คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 9 : หัวใจอ่อนแอ
Chapter 9
หัวใจอ่อนแอ
[Taecyeon’s Part]
ความรู้สึกเหมือนศีรษะกำลังจะระเบิดปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า มองไปรอบๆก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของตัวเองเรียบร้อย เมื่อคืนสิ่งที่ผมจำได้ก็คือผมไปนั่งดื่มที่ผับแห่งหนึ่ง แล้วก็เมามาก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมพาตัวเองกลับมาที่ห้องได้ยังไง แต่ผมจำได้ว่าผมฝันถึงยุนอา ผมฝันว่าได้จูบเธอ เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก แต่ไม่รู้ทำไมวูบหนึ่งในความฝันผมกลับเห็นว่ายูริกำลังร้องไห้อยู่ โอ้ยย ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
ทั้งๆที่ยังรู้สึกว่าตัวเองยังแฮงค์อยู่ แต่ผมก็ต้องฝืนลากสังขารไปทำงาน ช่วงนี้ไม่รู้พวกดาราจะขยันเป็นข่าวกันไปถึงไหน ทำเอาผมแทบจะไม่มีเวลาว่าง วันๆต้องเอาแต่นั่งทำงานตลอดเวลา ตอนที่เดินออกจากห้อง แว่บหนึ่งผมมองไปที่ประตูห้องของยูริ สายป่านนี้ เธอคงออกไปแล้ว
“อ้าว พนักงานดีเด่น ทำไมวันนี้มาทำงานสายได้” พี่ที่ทำงานทักผม
“พอดีว่าแฮงค์นิดหน่อยน่ะครับ”
“ควอนยูริ เธอเขียนอะไรของเธอมาเนี่ย รู้ไหมว่ามันมั่วแค่ไหน ฉันอ่านจนสับสนไปหมดว่าตกลงใครเป็นข่าวอะไรกับใครกันแน่ วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอห่ะ ไม่ได้เอาสติมาทำงานด้วยหรือไง” เสียงบก.บ่นยูริดังออกมาจนทุกคนแปลกใจ ก็ต้องแปลกใจสิ ปกติยัยนี่เป็นคนโปรดของบก.จะตาย เพราะทำงานไม่มีที่ติเอาซะเลย
“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวยูลจะแก้ให้ใหม่นะคะบก.”
“เร็วๆล่ะ ผมต้องการข่าวนี้ก่อนบ่ายสามนะ”
“ค่ะ”
ผมเดินเข้าไปในห้องทำงานของผมกับยูริซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน หลังจากที่บก.เดินออกมาแล้ว สภาพสุดแสนจะสุดโทรมของยูริเล่นเอาผมแปลกใจ ไหนจะดวงตาที่ช้ำเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักนั่นอีก
“ยัยยูลิง...”
ผมพูดยังไม่ทันจบ ยัยนั่นก็เดินหอบโน้ตบุ๊คของตัวเองออกจากห้องไป เป็นอะไรของเขานะ เลือดจะไปลมจะมาหรือยังไง หรือว่าผมจะทำอะไรให้เธอไม่พอใจกันนะ แต่ก็ไม่นิ ผมเพิ่งจะเสนอหน้าเข้าห้องมาเมื่อกี้นี้เองนะ
[Yuri’s Part]
ฉันรีบเดินออกมาก่อนที่น้ำตามันจะไหล ประจานความอ่อนแอของตัวเองให้ผู้ชายใจร้ายแบบนั้นได้เห็น เหตุการณ์เมื่อคืนยังฉายซ้ำไปมา เหมือนจะเป็นภาพที่คอยหลอกหลอนฉันอยู่ตลอดเวลา
“ปล่อยฉันนะแทคยอน ปล่อย ฉันไม่ใช่อิมยุนอาของนาย”
“รักแทคบ้างได้ไหมยุน แทครักยุนจริงๆ” คำว่าแทครักยุน เป็นเสมือนพลังที่ช่วยผลักให้ฉันมีแรงฮึดถีบเข้าที่ท้องของเขา จนเขาต้องยอมปล่อย แต่ก็ยังไม่หยุดพร่ำเพ้อ สีหน้าของเขาแม้จะหลับตาอยู่ ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
