ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Army..สงครามรัก สงครามแค้น [2PM-SNSD]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : นอกสายตา

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 54


    Chapter 3

    นอกสายตา



    (วันนี้ถึงตอนทิฟด้งออกแล้วนะครับ)



    [Yoona’s Part]


    ฉันกับครอบครัวมานั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง วันนี้เรามีนัดกับครอบครัวของพี่คุณเพื่อตกลงเรื่องการแต่งงานของฉันกับเขา แต่รอมานานแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าครอบครัวของพี่เขาจะมาสักที


    “ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า พอดีว่ารถมันติดมากเลยน่ะค่ะ”


    “ไม่เป็นไรค่ะคุณนายจาง เอ่อ แล้วนี่ตาคุณล่ะคะ”


    “อ๋อ วันนี้ตาคุณติดธุระด่วนกะทันหันเลยน่ะค่ะ เลยมาไม่ได้ ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ”


    “ไม่เป็นไรค่ะ”


    ฉันมองหน้าคุณป้าที่ตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้อย่างเห็นใจ นี่คงเป็นสัญญาณเตือนฉันสินะว่าเขาน่ะไม่อยากจะแต่งงานกับฉันเลยสักนิด แต่เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ทางผู้ใหญ่ได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าฉันจะพูดอย่างไร คุณพ่อกับคุณแม่ก็ยังยืนยันให้ฉันแต่งงานกับพี่คุณอยู่ดี


    “หนูยุนอา พี่เขามีธุระด่วนจริงๆนะจ๊ะ ไว้วันไปตัดชุดแต่งงาน ป้าจะให้เขาไปรับหนูที่บ้านเลยนะจ๊ะ”


    “ค่ะคุณป้า ยุนไม่คิดอะไรหรอกค่ะ ยุนรู้ว่าพี่คุณงานยุ่ง”


    “จ๊ะ”


    ฉันตอบออกไปเพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจ ขนาดไม่แต่งงานพี่เขายังต่อต้านถึงขนาดนี้ แล้วถ้าแต่งไปแล้วล่ะ ฉันจะพบเจอกับความสุขบ้างไหม ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักตัวเอง ฉันก็เหมือนกัน ถึงแม้จะรักเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขาไม่รักฉันเลยสักนิด



    ติ๊ด ติ๊ด


    โทรศัพท์ของฉันดัง เหลือบมองไปก็เห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเอาซะเลย ฉันก็เลยกดตัดสายทิ้ง แต่ก็ยังโทรกลับมาอีก ฉันเลยต้องขออนุญาตทุกคนเพื่อออกไปรับโทรศัพท์ก่อนเผื่อคนที่โทรมาเขาจะมีเรื่องด่วนอะไร


    “ฮัลโหล อิมยุนอา พูดค่ะ”


    “เห็นแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ”


    “พี่คุณ”


    “ใช่ฉันเอง ไปบอกให้พวกผู้ใหญ่ยกเลิกงานแต่งงานครั้งนี้ซะ อย่าทำให้ฉันคิดว่าเธออยากแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น”


    “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ยุนบอกคุณพ่อคุณแม่ไปแล้ว แต่ท่านไม่ยอม”


    “พ่อแม่เธอนี่กลัวว่าลูกสาวจะขายไม่ออกหรือไง ถึงได้เอามาเสนอให้ผู้ชายเขาเต็มที่แบบนี้”


    “พี่คุณ
    !!!” เลวมาก เขาว่าฉันยังไม่พอ ยังลามไปถึงพ่อแม่ของฉันอีก ฉันหลงรักผู้ชายแบบนี้ไปได้ยังไงกัน คนที่ไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกของฉันเลย


    “ผู้หญิงอย่างเธอน่ะ ไม่เคยอยู่ในสายตาของฉันเลยสักนิด ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเธอเด็ดขาด อิมยุนอา”


    เขาวางสายไปแล้ว โทรมาตะคอก ด่าว่าฉันแล้วก็วางสายไป ทำไม ทั้งๆที่ฉันรักเขามากขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่รักฉันบ้าง เขาเกลียดฉันเพราะอะไรกัน ฉันเคยไปทำอะไรให้เขาหรือยังไง



     

    [Nichkhun’s Part]


    ผมรีบวางสายจากยัยเด็กขี้แยนั่น ไม่อยากจะเอาตัวไปเสวนาให้มากความไปมากกว่านี้ พลางก้มลงมองนิตยสารที่อยู่ในมือ


    ทิฟฟานี่ ฮวังมิยอง อย่างนั้นหรอ


    ผู้หญิงอย่างนี้ต่างหากถึงจะอยู่ในสายตาของผม มั่นใจในตัวเอง สวย สง่า ต่างจากยัยเด็กขี้แยนั่นอย่างกะฟ้ากับเหว หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกในเร็ววันนะทิฟฟานี่


