ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Immortal Wand คทากวนป่วนสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 19: อมเรศ และปริศนาของลูกอม

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 49


    บทที่ 19: อมเรศ และปริศนาของลูกอม [อัพครั้งแรก 30 พ.ย. 2549 เวลา 21.53น.]

    “หา! ว่าอะไรนะ!” รินตะโกนถามเสียงดัง ฟรานเซียสถึงกับยกมือขึ้นมาอุดปากของเด็กสาว

    “ฉันบอกว่า รู้ สึก ถึง พลัง แห่ง เทพ” ฟรานเซียสเน้นทีละคำอย่างชัดเจน ก่อนจะปล่อยมือออกจากปากของริน ที่ตอนนี้กำลังอึ้งกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้

    “นอกจานายแล้วยังมีเทพอยู่ในโรงเรียนนี้อีกด้วยเรอะ” รินเอ่ยถามอย่างตื่นตะลึง

    “ฉันเพิ่งจะรู้สึกถึงพลังแห่งเทพเมื่อครู่นี้เอง คงจะเพิ่งมาถึงล่ะมั้ง ไม่ได้อยู่มาก่อนหรอก” ฟรานเซียสตอบอย่างครุ่นคิด

    “นั่นมันใช่ประเด็นที่ไหนล่ะ ปัญหาคือเทพที่ว่านั่นมาที่นี่ทำไมกัน” รินพูด พลางใช้สมองที่ไม่ค่อยจะได้ใช้คิดถึงจุดประสงค์ของเทพปริศนาผู้มาเยือน ถ้าคิดจะมาช่วยเหลือ ก็น่าจะปรากฏตัวให้เห็นแล้วไม่เห็นต้องทำลับๆล่อๆ แต่ถ้าจะมาขัดขวางล่ะ...

    มีตัวปัญหาเพิ่มมาอีกแล้วสิ...

    รินเริ่มเล็งเห็นถึงความยุ่งยากและปัญหาที่จะตามมาเป็นพรวนในอนาคตอันใกล้ เด็กสาวทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

    “สัมผัสพลังเทพนั่นหายไปแล้วล่ะ” ฟรานเซียสเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ผิดกับรินที่ขมวดคิ้ว ทำหน้าเครียดหนักขึ้นไปอีก

    “หมายความว่าไง หายไปแล้วน่ะ”

    “หายไปแล้วก็คือหายไปแล้วนั่นแหละ ไม่มีความหมายอย่างอื่นหรอกน่า”

    “อะไรหายไปแล้วเหรอคะ” เสียงหวานๆเอ่ยแทรกขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาของทั้งคู่ และไม่นานหลังจากนั้นตัวต้นเสียงก็มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

    “ลูกกวาด!” ทั้งรินและฟรานเซียสประสานเสียงพร้อมกันอย่างคาดไม่ถึง ที่จู่ๆลูกกวาดก็มาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า เธออยู่ในชุดนักเรียน และรวบผมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนเด็กมัธยมปลายทั่วไป ไม่เหลือเค้าของศิษย์อันดับหนึ่งของชุษณะที่เป็นนักสืบมือหนึ่งของโลกต่างมิติแม้แต่น้อย

    “มาได้ไงเนี่ย” รินเอ่ยถามอย่างงงงวย

    “แหม ก็ต้องมาเรียนเหมือนกันนี่นา” ลูกกวาดตอบ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวใกล้ๆ “ว่าแต่อะไรหายเหรอคะ”

    จากนั้นรินและฟรานเซียสก็ตั้งต้นเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ลูกกวาดฟัง เธอรับฟังอย่างเงียบๆโดยไม่เอ่ยขัดจังหวะแม้แต่น้อย จนกระทั่งเล่าจบเธอก็พูดเพียงแค่ว่า “จะไปรายงานอาจารย์ให้นะ” แล้วก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ทั้งสองทำหน้างงระคนไม่พอใจที่ลูกกวาดไม่ได้วิเคราะห์หรือแสดงความคิดเห็นอะไรให้ฟังเลย

    “อะไรของเขานะ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป” รินบ่นอย่างหงุดหงิด ในขณะที่ฟรานเซียสเห็นด้วยในใจอย่างเงียบๆ

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    ขณะเดียวกันนั้นเอง รถ BMW สีดำที่คุ้นตาก็จอดลงตรงหน้าอาคารเรียนของโรงเรียนริชเนสคอนแวนต์ สาวน้อยร่างบางที่เป็นถีงนักร้องวัยรุ่นชื่อดังของประเทศกำลังก้าวลงจากรถคันหรู และอีกตามเคย...

