ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Diary of love - SJ TVXQ BB 2PM Shinee SNSD WG F(x) -

    ลำดับตอนที่ #4 : {คยูซอ} รักใสๆของหนุ่มขี้อาย กับยัยมาสคอต Part 1 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 843
      0
      10 ม.ค. 53


    {คยูซอ} รักใสๆของนายตัวร้าย กับยัยมาสคอต


    ยัยมาสคอตหน้าใสคนนั้นที่คอยมาแจกของให้เด็กๆที่นี่ทุกวัน


    ส่วนผมก็มาที่นี่ทุกวันเช่นกันเพื่อที่จะมาแอบมองยัยมาสคอตของผม


    นับวันผมจะบ้ามากขึ้นทุกวัน แต่ผมจะสมหวังได้ยังไง ในเมื่อผมมันขี้อายแบบนี้!!!

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องทั้งหมด มันเริ่มต้นมาจากวันที่ผมทะเลาะกับทางบ้าน แล้วออกมาหาที่สงบๆ เพื่อทำในสิ่งที่ผมชอบก็คือการวาดรูป แต่สิ่งที่ผมชอบนี่

    แหละกลับทำให้เกิดปัญหา ผมอยากเรียนต่อทางด้านการวาดภาพ แต่ครอบครัวของผมทำธุรกิจ พ่อกับแม่เลยอยากให้เรียนบริหาร สุด

    ท้ายก็จบลงด้วยการทะเลาะกัน


    "พี่มาสคอต คุณแม่ขา พี่มาสคอตน่ารักจังเลยค่ะ"


    เสียงของเด็กผู้หญิงคนนึงทำให้ผมหันไปมองตาม เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังมองมาสคอตตัวนึงที่ถือของเยอะแยะมากมาย แล้วคอยแจกจ่าย

    ให้กับทุกคน สำหรับผมผมคิดว่ามันก็เฉยๆ เป็นแค่การดึงดูดความสนใจของคนเท่านั้น แต่สำหรับเด็กๆ การได้เจอมาสคอตแบบนี้คงเป็น

    เรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก เด็กๆชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วนิ�


    ไม่รู้ว่าผมนึกอะไร ถึงได้หยิบดินสอขึ้นมาวาดรูปมาสคอตตัวนั้น แต่ก็นะดีกว่ามานั่งคิดมากเกี่ยวกับปัญหาโลกแตกที่ยังหาทางออกไม่ได้


    พอแจกของเสร็จยัยมาสคอตตัวนั้นก็เดินมาแถวๆที่ที่ผมนั่งอยู่


    "เฮ้ออ เหนื่อยจัง ร้อนชะมัดเลย"


    ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเอาหัวมาสคอตออก วินาทีนั้นผมแทบลืมหายใจไปชั่วขณะ เธอไม่ใช่ผู้หญิงสวย แต่เป็นผู้หญิงที่น่ารัก น่ารักที่สุดเท่า

    ที่ผมเคยเจอมา


    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ทุกวัน เวลาเดิม ผมจะต้องมาที่นี่ และนั่งอยู่ตรงที่เดิมเพื่อดูเธอแจกของให้เด็กๆ แล้วก็แอบเก็บรายละเอียดของ

    เธอเพื่อเอาไปวาดรูป ตอนนี้ภาพของเธอที่ผมวาด เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วแหละ


    ทุกครั้งที่เธอทำงานเสร็จ เธอจะมานั่งที่ม้านั่งตัวเดิม ใกล้ๆกับผม แต่เราไม่เคยได้คุยกันสักครั้ง เธอคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีผมมานั่งอยู่ตรงนี้

    ทุกวัน ก็จะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ผมไม่กล้าพอที่จะเข้าไปคุยกับเธอก่อนหรอก


    "คุณมาที่นี่อีกแล้วหรอคะ"


    ผมหันซ้ายหันขวา นี่เธอพูดกับใคร กับผมหรือเปล่า >////<


    "ฉันถามคุณนั่นแหละค่ะ"


    "อ่ะ..อ๋อครับ คะ..คุณรู้ด้วยหรอคะ..ครับว่าผมเคยมาที่นี่" โอ้ยย โจวคยูฮยอน ทำไมแกต้องพูดติดอ่างขนาดนี้ด้วยว่ะ


