คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ครอบครัวเพเรกินส์
แสงตะวันยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างบานหนึ่งในห้องของผม ผมเอนตัวขึ้นช้าๆ
“แอนนา แองเจล่า เพเรกินส์” แม่อายุ 30 ปลายๆ สูงราวๆ 160 แม่มีผิวขาวนวล เช่นเดียวกับพ่อ หุ่นดีเลยเชียวล่ะ และแม่ก็ยังใส่แว่นด้วย แม่เป็นคนใจดี เธอมักจะยิ้มให้ผมเสมอ และคนสุดท้ายคือ น้องสาวของผม “เทเรซาร์ เพนกวิน เพเรกินส์” เธออายุ 18 แล้ว เธอได้รับทุนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในเมืองไคโร ประเทศอียิปต์ คณะอักษรศาสตร์ และกำลังเตรียมตัวไปศึกษาต่อในไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ เธอสูงราวๆ 160 พอๆกับแม่ หุ่นเธอได้แม่มา เพียงแต่เธอไม่ใส่แว่น เธอเป็นเด็กจมซน ไม่ค่อยจะฟังใครและมักทำอะไรตามใจตนเอง และทั้งเธอและผมต่างก็คล้ายๆกัน ไม่มีใครรู้ว่า “เพน” สามารถพูด อ่าน และเขียนได้ทุกภาษาทั่วโลก และผมนั้นมีความสามารถเกี่ยวกับการตัดแต่งพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับDNA ซึ่งนั่นทำให้ผมสามารถตัดแต่งพันธุกรรมสิ่งมีชีวิตให้เป็นไปตามที่ผมคิดได้ ครอบครัวของเราเป้นตระกูลค่อนข้างมีฐานะ และแน่นอนว่า เงินเยอะ งานก็เยอะไปด้วย พ่อและแม่ของผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ท่านจะออกไปทำงานแต่เช้าและกว่าจะกลับก็ดึก แต่ทุกวันอาทิตย์ท่านทั้งคู่จะหยุดงาน เข้าโบสถ์ตอนเช้า เนื่องจากครอบครัวเรานับถือศาสนาคริสต์ และตลอดทั้งวันอาทิตย์เราทั้งครอบครัวจะใช้เวลาร่วมกัน เที่ยว หรืออยู่บ้าน และตอนกลางคืนเราจะดินเนอร์ใต้แสงจันทร์กันเป็นครอบครัว
ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ผมและเพนจึงได้อยู่บ้าน และทำให้ผมได้มีเวลาคุยกับเธอมากขึ้น ส่วนพ่อและแม่นั้นต้องไปศึกษาที่ศูนย์วิจัยแห่งหนึ่ง ที่บ้านจึงมีเพียงผมและเพน บ้านของเราเป็นบ้าน 3 ชั้น ขนาดอบอุ่น ชั้นแรกจะประกอบไปด้วยห้องต่างๆตั้งแต่ ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ไปจนถึงห้องเก็บของ ชั้นที่ 2 จะเป็นห้องของผมและเพนซึ่งจะมีบันไดบ้านขั้นกลางระหว่างห้องของเราสองคน ส่วนชั้น 3 จะเป็นห้องนอนและห้องวิจัยส่วนตัวของพ่อและแม่ หน้าบ้านของเราจะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ เอาไว้นอนกลิ้งเล่น ตอนเด็กๆผมและเพนจะมากลิ้งเล่นกันที่สนามนี้บ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้เพนบอกว่า
“งานหนูยุ่งๆอ่ะ พี่ไปกลิ้งคนเดียวดิ่” ไม่ว่าผมจะชวนเธอกี่ครั้ง คำตอบเธอก็ยังคงเดิม กวนประสาทจริงๆ
วันนี้เป็นวันจันทร์ เพนพาผมมาที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เธอมักจะพาผมมาที่นี่เสมอ เนื่องจากเธอเป็นคนรักสัตว์ เธอชอบเล่นกับสัตว์ทุกชนิดตั้งแต่สัตว์เล็กไปจนถึงสัตว์ใหญ่ เราเดินมาได้สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงเพนตะโกนอยู่ข้างหูว่า
“เอลฟ์! พี่ดูดิ่ เฟอเรทหิมะจากเทือกเขาหิมาลัย ที่ทางสวนสัตว์พึ่งจะนำมาจัดแสดงในวันนี้ด้วยแหละ น่ารักเนอะ พี่ว่าป้ะ” เธอชี้ให้ผมดูเฟอเรทสีขาว ตาสีน้ำเงินเข้มตัวหนึ่ง เป็นสายพันธุ์หายาก ซึ่งทางสวนสัตว์ได้นำมาจากเทือกเขาหิมาลัย ดูๆแล้วก็สวยดี
“เออๆดี แต่อย่าตะโกนแบบนี้อีกนะ หูพี่จะแตก” ผมตอบเธอแบบขอไปที
“แหม ก็มันน่ารักนิ่” เธอทำท่ากวนประสาท ผมตัดสินใจที่จะไม่เถียงกับเธอ ผมและเธอเดินต่อมาอีกสักพัก
“เอลฟ์! พี่เคยได้ยินเกมส์ใหม่ที่ลงข่าวเปิดตัวช่วงนี้ป้ะ” จู่ๆ เพนก็ถามผมขึ้นมา
“ Destiny World Online??”
