ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Diary of love - SJ TVXQ BB 2PM Shinee SNSD WG F(x) -

    ลำดับตอนที่ #29 : {ยุน-ยุน-ยูล} Triangle love vol.2 Part 1 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 616
      0
      21 ธ.ค. 53

    {ยุน-ยุน-ยูล}

     

    คนหนึ่ง...ดีแสนดี

    แต่อีกคน...ร้ายแสนร้าย

    แล้วสุดท้ายเขาจะเลือกใคร เมื่อใจหวั่นไหวไปกับทั้งสองคน

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    [Yunho]


    ถมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม คุณเคยรู้สึกแบบนี้เหมือนกับผมบางหรือเปล่า ผมกำลังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นเพียงผู้ชายโง่ๆคนนึงที่ยอมให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักหมดใจหลอกใช้ไปวันๆ


    “พี่ยุนโฮ ทำไมยังไม่ถึงอีก ยูลรอพี่มานานมากแล้วนะ ถ้าอีกห้านาทีพี่ยังไม่ถึง ก็ไม่ต้องมาให้ยูลเห็นหน้าอีกนะ เข้าใจไหม”


    เสียงปลายสายบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดมากแค่ไหน ควอน ยูริ ดาราสาวไฮโซที่กำลังโด่งดังอย่างมาก คนรักที่ไม่อาจเปิดเผยได้ของผม


    ห้านาทีไม่ขาดไม่เกิน ผมก็มาถึงกองถ่ายของเธอ หน้าที่ของผมคือมารับ มาส่งเธอที่กองถ่ายทุกวัน แต่ที่น่าเสียใจก็คือ เธอบอกใครต่อใครแค่เพียงว่า ผมคือคนขับรถคนนึงที่พ่อของเธอส่งให้มาดูแล


    “วันนี้เหนื่อยหรือเปล่ายูล” ผมถามพลางมองหน้าเธอที่หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าทันทีที่ขึ้นมาบนรถ


    “ทำไมต้องถามอะไรโง่ๆด้วย พี่คิดว่ายูลทำงานตั้งแต่เช้า จนจะเที่ยงคืนอยู่แล้วเนี่ย ยูลจะไม่เหนื่อยหรือไง”


    “ขอโทษพี่ก็แค่เป็นห่วง”


    “พี่ขับรถเงียบๆไปเหอะ ยูลจะนอน”


    เป็นอย่างนี้มาตลอด สามปีที่คบกันมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะรู้สึกว่าเธอมองผมเป็นคนรัก ผมรู้สึกว่าตัวเองก็แค่ผู้ชายคนนึงที่เธอมีเอาไว้เพื่อให้ทำอะไรตามที่ใจเธอต้องการ


    หลังจากที่ผมขับรถมาส่งเธอที่บ้านของเธอแล้ว ผมก็ขับรถมุ่งหน้ากลับไปที่คอนโดของตัวเอง คอนโดที่ได้มาจากการเก็บออม ตั้งแต่เรียนจบ ผมเป็นนักเขียน ใครๆก็บอกว่าอาชีพนักเขียนน่ะ ทำยังไงก็ไม่มีวันรวย แต่สำหรับผม ทุกอย่างที่ผมมีในวันนี้ก็เพราะอาชีพนี้นั่นแหละ


    ผมมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฝนที่ตกปรอยๆ ยิ่งทำให้ความคิดของผมล่องลอยไปกันใหญ่ จนไม่ทันได้สังเกตเห็นคนที่กำลังจะข้ามถนนลงมา



    ปึงงงง


    แม้ว่าจะพยายามเบรกอย่างเต็มที่ แต่มันก็ไม่พ้นอยู่ดี ผมรีบลงไปดูคนที่ถูกผมชน ผมอุ้มเธอขึ้นรถ พร้อมกับพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด


    เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกว่าหมอจะออกมาบอกว่าเธอปลอดภัยดี มีเพียงรอยถลอกตามแขน และขาเท่านั้น แต่ที่น่าเป็นห่วงและทำให้ผมกังวลใจก็คือ หมอบอกว่า เธอความจำเสื่อม เนื่องจากสมองได้ความกระทบกระเทือน



    “น้ำ น้ำ”


    ผมที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นหลังจากได้ยินเสียงเธอร้องเรียกจะดื่มน้ำ ผมจัดแจงนำน้ำที่ทางโรงพยาบาลจัดให้มาให้เธอดื่ม หลังจากดื่มเสร็จ เธอมองหน้าผมพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย


    “คะ..คุณเป็นใคร แล้วนี่ที่ไหน ละ..แล้วฉันเป็นใคร” เธอมองผมด้วยแววตาที่เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ กลัวทั้งผม และกลัวที่ตัวเองจำอะไรไม่ได้


