ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC REBORN] I KNEW I LOVE YOU [6918]

    ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER IV :: SOUVENIR

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 55


                   ดวงตะวันขึ้นสู่ท้องนภาในยามเช้าอันสดใสอีกครั้ง คืนความสว่างเจิดจ้าปลุกทุกคนให้ตื่นจากนิทราอันแสนหวานยามค่ำคืน
                    ณ บ้านทรงญี่ปุ่นโบราณบริเวณชานเมืองนามิฯ
                    เท้าบางย่างก้าวถอดน่องไปตามเฉลียงบ้าน มือยกขึ้นขยับเนคไทสีน้ำเงินให้เข้าที่ นกสีเหลือสว่างเกาะไหล่ประจำตำแหน่งที่เดิมอย่างที่เคยอยู่ทุกครั้ง เมื่อเรียวขามาหยุดอยู่หน้าบานประตูกระดาษ ประตูนั้นเลื่อนเปิดในทันที พบชายร่างสูงผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของร่างบาง นั่งก้มหัวทำความเครพให้..
                    “อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านประธาน..”
                    “อา..”
                    “วันนี้ดูแปลกไปนะ.. เป็นอะไรรึเปล่าครับท่าน ?”
                    “นอนไม่พอน่ะ..”
                    “แต่.. เมื่อคืนท่านก็นอนแต่หัวค่ำนี่ครับ ? = =”
                    “....“
                    “....”ร่างบางเดินผ่านลูกน้องไปอย่างไม่สนใจใยดี และเดินไปจนถึงเกนคังสวมรองเท้าแล้วเดินออกจากบ้านไปในทันที เรื่องอะไรน่ะรึ ? ที่เขาจะบอกเหตุผลที่น่าคับแค้นใจขนาดนั้นให้สัตว์กินพืชแบบนั้นฟัง เพราะมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมา จะให้เขาบอกกับเจ้าหมอนั้นว่า เมื่อคืนมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาเขากลางดึกโดยทั้งๆที่พวกนั้นไม่รู้สึกถึงอะไรเลยซักนิด.. !? เฮอะ..พูดไปก็เปลืองน้ำลายเสียเปล่าๆ
                    บรรยายกาศยามเช้านั้นช่างอบอุ่นไปด้วยแสงแดดอ่อนนวลที่มาพร้อมกับสายลมพัดบางเบาเคล้าความเย็นสบายในเช้าวันนี้ได้อย่างดี เจ้าตัวน้อยกระพือปีกบินออกจากไหล่ของฮิบาริ ขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้างโผบินโอนเอนรับลมเย็น ในขณะที่ผู้เป็นนายเดินทอดน่องอย่างสบายอารมณ์
                    .
                    .
                    เวลาช่วงเช้าในโรงเรียนนั้นคงไม่ต้องเดาว่าจะเป็นเช่นไร นักเรียนที่มีเพียงประปรายเท่านั้น มันเป็นเรื่องปกติที่เวลาที่เช้าตรู่ขนาดนี้จะมีนักเรียนมาไม่เพียงกี่คน หญิงสาวยืนพูดคุยหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ที่ทางเดินขนาบห้องเรียน ช่วงเวลาที่เป็นจุดเริ่มต้นของวันก็ยังคงมีเพียงแค่นี้ แต่กลับอีกคนที่อยู่ในห้องรับแขกของโรงเรียนนั้นคงไม่ใช่ ?
                    เอกสารเรียงรายเต็มไปทั่วทั้งโต๊ะ หากแต่ว่ามันยังมีล้นกองวางอยู่ด้านข้างโต๊ะทำงานอีก.. ถึงแม้จะไม่ได้มีหน้าที่ใหญ่โตอะไรก็แค่ ‘ประธานกรรมการนักเรียน’ ที่ต้องมาคอยตรวจเช็กรายงานและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกรรมการนักเรียนแผนกอื่น และยังมีกิจกรรมที่ยังต้องดูรายละเอียดเพื่อแจงหน้าที่ นึกเสียว่าถ้าเป็นนักเรียนที่ไม่เอาถ่านก็อย่าได้หวังจะได้ตำแหน่งนี้ไปนั่งสบายได้ง่ายๆ
                    แกร็ก.. !
                    “อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านประธาน วันนี้ไม่มีตรวจเมืองรอบเช้างั้นเหรอครับ ?”ชายร่างสูงในชุดกาคุรันกับทรงผมสไตล์ประหลาดทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเข้ามาพร้อมกับชาที่เตรียมให้ชายผู้เป็นผู้เป็นหัวหน้าของเขา
                    “เอกสารบางอย่างที่จะใช้เข้าประชุมวันนี้ ฉันยังไม่ได้อ่านน่ะ..”
