คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 15: การทัศนศึกษา และแผนการของลอเรล
บทที่ 15: การทัศนศึกษา และแผนการของลอเรล [อัพครั้งแรก 13 พ.ย. 2549 เวลา 20.40 น.]
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์... ยังไม่มีอะไรคืบหน้า... ฟรานเซียสยังคงชอบเถียงกับรินเป็นประจำจนเป็นกิจวัตร และคู่กัดที่เพิ่มมาอีกก็คือลอเรล ผู้ทำหน้าที่ปกป้องผู้ปลดปล่อยสุดฤทธิ์ กระทั่งเถียงแทน และรู้สึกจะชอบหาเรื่องทะเลาะกับฟรานเซียสแม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างใครเป็นคนเดินนำ และฟรานเซียสยังต้องรับมือกับประธานนักเรียนนที ที่เดี๋ยวนี้ชอบบังเอิญโคจรมาเจอกันทุกวัน ทำให้เทพหนุ่มเจอศึกหนักรอบด้าน แม้เขาจะพยายามมองหาพันธมิตรเพียงคนเดียวของเขาซึ่งก็คือ “ลูกกวาด” แต่รู้สึกว่าสาวเจ้าจะหายไปเลยตั้งแต่วันปฐมนิเทศแล้ว
ส่วนเทพธิดาเรริน่า และสิ่งมีชีวิตในคทาอิมมอร์เทิล... ยังไม่เจอแม้แต่เงา...
“ไม่ใช่... ไม่ใช่... คนนี้ก็ไม่ใช่” เสียงพึมพำเบาๆของเด็กหนุ่มหัวแดง ที่ขณะนี้กำลังหลับตาเดินไปบนฟุตบาท ไม่สนใจสายตาจับจ้องของคนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา
“อ้ะ!” เด็กหนุ่มร้องออกมา เพราะว่า... เขาเห็นแล้ว! จิตวิญญาณสีขาวของเทพ! เขารีบลืมตาขึ้นมาดู แต่สิ่งที่เขาเห็นมันคือ...
“ยัยเตี้ย! อุ๊บ!” หลังจากพูดจบ ฟรานเซียสก็ถูกสิ่งของหนักๆ กระแทกเข้ากับใบหน้า... ไม่สิ กระแทกปากจังๆเลยต่างหาก สิ่งของนั่นก็คือ กระเป๋าเป้ในมือของเด็กสาวตรงหน้าที่กำลังหน้าแดงเพราะความโกรธ
“เหวี่ยงกระเป๋ามาได้ มันเจ็บนะ ว่าแต่มายืนดักหน้าทำไมล่ะ บอกให้เดินตามหลังไม่ใช่เรอะ ยัยเตี้ย! เฮ้ย!”
กระเป๋าพิฆาตถูกเหวี่ยงเข้าใส่อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเอี้ยวตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว
“ที่มาดักหน้านี่ ฉันจะบอกว่าถึงป้ายรถเมล์แล้ว และที่สำคัญ เลิกเรียกฉันว่ายัยเตี้ยสักทีสิวะ!” รินตอบกลับอย่างใจเย็นที่สุด แต่หน้าก็ยังแดงเพราะความโกรธอยู่ดี ในขณะที่พวงกุญแจรูปคทานั้นส่องแสงวิบวับเหมือนจะบอกว่า “ใช่! นายข้าไม่เตี้ยนะ แค่เจ้ากับข้าและคนในโลกมนุษย์นี้น่ะสูงเกินไปต่างหาก อย่างนายของข้าเขาเรียกว่ามาตรฐาน”
“หรือว่ามันไม่จริ...”
“ฟรานคุง!!!”
