ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] Diary of love - SJ TVXQ BB 2PM Shinee SNSD WG F(x) -

    ลำดับตอนที่ #7 : {วอนยุน} So sorry 'ขอโทษที พอดีฉันมันร้าย' Part 2 100%

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 53


    {วอนยุน}




    นายชีวอนมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดทันทีที่รถของเขาเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์ของตระกูลอิม วันนี้เขาต้องมาถอนหมั้นยัยนั่น และ

    บอกว่าต้องการแต่งงานกับฉัน ฉันอยากจะเห็นหน้าของสองแม่ลูกนั่นตอนที่ความฝันที่วาดไว้มันพังทลายลงมาต่อหน้าซะจริงๆ


    "มัวนั่งรออะไรอยู่ล่ะค่ะที่รัก รีบลงไปสิ"


    "เธอร้ายกาจมากนะยุนอา เธอจำไว้เลย ต่อให้เธอได้ตัวฉันไป แต่สิ่งที่เธอไม่มีวันได้คือหัวใจของฉัน คนอย่างเธอไม่มีวันได้รับความรัก

    จากใคร"


    ฉันรู้สึกเจ็บแปลบในใจหลังจากได้ยินคำพูดของเขา แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ฉันก็ปรับตัวเองให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติอักครั้ง


    "เฮอะ ตลกหรือเปล่าชเวชีวอน ฉันไม่เคยอยากได้หัวใจของนาย สิ่งที่ฉันต้องการ คือความผิดหวังและเจ็บปวดจากคนพวกนั้นต่างหาก�

    ความรักไร้สาระอะไรนั่น ฉันไม่ต้องการ"



    ฉันลากเขาลงมาจากรถ และเดินควงเข้าไปในบ้าน วันนี้ทุกคนนั่งรอกันอยู่พร้อมหน้า เพราะนายชีวอนโทรมาบอกเอาไว้ว่ามีเรื่องสำคัญจะ

    บอก คงคิดว่าเขาจะมาขอแต่งงานสินะ ผิดแล้วล่ะคุณพี่สาว หึ


    "ทำไมถึงได้มาด้วยกัน ชีวอน ทำไมคุณถึงปล่อยให้มันควงแขนเข้ามา"


    "มินอา ใจเย็นๆ นั่งลงก่อนลูก"


    "ชีวอน พ่อต้องการคำอธิบาย"


    "คือ ผม ผม"


    "อย่ามัวอ้ำอึ้งสิค่ะที่รัก บอกเรื่องสำคัญกับพวกเขาเลยสิค่ะ"


    "ที่รักบ้าบออะไรกัน นังยุนอา แกออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ แล้วก็อย่ามายุ่งกับคู่หมั้นฉัน"


    "บ้านเธอ เหอๆ อย่าพูดอะไรที่ทำให้ฉันอยากหัวเราะได้ไหม ที่นี่มันบ้านของแม่ฉัน บ้านที่ถูกสามีสุดที่รัก กับเมียน้อยจอมหน้าด้านโกงไปต่างหาก"


    เพี๊ยะ


    เสียงฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าของฉัน ฉันถูกตบ ถูกคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อตบหน้า ทั้งๆที่ฉันอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออก

    มาสักหยด หัวใจฉันมันชาไปหมด นี่น่ะหรอ คนที่แม่บอกว่ามีบุญคุณท่วมหัวฉันนักหนา


    "ถ้าแกจะมาพูดจาเสียดสี ก่อความวุ่นวาย แกออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้"


    "ฉันออกไปแน่ แต่ฉันจะออกก็ต่อเมื่อธุระฉันเสร็จ แล้วจำเอาไว้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันก้าวออกจากที่นี่ ความเป็นพ่อลูกของฉันกับคุณ จบกัน�

    ฉันจะไม่เกรงใจอะไรคุณอีกต่อไป ชีวอน คุณรีบพูดสักที ฉันอยากออกไปจากที่นี่เต็มทนแล้ว"


    "ผมจะมาขอถอนหมั้นกันมินอาครับ เพราะว่าผม ผม ผมกำลังจะแต่งงานกับยุนอา"


