ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Immortal Wand คทากวนป่วนสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #22 : บทที่ 21: บทเพลง

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 49


    บทที่ 21: บทเพลง [อัพครั้งแรกวันที่ 15 ธ.ค. 2549 เวลา 20.35น.]

    “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจของเอมิลี่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในยามรัตติกาล ร่างบางซึ่งบัดนี้อยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อนไม่มีลาย แต่จับระบายที่แขนเสื้อกับขากางเกง นั่งแน่นิ่งอยู่ที่ศาลาในสวนที่เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ดวงตาสีน้ำเงินครามนั้นดูเลื่อนลอย ผมหยักศกยาวถึงเอวกลับมาเป็นสีทองอีกครั้งหนึ่ง

    “ทำไมถึงมานั่งตากน้ำค้างอยู่ที่นี่ล่ะคะ เอมิลี่” เสียงหวานของเจ้าของบ้านเอ่ยถามเธอ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆ นิศานั่นเอง เธออยู่ในชุดนอนสีชมพูอ่อนลายหมี

    “อ้อ ท่านนิศาเองเหรอ ข้าแค่คิดถึง...” เอมิลี่ยังเอ่ยไม่ทันจบประโยค นิศาก็ต่อให้ทันทีว่า “คิดถึงเขาใช่ไหมล่ะคะ เทพบุตรฟรานเซียสนั่นน่ะ”

    “หึ ที่จริงฉันก็สงสัยอยู่แล้วล่ะค่ะ สีผมแบบนั้นน่ะมันมีที่ไหนกัน” นิศาพูดต่อ

    “อืม จริงสินะ... ข้าขอบใจท่านมากๆเลยนะที่ช่วยปิดบังความลับของข้า” เอมิลี่พูดพลางหันมาสบตากับเด็กสาวคนข้างๆ

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงฉันจะพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอก ฉะนั้นวางใจได้เลยค่ะ แต่ว่าเลิกเรียกท่านเถอะนะคะ ฟังแล้วมันแปลกหู” นิศาส่งยิ้มกว้างอย่างจริงใจให้เอมิลี่ เป็นรอยยิ้มจริงใจที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน...

    เอมิลี่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดเท่าที่เธอรู้ให้นิศาฟังหมดแล้ว และบอกจุดประสงค์ของการมาที่โลกมนุษย์นี่ด้วย เพราะว่าเมื่อตอนเย็นขณะที่นิศานั้นแอบสะกดรอยตามอมเรศหรือก็คือเอมิลี่ในร่างมนุษย์ เพื่อที่จะไปดูว่าบ้านของอมเรศเป็นอย่างไร แต่แล้วเมื่ออยู่ในที่ที่ปลอดคน ก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา พอนิศาเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นเอมิลี่ในร่างเทพแล้ว เธอร้องสุดเสียงอย่างตกใจ แต่แล้วเอมิลี่ก็รีบเข้ามาปิดปากเธอไว้ เอมิลี่เองก็ประหลาดใจมากเช่นกันที่มนุษย์สามารถมองเห็นเธอได้ทั้งๆที่ใช้มนตร์ล่องหนแล้วแท้ๆ และเธอก็แน่ใจด้วยว่ามนตร์ของเธอไม่มีทางผิดพลาด เป็นไปได้ว่าเธอกับนิศาอาจจะมีชะตาผูกพันกันจึงทำให้นิศาเห็นเธอได้ ดังนั้น เอมิลี่จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นิศาฟังในตอนนั้นเอง และน่าแปลกที่นิศาดูไม่ประหลาดใจเลยซักนิด แต่เธอกลับเอามือเอมิลี่มากุมไว้ พร้อมให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ‘ฉันจะช่วยคุณเองค่ะ!’

    “ขอบคุณมากนะ... นิศา” เอมิลี่พูดเบาๆแต่ทว่าชัดเจน ในค่ำคืนที่เงียบงันเช่นนี้...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    “นี่ค่ะ ดีโม่เทป” นิศายื่นเทปม้วนหนึ่งให้รินทันทีที่รินกับฟรานเซียสมาถึงโรงเรียน

    “อ้อ! เอ่อ งั้นเย็นนี้จะเปิดให้พ่อฟังแล้วกันนะ” รินว่า พลางยัดเทปม้วนนั้นลงในกระเป๋านักเรียนแบบไม่ค่อยใส่ใจ

    “อยากให้รินกับฟรานเซียสฟังด้วยนะคะ จะได้ช่วยฟังว่ามันเพราะไหม อย่าลืมฟังให้ได้นะคะ” นิศาย้ำก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ทั้งคู่ทำหน้างงว่า ‘ต้องฟังด้วยเหรอ’

    “มันมีอะไรแปลกๆนะว่าไหม” รินเอ่ยขึ้นเป็นเชิงขอความเห็น ขณะที่วางกระเป๋าลงบนโต๊ะประจำของเธอ

    “อืม คราวนี้มาเป็นช็อกโกแลต” ฟรานเซียสตอบไปคนล่ะเรื่องเลย เพราะเขากำลังสนใจกล่องช็อกโกแลตรูปหัวใจที่อยู่บนโต๊ะเขาอยู่ มันแนบกระดาษที่เขียนไว้ว่า ‘จากบัดดี้’ อีกเช่นเคย

    “หืม... อีกแล้วเหรอ นี่มันอะไรกันเนี่ย” รินพึมพำ พลางมองดูฟรานเซียสแกะช็อกโกแลตกินอย่างเอร็ดอร่อย... ไม่คิดจะแบ่งคนอื่นเขาเลย... เฮ้ย! ไม่ใช่เรื่องนั้น... ใครเป็นคนให้มาต่างหากล่ะ... นั่นสิ ใครกัน... แล้วจะไปรู้เรอะ...

