ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Immortal Wand คทากวนป่วนสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2: ครอบครัวธนาวาริน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49


    บทที่ 2: ครอบครัวธนาวาริน (ลงครั้งแรก 7 ม.ค. 49 เวลา... จำไม่ได้อีกเช่นเคย -*-)

    ค่ำคืนที่บนท้องฟ้าดาดาดไปด้วยหมู่ดาว ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศไทย ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี ดวงหน้าหล่อเหลาเอาการ ผมซอยสั้นสีดำสนิทถูกหวีอย่างเป็นระเบียบ ดวงตาสีนิลดูร้อนรน เขาเดินกลับไปกลับมาอย่างกระวนกระวาย หน้าห้องที่มีป้ายติดไว้เหนือประตูว่า 'ห้องคลอด'

    ชายหนุ่มชำเลืองมองนาฬิกาข้อมือเรือนทองของตน ขณะนี้เป็นเวลาห้าทุ่มสี่สิบห้า เขาถอนหายใจด้วยสีหน้าเป็นกังวล... ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ...

    ทันใดนั้นเอง ประตูห้องคลอดก็ถูกผลักออกมา ชายหนุ่มในชุดสีเขียวเดินตรงมาหาเขา ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากถาม ชายหนุ่มตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า "คุณนิรันดร์ใช่ไหมครับ ยินดีด้วยครับ คุณได้ลูกสาว"

    "จริงเหรอครับ!" นิรันดร์ดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ "แล้ว...นภา ภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับ"

    "เธอปลอดภัยดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวสักพักก็ฟื้นแล้ว... ผมว่า คุณน่าจะตั้งชื่อลูกเลยนะครับ" หมอหนุ่มแนะนำ

    "อืม... งั้นผมจะตั้งชื่อว่า..." ชายหนุ่มมองไปรอบๆกาย แล้วเขาก็เหลือบไปเห็นดาวดวงหนึ่งพุ่งลงมาจากฟากฟ้า "รินนภา..."

     ขณะเดียวกันนั้น บนท้องฟ้ายามยามนี้ ได้ปรากฏร่างของคนคนหนึ่ง... เขาหรือเธอสวมผ้าคลุมยาวลากพื้นปกปิดร่างกายทุกส่วน ยกเว้นมือทั้งสองข้างที่กำคทาไม้เก่าๆอันหนึ่งไว้ หัวคทาเป็นคริสตัลสีดำ ดวงตาสีเงินทอประกายอยู่ในความมืด

    "เรริน่า... ไปเกิดแล้วสินะ" เสียงทุ้มๆนุ่มๆพูดกับตัวเองอย่างพึงพอใจ "แต่ว่ามันยังจำได้อยู่... ไม่เป็นไร... ข้าจะสงเคราะห์ให้เอง" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    "ด้วยอำนาจของสวรรค์ ข้าขอล้างความทรงจำของเทพธิดาเรริน่า" สิ้นเสียงสาป ท้องฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ก้อนเมฆเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำดุจเลือด เพียงชั่วครู่เดียว ก่อนทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพเดิม...

    "ลาตลอดกาล... เรริน่า..."

    "ไม่นะ!!!" เด็กสาวตะโกนสุดเสียง

    ร่างของสาวน้อยวัยสิบห้านอนแผ่หลาอยู่บนเตียงสีฟ้า ใบหน้าของเธอชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ผมสีน้ำตาลเข้มเปียกชื้น ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเบิกกว้างด้วยความตระหนก ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบห้องสีฟ้าสะอาดตาที่คุ้นเคย...

