ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ACIP Issues 2012 Adult Immunization Schedule
ACIP Issues 2012 Adult Immunization Schedule
ตีพิมพ์ใน January 31 in the Annals of Internal Medicineฉีด HPV4 แนะนำให้ฉีดในชายอายุ 11-12 ปี แต่ก็อาจจะฉีดได้จนถึงอายุ 26 ปีเพราะหากอายุเกิดกว่านี้จะไม่ค่อยมีประโยชน์ สาเหตุที่ต้องฉีดในผู้ชายเพราะว่าเชื้อส่วนใหญ่นั้นอยู่ในผู้ชาย แล้วเวลามีเพศสัมพันธ์ก็เลยไปติดผู้หญิง แต่โชคร้ายของผู้หญิงที่เมื่อได้รับเชื้อ HPV แล้วมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่ามะเร็งองคชาติในผู้ชาย
ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี แล้วตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน แนะนำให้ฉีดวัคซีน HBV ทันทีที่ทราบผล ในที่นี้ก็ต้องดูเลือดด้วยว่าภูมิมีแล้วหรือยัง
ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี แล้วตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวานแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ความบ่อยในการต้องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอกเสบบีว่ามีแล้วหรือยัง
ในหญิงที่ตั้งครรภ์ อายุครรภ์เกินกว่า 20 สัปดาห์แล้วแนะนำให้ฉีด (Tdap) booster ซึ่งประกอบไปด้วยวัคซีน บาดทะยัก คอตีบ และไอกรน เพื่อป้องกันโรคในลูกที่จะคลอดออกมา โดยส่งผ่านภูมิคุ้มกันไปทางรก
สำหรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น แนะนำให้ฉีดในผู้ใหญ่ทุกคนหากไม่แพ้โปรตีนจากไข่ แต่ถ้าหากท่านแพ้ไข่ก็อาจจะฉีด inactivated influenza vaccination เพราะมีการศึกษาออกมาว่าสามารถใช้ในผู้ที่แพ้ไข่ได้อย่างปลอดภัย
การฉีด trivalent inactivated influenza vaccine (TIV)
แนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุ 6 เดือนขึ้นไป หากท่านทำงานด้านสาธารณสุขและอายุต่ำกว่า 50 ปี สามารถที่จะฉีดแบบ live attenuated influenza vaccine or TIV
วัคซีนงูสวัดแนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป
สำหรับวัคซีนป้องกันโรค หัด หหัดเยอรมัน และคางทูมนั้นแนะนำให้ฉีดตอนที่มีการระบาด
pneumococcal polysaccharide vaccine (PPSV) vaccination
แนะนำให้ในผู้ที่ตัดม้าม และผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้มานานกว่า 5 ปีขึ้นไป
วัคซีนเพื่อป้องกันไข้สมองอักเสบนั้นแนะนำให้ฉีดในผู้ที่อายุมากกว่า 16 ปีแล้วยังไม่เคยฉีดเลย และแนะนำให้ฉีดตอนเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
Relevant financial relationships of the ACIP and Dr. Fryhofer can be viewed on the ACP Web site.
Ann Intern Med. 2012;156:211-217. Article full text, Editorial full text
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น