คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : {แจบิน} Gay or Guy..ผู้ชายจริงหรอ?? Part 1 100 %
{แจบิน}
วิทยานิพนธ์จบการศึกษาของฉันทำให้ฉันได้เจอผู้ชายหน้าหวานแสนสวยคนหนึ่ง
เขาคือคนที่มาให้ข้อมูลกับเรื่องที่ฉันเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์เรื่องนี้
เรื่องราวมันคงจะไม่วุ่นวาย ถ้าวิทยานิพนธ์นี้มันไม่ใช่เรื่องของ..เกย์!!!!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีจับผิดเกย์
• แต่งตัวดีเกินเหตุ หัวเข็มขัดตั้งในระนาบเดียวกับกระดุมและซิบกางเกง ความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 ซม.
• ใช้น้ำหอม • มีผ้าเช็ดหน้าติดตัว
• ใช้กางเกงในสีขาว • แต่งตัวเข้าเทรนตลอด การใช้เสื้อผ้าต้องเข้าชุดกัน และดูเป็นตัวของตัวเอง
• มีเครื่องสำอางติดตัวอย่างน้อย 1 ชิ้น เช่น ลิปมัน กระดาษซับหน้า โลชั่นกันแดด SPF 30
• เค้าจะเลือกทรงผมที่เข้ากับหน้าตาได้ดีที่สุด • ตาจะกลิ้งกรอก เคลื่อนไหวได้มากกว่าผู้ชายธรรมดา
• พูดจาสุภาพ น่าเชื่อถือ เป็นนักพูดที่เก่ง เป็นนักฟังที่ดี • มีคำราชาศัพท์หลุดออกมาบ้างเป็นครั้งคราว อย่าง อุ้ย, เก๋ไหมล่ะ, เลิศ
• ใส่แหวนนิ้วกลางข้างซ้าย (แสดงถึงความเข็มแข็งที่อ่อนแอ และต้องการความอบอุ่นจากใครบางคน)
• ชอบกัดเล็บ • สังเกตดีๆเขากันคิ้วหรือปล่าว
• มีความสามารถในการทำงานที่ใช้ความสร้างสรรค์ • ละเอียดอ่อน และอ่อนไหวง่าย
• ปากร้าย ด่าเจ็บ
• ชอบทำตัวรังเกียจกระเทย เพื่อปกปิดความเป็นเกย์ในตัว • ชอบกินอาหารเพื่อสุขภาพ
• ชอบออกกำลังกายบางชนิด อย่าง ว่ายน้ำ แอร์โรบิค วิ่ง วอลเล่ย์บอล แบท การเพาะกาย
• สมองขาดสมรรถภาพในด้านการเล็งระยะ เช่นการชูดบาส ยิงธนู ยิงปืน การจอดรถยนต์ในพื้นที่จำกัด (สูญเสียพื้นที่ในสมองส่วน นี้ไปให้ความอดทนและความละเอียดอ่อน)
• ชอบเพลงคลาสสิค เพลงแจ๊ส
• ในห้องน้ำที่บ้านเขาจะมีมากกว่าสบู่ ยาสระผม ครีมนวด และยาสีฟัน • ห้องนอนเรียบร้อยกว่าผู้ชายปกติ
• รักต้นไม้ และการปลูกต้นไม้
โห ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับเกย์นี่มันก็ยากลำบากจริงๆนะ ดูสิมีวิธีจับผิดเกย์ตั้งหลายข้อแน่ะ แล้วเท่าที่อ่านไปอ่านมาบ้าง
ข้อก็ดูไม่น่าจะเอามาใช้ดูได้เลยนะ ไม่ได้การล่ะ ถ้าฉันยังมัวมานั่งงมโข่งอยู่อย่างนี้ล่ะก็มีหวังวิทยานิพนธ์ไม่สำเร็จ
เรียนไม่จบกันพอดี ฉันต้องหาตัวช่วย ใช่แล้ว ฉันต้องหาเกย์สักคนเพื่อมาทำการศึกษาแบบสัมภาษณ์จาก
ประสบการณ์จริงไปเลย
วันต่อมาฉันก็มานั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง สอดส่ายสายตาไปมา ดูซิว่าใครที่จะเข้าตาที่จะมาเป็นผู้ช่วยเหลือในการทำวิทยานิพนธ์ของฉันในครั้งนี้
โอ๊ะโอ ฉันเจอแล้ว ผู้ชายหน้าสวยคนนั้น เป๊ะเลย ใช้แน่นอน หน้าสวยขนาดนี้ แถมเมื่อกี้ยังนั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายอีกคนอยู่ด้วย ไม่พ้นต้องเป็นพวกชอบไม้ป้าเดียวกันอย่างแน่นอน ยูบินฟันธง!!!
