คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โรงเรียนใหม่ที่ห่างไกล (แก้)
บรื้น... เสียงรถยนต์คันใหญ่หรูหรา ตัวรถสีดำสนิท มันเงาแวววาวบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของรถ
ที่นั่งของคนขับมีชายชุดดำนั่งประจำที่อยู่ เขาพยายามมองผ่านกระจกซึ่งเห็นภาพของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ในที่นั่งเบาะหลังนั้นมีเด็กหนุ่มซึ่งกิริยาท่าทางของเขาไม่ค่อยรับแขกนัก เส้นผมของเค้าชี้ขึ้นไปไม่เป็นระเบียบ ผมส่วนหน้าถูกเสยขึ้นไปให้ตั้ง สายตาของเขาราวกับโกรธเคืองใครอยู่
......เฮ้อ น่าเบื่อนั่งรถมาตั้งหลายชั่วโมง..... เขามองออกไปนอกกระจกพลางถอนหายใจเล็กๆ บ่นพรึมพรำกับตัวเอง เขาขยับตัวไปมาแสดงท่าทางฉุนเฉียว
“พ่อทำไมต้องส่งเรามาโรงเรียนใหม่ด้วย จะหาเพื่อนได้แต่ละคนไม่ง่ายเลยนะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นเสียงดังเป็นเชิงคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ
อันที่จริงเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกับเขาก็มีมากมาย แต่เขาไม่ได้เปิดใจเข้าไปทักทายพูดคุย ไปตีสนิทกับใครสักเท่าไหร่ ที่โรงเรียนเก่ามีแต่เพื่อนๆที่เอาใจเขา และอยากรู้จักเขา เพราะพ่อของเขาเองเป็นถึงผู้อำนวยการใหญ่ของโรงเรียน และทำธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง
“คุณหนูเซจิครับ คุณท่านคงคิดดีแล้วก็เป็นได้นะครับ ซึ่งเหตุผลอย่างไร กระผมก็ไม่รุเหมือนกัน คุณหนูเองก็บ่นอยู่บ่อยๆไม่ใช่รึครับ ว่าที่โรงเรียนเก่าน่าเบื่อหนะ” คนขับรถอายุวัยกลางคน พูดขึ้นเสนอความคิดเห็นเมื่อได้ยินที่เด็กหนุ่มเซจิบ่น
“ยุ่งหน่า” เซจิกล่าวพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เซจิมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เห็นแต่ป่าที่มีหญ้ารกรุงรัง ต้นไม้สูงใหญ่ จนบดบังแม้แต่แสงของดวงอาทิตย์ ทำให้มุมหลายๆมุมในป่าอับแสง อีกทั้งไม่มีวี่แววว่าจะมีหมู่บ้านหรือโรงเรียนอยู่เลย
.....ทำไมโรงเรียนบ้านี่ มันมาสร้างไกลจัง นอกจากพ่อเรา ใครจะส่งลูกมาเรียนกัน....เซจิคิดในใจ
ปกติโรงเรียนประจำส่วนมากก็จะอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองอยู่แล้ว แต่โรงเรียนประจำที่เซจิจะย้ายเข้าไปอยู่ไกลมากผ่านภูเขาเข้าไปหลายลูก ทางลดเลี้ยวโค้งไปในซอกเขาแคบๆ ที่รอบข้างดูเหมือนจะเป็นป่าดงดิบชัดๆ
บรรยากาศก็เงียบซะจนน่าขนลุก อีกไม่กี่นาที สายตาของเซจิก็เหลือบเห็นโรงเรียนขนาดใหญ่ดูกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา มีบริเวณมากมายซะจนบางที่กลายเป็นป่ารกทึบเพราะดูแลไม่ทั่วถึง บางที่แทบจะไม่มีคนผ่านไปด้วยซ้ำ
เซจิยังมองเห็นตึกใหญ่ที่สูงที่สุดตั้งตระหง่านอยู่ เมื่อมองเข้าไปก็คล้ายหอพักมากกว่าตึกเรียน คนขับรถก็ได้ตรง
ดิ่งเข้าไปในโรงเรียน เป้าหมายคือที่ตึกสูงที่สุดนั้น
“ลงเถอะครับคุณหนูเราถึงจุดหมายกันแล้ว” คนขับรถกล่าวบอก