ฟรานเซียสยังพูดไม่ทันจบประโยคดีก็มีเสียงหวานๆอันแสนสยดสยองดังขัดขึ้นมาแต่ไกล
เด็กหนุ่มสะดุ้งโหย่ง ไม่ต้องหันไปมองเจ้าของเสียงก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร เขารีบกระโดดหลบไปอยู่ข้างหลังรินทันที พร้อมๆกับที่นกเพนกวินตัวโตวิ่งเสียหลักจนเกือบจะชนเด็กสาวที่ยืนขวางหน้าไว้ซะแล้ว... หรือจะพูดให้ถูกๆก็คือรอดจากบาทาของรินที่ยกขึ้นมาเตรียมพร้อม ‘ยัน’ ยังดีที่เบรกทัน
“น้อง เป็นสาวเป็นนางยกแข้งยกขาขึ้นมาแบบนี้มันไม่งามนะคะ” นทีเอ่ยสอนมารยาทกุลสตรีให้รินฟัง ก่อนที่ตนเองจะอ้อมไปด้านหลัง แล้วคว้าแขนฟรานเซียสมาเกาะไว้แน่น รินแอบพึมพำเบาๆว่า “แล้วพี่เป็นกุลสตรีมากเลยนะน่ะ”
“ฟรานคุง กลับบ้านทางนี้เหรอ พี่ก็กลับทางนี้เหมือนกัน ว่าแต่นั่งรถสายอะไรล่ะ”
“สาย xxx น่ะพี่” รินที่ยืนเป็นตัวประกอบรีบตอนแทน ก่อนจะถามต่อว่า “แล้วพี่วรรณไม่มาด้วยเหรอ”
“อีวรรณน่ะเหรอ มันก็นั่งดูบาสเล่นบาส คงจะกลับพร้อมกับบาสนั่นแหละ บาสแฟนมันน่ะ” นทีว่า ขณะนั้นนัยน์ตาของเธอก็มีประกายไฟลุกวูบวาบ (มีกิ๊กตั้งสามสิบคนแล้วยังจะอิจฉาเขาอีกเรอะ)
“บาส บาสไหนอ่ะพี่” เด็กสาวทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม
“ก็บาสที่ตัวสูงๆขาวๆ หน้าตาบ้องแบ๊ว เอ๋อหน่อยๆ ที่เป็นนักกีฬาโรงเรียนอ่ะ” นทีบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพ แต่รินก็ยังทำหน้างงอยู่ดี
“ช่างเถอะๆ เดี๋ยววันหลังก็เห็นเอง อ้อ เกือบลืมแน๊ะ” ประธานนักเรียนว่า พลางรีบเปิดกระเป๋า ก่อนจะหยิบกระดาษสองใบส่งให้ มันเป็นเอกสารแจ้งข่าวของทางโรงเรียน ที่รู้ได้ก็เพราะมันมีตราโรงเรียนประทับอยู่เด่นหรา
“สัปดาห์หน้า ม.4 จะต้องไปทัศนศึกษาเมืองโบราณที่จังหวัดสมุทรปราการ มีรุ่นพี่ ม.5 6 ในชมรมวิจัยประวัติศาสตร์ไปด้วย ที่จริงเขายังไม่ให้แจกหรอกนะ แต่ถ้าเป็นฟรานคุง พี่ยอม” นทีอธิบายแต่ก็ยังไม่วายหยอดใส่ฟรานเซียสอยู่ดี ส่วนเทพหนุ่มนั้นทำหน้างง เพราะไม่เข้าใจว่าทัศนศึกษามันคืออะไร
“ว้าย! รถมาแล้ว พี่กลับก่อนนะจ๊ะ บ้ายบาย จุ๊บๆ” เจ้าหล่อนโบกมือก่อนจะส่งจูบตบท้าย แล้วรีบกระโดดขึ้นรถเมล์ปรับอากาศสายหนึ่งไป
“สะ... สยองสุดๆ” ฟรานเซียสพึมพำพลางยกมือขึ้นปาดเม็ดเหงื่อบนใบหน้า ขณะนั้นเองเด็กสาวตัวเล็กข้างๆก็กำลังสนใจอ่านข้อความในใบกระดาษ
“ทัศนศึกษาเมืองโบราณงั้นเหรอ วันจันทร์หน้า ก็ดีจะได้ไม่ต้องเรียนไปอีกวัน” รินพูดอย่างยินดี ก่อนจะจัดแจงพับเอกสารอย่างลวกๆแล้วยัดใส่กระเป๋ากระโปรง
“ทัศนศึกษามันคืออะไรล่ะเนี่ย” เทพหนุ่มเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ก็การเที่ยวโดยโรงเรียนจะพาไปไง เดี๋ยวไปก็รู้เองล่ะ อ้ะ! รถมาแล้ว วิ่งเร็วสิ!” แล้วรินก็กระชากแขนฟรานเซียสให้รีบวิ่งไปขึ้นรถประจำทางที่มาถึงพอดี
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
“พี่ริน กลับมาแล้วเหรอ” เสียงใสๆของผู้เป็นน้องสาวเอ่ยต้อนรับพี่สาวที่พึ่งกลับถึงบ้าน
“เออดิ ไม่มาแล้วจะเห็นเรอะ ว่าแต่มีอะไรล่ะ ถึงได้ออกมายืนรอพี่หน้าบ้านเนี่ย” รินตอบก่อนจะถามกลับอย่างรู้ทัน
“แหม ไม่มีอะไรหรอกน่า น้องจะมายืนรอพี่บ้างไม่ได้รึไง” คำตอบของนิ ยิ่งทำให้รินสงสัยเข้าไปใหญ่
“แล้วไหงวันนี้กลับเร็วนักล่ะ ไม่ซ้อมแชร์บอลเรอะ”
“วันนี้งดซ้อมน่ะ พี่เขามานั่งในบ้านก่อนเหอะ มาเดี๋ยวช่วยถือกระเป๋า” ผู้เป็นน้องทำท่าจะมาแย่งกระเป๋าในมือ แต่รินรีบเอากระเป๋าหลบไปข้างหลังทันที
“พี่ถือเองได้น่า” รินว่า ก่อนจะรีบเดินเข้าบ้านไปทันที พลางครุ่นคิดว่าวันนี้น้องสาวของเธอนั้นมีอาการแปลกพิกล...