“เออ ใช่ๆๆ เค้าอยากได้อ่ะ ซื้อให้เค้าหน่อยดิ่ นะๆๆ” เพนพูดพร้อมกับทำสายตาอ้อนๆ และนั่นทำให้ผมใจอ่อน
“โอเคๆ เดี๋ยวพี่บอกพ่อให้” ผมตอบตกลงว่าจะบอกพ่อให้
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง เราทั้งคู่นั่งทานอาหารอยู่ในร้านอาหารอิตาเลี่ยนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนสัตว์ เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ผมจึงพาเธอไปช๊อบที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนคลั่งน้ำหอมมาก ตอนนี้เธอกำลังยืนทดสอบน้ำหอมอยู่ที่ร้าน ส่วนผมนั่งรอเธออยู่ข้างหน้าร้าน เมื่อซื้อของเสร็จ เราทั้งคู่ก็กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผมรีบวิ่งเข้าไปในครัว หยิบเนื้อก้อนโตชิ้นหนึ่งในตู้เย็น แล้ววิ่งขึ้นไปที่ห้องของผม ผมน้ำเนื้อไปเลี้ยงเจ้า “กุชชี่” กิ้งก่าสายพันธุ์คามิเลี่ยนซึ่งผมตัดแต่งพันธุกรรมให้ จากที่มันกินแมลงผมก็เปลี่ยนให้มันกินเนื้อแทน เพราะผมคงลำบากถ้าจะต้องนั่งจับแมลงตัวเล็กมาให้มันกิน กุชชี่สามารถเปลี่ยนสีตามลักษณะสภาพแวดล้อมทั่วไปได้ตามปกติ แต่ที่เหนือไปกว่านั้นคือสีที่มันเปลี่ยนได้คือสี Quick Silver เป็นสีที่คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะตัวสีจะทำให้เกิดการหักเหของแสงเกิดขึ้น ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นมันได้ แต่บนแว่นของผมนั้นเคลือบด้วยสารลดการหักเหของแสง จึงทำให้ผมสามารถมองเห็นมันได้ ทุกๆวัน ผมจะเอาเนื้อจากตู้เย็นมาให้มันกิน ผมเก็บมันได้ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน สงสารเลยเอามาเลี้ยงน่ะ แต่ก็ไม่มีคนรู้หรอก
“เอลฟ์ ! พี่ทำอะไรน่ะ” ผมสะดุ้ง เป็นเสียงของเพนที่ดังมาจากประตูห้องของผม
“ปละ...เปล่านิ่” ผมค่อยๆลุกขึ้น ตอบออกไปแบบติดๆขัดๆ
“หนูรู้น่า ว่าพี่เอาตัวอะไรมาเลี้ยงไว้ แถมใช้สมองพี่ดัดแปลงมันอีก จะทำอะไรก็ทำเถอะ อย่าให้พ่อกับแม่รู้แล้วกัน” เพนบอกกับผมแล้วเดินจากไป หมดกัน ความลับที่ปิดมา 2 ปี ถูกน้องสาวจอมซนแฉซะหมดเปลือก แต่เอาเถอะ รู้ไปก็ไม่เสียหายอะไร ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเพนกำลังนั่งเล่นอยู่บนม้านั่งตัวหนึ่งในสวนหย่อมหน้าบ้านของเรา ชีวิตส่วนใหญ่ของพวกเรา 2 พี่น้องก็จะ ออกไปเที่ยวที่ต่างๆ และนั่นทำให้เราทั้งคู่สนิทกันมาก เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เนื่องจาก พ่อกับแม่วานให้ผมดูแลเพน ผมจึงอยู่ใกล้ๆเธอเป็นส่วนใหญ่ ชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของพวกเราก็แบบนี้แหละ..
