ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn : จันทราเจ้าเอย... (OC) [END]

    ลำดับตอนที่ #6 : Moon Number.4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.13K
      858
      17 ก.พ. 63

    Moon Number.4

    <That little Bird>

     

    จันทราเจ้าเอย..

    นกน้อยตัวนั้น

     

     

     

     

    วาเรียมีปัญหา

     

    สัญญาณมันเริ่มตั้งแต่การเดินทางเร่งด่วนจากอิตาลีมาญี่ปุ่น

     

    ผู้พิทักษ์บางคนแยกตัวหายไปทันมีเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง

     

    เอกสารน่าสงสัยที่ปะปนกันจนชวนหงุดหงิด

     

    แต่เธอช่วยอะไรไม่ได้เลย แถมยังถูกทิ้ง.. ใช่ ถูกทิ้ง ลุสซูเรียอุ้มโยปลอบใจเธอก่อนโยนเด็กหญิงไว้กับรีบอร์น

     

    ที่มารีอยากจะร้องไห้ดังๆ คืออัลโกบาเรโน่คนนั้นโยนเธอไว้กับใครไม่รู้อีกต่อหนึ่ง

     

    .

    .

    .

     

    "ผมไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก"

     

    "ไม่รับฟัง"

     

    ประโยคแรกมาจากพี่ชายหน้าตาเย็นชา.. ถึงแม้จะเรียกพี่ชาย แต่อายุจริงมารีอาจจะมากกว่าหรือพอกัน ซึ่งวิญญาณร่างเด็กหญิงเมินข้อนั้นไป

     

    ประโยคปฏิเสธที่ตามมาคือเสียงของทารกต้องสาปแห่งอรุณผู้ส่งต่อเธอให้คนแปลกหน้าก่อนจะหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย

     

    ...ถูกทิ้งโดยสมบูรณ์

     

    "คุณ"

     

    มารีแหงนหน้ามอง

     

    "คะ?"

     

    "เป็นตัวอะไร"

     

    มารีกำกระโปรงแน่น แก้มอมลมปลอมๆจนพองกลมเลียนแบบกระรอก ตัวอะไรทำไมหยาบคาย! เธอกำลังหงุดหงิดเรื่องปะป๊าอยู่ต้องมาเจอคนแบบนี้เหรอ!?

     

    เด็กหญิงฮึดฮัดหันหลังเดินออกไปจากห้องรูปแบบญี่ปุ่นสมัยดั่งเดิม โดยมีเจ้าของห้องนั่งไร้ความรู้สึกมองตาม พอเห็นแผ่นหลังหายวับไปกับประตู ฮิบาริ เคียวยะ ก็ก้มหน้าทำงานตัวเองต่อ

     

     

     

    "คุณเคียวครับ…"

     

    "ปล่อยไว้นั่นแหละ"

     

    "..ครับ"

     

    ร่างโปร่งแสงนั่งคุกเข่าก้มหน้ามองพื้นเสื่อทากามะด้วยความสำนึกผิด ลืมว่าตนเองเป็นกายจิตที่แค่ไม่โดนแสงตะวันใครๆ ก็มองเห็นได้ เพราะบ้านหลังนี้ค่อนข้างใหญ่ ร่มไม้ก็มาก พอจะเป็นเงาให้หลบแสง..

     

    มีคนโวยวายแถมสลบไปอีก

     

    รู้แบบนี้พลางตัวก่อนออกจากห้องไปก็ดี.. กระนั้นออกไปก็ไม่รู้จะทำอะไรหรือไปไหนอยู่ดี สุดท้ายก็หาคนที่ดูมีสติดีในบ้านพาเธอกลับมา

     

    มารีเพิ่งได้รู้ชื่อของพี่ชายผมดำ คุณเคียว อย่างนั้นเธอจะเรียกเขาว่าพี่เคียว เพราะอีกฝ่ายไม่บอกชื่อเธอเอง

     

     

    น่าเบื่อที่สุดตั้งแต่คุณพ่อตาย

     

    นี่คือการฝึกสมาธิสินะมารีกระพริบตาปริบๆ มองคนขยันที่ทำงานยาวมาสองชั่วโมงเต็มๆ หลักฐานคือเข็มนาฬิกาที่วนครบสองรอบวงกลม เธอนั่งนิ่งเหม่อลอยออกไปไกลยันเมนูที่อยากกินในชาติหน้าแล้ว

     

    ถ้าเด็กหญิงยังมีกายหยาบ คงจะตะคริวกินขาไม่เหลือ

     

    เข้าช่วงบ่ายแล้ว

     

