คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นาย..เอ๋อ?
หลังจากที่ให้สัญญากับตัวเองว่าจะทำความสะอาดห้องหลังการสอบเข้า ม.4 จนบัดนี้ก็ล่วงเลยมาถึงสอง เดือนแล้ว ก็ได้ฤกษ์ที่จะทำสักที
“เฮ้อ...!เก็บหนังสือใส่ลังเสร็จจนได้ เบรกก่อนแล้วกัน” ฉันพูดกับตัวเอง ทำไมน้า..นิสัยแบบนี้ถึงแก้ไม่หายสักที
ขณะที่ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำ ฉับพลันสายตาของฉันก็หยุดอยู่ที่ข้างขวด
“อ๋า....!ไอ้ตัวอันตราย” ไอ้ตัวอันตรายที่พูดถึงก็คือแมลงสาบ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉันรังเกียจที่สุด โดยเฉพาะเวลาที่มันบิน!
ตอนนี้มันไต่ลงมาที่พื้นแล้ว ฉันค่อยๆย่องไปที่มุมห้องเพื่อหยิบไม้เบสบอลของเล่น แล้วพยายามเข้าใกล้ไอ้ตัวอันตรายโดยไม่ให้มันรู้ตัว จากนั้นก็.........ตึ้ง!ตุ้บๆๆๆ..!
“ฮ่าๆๆ สุดท้ายเจ้าก็ต้องตายด้วยคมดาบแห่งจันทรา!”ยืนชูไม้เบสบอลแล้วหัวเราะคนเดียว ( อย่าไปถือเลยนะคะ เป็นอาการปกติค่ะ)
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์วันสุดท้ายของการปิดเทอมภาคฤดูร้อน ตอนบ่ายฉันขี่รถป็อบออกไปร้านหนังสือกะจะหาดูหนังสือคู่มือล่วงหน้าสักหน่อย
“ชีวะ ม.4 ๆ” พูดพลางไล่มือไปตามสันหนังสือแต่ละชั้น จู่ๆก็มีเสียงหนังสือเล่มหนาๆตกลงมา ฉันหันไปมองตามสัญชาตญาณก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งใส่แว่นกลมๆรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังเก็บหนังสือที่ตกขึ้นมา
‘พวกตี๋เด็กเรียน’คิดในใจพลางเลือกหนังสือต่อ จนท้ายที่สุดก็ได้เล่มที่ต้องการ ฉันจึงเดินไปดูหนังสือมุมที่นายตี๋คนนั้นทำตก ปรากฏว่าเป็นหนังสือนวนิยายของทมยันตี(หงุดหงิดนิดๆที่คาดผิดไป)
และแล้ววันเปิดเทอมแรกก็มาถึง ฉันให้แม่ขับรถมาส่งที่หน้าประตูโรงเรียน ฉันรู้สึกเกร็งๆกับโรงเรียนใหม่อยู่มากทีเดียวเลยล่ะ แต่ก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อได้เจอเพื่อนร่วมชั้นโรงเรียนเก่าที่สอบเข้าได้เช่นเดียวกัน
“เฮ้!ป้อม เนะ ว่าไง ” ทักทายพร้อมกับฉีกยิ้มเห็นฟันครบสามสิบสองซี่
“ได้อยู่ห้องเดียวกันทั้งสามคนเลย ดีจัง” สาวผิวขาวหน้ารูปไข่นามว่า‘เนะ’เอ่ยขึ้น
“เปรี้ยว ฉันว่าแกอ้วนขึ้นว่ะ ดูอูมๆพิลึก” ยัยป้อม สาวเตี้ยหน้ากลมทัก
“นี่เธอ ปากชิสุไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“แหมป้อมนี่ ตอนนี้อย่าเพิ่งเม้าท์อะไรเลยนะรีบไปเข้าแถวกันก่อนเถอะ เดี๋ยวโดนดุตั้งแต่วันแรก”
“ค่าาาาา....คุณหนูเนะ” ป้อมลากเสียง
การเรียนวันแรกทั้งในช่วงเช้าและบ่ายจะเหมือนๆกันคือคุณครูจะแนะนำตัว หรือพูดเกริ่นๆในชั่วโมงแต่ละรายวิชา ฉันจึงง่วงเหงาหาวนอนบ่อยเป็นพิเศษ ยกเว้นคาบสุดท้ายทึ่เป็นคาบนาฏศิลป์คุณครูไม่อยู่ ฉันจึงไปนั่งที่ร่มหินอ่อนพร้อมกับเนะและป้อม
ร่มหินอ่อนเป็นสถานที่ที่มีไม้ยืนต้นขึ้นค่อนข้างร่มรื่น และมีชุดโต๊ะหินอ่อนอยู่มากจึงเรียกว่าร่มหินอ่อน ทั้งที่จริงแล้วที่นี่เองก็มีชื่ออยู่แล้วว่า “สวนพฤษศาสตร์”