    “คุณนิชคุณครับ ได้เวลาเข้าประชุมแล้วครับ”


    “อือ ขอบใจ แล้วนายอูยองมาหรือยัง”


    ผมถามถึงน้องชายต่างมารดา ถึงแม้ว่าอูยองอาจจะไม่ได้ทำงานที่นี่อย่างเป็นทางการ แต่ว่าเวลามีประชุมอูยองก็ต้องมีหน้าที่มาเข้าประชุมเสมอ


    “วันนี้คุณอูยองไม่เข้าประชุมครับ เห็นว่ามีงานถ่ายแบบ”


    หมอนั่นไม่ใช่นายบงนายแบบอะไรหรอก แต่เป็นช่างภาพต่างหาก ผมล่ะอิจฉาหมอนั่นจริงๆที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ในขณะที่ผมต้องนั่งบริหารงานธุรกิจอันยิ่งใหญ่ของครอบครัว ไม่ยุติธรรมเลย จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากทำงานนี้หรอก แต่ทำไงได้ ผมมันเป็นลูกคนโตนี่ ความรับผิดชอบทุกอย่างถึงต้องตกมาเป็นของผมอย่างช่วยไม่ได้


    “ชินวู นายไปหาประวัติของผู้หญิงในรูปให้ที เธอชื่อทิฟฟานี่ ฉันต้องการรู้ประวัติของเธออย่างเร็วที่สุด”


    ที่ผมสั่งให้คนไปหาประวัติของเธอ ไม่ใช่ว่าผมโรคจิตหรืออะไรหรอกนะ นอกจากผมจะถูกใจเธอแล้ว ที่สำคัญเธออาจจะเป็นตัวช่วย ทำให้ผมไม่ต้องแต่งงานกับยัยยุนอาก็เป็นได้ ผมฉลาดใช่ไหมล่ะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว



     

    [Wooyoung’s Part]


    ผมมานั่งรอนางแบบเกือบชั่วโมงแล้ว นี่ผมอุตส่าห์โดดประชุมมา เพราะว่าพี่ที่สนิทบอกว่างานนี้มันเป็นงานสำคัญ แล้วนางแบบนี่ก็ตรงสเปคของผมมาก อยากรู้นักเชียวว่าจะตรงสักแค่ไหน แต่ต่อให้ตรงมากถึงมากที่สุด แต่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้คงไม่ไหว


    “มาแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่มาสาย”


    สวย
    !!! คำจำกัดความที่ผมให้เธอสองคนได้ในตอนนี้ ตรงสเปคผมมากจริงๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตาหวานๆ ยิ้มสวยๆคนนั้น ดวงตาเธอเหมือนมีเวทมนต์เลยครับ ทำเอาผมลืมความโกรธที่มีก่อนหน้านี้ไปสนิทเลย


    “นี่อูยอง ช่างภาพมือหนึ่งของเราครับ ส่วนนี่ทิฟฟานี่กับเจสสิก้านางแบบวันนี้”  ทิฟฟานี่ ชื่อนี้ผมจะจำให้ขึ้นใจเลย ฮ่าๆ


    “สวัสดีค่ะคุณอูยอง ขอโทษด้วยนะคะที่มาสาย พอดีว่าไปอยู่อเมริกามานานเลยไม่ชินกับเส้นทางเท่าไหร่”


    “อือใช่ แกพาฉันขับวนจะรอบโซลอยู่แล้ว ดีนะที่ฉันฉลาดจ้างให้แท็กซี่ขับนำมา”


    “ย่ะ แม่คนฉลาด ว่าแต่จะให้เราไปแต่งหน้าแต่งตัวที่ไหนค่ะ”


    “อ๋อ เชิญทางนี้เลยครับ กึนยอง มาพานางแบบไปแต่งตัวแต่งหน้าเร็ว”


    ผมมองตามเธอทั้งสองคนไปจนลับสายตา จะบอกว่ามองตามทั้งสองคนคงไม่ถูก ผมมองตามคนเดียวต่างหาก ทิฟฟานี่ อ๊า ผู้หญิงคนนี้ตรงสเปคของผมสุดๆไปเลย


    “หึหึ ก่อนเขามายังนั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่เลย พอเจอหน้าเขาหน่อยล่ะ คำว่าหายไปไหนหมดว่ะ ถูกใจล่ะสิไอ้เสือ ว่าแต่คนไหนล่ะ แม่สาวผมบลอนด์ หรือว่า แม่สาวตาสวย