    "ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมค่ะ ถ้าชัดแล้วขอก่อนตัวก่อนนะคะ จะรีบไปตัดชุดแต่งงาน"


    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด กลับมาเดี๋ยวนี้นะนังยุนอา กรี๊ดดดดดดดด"


    ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องไล่ตามหลังมา สะใจที่สุด ไม่มีอะไรที่ฉันจะสะใจไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ความรู้สึกของการถูกแย่งของรัก มันเป็น

    ยังไง พวกแกรู้สึกหรือยังล่ะ หึ


    "สมใจเธอแล้วใช่ไหม อิมยุนอา"





    หลายเดือนต่อมา งานแต่งงานของฉันกับนายชีวอนก็ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ฉันยอมเสียสละตัวเองแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อต้องการ

    จะทำให้คนพวกนั้นเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด คิดดูสิว่าฉันลงทุนขนาดไหน


    ตลอดทั้งงานนายชีวอนทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์ ไม่ยิ้มแย้มอย่างที่ควรจะเป็น มีแต่ฉันคนเดียวที่ฉีกยิ้มร่าเริงอย่างดีใจซะเต็มประดาที่ได้

    แต่งงาน


    "ทำหน้าให้มันดีดีหน่อยสิค่ะที่รัก นี่มันงานแต่งงานนะคะ ไม่ใช่งานศพ"


    "หึ มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นักหรอก"


    "งั้นหรอ ก็ดี งั้นก็ยินดีต้อนรับสู่ขุมนรกนะ ชเวชีวอน"


    "เดี๋ยวเธอก็จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่จะต้องตกนรก"


    แล้วคนที่ฉันรออยให้มางานนี้ใจะขาดก็มาถึง สองแม่ลูกนั่นแต่งชุดดำเข้ามาในงานพร้อมด้วยผู้ชายคนนั้นที่เดินมาด้วยสีหน้ากระอัก

    กระอ่วนใจอย่างที่สุด


    "แต่งแบบนี้ มาผิดงานหรือเปล่าคะพี่สาว"


    "ไม่นิ ฉันแต่งมาสาปแช่งแก ขอให้แกกับชีวอนเลิกกันไวๆ"


    "ท่าจะยากนะคะ เพราะเราสองคนน่ะรักกันม๊ากมากก"


    "อย่าเผลอนะ อิมยุนอา เพราะเมื่อไหร่ที่แกเผลอ ฉันจะเอาเขากลับมาทันที"


    "ตายแล้ว นี่พี่สาวมาประกาศในงานแต่งงานน้องสาวว่าจะแย่งสามีน้องสาวเลยหรอคะ ใจร้ายจัง"


    ฉันแกล้งพูดเสียงดัง ทำให้คนในงานหันมามองยัยนั่นเป็นตาเดียว ผู้ชายคนนั้นคงทนไม่ได้เลยลากสองแม่ลูกนั่นเข้าไปในงานซะก่อน หึ


    ก่อนส่งตัว แม่พาฉันมาที่สวนในโรงแรมที่จะใช้เป็นห้องหอในคืนนี้ วันนี้แม่สวยมาก สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา นายชีวอนส่งเสื้อผ้า

    อย่างดีมาให้แม่ฉันใส่มางานนี้ เขานับว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง เขาใส่ใจคนอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน แต่เขาก็ยังใจดี มีน้ำใจกับแม่ฉัน และ

    แวะไปเยี่ยมเยียนมินโฮอย่างสม่ำเสมอ แต่ฉันใจอ่อนกับความดีเหล่านี้ไม่ได้หรอก เพราะความแค้นของฉันมันมีมากเกินกว่าจะมาสนใจ

    ความดีพวกนี้


    "ยุนอา หยุดได้ไหมลูก หยุดความแค้นทั้งหมด แล้วใช้ชีวิตอยู่กับคุณชีวอนอย่างมีความสุข ได้ไหมลูก"


    "มันไม่มีวันมีความสุขหรอกค่ะแม่ คนไม่ได้รักกัน อยู่ด้วยกัน มันจะมีความสุขได้ยังไง"


    "ใครบอกกัน ลูกสาวแม่รักเขา ลูกสาวแม่รักคุณชีวอน"


    "แม่"


