ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Immortal Wand คทากวนป่วนสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3: เช้าที่สายกับภารกิจที่ไม่สาย(ไปแล้วเหรอ)[100%]

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 49


    บทที่ 3: เช้าที่สายกับภารกิจที่ไม่สาย(ไปแล้วเหรอ)[100%] (ลงครั้งแรก 28 ม.ค. 49 6.19 น.)

              แสงอาทิตย์อ่อนๆที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องครัว บัดนี้สว่างขึ้นมากกว่าเดิม นาฬิกาไม้เรือนหรูที่แขวนอยู่บนผนังบ่งบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงสิบห้าแล้ว เสียงเดินของเข็มบนหน้าปัดดังติ๊กตอกราวกับจะเตือนให้รู้ว่า 'สายแล้วนะโว้ย'

              "ทำไมรินถึงยังไม่ลงมาอีกฮึ" ชายวัยกลางคนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะอาหารเอ่ยทำลายความเงียบ

              "คงกำลังล้างยาแดงอยู่มั้งคะพ่อ" บุตรสาวคนเล็กพูดขึ้นลอยๆทั้งๆที่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวีพลาสม่าที่กำลังฉายภาพผู้ประกาศข่าวสาวสวย

              "ลูกว่าอะไรนะลูกนิ" ผู้เป็นพ่อเบนสายตาจากหนังสือพิมพ์มามองลูกสาว

              "เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร" เด็กสาวตอบแบบปัดๆพลางหันไปดูข่าวต่อ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงตึงตังดังมาแต่ไกลเหมือนเป็นสัญญาณว่า...

             "สงสัยพี่รินจะมาแล้วล่ะค่ะ" นิบอกอย่างร่าเริง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางหยิบกระเป๋าเป้มาพาดไหล่

              พูดยังไม่ทันขาดคำดี ร่างของเด็กสาววัยสิบห้าก็พุ่งพรวดเข้ามาในห้อง เธออยู่ในชุดนักเรียน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ผู้เนกไทสีน้ำเงิน กระโปรงสั้นสีกรม ในมือถือกระเป๋าเป้สีกรมใบใหญ่ เนื้อตัวที่เปรอะยาแดงถูกขัดให้สะอาดแล้ว แต่ทว่าผมยาวประบ่าสีน้ำตาลยังยุ่งเหยิงกระเซิงเหมือนไม่ได้หวี

              "ทำไมลงมาช้าจังล่ะพี่" นิเอ่ยถามผู้เป็นพี่สาว

              "ดูการ์ตูนอยู่น่ะ" เด็กสาวผู้มาเยือนตอบแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นหยิบนมกล่องออกมาจากตู้

              ผู้เป็นพ่อที่เพิ่งเริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ ละสายตาจากหนังสือพิมพ์อีกครั้ง มองลูกสาวทั้งสองสลับไปมา...

              ยัยนิ น้องสาว... ดูข่าว

              ยัยริน พี่สาว... ดูการ์ตูน

              ...มันเกิดสลับเวลากันรึเปล่าเนี่ย...

              "รีบไปกันเถอะ" รินร้องบอกน้องสาว พลางวิ่งออกไปจากห้อง นิเดินตามไปอย่างเบื่อหน่าย...วันนี้เธอคงสายอีกเป็นแน่...

              ทั้งคู่เดินไปจนถึงป้ายรถเมล์ แม้ว่าบ้านจะรวยขนาดไหน พวกเธอก็ยังชอบเดินทางด้วยรถเมล์อยู่ดี แถมพ่อแม่ยังสนับสนุนอีกต่างหาก เพราะว่ามัน "ประหยัดดี"

              "รถมาแล้ว นิไปก่อนนะพี่ พี่รินไปเรียนโรงเรียนใหม่แล้วทำตัวดีๆล่ะ ตั้งใจเรียนด้วยนะ บ้ายบาย" นิพูดก่อนจะกระโดดขึ้นรถสองประตูยี่สิบหน้าต่างสีแดงที่ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ มีแต่แอร์ธรรมชาติ กับพัดลม

              "ทราบแล้วค่า คุณน้องบังเกิดเกล้า!" รินตะโกนไล่หลังไป ปีนี้เธออยู่ชั้น ม.4 แล้ว แต่โรงเรียนที่เธอเคยอยู่มีถึงแค่ ม.3 รินจึงต้องไปสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนอื่น ซึ่งกว่าจะติดได้สักที่หนึ่งก็แทบตาย ในที่สุดก็สอบเข้าโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงได้อย่างฉิวเฉียด

              แถมโรงเรียนที่ว่าก็อยู่ไกลจากบ้านมากๆ ต้องนั่งรถตั้งสามต่อ ใช้เวลาเดินทางร่วมสองชั่วโมง... ว่าแต่ว่า... วันนี้เธอจะไปทันไหมเนี่ย?