    ผมยักไหล่ๆไม่ตอบอะไร ผมไม่ใช่ไอ้เสือแบบที่พี่ชานซองบอกซะหน่อย แค่ผมเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี๊ดีเท่านั้น ใครคุยมาผมก็คุยตอบ ใครเสนอผมก็สนอง ผมไม่ใช่เสือเลยจริงๆนะ ถ้าผมเป็นเสือ แล้วอย่างพี่คุณล่ะ จะเรียกว่าอะไรดี


    ไม่นานนางแบบสาวทั้งสองคนก็ออกมา คงเป็นเพราะว่าพวกเธอสวยอยู่แล้วจึงไม่ต้องแต่งอะไรมากมาย คอนเซปต์ในวันนี้เป็นคอนเซปต์ที่แอบเซ็กซี่เล็กน้อย พวกเธอก็โพสท่ากันได้อย่างโปรเฟสชั่นนอลมากๆ จนช่างภาพอย่างผมนี่มีแค่หน้าที่ถ่ายอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไรเลย


    การถ่ายทำเป็นไปด้วยดี จนถึงการถ่ายเดี่ยว เจสสิก้าถ่ายเสร็จและเข้าไปเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแต่ทิฟฟานี่เท่านั้นที่ยังต้องถ่ายต่อ


    “คุณอูยองคะ”


    “คะ..ครับ” โอ้ย เป็นครั้งแรกเลยที่ผมพูดกับผู้หญิงแล้วประหม่าขนาดนี้ หัวใจจะวายอยู่แล้วครับ ยิ่งเธอยื่นหน้ามาใกล้ๆ ใจผมก็ยิ่งสั่น ใครก็ได้ช่วยผมที


    “คุณอูยองเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ตัวสั่นเชียว ไม่สบายหรือเปล่า”


    “ปะ..เปล่าครับ แค่แอร์มันหนาวไปหน่อย” โอ้ ไม่มีเหตุผลที่มันดีกว่านี้แล้วหรอว่ะไอ้อูยอง ดูเธอสิ แอบหันหน้าไปขำผมด้วย ผมเห็นนะ


    “คือทิฟจะมาถามว่า คุณอูยองจะให้ทิฟโพสแบบไหนค่ะ จะให้เซ็กซี่ขนาดสิก้าเลยหรือเปล่าค่ะ”


    “เอ่อ ผมอยากให้คุณถ่ายทอดความเซ็กซี่ออกมาทางสายตาน่ะครับ ได้หรือเปล่า”


    “โอเคค่ะ”


    เธอเดินไปที่ตำแหน่งของตัว ก่อนที่จะทำตาแบบว่าเซ็กซี่มากกกกก อ๊ายยย ไม่ไหวแล้วครับ ขนาดผมมองตาเธอผ่านเลนส์กล้องผมยังรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงเลยครับ กรี๊ดๆๆๆ ทำไมเธอถึงได้สวยแบบนี้นะ พวกคุณเชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่า
    Love at first sight น่ะครับ ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นเลย กรี๊ดๆๆๆ ว่าแต่ว่าผมจะกรี๊ดทำไมครับ ใครก็ได้ช่วยหยุดผมที

     

    [Jessica’s Part]


    ฉันเข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัว นึกถึงช่างภาพคนนั้นแล้วก็แอบขำ จะรู้ตัวไหมนะว่าแสดงอาการสนใจยัยตัวร้ายทิฟฟานี่อย่างออกนอกหน้า ฮ่าๆ ยัยนี่นี่เสน่ห์แรงจริงๆ ตั้งแต่อเมริกายันเกาหลี เสน่ห์ไม่เคยน้อยลงเลย ฟีโรโมนของยัยนี่นี่มันทำงานตลอดเวลาจริงๆ


    แต่ไม่ว่าจะมีผู้ชายมาจีบกี่สิบกี่ร้อยคน ฉันก็ไม่เห็นว่ายัยนั่นจะสนใจใครสักราย มีแต่ควงไปเล่นๆเรื่อยๆ ใครกันนะจะมาหยุดผู้หญิงที่ชื่อทิฟฟานี่ได้


    เฮ้อ พูดเรื่องคนอื่นมามากแล้ว มาคิดเรื่องของตัวเองดีกว่า ฉันมาเกาหลีได้สามวันแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้แจบอม จะรู้หรือยังว่าฉันไม่ได้อยู่อเมริกาแล้ว ตอนที่ฉันไปขอเลิกกับเขา และบอกให้ยกเลิกงานแต่งงานของเรา เขาก็ไม่ยอมรับและยืนยันว่าจะแต่งงานกับฉันให้ได้ แต่คนอย่างฉันเดินหน้าแล้วไม่มีวันถอยหลังเป็นอันขาด


