คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Moon Number.0 < I am … >
Moon Number.0
< I am … >
จันทราเจ้าเอย..
ฉันคือ...
ชื่อของฉันคือเมอริเอตต้า มารี อายุ11ปี และรักคุณพ่อมากๆ
ว่าไปนั่น
นี่ก็เลยวันเกิดอายุสิบเอ็ดขวบมาหกปีแล้ว และฉันก็ไม่ได้รักคุณพ่อหรอกนะ ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความจริงก็โตพอจะใช้คำว่าเด็กสาวได้
เป็นเพราะคุณพ่อนั่นแหละ
กระนั้นก็ใช่ว่าจะเกลียดอะไร
ประวัติของฉันเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษราวสองถึงสามหน้ากระดาษ เกิดที่ปารีสโดยมีคุณแม่ดูแล สามขวบผู้ให้กำเนิดตาย ถูกส่งไปเรียนที่นิวยอร์ก หกขวบต่อที่จีน จากนั้นถูกคุณพ่อเรียกตัวไปยังลอสแองเจลิสเมื่อเก้าขวบพอดี ไม่เคยจัดงานวันเกิด แต่ได้รับของขวัญเป็นคุกกี้นมสดหนึ่งชิ้นพร้อมจดหมายที่มีข้อความความ 'แกยังไม่พร้อม'
ก็นานปีอยู่กว่าจะเข้าใจ แต่คุณพ่อคะ เด็กสามขวบที่ไหนจะรู้เรื่องกัน เอาเถอะ สุดท้ายพออายุครบเก้าขวบ คำว่า 'แกพร้อมแล้ว' ก็ปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษพื้นเรียบแทน
ตลอดเวลาหกปี ฉันถูกป้อนความรู้มากมาย อบรมมารยาท ทั้งยังเข้ารับการทดสอบเพื่อประเมินและวิเคราะห์ประมวลความคิด หนักหนาสาหัสพอดู ทว่านอกเหนือจากการเรียนและเข้ารับการทดสอบก็ไม่มีอะไรจะทำ คนรอบตัวไม่เคยพูดกับฉันเลย ยกเว้นเพียงเสียงคำสั่งสอนเท่านั้นที่ฉันจะได้ยินจากปากของพวกเขา ไม่รู้หรอกนะว่าระดับการศึกษาของตัวเองอยู่ขั้นไหน แค่รับทุกอย่างไว้ให้มากที่สุดเท่านั้นเอง
ชีวิตค่อนข้างจะน่าเบื่อจนกระทั่งพบกับคุณพ่อ
คุณพ่อชอบคนมีประโยชน์ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันมีจะไม่มากพอให้คุณพ่อชอบ
วันเกิดปีนี้ถูกต้อนรับด้วยคนที่สวมใส่ชุดคลุมยาว เครื่องแบบของคุณหมอที่เคยพบเห็น พวกเขานำฉันไปยังห้องสีขาว เครื่องมือทันสมัยเรียงราย กลิ่นยาตลบอบอวล พอมองไปที่กำแพงห้องก็เจอคุณพ่อยืนอยู่อีกฝั่ง มีกระจกที่กั้นเราไว้ ฉันก้าวเท้าตามคำสั่งของผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จัก ฟังเสียงพูดคุยของพวกเขา
พูดมากจัง ไม่เคยได้ยินใครพูดขนาดนี้มาก่อนเลย
ชื่อสารเคมีมากมายพรั่งพรูออกมาจากปากของพวกเขา ฉันจดจำมันขึ้นใจ ในเวลาที่การทดสอบเริ่มขึ้นมันดูเหมือนจะง่ายดาย ฉันเพียงแค่ต้องนอนนิ่งๆ แค่นั้นเอง
คุณพ่อพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่ผู้ใหญ่ชุดขาวจับฉันล็อกไว้กับเตียง ตอนนั้นเอง... ที่ฉันได้รู้จักกับคำว่าเจ็บปวดเจียนตาย
ฉันเข้ารับการทดลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสิ่งที่เรียกว่าไฟดับเครื่องชน ชื่อสิ้นคิด แต่ทุกคนก็พอใจที่จะเรียกมันแบบนั้น โปรแกรมมาเฟียศึกษาถูกเพิ่มเข้ามาในตารางเวลา