    “นี่ๆดูนั่นสิ!”

    “ไหนๆ”

    “ก็นั่นไงล่ะ เธอคนนั้นไง คนที่สวยๆน่ะ”

    “น่ารักจัง”

    เสียงซุบซิบเสียงดังของเด็กนักเรียนทั้งหลาย เหมือนอย่างปกติธรรมดาทุกวัน นิลถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเต็มที ทำไมยังไม่ชินกันอีกนะ

    “เธอคนนั้นเป็นใครกันน่ะ”

    “นักเรียนใหม่เหรอ สวยน่ารักจังเลย”

    เอ๊ะ... แต่ทำไมเสียงซุบซิบมันเริ่มแปลกๆ นิศาเริ่มสงสัย ไม่น่าจะมีคนที่ยังไม่รู้จักเธอนะ ไม่ใช่ว่าเธอหลงเข้าข้างตัวเองคิดว่าตัวเองดังหรอกนะ แต่เธอดังจริงๆนี่

    ด้วยความสงสัยเด็กสาวจึงหันไปมองกลุ่มคนที่ซุบซิบกันอยู่ สายตาของพวกนั้นไม่ได้จับจ้องอยู่ที่เธอแต่มองทอดไปด้านหน้าเธอ นิศารีบมองตามสายตาของพวกเขาไป และเธอก็รู้ทันทีว่าคนที่พวกเขาพูดถึงนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นเด็กสาวร่างเล็ก ผมหยักศกที่ยาวเกือบถึงเอว ถึงแม้จะมัดรวบไว้แล้วแต่ก็ยังยาวมากอยู่ดี ผิวสีแทน อยู่ในเครื่องแบบมัธยมปลาย ไม่เห็นหน้าเพราะเด็กคนนั้นหันหลังให้เธออยู่ แต่คิดว่าคงจะสวยมากแน่ๆไม่งั้นคงไม่มีคนให้ความสนใจมากขนาดนี้หรอก ไปดูหน้าหน่อยดีกว่าว่าจะสวยขนาดไหน...

    คิดได้ดังนั้นแล้วเธอก็ไม่รอช้า รีบเดินตามไปจนเดินนำเด็กสาวคนนั้นเล็กน้อยแล้วแอบเหลือบสายตามองเพื่อที่จะไม่ให้เจ้าตัวสงสัย แต่แล้วก็ต้องหันขวับไปมองหน้าเธอคนนี้ให้ชัดๆอีกที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง เพราะเด็กสาวคนนี้สวยมากถึงมากที่สุด!

    ทั้งดวงตากลมโตสีดำขลับชวนหลงไหล ริมฝีปากบางสีกุหลาบตามธรรมชาติ จมูกที่รับกับใบหน้ารูปไข่ สองแก้มที่เนียนเกลี้ยงโดยไม่ได้แต่งเติมเครื่องสำอาง ผมหยักศกสีดำที่ยาวเกือบถึงเอวนั่นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์น่ามองมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เธอเองจะเป็นผู้หญิงด้วยกันแต่ก็ยังอดที่จะชื่นชมไม่ได้ นี่สิน่ะที่เขาเรียกว่าสวยจนชวนตะลึง...

    รู้สึกเหมือนอยากจะมองนานๆไม่ให้คลาดสายตาไปไหน...

    นิศามองดูเธอคนนั้นอยู่นานจนเด็กสาวเริ่มรู้สึกตัวและหันมาสบตาเป็นเชิงถามว่า ‘มองทำไม’ นั่นทำให้นิลเรียกสติของตัวเองกลับมาได้ และรีบสั่นศีรษะไล่ความคิดทั้งหลายออกไปจากหัว

    เผลอเสียมารยาทไปจนได้... เธอคิดอย่างโกรธตัวเอง แต่ก็ไม่วาย หันไปมองเด็กสาวคนนั้นอีกที เพื่อจะดูชื่อที่ปักอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย

    ‘อมเรศ อัจจิมาสกุล’

    ชื่อเพราะด้วย... ต้องจดไว้... ว่าแล้วก็รีบควานหาสมุดกับปากกาในกระเป๋าทันที และรีบจดชื่อนั้นไว้เพราะกลัวจะลืม