    "ยุนอา แม่เสียมินโฮไปแล้วคนนึง แม่ไม่อยากเสียลูกไปอีก สองแม่ลูกนั่นร้ายกาจมากกว่าที่ลูกคิดเยอะนะ"


    "แม่อย่าพูดอย่างนี้สิ เรายังไม่เสียมินโฮไปนะคะ เขายังอยู่กับเรา"


    "เราเสียเขาไปแล้วยุนอา เราเสียเขาไปแล้ว หมอเพิ่งโทรมาบอกแม่เมื่อเช้านี้เอง"


    ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดชะงัก โลกของฉันกำลังจะหยุดหมุน หัวใจของฉันแตกสลายไม่มีชิ้นดี เขาจากไปแล้ว น้องชายของฉัน คนที่ฉัน

    รักจากฉันไปแล้ว ไม่มีวันที่ฉันจะได้เขากลับคืนมาอีกแล้ว


    "เพราะฉะนั้นถ้ารักแม่ ทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหมยุนอา"



    ฉันไม่ตอบอะไรแม่ เพียงแต่เดินกลับห้องไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ได้รับการตอบสนองใดๆจาก

    เขา�แต่เราทุกคนก็ยังมีความหวัง ตราบใดที่เขายังหายใจ นั่นแสดงถึงการมีชีวิตอยูของเขา และฉันหวังเสมอว่าวันนึงเขาจะกลับมาเป็น

    มินโฮ น้องชายที่น่ารักของฉันเหมือนเดิม แต่วันนี้ทุกอย่างพังไปหมดแล้ว


    "หายไปไหนมาล่ะยุนอา คืนส่งตัว เธอเข้าห้องหอช้าแบบนี้ได้ยังไง"


    "....."


    "เป็นอะไรไป จะมาไม้ไหนอีก ถึงได้มาทำเป็นเงียบแบบนั้น"


    "น้องชายฉัน ฮึก มินโฮ ฮึก เขาตายแล้ว ฮือๆ"


    "ยุนอา"


    "ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วยชีวอน"


    เขาเดินเข้ามากอดฉัน ในวันที่ฉันอ้างว้างที่สุด ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน คนที่ฉันใช้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นคนนี้อยู่กับฉัน เพื่อ

    ปลอบโยนให้ฉันหายจากความเศร้า ฉันเลวเกินไปหรือเปล่าที่ยังคิดจะทำร้ายเขาต่อไป หรือว่าฉันควรจะหยุด แล้วทำตามหัวใจตัวเองสักที



    ไม่ได้หรอก ฉันหยุดไม่ได้แล้ว ฉันมาไกลเกินกว่านั้นแล้วจริงๆ ฉันผลักเขาออกไป ยกมือปาดน้ำตา แล้วยิ้มร่าวกับว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร

    เลยสักนิดเดียว


    "หึ หลอกง่ายจริงๆเลยนะชเวชีวอน� คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้ฉันเสียใจได้หรือไง จะบอกอะไรให้นะ มินโฮอยู่หรือตายมันก็ไม่ได้ต่างอะไร

    กันเท่าไหร่หรอก"


    "เธอมันใจร้ายจริงๆยุนอา ดึ ในเมื่อไม่ได้เสียใจอะไรเท่าไหร่ งั้นเรามาเข้าหอกันเลยดีกว่า"


    นายนั่นพุ่งมาที่ตัวฉันก่อนที่ฉันจะได้ทันตั้งตัว ทันทีที่ริมฝีปากของนายนั่นประกบกับริมฝีปากของฉัน ฉันก็ออกแรงทุบนายนั่นทันที แต่ยิ่ง

    ทุบก็ยิ่งเหมือนจะเป็นตัวฉันเองเปล่าๆที่เจ็บ เขาไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด จนสุดท้ายฉันก็ไม่สามารถขัดขืนเขาได้อีกต่อไป


    หมดแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างจากของที่ไร้ค่า ความภาคภูมิใจที่เก็บรักษามานานไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว ฉันจะไม่เสียใจเลย ถ้ามันขึ้นเพราะ