แต่นายจะรู้บ้างไหมนะแทคยอน ว่าฉันคนนี้เจ็บปวดมากกว่านายไม่รู้กี่เท่า
แต่ฉันก็คือฉัน ยังเป็นควอนยูริที่โง่เง่าอยู่เช่นเดิม แม้จะอยากโกรธ อยากเกลียดแค่ไหน แต่ก็ทนไม่ได้ถ้าจะทิ้งให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ไปทั้งคืน ฉันพาเขาเข้าไปนอนในห้อง จัดการเช็ดตัวให้เสร็จเรียบร้อย แต่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะกลัวว่าเขาจะสงสัย เป็นยังไงล่ะฉัน ดูโง่ดีไหม
“ฉันต้องทำยังไงแทคยอน นายถึงจะรักฉันบ้าง”
“เฮ้ ยูริ มานั่งทำอะไรตรงนี้”
“ก็เห็นอยู่ว่ากำลังทำงาน จะถามทำไมฮะพี่แทยัง”
“ก็ถ้าทำงานแล้วทำไมไม่ไปนั่งทำในห้องทำงานของตัวเองล่ะ มาสิงอยู่ที่ห้องคนอื่นทำไม” พี่แทยังว่าฉันที่ฉันมาใช้ห้องของเขาเป็นสถานที่ทำงาน ก็แหม ฉันนึกว่าวันนี้พี่เขาจะไม่เข้ามาที่สำนักพิมพ์นี่หน่า
“เชอะ ฉันไปก็ได้ แค่นี้ทำเป็นหวงห้องนะ”
“โอ๋ๆ ไม่ได้หวงสักหน่อย ทำตัวเป็นยัยขี้น้อยใจไปได้ ไม่สมกับผู้หญิงแมนๆแบบแกเลยว่ะ ขอบอก”
“ฉันนี่มันไม่เหมือนผู้หญิงเลยหรอพี่แทยัง” ฉันหันไปถามพี่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง เริ่มมีน้ำตาคลอที่ดวงตา นี่ฉันเป็นคนอ่อนไหวง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แต่ก่อนต่อให้ใครว่าฉันแค่ไหน ฉันก็ไม่เคยสะทกสะท้านอะไรนี่หน่า
“เฮ้ย นี่พี่ไปโดนต่อมอะไรของแกล่ะเนี่ย อย่ามาร้องไห้นะเว้ย”
พี่แทยังดึงตัวฉันเข้าไปกอด และปลอบเหมือนกับที่ผู้ใหญ่ทำกับเด็กอายุราวสามสี่ขวบ ฉันไม่พูดอะไรได้แต่สะอึกสะอื้นในอ้อมกอดของพี่เขา เวลานี้หัวใจฉันมันอ่อนแอเหลือเกิน ฉันต้องการใครสักคนให้หัวใจได้พักพิงจริงๆ
[Nichkhun’s Part]
ข้อตกลงที่ผมทำไว้กับอิมยุนอาเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกหนักใจไม่น้อย เวลาหนึ่งปี ผมไม่รู้ว่าจะอดทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักได้นานขนาดนั้นหรือเปล่า แล้วไหนจะทิฟฟานี่อีก เธอเป็นคนสวย และหยิ่ง ใครๆก็เข้าถึงเธอได้ยาก ถ้าหากผมแต่งงานไป โอกาสที่จะได้เข้าใกล้เธออีกก็คงน้อยเต็มที
“คุณว่างอยู่หรือเปล่า” ผมถามทิฟฟานี่ผ่านทางโทรศัพท์ หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอกับเธออีกเลย เดาว่าเธอคงจะโกรธเพราะเธอไม่ยอมรับสายผม แม้ผมจะโทรไปหลายครั้งก็ตาม
“ไม่ว่างค่ะ”
“คุณโกรธผมหรือเปล่าทิฟฟานี่”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้โกรธ แต่ฉันไม่ว่างจริงๆ แค่นี้ก่อนนะคะ อ๋อ แล้วก็ยินดีด้วยนะคะที่อีกไม่กี่อาทิตย์คุณก็จะได้แต่งงานแล้ว สวัสดีค่ะ”