                    “อ่า..ลำบากแย่เลยนะครับ”ร่างสูงวางแก้วชาพร้อมรินเสิร์ฟให้..”ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวแล้วนะ ท่านก็อย่าหักโหมงานจนเกินไปล่ะ”มือบางจับแก้วชาขึ้นมาดื่มเพียงเล็กน้อยและวางลงอย่างเดิม
                    “พูดไปก็ทำไม่ได้อยู่ดี.. - -“
                    “ผมว่าแล้วว่าท่านต้องพูดแบบนี้ ยังไงก็เชื่อคำผมไว้หน่อยก็ดีนะ อากาศไม่ค่อยดีนักจะป่วยได้ง่ายนะครับ”
                    “รู้แล้วล่ะน่ะ..”
                    “งั้นผมขอตัวก่อน.. ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากครับ ท่านประธาน”ร่างสูงก้มหัวทำความเครพก่อนจะเดินออกจากห้องไป
                    .
                    ภายในห้องรับแขกอันสงบ ฮิบาริไล่กวาดสายตาไปทั่วตัวอักษรบนกระดาษเอกสาร เขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่องถึงในเวลานี้เริ่มสะกิดใจแล้วก็เถอะ ว่าเจ้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญเมื่อคืนนั้นกำลังจะปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว ?
                    “ไม่มีมารยาท หัดเคาะประตูขออนุญาตก่อนเข้าซะบ้าง”
                    “ผมไม่ได้เข้าทางประตูนี่ครับ คงไม่จำเป็นต้อง เคาะ ?”ร่างสูงยืนยิ้มอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของฮิบาริ รอยยิ้มเหยียดขึ้นที่ริมฝีปากทุกครั้งที่เจอ ร่างบางยังคงงั้นทำงานต่อไปโดยไม่ได้สนใจคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
                    “ถ้าไม่มีธุระสำคัญอะไรก็กลับไปซะ..”
                    “จริงอยู่ที่ผมไม่มีธุระอะไร แต่การที่คุณจะไล่ผมไปด้วยวิธีการแบบนี้..มันไม่จะง่ายไปหน่อยเหรอครับ ฮิบาริ เคียวยะ”
                    “.. ชิ..”
                    “คุฟุฟุฟุ..”ฮิบาริพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะคำพูดเมื่อกี้มันหมายถึงคำท้าทายว่าเพียงแค่คำพูดริอาจจะไล่ให้ชายคนนี้ไปจากเขาได้ ถึงแม้เขาอยากจะลุกขึ้นไปฟัดชายที่อยู่ตรงหน้าเขามากซักเพียงใด แต่หากถ้าได้หลงกลมันไปมีแต่จะทำให้ตนเองเสียเปรียบ
                    .... มันคงไม่ง่ายซะแล้วล่ะสิ โรคุโด มุคุโร่ .....
                    ร่างสูงยังคงยืนยิ้มให้อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถึงแม้เขาจะรู้ความคิดของอีกฝ่ายดีว่ากำลังคิดอะไร แต่ตัวเขาเองก็ยินดีที่จะเผชิญสิ่งที่ชายตรงหน้าเขาจะทำ ทั้งที่รู้แล้วก็ตาม ?!
                    “คุฟุฟุฟุ..”เสียงหัวเราะอันไม่พึ่งประสงค์ของมุคุโร่ ทำให้ฮิบาริต้องชะงักเพราะเริ่มรู้สึกไม่มีใจอยากจะทำงานเพียงเพราะถูกเจ้าคนว่างงานนี่รบกวน ดวงตาเรียวเลื่อนขึ้นมองร่างสูงแววไม่พอใจ
                    “นายต้องการอะไรกันแน่ ?”
                    “คุฟุฟุฟุ..”
                    “เลิกหัวเราะซักทีได้มั้ย ? - -“
                    “คุฟุฟุฟุ..”
                    เคร้ง !!! ทอนฟาเข้าปะทะกับสามง่ามสีเงินวาวที่อยู่ตรงข้ามของโต๊ะภายในพริบตาเดียวทั้ง 2 อาวุธนั้นกลับกลายเป็นปะทะกันอย่างรุนแรง สายตาของทั้งคู่มองประสานกันอย่างไม่ละวาง ใบหน้าเจ้าเล่ห์แลดูมีนัยปรากฏขึ้นที่หน้าของร่างสูง ฮิบาริครุ่นหน้าไม่พอใจและเริ่มประทุอารมณ์เดือดขึ้นแล้ว
                    ถ้าไม่ได้เห็นเลือดของเจ้าหมอนี่ เขาไม่หยุดแน่ !?