ฉันเดินพุ่งตรงเข้าไปหาเป้าหมายทันที เขาดูงงๆนิดหน่อยที่อยู่ๆฉันก็เดินเข้ามาแถมยังถือวิสาสะนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกันเขาอีก โห แสดงออกชัดเจนว่ารังเกียจผู้หญิงแบบนี้ ขอฟังธงอีกครั้งนึง เกย์ชัวร์
“สวัสดีค่ะ คือฉันชื่อยูบิน มีเรื่องจะขอร้องให้คุณช่วยหน่อยน่ะค่ะ”
“ทำไมผมจะต้องช่วยคุณด้วย เรารู้จักกันหรือไง”
“เอ่อ คือจริงๆเราก็ไม่ได้รู้จักกัน และฉันก็พอจะเข้าใจว่าคุณไม่ชอบผู้หญิง แต่วิทยานิพนธ์ของฉันกำลังนอนรอความช่วยเหลือจากคุณอยู่จริงๆ ฉันไม่ขออะไรคุณมากแค่อยากจะขอสัมภาษณ์นิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง”
“เรื่องอะไร”
“เกย์!!!”
พรวด
อยู่ดีดีเขาก็พ่นน้ำออกจากปากมาโดนหน้าฉันเต็มๆ แต่ไม่เป็นไรเพื่องานของฉัน ฉันทนได้ ยูบินทนได้ เขาคงจะอายที่มีคนจับไต๋เขาได้ว่าตัวเองเป็นพวกชอบเพศเดียวกัน ก็เลยทำให้ตกใจ เธอรุกเขามากไปยูบิน เขาไม่ผิดๆ ท่องไว้
“ผมไม่ใช่เกย์” เขาประกาศเสียงดัง ทำให้คนทั้งร้านหันมามองเรา ฉันน่ะเฉยๆไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว แต่เขาน่ะสิ พอรู้สึกตัวและเห็นว่าคนมองกันเกือบจะทั้งร้านก็คงจะอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีไปนอกโลกเลยล่ะ
“เอ่อ ฉันเข้าใจว่าคุณคงจะอาย แต่สมัยนี้คนเขาไม่ค่อยแคร์ แล้วก็ยอมรับในเรื่องพวกนี้มากกว่าแต่ก่อนเยอะแล้วนะคะ ฉันว่าคุณไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนของคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณไม่อยากเปิดเผย ฉันก็จะใช้นามสมมติก็ได้ ขอร้องนะคะ ช่วยฉันหน่อยเถอะ”
“ไม่ ผมไม่ช่วย แล้วผมก็ไม่ใช่เกย์ด้วย โธ่ วันนี้มันวันซวยอะไรว่ะเนี้ย ทำไมต้องมาเจอยัยบ้าสติฟั่นเฟือนคนนี้ด้วย”
เขาเดินหัวเสียออกไป ดูจากการกระทำแล้ว เขาคงต้องพยายามอย่างมากในการทำตัวแมน เพื่อให้ฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นเกย์ เฮ้อ น่าสงสารเขาเหมือนกันนะ ต้องมาปิดบัง หลบๆซ่อนๆ แต่ฉันน่ะ ยังไงๆก็ต้องตามตัวเขามาเป็นผู้ให้ข้อมูลกับฉันให้ได้
วันนี้ฉันมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของเขา สงสัยว่าฉันรู้จักบ้านของเขาได้ยังไงใช่หมล่ะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก วันนั้นพอเขาเดินออกมา ฉันก็รีบวิ่งสะกดรอยตามเขาทันที จนได้รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่นี่นี่แหละ
“เฮ้ย” เขาดูตกใจไม่น้อย ไม่สิ ต้องบอกว่าตกใจมากต่างหากที่เห็นฉัน คงไม่คิดว่าฉันจะตามมาถูกสินะ แต่ขอโทษ ยูบินคนนี้ฉลาดจะตาย นาย เอ๊ะต้องเป็น เธอสิ เธอหนีไม่รอดหรอก
“ฉันมาขอร้องคุณ”
“ไม่ๆๆ ยังไงผมก็ไม่ช่วย ผมไม่ใช่เกย์ แล้วผมจะมาตอบคำถามของคุณได้ยังไงเล่า”
“คุณ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องปิดบังกับฉันหรอก ฉันดูคุณออก และฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ช่วยฉันหน่อยเหอะนะ ขอร้อง” ฉันแทบจะก้มลงไปกราบเขาเลยแหละ ฉันไม่เคยต้องลงทุนขอร้องใครขนาดนี้มาก่อนเลยนะ นี่ถ้าไม่เห็นแก่วิทยานิพนธ์ที่ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ที่บ้านล่ะก็ จากให้ฉันก็ไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอก
“โอ้ย ยัยบ้า ช่วยก็ได้ แต่ถ้าผมทำงานคุณพังก็อย่ามาโทษผมล่ะกัน”
“ขอบคุณมากเลย”
ฉันกระโดดกอดคอเขาด้วยความดีใจ จะต้องอายจะต้องเขินไปทำไมล่ะ ในเมื่อเรามันก็เพศเดียวกันอยู่แล้ว ฮิๆ ในที่สุดฉันก็จะได้ข้อมูลจากคนที่เป็นเกย์จริงๆ วิทยานิพนธ์ของฉันจะต้องเจ๋งและเริ่ดสุดๆอย่างแน่นอน ฮ่าๆ อย่างนี้เกรดดีๆ จะลอยไปไหนกันล่ะยูบิน
ฉันพาเขามาที่บ้านของฉัน ซึ่งฉันอาศัยอยู่ตัวคนเดียวที่โซล ส่วนคุณพ่อคุณแม่น่ะท่านกำลังไปฮันนีมูนรอบโลกกันอยู่ เฮ้อความรักหวานชื่นซะจริง ขนาดมีลูกโตจนสุนัขเลยก้นไม่ถึงอย่างฉันแล้วแต่ดีกรีความหวานก็ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลงสักนิด
“นี่คุณอยู่บ้านคนเดียวหรอ”
“ใช่แล้วแหละ”
“แล้วนึกยังไงพาผมมาที่บ้านแบบนี้เนี้ย มันไม่ปลอดภัยรู้หรือเปล่า อีกอย่างเราก็เพิ่งรู้จักกัน”
“โอ้ย ก็รู้ๆกันอยู่ คุณไม่ได้ชอบแบบฉัน ฉันจะไปกลัวทำไม”
“เหอะ แต่ยังไง สรีระผมมันก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นะคุณ”
“แต่ใจคุณมันเป็นหญิงไง เพราะฉะนั้นคุณน่ะปลอดภัย 100% ฉันไร้กังวล”
“เฮ้อ เอาล่ะจะถามอะไรก็ถามมา ผมจะรีบไปทำงาน”
“คุณชื่ออะไร” ฉันเริ่มถามเขาด้วยคำถามเบสิค คุยกันมาตั้งนาน ฉันยังไม่รู้จักชื่อของเขาเลย
“แจจุง”
“อ๋อ งั้นต่อไปนี้ฉันจะเรียกคุณว่าเจนนี่”
“เฮ้ย”
“อะไร แหม ชอบล่ะสิ ฮิๆ”
“เอา คำถามต่อไปล่ะ ถามมาเร็วๆ”
“ทำงานอะไร”
“แฟชั่นดีไซน์” นั่นไง โป๊ะเชะ ทำงานเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบดีไซน์ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง งานถนัดของพวกเกย์เลยแหละ
“ทำไมถึงได้เป็นเกย์”
“ไม่รู้”
“อะไรกันคุณ ไม่รู้ได้ยังไง คนเรามันต้องรู้สิว่าตัวเองเป็นได้ยังไง เป็นเพราะจิตใต้สำนึก หรือเป็นไปตามกระแส หรือเป็นเพราะว่าอกหักจากผู้หญิง”
“สงสัยเป็นข้อสุดท้ายมั้ง”
“อื้อ แล้วเป็นมานานหรือยัง”
“ไม่นาน”
เพิ่งเป็นไม่นานหรอ แถมยังเป็นเพราะอกหักจากผู้หญิงซะด้วย เฮ้อ ไม่น่าเลย จะว่าไปจริงๆแล้วถึงเขาจะหน้าสวยขนาดไหน แต่ฉันว่าถ้าเขาเป็นผู้ชายเขาคงจะหล่ออยู่ไม่น้อยเลยนะ ถ้าเขาไม่ใช่เกย์ ฉันอาจจะจีบเขาก็ได้นะเนี้ย ฮ่าๆ ตายแล้วววๆๆ นี่ฉันคิดอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไงนะ
“บ้าหรือเปล่าคุณอยู่ดีดีก็หัวเราะ ผมว่าแทนที่คุณจะมาทำวิทยานิพนธ์เรื่องเกย์นะ แนะนำให้คุณทำเกี่ยวกับโรคประสาทดีกว่า คุณจะได้มีโอกาสไปสอบถามข้อมูล แล้วก็ขอคำแนะนำจากแพทย์เขาบ้าง ผมไปล่ะ ต้องรีบไปทำงาน”
เขาเดินออกจากบ้านไป แต่ก่อนไปเขาก็ทิ้งนามบัตรของเขาวางไว้ให้ฉัน ปากร้ายสุดๆ นี่แหละสัญชาตญาณความเป็นเกย์ ถึงขนาดนี้ถ้าฉันเชื่อว่าคุณไม่ใช่ ฉันก็ต้องไปเล็มหญ้าเป็นอาหารแล้วแหละคุณเจนนี่
colors grace.
ความคิดเห็น