คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4: เด็กหลงทาง ปะทะ คน(เทพ)ไม่เต็มบาท [100%]
บทที่ 4: เด็กหลงทาง ปะทะ คน(เทพ)ไม่เต็มบาท [100% อัพคัรั้งแรกวันที่ 9 มีนาคม 2549 12.45]
ณ ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งในเมืองกรุงที่แสนจะวุ่นวาย ยังมีเด็กสาวอายุสิบห้าคนหนึ่งนั่งรอรถเมล์ด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง แสดงความหงุดหงิดใจอย่างเห็นได้ชัด
เฮ้อ ขึ้นรถผิดสายอีกตู กว่าจะรู้ตัวก็เกือบจะสุดสายแล้ว ถ้ากระเป๋ารถไม่มาถามว่าจะไปไหนล่ะก็ เฮ้อ ซวยแต่เช้าเลยโว้ย! รินบ่นในใจอย่างเซ็งๆ พลางมองรถเมล์ที่วิ่งมาจอด แล้วก็วิ่งผ่านไป คันแล้วคันเล่า ผู้คนที่เดินผ่านมาต่างมองดูเธอด้วยสายตาแปลกๆ รินเข้าใจความหมายของสายตาที่ส่งมา พวกเขาคงจะคิดว่าเธอเป็นเด็กหนีเรียนล่ะมั้ง แต่ก็นะ ช่างเขาเถอะ แล้วทำไมเธอถึงยังไม่รีบไปโรงเรียนอีกน่ะเหรอ ก็เพราะว่า
เธอหลงทางซะแล้ว!!!
ก็เธอเองไม่เคยมาแถวนี้เลยนี่นา ถึงจะอยู่กรุงเทพฯมาตั้งแต่เกิดก็เถอะ เด็กสาวนั่งคิดหาวิธีแก้ปัญหาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็นึกถึง
โทรศัพท์! ใช่ ต้องโทรไปถามทางจากแม่!
เมื่อ(พึ่งจะ)นึกได้ดังนั้น เด็กสาวจึงรีบลุกขึ้นเพื่อหาตู้โทรศัพท์สาธารณะทันที (เพราะไม่มีมือถือ) โชคดีที่มีตู้โทรศัพท์อยู่ใกล้ๆพอดี รินเดินเข้าไปในตู้ก่อนจะกดเบอร์ที่บ้านอย่างเร่งรีบ
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏร่างผอมสูงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งขึ้นใกล้ๆกับเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งที่อยู่ข้างตู้โทรศัพท์ที่รินกำลังโทรอยู่ เธอจดจ่อกับปลายสายเสียจนไม่ได้สังเกตเห็นเด็กหนุ่มผมแดงที่เพิ่งมาถึงอย่างกระทันหัน กระทันหันราวกับพัดมาตามสายลม
ฟรานเซียสเมื่อมาถึงโลกมนุษย์ก็กวาดสายตามองรอบๆตัวอย่างสนอกสนใจ
นี่น่ะหรือโลกมนุษย์ ไม่ยักจะต่างกับสวรรค์สักเท่าไหร่เลยนี่ เทพหนุ่มนึกในใจอย่างเซ็งๆ ก็โลกที่เขาจินตนาการไว้มันน่าสนุกกว่านี้มาก แต่นี่ดูเผินๆมันคล้ายกับสวรรค์มาก เว้นแต่มีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าสวรรค์ก็เท่านั้น ว่าแต่ว่า มนุษย์พวกนี้มองอะไรของมันวะ