    “สงสัยว่าวันนี้จะต้องไปปรึกษากับรินซักหน่อยแล้วสิ” นิศาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    “หือ อะไรนะ อยากให้คนที่ชื่ออมเรศมาเป็นนักร้องในค่ายคีตามิวสิคงั้นเหรอ... คะ” รินเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าอย่างงุนงง

    “ใช่ค่ะ รินยังไม่เคยเห็นอมเรศใช่ไหมล่ะคะ ถ้าเคยเห็นแล้วต้องไม่ถามแบบนี้แน่นอน” นิศาเอ่ยตอบอย่างเป็นนัยน์ ยิ่งทำให้รินขมวดคิ้วสงสัยเข้าไปอีก นิลเห็นดังนั้นจึงพูดต่อว่า “ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองถึงจะเข้าใจค่ะ”

    “อืม... ไม่รู้สิ ต้องลองถามพ่อดูก่อน” รินตอบอย่างครึ่งๆกลางๆเพื่อไม่ให้ผูกมัดตัวเอง

    “งั้นเดี๋ยวกลางวันนี้จะพาไปดูตัวเป็นๆของอมเรศนะคะ ตกลงตามนี้นะคะ” นิศาพูดเองเออเอง แล้วรีบเดินจากไปทันทีโดยไม่รอคำตอบ

    “อะไรของเขาเนี่ย จู่ๆก็มายัดเหยียดนักร้องให้ แล้วก็ไป” รินบ่นพึมพำ พลางหันไปสนใจการบ้านที่ทำค้างไว้ต่อ ส่วนฟรานเซียสนั้นนั่งอมลูกอมฮาร์ทบีทของเมื่อเช้าอยู่โดยไม่สนใจใคร และดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่คนเดียว

    “หึ นั่งอมลูกอมสบายใจเชียวนะ” รินบ่นอีกครั้งพลางเหลือบตาไปมองคนที่เธอกำลังพูดถึงอยู่... ลูกอมที่บัดดี้ของฟรานเซียสให้มา... บัดดี้ให้มางั้นเรอะ... เฮ้ย!

    ก็... เธอเองนี่นาที่เป็นบัดดี้ของฟรานเซียส แล้วเธอก็ยังไม่ได้ซื้ออะไรให้ฟรานเซียสเลย ไม่ได้ซื้อลูกอมนั่นให้ด้วย!

    แล้วใครล่ะที่เป็นคนให้ลูกอมนั่น!

    ต้องมีใครซื้อมาให้มันแน่ๆแล้วแอบอ้างชื่อเธอ! รึว่าจะเป็นลอเรล...

    “ข้าไม่ได้เป็นคนซื้อลูกอมนั่น!”

    เสียงตอบกลับของลอเรลดังขึ้นในหัวของรินอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่สิงอยู่ในคทาจะอ่านความคิดเธอเงียบๆมานานแล้ว พอถูกพาดพิงถึงก็โวยขึ้นมาทันทีอย่างลืมตัว...

    “แฮะๆ ข้าขอโทษ”

    เสียงลอเรลตอบกลับมาอีกอย่างรู้สึกผิด เอาเถอะ ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาเอาความกับผู้อาวุโสที่ไร้มารยาท... เธอต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่ซื่อลูกอมแล้วอ้างชื่อบัดดี้นั้นเป็นใครและ...

    มีจุดประสงค์อะไร!

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
    อัพแล้ว! (เลิกทวงได้แล้วนะไอ้ไข่ โทรมาทวงจังเลยวุ้ย - -")
    เรื่องบัดดี้นี่มาจากประสบการณ์จริง ตอนที่เล่นบัดดี้ แล้วเพื่อนมันเอาโบผูกผมมาให้บอกว่า "บัดดี้ฝากมา" ขณะที่คนที่เป็นบัดดี้ตัวจริงนั้นนั่งอยู่ข้างๆทำหน้างงๆ ตอนหลังบัดดี้ตัวจริงมันมาบอกว่า "โบนั่นเราไม่ได้ให้นะ ยังงงๆอยู่เลยว่าใครให้" - -"
    แล้วพอไปถามเพื่อนคนที่เอามาให้มันบอกว่า "ไม่รู้ใครให้ มันฝากๆกันมา"
    จนถึงบัดนี้ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนให้มา = =" (โบนั่นเก็บรักษาไว้อย่างดี แต่ไม่กล้าเอามาใช้ เหอะๆๆ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×