ทดลอง – เรียน – ฝึกงาน
วนเวียนอยู่เช่นนั้น
คุณพ่อเป็นมาเฟีย และเขาอยากได้ผลงานที่สมบูรณ์สำหรับแฟมิลี พี่ชายพี่สาวทั้งสี่คนของฉันล้มเหลว ตายในภารกิจสอง ตายระหว่างทดลองหนึ่ง และชิงฆ่าตัวตายไปหนึ่ง เหลือฉันที่ผลลัพธ์ค่อนไปทางดี ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือการทดลองอันหนักหนาแสนสาหัส มีแต่จะโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ ถึงแบบนั้นนอกจากพลังไฟที่เข้มข้นเกินอัตราปกติและระบบวิเคราะห์กระบวนความคิด ทุกอย่างกลับผิดแผนเมื่อพละกำลังรวมไปถึงร่างกายทรุดโทรมลงตามระยะเวลาที่ผันผ่าน อาจจะเพราะธาตุหมอกในตัวช่วยยื้อชีวิตมาได้จนถึงอายุสิบเอ็ด
สุดท้ายฉันก็ตาย ตายในวันเกิดที่ไม่มีคุกกี้นมสด
คิดว่าจบแล้วล่ะสิ? ไม่หรอก ถึงตรงนี้ฉันก็ชื่นชมในความพยายามของคุณพ่อนะ เพราะแม้แต่วิญญาณของฉัน เขาก็ยังหาวิธีกักขังและใช้ประโยชน์ได้
อ่าหะ วิญญาณ
ได้ยินว่าเขากำลังมีลูกชายคนที่หก เจ้าหนูน้อยคนนั้นยังอยู่ในท้องแม่ไม่ถึงสี่เดือนดี ส่วนฉัน วิญญาณที่คงสภาพอยู่ด้วยไฟดับเครื่องชนของตัวเองก็ยังต้องทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายต่อไป
ตามใบสรุปผลของกลุ่มผู้ใหญ่ชุดขาว พลังของฉันเข้มข้นเกินกว่าจะอยู่ในร่างของสิ่งมีชีวิต ไม่แน่ชัดแต่มีความเป็นไปได้ว่านั่นคือสาเหตุที่ฉันตาย ร่างกายของมนุษย์ไม่รองรับมัน ทว่าพลังนี่ดันหลอมรวมกับกายจิต ส่งผลให้มีรูปร่างเด่นชัดขึ้นมา ถึงแบบนั้นก็มีข้อบกพร่อง ไม่สามารถปรากฏตัวในที่มีแสงอาทิตย์… แต่ก็ยังสามารถสื่อสารหรือสร้างภาพมายาได้อยู่ จริงๆ แล้วจะเรียกข้อบกพร่องก็ไม่ถูก เพราะหลังจากที่คุณพ่อรู้ หน้าที่สอดแนมเป้าหมายในที่สาธารณะก็ถูกเพิ่มเข้ามาในใบภารกิจ
ได้งานเพิ่มอีกแล้ว..
ร่างกายของฉัน-- ศพของฉันถูกสต๊าฟเก็บไว้สำหรับทดลองเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนวิญญาณนั้นพวกเขาไร้ซึ่งหนทางจะทดลองทางกายภาพ ดังนั้นตารางเวลาจึงถูกเปลี่ยนเป็นการใช้ไฟธาตุหมอกและสิ่งที่คล้ายพลังจิตแทน
ฉันเรียกมันว่าพลังจิตเพราะมันคล้ายกับพวกในโทรทัศน์ อาศัยการตั้งสมาธิควบคุมคลื่นซึ่งแผ่ออกมาจากตัว อืม ขอตั้งชื่อว่าคลื่นวิญญาณได้ไหม?
มันน่าเบื่อมากๆ ฉันอยากจะหนีออกไปเหมือนกัน แต่เพราะไม่รู้จะออกไปทำอะไร ไร้เป้าหมายสิ้นดีจึงได้แต่อยู่แบบนี้รอวันที่ทุกอย่างจะจบลง
วันเวลาอันไร้ค่าของฉันยังดำเนินต่อ
ผันแปรจากวันไปเป็นสัปดาห์ สัปดาห์เป็นเดือน เดือนเป็นปี
หกปีต่อมา ฉันกำลังยืนรอน้องชาย ตอนนี้คงอายุห้าขวบนิดๆ เขาได้เจอคุณพ่อเร็วกว่าฉันเสียอีก แต่ไม่เป็นไร เขาจะได้รับทุกสิ่งที่ฉันเคยได้รับอย่างครบถ้วน เชื่ออย่างนั้น
ทว่า…
แผละ!!