    “ไม่ต้องกลัวนะคุณ คุณชื่อยุนอา แล้วนี่ก็โรงพยาบาล คุณประสบอุบัติเหตุน่ะ” ผมบอกเธอไปตามชื่อที่ผมได้มาจากโรงพยาบาล เนื่องจากเธอเพิ่งมารักษาที่นี่ เพราะถูกทำร้าย


    “แล้วคุณเป็นใคร”


    “ผมชื่อยุนโฮ ชองยุนโฮ”


    “ยุนโฮ”


    “เอาเป็นว่าเรารู้จักกันแล้ว ตอนนี้คุณนอนพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ”


    ผมจัดแจงห่มผ้าให้เธอ เธอเองก็หลับตาลงอย่างว่าง่าย ผมก็เลยเดินกลับไปทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาของโรงพยาบาลตามเดิม


    สำหรับวันนี้ ผมอยากบอกว่า เหนื่อยเหลือเกิน

     


    ติ๊ด ติ๊ด


    เสียงโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมต้องงัวเงียลุกขึ้นมารับ ยูริ ตายล่ะ นี่กี่โมงแล้ว ผมต้องไปรับยูริตอน
    9 โมง แต่นี่มันจะ 10 โมงอยู่แล้ว ตายแน่ๆยุนโฮ


    “ฮัลโหลยูล”


    “พี่ยุนโฮ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ทำไมพี่ไม่มารับฉัน”


    “พี่ขอโทษนะยูล พอดีเมื่อคืนเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ พี่เพิ่งได้นอนเมื่อไม่นานนี้เอง”


    “ยูลไม่สนว่ามันจะมีเรื่องอะไร หรือพี่จะได้นอนหรือเปล่า แต่สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ถ้าแค่นี้พี่ยังทำไม่ได้ เราก็อย่ามาคุยกันเลย”


    “ยูลๆ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก คืนนี้พี่จะไปรับยูลให้ตรงเวลานะคนดี”



    ผมมองนาฬิกาอย่างกระวนกระวาย ห้าทุ่มแล้ว ใกล้เวลาที่ต้องไปรับยูริ แต่ยุนอาก็ยังไม่นอนสักที แล้วผมก็ไม่อยากทิ้งให้เธอต้องอยู่คนเดียว


    “พี่ยุนโฮคะ”


    เสียงที่ดังลั่นของยุนอาทำให้ผมต้องตื่นจากความคิดและหันไปมอง ใบหน้าที่ขยับมาจนเกือบชิดกับใบหน้าของผม ทำให้หัวใจของผมเกิดอาการเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะขยับออกห่างไป


    “มีอะไรหรอยุนอา เรียกซะดังเชียว”


    “ยุนเรียกพี่ยุนโฮตั้งหลายครั้งแล้วนะคะ แต่พี่ยุนโฮเอาแต่เหม่อ”


    “งั้นหรอ แล้วมีอะไร อยากได้อะไรหรือเปล่า”


    “ยุนเห็นว่าพี่มองนาฬิกาบ่อยๆ มีธุระหรือเปล่าคะ”


    “เอ่อ..”


    “ถ้าพี่มีธุระก็ไปเถอะค่ะ ยุนอยู่คนเดียวได้”


    “แน่ใจนะ” ผมถาม เธอก็พยักหน้ารับอย่างจริงจังจนคอแทบจะหักอย่างน่ารัก จนผมอดไม่ได้ที่จะเอามือไปลูบหัวด้วยความเอ็นดู


    “งั้นพี่จะรีบไปรีบกลับนะคะ”


    “ค่ะ ขับรถดีๆนะคะ”


    เธออวยพรพร้อมโบกมือให้ แถมด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ ผมได้แต่แอบยิ้มกับตัวเอง แต่พอนึกถึงอีกคนที่รออยู่ความหนักใจก็เริ่มก่อตัว เหลือเวลาอีกไม่มาก ยูริก็จะเลิกถ่ายละคร และผมก็ต้องรีบไปให้ทันอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ

     



    [Yoona’s Part]


    เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวมันก็เงียบเหงาจนน่ากลัวเหลือเกิน ฉันกลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง การเป็นคนที่ไม่มีความทรงจำอะไรเหลืออยู่เลย มันช่างทรมานเหลือเกิน น่าขำฉันไม่รู้จักแม้แต่ชื่อตัวเอง ไม่มีความทรงจำใดๆจากอดีตที่ผ่านมา ตอนนี้สิ่งที่ฉันรู้มีเพียงฉันคือยุนอา และผู้ชายคนนั้นคือพี่ยุนโฮ เขาบอกว่าเขาเป็นพี่ชายฉัน เราเป็นญาติห่างๆกัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกไว้วางใจเขา


