คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ป๋อคืออะไร??
Chapter 4
ป๋อคืออะไร??
[Seohyun’s Part]
ฉันนั่งมองลูกชายตัวน้อยกำลังนั่งเล่นรถบังคับอันใหม่ล่าสุดที่พี่ทิฟฟานี่ซื้อมาให้ หลายวันมานี่ฉันสังเกตว่าจุนโฮผิดปกติไป เขาดูเงียบไป และพูดน้อยลง เหมือนมีเรื่องอะไรภายในใจ แต่ว่าเด็กห้าขวบจะไปมีอะไรในใจขนาดนั้นได้ล่ะ
“จุนโฮครับ มาหาหม่ามี้หน่อยสิลูก”
“ฮับ”
จุนโฮเดินเข้ามานั่งบนตักของฉัน เด็กชายตัวน้อยซบลงใบหน้าบนอกของฉัน ลูกชายของฉันเศร้าขนาดนี้ด้วยเรื่องอะไรกันนะ
“จุนโฮเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“มัมมี่ฮะ ป๋อคืออะไรฮะ แย้วลูกไม่มีป๋อมันคืออะไยหยอฮับ”
ฉันอึ้งไปกับคำถามของจุนโฮ เขาไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน ฉันไม่เคยพูดถึง และมั่นใจว่าพี่ทิฟฟานี่และพี่เจสสิก้าก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้เช่นกัน
“จุนโฮไปเอามาจากไหนครับ”
“คุณตาพูดฮับ”
“ฟังหม่ามี้นะครับ พ่อก็คือคนที่ทำให้จุนโฮเกิดมาบนโลกใบนี้ เหมือนที่คุณตาเป็นคนที่ทำให้หม่ามี้เกิดมาไงครับ”
“แล้วจำไมจุนโฮถึงไม่มีป๋อล่ะฮับ ป๋อของจุนโฮอยู่ไหนหยอ”
“จุนโฮมีคุณพ่อครับ ทุกคนมีคุณพ่อ”
“แล้วป๋อไปไหนฮับ..อึก..จำไมไม่อยู่กับจุนโฮ” จุนโฮเริ่มจะร้องไห้ น้ำตาของลูกทำให้หัวใจฉันปวดร้าว เมื่อไหร่ก็ตามที่จุนโฮร้องไห้ ฉันเองก็อยากจะร้องไห้ไปด้วย
“คุณพ่อของจุนโฮอยู่บนฟ้าครับ กำลังมองจากจุนโฮอยู่บนนั้น คุณพ่อต้องไม่อยากเห็นจุนโฮร้องไห้แน่ๆเลย จุนโฮคงไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจใช่ไหมครับ” ฉันจำเป็นต้องโกหกว่าพ่อของจุนโฮตายไปแล้ว นั่นคือความต้องการของมินจี ผู้ชายคนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ว่าจุนโฮเป็นลูก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่มีตัวตนในชีวิตของพวกเรา
“ฮับ จุนโฮไม่อยากให้ป๋อไม่สบายใจ”
“งั้นอย่าร้องนะครับ เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งรู้ไหมครับ”
“ฮับ มัมมี่ฮับ คุณป๋อรักจุนโฮเหมือนที่คุณแม่รักหยือเปล่าฮะ”
“รักสิครับ คุณพ่อรักจุนโฮที่สุดในโลก”
“จริงนะฮับ”
“จริงที่สุดครับ คุณพ่อรักจุนโฮเหมือนที่คุณแม่รัก”
ฉันต้องการให้ภาพของพ่อในใจของจุนโฮสวยงาม พ่อสำหรับเขาจะต้องดีที่สุด รักเขามากที่สุด ไม่ใช่พ่อที่ทอดทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี
หลังจากคุยกับลูกแล้ว ฉันเดินไปหาคุณพ่อที่หน้าบ้าน บอกตามตรงตอนนี้ฉันโกรธ แล้วก็โกรธมากด้วย คุณพ่อพูดแรงเกินไป ท่านอาจจะโกรธ แต่จุนโฮไม่ผิด เด็กคนนี้ไม่มีความผิดอะไรเลย เขาใสสะอาดบริสุทธิ์และเปราะบางมากเกินกว่าจะมาฟังคำพูดพวกนี้
“คุณพ่อคะ”
“มีอะไร เดินมาอย่างกับจะมาหาเรื่องอะไรพ่อ”
“ทำไมคุณพ่อถึงไปพูดกับจุนโฮแบบนั้น ไปบอกจุนโฮได้อย่างไงว่าเขาเป็นลูกไม่มีพ่อ”
“ก็มันจริงไหมล่ะ”
“คะ เขาไม่มีพ่อ แต่น้องซอเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เขาได้ พ่อรู้ไหมคะว่าจุนโฮถามน้องซอว่าอะไร เขาถามว่าพ่อคืออะไร แล้วลูกไม่มีพ่อคืออะไร”
“...”