    ติ๊ด ติ๊ด


    ฉันรับโทรศัพท์ทั้งๆที่ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา คงจะเป็นคนโทรมาติดต่องานมั้ง ดูสิพวกฉันฮอตแค่ไหน มาถึงเกาหลีได้แค่สามวันก็มีงานติดต่อให้ไปถ่ายแบบสามสี่งานแล้ว เกิดมาสวยมันก็อย่างนี้ล่ะนะ ฮิๆ


    “สิก้า”


    “แจบอม” แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ที่ฉันคิด เป็นเขาที่โทรมา อดีตคนรักของฉัน ลูกชายของคนที่ฆ่าพ่อแม่ฉัน ปาร์คแจบอม


    “เธออยู่ที่ไหน อีกไม่กี่วันเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว เธอไปเที่ยวเล่นที่ไหนกัน” น้ำเสียงสั่นๆของเขา ทำหัวใจของฉันกระตุกวูบ สงสารเขาเหลือเกิน แต่ระหว่างเรา มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว


    “ฉันคิดว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะแจบอม มันจะไม่มีงานแต่งงานอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น เราเลิกกันไปแล้ว”


    “ทำไมสิก้า แจจ๋าทำผิดอะไร ทำไมเราถึงต้องเลิกกันด้วย”


    เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงเหลือเกิน แจจ๋า ชื่อนี่ฉันใช้เรียกเขามาตลอดตั้งแต่ที่เรายังไม่ได้คบกับ จนเขาแทนตัวเองกับฉันแบบนี้เสมอมา เขาไม่เคยเปลี่ยนเลยสิบปีที่คบกันมาในฐานะคนรัก เขายังเป็นเหมือนเดิมเสมอ จะเปลี่ยนไปก็แค่รักฉันมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น


    “เพราะครอบครัวนายทำลายครอบครัวฉันไงแจบอม”


    “เธอพูดเรื่องอะไร”


    “พ่อแม่นายเป็นคนฆ่าพ่อแม่ฉัน แล้วอย่างนี้จะให้ฉันทำใจแต่งงานกับลูกชายฆาตกรได้ยังไง”


    “เธอเอาเรื่องเหลวไหลพวกนี้มาจากไหนกันสิก้า พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนรักกัน ท่านจะทำแบบนั้นไปทำไม”


    “ทำไปทำไมอย่างนั้นหรอ นายก็ลองไปถามพ่อแม่นายเองสิแจบอม จากนี้ไปนายก็เลิกโทรมาหาฉันได้แล้วนะ ฉันจะถือซะว่าไม่เคยรู้จักกับนาย”


    ฉันรีบตัดสายก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจนเขาได้ยินเสียงสะอื้นของฉัน มันจบลงแล้ว ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก และถ้าเขายังมายุ่งกับฉันอีกฉันสาบานว่าพ่อแม่เขาจะต้องชดใช้ให้พ่อแม่ฉันอย่างแน่นอน คนพวกนั้นจะต้องรู้สึกเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าตายซะอีก


    “สิก้า เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”


    “ฮือๆ ทิฟ เมื่อกี้แจบอมโทรมา อึก ฉันบอกเขาไปแล้วว่าพ่อแม่เขาฆ่าพ่อแม่ฉัน ฮือๆ”


    “แล้วเขาว่ายังไงบ้าง”


    “คงไม่เชื่อแหละมั้ง ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว ฮือๆ”


    “แล้วพ่อแม่เขาล่ะ”


    “ถ้าเขายังมายุ่งกับฉันอีก ฉันก็จะแก้แค้นให้ถึงที่สุด ฉันจะให้พวกเขาได้ชดใช้”


    “ไม่มีทางที่เขาจะเลิกยุ่งกับแกหรอก เขาจะต้องกลับมาอีกเชื่อฉันสิ”


    “งั้นก็เตรียมตัวลงนรกกันได้เลย”


    “เฮ้อ ใครว่าฉันร้ายคนเดียว แกมันก็ร้ายเหมือนกันนั่นแหละ แถมร้ายมากซะด้วยที่กล้าทำร้ายหัวใจตัวเอง”


    ทิฟฟานี่พูดถูก ฉันกำลังทำร้ายหัวใจของตัวเอง แต่ฉันไม่มีทางเลือก ทำไมสวรรค์ถึงได้ใจร้ายกับฉันแบบนี้ พรากพ่อแม่ไปจากฉันยังไม่พอ ยังพรากคนที่ฉันรักไปอีก การจากกันทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ มันเจ็บปวดมากกว่าการตายมากแค่ไหน สวรรค์จะรู้บ้างไหม










    Shala. la

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×