              รินเหลือบสายตามองนาฬิกาข้อมือเรือนละร้อยเก้าเก้าของเธอ เจ็ดโมงครึ่งแล้ว... สายชัวร์... แต่... ช่างเถอะ สายนิดสายหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง... อ้ะ! รถมาพอดี...

              ว่าแล้วเด็กสาวก็กระโดดขึ้นรถเมล์ติดแอร์สีส้มคันหนึ่งไป โดยที่หารู้ไม่ว่าขึ้นรถผิดสายซะแล้ว

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

              ขณะเดียวกัน ณ ที่ทำการของสภาสวรรค์ บนชั้นสูงสุดของอาคาร เทพบุตรสูงอายุตนหนึ่งกำลังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้นวมในห้องทำงานของเขาอย่างสงบ ดวงตาเหม่อมองไปทางหน้าต่างซึ่งภายนอกนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นควันสีน้ำตาลแดงด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

              สถานการณ์ทางนี้ยิ่งย่ำแย่ลงทุกวัน เทพหลายตนล้มป่วยลงเพราะสภาพอากาศที่เป็นพิษ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีวันดับสูญนอกจากจะลงไปจุติใหม่ แต่ก็สามารถเจ็บป่วยได้เหมือนพวกมนุษย์ทั่วไป เทพหลายตนเลือกที่จะลงไปจุติมากกว่าจะทนทรมานกับความเจ็บและอาการป่วยอยู่บนสวรรค์

              แม้ว่าจะดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก เพราะว่าพวกเทพเป็นอมตะอยู่แล้ว แต่ทว่าการที่คทาอิมมอร์เทิลหายไป อาจมีผลทำให้พวกเทพไม่เป็นอมตะอีกต่อไป… สิ่งนั้นแหละที่เป็นปัญหาที่ทางสภาสวรรค์ยังคิดไม่ตก

              ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากประตูไม้เก่าแก่ ก่อนที่จะถูกเปิดเข้ามา...

              เด็กหนุ่มร่างผอมสูงเดินเข้ามาในห้อง ผมซอยสั้นสีแดงเพลิงดูยุ่งนิดๆ ดวงตาสีดำสนิท ผิวขาวเนียนราวเทพธิดา ดวงหน้าเรียวยาว หน้าตาออกกวนหน่อยๆ

              "ท่านพ่อเรียกผมมาทำไม" เด็กหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง

              "บอกแล้วไง ฟรานเซียส เวลาอยู่ที่สภาให้เรียก ท่านประธาน" เทพชราบอกด้วยน้ำเสียงตำหนิ

              "ก็ได้ขอรับ ท่านประธานสภาเทพทีวีทส์" ฟรานเซียสตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบื่อๆ ก่อนจะโค้งให้เสียจนหัวแดงๆของเขาเกือบติดพื้น

              "พอๆ นั่งลงได้แล้ว" เทพทีวีทส์บอก เทพหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวมฝั่งตรงข้ามกับพ่อของเขาโดยมีโต๊ะไม้ขัดเงากั้นระหว่างเทพทั้งสองไว้

              "ท่านประธานมีอะไรให้กระผมรับใช้หรือขอรับ" ฟราเซียสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียน

              "ฟรานเซียส เจ้าอย่ามาทำประชดพ่อนะ"

              "ใช้แทนตัวท่านว่าพ่อไม่ได้นะขอรับท่านประธาน เวลาอยู่ในสภาท่านบอกให้เรียกท่านประธานไม่ใช่หรือขอรับ" เทพหนุ่มเล่นลิ้นอย่างกวนๆ

              เทพชราหรี่ตามองฟรานเซียสอย่างชั่งใจ... เจ้าลูกคนนี้นี่... ไม่รู้ไปได้นิสัยปากดีมาจากใคร... แต่...มันได้เชื้อมาจากเรานี่นา... คิดแล้วก็เกือบหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกขำ แต่ก็แสร้งทำสีหน้าจริงจัง