เทพหนุ่มนึกสงสัย เมื่อผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างจ้องมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ อาจเป็นเพราะ ผมซอยสั้นของเด็กหนุ่มที่แดงดุจเปลวเพลิง หรือเพราะ การแต่งกายที่ดูราวแต่งคอสเพลย์พ่อมดในการ์ตูน หรืออาจจะเพราะโครงหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็เป็นได้ (อันหลังนี่ไม่น่าใช่แฮะ)
เทพหนุ่มเหล่ตามองดูคนรอบข้างที่จ้องเขาไม่วางตา มองอยู่ได้ ไม่เคยเห็นเทพรึไงฟะ!!! (ก็ไม่เคยเห็นน่ะสิฟะ)
ขณะนั้นเอง รินที่กำลังคุยกับแม่ผ่านทางตู้โทรศัพท์ก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อผู้คนเริ่มมาออกันอยู่รอบๆตู้โทรศัพท์ที่เธอกำลังโทรอยู่นี่แหละ
สงสัยจะมารอโทรล่ะมั้ง ท่าไม่ค่อยดี รีบวางดีกว่าแฮะ
"แค่นี้ก่อนนะแม่" รินพูดกับบุคคลปลายสายก่อนจะรีบวางหูทันที แล้วเดินออกมาจากตู้โทรศัพท์ ทว่าไม่มีผู้ใดเข้าไปใช้โทรศัพท์ต่อจากเธอเลย
ว่าแต่ แล้วเขาจะมุงกันทำไมเนี่ย
ด้วยความอยากรู้ เด็กสาวก็แทรกตัวเข้าไปในหมู่ไทยมุง ด้วยความที่ตัวเล็กและเตี้ยอยู่แล้วทำให้เลื่อยหลบหลีกคนเข้าไปอย่างง่ายด้าย แล้วเธอก็พบกับ
เด็กหนุ่มร่างสูงยืนพิงเสาไฟฟ้าด้วยสีหน้าหงุดหงิด หน้าตาจัดว่าหล่อแต่ก็ดูกวนส้นพอสมควร ดวงตาสีดำสนิทช่างตัดกับผมสีแดงเพลิงของเขาเหลือเกิน ย้อมผมมั้ง ผิวขาวเหมือนคนยุโรปแต่กลับเนียนละเอียดเหมือนคนเอเชีย ลูกครึ่งชัวร์ แต่การแต่งกาย ผ้าคลุมสีดำยาวลากพื้นสวมทับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่มีสัญลักษณ์อะไรบ้างอย่างอยู่บนหน้าอกด้านซ้าย กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีน้ำตาล แต่งคอสเพลย์เรอะ แต่ไม่ยักจะมีคทาหรือไม้เท้าอะไรเถือกนั้นแฮะ
แต่ เอ มีงานที่ไหนประกวดแต่งคอสเพลย์ด้วยเรอะ เท่าที่ติดตามข่าวสารมาก็ไม่เห็นจะมีเลยนี่นา ถ้ามีตูต้องรู้ดิ ไม่เคยพลาดงานพวกนี้อยู่แล้ว
รินคิดได้ดังนั้นจึงคิดที่จะเข้าไปถามว่ามีงานประกวดคอสเพลย์ที่ไหน แต่ชะงักเท้าไว้ก่อน เพราะ ไทยมุงที่มุงดูกันอยู่ ถ้าเข้าไปถามตอนนี้จะถูกหาว่าบ้ารึเปล่าเนี่ย ว่าแต่ ทำไมต้องมามุงดูกันด้วยหว่า กะอีแค่คนแต่งคอสเพลย์ หรือว่าเขาถ่ายหนังกันอยู่!! ใช่แล้วต้องถ่ายหนังแน่ๆ เกือบหน้าแตกแล้วไหมล่ะตู
เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงักกับความคิด(เองเออเอง)ของตนเอง ก่อนที่จะรีบหันหลังกลับแหวกฝูงชนออกไป เฮ้อ ไร้สาระสิ้นดี ไปโรงเรียนดีกว่าวุ้ย
