คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11: ความบังเอิญ(รึจงใจ?)
บทที่ 11: ความบังเอิญ(รึจงใจ?) [อัพครั้งแรก 18 ต.ค. 2549 เวลา 11.05 น.]
"เอาล่ะ ผลโหวตได้ออกมาดังนี้" เด็กสาวร่างสูงคนหนึ่งในห้อง ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกจำเป็นเอ่ยขึ้น พลางเขียนยุกยิกๆบนกระดานว่า...
หัวหน้าห้อง เวคิน วีระมรุต (คิน)
รองหัวหน้าฯ นิศา ศุภางค์ทรัพย์ (นิล)
เหรัญญิก ฟรานเซียส ????? (???)
"หืม... เฮ้ย!!!" รินที่กำลังนั่งตาปรือหนังตาหย่อนใกล้จะหลับ กลับตื่นเต็มตาทันทีที่เหลือบไปเห็นรายชื่อบนกระดาน "ตายห่-าแล้ว เฮ้ย ฟรานเซียส ตายห่-าแน่ๆ"
เด็กสาวรีบสะกิดเด็กหนุ่มหัวแดงที่โต๊ะข้างๆ ทว่าไม่มีเสียงตอบกลับ สาวเจ้าหันควับไปดู พบว่าว่าที่เหรัญญิกของห้องนั้นไม่ได้สนใจการโหวตบนกระดานเลยแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งสองข้างของฟรานเซียสจ้องเขม็งไปที่เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่ง... ซึ่งเธอคนนั้นก็คือ...
...เฮ้ย! นิศา นักร้องในค่ายเพลงของพ่อนี่หว่า... ตายห่-าล่ะ อยู่ห้องเดียวกะตูอีก อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ฟะ... อย่าบอกนะว่าชื่อบนกระดานนั้นก็คือนิศาคนนี้... รินเริ่มคิดฟุ้งซ่านในใจ พลางกล่าวโทษความบังเอิญ
"เฮ้ย! ไอ้หัวแดง มองเขาทำไม ชอบเขาเรอะ" เด็กสาวเอ่ยถามฟรานเซียส แถมประโยคเดาตอนท้าย ทำเอาคนหัวแดงสะดุ้ง
"ยัยเตี้ย ไม่รู้เรื่องก็เงียบปากไปเลย" เด็กหนุ่มเถียงกลับ หน้าแดงเถือกด้วยความอายหรือความโกรธก็ไม่ทราบแน่ชัด
ผัวะ!!!
รินใช้ฝ่ามือตบอย่างหนักหน่วงไปที่กลางหลังของเทพเคราะร้ายที่จะตายเพราะปาก
"อุ๊บ!!! มันเจ็บนะยัยบ้าแรงกระบือ" ฟรานเซียสร้องโอดโอยเพราะไม่ทันร่ายเกราะป้องกันกันไว้
"ใครให้เรียกฉันว่ายัยเตี้ยล่ะ ฉันไม่เตี้ยนะเฟ้ย แค่สูงน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง" เด็กสาวว่า "ว่าแต่นายมองเขาทำไมล่ะ"
"ก็..." เด็กหนุ่มทำท่าป้องปากจะกระซิบ "ก็ฉันรู้สึกถึง..."
"ฟรานเซียส นายนามสกุลอะไรเหรอ" เด็กสาวผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกเอ่ยถามขัดจังหวะเสียก่อน
"เอ่อ... นามสกุล..." หนุ่มหัวแดงทำหน้างงงวย เนื่องจากว่าบนสวรรค์มีแค่ชื่อชื่อเดียว ไม่มีพวกนามสกุลหรือชื่อเล่น
"ธนาวาริน เอ้อ... เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ" รินที่เห็นท่าจะไม่ดีเอ่ยโพล่งขึ้นมา
...ได้ญาติเพิ่มอีกคน... แถมเป็นเทพอีกต่างหาก... ถ้าใครรู้เรื่องเข้าตระกูลเธอคงดังน่าดู...
ถึงตอนนี้สายตาของคนทั้งห้องจับจ้องมาที่เธอ...
