คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 13: หาเจอแล้ว! งั้นเรื่องนี้ก็จบแค่นี้งั้นเรอะ?
บทที่ 13: หาเจอแล้ว! งั้นเรื่องนี้ก็จบแค่นี้งั้นเรอะ? [อัพครั้งแรก 29 ต.ค. 2549 เวลา 19.25น.]
กริ๊งงงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงง
เสียงโทรศัพท์บ้านรุ่นเก่าแก่ดังมาจากทางห้องนั่งเล่น
“เดี๋ยวนิศาขอไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” เด็กสาวเจ้าของบ้านพูดขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป ทิ้งให้ผู้มาเยือนยืนสูดกลิ่นหอมของอาหาร น้ำลายแทบย้อยด้วยความอยากกิน
ต่อมาไม่นาน นิศาก็วิ่งกลับมาพร้อมกับบอกว่า “คุณฟรานเซียสโทรมาน่ะค่ะ เขาขอคุยกับคุณ”
หือ... โทรมา... แล้วเจ้านั่นจะโทรมาทำไมเนี่ย... รินคิดอย่างงงๆ แต่ก็รีบวิ่งไปรับสาย
“ฮัลโหล นายอยู่ไหนน่ะ” เด็กสาวรีบถามทันที
“ฉันเจอคทาแล้ว รีบออกมาจากบ้านนั่นซะ แค่นี้นะ” เสียงปลายสายตอบกลับมาสั้นๆง่ายๆ ก่อนจะวางหูไปอย่างรวดเร็ว
หาเจอแล้ว!! หมายความว่าเจอแล้ว.... เจอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเรอะ?
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานๆของนิศาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“เอ่อ รินต้องกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ พ่อเรียกพบน่ะค่ะ” รินว่า “ขอโทษด้วยนะคะ ที่อยู่กินข้าวเย็นด้วยไม่ได้น่ะค่ะ” ที่จริงก็เสียดายอยู่นิดๆ ไม่น่าหาเจอเร็วเลย จะได้ลาภปากซะหน่อย... เสียดายจังวุ้ย...
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่างเมื่อไหร่เชิญใหม่ได้นะคะ” เด็กสาวเจ้าของบ้านพูดอย่างใจดีพร้อมส่งยิ้มหวานให้...
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอตอบกลับไป ก่อนจะรีบเร่งออกจากคฤหาสน์หลังงามตรงกลับบ้าน...
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ขณะเดียวกันนั้นเอง ที่ห้องกระจายข่าวสารของโรงเรียนริชเนสคอนแวนต์
พวกสภานักเรียนกำลังนั่งรวมหัวเม้าท์ เอ้ย! นั่งรวมหัววางแผนถึงการเลือกตั้งสภานักเรียนปีหน้า โดยที่เจ้ารักษาการณ์ประธานนักเรียนกำลังบ่นๆกับรองประธานถึงเรื่องที่จะไม่ลงสมัครอีกแล้ว
“เป็นสภานักเรียนแมร่งเหนื่อยอ่ะ ปีหน้าฉันไม่เอาแล้วนะยะ แมร่งงานเยอะ....”
ขณะที่นทีกำลังบ่นๆกับวรรณอยู่นั้น จู่ๆเด็กสาวรองประธานฯก็ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทำเอาพวกคณะกรรมการนักเรียนที่กำลังสุ่มหัวหันมามองเธอเป็นตาเดียว
“อีนี่ จู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นมาเลยนะยะ เป็นอะไรไปอีกยะ” เสียงแว้ดๆของเพื่อนชาย... รึเพื่อนสาว... เอ้อ ช่างมันก่อนแล้วกัน
“เปล่า ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ ปวดขี้” ว่าแล้ววรรณก็รีบวิ่งออกไปจากห้องด้วยใบหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา ทั้งๆที่อยู่ในห้องแอร์
“สงสัยแมร่งท้องเสีย” ประธานนักเรียนเอ่ยปิดท้าย ก่อนที่พวกกรรมการนักเรียน(ที่สภาพใกล้เคียงกับกรรมกร)จะนั่งทำงานต่อไป
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
เวลาพลบค่ำ ณ คฤหาสน์ของตระกูลธนาวาริน
เจ้าของบ้าน นายหญิง กำลังดูข่าวภาคค่ำเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองพร้อมกับแสดงความคิดเห็นอย่างถึงพริกถึงขิงถึงข่าถึงตะไคร้ บุตรสาวคนเล็กกำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงคุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วยพลางหัวเราะคิกคัก สมาชิกในบ้านนั้นต่างหารู้ไม่ว่า บุตรสาวคนโตที่ลักลอบเอาวัตถุลึกลับเข้ามาในบ้าน กำลังสมรู่ร่วมคิดกับเทพบุตรตรวจสอบสิ่งของสิ่งนั้นอยู่ในห้องนอน...