ทางด้านมนุษย์คอสเพลย์ เอ่อ ฟรานเซียสน่ะแหละ ที่ยืนเต๊ะท่ากวนๆอยู่ข้างเสาไฟ กำลังคิดหาวิธีตามหาตัวเรริน่าให้เจอ
ให้มาหาเทพในเมืองมนุษย์ แต่กลับไม่บอกข้อมูลอะไรเลย หน้าก็ไม่เคยเห็น แล้วตูจะหาเจอได้ไงฟะ เทพหนุ่มคิดในใจอย่างหงุดหงิด
ก็เจ้าไม่ถามข้าเองนี่หว่า มีเสียงตอบกลับขึ้นในหัว เสียงที่เขาจำได้ว่าเป็นเสียงพ่อของเขานั่นเอง
"ท่านพ่อ!!!" ฟรานเซียสโพล่งขึ้นมาอย่างตกใจ ทำเอาไทยมุงที่กำลังมุงดูอยู่นั้นถอยรูดออกห่างจากเขาราวกับกลัวเขาจะกระโดดกัดคอยังงั้นแหละ
เจ้าโง่ ตะโกนทำไมหา คุยกันทางจิตสิเฟ้ย เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่รู้ได้เชื่อโง่มาจากใคร
ติดมาจากพ่อน่ะแหละ!!! ฟรานเซียสโต้กลับ รู้สึกขายหน้านิดหน่อย
เจ้านี่มัน เอาเหอะ ข้าขี้เกียจเถียงกับเจ้า ข้าจะบอกวิธีหาเรริน่าให้ จะฟังไหม
ก็บอกมาดิ ท่านพ่อลีลาอยู่ได้
คอยดูเถอะ กลับมาสวรรค์เมื่อไหร่ข้าจะสั่งตัดลิ้นเจ้า เอาล่ะให้เจ้าทำตามที่ข้าบอกนะ อันดับแรก เจ้าก็ต้องหลับตาลงก่อน หลับตาสิ
ฟรานเซียสหลับตาลงอย่างว่าง่าย
นั่นแหละ แล้วเพ่งมองไปในความมืด เจ้าจะเห็นดวงจิตของคนที่อยู่รอบๆกายเจ้า ดวงจิตของมนุษย์จะเป็นสีดำ เจ้าก็เลยมองไม่เห็น แต่ดวงจิตของเทพที่ถูกส่งลงมาจุติจะเป็นสีขาว ให้เจ้าใช้วิธีนี้แหละตามหาเรริน่า เข้าใจแล้วใช่ไหม งั้นข้าไปล่ะ
เฮ้! เดี๋ยวสิท่านพ่อ! ฟรานเซียสพยายามติดต่อกลับไป แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ช่วยได้มากเลยนะท่านพ่อ แต่ก็ต้องลองดูฟะ
เทพหนุ่มหลับตาลงช้าๆ ทุกอย่างเป็นสีดำสนิท ไม่มี
เขาลืมตาขึ้นก่อนจะเดินแหวกฝูงชนออกไป แล้วหลับตาลงอีกครั้ง ไม่มี
รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าชะมัดเลยแฮะ เทพหนุ่มคิดอย่างหน่ายๆ ไหนๆแถวนี้ก็ไม่มีแล้ว งั้น สำรวจโลกมนุษย์หน่อยดีกว่า
ทันใดนั้นเอง เขาก็หันไปเห็นรถเมล์วิ่งมาจอดที่ป้ายพอดี เทพหนุ่มรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที เพราะบนสวรรค์ก็มีรถเมล์อย่างนี้เหมือนกัน สวรรค์กับโลกมนุษย์นี่ก็เหมือนกันอยู่หลายๆอย่างนะ ฟรานเซียสคิดขณะที่เดินขึ้นรถเมล์ตามหลังเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลคนหนึ่งขึ้นรถไป
ถ้าเขาลองหลับตาลงตอนนี้อาจจะเห็นแสงสีขาวในความมืดก็ได้ เพียงแต่ เขาไม่คิดจะลองทำอีกเป็นครั้งที่สาม เพราะมันดูโง่งี่เง่ามากๆเลยน่ะสิ ว่าแต่ว่า
ช่วยเปลี่ยนชุดให้เหมือนชาวโลกเขาใส่กันหน่อยเถอะ!!!