“เขาไม่เคยแม้แต่จะรู้จักคำๆนั้น ไม่เคยถามถึง และไม่เคยมีใครพูดให้ได้ยิน แต่ทำไมคุณพ่อทำแบบนั้นล่ะคะ คุณพ่ออยากให้เขารู้หรอคะว่าเขาหรือลูกที่พ่อไม่ต้องการ พ่อของเขาทอดทิ้งเขาไป พ่อต้องการแบบนั้นหรอคะ”
“น้องซอเอะอะอะไรลูก ดังเข้าไปในบ้านเลยนะ”
“ถ้าคุณพ่อลำบากใจและไม่สะดวกใจที่จะให้เราสองคนอยู่ที่นี่ น้องซอไปอยู่ที่อื่นก็ได้”
“ถ้าแกปีกกล้าขาแข็งนักก็ไปเลย จะทำอะไรก็เชิญ”
“คุณ น้องซอ”
ฉันเดินเข้าไปในบ้านเก็บข้าวของทั้งของตัวเองและจุนโฮ ฉันไม่ได้ปีกกล้าขาแข็ง ไม่ได้ต้องการจะต่อล้อต่อเถียงกับคุณพ่อ แต่ฉันก็ไม่อยากให้จุนโฮอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้ลูกได้ยินอะไรพวกนี้อีก
ฉันพาจุนโฮออกจากบ้าน คิดว่าจะเรียกแท็กซี่เพื่อไปหาพี่ทิฟฟานี่กับพี่เจสสิก้าที่คอนโด แต่ก็มีรถที่เลี้ยวออกมาจากบ้านข้างๆซะก่อน
“น้องซอ”
“พี่คยูฮยอน”
พี่คยูฮยอนเป็นคนที่อาศัยอยู่ข้างบ้านของฉัน..เป็นความรักครั้งแรกของฉัน แต่ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาเรายังไม่ได้เจอกันเลย เพราะพี่เขาต้องไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศ
“จะไปไหนหรอ”
“จะไปหาพี่ทิฟฟานี่คะ”
“งั้นขึ้นรถมาสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกคะ รบกวนพี่คยูเปล่าๆ” ฉันเอ่ยออกไปอย่างเกรงใจ ฉันไม่กล้าสู้หน้าพี่เขาเท่าไหร่ เขาจะคิดยังไงที่อยู่ๆ ฉันก็หอบลูกกลับมาจากอเมริกา
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ขึ้นมาเถอะ”
ฉันกับลูกขึ้นไปนั่งบนรถของเขา พี่คยูฮยอนทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นจุนโฮ เขาคงยังไม่รู้เรื่องสินะ พ่อกับแม่ของเขาคงยังไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
“พี่คยูคะ นี่จุนโฮ ลูกชายของน้องซอเอง จุนโฮ สวัสดีคุณลุงซิครับลูก”
“หวัดดีฮับคุณยุง”
“ฮ่าๆ ลุงครับ ไม่ใช่ยุง” พี่คยูฮยอนหัวเราะเล็กน้อยกับคำพูดผิดๆถูกๆของจุนโฮ เขาไม่ได้ถามอะไรให้ฉันต้องอึดอัดใจที่จะตอบสักนิด แต่ฉันเองนั่นแหละที่ทนไม่ไหว ต้องพูดถึงเรื่องนั้นออกไป
“พี่คยูคะ คือเรื่องหมั้นของเรา..”