เนะเดินนำหน้าไปที่โต๊ะที่อยู่มุมด้านในสุด ป้อมกับฉันจึงเดินตามเข้าไป ฉับพลันสายตาสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆกันนั้นที่มีกลุ่มผู้ชายนั่งอยู่
‘นานตี๋นั่นนี่หว่า’ จ้องไปที่เขาทั้งๆที่ขายังเดินอยู่
“มองอะไรเปรี้ยว” เนะถาม พร้อมกับที่ผู้ชายคนหนึ่งในโต๊ะนั้นเห็นเข้า เขาจึงพูดขึ้นว่า
“หวัดดี เราอยู่ห้องเดียวกันใช่มั้ย เราชื่อนัทนะ เธอล่ะ” นัทพูดกับฉัน
“เราชื่อเปรี้ยว แล้วนั่น เนะกับป้อม”
“นี่กลุ่มเพื่อนเรามีเต่า เล้ง ปิง โจ้ก แล้วก็โม่” นัทเอ่ยแนะนำตามลำดับ
‘อ๋อ นายตี๋นั่นชื่อเล้งนี่เอง’ฉันคิด
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ” เนะยิ้มไปทางกลุ่มนั้น
“เช่นกันครับ” นายคนที่ชื่อโจ้กเอ่ยตาม
พอคล้อยหลังจากกลุ่มของปิง
“ดูเป็นเด็กเรียนจังเนอะพวกนั้น” ป้อมพูดเบาๆ
“ใช่ๆๆโดยเฉพาะนายเล้งน่ะ” เนะพยักเพยิดไปทางนั้น
“ฉันเคยเจอทีนึงที่ร้านหนังสือ อ่านนิยายทมยันตีด้วยแหล่ะ” พูดเสียงสูง
“ว้ายต๊ายตาย ทำไมโบราณจัง” ป้อมยกมือขึ้นปิกปาก
"ฉันว่าดูเอ๋อๆพิกลนะ"ฉันตั้งสงสัย
“ช่างเขาเหอะน่า ว่าแต่ว่าเย็นนี้เราไปกินพิซซ่ากันมั้ย” เนะชวน
“ไปสิ ถ้าเนะเลี้ยงนะ” ฉันพูดอมยิ้ม
“ได้อยู่แล้วจ้ะ”
สำหรับวันที่สองของการมาเรียนแม่อนุญาตให้ฉันขี่รถป็อบคู่ใจมาเองได้ ฉันจึงมาโรงเรียนเช้าเป็นพิเศษ หลังจากที่เอารถไปจอดไว้แล้วฉันจึงเดินไปที่ร่มหินอ่อน กะว่าจะนั่งเปิดดูหนังสือเรียนสักหน่อย พอไปถึงที่นั่นก็เจอนายเล้งนั่งอ่านหนังสืออยู่ก่อนแล้ว ฉันจึงเอ่ยทักไปตามประสาคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี (อ่า..คิดว่าเป็นเช่นนั้น)
“หวัดดีตอนเช้า”
“อืม หวัดดี” พูดแต่ไม่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือมันหมายความว่าไงฟะ!
“นายอ่านอะไรอยู่อ่ะ”ข่มอารมณ์นิดๆ
“หนังสือ” ก็รู้อยู่ว่าเป็นหนังสือ คิดว่าเป็นจานข้าวรึไงยะ!
“เอ่อ..เรานั่งด้วยคนนะ”
“ฮื่อ” ตอบรับในลำคอ
“นายมานานแล้วเหรอ”
“นานแล้ว”
“ขี่รถมาเองรึเปล่า”
เขาละสายตาจากหนังสือแล้วมองหน้าฉัน
‘ถามจุกจิกจัง’อ่านจากสายตานายเล้งได้ความตามนี้แหล่ะ
“เปล่า พ่อมาส่งน่ะ” เขาพูดแล้วยิ้มขำๆทิ้งท้าย
“เปรี้ยวใช่มั้ย” ชื่อเปรี้ยวนะ ไม่ใช่กลิ่นตัวเปรี้ยว
“ใช่ นายก็...เล้ง ใช่มั้ย” รู้อยู่แต่แกล้งโง่ถามง่ะ เหอๆๆ
“ใช่ เปรี้ยวอยู่สีไหนเหรอ”
“สีฟ้า นายล่ะ”
“สีฟ้าเหมือนกัน งั้นเราก็ทำเวรความสะอาดวันเดียวกันอีกนะเนี่ย”
“นายรู้ได้ไงอ่ะ”
“เราอยู่ ม.3 ที่นี่พอจบเรียนต่อ ม.4 เลย เรื่องเวรความสะอาดน่ะทุกๆชั้นจะทำเหมือนกันคือ สีเดียวกันทำเวรวันเดียวกัน” เขาอธิบาย
ทันใดนั้นเสียงออดเข้าแถวก็ดังขึ้น
“ไปเข้าแถวกันเถอะ” เขาชวน
ฉันยิ้มแล้วพยักหน้าให้แทนคำตอบ เป็นอันว่าฉันแปลข้อความจากสายตานายเล้งผิดไปเหรอเนี่ย..
ความคิดเห็น