    ความรัก แต่ไม่สักนิด เขาไม่ได้รักฉันเลยสักนิด


    "จะร้องไห้ทำไมนักหนา เธอบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าขอต้อนรับสู่ขุมนรก ฉันก็ชวนเธอมาอยู่ด้วยกันไง"


    "เลว นายมันเลว รังแกได้แม้แต่ผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้"


    "หึ ถึงยังไงฉันก็เลวไม่เท่าเธอหรอกยุนอา"


    "ฉันเกลียดนาย เกลียดที่สุด"


    "ฉันก็เกลียดเธอ"


    "ดี งั้นเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้แหละ อยู่แบบเกลียดกันไปจนวันตาย"




    ชีวิตคู่ของฉันผ่านไปแต่ละวันด้วยความเจ็บปวด เราไม่เคยตื่นมาพร้อมกัน ไม่เคยเข้านอนพร้อมกัน ไม่เคยกินข้าวเย็นด้วยกัน ไม่เคยเลย

    สักอย่างเดียว เขาจะกลับบ้านมาก็ต่อเมื่อฉันหลับไปแล้วเท่านั้น ฉันไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแลจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี คิดมาถึงตรงนี้

    หัวใจของฉันก็อดที่จะปวดร้าวไม่ได้ ครั้งหนึ่งฉันก็ไม่เคยได้รับการใส่ใจจากคนที่ได้ชื่อว่าพ่อไปแล้วคนหนึ่ง มาวันนี้ทุกอย่างมันก็ซ้ำรอย

    เดิม


    "ยุนอา ฉันว่าช่วงนี้แกดูกินเยอะผิดปกติหรือเปล่า แล้วของพวกนี้ แกก็ไม่ชอบกินไม่ใช่หรอ"


    "ไม่รู้สิ อยู่ดีๆก็รู้สึกว่ามันอร่อยขึ้นมา"


    "ระวังเถอะ กินเยอะแบบนี้ จะอ้วนเป็นหมูเอา แล้วสามีจะไม่รักนะย่ะ"


    "ต่อให้ฉันสวยกว่านี้อีกสิบเท่า เขาก็ไม่รักฉันยูริ"


    ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร สองเดือนที่ผ่านมาฉันตื่นขึ้นมาอาเจียนตอนเช้าทุกวัน ชอบกินของทุกอย่างที่แต่ก่อนไม่เคยคิดจะแตะเลยสักนิด�

    ส่วนรอบเดือนก็หายไปสองเดือนแล้ว เมื่อวานฉันไปหาหมอเพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองคิด และมันก็ถูกต้อง ฉันท้อง ท้องกับนายนั่น หึ ฉัน

    ควรจะนำข่าวดีนี้ไปบอกครอบครัวนั้นหน่อยสินะ


    ทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลอิม ทุกสายตาก็มองมาที่ฉันด้วยความดูถูกดูแคลน แกมสมเพชเวทนา แล้วไม่นานฉันก็รู้ว่าทำไม

    ฉันถึงได้ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น นายชเวชีวอน นายนั่นอยู่ที่นี่ นี่คงจะมาที่นี่ทุกวันสินะ ฉันต้องอยู่คนเดียวในขณะที่เขามาอยู่กับคนรัก

    เก่าทุกวัน คนอื่นมองฉันแบบนั้นมันก็ถูกแล้วแหละ ฉันมันน่าสมเพชจริงๆ


    "สวัสดีค่ะ"


    "แกมาที่นี่ทำไมนังยุนอา ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่เขาไม่ต้องรับแก"


    "ไม่ต้อนรับฉัน แต่ต้อนรับสามีฉันอย่างนั้นหรอค่ะคุณพี่สาว"


    "ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะนังยุนอา ไม่อย่างนั้นจะให้คนใช้มาจับแกโยนออกไป"


    "โธ่ คุณพี่สาวอย่าเพิ่งอารมณ์ร้อนสิค่ะ วันนี้ฉันมาที่นี่ก็เพราะว่ามีข่าวดีจะมาบอกนะคะ"


    "ข่าวดีอะไร แกจะหย่ากับชีวอนหรือยังไง"


    "ฉันกำลังท้องต่างหากล่ะคะ ท้องกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆคุณพี่สาวนั่นแหละค่ะ"