เธอวางสายไปหลังจากพูดจบ ใช่ เธอพูดถูก งานแต่งงานของผมกับยัยเด็กนั่นถูกเลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้นเป็นอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ซึ่งนั่นยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปใหญ่
“ชินวู ไปเช็คมาว่าตอนนี้ทิฟฟานี่มีงานถ่ายแบบอยู่ที่ไหน ฉันต้องการคำตอบภายในครึ่งชั่วโมง”
ผมขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงที่ที่ทิฟฟานี่มาถ่ายแบบ และก็คงเป็นโชคดีของผมที่มาได้พอดีกับเวลาที่เธอเลิกงานพอดี ผมซ่อนตัวอยู่ในมุมๆหนึ่งที่เธอไม่สามารถเห็นได้
เมื่อเห็นว่าทิฟฟานี่กำลังเดินผ่านมา ผมก็เอื้อมมือไปกระชากเธอเข้ามาในมุมด้วยกัน ตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมาก ผมคิดว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งขยับตัวแม้แต่นิดเดียว หน้าของเราอาจจะชนกันเลยก็เป็นได้
“ฉันนึกไว้แล้วว่าคุณต้องมา”
“มิน่า คุณถึงดูไม่ตกใจที่เห็นผม”
“คุณมีอะไรกับฉัน”
“ผมอยากคุยกับคุณ ทำไมคุณถึงไม่รับสายผมทั้งๆที่ผมพยายามโทรหาคุณตั้งหลายครั้ง”
“ฉันไม่ชอบถูกใครใช้เป็นเครื่องมือ ฉันกลัวว่าคุณจะมาเอาฉันไปเป็นเครื่องมือทำให้คู่หมั้นของคุณเสียใจอีก”
“ผมขอโทษ”
“ฉันไม่ใช่คนที่คุณควรขอโทษ คู่หมั้นของคุณต่างหากสมควรที่จะได้รับคำขอโทษจากคุณ”
“แต่ผมไม่ได้รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับเขา ผมไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา ที่ผมทำก็เพียงแค่อยากให้เขาทนไม่ได้ แล้วก็ยกเลิกงานแต่งงานบ้าๆนั่นซะ”
“แต่ฉันกลับคิดว่าการกระทำของคุณทำให้คุณต้องแต่งงานเร็วขึ้นไปอีก” ทิฟฟานี่พูดถูก การกระทำของผมยิ่งเป็นตัวเร่งเวลาให้งานแต่งงานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ผมไม่รู้ ตอนนี้ผมรู้สึกแย่จริงๆ คุณไปกับผมหน่อยได้ไหมทิฟฟานี่”
[Wooyoung’s Part]
ภาพที่ทิฟฟานี่กำลังขึ้นรถไปพี่คุณทำให้ผมที่ตั้งใจจะมาทำเซอร์ไพรส์เธอต้องผิดหวัง สมองของผมสับสนไปหมด ไหนเธอบอกว่าไม่ได้สนใจพี่คุณ ไหนเธอบอกว่าไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้ๆพี่คุณ แล้วเธอออกไปกับเขาทำไม
“อ้าวไอ้ลูกชาย ไหนวันนี้บอกว่าจะพาสาวไปดินเนอร์ไง แล้วทำไมกลับมาตั้งแต่หัววันแบบนี้ล่ะ”
“ก็สาวคนนั้นลูกชายคนโตของพ่อเขาพาไปแล้วนิครับ”
ผมตอบแค่นั้นแล้วก็เดินขึ้นห้องของตัวเองมา ทั้งๆที่จะแต่งงานอีกไม่กี่อาทิตย์ พี่คุณก็ยังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ แถมผู้หญิงคนนั้น ยังเป็นผู้หญิงคนเดียวกับคนที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงทุกครั้งที่ได้คุย ได้เจอ สิ่งที่ผมทำ มันคงจะเสียเปล่าจริงๆ การแต่งงานไม่ว่าจะเร็วหรือช้า ก็คงไม่สามารถหยุดพี่คุณได้