    "ฉันเห็นคุณมานั่งที่นี่ทุกวันเลย"


    "อ่ะครับ แหะๆ"


    "มาทำอะไรที่นี่หรอค่ะ สวนสาธารณะนี่มีอะไรหรอคะ คุณถึงได้มาทุกวัน" มีคุณไงครับบบบ ได้แค่คิดเท่านั้นแหละครับ ผมไม่กล้าพูด

    หรอก


    "ผมมีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ เลยอยากหาที่สงบๆ เผื่อจะคิดอะไรดีดีได้ แล้วคุณล่ะครับ ทำงานหรอ" ผมไม่ได้พูดโกหกนะครับ นี่ก็เป็น

    ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมมาที่นี่ แค่ไม่ใช่ประเด็นหลักแค่นั้นเอง


    "ใช่ค่ะ ฉันต้องช่วยที่บ้านทำงานน่ะค่ะ"


    "ไม่เหนื่อยแย่หรอครับ"


    "เหนื่อยค่ะ แต่มันจำเป็นนี่ค่ะ อีกอย่างทำงานแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ฉันชอบเด็ก ได้เจอเด็กๆน่ารักๆทุกวัน ฉันชอบค่ะ"


    "อ่ะ ฉันต้องไปแล้ว หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะคะ ขอให้คุณหาทางแก้ปัญหาของคุณได้เร็วๆนะคะ"


    "ครับ..เอ่อ" เธอไปแล้ว โธ่เอ้ยย ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลย มัวแต่เงอะๆงะๆอยู่ได้

    สามวันที่ผ่านมาเธอไม่มาทำงานเลย ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบาย หรือว่าเป็นอะไร นี่ผมดูเพ้อเจ้อไปหรือเปล่า ชอบคนที่

    เจอกันไม่ถึงเดือน และเคยพูดกันแค่ครั้งเดียว


    "พี่มาสคอตมาแล้วๆ"


    ผมหันไปตามเสียงเรียกของเด็กๆ เธอมาทำงานแล้วจริงด้วย ผมนั่งมองเธออยู่อย่างนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่งมองนานเท่าไหร่ ชั่วโมง สอง

    ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นนะ


    "อ้าวคุณ ยังคิดวิธีแก้ปัญหาไม่ได้อีกหรอค่ะ ^^"


    "ยะ..ยังเลยครับ" รอยยิ้มแบบนั้นทำใจผมเต้นแรงชะมัด ทำไมเธอถึงได้เหมือนนางฟ้าขนาดนี้นะ หรือเธอตกลงมาจากสรรค์หรือเปล่า


    "คุณ..เอ่อ"


    "ผมคยูฮยอนครับ"


    "ฉัน ซอฮยอน ค่ะ คุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหม"


    "ไม่รบกวนคุณดีกว่าครับ"


    "บางทีการที่เราได้ระบายกับคนอื่นๆบ้าง มันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นนะคะ"


    ไม่รู้ทำไมผมถึงตัดสินใจเล่าปัญหาให้เธอฟัง เป็นเพราะความหวังดีของเธอ ความน่ารักของเธอ หรือเพราะผมชอบเธอ แต่จะด้วยเหตุผล

    อะไรก็ช่าง ผมก็เล่าไปแล้ว แล้วเธอก็ดูจะตั้งอกตั้งใจฟังมากด้วย


    "เกิดเป็นคนรวยก็มีปัญหาเหมือนกันเน๊อะ"


    "แหะๆ นั่นสินะครับ"


    "จริงๆแล้ว ทางแก้มันไม่ยากหรอกค่ะ ฉันว่าคุณสามารถทำในสิ่งที่คุณรักกับสิ่งที่พ่อแม่คุณอยากให้ทำไปพร้อมๆกันได้"


    "ยังไงครับ"


    "เดี๋ยวนี้ ศิลปะก็หาเรียนได้ทั่วไปนิค่ะ คุณเรียนเพิ่มเติมเอาก็ได้ ฉันเคยเห็นรูปของคุณ คุณวาดรูปสวยอยู่แล้ว คงไม่ต้องเรียนอะไรมาก

    ส่วนเรื่องธุรกิจของครอบครัว มันคือหน้าที่ที่ติดตัวคุณมาตั้งแต่เกิด ถ้าคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ ก็ทำมันเถอะค่ะ เพราะมันถูกสร้าง