    "กรี๊ดดดดดดดดด ไม่จริง แกโกหก นังยุนอา ออกไปนะ ออกไป"


    "ไปแล้วค่ะ บ๊ายบาย ฮ่าๆ"



    ทั้งๆที่ฉันควรจะสะใจ แต่ทำไมฉันถึงอยากจะร้องไห้ นายนั่นไม่ได้มีสีหน้ายินดีสักนิดที่ได้ยินเรื่องนั่น ลูกคนนี้มีฉันคนเดียวสินะที่ต้องการ

    เขา คนอื่นคงไม่มีใครต้องการเขาสินะ เหมือนกับฉันที่ไม่มีใครต้องการเหมือนกัน


    หลังจากที่ฉันกลับถึงบ้านไม่นาน นายนั่นก็กลับถึงบ้านมาเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกล่ะมั้งที่ฉันเจอเขาที่บ้านหลังนี้


    "เธอโกหกทำไม"


    "โกหก ฉันไปโกหกเรื่องอะไร"


    "เรื่องท้องไง!!!"


    "ฉันโกหกงั้นหรอ นายคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเอามาโกหกกันได้อย่างนั้นหรอ"


    "..." เขานิ่งไป สีหน้าของเขาดูสับสน และนั่นทำให้ฉันเจ็บปวด


    "เสียใจสินะ นายไม่ต้องห่วง เพราะมีลูกทำให้ฉันคิดได้หลายๆอย่าง วันนี้ที่ฉันไปบอกคนพวกนั่น ฉันถือว่ามันคือการแก้แค้นครั้งสุดท้าย�

    หลังจากที่ฉันคลอด ฉันจะคืนอิสระให้นายทันที"


    ฉันรีบเดินเข้ามาห้องมา กลัวเหลือเกินว่าน้ำตามันจะไหลออกมาตอนพูดเรื่องหย่าออกไป ฉันอ่อนแอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


    นี่ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน พอเหลือบมาดูนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เกือบจะสองทุ่มแล้ว แล้วใครมาเคาะประตูห้องฉันกัน


    "ไปกินข้าวกันเถอะ"


    "ฉันไม่หิว" ทันทีที่เห็นหน้าคนเคาะประตู ฉันก็เกิดอารมณ์เสียขึ้นมาซะดื้อๆ ทำไมยังอยู่อีกนะ น่าจะไปฉลองกับพวกนั่นไม่ใช่หรือไงที่จะ

    ได้หย่า


    "เธอไม่หิว แต่ลูกฉันหิว"


    "นายเป็นใคร จะมารู้ดีกว่าฉันได้ยังไงว่าลูกฉันจะหิวหรือไม่หิว"


    "ฉันก็เป็นพ่อของลูกเธอไง"


    "อย่าพูดแบบนั้นนะ เขาเป็นลูกของฉัน เป็นลูกของฉันคนเดียว"


    "เอาเถอะ ขี้เกียจเถียงกับเธอ ไปกินข้าวกันดีกว่า"


    นายนั่นไม่ฟังเสียงโวยวายของฉันสักนิด ลากพาฉันลงมากินข้าวจนได้ แถมยังบังคับให้กินนู่นกินนี่ต่างๆนาๆ นี่คงจะห่วงลูกมากสินะ ถ้าไม่มี

    ลูก ก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้ แต่ฉันก็ดีใจ ดีใจที่อย่างน้อยถึงเขาจะไม่รักฉัน แต่เขาก็รักลูก เจ็ดเดือนต่อจากนี้ไป ฉัน

    จะจดจำรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับเขาให้มากที่สุด เอาไว้เล่าให้ลูกฟังว่าพ่อของเขาเป็นอย่างไร ในอนาคต ฉันจะบอกลูกอย่างแน่นอน

    ว่าพ่อของเขาคือใคร และพ่อรักเขามากแค่ไหน ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ฉันจะทำให้ภาพของพ่อในใจเขาสวยงามอยู่เสมอ









    จบตอนสักที

    ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ ยังคิดอยู่เลยว่าจะจบแบบแฮปปี้เอ้นดิ้ง

    หรือว่าจะจบแบบเศร้าๆดี ยังไงก็รอติดตามด้วยนะคะ















    colors grace.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×