ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Immortal Wand คทากวนป่วนสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #23 : บทที่ 22: เป็นเรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 50


    บทที่ 22: เป็นเรื่อง [อัพครั้งแรก 2 ม.ค. 2550 เวลา 11.11 น.]

    “มาแล้วสินะ” เอมิลี่พูดพึมพำเบาๆกับตัวเอง เธอนั่งอยู่ที่ศาลาในสวนหน้าบ้านของนิศา ขณะนี้เป็นเวลาห้าทุ่มเกือบๆจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว เจ้าของบ้านนี้ก็หลับกันหมดแล้ว แต่ถึงจะตื่นอยู่ก็คงไม่มีใครเห็นเธอเพราะเธอใช้มนต์ล่องหนอยู่ เธอกำลังรอคอยเขาอยู่ และเขาก็มาถึงแล้ว...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    คืนนี้เป็นคืนข้างแรม ดวงจันทร์นั้นเหลือเพียงเสี้ยวเดียว แต่ก็ยังส่องแสงอันเลือนราง ทำให้เทพบุตรหนุ่มสังเกตเห็นร่างบางอันคุ้นเคยในชุดกระโปรงสีฟ้าที่คุ้นตา ฟรานเซียสเดินเข้าไปหาร่างนั้นช้าๆ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกตัว...หรือไม่ก็กำลังรอคอยเขาอยู่... เธอคนนั้นค่อยๆหันมา  ใบหน้าที่ชัดแจ้งอยู่ในความทรงจำ...

    “เอมิลี่” เขาเผลอเรียกชื่อเธอออกมาอย่างตกตะลึง

    “ท่านพี่ฟรานเซียส!” เอมิลี่ยิ้มกว้างอย่างยินดี ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าหาเขาคนที่เธออุตส่าห์ตามหา สองแขนของชายหนุ่มตรงหน้ากว้างเหมือนเตรียมโอบกอด...

    แต่แล้ว...

    “โป๊ก!”

    “โอ้ย!”

    “ท่านพี่ฟรานเซียสเขกหัวข้าทำไมอ่า” เด็กสาวโวยวายพลางยกมือกุมหัว... ที่บัดนี้ปูดยิ่งกว่าลูกมะนาวด้วยฝีมือของชายหนุ่มตรงหน้าที่ยืนหน้าบึ้งอยู่

    “ใครใช้ให้เธอลงมาบนโลกมนุษย์เนี่ย ยัยงี่เง่า” ฟรานเซียสว่า พลางยกมือขึ้นมาทำท่าจะเขกมะเหงกให้อีกลูก

    “แล้วท่านพี่ล่ะ ลงมาโลกมนุษย์ก็ไม่บอกกันซักคำ” เอมิลี่เถียง พลางถอยหลังหลบลูกมะเหงก

    “ถ้าบอกเขาก็ไม่เรียกว่าภารกิจลับน่ะสิ” ฟรานเซียสตอบ ก่อนจะต่อว่า “กลับไปสวรรค์ซะ เดี๋ยวคนอื่นเป็นห่วง”

    “ไม่ ข้าไม่กลับ ข้าจะกลับพร้อมท่านพี่”  เด็กสาวว่า

    “จะกลับหรือไม่กลับ”

    “ไม่กลับ”

    “ไม่กลับใช่ไหม... งั้นก็...”

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    “หา! คู่หมั้น!” รินร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆฟรานเซียสก็หายตัวเข้ามาในห้องพร้อมกับลากสาวสวยคนหนึ่งมาด้วย แต่แค่นั้นยังไม่ทำให้เธอตะลึงไปมากกว่าคำแนะนำที่ฟรานเซียสบอกว่า ‘นี่คือ เอมิลี่ น้องสาวและ...เอ่อ... คู่หมั้นฉันเอง’

    “ตกใจอะไรนักหนาหา ยัยบ๊อง” ฟรานเซียสถามอย่างงุนงง

    “ก็... ใครจะไปนึกล่ะว่าคนอย่างนายจะมีคู่หมั้น...” รินหันไปทางเอมิลี่ ก่อนจะต่อว่า “ที่สวยขนาดนี้!”