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ พวกเราทั้งครอบครัวจะเข้าพีธีมิสซาในช่วงเช้า หลังจากนั้น พ่อพาเราไปทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมือง เมื่อเราทานอาหารไปได้สักพัก เพนก็เริ่มกระซิบให้ผมพูดเรื่องเกมที่เธออยากได้
“เอ่อ..คือ พ่อครับ เพนน่ะครับ เธออยากได้เกมที่พึ่งเปิดตัววางขายในตอนนี้น่ะครับ” ผมถามออกไป
“อืมม.. แล้วเกมที่ว่าเนี่ย มันเป็นเกมอะไร แนวไหนล่ะลูก” พ่อถามกลับ
“ก็เป็นเกมออนไลน์ค่ะพ่อ เล่นตอนที่เรานอนค่ะ เราจะเป็นตัวละครในเกมเองค่ะ เป็นเกมแนวพจญภัยค่ะ ส่วนราคาก็ 5 หมื่นดอลลาค่ะ” เพนพูดขึ้นทันทีหลังจากที่พ่อถาม เธอรัวประโยคแบบไม่ยั้ง และเป็นทันทีที่พ่อสำลักกาแฟหลังจากเธอบอกราคา พ่อหยิบทิชชู่เช็ดกาแฟที่ปาก
“ทำไมมันถึงแพงขนาดนั้นล่ะ” พ่อถาม
“เอ่าเถอะน่าคุณ ลูกๆอยากเล่นก็ซื้อให้พวกเด็กๆหน่อยก็ได้ มันก็ไม่ได้แพงขนาดเราจะซื้อไม่ได้ซะหน่อย” เป็นเสียงของแม่ที่พูดขึ้นมา พ่อของผมจะไม่ค่อยฟังใคร เพนถึงได้นิสัยนี้มา แต่ถ้าแม่พูดเมื่อไหร่ พ่อจะฟังและทำตามเสมอ “เอาล่ะๆ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วเราไปดูกัน หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว พ่อก็ขับรถพาพวกเราไปที่ Lucky D.T. Studio เพื่อจะซื้อ D.W.O. ที่เพนต้องการ พ่อเข้าคิวซื้อเกมให้เรา พ่อซื้อเกมมา 2 ชุด เอ๋ !? 2 ชุด ทำไมเอ่ย ผมคิดในใจ พ่อยื่นชุดหนึ่งให้เพน และอีกชุดหนึ่งให้ผม ผมรีบทำท่าจะคัดค้านทันที แต่ก็ถูกพ่อตัดบทด้วยคำพูดที่ว่า
“ลูกต้องเล่นเป็นเพื่อนน้อง” ผมเลยต้องยอมรับเกมไปเล่นแต่โดยดี หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่บ้าน ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว ผมและพ่อ เข้าครัว สวมวิญญาณเชฟ ทำอาหาร ส่วนแม่และเพน เมื่อจัดสถานที่ดินเนอร์ของคืนนี้เสร็จ ทั้งสอง ก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อถึงเวลาค่ำ เราทั้งครอบครัว ลงมาพร้อมกันที่สวน ผมและพ่ออยู่ในชุดสูทสีดำเงา เพนใส่ชุดกระโปรงลายลูกไม้สีชมพู แม่ใส่ชุดกระโปรงสีเหลือง เราทั้งสี่คนนั่งลงทานอาหารกันภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง แสงเทียนนับสิบเล่มส่องสว่างรอบโต๊ะอาหาร มองดูแล้ว ช่างเป็นภาพที่มีความสุขเสียจริง เอ่อ ที่จริงแล้ว มันก็เป็นแนวนี้ทุกอาทิยต์นี่นะ เราทานอาหารไป คุยเรื่องที่ได้เจอกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้เวลา 4 ทุ่มแล้ว เราทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้านอน
เพนเดินมาหาผมที่หน้าห้อง บอกว่า
“เอลฟ์! พี่รู้รึเปล่าว่า เวลา 10 ชม. จะเท่ากับ 1 เดือนในเกมนะ แล้วรู้สึกว่า ตัวเกมจะสุ่มสถานที่เกิดให้ผู้เล่นด้วยนะ”
“มันเป็นเกมแนวเก็บเลเวลใช่ป้ะ งั้น เวลา 1 เดือน เธอก็ไปเก็บเลเวลมาก่อนสิ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาบอกพี่ว่าเธออยู่ไหน เดี๋ยวตอนพี่เข้าเกมอีกทีแล้วจะได้ไปหา” ผมตอบเธอไป
“ค่าๆ คุณพี่ชาย ฝันดี” เธอบอกผมแล้วก็กลับไปที่ห้องของเธอ
ผมเดินเข้ามาในห้อง แกะกล่องเกมออกเปิดดูคู่มือ ในคู่มือวิธีเล่นเขียนไว้ว่า
“วิธีเข้าเล่นเกมนั้น ให้ใช้ ‘อาเทน่า’ ติดที่หน้าผากแล้วนอน เพียงเท่านี้ก็จะเข้าเล่นเกมได้ ต่อไป............” เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้ผมก็เก็บคู่มือ หยิบอาเทน่า ขึ้นมา มันเป็นไมโครชิพเล็กๆ กลมๆ ผมเอามันติดไว้ที่หน้าผาก แล้วก็เอนตัวลงนอน และแล้ว เกมก็เริ่มขึ้น...........
ความคิดเห็น