    ...ฝันไปหรือนี่... ความคิดแรกผุดขึ้นมาในหัว หมู่นี้เธอฝันแปลกๆอย่างนี้บ่อยมากๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจจะจำ เด็กสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง แสงอาทิตย์อ่อนๆส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เด็กสาวเหลือบมองนาฬิกา ขณะนี้หกโมงสิบห้าแล้ว

    ...ยังเช้าอยู่เลยนี่ นอนต่อดีกว่า... เธอคิดในใจพลางล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

    ในขณะที่กำลังเคลิ้มๆจะหลับอยู่แล้ว ก็ดันมีมารมาขัดความสุข

    "คุณรินเจ้าขา ตื่นได้แล้วค่า!" เสียงแหลมๆตะโกนดังมาแต่ไกล

    ...น้องตัวแสบมาอีกแล้ว... เด็กสาวคิดอย่างรำคาญ

    "พี่ริน ตื่นได้แล้วจะนอนไปถึงไหนน่ะ" เสียงแหลมๆตะโกนบอก ครั้งนี้ไม่พูดเปล่ามือยังระรัวเคาะประตูอีกด้วย สร้างความรำคาญใจให้กับคนขี้เซาอย่างมาก

    ...คนจะนอนอย่ามายุ่งได้ไหมเนี่ย... รินเริ่มจะหมดความอดทนกับน้องสาวตัวแสบ... อย่างนี้ต้องเจอไม้เด็ด...

    "พี่ริน ถ้ายังไม่ออกมาหนูเข้าไปแล้วนะ" เสียงแหลมเล็กร้องบอกก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้อง

    เด็กสาววัยสิบสามปีในชุดเครื่องแบบนักเรียนมัธยมต้นก้าวเข้ามาในห้อง ผมยาวสลวยสีดำสนิทถูกมัดรวบเป็นห้างม้า ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสวยเนียน อาจเป็นเพราะแป้งที่ทาไว้บางๆก็เป็นได้ ดวงตาสีน้ำตาลเช่นเดียวกับพี่สาวของเธอ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก่อนที่จะไปหยุดอยู่ตรงผ้านวมบนเตียงที่คลุมร่างของพี่สาวเธอเอาไว้

    "พี่ริน ตื่นสักทีเหอะ" เด็กสาวบอกขณะที่เดินตรงไปหา ก่อนจะนั่งลงที่ปลายเตียง แต่ร่างในผ้านวมไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยแม้แต่น้อย

    "พี่ริน ตื่นเถอะ" เธอร้องบอกอีกครั้ง แต่พี่สาวจอมดื้อด้านก็ยังไม่ยอมตื่น

    คราวนี้เด็กสาวเหลืออดเต็มที ลุกขึ้นยืนจังก้า ก่อนที่จะกระชากผ้านวมออก แต่สิ่งที่เห็นทำให้เธอเกือบช็อก!

    ร่างของพี่สาวนอนแผ่หลาอยู่ ดวงตาปิดสนิท เส้นผมสีน้ำตาลยาวสยาย แต่สิ่งที่ทำให้เธอช็อกนั้น คือ ที่มุมปากสีชมพูซีดๆกลับมีของเหลวสีแดงติดอยู่ สิ่งที่เธอมั่นใจว่าไม่ใช่ลิปสติก... แล้วที่ชุดนอนลายทางสีฟ้าสลับขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีแดงฉาน...

    "อะ...กะ..." เด็กสาวเบิกตากว้างมองร่างพี่สาวของตนเองอย่างตกใจ...

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!"

    "เอ๊ะ! นั่นเสียงลูกนิภานี่คะคุณ" หญิงสาววัยสามสิบเจ็ดปีพูดกับสามี เธอเป็นหญิงร่างอวบหน้าตาใจดี ผมตรงสีน้ำตาลยาวถึงกลางหลัง ใส่ชุดง่ายๆ เสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูกับกางเกงผ้ายืดสีดำ ช่างดูขัดกับตำแหน่ง คุณนายนภา ธนาวาริน คุณหญิงไฮโซแห่งค่ายเพลง "คีตามิวสิค" ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย

    "เธอก็ไปดูลูกสิ" ผู้เป็นสามีตอบกลับ เขาเป็นชายหนุ่มวัยสี่สิบปี ผมสีดำซอยสั้นเริ่มมีสีขาวปะปน หน้าตาที่เริ่มมีริ้วรอยแต่ก็ยังมีเค้าความหล่อหลงเหลืออยู่ เขาอยู่ในชุดสบายๆ เสื้อโปโลแขนสั้นสีน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ขัดกับตำแหน่ง คุณนิรันดร์ ธนาวาริน เจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ "คีตามิวสิค"