    “คนอย่างฉัน มันเป็นไงหา” ฟรานเซียสโวยวาย ขณะที่เอมิลี่หน้าแดงเพราะความเขิน

    “คิดเอาเองดิ” รินว่า พลางเหยียดยิ้มยียวนส่งให้ฟรานเซียส

    “หน็อย...” ฟรานเซียสเริ่มหน้าแดงเพราะความโกรธ แต่ทันใดนั้นเอง...

    “สวัสดีขอรับ ข้ามีนามว่าลอเรล เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าเทพอย่างเจ้าหัวแดง ยินดีที่ได้รู้จักหญิงงามเช่นท่าน” ลอเรลพูดด้วยเสียงที่ตัวเองคิดว่าสุขุม ก่อนจะโค้งคำนับให้เอมิลี่ พร้อมกับฉวยมือบอบบางของเธอขึ้นมาทำท่าจะจุมพิต...

    “นั่นมันคู่หมั้นข้านะ!” ฟรานเซียสพูดพร้อมกระโดดถีบสิ่งมีชีวิตชีกอกระเด็นไปติดผนังห้อง

    “ข้าก็แค่ทักทายเท่านั้นเอง ทำไมต้องลงไม้ลงมือด้วยล่ะเจ้านี่!” ลอเรลพูดแก้ตัวพลางทำหน้าตายอย่างเนียนสุดๆ

    “ทักทายงั้นเรอะ ยังแก้ตัวไปได้นะเจ้า!” ฟรานเซียสเริ่มขึ้นเสียงดัง แต่ทันใดนั้นเอง!

    “ชื่อเอมิลี่ใช่ไหม ชื่อเพราะจัง สวยด้วย โดยเฉพาะผมนี่” รินถือโอกาสไปนั่งข้างๆเอมิลี่ ถือวิสาสะจับผมหยักศกสีทองของเอมิลี่เล่น ไม่สนใจฟรานเซียสกับลอเรล เอมิลี่ยิ้มอย่างเขินๆ

    “อิจฉาล่ะสิ ที่เขาอายุเท่ากัน แต่สูงกว่าเธออีก ยัยเตี้ย... อ๊อก!” ฟรานเซียสพูดไม่ทันขาดคำดี ก็เจอรินถีบเข้าที่หน้าท้องจนจุก ทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะหลบไม่ทัน

    “เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าอย่าเรียกฉันยังงั้น” รินว่า ก้มลงมองฟรานเซียสที่นอนหมอบอยู่กับพื้น ก่อนจะส่งยิ้มเย้ยหยันไปให้

    “ท่านลอเรลกับท่านรินนภานี่ร่าเริงจังเลยนะคะ” เอมิลี่พูดขึ้นพลางยิ้มอย่างชอบใจ “ตอนอยู่บนสวรรค์น่ะท่านพี่มักจะชอบตีหน้าเข้มเสมอเลย จนใครๆก็คิดว่าเป็นเทพที่เคร่งขรึม ไม่มีใครคิดว่าตัวจริงจะเป็นแบบนี้”

    “เจ้าเองก็เหมือนกันแหละ ตอนอยู่กับคนอื่นทำเป็นเรียบร้อยพูดจาคะขา แต่พออยู่กับฉันเป็นคนล่ะคนกันไปเลย” ฟรานเซียสสวนกลับหลังจากทรงตัวลุกขึ้นยืนได้แล้ว

    “ข้าก็เรียบร้อยของข้าอยู่ตลอด ท่านพี่น่ะแหละที่ชอบยั่วโมโหข้า” เอมิลี่เถียงกลับ

    “ว่าไงนะ”

    “หยุดกันทั้งสองคนน่ะแหละ!” รินตะโกนขึ้นห้ามทัพ “เดี๋ยวเสียงดังลงไปถึงข้างล่างจะว่าไง หา!”

    “เอ่อ ท่านรินขอรับ ลืมไปแล้วรึขอรับ ว่าไม่มีใครได้ยินเสียงพวกเราสามคน ที่ได้ยินก็คงจะมีแต่เสียงท่านน่ะขอรับ” ลอเรลเอ่ยขึ้น...