    พี่เคียวนั่งทำงานต่อไป มารีสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายงานเยอะจัง ทั้งที่น่าจะเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย เอกสารยังเหลืออีกตั้งหลายสิบใบ

     

    วิญญาณตัวน้อยขยับตัวหลังอยู่นิ่งมานาน เดินเตาะแตะไม่มีเสียงไปทางเด็กหนุ่ม ไล่สายตามองดูเนื้อหาในเอกสาร

     

    แต่ประเดี๋ยวก่อน

     

    ถึงเธอจะไม่เคยได้ไปโรงเรียนแบบปกติอย่างใครเขา ทว่างานพวกนี้ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ควรอยู่ในมือเด็กนักเรียกหรอกนะ

     

    เอาเป็นว่ามารีจะทำเป็นไม่เห็น

     

     

     

    ร่างเล็กกำลังเดินไปมารอบห้อง สำรวจไปเสียทุกซอกทุกมุม พี่เคียวคนนั้นไม่ว่าอะไรทั้งที่ดูเป็นคนขี้รำคาญ อาจเพราะเธอไม่ได้เสียงดังรบกวน

     

    จะว่าไปเทียบกับวาเรียแล้ว ที่นี่สงบอย่างกับป่าช้า

     

    นามิโมริของเราน่าอยู่ไม่ใหญ่ไม่เล็กกลางๆแหละดี 

     

    มารีหัตามเสียงเพลง มันเป็นเสียงเล็กๆ แหลมๆ ..แล้วเธอก็พบที่มาของมัน ...เจ้าลูกเจี๊ยบ ไม่สิ นกน้อยสีเหลืองตัวกลมปุกลุกมีปีกน้อยๆ กำลังบินเข้าห้องทางช่องว่างของประตูห้อง ร่อนถลาตรงไปหย่อนร่างน่าบีบบนศีรษะของพี่เคียว

     

    เด็กหญิงใจกระตุก 

     

    ว่าไปนั้น เธอมีหัวใจเสียที่ไหน

     

    มือซีดยกขึ้นกุมหน้าอก ดวงตาระยิบระยบเปล่งประกาย ภายในหัวเต็มไปด้วยคำว่า น่ารัก

     

    น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก

     

    น่ารักเกินไป!

     

    มารียังเป็นเด็กผู้หญิง เธอชอบสัตว์ตัวเล็กน่ารัก แล้วเจ้านกน้อยตัวนั้นก็ทำเธอรู้สึกอยากจับมาบีบมาฟัดมากๆ!

     

    ดวงตากลมสองคู่ระหว่างหนึ่งวิญญาณและหนึ่งนกน้อยสบประสานเข้าหากัน

     

    มารีเอียงหัวไปทางซ้าย

     

    เจ้าก้อนขนสีเหลืองเอียงตัวตามน้อยๆ

     

    พอเด็กหญิงเอียงไปทางขวาบ้าง

     

    มันก็ทำตามเธอ

     

    แก้มกลมยกขึ้นเพราะรอยยิ้มกว้าง เจ้านกน้อยร้องเพลงต่อ มารีลองตั้งใจฟัง เธอลืมสิ้นความรู้สึกน่าเบื่อ

     

    จากฟังอย่างเดียวเป็นฮัมเพลงตาม จากฮัมเพลงตามกลายเป็นร้อประสานกัน

     

    ..เธอกับฉันเจอกันในโรงเรียนนามิโมริ 

    เรื่องธรรมดา  ดาดๆ นี่แหละดี 

    เราอยู่ด้วยกันเสมอ 

    เด็กๆขยันขันแข็ง 

    ..อา.. 

     

    เราเดินไปด้วยกัน

     

    มารีหัวเราะคิกคัก สนใจเพียงเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ส่วนอีกหนึ่งบุคคลในห้องนั้นเหมือนเธอจะลืมไปเสียสนิท

     

    ฮิบาริ เคียวยะจัดการเก็บเอกสารเสร็จมาสักพักแล้ว สายตาคมปจดจ้องเด็กที่ถูกรับฝากให้ดูแล ยากนักที่จะคาดเดาอารมณ์

     

    มารีเป็นเพียงวิญญาณ เป็นเพียงเด็ก เธอทำให้เขาสนุกไปกับการต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอคล้ายฮิเบิร์ด ไม่น่ารำคาญ อยู่ด้วยแล้วไม่มีปัญหาอะไร พออยู่เฉยๆแล้วก็ไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่แน่อาจจะมีประโยชน์มากกว่าที่เห็น

     