หือ... พูดอะไรผิดเรอะ... หรือว่าเทพหัวแดงนี่ดูไม่น่าเป็นญาติกะฉันได้ จริงอยู่ที่มันหัวแดงเหมือนลูกครึ่งแต่หน้าตาก็ดูไม่ออกนี่นาว่าคนไทยหรือต่างชาติ... นี่ถ้าโดนจับได้ขึ้นมาจะเป็นอะไรไหมนี่... ต้องโดนสาปรึเปล่าเนี่ย... รินเริ่มคิดเพ้อเจ้อไปถึงไหนต่อไหน... และคงจะคิดไปถึงนอกกาแลคซี่ทางช้างเผือก ถ้าไม่มีคนถามขึ้นก่อน
"พวกเธอเป็นอะไรกับเจ้าของค่ายเพลงคีตามิวสิคอ่ะ" เด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งข้างๆถามขึ้นอย่างสงสัย
"หา? เอ้อ! ก็...เป็นลูกสาว และนี่ก็เอ่อ...หลานชาย" รินแหลสดขึ้นมา พลางตีหน้าซื่อได้แนบเนียนสุดๆ
...นึกว่าอะไร เฮ้อ... โล่ง... เด็กสาวลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
"งั้น ขอเชิญ ทั้งสามคนออกมาหน้าห้องเลยค่า มาแนะนำตัวกับเพื่อนๆหน่อย" โฆษกจำเป็นของห้องเอ่ยขึ้น
บุคคลสามคนลุกขึ้นจากโต๊ะก่อนจะเดินออกไปเรียงแถวหน้าห้อง
"ผมเวคิน วีระมรุต จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ" ผู้เป็นหัวหน้าห้องเอ่ยแนะนำตัว... ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กหนุ่มหน้าหล่อขี้เก๊กที่อบรมมารยาทให้ฟรานเซียสนั่นเอง... คงได้คะแนนท่วมท้นจากเหล่าสาวๆอย่างไม่ต้องสงสัย
"ดิฉันนิศา ศุภางค์ทรัพย์ ขอฝากตัวด้วยนะคะ" สาวน้อยนักร้องผู้โด่งดังเอ่ยแนะนำตัว... ซึ่งไม่ต้องแนะนำทุกคนก็คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว ก่อนจะส่งยิ้มหวานสำเร็จรูปให้ทุกคนในห้อง เล่นเอาหนุ่มๆหลายคนใจละลาย
"เอ่อ ฟรานเซียส ธนาวาริน จะพยายามทำเต็มที่" เด็กหนุ่มหัวแดงคนสุดท้ายเอ่ยขึ้นห้วนๆ ถึงจะบอกว่าจะพยายามทำให้เต็มที่ก็เถอะ แต่เจ้าตัวยังไม่รู้เลยว่าเหรัญญิกน่ะ มันคืออะไร?
ว่าแต่คนในห้องมันคิดอะไรกันนะถึงเลือกเจ้านี่เป็นเหรัญญิกเนี่ย...
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....
"เฮ้ย เร็วๆหน่อยดิ เดี๋ยวไม่มีข้าวกิน" เสียงเร่งของเด็กสาวดังขึ้น ขณะที่เธอและฟรานเซียสรีบรุดไปยังโรงอาหารพร้อมกับคนทั้งโรงเรียน ที่ต่างก็เดินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ไม่ถึงกับวิ่ง ดูราวกับเป็นการแข่งเดินมาราธอนก็ไม่ปาน
"ร้านข้าวแกงมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า" ฟรานเซียสที่เดินตามหลังเถียงกลับคนตัวเล็กที่เดินนำอยู่ข้างหน้า... ตัวเตี้ยขาก็สั้น ทำไมเดินเร็วนักฟะ...
ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงโรงอาหารที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน ขนาดว่ามาเร็วแล้วนะคนยังเยอะขนาดนี้ ถ้ามาช้ากว่านี้สักสองสามนาทีคงต้องอดมื้อเที่ยงเป็นแน่
ยัยรินรีบไปต่อแถวร้านขายข้าวแกงร้านหนึ่งที่แถวสั้นที่สุด เพราะกำลังหิวจัดอาหารจะอร่อยหรือไม่ก็ช่างขอให้ได้กินไวๆเป็นพอ ส่วนฟรานเซียสก็เดินมาต่อหลังเด็กสาวอีกที ที่จริงเทพไม่จำเป็นต้องกินก็อยู่ได้ แต่ไหนๆก็ลงมาโลกมนุษย์แล้ว ไม่ลองกินอาหารของชาวโลกก็มาเสียเที่ยวแย่
ผ่านไปสิบนาที...
"เฮ้อ ได้กินซะที คนเยอะจริงๆ" รินบ่นพลางทรุดตัวนั่งลงที่โต๊ะว่างในโรงอาหาร ก่อนจะเริ่มลงมือกินข้าวราดแกงเขียวหวานกับไข่เจียว ฟรานเซียสก็นั่งลงตามแต่ยังไม่ลงมือกินข้าวราดแกงมัสมั่นไก่ที่อยู่ตรงหน้า
"ไม่กินล่ะ รีบๆกินซะเดี๋ยวหมดเวลาพักซะก่อน ว่าแต่... เอาเงินที่ไหนจ่ายให้เขาล่ะเนี่ย" เด็กสาวเอ่ยเตือนตอนแรกก่อนจะซักถามข้อข้องใจ
"ฉันก็เสกเอาน่ะสิ... ฉันเสกเงินใช้เองได้แต่เสกให้มนุษย์ใช้ไม่ได้" เทพหนุ่มพูดต่อเมื่อเห็นรินทำท่าจะอ้าปากถาม
"ว้า... ไร้ประโยชน์สิ้นดี" รินว่าอย่างเสียดาย ก่อนจะตักข้าวใส่ปากคำใหญ่
"เอ่อ สวัสดีค่ะ รินนภา จำนิศาได้ไหมคะ" เสียงหวานๆของสาวร่างงามนามว่านิศา เอ่ยทัก รินรีบกลืนข้าวที่คำโตที่ยัดใส่ปากไปเมื่อครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง
"เอ่อ... จำได้สิ มีอะไรเหรอ...คะ" เด็กสาวตอบกลับ เกือบจะลืมหางเสียงลงท้าย ถึงนิศาคนนี้จะเป็นนักร้องในค่ายเพลงของพ่อเธอ แต่ก็เคยเจอกันแค่หนเดียว แถมตอนนั้นเจ้าหล่อนกำลังอยู่ในห้องอัดเสียงเลยไม่ได้พูดคุยด้วย
แต่เธอก็พอจะรู้จักนักร้องคนนี้จากปากของพ่อมาแล้ว รู้สึกว่าจะเป็นลูกผู้ดีมีตังส์ที่พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนร้องเพลงตั้งแต่อายุห้าขวบ ไม่แปลกใจเลยที่มาถึงตอนนี้เพลงของนิศาเป็นที่ฮอตฮิตติดชาร์ทตามสถานีวิทยุต่างๆที่วัยรุ่นชอบฟัง ไม่ใช่แค่เรื่องร้องเพลงเท่านั้นที่เก่ง ทั้งเรื่องเต้น เรื่องเล่นดนตรี เรื่องรำ เรื่องการแสดง เรื่องเรียน และอีกสารพัด เจ้าหล่อนก็ไม่เป็นรองใครเหมือนกัน ด้วยพ่อแม่ส่งให้เรียนพิเศษจนเก่งในทุกด้าน รวยทั้งเงินทอง แถมมีรูปเป็นทรัพย์ จะบอกว่าเธอเป็นเพอร์เฟ็คเกิร์ลก็ไม่ผิดจากความจริงเลยสักนิด
"แค่มาทักทายเฉยๆน่ะค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ" ว่าแล้วนิศาก็ละจากริน ไปหาเพื่อนๆที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะก่อนแล้ว ฟรานเซียสนั้นจ้องมองตามหล่อนตาไม่กระพริบ ทำให้เด็กสาวนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
"เออ ว่าแต่คทาล่ะ" รินเอ่ยถามเรื่องที่เพิ่งนึกขึ้นได้
"ฉันคิดว่าน่าจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้น" ฟรานเซียสเอ่ยตอบอย่างมั่นใจ
"หา! อยู่กับนิศาเนี่ยนะ" คำตอบที่ได้ทำให้เธอตะลึงเล็กน้อย... มันจะบังเอิญเกินไปแล้วนะเฟ้ย...