                    ฮิบาริกระโดดสไลด์ตัวไปกับโต๊ะ เท้าเหยียดตรงหมายจะใส่เท้าปะทะเข้าไปที่ลำตัว ร่างสูงกระโดดหลบไปด้านหลัง ร่างบางลงจากโต๊ะและขึ้นยืนประจันหน้า ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาสวนทอนฟาใส่ ซึ่งอีกคนก็หลบหลีกด้วยเทคนิคที่มีตามเคย จนกระทั่งขาของฮิบาริเข้าขัดขาของอีกฝ่ายจนเสียความทรงตัวทันทีที่มุคุโร่ใกล้ล้มลง ร่างนั้นก็สลายเป็นปุยควัน และปรากฏขึ้นที่ด้านหลังอย่างรวดเร็วและใช้แรงกระแทกฮิบาริจากด้านหลังจนเลื่อนไปกระทบกับบานประตูอย่างแรง
                    ปัง !
                    “อั่ก !!”ใบหน้าเนียนแนบเข้ากับประตู สายตาแลจดจ้องมองไปยังคนด้านหลังที่ยิ้มเยาะอย่างชอบใจ ศอกของร่างบางตั้งฉากขึ้นแล้วกระแทกเข้าไปที่ท้องอย่างแรง ร่างสูงโงนเงนไปด้านหลัง ฮิบาริหันกลับมาเตะร่างสูงจนไปกระทบกับโต๊ะทำงาน เลือดชิบที่มุมปากของมุคุโร่ นิ้วเรียวยกขึ้นมาเช็ด ฮิบาริเดินเข้ามาใกล้เตรียมพร้อมอาวุธขึ้นข้างกาย
                    “ดูท่าผมจะ..ประมาทคุณไปหน่อยสินะครับ ? ฮิบาริ เคียวยะ”มุคุโร่เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้ชายร่างบางที่ตีหน้าตายยืนมองอย่างไม่สบอารมณ์
                    “นั่นเป็นความผิดของนายเอง ที่ทำให้ฉัน โมโห..”
                    “คิก ! นั้นสินะครับ”
                    “แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะโมโหได้คนเดียวนะครับ..!”ภายในนัยน์ต่างสีแดงสดนั้นเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอักษรที่ปรากฏเป็น () ร่างสูงกระตุกยิ้มมีเล่ห์ในและพุ่งตัวเข้ามาใกล้ฮิบาริอย่างรวดเร็ว
                    เคร้ง !!!!
    “..อึก !!”ทอนฟาเข้าบล็อกการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วแต่เพราะมันไวอย่างที่เขาไม่ได้คาดไว้ แรงปะทะทำให้แขนรู้สึกเจ็บ มุคุโร่ฉวยโอกาสเหมาะต่อยเข้าไปที่ท้องของอีกฝ่าย ร่างบางสวนทอนฟาส่งเดชทันที แต่เรี่ยวแรงที่มีน้อยไปทำให้ถูกจับข้อมือเอาไว้แน่น ฮิบาริจุกหนักจนแทบจะขยับตัวไม่ไหว มุคุโร่แลมองด้วยสายตาราบเรียบ มือบางเริ่มกระชากขัดขืน ร่างสูงกระชับข้อมือนั้นให้แน่นเข้าไปอีกและเดินดันร่างบางให้ไปกระทบกับตู้อย่างแรง
    ปัง !
    “คุณนี่บอบบางจังเลยนะครับ โดนแค่นี้.. ถึงกับขยับตัวไม่ได้”
    “หุบปากน่ะ..!”
    “โอ๊ะโอว..งั้นก็ มาทำให้เรื่องนี้มันจบกันเถอนะครับ”มุคุโร่จับคอเสื้อของฮิบาริแล้วกระชากผลักให้หลังไปกระแทกกับตู้ด้านหลังอย่างแรงจนทำให้ถ้วยรางวัลที่ตั้งอยู่ด้านบนโงนเงนตกลงมา ร่างบางหันเงยขึ้นไปมองจนกระทั่ง.. !?
    “..... ?!!”
    “คุฟุฟุฟุ”ภายในมือของฮิบาริมีก้านช่อดอกซากุระสีขาวอมชมพู กลีบดอกซากุระค่อยๆโรยลงมาจากเพดานห้องที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกิ่งก้านสาขาของต้นซากุระ เขาหันมองไปรอบบริเวณ ตัวเขา และผู้ชายด้านหน้าเขาก็ด้วยที่ไม่มีแม้แต่รอยเลือดที่มุมปากที่เขาเป็นคนสร้างบาดแผลนั้นเลย....
    ............ ??
    ทั้งหมด.....
    เป็นภาพลวงตาของหมอนี่งั้นเหรอ !?