              "เจ้ารู้ไหมว่าข้าเรียกมาวันนี้เพราะอะไร" ทีวีทส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมอย่างแนบเนียน

              "ถ้าข้ารู้ ข้าคงไม่ถามท่านหรอก ท่านประธาน" คำตอบที่ได้สร้างความหงุดหงิดให้กับเทพชรานิดหน่อยที่ลูกชายของตนยังเล่นลิ้นไม่เลิก แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินประโยคนั้น

              "ที่ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้ เพราะ ข้ามีภารกิจให้เจ้าทำ" ทีวีทส์หยุดเล็กน้อย เพื่อให้เทพหนุ่มได้มีโอกาสตอบโต้ แต่ฟรานเซียสไม่พูดว่าอะไร เขาจึงพูดต่อไป "เจ้าจะต้องลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อไปช่วยเหลือเทพธิดาเรริน่าในการค้นหาคทาอิมมอร์เทิล..."

              แล้วเขาก็อธิบายเรื่องคทาอิมมอร์เทิลที่หายไปให้ฟรานเซียสฟัง เทพชราคาดว่าฟรานเซียสคงจะโวยวายและไม่ยอมไปยังโลกมนุษย์ แต่ทว่า เทพหนุ่มกลับนั่งฟังอย่างสงบ และพอเขาเล่าจบ เทพหนุ่มก็เอ่ยปากรับคำทันที

              "เจ้าแน่ใจนะว่าจะทำจริงๆ ภารกิจนี้ใหญ่มากเลยนะ" ทีวีทส์เอ่ยถามบุตรชายของตนอย่างไม่มั่นใจ

              "ขอรับ" ฟรานเซียสตอบรับ

              "อะไรทำให้เจ้าอยากทำภารกิจนี้" เทพชราถามต่อ ใจจริงเขายินดีมากที่ลูกชายของเขาตกลงทำภารกิจนี้... บางที... ฟรานเซียสอาจจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ ก็อายุสิบหกแล้วนี่นะ... เขาอาจจะอยากพิสูจน์ตนเอง... ทีวีทส์คิดอย่างปลาบปลื้มในบุตรชายของตน

              "ข้าก็แค่อยากลงไปเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์บ้างก็เท่านั้นแหละ" คำตอบของฟรานเซียสทำเอาความหวังผู้เป็นพ่อแตกสลาย... เขาไม่น่าหวังกับเจ้าเด็กคนนี่เลยให้ตาย...

              ดูเหมือนความคิดของเขาจะแสดงออกทางสีหน้า เพราะ ฟรานเซียสเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทันว่า "นี่ท่านคงไม่คิดหรอกนะ ว่าข้าจะอยากทำภารกิจนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองหรืออะไรทำนองนั้น"

              เมื่อถูกรู้ทัน ผู้เป็นบิดาจึงรีบเอ่ยสั่งเพื่อกลบเกลื่อนว่า "ช่างข้าเถอะน่า เจ้ารีบลงไปยังโลกมนุษย์ได้แล้ว ไปที่ประตูสวรรค์ทิศบูรพาบานที่สามนะ แล้วห้ามบอพเรื่องภารกิจนี้กับใครเป็นอันขาด บอกผู้เฝ้าประตูสวรรค์ว่าเป็นคำสั่งของข้า"

              "ขอรับ ท่านประธาน" ฟรานเซียสรับคำพลางโค้งให้อย่างกวนพระบาทเป็นที่สุด ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งประธานสภาสวรรค์ให้ขบคิดอย่างหนักใจว่า…

              เขาคิดถูกแล้วหรือที่ไว้ใจเทพหนุ่มตนนี้...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    ครบร้อยแล้ว เย้!!! ^__^
    เฮ้อ... กว่าจะมาแต่งให้ครบได้ ต้องพึ่งยาแก้โรคขี้เกียจไปสองกระบุง -*-
    จะมีคนอ่านไหมเนี่ย... เขาคงเบื่อของดองแล้วมั้ง... แต่ก็นะ... ช่างเถอะ...
    ขอบคุณท่านผู้อ่านอันเป็นที่รักยิ่งของข้าน้อยที่ยังอุตส่าห์เข้ามาอ่านนิยายดองเค็มเรื่องนี้ ท่านจะเป็นที่จดจำของข้าน้อยตราบจนชีวาจะหาไม่... (เว่อร์อีกแระตู - -)

    ด้วยความไร้สาร(ะ)
    ไร้สาระ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×