ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วังวนรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : วังวนรัก

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 49


    ร่างบางเดินกลับที่พักอย่างสบายอารมณ์ เวลาตั้งเดือนนึงแหน่ะ ไปเที่ยวที่ไหนดีน้า…กลับไปหาพี่พลดีกว่า ป่านนี้ไม่รู้ว่าพี่พลจะทำใจได้ยัง คิดแล้วก็เศร้า…

    พี่พลของหล่อน หรือ ภัทรพล วิวัฒน์ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับหล่อนมาก เครื่องเคราบนใบหน้าคร้ามประกอบด้วยดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนรับกับคิ้วหนาที่ทอดตัวสวย จมูกโด่งเป็นสัน เข้ากับริมฝีปากบางสีสด เขาเป็นพี่ชายที่หล่อนคลานตามหลังมาเกือบๆหกปี เมื่อก่อนเขาเป็นผู้ชายที่ถือได้ว่าเนื้อหอมทั้งทางด้านธุรกิจและผู้หญิงคนหนึ่งเลยทีเดียว

    แต่ใครจะคิดว่าวันหนึ่งก็ได้มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อ
    มินนี่ หญิงสาวคนเดียวที่ทำให้พี่ชายของหล่อนมีชีวิตชีวามากขึ้นตั้งแต่พวกเราต้องสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไปเมื่อหลายปีก่อน มินนี่เป็นหญิงสาวต่างชาติที่ใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ทั้งสองพบกันที่ชายหาดแห่งหนึ่งตอนที่พี่พลไปประชุมที่นั่น และมินนี่เองก็ไปเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆที่เมืองไทย ทั้งสองต่างก็ตกหลุมรักกันและกันตั้งแต่แรกพบ หล่อนเองก็เคยได้พบกับมินนี่เองหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ทั้งสองคนมีแพลนที่จะลั่นระฆังวิวาห์เร็วๆนี้ แต่วันหนึ่งเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่พลอีกครั้งก็คือวันที่มินนี่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาได้รับแค่จดหมายฉบับเล็กๆฉบับหนึ่งที่เขียนเอาไว้ว่า

    ถึง คุณพล

    ฉันไม่ได้รักคุณอีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้ขอให้เราจบกันแค่นี้ คุณมันก็แค่ผู้ชายจนๆคนหนึ่งที่ไม่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้หรอก

    มินนี่

    เมื่อพี่พลได้อ่านก็ถึงกับทรุด ผู้ชายที่ไม่เคยปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอเข้ามาแสดงให้ใครเห็น บัดนี้กำลังทรุดตัวร้องไห้อยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน…ตอนนี้เวลาก็ได้ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว ไม่รู้ว่าพี่พลจะยังคงทำงานเหมือนหุ่นยนต์เดินได้อยู่อีกมั้ย…เฮ้อ~

    ร่างบางสะบัดหัวอย่างช้าๆ เพื่อไล่เอาความคิดเก่าๆออกไป ต่อไปนี้หล่อนจะต้องยืนอยู่ข้างพี่ชาย ทำไมที่หล่อนต้องออกมาทำงานถึงต่างบ้านต่างเมืองหน่ะหรอ ก็เพราะว่าพี่พลอยากได้คนมาเรียนรู้งานของชาวต่างชาติ และเป็นการหาตลาดความต้องการของชาวยุโรปด้วยไง


    เมื่อถึงที่พักหล่อนก็หาอะไรมารองท้องก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็จัดการกดหมายเลขโทรศัพท์ไปยังอีกซีกโลกหนึ่ง

    “สวัสดีค่าพี่พล…เป็นยังไงบ้างคะพี่ชาย?” ร่างบางกรอกเสียงหวานๆไปตามกระบอกโทรศัพท์เมื่อได้ยินคนปลายสายรับโทรศัพท์

    “จ้าบัว พี่สบายดี แล้วเราหน่ะเป็นไงบ้างไปอยู่นั่นเกือบปีแล้วสินะ” ใบหน้าคร้ามที่มักไม่แสดงความรู้สึกใดๆผ่อนคลายลงเมื่อนึกถึงหน้าหวานๆของน้องสาวผู้เป็นที่รัก

    “บัวสบายดีค่ะ ทุกคนที่นี่ดีกับบัวมากเลย…นี่พี่พลรู้มั้ย บัวได้ทำโปรเจคใหญ่ด้วยนะ ตกแต่งรีสอร์ทเชียวนะ เก่งมั้ย?” ร่างบางตอบพี่ชายอย่างอวดหน่อยๆ

    ร่างสูงของพี่ชายที่บัดนี้ได้ย้ายตัวเองจากห้องรับแขกมายังสวนข้างนอกส่ายหน้าให้กับความเป็นเด็กของน้องน้อย แม้ว่าตอนนี้น้องน้อยจะมีอายุครบ 24 ปีเต็มแล้วก็ตาม “จ้า…บัวน้องพี่หน่ะเก่งที่สุดอยู่แล้ว”