    “คุฟุฟุฟุ..”มุคุโร่หัวเราะชอบใจในขณะที่ฮิบาริถูกหลอกเข้าเต็มโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวเลยว่า ภาพลวงตาเหล่านี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างบางไม่คิดแม้แต่จะปริปากเอ่ยถามออกไป ทอนฟายกขึ้นเหวี่ยงฟาดไปยังคนตรงหน้า แต่ก็โดนจับอาวุธเอาไว้ มือหนายกขึ้นแบรับกลีบซากุระที่ร่วงลงมา
    “Shiki-zakura ..”
    “ซากุระพันธุ์ Shiki-zakura จะบานในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งแตกต่างจากซากุระพันธุ์อื่นๆจะที่บานในฤดูใบไม้ผลิ เพิ่มความสวยงามที่แปลกตาในฤดูใบไม้ร่วงที่จะมากลมกลืนให้ดูสวยงามประชันกับใบไม้เปลี่ยนสี.. ใกล้หน้าหนาวเข้ามาทุกที ถือว่าเป็นของที่ระลึกก่อนจากฤดูใบไม้ร่วงก็ได้นะครับ”มุคุโร่ยิ้มกว้างให้ร่างบางที่ทำหน้าเจื่อนๆใส่ ยังมีหน้ามาอธิบายอย่างสบายใจได้อีก น่าจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ หมอนี่..น่าโมโหชะมัด ฮิบาริกระชากทอนฟาออกแล้วฟาดส่งเดชใส่อีกคน
    “เห.. ฮิบาริคุง เมื่อกี้ไม่โดนนะครับ”ร่างสูงยังคงส่งยิ้มยียวนกวนประสาทให้เช่นเดิม เมื่อเขาเบียงหลบการโจมตีเมื่อกี้ของอีกฝ่ายได้ทันเวลา..
    “....”ร่างบางจ้องเขม็งด้วยความโมโห โดยที่อีกคนได้แต่ยืนเอียงคอยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา [?] ฮิบาริกับมาตั้งสติและยืนประจันหน้าอย่างขุ่นเคือง
    “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ยิ้มส่งซากุระพวกนี้หน่อยสิ..”
    “- - ถ้ายิ้มแล้วส่งนายไปให้ไกลๆล่ะก็ จะยิ้มให้เดี๋ยวนี้เลย..”
    “เฮ่อ.. ใจร้ายจังเลยนะครับ”มุคุโร่ยักไหล่เป็นเชิงแล้วเดินเข้าไปใกล้ ในขณะที่อีกคนเดินหลีกถอยออกห่าง ทำให้อีกคนหัวเราะน้อยๆในลำคอ
     “รังเกรียจผมขนาดนั้นเลยงั้นเหรอครับ หืม ?”
    “นายน่ะสำหรับฉัน..มันมากกว่าคำว่า ‘รังเกรียจ’ ซะอีกนะ”
    “แบบนั้นเองสินะครับ”ร่างสูงยิ้มบางให้ ก่อนจะเดินมาขนาบข้างอีกคน “ต้องขอโทษที่มารบกวนเวลาทำงานนะครับ..”เมื่อเรียวตาของอีกฝ่ายแลไปจับจ้อง ร่างนั้นก็หายไปกับปุยควันเฉกเช่นเดิม Shiki-zakura ก็ค่อยๆหายไป จนเหลือเพียงช่อดอกไม้ที่ตัดกิ่งของต้นซากุระพันธุ์นี้มาทำเป็นช่อสดสวย มือบางจับมันขึ้นมาแล้วลูบดอกซากุระบางนั้น
    “ฮ่ะ.. มีความพยายามไปตัดมาได้นะ ไอ้บ้าเอ็ย..”ร่างบางสบถบางเบาแล้วแลมองออกไปนอกหน้าต่าง
     
     
    + TALKING +
    ยะโฮ่ !! โอ๊ส ~ ในที่สุดตอนที่ 4 ก็คลอดออกมาซักที ต้องขอโทษที่หายไปนานมากนะค่ะ ช่วงที่หายไปนั้นรู้สึกเป็นกังวลมากเลยค่ะ เพราะว่า.. มันคิดอะไรไม่ออก แต่งก็แต่งได้ไม่ดี ไม่นึกว่าจะได้มีใจกลับมาทำฟิคอีกครั้งรู้สึกดีมากเลยล่ะค่ะ จากนี้จะพยายามให้มากกว่าเดิมเพื่อทุกคนล่ะกันนะค่ะ เอ๊า !! FIGHT-TO เนอะ !! ( >[]< )/
    + POST SCRIPT +
    + หากมีคำผิด หรือ มีบทตรงไหนงุนงงไม่เข้าใจ COMMENT เป็น P.s หรือ ป.ล นะค่ะ ว่ามันผิดตรงไหนแล้วจะแก้ให้ฮ่ะ ( ^-^)v
    + DATE 19th APRILL 2012 +
    + THANK YOU +
    cinna mon
    Cinnamon Theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×