ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    B.A.P's Short Fictions เรื่อง(ลึก)ลับ

    ลำดับตอนที่ #1 : Diary [HimUp]

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 57


    Diary
     
     
     
    9/4/2xxx
              สวัสดีคุณไดอารี่ ผมคิมฮิมชาน ยินดีที่ได้รู้จักนะ
              อาจจะกะทันหันไปหน่อย แต่ช่วยรับฟังเรื่องของผมได้ไหม ผมมีความลับที่บอกใครไม่ได้ อึดอัดมากเลย คุณไดอารี่ช่วยรับฟังผมระบายหน่อยนะ
              ก่อนอื่นผมคงต้องบอกว่า ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน คนอื่นคงจะว่าผมเป็นเกย์ ผมยอมรับก็ได้ว่าผมเป็นเกย์ แต่ว่าผู้ชายที่ผมชอบมีเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาคนนั้นเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล บ้านของเขาอยู่ตรงข้ามบ้านของผม เขาอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปีจึงเรียกผมว่าพี่เสมอ เราสนิทกันมาก เพราะในละแวกนี้มีเพียงเราสองคนที่อายุไล่เลี่ยกัน
              ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน รู้ตัวอีกทีสายตาก็ไล่ตามแต่เขาแล้ว เขาเป็นคนร่าเริง มีเพื่อนมาก และทุกคนก็ชอบเขามาก เขาอาจจะเรียนไม่ค่อยดีนัก จัดอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่นั่นเป็นเพราะเขาไม่ขยันเสียมากกว่า หากเขาจริงจังก็จะอยู่ในระดับต้น ๆ ได้ เขาเต้นเก่ง เขารักการเต้นมาก ๆ เป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดหลายครั้ง ได้รางวัลกลับมาทุกครั้ง แม้จะไม่ใช่รางวัลที่หนึ่งก็ตาม แต่ผมว่าเขาเก่งมาก ๆ แล้ว
              อ้อ ผมลืมบอกไปว่าเราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ผมอยู่ชั้น ม.6 เขาอยู่ชั้น ม.5 ความจริงผมควรจะเอาเวลาที่เขียนไดอารี่ไปนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่อย่าหาว่าผมหลงตัวเองเลยนะ ผมว่าผมเรียนเก่ง สอบได้อันดับต้น ๆ ของชั้นปีตลอด ถึงผมจะแบ่งเวลาที่ควรอ่านหนังสือมาเขียนไดอารี่สักชั่วโมงก็คงไม่เป็นไรหรอก ขอผมระบายหน่อยเถอะ
              อันที่จริงผมก็จัดว่าป๊อบนะ นอกจากเรียนเก่งแล้วยังเป็นรองประธานนักเรียนด้วย มีสาว ๆ หลายคนมาจีบผม แต่ผมสนใจเพียงเขาเท่านั้น เมื่อสัปดาห์ก่อนผมตัดสินใจสารภาพกับเขา เพราะทนเก็บความรู้สึกไม่ไหวอีกต่อไป ไม่น่าเชื่อว่าเขาก็รู้สึกเหมือนกันกับผม ผมดีใจมาก ๆ เลย เราตกลงคบกันอย่างลับ ๆ ที่ต้องเก็บเป็นความลับ ก็เพราะเราทั้งคู่เป็นผู้ชาย ถ้าคนอื่นรู้เข้าจะไม่เข้าใจ อาจจะเกิดปัญหายุ่งยากตามมาก็ได้ ผมไม่อยากเสี่ยงให้ความนิยมตกหรอก เขาเองก็คงไม่อยากเสี่ยงเหมือนกัน
              คบกันแล้ว ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม เราไปโรงเรียนด้วยกัน กลับด้วยกัน แวะไปเที่ยวเล่นบ้าง บางครั้งผมก็ไปนั่งเล่นเกมที่บ้านเขาเหมือนที่เคยทำตั้งแต่ยังเด็ก ตกดึกก็โทรคุยกัน ส่งข้อความหากัน จนกระทั่งถึงเวลานอน เมื่ออยู่ที่โรงเรียน เราจะไม่ค่อยคุยกัน ทักทายบ้างตอนเดินผ่านกัน แต่ต่างคนก็ต่างอยู่ในกลุ่มเพื่อนของตัวเอง
              บางครั้งผมก็นึกสงสัยว่าเราจะคบกันไปทำไมในเมื่อทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไร เหมือนเดิมก็ดี ต่อให้ไม่มีใครรับรู้เรื่องของเรา ผมก็ยังรู้ว่าเราคบกัน ที่ผมมาเขียนระบายกับคุณไดอารี่ อาจจะเป็นเพราะผมต้องการยืนยันว่าเราคบกันเท่านั้นเอง
              เขาโทรมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะคุณไดอารี่ ขอบคุณที่รับรู้เรื่องของผมนะ
     