    “ยังไม่นอนอีกหรอคะ ดึกแล้ว คุณยุนอาควรจะพักผ่อนได้แล้วนะคะ จะได้หายไวๆ” พยาบาลที่เข้ามาเปลี่ยนควรน้ำเกลือกล่าวเอ่ยเตือนฉันด้วยความหวังดี


    “ฉันรอพี่ชายอยู่น่ะคะ ขอบคุณนะคะคุณพยาบาลที่เป็นห่วง”


    “ค่ะ ยังไงก็ ถ้าดึกกว่านี้แล้วเขายังไม่มา คุณยุนอาก็พักผ่อนเถอะนะคะ”


    “ค่ะ”

     


    [Yuri’s Part]


    ฉันมองนาฬิกาข้อมือ เที่ยงคืนตรงไม่ขาดไม่เกิน รถของพี่ยุนโฮก็เข้ามาจอดในกองถ่าย ฉันเอ่ยขอตัวลากับทุกคนแล้วรีบเดินตรงไปยังรถของเขาโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ด้วยหน้าที่การงานของฉันในตอนนี้ ฉันไม่สามารถบอกใครได้ถึงสถานภาพจริงๆระหว่างฉันกับพี่ยุนโฮ


    “ดอกไม้ค่ะ ไถ่โทษสำหรับเรื่องเมื่อเช้า” ดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า อารมณ์ยินดีที่จะได้ดอกไม้หมดไปเมื่อเห็นสีของมัน


    “ยูลว่ายูลเคยบอกพี่แล้วนะว่ายูลไม่ชอบดอกกุหลาบสีขาว ดอกกุหลาบที่ยูลชอบคือดอกกุหลาบสีแดงเท่านั้น” ฉันโยนดอกกุหลาบช่อนั้นกลับไปที่หลังรถอย่างไม่ไยดี การเห็นดอกกุหลาบสีขาวมันทำให้ฉันหงุดหงิด เพราะมันทำให้พาลไปนึกถึงใครอีกคน


    “ขอโทษนะ” เสียงขอโทษของพี่ยุนโฮ ทำให้ฉันต้องพยายามผ่อนลมหายใจ และระงับสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยบอกว่าไม่เป็นไร


    ไม่นานรถของพี่ยุนโฮก็เคลื่อนตัวมาถึงหน้าบ้านของฉัน วันนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่ เพราะทุกคนต่างมีธุระด่วนที่ต้องไปทำ บ้านหลังใหญ่โต แต่มีแค่คนใช้อาศัยอยู่มากกว่าเจ้าของบ้านซะอีก ช่างน่าสมเพชจริงๆ


    “พี่ยุนโฮ”


    “มีอะไรหรอยูล”


    “คืนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน พี่อยู่เป็นเพื่อนยูลหน่อยสิ ยูลไม่อยากอยู่คนเดียว”


    “แต่ว่า...”


    “ทำไม หรือพี่จะรับไปไหน” ฉันเอ่ยดักทาง รู้ดีว่าถ้าฉันต้องการ ไม่ว่าอะไรพี่ยุนโฮก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ สำหรับฉัน เขาเป็นก็เป็นเหมือนของตายที่อยู่ข้างๆกายตลอดเวลานั่นแหละ


    “เปล่า”


    ฉันพาพี่ยุนโฮเข้ามาในบ้าน ทั้งบ้านมืดไปหมด มีเพียงแค่แสงไฟอ่อนๆจากห้องโถงของบ้านที่ยังคงเปิดอยู่ ตอนนี้คนอื่นๆในบ้านคงหลับไปหมดแล้ว ฉันดึงพี่ยุนโฮเข้าหาตัวก่อนจะประกบปากของฉันลงบนปากที่เนียนนุ่มราวกับผู้หญิงของเขา ยอมรับกับตัวเองว่าคิดถึงและโหยหาจูบของเขาเหลือเกิน นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้เลย


    พี่ยุนโฮเองก็จูบตอบฉันเช่นกัน เราจูบกันอยู่นาน ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเราเข้ามาอยู่ในห้องของฉันกันตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของฉันก็สัมผัสกับเตียงนอนซะแล้ว


    “ยูลรักพี่ ยูลต้องการพี่”


    สิ้นเสียงของฉันพี่ยุนโฮก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียงก่อนจะมองฉันด้วยแววตาสำนึกผิด ทำเอาฉันที่นอนอยู่ต้องลุกขึ้นมามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ


    “ทำไม”


    “พี่ทำไม่ได้ พี่รักยูล อยากปกป้อง อยากทะนุถนอม ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้”


    “แต่ยูลเต็มใจ”


    “ถึงยูลจะเต็มใจ พี่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี นอนเถอะนะคะคนดี วันนี้ยูลเหนื่อยมามากแล้ว”


    “แล้วพี่จะไปไหน”


    “พี่สัญญาว่าจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างๆยูลจนกว่ายูลจะตื่น ดีไหมคะ”


    “อืม”





































    colors grace.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×