    ขณะที่ความคิดในหัวของรินกำลังจะก่อสงครามกันอยู่ในหัว ก็มีเทพีสันติภาพมาห้ามทัพ...

    “ริน บัดดี้ฝากมาให้แน๊ะ” เด็กสาวผิวสีแทนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พลางยื่นของในมือส่งให้ สิ่งนั้นก็คือ...ช็อกโกแลตเหมือนเมื่อวานเด๊ะ...

    “ขอบใจนะ” รินตอบกลับตามมารยาท (มีกะเขาด้วยเหรอเนี่ย) ก่อนจะเปิดกล่องช็อกโกแลตกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยลืมเรื่องที่คิดไปเสียสนิท... ของกินมาก็ลบล้างทุกอย่างได้หมดเลยใช่ไหมเนี่ย...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    “หืม... นี่น่ะเหรอ ดีโม่เทปของเด็กคนที่นิศาแนะนำ ทำมาได้เร็วดีนี่นา” พ่อของรินว่า เมื่อรินกลับมาถึงบ้านก็รีบส่งเทปให้ “แต่ว่าพ่อไม่มีเวลาฟังนะตอนนี้ ลูกไปลองฟังดูก่อนแล้วกัน ฟังๆไว้บ้าง วันข้างหน้าจะได้บริหารงานแทนพ่อได้ไง”

    และด้วยประการฉะนี้ รินก็เลยต้องเอาเทปมาเปิดฟังในห้องนอนของเธอเอง กับฟรานเซียส และลอเรลที่อยากมีส่วนร่วมด้วย รินใส่เทปลงไปในวิทยุเครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว ก่อนจะกดปุ่มเล่นเทป

    เสียงเปียโนที่เป็นทำนองไพเราะชวนเคลิบเคลิ้มนำมาก่อน แต่แค่นั้นก็ทำให้รินรู้สึกขนลุกซู่... เพราะทำนองช้าๆแต่ไพเราะนั้นให้ความรู้สึกว่า ‘แบบนี้ล่ะใช่เลย’ มีไม่กี่เพลงที่ทำให้เธอฟังแล้วขนลุกขึ้นมาได้ ขนลุกเพราะทึ่งในความไพเราะของเพลงนี้...

    เสียงของวายุที่พัดผ่าน
    กับกลิ่นหอมหวนของบุปผา
    เศษใบไม้ที่ปลิวมา
    และใบหญ้าที่อ่อนนุ่ม
    สุริยันทอแสงเรือง
    เหมือนจะตกลับขอบฟ้าไป
    ช่วงเพลาแห่งความสงบ
    อยากจะอยู่แบบนี้ไปอีกนาน...
    นานเท่าที่จะทำได้ นานเท่าที่จะสามารถ...
    กาลเวลาเอ๋ย ช่วยเดินช้าอีกนิดจะได้ไหม
    ช่วยทำให้เวลานี้ไม่หมดไป
    ช่วยยื้อเวลาดีๆไว้ให้นาน.....ได้ไหม...

    “เพลงนี้... เสียงนี้...” ฟรานเซียสเอ่ยขึ้นช้าๆ ดวงตาสีดำของเขาเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึง

    “เพราะมาก เพลงนี้เพราะมากเลยเนอะ ถึงเนื้อเพลงนี่มันจะแปลกๆไปหน่อยก็เถอะ แต่เสียงคนร้องก็ใสชวนฟังมาก” รินร่ายยาว ขณะนี้เธอหลับตาลง ปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงเสนาะหู

    “เอมิลี่...”

    “หืม... ว่าอะไรนะ” รินลืมตาขึ้นมามองฟรานเซียส ใบหน้าของเขาดูตื่นตระหนกเอามากๆ

    และแล้วทันใดนั้นเองฟรานเซียสก็รีบเดินทะลุออกไปทางประตูทันที ไม่สนใจเสียงเรียกของรินมที่ร้องตามหลังมาว่า “เฮ้! จะไปไหนน่ะ!” แต่คิดว่าตอนนี้เขาคงไม่อาจได้ยินเสียงใดๆได้ไปชั่วขณะ นอกจากเสียงสะท้อนของบทเพลงที่ก้องอยู่ในหูของเขา และภาพของเด็กผมทองที่คุ้นเคย...เอมิลี่...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
    ตอนนี้สั้นสุดๆไปเลยล่ะ =[]="
    แต่เป็นตอนที่คิดนานที่สุดเลย เหอะๆๆ - - โดยเฉพาะเพลงนี่ลังเลอยู่นานว่าจะเอาไงกะมันดี แต่ในที่สุดก็เอาลงจนได้ นั่นก็เพราะว่ามันช่วยยืดความยาวของตอนนี้ให้ยาวยิ่งขึ้น เหอะๆๆ -__,-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×