“พี่เข้าใจครับ น้องซอมีครอบครัวแล้ว เรื่องมันก็คงต้องยกเลิกไป ว่าแต่ว่าแล้วสามีน้องซอเป็นใครหรอครับ”
“เขาเสียไปแล้วค่ะ” ฉันปดออกไป ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันต้องกลายเป็นคนที่โกหกอยู่ตลอดเวลา เฮ้อ บางทีฉันก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันนะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ เพื่อมินจีกับจุนโฮ ฉันต้องยอม
“เอ่อ..พี่เสียใจด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรคะ น้องซอทำใจได้นานแล้ว แล้วตอนนี้พี่คยูเป็นยังไงบ้างคะ”
“พี่หรอ ช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อย ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง”
“นั่นสินะ ตอนนี้พี่คยูเป็นประธานบริษัทแล้วนี่หน่า”
“ฮ่าๆ พี่ยังเขินๆกับตำปหน่งนี้อยู่เลย ยังรู้สึกว่าวางตัวไม่ถูก”
“มัมมี่กับคุณยุงคุยอะไยกัน จุนโฮไม่เห็นยู้เยื่องเยย” เด็กน้อยที่ไม่เคยเงียบได้นานขัดขึ้นมากลางบทสนทนาของฉันกับพี่คยู ฉันล่ะอยากจะขำกับภาษาแปลกๆของลูกเหลือเกิน โตจนหกขวบแล้ว (นับแบบเกาหลีนะคะ) แต่ก็ยังพูดไม่ชัดซะที
“แล้วลุงกับคุณแม่ต้องคุยเรื่องอะไรล่ะครับ จุนโฮถึงจะรู้เรื่อง”
“คุยเยื่องจ๋าวๆ” โอ๊ะ นี่ลูกชายของฉันกลายเป็นเด็กแก่แดดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ สงสัยเป็นเพราะอยู่กับพี่ทิฟฟานี่แล้วก็พี่เจสสิก้ามากเกินไปแน่ๆเลย สองคนนั้นชอบเอารูปนางแบบมาให้จุนโฮดูอยู่เรื่อย นี่ถ้าโตขึ้นจุนโฮกลายเป็นคนเจ้าชู้...เหมือนพ่อของเขาขึ้นมาจะทำยังไง
“แหม เอาเรื่องเหมือนกับนะเจ้าตัวน้อย”
“จุนโฮตัวใหย่แย้วนะฮับ ไม่ใช่ตัวน้อยแย้ว ปกป้องมัมมี่ ป้าทิฟ ป้าสิก้าได้แย้ว” ลูกชายของฉันพยายามพูดโอ้อวด แถมยังยกกล้ามขึ้นมาเบ่งโชว์พี่คยูฮยอนอีก ไปเอาท่าทางแบบนี้มาจากไหนกันนะ
“ขนาดนั้นเลยหรอเนี้ย งั้นให้ลุงเป็นลูกน้องจุนโฮ ช่วยปกป้องมัมมี่ของจุนโฮอีกคนด้วยได้ไหมครับ” พี่คยูฮยอนพูดกับจุนโฮ แต่สายตาของเขากลับมองมาที่ฉันเหมือนต้องการจะสื่อความหมายอะไรบางอย่าง ฉันจึงได้แต่รีบเสมองไปทางอื่น ความรู้สึกเก่าๆกำลังประเดประดังเข้ามาในหัวของฉัน จริงๆแล้วมันคงไม่ใช่ความรู้สึกเก่าๆหรอก มันคือความรู้สึกที่ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้
“แค่มัมมี่คนเดียวหยอฮับ ป้าทิฟกับป้าสิก้าด้วยได้ไหม เดี๋ยวป้าทิฟกับป้าสิก้าน้อยใจ”
“ได้ซิครับ”
“งั้นคุณยุงเป็นยูกน้องจุนโฮแล้วนะฮับ”
“ครับผม ท่านหัวหน้า”
ลูกชายของฉันหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจกับคำเรียกขานของพี่คยูฮยอน ดูเขาจะเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ฉันอยากจะรู้ความรู้สึกของพี่คยูฮยอนจริงๆว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงกันแน่ ท่ามกลางรอยยิ้มแบบนั้น ข้างในของเขากำลังคิดอะไรอยู่
[Taecyeon’s part]