“นายแน่ใจเหรอว่านี่น่ะ คทาของแท้” เด็กสาวเจ้าของห้องเปิดประเด็น เธอนั่งอยู่ตรงปลายเตียงพลางจ้องดูพวงกุญแจแปลกตาในมือ
“ก็ น่าจะใช่ ฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่สัมผัสได้ถึงพลังของคทา” เทพหนุ่มผู้สมรู้ร่วมคิดบอกอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เขานั่งเท้าคางอยู่ตรงโต๊ะคอมพิวเตอร์ ดวงตาคมๆทั้งสองข้างมองพวงกุญแจในมือของรินไม่วางตา
“หืม... แล้วจะพิสูจน์ยังไง... อ้ะ!” รินทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก เธอวางพวงกุญแจของในอุ้งมือซ้าย ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา ใช้นิ้วชี้ถูคทาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เฮ้ย! เธอทำอะไรน่ะ!” ฟรานเซียสร้องขึ้นอย่างตกใจ ขณะที่สปริงตัวขึ้นจากเก้าอี้แล้วไปแย่งพวงกุญแจนั่นมาจากเงื้อมือของเด็กสาว
“เอ้า ก็ลองถูดูไง เผื่อจะมีภูตออกมาเหมือนตะเกียงวิเศษของอะลาดิน” รินตอบกลับอย่างชัดเจน ทำเอาเทพหัวแดงกุมขมับ
“มันจะไปมีได้ยังไงกะ... เหวอ!” เทพหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องสะดุ้ง เมื่อสังเกตเห็นแขกไม่ได้รับเชิญยืนอยู่ข้างๆเขา
ชายหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ข้างๆเขา ผมตรงยาวถึงกลางหลังสีน้ำเงินอมม่วงดูแปลกตา ดวงตาคมมีแววเจ้าชู้นิดๆ นัยน์ตาสีเขียวเหมือนน้ำในมหาสมุทร ปากเรียวบางยิ้มน้อยๆอย่างอารมณ์ดี คิ้วเข้ม จมูกเล็กแต่ก็รับกับใบหน้าเรียวได้รูปของเขา ดูอายุราวๆสิบเก้าถึงยี่สิบ รูปร่างถูกปกปิดอยู่ในผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำยาวกร่อมเท้าที่ชายผ้าขาดวิ่นเล็กน้อยดูเซอร์ดี
“มีภูตอยู่จริงๆด้วยแฮะ” เด็กสาวคนเดียวในห้องทำตาโตอย่างทึ่งๆ ทั้งๆที่เธอลองถูดูเล่นๆ ไม่คิดเลยว่าจะออกมาจริงๆ ส่วนเทพหนุ่มนั่นยืนทำหน้าเหวออ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
ชายหนุ่มปริศนาคนนั้นโค้งคำนับให้ริน ก่อนจะกล่าวแนะนำตัว “ข้ามีนามว่า ลอเรล ท่านผู้ปลดปล่อย ท่านมีนามว่าอันใดหรือ”
“เอ่อ... รินนภา แต่เรียกรินดีกว่า ว่าแต่คุณเป็นภูตที่อยู่ในคทานี่จริงๆเรอะ” เด็กสาวเอ่ยถามต่ออย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่
“หามิได้ ข้ามิใช่ภูต แต่ข้าอยู่ในคทาจริง แต่มิใช่คทาอันนี้” เสียงนุ่มทุ้มดูอบอุ่นกล่าวตอบ
“หมายความว่าไงที่ว่าอยู่ในคทาจริง แต่ไม่ใช่คทาอันนี้” ฟรานเซียสที่หายอึ้งแล้วเอ่ยถามทันที
“ก็หมายถึง ข้าเป็นเอ่อ... สิ่งมีชีวิต... ที่อาศัยอยู่ในคทาไทม์-โฮน(Time-Hone) แต่มิใช่คทาอันนี้” สิ่งมีชีวิตนามลอเรลเฉลยไข
“เดี๋ยวนะ... คทาไทม์-โฮน นี่ไม่ใช่คทาอิมมอร์เทิลหรอกเรอะ” รินเริ่มสงสัย... ชักมีอะไรในกอไผ่แล้วสิ...
“หาไม่ นี่คือคทาอิมมอร์เทิลขอรับ”
“อ้าว!” เด็กสาวและเทพหนุ่มอุทานพร้อมกันอย่างงงงวย
“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ท่านช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม” ฟรานเซียสเอ่ยขอ
“คงจะมิได้ขอรับ หากท่านผู้ปลดปล่อยไม่อนุญาติ” สิ่งชีวิตผมสีฟ้าอมม่วง มองมาที่รินซึ่งกำลังทำหน้าเหวอๆ
“ผู้ปลดปล่อย... ฉันเรอะ?” รินชี้มือมาที่หน้าตัวเอง เพื่อจะขอคำยืนยัน ลอเรลพยักหน้าหงึกๆ เป็นอันว่าชัวร์...
“เอ้อ... งั้น... เล่ามาสิ” รินออกคำสั่งอย่างเกรงๆ
“ขอรับ” ชายหนุ่มรับคำก่อนจะกล่าวต่อ “เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ถึงยัยวรรณ ยกโทษให้ฉันด้วยที่ต้องบอกว่าแกปวดขี้ =_/\_= หมดสวยเลย (แต่แกก็ชอบพูดประโยดนี้บ่อยๆนี่หว่า)
อ้อ แล้วก็ ขอคุณท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านนะคะ ^ ^"
ความคิดเห็น