    "ก็ได้ค่ะ" นภาตอบรับคำ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไม้สักขัดมันขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องนอนทั้งหมด

    หญิงสาวเดินตรงไปที่ประตูไม้ขัดมันบานสุดท้าย แล้วเริ่มเคาะประตูเรียกลูกสาวทั้งสอง

    "ริน นิ เป็นอะไรรึเปล่าลูก" นภาเอ่ยถามลูกสาวทั้งสองอย่างเป็นห่วง

    "ไม่มีอะไรหรอกคะแม่" เสียงรินตอบกลับมา

    "แม่เข้าไปได้ไหม" ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม ผลักประตูเข้าไปโดยไม่รอคำตอบ

    ภาพแรกที่เห็น คือ รินอยู่ในชุดนอนเสื้อกับกางเกงลายทางสีฟ้าสลับขาว เสื้อเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีแดงฉาน ที่มุมปากก็เปรอะไปด้วยของเหลวสีแดงเช่นกัน ผมสีน้ำตาลยาวประบ่ากระเซิงเพราะเพิ่งตื่นนอน ส่วนนิ อยู่ในชุดนักเรียนผูกผมแต่งตัวเรียบร้อย นั่งอยู่ที่ปลายเตียง มีสีหน้าตื่นนิดๆ

    "อะไรกันเนี่ยริน" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวคนโต

    "เลือดไงคะ" เธอตอบกลับหน้าตาเฉย ดวงตาสีน้ำตาลมองผู้เป็นแม่อย่างงงงวย

    "แล้วทำไม... เอ่อ..." นางนภาถึงกับพูดไม่ออก

    "แค่วันมามากน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอกคะ แม่ออกไปก่อนนะคะ หนูจะอาบน้ำแต่งตัว" เด็กสาวดันผู้เป็นมารดาที่กำลังทำสีหน้าตะลึงออกไปข้างนอก ก่อนจะปิดประตูล็อกกลอนเรียบร้อย

    "พี่ริน เล่นอะไรของพี่น่ะ" น้องสาวตัวดีเอ่ยถาม เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่ 'แค่วันมามาก' แน่นอน

    "ก็แค่เล่นสนุกกับยาแดงนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง ทำตกใจไปได้" รินสารภาพกับน้องสาว พลางส่งยิ้มกวนๆไปให้ "เออ นิ ออกไปได้แล้ว พี่จะอาบน้ำ เหม็นยาแดงว่ะ"

    "ฮึ สม อยากแกล้งน้องดีนัก" นิว่า ก่อนจะเดินดุ่มๆออกไปจากห้องอย่างฉุนๆ

    "ฮิฮิ ไปแล้ว เสร็จเรา" รินพึมพำเบาๆ ก่อนจะล้มตัวนอนต่ออย่างเป็นสุข

    "อ้อ อย่าคิดจะนอนต่อเป็นอันขาดเชียวนะ ไม่งั้นนิจะฟ้องแม่เรื่องยาแดง" เสียงแหลมๆตะโกนผ่านประตูเข้ามาอย่างรู้ทัน ทำเอาคนที่กำลังจะนอนสะดุ้งเฮือก

    ...ชิ รู้ทันอีก... ผู้เป็นพี่คิดในใจอย่างรำคาญ ก่อนที่จะจำใจคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป...

    -+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-

    สวัสดีวันศุกร์จ้า

    ฮุฮุ วันนี้ฟิตเลยนั่งแต่งมาให้อ่านกัน

    ขอบคุณสำหรับคำติชมทั้งหลาย และก็ขอบคุณที่ยังมีแก่ใจคลิ๊กเข้ามาอ่านเรื่องนี้ ^ ^

    อย่างว่าแหละ คนอยากเป็นนักเขียนไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า คำวิจารณ์ จากนักอ่านนักเขียนทุกท่าน ไหนๆก็เข้ามาอ่านแล้ว ติชมสักนิดสักหน่อยก็ยังดีนะ

    ขอสาระจงอยู่กับตัวท่าน (เพราะในตัวคนแต่งไม่มี -_-")
    ไร้สาระ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×