    ขึ้นมาเพื่อคุณ คุณจะปล่อยปละละเลยมันไปได้หรอคะ"


    นั่นสินะ คำตอบมันง่ายนิดเดียว ผมสามารถทำทั้งสองอย่างพร้อมๆกันได้ ทำไมผมถึงคิดไม่ถึงนะ


    "ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยหาทางออกดีดีให้กับผม"


    "ไม่เป็นไรค่ะ"


    "อ่ะ เอ่ออ คือว่า คือว่า"


    "หืม?? อะไรหรอคะ"


    "คือออ"


    "คือ?"


    "คือถ้าผม ถ้าผมจะติดต่อกับคุณ ผมจะติดต่อกับคุณได้ยังไงครับ"


    "ติดต่อฉัน เอ่อ ฉันไม่มีพวกโทรศัพท์หรืออะไรอย่างนี้หรอกค่ะ มันเป็นของไม่จำเป็นสำหรับฉัน ถ้าจะติดต่อฉัน ก็สวนสาธารณะที่นี่แล้ว

    กันค่ะ"


    "แต่ก่อนหน้านั้น คุณ เอ่อ คุณไม่มาทำงานตั้งหลายวันนี่ครับ"


    "อ๋อ น้องฉันไม่สบาย ฉันเลยต้องอยู่ดูแลน่ะค่ะ"


    "หรอครับ ละ..แล้ววันนี้คุณต้องไปไหนต่อหรือเปล่าครับ"


    "ไม่ค่ะ"


    "งั้นไปทานข้าวกันไหมครับ" ผมพูดเร็วมาก พูดเร็วจนกลัวว่าเธอจะฟังประโยคที่ผมพูดไม่ทันด้วยซ้ำ


    "หืม??"


    "เป็นการเลี้ยงขอบคุณที่คุณให้คำปรึกษาผม"


    "อ๋อ ได้สิค่ะ"


    ผมทำตัวไม่ถูกเลยเวลาเดินกับเธอ ขาแข้งผมมันพันกันไปหมด�หลายครั้งที่เธอต้องคอยจับผมไว้ไม่ให้ล้ม น่าอายชะมัด นี่ผมจะเขินอะไร

    นักหนา ผมเป็นผู้ชายนะ


    "คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เดินแปลกจังเลย"


    "อ๋อเปล่าครับ ร้านนี้แล้วกันนะครับ"


    "คุณระวังงง"


    โป้กกก

    โอ้ยยยย ด้วยความโง่ เซ่อซ่า บ้าบอของผม ทำให้ผมเดินชนประตู ขอเน้น เดินชนประตูต่อหน้าเธอ โจวคยูฮยอน แกทำอะไรลงไป ให้

    ตายเถอะ ผมอยากเอาหน้ามุดดินจริงๆ


    ผมเข้าไปนั่งทานอาหารกับเธอโดยมีสายตาของคนในร้านจ้องที่ผมตลอดเวลา จะไม่ให้จ้องได้ยังไง เสียงเดินชนประตูของผมนี่มันดัง

    อย่างอลังการเลยนะครับ แต่คุณจะว่าผมเว่อร์ไหม ถ้าจะบอกว่าอาหารมือนี้อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ได้กินอาหารพร้อมกับมองหน้าเธอ

    แบบนี้ทั้งอิ่มอกอิ่มใจจริงๆ

    เธอจะรู้ตัวไหมว่าผมแอบมอง แล้วถ้าเธอรู้ เธอจะหาว่าผมเป็นโรคจิตหรือเปล่านะ แต่ผมไม่กล้า ผมไม่กล้าที่จะทำอะไรมากกว่าแอบมอง

    แบบนี้จริงๆ









    จบ Part 1 แล้วคะ เป็นยังไงบ้าง ไรท์เตอร์ว่ามันดูแปลกๆไงไม่รู้

    แต่เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเอ็มวี seoul song นั่นแหละค่ะ

    เรื่องนี้ปรับลุคให้คยูขี้อายดูบ้าง หมาป่าขี้อายนี่ไม่รู้ว่าจะเข้าหรือเปล่านะคะ

    ยังไงก็ช่วยเม้นด้วยน้าา











    colors grace.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×