เขาดันตายตั้งแต่สัปดาห์ที่สอง แย่จัง ถึงฉันจะเป็นวิญญาณ แต่กลับมองไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่าผี น้องชายที่ไร้ค่าถูกทิ้งขว้างอย่างเดียวดาย กายหยาบของเขาที่ระเบิดกระจุยกระจายเลอะพื้นห้องทดลองไปหมดเลย
คุณพ่อดูจะไม่พอใจเสียด้วย อย่างไรก็ตาม เหมือนวันนี้จะไม่จบลงง่ายๆ
เสียงสัญญาณเตือนแสดงสถานการณ์ไม่สู้ดี ที่แห่งนี้ถูกศัตรูเข้าจู่โจมเสียแล้ว ผู้บุกรุกกำลังเข้ามาถึงส่วนในของอาคารทำให้ทุกอย่างจมสู่คำว่าโกลาหล ปรปักษ์แสนร้ายกาจของคุณพ่อฆ่าคนของแฟมิลีเกลื่อนกลาด ทุกพื้นที่ทางเดินย้อมไปด้วยเลือด
คำสั่งยังไม่ถูกถ่ายทอดจากปากของคุณพ่อ ฉันจึงไม่ได้ทำอะไร.. ไม่สิ ฉันไม่ได้ยินมันอย่างตั้งใจต่างหาก
“หนูไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ”
ใช่แล้ว เพราะกระจกที่ขวางกั้นระหว่างเราไว้ไงล่ะ ไม่ได้ยินเลยจริงๆ นะ ต่อให้คุณพ่อตะโกนจนเสียงแหบแห้ง มารีก็ไม่ได้ยินอะไรเลยล่ะ เหมือนกันกับที่คุณพ่อไม่ได้ยินเสียงขอร้องของฉันที่อ้อนวอนให้การทดลองจบลงเสียที
ร่างโชกเลือดของคุณพ่อที่วิ่งหนีนักฆ่าจนหัวซุกหัวซุนมาหาฉันน่าชมเสียนี่กระไร
ฉันคลี่รอยยิ้มประดับใบหน้า สายตาจดจ้องคุณพ่อที่ตะเกียกตะกายใบหน้าแนบกระจก มือของท่านประทับหยาดโลหิตบนวัสดุสีใสด้วยการทุบตีราวหวังว่ามันจะแตกออกและเรียกฉันออกไปช่วยได้... โง่จัง น่าจะเข้าใจได้แล้วว่าทางเลือกของตัวเองมีแต่ตายแล้วก็ตาย ของเหลวหนืดข้นคลั่กนั่นกระเซ็นคล้ายดอกไม้ไฟที่ฉันเคยเห็นจากหน้าจอโทรทัศน์สมัยเด็ก
สวยงามจังเลย ราวกับศิลปะ
อยากช่วยอยู่หรอก แต่คุณพ่อน่าเบื่อเกินทนแล้วนี่นา ดูจากสังขารก็ไม่น่าจะรอดได้นาน
อ้าว ไม่ถึงนาทีก็นิ่งสนิทแล้วเหรอ? ฉันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นใจ ตายเร็วจัง อ๊ะ คุณพ่ออาจจะกำลังมองอยู่รึเปล่านะ โบกมือบ๊ายบายให้สักหน่อยก็แล้วกัน ถึงเบื้องหน้าจะเป็นแค่ซากของบุรุษมีอายุก็เถอะ
“โว้ย!! ล้างบางหมดแล้วก็ค้นเอกสารให้เสร็จๆ อย่าชักช้า!!”
อ่า... ขอเดาว่าเป็นศัตรูที่บุกเข้ามา สำเนียงโหวกเหวกโวยวายปะปนกับเสียงโครมครามเป็นระยะ ไหนๆ แล้ว ออกไปช่วยจะถูกเรียกว่าลูกเนรคุณไหมนะ? คงไม่หรอก ไม่ทันแล้วล่ะ
“พี่ชายผมยาวคนนั้นน่ะ หนูพาไปห้องลับได้นะคะ”
ก็เธอเพิ่งปล่อยให้คุณพ่อตายไปต่อหน้าต่อตานี่นา
.
.
.
พี่ชายคนนี้สุดยอดไปเลยแหะ ถึงจะคุยยากนิดหน่อยก็เถอะ เขาหัวไวทีเดียว ปากมากไปนิดแต่ฟังแล้วก็ชวนหัวเราะเสมอ น่าสนใจๆ รู้สึกสนุกแบบที่ไม่ค่อยได้พบเจอ ตอนแรกที่ทักเขาก็ฟันฉันขาดเป็นสองท่อน พอเห็นกายจิตของฉันประกอบเข้าเหมือนเดิมก็วิเคราะห์ได้ทันทีว่าคือสายหมอก ประมวลผลได้อย่างรวดเร็วเสียด้วยว่าฉันไม่ได้แสดงตนเป็นปฏิปักษ์
“เธอคือเมอริเอตต้า มารี?”พี่ชายที่ฉันซักชื่อมาได้นามว่าสเปลบี สควอโล่กระตุกคิ้วถาม ในมือถือเอกสารที่มีรูปฉันแปะเด่นหรา ฉันตอบเขาอย่างดี พูดจาเจื้อยแจ้วอย่างที่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ทำ เป็นไกด์พาทัวร์ห้องลับของคุณพ่ออย่างนำเสนอสุดชีวิต
“ใช่เเล้วค่ะพี่ชาย จะเรียกหนูว่ามารีก็ได้นะ”
สีหน้าครุ่นคิดของพี่ชายสควอโล่ชวนให้ฉันเดาใจเหลือเกิน และถ้าคาดการณ์ไม่ผิดล่ะก็…
“ร่างของเธออยู่ไหน?”
เขาจะไม่ปล่อยฉันไปง่ายๆ
“ทางนี้เลยค่ะ”
อย่างแน่นอน…
ฉันหวังว่าการตามเขาไปจะไม่ใช่ความคิดที่ผิด
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรฉันก็ไม่เสียใจหรอกนะ เพราะหลังจากนี้คงสนุกสนานน่าดูเลยล่ะ
คอยมองหนูจากในนรกด้วยนะคะ คุณพ่อ :)
☽☽☽
ความคิดเห็น