ผมนั่งอยู่กับกองงานที่สูงท่วมหัว เพราะยัยทอมยูรินั่นคนเดียว อยู่ดีดีก็เล่นหายตัวไป ผลกรรมเลยต้องมาตกอยู่กับผมที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเธอ กลับมาเมื่อไหร่นะ ผมจะจับมาหักคอ แล้วเอาหมกส้วมที่ทำงานซะเลยยัยตัวแสบ
ติ๊ด ติ๊ด
“ฮัลโหล ว่าไงยุน”
“แทคว่างหรือเปล่า”
“ว่างสิ” ผมตอบ พลางมองไปยังงานที่สูงเท่าภูเขา ว่างอะไรกัน งานเยอะขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอก สำหรับยุนอา ต่อให้ผมจะมีเรื่องอะไรที่สำคัญไปมากกว่านี้ ผมก็ว่างสำหรับเธอเสมอ
“มารับยุน ไปตัดชุดแต่งงานหน่อยสิ”
“ฮ่ะ อะไรนะยุน”
“มารับยุนที่บ้านหน่อย ยุนจะไปตัดชุดแต่งงาน แต่ยุนไม่อยากไปคนเดียว โทรไปหายูริก็ติดต่อไม่ได้”
“อือ งั้นยุนรอก่อนนะ อีกสักครึ่งชั่วโมงเราไปรับ”
ผมรีบวิ่งออกจากบริษัทเพื่อไปรับยุนอาที่บ้าน จากที่ทำงานไปบ้านยุนอา ถ้าขับตามปกติคงจะใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่นี่ผมขับด้วยความเร็วที่ท้าทายนรกเหลือเกิน ดังนั้นครึ่งชั่วโมง ผมก็มาถึงบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว
ผมขับรถไปตามทางที่ยุนอาบอก ร้านนี้เป็นร้านที่หรูและไฮโซมาก ต้องมีเงินเท่านั้นแหละถึงจะเข้าได้ ซึ่งแน่นอนนักข่าวกระจอกๆอย่างผมคงไม่มีปัญญา แต่ยุนอา เธอคือคุณหนูแห่งตระกูลอิมที่มีธุรกิจต่างๆมากมาย มันเป็นร้านที่ครบวงจรมากๆ ตั้งแต่ชุดแต่งงานรวมไปถึงการจัดงานแต่งงานให้ด้วย พอเดินเข้าไปในร้าน พนักงานก็ออกมาต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี
“สวัสดีค่ะ คุณหนูอิมใช่ไหมคะ”
“ค่ะ”
“แล้วนั่นเจ้าบ่าวหรือเปล่าคะ”
“เปล่าหรอกค่ะ เจ้าบ่าวเขาติดธุระน่ะคะ เลยขอมาวันหลัง”
พนักงานเชิญให้เราสองคนเข้าไปนั่งและลองเลือกแบบชุดแต่งงาน ผมได้แต่นั่งเฉยๆ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะถาม
“ยุนแน่ใจแล้วหรอที่จะแต่งงานกับเขา ขนาดมาตัดชุดแต่งงาน เขายังไม่เป็นคนพายุนมาเลย”
“พี่คุณเขาติดธุระน่ะ”
“หรอ ถ้ายุนบอกอย่างนั้น แทคก็จะเชื่อก็แล้วกัน” ผมไม่เชื่อหรอกว่าหมอนั่นจะติดธุระ แต่เพื่อความสบายใจของยุนอาผมจึงไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ธุระอะไรจะสำคัญไปมากกว่าผู้หญิงตรงหน้า ขนาดผมมีงานรอเยอะแยะ ยังทิ้งทุกอย่างมาเพื่อผู้หญิงตรงหน้านี้เลย
“แทค เดี๋ยวยุนไปลองชุดก่อนนะ แล้วจะออกมาให้วิจารณ์”
“อือ”
เธอเดินเข้าไปลองชุดอยู่นานสองนาน ใจผมก็กระวนกระวายอยากที่จะเห็นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าบ่าวซะเอง เฮ้อ ทำยังไงผมถึงจะสลัดความรู้สึกพวกนี้ไปได้นะ ยุนอากำลังจะมีเจ้าของแล้ว ท่องไว้สิ
“เป็นไงบ้างแทค”
ผมหันไปตามเสียงเรียก บอกได้เลยว่าตอนนี้มือไม้ผมสั่นไปหมด ยุนอาในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์เหมือนตัวเธอ ทำให้ผมอื้ออึงหูตาลายไปหมด เธอเหมือนเจ้าหญิง หรือไม่ก็นางฟ้าที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ทำไมกันนะ ทำไมคนที่จะใส่ชุดเจ้าบ่าวยืนเคียงข้างเธอถึงไม่ใช่ผม