...กระเป๋านั่น... มีอะไรรึเปล่านะ นิคิดในใจอย่างสงสัย...
ตอนแรกนั้น เธอแอบดักซุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้ เห็นพี่สาวนั้นเหมือนกำลังพูดคุยกับใครอยู่หน้าบ้านทั้งๆที่ยืนอยู่คนเดียว จะว่าคุยโทรศัพท์ก็ไม่ใช่ พี่ของเธอไม่เคยมีมือถือ แล้วพอเธอปรากฏตัวขึ้น พี่รินก็ทำหน้าตายเหมือนกับไม่มีอะไร... แล้วไอ้อาการหวงกระเป๋าไม่เข้าท่านั่นอีก...
รึว่า... เธอจะคิดมากไปเองรึเปล่า?
วันนี้เธอลงทุนโดดซ้อมแชร์บอลก็เพื่องานนี้โดยเฉพาะล่ะ แต่คิดอีกที มันดูจับผิดมากไปล่ะมั้ง คราวหน้าต้องทำให้เนียนกว่านี้...
นิภาพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน เพื่อทำการดักฟังต่อ
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
“ทัศนศึกษาหรือขอรับ” น้ำเสียงนุ่มๆของคนผมสีน้ำเงินแกมม่วงเอ่ยอย่างครุ่นคิด
“อืม มีอะไรเรอะคุณลอเรล” รินที่ขณะนี้อยู่ในชุดนอนแล้วถามต่อเสียงเบา ตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว คาดว่านิคงจะนอนหลับไปแล้ว เลยพูดเสียงเบาเพื่อไม่ให้ดังไปรบกวนโสตประสาทของน้องสาว
“คือว่า ข้าคิดแผนดีๆออกแล้วขอรับ” ลอเรลตอบกลับ นัยน์ตาสีเขียวดุจมหาสมุทรเปล่งประกายกล้า
“แผน? แผนที่จะหาเรริน่า หรือหาคทาล่ะ” ฟรานเซียสเอ่ยถามบ้าง
“ก็ทั้งสองอย่างน่ะแหละขอรับ” ชายหนุ่มที่มีอายุมากกว่าร้อยล้านปีตอบอย่างมีเลศนัย
“งั้นทำไงล่ะ บอกมาสิ อมพะนำอยู่นั่นล่ะ” เทพหัวแดงบอกอย่างใจร้อน
“จะใจร้อนไปทำไมล่ะเจ้าน่ะ ข้าพูดไม่ได้อยู่แล้วจนกว่านายของข้าจะบัญชา” ลอเรลตอบอย่างยียวน ตั้งใจจะกวนโมโหฟรานเซียสโดยเฉพาะ เทพหนุ่มหน้าแดงเพราะชักจะเดือดขึ้นมานิดๆ
“แผนคุณคืออะไรล่ะ คุณลอเรล” รินเห็นท่าไม่ดีรีบพูดขัดขึ้นก่อน... ไม่ใช่เพราะกลัวทั้งสองจะทะเลาะกัน แต่กลัวว่าถ้าทั้งสองทะเลาะกัน เธอจะอดฟังเรื่องสำคัญต่างหาก
“ได้ขอรับ ข้าคิดว่าจะพาท่านไปหาคนคนหนึ่ง เขาเป็นสหายของข้าที่อยู่อีกมิติหนึ่ง ข้าว่าเขาคงช่วยตามหาเทพธิดาเรริน่าให้ได้ ส่วนคทาไทม์ โฮนนั้น ข้ามั่นใจว่าเขาจะหาเจอ”
“แล้วเขาที่ว่านั่นมันใครล่ะ”
“เขาผู้นั้นมีนามว่า...”
“ชุษณะ”
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
อัพแล้ว!
ชุษณะ คือใครน้า... เหอะๆๆ
รอ...อ่าน...ตอน...ต่อ...ไป
แล้วกันนะ ^ ^!
ความคิดเห็น