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ในที่สุดเด็กสาวที่ขึ้นรถผิดสายก็ขึ้นถูกสายซะที รินนั่งอยู่บนรถสองประตูยี่สิบหน้าต่างที่ติดแอร์ธรรมชาติ สายตาจับจ้องไปบนท้องถนนอย่างใจลอย วันนี้เธอคงจะพลาดชั่วโมงเรียนชั่วโมงแรกแน่ๆ
เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย หันจากหน้าต่างมามองผู้คนในรถที่ยืนเบียดเสียดกันอยู่ ทำไมคนมันเยอะอย่างนี้ฟะเนี่ย อ๊ะ ใกล้ถึงแล้วนี่หว่า
เด็กสาวรีบลุกขึ้นยืนเพื่อกดกริ่ง ก่อนจะแทรกตัวผ่านผู้คนที่ยืนเบียดเสียดกันอยู่เพื่อไปที่ประตู ขณะนั้นเองสายตาก็เหลือบไปเห็น เด็กหนุ่มในชุดคอสเพลย์ที่เธอเคยเจอตรงตู้โทรศัพท์
มาอยู่นี่ได้ไงเนี่ย รินคิดในใจอย่างสงสัย ขณะที่มอง แต่แล้วกระเป๋ารถเมล์ก็ตะโกนขึ้นมาว่า "ริชเนสคอนแวนต์คร้าบ" รินจึงรีบลงจากรถทันที
ริชเนสคอนแวนต์งั้นเหรอ น่าสนใจดีแฮะ ลองไปดูดีกว่า ฟรานเซียสคิด แล้วจึงเบียดเสียดผู้คนวิ่งลงรถตามรินไป
หนึ่งคนและหนึ่งเทพก็มาถึงที่หมาย ป้ายที่ทำจากหินอ่อนสลักตัวอักษรด้วยสีทองว่า 'โรงเรียนริชเนสคอนแวนต์(ฝ่ายมัธยม)' ตั้งเด่นตระหง่านอยู่หน้าโรงเรียนซึ่งกว้างใหญ่มากๆ รั้วกำแพงสีขาวสะอาดโรงเรียนยาวสุดสายตา ภายในรั้วก็เต็มไปด้วยอาคารสีขาวสูงใหญ่ มีสะพานสีขาวเป็นตัวเชื่อมอาคารทุกแห่ง มีสนามหญ้าที่กว้างขวาง และร่มรื่นด้วยต้นไม้ดอกไม้เหมาะแก่การวิ่งไล่จับและเล่นซ่อนหา(ไม่มีไรจะเปรียบแล้วรึไงเนี่ย) นอกจากนี้ยังเห็นโรงยิมสีขาวอยู่เยื้องกับอาคารแห่งหนึ่งอีกด้วย
นี่โรงเรียนหรือทำเนียบขาวฟะ นี่คือความรู้สึกแรกที่แว้บเข้ามาในหัวของฟรานเซียส (มันรู้จักทำเนียบขาวได้ไงฟะ - -a) ส่วนริน เธอเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้แล้วตอนที่มาสอบเข้า (ถึงจะเคยมาแล้วแต่ก็ยังหลงทางอยู่ดี)
ว่าแต่ว่า ตูจะเข้าไปยังไงฟะเนี่ย รินคิดพลางมองไล่ไปตามรั่วสีขาวเพื่อหาประตูทางเข้าโรงเรียน แต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีประตู ก็จำได้ว่าประตูทางเข้ามันอยู่แถวๆนี้นี่หว่า แถวที่มีรั่วสีขาว แต่ มันก็รั้วสีขาวทั้งหมดนี่หว่า หาประตูไม่เจอก็ ปีนมันเลยล่ะกัน!!!
เธอหันมองซ้าย ไม่มีคน มองขวา ไม่มีใคร ปลอดคน ดีล่ะ เข้าโรงเรียนดีกว่า ว่าแล้วก็จัดแจง ถกแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้าง ถกกระโปรงนักเรียนขึ้นเผยให้เห็นกางเกงขาสั้นสีดำที่ชอบใส่เป็นประจำ ก่อนจะตั้งต้นปีนกำแพงสีขาวขึ้นไปโดยไม่สังเกตเห็นเทพที่ยืนหัวแดงอยู่ด้านหลังเธอเลย
ส่วนเทพหนุ่มยืนทำหน้างงเต็กมองเด็กสาวผู้(ช่าง)กล้าปีนขึ้นกำแพง .ยัยนี่ ทำอะไรของเขาฟะ เขามองดูเธอปีนขึ้นกำแพงอยู่สักพัก ในที่สุดเธอก็ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนกำแพงได้ และทำท่าจะทิ้งตัวลงไปอีกฝั่งของกำแพง ถ้าเกิดว่า สายตาของเจ้าหล่อนไม่หันมาเจอกับเขา
ไอ้นี่อีกแล้ว ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของริน เธอจ้องดูเด็กหนุ่มหัวแดงที่ก็จ้องเธอกลับเช่นกัน (จะจ้องกันอีกนานไหมฟะเนี่ย)
ช่างมันเถอะ รินคิดอย่างหน่ายๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงในเขตในโรงเรียน
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
เย้! ครบร้อยแล้ว ^ ^ ฝากติชมด้วยเน้อ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า
ความคิดเห็น