    “........................” ทั้งห้องเงียบกริบ ทุกตนหันไปมองรินหันเป็นตาเดียว ส่วนรินผู้ซึ่งเป็นเทพมาจุติในร่างมนุษย์เพียงคนเดียวนั้นนั่งแข็งทื่อไปแล้ว

    “เข้าใจแล้วใช่ไหมยัยเซ่อ เธอห้ามพูดอะไรออกมานะ นั่งเงียบๆไปนั่นแหละ” ฟรานเซียสว่า

    “ไม่จริงอ่ะ ทำไมฉันพูดไม่ได้อยู่คนเดียวล่ะ นี่มันห้องฉัน บ้านฉันนะ” รินบ่นอุ๊บ “โลกนี้ช่างไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย!”

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    ขณะเดียวกันนั้นเอง ที่หน้าห้องของริน

    “ได้ยินไหมคะพ่อแม่”

    “ได้ยินเต็มสองหูเลยล่ะ...นิ”

    ครอบครัวธนาวารินทั้งครอบครัว อันประกอบด้วยคุณนายนภา คุณชายนิรันดร์ และคุณหนูลูกสาวคนเล็ก นิภา ยืนจับกลุ่มแอบฟังอยู่ที่หน้าประตูห้องของรินมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว

    “พี่รินชอบพูดคนเดียวบ่อยๆตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนแล้ว พี่เขาเป็นอะไรคะ” นิกระซิบถามเสียงเบา

    “หรือว่า...ละ... ลูกเราจะเป็นโรคจิตคะ...คุณ” นางนภาผู้เป็นแม่เอ่ยถามต่อด้วยเสียงสั่นเครือ

    “ผมว่าเราควรจะคุยกับลูกให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่านะ ว่าเป็นอะไรกันแน่ อาจจะแค่คุยโทรศัพท์ก็ได้นะ” นายนิรันดร์ผู้เป็นบิดาตอบอย่างมีเหตุผล

    “นี่มันมากกว่าแค่คุยโทรศัพท์แล้วนะคะ เหมือนมีใครอยู่ในห้องกับพี่รินด้วย” นิภาว่า

    “แล้วคนที่เขาเป็นโรคจิตเขาไม่ยอมรับหรอกค่ะว่าตัวเองเป็น” ผู้เป็นมารดาเสริม

    “แล้วคุณจะให้ผมทำไงล่ะ” ผู้เป็นบิดาถามทั้งๆที่รู้คำตอบดีแก่ใจอยู่แล้ว

    “วันเสาร์นี้เราต้องพารินไปหาหมอค่ะ”

    “แต่ เดี๋ยวก่อน มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ลูกอาจจะไม่ได้เป็นอะไรก็ได้นะ”

    “ไม่มีแต่ค่ะ ต้องไปหาหมอก่อน ถ้าไม่เป็นอะไรจริงๆก็ไม่เห็นเสียหายนี่คะ”

    “แต่ตระกูลเราจะเสียชื่อ...”

    “ระหว่างตระกูลเสียชื่อกับ เสีย ริน ฉัน และนิไป... คุณเลือกเอานะคะ”

    “กะ...ก็ได้ ผมจะพารินไปเอง”

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    สุขสันต์ปีใหม่ย้อนหลังทุกท่าน!

    นิยายเรื่องนี้ก็อายุครบหนึ่งขวบกับอีก 2 วันแล้วสินะ เป็นเรื่องที่อยู่ได้ถึงปีหนึ่งเรื่องแรกเลยนะเนี่ย เพราะเรื่องอื่นๆที่แต่งไปอยู่ได้อย่างมากก็แค่ครึ่งปีแล้วก็ต้องลบทิ้งเพราะแต่งไม่ออก = ="

    เพื่อเป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดให้กับนิยาย จะแต่งตอนพิเศษ...ซะดีไหม... ชักขี้เกียจตะหงิดๆ เอาเป็นว่า... ช่างมันเถอะแล้วกัน = =

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×