ทั้งสองก้าวเท้าลงมา ลมเย็นๆพัดมากระทบตัวพวกเขาราวกับเป็นการต้อนรับ รอบข้างดูเงียบงัน เพราะไม่มีเด็กแม้แต่คนเดียวถ้าไม่รวมตัวของเซจิ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องชั้นล่างสุดของตึกเพื่อต้อนรับ เธอสวมแว่นหนาเป็นมิล หน้าตาของเธอสระสวย ผิวพรรณขาว ผมเธอหยิกเล็กน้อย
“อ้าวสวัสดีจร้า เธอใช่มั้ย อาการะ เซจิ ยินดีที่รู้จักนะ” เธอกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร จากบุคลิกของเธอ
ดูเหมือนอาจารย์สอนวิชา คณิตศาสตร์ หรือไม่ก็วิทยาศาสตร์
“ครูชื่อ โมโนโกะ จร้า เป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ แล้วก็เป็นผู้ดูแลหอพักด้วย” อาจารย์โมโนโกะแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ
แต่ดูท่าทางเซจิจะไม่ค่อยแยแสนัก แต่ก็ได้กล่าวทักทายอาจารย์อยู่บ้างถึงแม้สายตาจะไม่เป็นมิตรนัก
เขายังวางตัวได้เหมาะสม สมเป็นลูกของผู้ดี
“ครับอาจารย์โมโนโกะ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมต้องพักที่ไหนครับวันนี้” เซจิเอ่ยปากถาม
“ที่นี่แหละจร้า ด้านหลังของครูนี่แหละที่พักของนักเรียนประจำ” โมโนโกะ พูดอย่างเอ็นดูเซจิ
“คุณหนูครับผมคงต้องขอตัวแล้วนะครับ เอ่อฝากดูแลคุณหนูเซจิด้วยละกันนะครับ” คนขับรถได้กล่าวลาเซจิ แล้วก็ขึ้นรถกลับไป
“อืม ครูจะให้อาจารย์ คาเซะพาไปที่พักนะ” สักครู่อาจารย์โมโนโกะก็ตะโกนลั่น
“โทจิวะ คาเซะ ตื่นได้แล้วจะนอนไปถึงไหน” เธอตะเบ็งสุดเสียง
ชายผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ราวกับคนทางยุโรป เดินออกมาจากห้องพักด้านล่างของหอ เขาขยี้ตา แล้วเดินงัวเงียออกมา กวาดสายตาไปรอบๆ
“อืมๆหวัดดีทั้งสองคน เด็กใหม่เซจิสินะ ไปหอพักกันได้แล้วฉันจะพาไปส่ง ฮ้าววว” คาเซะอาจารย์ที่ดูอายุไม่มากนักราวๆ 20 ปีกว่าๆ ยังเป็นเพียงอาจารย์ฝึกสอนอยู่ ท่าทางขี้เกียจ กล่าวขึ้นทักทาย
“นี่คืออาจารย์คาเซะ เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์”โมโนโกะแนะนำให้เซจิรู้จัก
แล้วสักพักคาเซะก็เดินนำเซจิขึ้นบันไดไป ระหว่างชั้นแต่ละชั้นมีช่วงบันไดหลายขั้นมาก บ่งบอกว่าตึกนี้ใหญ่น่าดู พวกเขาเดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้น 3 เซจิมองไปสุดทางเดินของอีกฝั่งซึ่งก็มีบันไดอยู่เช่นกัน
เขาเห็นเงาตะคุ่มเหมือนกับเด็กผู้ชายนั่งกอดเข่าท่าทางเศร้าโศกราวกับว่าโลกจะแตก เสียงครวญครางดังมาถึงอีกฝั่งซึ่งเซจิยืนอยู่ เซจิหยุดชะงักเพื่อตั้งใจดูว่าคืออะไรกันแน่
ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วโว้ย ว่าแกเป็นผี ท่าทางที่นี่น่าสนใจกว่าที่เราคิด... เซจิคิดในใจ เค้าไม่รู้ว่า
อาจารย์คาเซะเห็นรึเปล่า แต่ดูท่าทางคาเซะจะไม่สนใจอะไรนัก ถึงแม้จะมองตามเซจิไปตอนที่เซจิหยุดชะงักมองดูก็ตาม เซจิจึงเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น 4
“นี่ห้องเธอนะเจ้าเปี๊ยก เออตะกี้เห็นไม่ใช่หลอ ทำไมท่าทางเธอไม่กลัว รึว่าไม่เห็นกันแน่” อาจารย์