“ไม่ดีหรอแทค ถึงได้เงียบไปเลย”
“เปล่าๆ สวยมากต่างหากล่ะ สวยจนแทคตะลึงไปเลย”
“จริงหรอ แล้วแทคว่าถ้าพี่คุณเห็นเขาจะชอบไหม”
“ก็..ก็คงชอบล่ะมั้ง” ผมตอบ ทั้งที่หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบๆ ผมจะชอบหรือไม่ชอบมันคงไม่มีความหมายเท่ากับหมอนั่นจะชอบหรือไม่
“งั้นหรอ งั้นยุนเอาแบบนี้แหละค่ะ”
[Yuri’s part]
ฉันมองเข้าไปในร้านนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เมื่อเช้าฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์ตามตัวจากบก.ว่าตอนนี้มีงานมากมาย แล้วมันก็กำลังจะทับหัวแทคยอนพาร์ทเนอร์เพื่อนสนิทของฉันตาย ฉันที่แอบไปชาร์ตพลังให้ตัวเองเพื่อมาทำตามคำท้าที่จะทำให้เขาสนใจจึงรีบเดินทางกลับมาด้วยความเป็นห่วง
แต่ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือว่าโลกมันกลม ฉันที่ขับรถผ่านมาทางร้าน Wedding Studio แล้วเห็นรถของแทคยอนจอดอยู่ ตอนแรกฉันนึกว่าคงจะมีคู่รักดาราอะไรสักคู่กำลังจะแต่งงานเลยมาทำข่าว แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ ในนั้น แทคยอนมากับยุนอา เพื่อนสนิทอีกคนของฉัน
สายตาแบบนั้น เวลาที่มองไปทางยุนอา มันทำให้พลังที่ฉันไปชาร์ตมาหดหายไปหมด ยุนอาสวย สวยมากจริงๆ ฉันไม่ปฏิเสธ เหมาะสมแล้วกับสายตาแห่งความชื่นชมของแทคยอน แต่ทำไม ทำไมมันต้องมีสายตาแห่งความรักเจือปนอยู่ด้วย นายไม่รู้เลยหรือไงแทคยอน..ไม่รู้อะไรเลยหรือไง
ฉันเปิดประตูเข้าไปในร้าน ถ้าฉันคิดจะต่อสู้ แต่ตัวเองเดินถอยหลังก้าวจากไป นั่นหมายถึงฉันอาจจะแพ้ตั้งแต่ต้น
“ยูล มาได้ไงอ่ะ” ยุนอาทักทายฉันด้วยน้ำเสียงสดใสที่เป็นปกติของเธอ
“เห็นรถนายแทคจอดอยู่น่ะ ก็เลยลงมาดูนึกว่าหมอนี่จะแต่งงาน”
“บังเอิญหรือว่าพรหมลิขิตกันแน่น้า” ยุนอาล้อเลียน ฉันว่ายุนอาดูออกว่าฉันรู้สึกยังไง มีแต่ไอ้บ้าข้างๆนี่แหละที่ยังคงโง่เสมอต้นเสมอปลาย
“แทคว่าเวรกรรมชักพามากกว่า”
“ไอ้บ้าแทค”
“นี่ อย่ามาทะเลาะกันนะ ไม่อายคนอื่นเขาหรือไง เดี๋ยวยุนเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน ห้ามทะเลาะกันเด็ดขาด” ยุนอาสั่งพวกเราก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดทางด้านใน ฉันหันไปมองนายแทคด้วยสายตาประหนึ่งว่ามีไฟลุกอยู่ข้างใน แทคยอนก็เช่นกัน หมอนั่นมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมพ่นคำพูดที่แสนจะร้ายกาจใส่ฉัน
“โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าหายไปหลายวัน จะไปโมดิฟายตัวเองให้สวยขึ้นมา ที่ไหนได้ก็ยังขี้เหร่เหมือนเดิม มารยาทก็ยังแย่เหมือนเดิม แบบนี้หรอจะทำให้ฉันสนใจ ชาติหน้าตอนบ่ายๆดีกว่าไหม”
“ไอ้บ้าแทค ฉันจะฆ่านาย!!!”
Shala. la
ความคิดเห็น