    10/4/2xxx
              คุณไดอารี่ ผมมีข่าวดีจะบอก เขาจะได้เป็นดาราแล้ว! เมื่อสามวันก่อนเขาไปประกวดเต้นในงานสตรีทแดนซ์ แข่งส่วนตัวกับเพื่อน ๆ อีกห้าคน ปรากฏว่ามีค่ายเพลงชื่อดังติดต่อมา บอกให้เขาไปสมัครเป็นเด็กฝึกในค่าย ถ้าเขาทดสอบผ่านจะได้เข้าเป็นเด็กฝึกในค่าย แล้วค่อยเดบิวต์เป็นนักร้องในอนาคต ผมรู้ว่ากว่าจะได้เดบิวต์นั้นไม่ง่ายเลย แต่ผมเชื่อว่าเขาทำได้ เขามีความสามารถ คงผ่านได้ไม่ยาก พรุ่งนี้ผมจะไปค่ายเพลงเป็นเพื่อนเขา ต้องตื่นแต่เช้าเลย คงต้องรีบนอนแล้วสิ ผมจะนอนหลับไหมเนี่ย
     
    11/4/2xxx
              วันนี้เขาไปทดสอบแล้ว ทางค่ายบอกว่าจะติดต่อกลับมาอีกที ท่าทางเขาดูกังวลมาก ผมถามว่าเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่ตอบอะไร แต่ผมว่าเขาต้องทำได้อยู่แล้ว เขาเก่งจะตาย ผมเองก็จะพยายามบ้าง จะสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์และเป็นนักการทูตอย่างที่ฝันไว้ให้ได้เลย ชักมีไฟขึ้นมาแล้วสิ ผมไปอ่านหนังสือก่อนดีนะคุณไดอารี่
     
    18/4/2xxx
              ขอโทษที่หายไปนานนะคุณไดอารี่ เขาผ่านการคัดเลือกแล้ว! เขากำลังจะเป็นเด็กฝึกในค่ายอย่างเต็มตัวแล้ว เขาดูตื่นเต้นมาก ๆ ยิ้มไม่หุบเลย ผมเองก็ดีใจไปกับเขาด้วย
              แต่ว่าผมก็แอบใจหายนะ ถ้าเขาไปเป็นเด็กฝึกแล้ว เราคงไม่ได้เจอกันทุกวันแบบนี้อีก แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ มันเป็นความฝันของเขานี่นา เขาจะต้องไปทำตามฝันของตัวเอง ผมเข้าใจดี แต่ก็อดเหงาไม่ได้
              ไม่เป็นไรหรอก ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกนี่นา แล้วอีกอย่างเขายังไม่ได้ไปในเร็ว ๆ นี้สักหน่อย ยังต้องเตรียมตัวอีกกว่าจะเข้าไปอยู่ที่บริษัทได้ ผมยังมีเวลาอีกหน่อย ก่อนจะต้องห่างกัน ผมจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด
              ผมไปโทรหาเขาดีกว่า
     
    19/4/2xxx
              วันนี้เป็นวันเกิดของผม เขาพาผมไปกินเค้กบราวนี่กับกาแฟที่ร้านประจำของเรา แล้วเขาก็ให้ของขวัญผม เป็นแก้วกาแฟลายแกะที่ผมเคยชี้ให้เขาดูว่าน่ารักดี ถึงผมจะไม่ได้ชอบแก้วลายแกะขนาดนั้น แต่ผมก็ดีใจที่เขาจำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผมได้
              ผมมีความสุขมากเลย
     
    2/5/2xxx
              เขาจะย้ายไปอยู่หอของบริษัทตั้งแต่วันพรุ่งนี้
              ผมยิ้มและอวยพรให้เขาโชคดี บอกให้เขาขยัน ตั้งใจฝึกซ้อมให้มาก ทั้งที่ในใจมีแต่คำถามมากมาย จะโทรไปหาได้ไหม ส่งข้อความไปได้ไหม จะได้เจอกันอีกไหม แล้วเราจะยังคบกันต่อไปได้หรือเปล่า
              แต่ผมไม่กล้าถาม ได้แต่ฝืนยิ้มและจากมา
     