    “ค่ะ…แค่นี้ก่อนนะคะ บัวง่วงแล้ว ฮ้าว~"
    เป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีเมื่อท้ายประโยคได้ยินเสียงหาวข้ามซีกโลกมาให้ได้ยิน

    “จ้า ไนท์ไนท์นะ”

    “เช่นกันค่ะ จุ๊บ!
    ร่างบางจุ๊บใส่กระบอกโทรศัพท์ ราวกับว่าตนได้หอมแก้มพี่ชายก่อนนอนยังไงยังงั้น

    อ่าว! เราลืมบอกพี่พลไปว่าเราจะไปหาที่เมืองไทยนี่นา…ยัยบ๊องเอ้ย!’

    ร่างบางเพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อได้วางสายจากพี่ชายสุดที่รักเป็นที่เรีบยร้อยไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่อยไปเซอร์ไพรซ์พี่ชายก็ได้เนอะ คิดได้ดังนั้นร่างบางก็ไปอาบน้ำ กลับออกมาอีกทีก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มหลับไปทันที


    วันนี้เป็นวันแรกของการพักร้อนนี่ อิอิ สบายจังเลย วันนี้ไปจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินดีกว่าจะได้ไปหาพี่พลเร็วๆ กำลังจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้องหล่อนซะนี่

    “ก๊อกๆ” ใครมากันนะป่านนี้ ไม่ได้นัดใครไว้นี่

    ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงนอนอันแสนสบายไปเปิดประตูให้กับแขกผู้มาเยือน เมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือนแล้วหล่อนก็แน่ใจว่าเขาต้องมาผิดห้องแน่ๆเลย เพราะว่าหล่อนไม่รู้จักกับร่างสูงตรงหน้าแน่นอน

    เขามีใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นชั้นดี ดวงตาสีเขียวที่มีประกายสีน้ำเงินเข้มอยู่หน่อยๆ รูปร่างเหมือนกับนักกีฬาที่ทำให้ร่างของคนยุโรปอย่างเขาดูหนาขึ้นไปอีก ริมฝีปากบางที่เม้มสนิทกันเหมือนเป็นเส้นตรง หล่อนแน่ใจว่าไม่รู้จักเขา

    “ขอโทษค่ะ คุณคงเคาะผิดห้องแล้วค่ะ”

    “คุณชื่อ บุษบัน วิวัฒน์ หรือเปล่าหล่ะ” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับถามมาอย่างห้วนๆ

    “ใช่ค่ะ” รู้จักชื่อฉันได้ยังไงกันนะ

    “งั้นก็ไม่ผิดหรอก”

    อะไรของเขากันนะ ไม่เห็นเข้าใจเลย “แต่ฉันไม่รู้จักคุณ”

    “มากับผม” ร่างสูงเอื้อมมากระชากแขนหญิงสาวให้เดินไปกับเขา ร่างบางที่ตกตะลึงในทีแรกเริ่มมีสติจึงกระชากแขนกลับแต่ทำยังไงก็ไม่หลุดจากการเกาะกุมของเขา

    “นี่! คุณจะทำอะไรหน่ะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ปล่อย!!


    เงียบ!!! ร่างสูงหันมาตวาดให้ร่างบางที่ถูกเขาลากตัวออกมานั้นหยุดตะโกนสักที

    “คุณก็ปล่อยฉันก่อนซี่…ปล๊อย…” เมื่อคิดว่าคงไม่ได้ผลแล้วนั้น ร่างบางจึงกัดเข้าที่ท่อนแขนสีน้ำผึ้งนั้นเต็มแรง

    “โอ๊ย!
    ร่างสูงสะบัดมือออกจากการเกาะกุมหญิงสาว มือหนาสะบัดไปกระทบกับใบหน้าหวานของหล่อน มีผลให้หน้าหล่อนชาดิก

    เพี๊ยะ!!

    …” ร่างบางตะลึงกับการกระทำดังกล่าว รู้สึกเจ็บชาๆที่ใบหน้าข้างที่โดนเขาทำร้าย

    “หึ! ทีนี้เงียบได้แล้วใช่มั้ย?” เมื่อร่างสูงเห็นว่าร่างบางไม่ขัดขืนแล้วนั้นก็กระชากหญิงสาวเต็มแรงตรงไปยังรถยุโรปคันใหญ่ที่จอดรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

    ..................................................................................................................................

    เหอๆๆ ตอนนี้ออกจะเถื่อนๆหน่อยนึงนะ...fragrance เคยแต่งเรื่องหวานๆมาแล้วอ่ะ หมั่นไส้ตัวละครตัวเอง ก็เลยซาดิสหน่อยนึง เหอๆๆ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×