    กรรมการคุมกฎแห่งนามิโมริเกลียดสัตว์กินพืชที่ชอบสุมหัวกัน เกลียดความวุ่นวายและเสียงดังที่น่ารำคาญ ในตอนนี้มารีคือข้อยกเว้น ไม่มีข้อไหนที่ขัดกับกฎของเขา

     

    เป็นสัตว์เล็กที่จะเก็บไว้ใกล้ตัวก็ไม่เสียหาย

     

    ในขณะที่เด็กหญิงเพลิดเพลินไปกับคุณนกของเธอ เจ้าของก้อนกลมมีปีกก็นั่งมองเธอนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร

     

    ฮิเบิร์ดก็สนุกสนานกับเพื่อนใหม่ของมัน

     

    .

    .

    .

     

    "ขอบคุณที่ช่วยดูแลให้"

     

    พอฟ้ามืด อัลโกบาเรโน่เดินทางมารับมารีด้วยตัวเอง แน่นอนว่าทางฝั่งวาเรียคงหัวหมุนจนแยกตัวออกจากงานไม่ได้

     

    "ขอบคุณนะคะพี่เคียว!"

     

    เจ้าของชื่อก้มมองวิญญาณเตี้ย เธอคงเรียกตามคุซาคาเบะเพราะไม่รู้จักเขา แต่ฮิบาริก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่กระตุกยิ้มแล้วหันหลังกลับเข้าบ้าน

     

    ฮิเบิร์ดกระพือปีกน้อยพั่บๆ อำลาเป็นครั้งสุดท้าย มารีก็โบกมือตามไปก่อนจะแยกกัน

     

     

    ร่างสูงโปร่งในชุดยูกาตะสีทึบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตั้งค่า อัพโหลดเพลงรอสายใหม่ที่เพิ่งได้มา

     

    โรงเรียนนามิโมริของเราน่าอยู่~ 

    ไม่ใหญ่ไม่เล็ก  กลางๆแหละดี 

    โรงเรียนของเราไม่เคยเปลี่ยนแปลง 

    เด็กๆขยันขันแข็ง..อา... 

    มาร้องเพลงด้วยกัน 

    โรงเรียนนามิโมริ~

    ยามเช้าสดใสของนามิโมริ ~

    ธรรมดาเรียบๆง่ายๆแหละดี 

    ไม่ต้องหนักใจ 

    เด็กๆขยันขันแข็ง 

    ฮะฮา.. 

     

    มาหัวเราะด้วยกัน 

    โรงเรียนนามิโมริ~

     

    เธอกับฉันเจอกันในโรงเรียนนามิโมริ~

    เรื่องธรรมดา  ดาดๆ นี่แหละดี 

    เราอยู่ด้วยกันเสมอ 

    เด็กๆขยันขันแข็ง 

     

    ..อา.. 

    เราเดินไปด้วยกัน 

    โรงเรียนนามิโมริ~

     

    เป็นเสียงของเจ้าฮิเบิร์ดที่ร้อปกติ.. ทว่ามีสำเนียงใสเจื้อยแจ้วแทรกเข้ามาคลอตาม

     

     

    "ผีก็อัดเสียงได้สินะ"

     

     

     

    ในอีกด้าน มารีก็กำลังโทรหาพี่ชายฉลามเงิน

     

    [ถึงไหนแล้ว! ข้าวเย็นจะกินไหม!]

     

    "ใจเย็นนะคะพี่ชาย ขออีกห้านาที~"

     

    [เออ! เร็วๆ!!]

     

    ตอนนั้นเองที่นึกขึ้นได้

     

    "สื่อสารผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ได้แบบสัญญาณไม่เสียแล้วแหะ"

     

    วิญญาณก็คือวิญญาณ คลื่นไฟฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านั้นมักมีผลต่อเธอ เช่นเวลาส่งเสียงผ่านมือถือ บางครั้งก็ก็กลายเป็นเสียงหวีดร้องหรือเสียงคลื่นวิทยุ หลายครั้งที่ไม่มีใครรับสายเด็กหญิงเพราะกลัวจะปวดหู

     

    คงจะควบคลุมคลื่นความถี่ของวิญญาณได้แล้ว

     

    ในตอนที่อยู่กับคุณพ่อ เธอไม่เคยสื่อสารผ่านเครื่องมือจงไม่คิดสนใจ เพิ่งมาฝึกสมัยอยู่กับวาเรียนี่เอง

     

    (เป็นโชคดีของฮิบาริ เคียวยะ ที่ได้เสียงใสๆ แทนเสียงหวีดร้อง)

     

     

    ☽☽☽

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×