    3/5/2xxx 
              เขาไปแล้ว ยังไม่ทันได้บอกลาเลย แต่ผมส่งข้อความไปหาแล้ว บอกให้เขาพยายามทำให้เต็มที่
              ผมจะได้เจอเขาอีกไหม
     
    4/5/2xxx
              เขาไม่ตอบข้อความของผม วันนี้ผมส่งไปใหม่ ถามว่า ฝึกซ้อมเป็นไงบ้าง โหดหินอย่างที่เขาลือกันไหม แต่เขายังไม่ตอบกลับมา สงสัยคงจะเหนื่อยจริง ๆ
     
    5/5/2xxx
              วันนี้ก็ส่งข้อความไปหา แต่เขายังไม่ตอบกลับมาอยู่ดี ท่าจะยุ่งมาก ๆ หวังว่าเขาจะสบายดีนะ
     
    9/5/2xxx
              สัปดาห์หนึ่งแล้วที่เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย ไม่ยอมตอบข้อความของผมด้วย เขาเป็นอะไรไป ฝึกซ้อมหนักขนาดนั้นเลยเหรอ หรือเขาแค่ไม่อยากตอบข้อความของผม ไม่หรอก เขาไม่มีทางไม่อยากตอบข้อความของผม ผมอยากไปดูที่บริษัท แต่ก็กลัวว่าเขาจะรำคาญ
              รออีกสักสามวัน ถ้าเขายังไม่ตอบ ผมจะบุกไปที่บริษัทจริง ๆ แล้วนะ
     
     
     
    บล็อกของ M.Jup
    04-04-2xxx – 21:52
              สวัสดีครับ ผมชื่อ M.Jup จะเรียกผมสั้น ๆ ว่า M ก็ได้
              ผมเพิ่งเริ่มเล่นบล็อกได้ไม่นาน ตอนแรกสมัครสมาชิกบล็อกทิ้งไว้เพราะเพื่อนชวนเล่น แต่ไม่รู้จะเขียนอะไร จึงทิ้งไว้จนกระทั่งวันนี้ ผมมีเรื่องที่ไม่อาจเล่าให้คนใกล้ตัวฟังได้ เพราะงั้นขอระบายลงในนี้นะครับ
              เมื่อสองวันก่อนมีรุ่นพี่ที่โรงเรียนมาสารภาพรักกับผม
              อันที่จริงรุ่นพี่คนนี้เป็นเพื่อนสมัยเด็ก เล่นกันมาตั้งแต่อนุบาล สนิทกันมากครับ ถึงตอนนี้ก็ยังสนิทกันอยู่ จนกระทั่งเขาสารภาพรักกับผมนั่นแหละครับ ผมไม่เคยรู้เลยว่าเขาคิดกับผมแบบนั้น ผมไม่เคยคิดกับเขาแบบนั้น ก็ตอบปฏิเสธไป บอกให้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
              แต่จะยังเหมือนเดิมได้ไหม ผมไม่แน่ใจ ก็พี่เขาคิดแบบนั้น ผมไม่รู้ยังพอว่า แต่ผมรู้แล้ว ผมก็รู้สึกไม่สนิทใจแล้ว แต่ผมจะพยายามทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง พี่เขาจะได้ไม่เสียใจ
              หวังว่าผมจะทำถูกแล้วนะ
     
    ความคิดเห็นที่ 1
              คุณทำถูกแล้วล่ะ ไม่ชอบก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่ชอบ อย่าไปให้ความหวังเขา ทำตัวเหมือนปกติน่ะดีแล้ว
    จาก noname-kun - 04-04-2xxx – 22:43
     
    ความคิดเห็นที่ 2
              ผมลองทำตัวให้เหมือนเดิมดูแล้วครับ พี่เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี เคยสนิทแบบกอดคอกันได้ แต่ตอนนี้ไม่กล้าแตะเลยครับ กลัวพี่เขาเข้าใจผิด แต่ก็กลัวพี่เขารู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
    จาก M.Jup – 05-04-2xxx – 20:32
     
    ความคิดเห็นที่ 3
              คุณไม่ต้องกลัวหรอก ทำไปเหมือนปกติเลย ก็ปฏิเสธไปชัดเจนแล้ว เขาน่าจะเข้าใจนะ
    จาก noname-kun – 05-04-2xxx – 22:10
     