ใช่แล้วล่ะ ผมเป็นคนเล่าทุกอย่างที่พี่คุณทำกับยุนอาให้ครอบครัวฟัง เพื่อให้เขาช่วยเร่งงานแต่งงานให้เร็วขึ้น โดยอ้างเหตุผลสารพัดมาหว่านล้อม อาจจะดูว่าผมเห็นแก่ตัว แต่ทำยังไงได้ ผมเสียเธอไปไม่ได้จริงๆ ผมตกหลุมรักเธอเข้าแล้วจริงๆ
ผมยกโทรศัพท์กดไปเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจ เพราะหลังจากวันที่โทรคุยกันครั้งแรก ก็ไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่โทรไปคุยกับเธออีกเลย
“ฮัลโหล” เสียงหวานที่กรอกมาตามสายทำหัวใจผมเต้นแรงอีกครั้ง
“ทิฟว่างอยู่หรือเปล่า ผมอยากเจอทิฟได้ไหม”
“เอ่อ คือวันนี้ทิฟไม่ว่างน่ะอังอัง ไว้วันหลังได้ไหม”
“ทำงานอยู่หรอครับ” ผมแกล้งถามทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ค่ะ ทิฟกำลังทำงานอยู่ แค่นี้ก่อนนะ พี่ช่างภาพเขาเรียกแล้ว บ๊ายบายค่ะ”
ผมยังคงถือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นทั้งๆที่เธอกดวางสายไปแล้ว ทำไมเธอถึงต้องโกหกด้วยนะ ทำไมต้องบอกว่าเธอกำลังทำงานอยู่ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เธอกำลังอยู่กับพี่ชายของผม
[Seohyun’s Part]
ตั้งแต่วันที่พบกัน พี่คยูฮยอนก็มักจะแวะเวียนมาที่คอนโดของพวกเราเป็นประจำ เขากับจุนโฮได้เป็นอย่างดี จนฉันอดที่จะนึกไม่ได้ว่า ถ้าเราได้สร้างครอบครัวด้วยกัน มีพี่คยูฮยอน มีฉัน แล้วก็มีจุนโฮ มันจะมีความสุขขนาดไหนกันนะ
“มัมมี่ฮับ จุนโฮอยากมีน้อง จุนโฮอยากมีเปื้อนเย่น” หลายวันที่ผ่านมา จุนโฮเอาแต่พูดว่าอยากมีน้อง จนฉันเริ่มจะสงสัยว่าเขาไปเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน
“ตอนนี้จุนโฮก็มีหม่ามี้ มีป้าทิฟ แล้วก็มีป้าเจสเป็นเพื่อนเล่นแล้วนิครับ ยังไม่พออีกหรอ”
“ยังฮับ จุนโฮอยากมีน้อง อยากมีน้องจ๋าว”
“แล้วหม่ามี้จะมีน้องให้จุนโฮได้ยังไงล่ะครับ” ฉันขำกับความคิดของลูกชาย ฉันจะมีน้องสาวให้เขาได้ยังไงกัน จุนโฮนี่ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าน้องสาวน่ะมันไม่ได้คิดอยากจะมีก็มีกันได้
“ได้จิฮับ ก็ป้าทิฟบอกว่าถ้าคุณยุงคยูฮยอนมาอยู่กับเยา มัมมี่ก็จะมีน้องให้จุนโฮ” นั่นไง ฉันว่าแล้วว่าต้องมีใครมาพูดอะไรกับจุนโฮแน่ๆ แล้วก็เดาไม่ผิดด้วย พี่ทิฟนะพี่ทิฟ
“แล้วคุณลุงเขาจะมาอยู่กับพวกเราได้ยังไงล่ะครับ”
“ได้จิฮับ ก็ป้าทิฟบอกว่าถ้าคุณยุงคยูฮยอนมาอยู่กับเยา มัมมี่ก็จะมีน้องให้จุนโฮ” นั่นไง ฉันว่าแล้วว่าต้องมีใครมาพูดอะไรกับจุนโฮแน่ๆ แล้วก็เดาไม่ผิดด้วย พี่ทิฟนะพี่ทิฟ
“แล้วคุณลุงเขาจะมาอยู่กับพวกเราได้ยังไงล่ะครับ”
“ได้จิฮับ จุนโฮจะบอกคุณยุง คุณยุงต้องเชื่อจุนโฮ เปาะจุนโฮเปงหัวหน้า” ฉันหัวเราะให้กับความคิดแบบเด็กๆของลูกชาย จุนโฮคงไม่รู้หรอกว่า การที่ฉันกับพี่คยูฮยอนจะมาอยู่ด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
Shala. la
ซอฮยอนไม่คู่ควรกับผู้ชายดีๆอย่างพี่คยูฮยอนอีกแล้ว
ความคิดเห็น