนั้น ชั้นลืมตาขึ้นมา สายท่อช่วยหายใจไม่มีอีกแล้ว แม่ยังคงนั่งหลับอยู่ที่โซฟาในห้องนั่นเอง



                      “แม่ มายด์หิวน้ำ” ชั้นพูดแต่เสียงแทบจะไม่มีออกจากปาก แต่เพียงแค่นี้แม่ก็สะดุ้งตื่นเหมือนใครมาสะกิดแม่อย่างแรง



                      “มายด์ มายด์ลูกแม่พื้นแล้ว” แม่รีบลุกและโผล่หน้าออกไปเรียกพยาบาลให้เข้ามาดู



                      “มายด์สลบไปกี่วันคะแม่ แล้วมายด์รอดมาได้ยังไง”



                      “มายด์ตกเขาน่ะลูก แต่ลูกไม่เป็นไรแล้วนะ “



                      “มายด์เหนื่อยจังค่ะแม่” ชั้นพูดในขณะที่แม่กำลังป้อนน้ำเข้าปากชั้นและหมอเข้ามาพอดี



                      “คุณมายด์ คุณโชคดีมากเลยนะ ปาฏิหาริย์เลยรู้ไหม เลือดกรุ๊ปของคุณหายากมาก แต่เราก็ได้มายังทันท่วงที หากช้ากว่านี้อีกชั่วโมงคุณคงไม่รอด”



                      “เหรอคะคุณหมอ คุณหมอพอจะทราบไหมคะว่าเลือดของใคร”



                      “ให้คุณแม่ของคุณบอกดีกว่าครับ” คุณหมอ ยกหน้าที่นี้ให้แม่บอก ในขณะที่พลกำลังเดินเข้ามา



                      “หนูสาจ๊ะ เค้าบินมาจากอเมริกา”



                      “ใช่มายด์ พี่เป็นคนโทรไปหาสาเอง มายด์ไม่โกรธนะ พี่รู้ว่าสาเค้ามีเลือดกรุ๊ปนี้ พี่ก็พึ่งจะทราบจากหมอกว่ามายด์ก็มีเลือดกรุ๊ปเดียวกับสาเค้าก็วันนี้แหละ”



                      “แล้วพี่สาล่ะคะ” ชั้นพูดขณะที่น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว



                      “พี่สาเค้ากลับไปแล้วล่ะ เค้าฝากบอกให้มายด์ดูแลตัวเองให้ดี อย่าเป็นอะไรอีก”



                      “ทำไมพี่สาไม่อยู่รอมายด์ก่อน  มายด์อยากขอโทษพี่สา” ชั้นร้องไห้ในขณะที่พี่สาก็ยังร้องไห้อยู่หน้าห้องเช่นกัน





                      หลังจากชั้นออกจากโรงพยาบาลและยังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน พี่พลมาหาชั้นที่บ้าน



                      “มายด์ พี่มาเยี่ยม เอาผลไม้มาฝากเพียบเลย”



                      “พี่พล ขอบคุณค่ะ มายด์มีอะไรจะถามพี่พลหน่อย ตลอดเวลาพี่พลยังติดต่อกับพี่สาใช่ไหมคะ”



                      พี่พลนิ่งไปสักระยะ แล้วก็พูดออกมา “ใช่พี่ติดต่อกับพี่สาเค้าตลอดแหละ สาเค้าฝากให้พี่ดูแลมายด์ให้ดี “



                      “นี่เป็นเหตุผลที่พี่พลมาดูแลมายด์ใช่ไหมคะ พี่พลไม่ได้รักมายด์แค่เข้ามาดูแลมายด์ตามคำสั่งพี่สาใช่ไหม”



                      “ไม่ใช่นะ แรกๆอาจจะยังไม่ใช่ แต่ตอนนี้พี่รักมายด์นะ มายด์จะยกโทษให้พี่ไหมล่ะ”



                      “มายด์มีสิทธิ์ไม่ยกโทษให้พี่พลเหรอ ถ้าไม่มีพี่พล ไม่มีพี่สา ป่านนี้มายด์คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก มายด์รักพี่พลนะ รักพี่สาที่สุดด้วย” ชั้นร้องไห้ และซบลงบนอกของพี่พล



                      “สาเค้ารู้เค้าคงดีใจนะที่มายด์รักสาเค้าเหมือนเดิมแล้ว”



                      “ค่ะ รักของพี่สามีแต่ให้มายด์มาตลอด มายด์ยังไม่เคยตอบแทนพี่สาเลย ยังไม่เคยเลยสักนิด” ชั้นยังคงสะอื้นต่อไป



                      “มายด์อย่าร้องเลย อีกสามเดือนพี่สาจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว แล้วทีนี้อย่าทำให้พี่สาเค้าต้องร้องไห้อีกนะ”

                      “จริงเหรอคะ พี่สาจะกลับมาแล้วเหรอ” ชั้นรีบเช็ดน้ำตา แต่เป็นน้ำตาแห่งความยินดีที่ชั้นจะมีโอกาสได้ทำดีกับพี่สาวที่ชั้นรักอีกครั้งหนึ่ง


      ช่วยติดตามเรื่องอื่นของผมด้วยนะครับ

      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=91844 สวิงกิ้ง
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=9242 วันที่ผมหลงทาง(จากเจ้าของ)
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=282 ทำไมนะทำไม ไม่รู้ใจตัวเองเสียที
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=13440 พร 3 ข้อแด่เธอของฉัน
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=792 X
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=2025 เมื่อฉันตาย ความรักไม่ได้ตายตามไปด้วย
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=10122  ดอกไม้วันวาเลนไทน์
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=3673 ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=29 ดวงตาแห่งความรักกับเทพบุตรของฉัน
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=31 สัญญาได้ไหม.. ว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
      http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=423 เพิ่งเข้าใจ ความห่วงใยของแม่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×