    ความคิดเห็นที่ 4
              เดี๋ยวนี้พี่เขาส่งข้อความหาผมบ่อยมากครับ ตอนเรียนอยู่ก็ยังส่งมา ตอนกลางคืนก็ชอบโทรมาชวนคุยจนดึกดื่น คือ แต่ก่อนพวกเราก็โทรคุยบ้าง ส่งข้อความบ้างเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยจนเกือบตลอดเวลาขนาดนี้
              รู้สึกอึดอัดมาก แต่ไม่กล้าบอกตรง ๆ ว่าให้เลิกทำแบบนี้ ผมจะทำไงดีครับ
    จาก M.Jup – 07-04-2xxx – 20:45
     
    ความคิดเห็นที่ 5
              ถ้าอึดอัดคงต้องบอกไปตรง ๆ ว่าอึดอัดนะ ไม่งั้นก็ไม่ต้องตอบข้อความ ไม่ต้องรับสาย เดี๋ยวเขาก็เลิกไปเองมั้ง
    จาก noname-kun – 08-04-2xxx – 22:36
     
    ความคิดเห็นที่ 6
              ขอบคุณนะครับ ผมจะลองดูครับ
    จาก M.Jup – 09-04-2xxx – 20:18
     
     
     
    09/05/2xxx
              พี่ฮิมชาน ผมขอโทษนะที่ไม่ได้ตอบข้อความของพี่ มือถือผมถูกยึดไว้ เป็นกฎของที่นี่ว่าห้ามติดต่อคนนอกบริษัทจนกว่าจะฝึกครบสัปดาห์ ผมสบายดีครับ การฝึกไม่ได้โหดมาก เหนื่อยหน่อย แต่ก็สนุกดี ผมได้เจอเพื่อนใหม่เยอะแยะเลย ไว้สัปดาห์หน้าผมกลับบ้านแล้วผมจะเล่าให้ฟังนะ
    ผมขอโทษ ผมออกไปเจอพี่ไม่ได้ ยังต้องอยู่แต่ในบริษัทกับหอพักครับ
    จงออบ – 10:13
     
              เมื่อส่งข้อความสำเร็จ เด็กหนุ่มก็เก็บโทรศัพท์มือถือใส่ล็อกเกอร์ไว้ตามเดิม เขาถอนหายใจ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่าตอนซ้อมเต้นหนัก ๆ เสียอีก
    แท้จริงแล้วมือถือเขาไม่ได้ถูกยึด เพียงแต่เขาไม่อยากตอบข้อความของพี่ฮิมชาน แม้เขาจะบอกปฏิเสธไปชัดเจนแล้วว่าไม่ได้คิดกับพี่ฮิมชานแบบนั้น แต่ดูเหมือนคนคนนั้นจะไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเองโดนปฏิเสธ เพราะนับตั้งแต่วันนั้นพี่ฮิมชานก็รุกเขาหนักขึ้นเรื่อย ๆ จงออบไม่ชอบเลยที่พี่ฮิมชานเป็นแบบนี้ แต่พวกเขามีกันอยู่สองคน จงออบไม่มีพี่ชาย จึงนับถือฮิมชานเป็นเหมือนพี่แท้ ๆ พี่ฮิมชานเรียนเก่ง แถมยังเป็นรองประธานนักเรียน เป็นนักกิจกรรม เป็นต้นแบบของเขา เขาไม่อยากเสียพี่ชายคนนี้ไป แต่ก็ไม่อาจตอบรับความรู้สึกของพี่ฮิมชานได้ ยิ่งเขาพยายามทำตัวเหมือนปกติ พี่ฮิมชานก็ยิ่งเอาใหญ่ พักหลัง ๆ จงออบเริ่มรู้สึกกลัวพี่ชายคนนี้ขึ้นมา จึงเริ่มถอยห่าง ตอนที่ค่ายรับเขาเข้าเป็นเด็กฝึก จงออบแอบคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะปลีกตัวออกมา แต่พี่ฮิมชานก็ยังคงตื้อไม่เลิก เมื่อเช้าส่งข้อความให้เขา บอกว่าจะมาหาที่บริษัท จงออบจึงรีบพิมพ์ตอบข้อความโดยจำต้องโกหกไปว่ามือถือโดนยึดไว้ เพื่อไม่ให้พี่ฮิมชานเสียใจและอาจจะทำอะไรที่เขาคาดไม่ถึงก็ได้
    เขาไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่ก็บอกใครไม่ได้ ปรึกษาใครไม่ได้เลย ถ้าสมมติเขาได้เดบิวต์ขึ้นมาจริง ๆ บางทีพี่ฮิมชานอาจจะสร้างปัญหาให้เขาก็ได้
              แต่ไว้รอถึงตอนนั้นก่อนแล้วกัน ตอนนี้จงออบยังไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น
     