คาเซะพูดหยอกล้อ และถามเรื่องที่ชั้น 3
“กลัวเรอะ ไม่มีทาง อาจารย์ก็ไม่กลัวเหมือนกันหนิครับ” เซจิย้อนถามคาเซะ
“ฉันหนะเห็นประจำ เออแล้วอย่าออกมานอกห้องตอนดึกๆนะ ไม่ต้องถามว่าทำไมทำตามที่บอกก็พอ”
คาเซะบอกเตือนบางอย่าง เขาพูดไม่ค่อยชัดเจนนัก แต่ก็พอรู้ว่าเป็นคำสั่ง
เซจิรีบเดินเข้าห้องไป เขาไม่ค่อยพอใจนักสำหรับคำที่อาจารย์เรียกเขา ในห้องมีเตียงสองชั้นและมีตู้เย็น
โต๊ะหนังสือ ห้องน้ำ ครบครัน
...ถ้ามีทีวีด้วย ก็วิเศษเลย... เซจิคิดในใจ สักครู่หลังจากจัดของเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย เขาก็นอนพักผ่อนหลังจากเดินทางมาไกล
ก๊อกๆๆ เสียงประตูดังขึ้น มีคนเคาะจากด้านนอก ขณะนี้ฝนตก เซจิไม่ค่อยได้ยินนักแต่ก็สะดุ้งตื่น เขาหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้ประมาณ 6โมงเย็นแล้ว เขาลุกไปเปิดประตูให้ เด็กคนหนึ่งปรากฏต่อหน้า เนื้อตัวของเด็กคนนั้นเปียกปอนไปหมด เหมือนพึ่งเดินผ่าฝนมา
“หวัดดีฉันพักห้องเดียวกับนายนะ ฉันชื่อ ซาชิ โคซึมิ อยู่ชั้นม.2 พึ่งเดินทางมาถึงเนี่ย” รูมเมทแนะนำ
ตัวเอง ในชั้น 4 นี้มีนักเรียนประจำชั้น ม.2 และ ม.3 นอนปะปนกับอยู่
“อืม ฉันอาการะ เซจิ เรียนชั้นเดียวกับนาย ม.2 เหมือนกัน” เซจิพูดแบบขี้เกียจ เพราะเขาพึ่งตื่นนอน
โคซึมิยืนเกาะอยู่ที่ประตู ตัวสั่นระริก เค้ากล่าวขึ้นมาว่า
“นี่ฉันหนาวนะ จะให้เข้าไปรึยัง โหข้างนอกเนี่ยน่ากลัวนะ” เขาไม่สบอารมณ์นัก
“เอ่อ อืม เชิญ เซจิหลีกทางให้” โคซึมิเดินไปสักครู่แล้วเขาก็หันกลับมา
“ยินดีที่รู้จักเพื่อนใหม่” โคซึมิกล่าว
...พึ่งเจอกันเป็นเพื่อนกันตอนไหนวะ... เซจิคิดในใจ
โคซึมิจัดของเข้าที่จนเสร็จ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาคุยกับเซจิซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่ เซจิดูเหมือนว่าจะข่มตาไม่ลงอีกเมื่อตื่นขึ้นมา
“เออเซจิชั้นขอเตียงชั้นบนนะ” โคซึมิบอกเซจิ
“เออตกลง” เซจิยินดี เพราะเตียงชั้นบนดูเหมือนจะมีคราบอะไรสีแดงๆติดอยู่เหมือนคราบเลือด โคซึมิ
ไม่ทันสังเกตเห็นในจุดนี้ เขาล้มตัวลงนอนเพราะเหนื่อยล้า เซจิหันไปดูนาฬิกาอีกครั้ง
“3ทุ่มแล้วหนิง่วงจัง” แล้วเซจิก็ไปเข้านอน พวกเค้านอนหลับสบาย ท่ามกลางความเงียบงัน เพราะโรงเรียนยังไม่เปิดเรียน เด็กที่อยู่ในโรงเรียนตอนนี้คงมีแต่พวกเขาแค่ 2 คนเท่านั้น
4 ชั่วโมงต่อมาเป็นเวลาตี 1 เซจิสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงหัวเราะ
“ฮึฮึ ฮ่าฮ่า หึหึหึ” เสียงหัวเราะปริศนาดังก้องในหูของเซจิ
เค้าอารมณ์เสียมาก เซจิจะฉุนเฉียวมากที่สุดถ้ามีคนรบกวนรึว่าทำให้เขาขายหน้า เซจิจึงตะโกนขึ้นมา
“หัวเราะทำซากผีอะไรวะ คนง่วงนอน” เสียงหัวเราะจึงเงียบลง เซจิไม่รู้หรอกว่าเสียงใครหัวเราะ เค้าคิดเพียงสองอย่างว่า เสียงโคซึมิ ไม่งั้นก็เป็นพวกแขกไม่ได้รับเชิญ อย่างพวกวิญญาณ เซจิรีบนอนรอรับเช้าวันใหม่ ในคืนนี้คงไม่มีสิ่งใดรบกวนเขาอีกแล้ว
ความคิดเห็น