"ที่แน่ๆก็คือฉันสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างจากเธอคนนั้น" เทพหนุ่มทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง...
"เย็นนี้เราสะกดรอยตามไปที่บ้านผู้หญิงคนนั้นกันเถอะ" ฟรานเซียสเสนอขึ้นมา แต่คิดว่ารินคงไม่เห็นด้วยกับเขาเท่าไหร่
"เอาสิ น่าสนุกดี" คำตอบที่ออกมาจากปากของเด็กสาวทำให้เทพหนุ่มอึ้ง พอหันมามองก็เห็นรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล
...ดูท่างานนี้... ชักจะไม่สนุกแล้วสิ...
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
"จะไปทานอาหารเย็นที่บ้านนิศางั้นเหรอคะ" เจ้าของเสียงหวานๆถามอย่างประหลาดใจ ที่จู่ๆลูกสาวเจ้าของค่ายเพลงที่เธอสังกัดอยู่จะไปกินข้าวเย็นที่บ้านของเธอ แถมมีทีท่าเป็นมิตรและดูกระตือรือร้นกว่าทุกทีอีกต่างหาก
"ใช่เลยค่ะ เห็นว่าพ่อครัวบ้านนิศาเป็นเชฟที่มาจากฝรั่งเศส ทำอาหารอร่อยมาก เลยอยากไปลองชิมฝีมือให้เป็นขวัญปากดูน่ะค่ะ" รินพูดพลางส่งยิ้มให้คู่สนทนา...
มาแปลกแฮะ... ทั้งที่ปกติก็แทบจะไม่พูดด้วย แล้วแหงวันนี้ถึงพูดจ้อซะขนาดนี้ล่ะ... นิศาคิดในใจอย่างงงงวย
"เออ งั้นขึ้นรถกลับด้วยกันเลยนะคะ" เด็กสาวว่า ขณะที่สายตาเหลือบไปเห็นรถ BMW สีดำที่คุ้นตา "ว่าแต่ ฟรานเซียสล่ะคะ" เธอถามถึงลูกพี่ลูกน้อง(ที่กู่ขึ้นมา)ของริน
"อ๋อ หมอนั่นขอตัวกลับบ้านน่ะค่ะ... เราไปกันเลยไหมคะ" รินพยักเพยิดไปทางรถที่จอดรออยู่
นิศาเดินนำรินไปยังรถคันหรูที่ยังมิมีผู้ใด(นอกจากตัวเธอเองและคนขับรถ)ได้นั่งเป็นบุญก้น แต่รินกำลังจะเป็นผู้โชคดีที่ได้นั่งรถคันนี้เป็นคนแรก แถมนั่งเคียงข้างนักร้องสาวสุดป๊อบของวงการเสียด้วย
ชายผู้ทำหน้าที่สารถีขับรถเดินมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนาย เด็กสาวเจ้าของรถเข้ารถไปก่อน ก่อนที่ผู้เป็นแขก(ที่ไม่ได้ออกปากเชิญ)จะตามเข้าไป ชายวัยกลางคนปิดประตูรถให้ก่อนจะไปนั่งประจำที่ของตัวเองข้างหลังพวงมะลัย แล้วขับรถออกจากโรงเรียนสีขาว ตรงไปยังคฤหาสน์ของตระกูลศุภางค์ทรัพย์
-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
...แปลกใจไหมที่อัพเร๊วเร็ว ไฟลุกขึ้นมานิดๆ (ไฟลุกก่อนจะมอดดับไปอีกนาน - -)
เอ้อ... ทิ้งท้ายด้วยคำพูดของ ยูโกะ จาก xxx Holic
"ความบังเอิญไม่มีในโลกหรอก จะมีก็แต่พรหมลิขิต" (หรือพูดให้ถูกๆก็คนเขียนลิขิต เหอะๆๆ)
ความคิดเห็น