     
     
    17/5/2xxx
              วันนี้ผมได้เจอเขาแล้ว เขาผอมลงกว่าเดิม แก้มตอบอย่างเห็นได้ชัด คงจะฝึกหนักมากจริง ๆ เขาเล่าเรื่องเพื่อนที่เป็นเด็กฝึกในบริษัทด้วยกัน มีรุ่นพี่ที่เป็นเด็กฝึกมาก่อนเขาอยู่สามคน ชื่ออะไรบ้างผมก็จำไม่ค่อยได้ เด็กฝึกที่เข้าใหม่ช่วงนี้มีแค่เขากับเพื่อนที่ไปทดสอบพร้อมกันอีกหนึ่งคน พรุ่งนี้ผมจะไปส่งเขาที่บริษัท จะได้เจอเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของเขาด้วย ผมว่าผมซื้อขนมไปฝากพวกเขาด้วยดีกว่า พวกเพื่อน ๆ เขาจะได้ดูแลเขาให้ผม
     
    18/5/2xxx
              ผมไปส่งเขาที่บริษัท แต่ไม่ได้เจอรุ่นพี่กับเพื่อน ๆ ของเขา เพราะบริษัทมีกฎห้ามคนนอกเข้าไปข้างใน แต่ไม่เป็นไร ผมฝากขนมไปให้แล้ว หวังว่าพวกเขาจะชอบนะ
     
    23/5/2xxx
              หมู่นี้เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย คงซ้อมหนักมากแน่ ๆ ช่วงนี้ผมก็ยุ่งกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบ ไม่ได้ค่อยได้ติดต่อไปเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร ไม่ได้เจอกันก็ไม่เป็นไร ไม่ได้คุยกันก็ไม่เป็นไร ผมรักเขา และเขาก็รักผม แค่นั้นก็พอแล้ว
              ต้องไปอ่านหนังสือต่อแล้วล่ะ
     
    6/6/2xxx
              เขาหายไปเลย ผมโทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ วันนี้เขาปิดโทรศัพท์มือถือด้วย อาจจะยุ่งกับการซ้อมมาก ๆ แน่เลย ผมเป็นห่วงเขาจัง จะกินอิ่มนอนหลับสบายดีหรือเปล่า ถ้าผมได้อยู่ใกล้ ๆ คอยดูแลเขาได้ก็คงดี
              คิดถึงเขามาก ๆ เลย
     
    18/6/2xxx
              ผมตัดสินใจแล้วว่าจะทำเพื่อเขา รอก่อนนะจงออบ พี่จะพยายามเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกันนะ
     
     
     
     
    ST เปิดตัวสมาชิกสองคนสุดท้ายของวงบอยแบนด์น้องใหม่ "B.A.S"
     
              ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ST Entertainment เผยโฉมหน้าสมาชิกสองคนสุดท้ายของวงบอยแบนด์น้องใหม่ B.A.S (Best Absolute Strongest)
    หลังจากลงประวัติสมาชิกสี่คนแรกไปแล้วเมื่อสองวันก่อน ทางเอสทีเอ็นเทอร์เทนเมนท์ก็เผยหน้าตาพร้อมประวัติส่วนตัวของสมาชิกสองคนสุดท้ายลงบนเว็บไซต์ของบริษัท
     
              สมาชิกคนที่ห้า
              คิมฮิมชาน
              เกิดวันที่ 19 เมษายน 19xx
              ส่วนสูง 180 ซม. น้ำหนัก 69 กก.
              สีประจำตัว สีชมพู
     
              สมาชิกคนที่หก
              มุนจงออบ
              เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 19xo
              ส่วนสูง 176 ซม. น้ำหนัก 66 กก.
              สีประจำตัว สีเขียว
     
              อ่านประวัติสมาชิกคนอื่น ๆ และติดตามความเคลื่อนไหวของวง B.A.S ได้ที่เว็บไซต์ www.st-enter.co.kr
     
    Posted by KpopGun.com - 09.05.2xxo
     
    [ Diary End ]
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×