วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ม. รังสิต ทางเลือกของคนอยากเป็นหมอ

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

"ขออนุญาตพูดครับ กระผม  นักศึกษาแพทย์ตะวันรุ่ง ทุ่งรังสิต รหัส 499999

 วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรังสิต ขออนุญาตพูดครับ "

  "ผมขออนุญาตแนะนำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ให้น้องๆ ทราบครับ"

 

                สำหรับน้องๆที่มีจิตใจที่รัก และศรัทธาในวิชาชีพแพทย์ ทางเลือกอีกทางสำหรับน้องที่มีใจรักในการเป็นแพทย์ หวังที่จะออกมาทำงานเพื่อพัฒนาสุขภาพอนามัยของเพื่อนมนุษย์

                วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญที่จะทำให้น้องจบมาเป็นบัณฑิตแพทย์ และทำให้ฝันที่อยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของน้องให้เป็นจริง ที่รังสิตมีปณิธานอันแน่วแน่ที่จะผลิตบัณฑิตให้ตรงกับสาขาที่ตรงกับความต้องการของประเทศและขาดแคลน เพื่อเสริมกำลังการผลิตแพทย์ของสถาบันแพทยศาสตร์ของรัฐ ที่นี่จึงเป็นสถาบันแพทยศาสตร์เอกชนแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นลำดับที่ 9 ของสถาบันแพทยศาสตร์ทั้งหมดในประเทศ บัณฑิตแพทย์ที่จบออกไปล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ และพร้อมที่จำทำงานเคียงคู่กับเพื่อนหมอทุกสถาบัน พวกเราไม่อาจเถียงว่าคณะแพทย์ที่นี่อาจเข้าง่ายกว่าคณะอื่น แต่การจะจบจากที่นี้เรียกได้ว่ายากแสนเข็นที่เดียวแต่ก็ไม่เกินความพยายามของน้องๆหรอก ตอนเข้ามาปีหนึ่งจะรับประมาณ 100 คนแต่พอเวลาจะข้ามไปฝั่งคลินิกคนที่ข้ามไปตรงรุ่นไม่สามารถข้ามได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือต้องไปเรียนวิชาที่ตนเองทำได้ไม่ดีซ้ำจนเกิดความรู้อย่างแท้จริงจึงข้างฝากไปได้ คือต้องทำเกรดวิชา pre clinic ให้ได้มากกว่า C ทุกรายวิชา หากครบ 6 ปี ไม่ข้ามฝาก ก็จะต้องถูก รีไทล์ หากข้ามฝากได้กว่าจะจบไปจากฝั่งคลีนิคตรงรุ่นอาจเหลือ น้อยมาก กว่าจะผ่านด่านอรหันต์อันลำบากมาได้นี้ ล้วนแล้วมาจากความพยายามของทุกคน จนมีความรู้ความชำนาญ ซึ่งเหตุผลทั้งหมดคือ รังสิต ต้องปั้นดินให้เป็นดาว !!!!

                หลายคนอาจมีคำถามต่างๆนานาเกิดขึ้น ????????

เรียนแพทย์รังสิตจ่ายแพงจริงหรือ ?

                จริงครับแพทย์ที่นี่ มีค่าหน่วยกิตและค่าบำรุงการศึกษาที่สูงกว่าแพทย์ที่อื่น เนื่องจากเราเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน จึงต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด รัฐบาลไม่สนับสนุนค่าใช้จ่ายรายหัวให้ เหมือนกับสถาบันของรัฐ ดังนั้นนักศึกษาแพทย์ที่เข้ามาเรียนที่นี่ จึงต้องเป็นผู้ที่อยากจะเรียนแพทย์และมีจิตใจจะเป็นแพทย์ที่แท้จริง แต่การที่เราออกทุนเรียนเองก็ทำให้เราไม่มีข้อผูกมัดในการต้องไปใช้ทุน แต่ถ้าหากเราต้องการเรียนต่อเฉพาะทางแล้ว เราต้องไปเพิ่มพูนทักษะในโรงพยาบาลชุมชน ตามระยะเวลาที่สาขานั้นๆ กำหนด เช่นกัน

แล้วที่ว่าแพงเนี่ย ! ต้องจ่ายเท่าไร?

                ค่าใช้จ่ายในการเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มรส. ของเราเป็นระบบเหมาจ่ายเป็นรายเทอม เทอมละ 175,000 บาท รวมตลอดหลักสูตร 6 ปี เป็นเงิน 2.1 ล้านบาท ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติมอีกนอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในชีวิต ประจำวันและอุปกรณ์การเรียนทั่วไป (ระบบเหมาจ่ายคือน้องจะลงเรียนเท่าไรก็ได้จ่ายแค่นั้น)

สามารถกู้เงินเรียนได้หรือไม่ แล้วมีทุนหรือเปล่า ?

                ปัจจุบันต้องรอรายละเอียดจากกองทุน กยศ. ซึ่งสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานรับสมัครนักศึกษาตามรายละเอียดด้านล่าง ส่วนทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่มีให้สำหรับวิทยาลัยแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์

เรียนก็แพง จบมาแล้วจะเป็นหมอได้จริงหรือ จะไปทำงานที่ไหน?

                เป็นหมอได้ทุกคนครับ ถ้าน้องตั้งใจเรียนจนจบแล้วสามารถสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าเรียนแพทย์ที่ไหนก็ต้องสอบใบประกอบเหมือนกัน และแพทย์ที่นี่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากแพทยสภา มีการประเมินมาตรฐานหลักสูตร รวมทั้งเปิดดำเนินการเรียนการสอนมาเป็นเวลา 19 ปีแล้ว มีพี่บัณฑิตแพทย์ ม.รังสิต จบไปแล้ว 13 รุ่น (ข้อมูลปี2550) ซึ่งมีจำนวนมากพอที่จะรับรองว่า ภาคเอกชนก็มีส่วนร่วมในการผลิตแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานของแพทยสภา และทำหน้าที่ของแพทย์ร่วมกับแพทย์ได้ทุกสถาบัน ไม่มีใครดูถูกเราหรอกครับ ถ้าเราไม่ดูถูกตัวเอง เพราะแพทย์ทุกคน ต้องรักเพื่อนร่วมวิชาชีพ และเราก็สามารถทำงานได้ทุกโรงพยาบาลครับ

แพทย์เอกชน จะมีคุณธรรมและจริยธรรมหรือเปล่า ต้องเสียเงินเรียนเอง จบมาแล้วต้องไปกอบโกยแน่ !

                ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เขากล่าวหากันครับ พวกเรายอมที่จ่ายเงินแพงกว่าเพื่อจะเดินตามความฝันของพวกเราครับ พวกเราทุกคนที่มาเรียนแพทย์ รวมทั้งน้องๆที่อยากเรียนแพทย์ทุกคนก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความฝันที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้เขาพ้นทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ ร่วมมือกับคนไข้ในการต่อสู้กับโรค ให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงแม้เราจะจ่ายเงินในการเรียนแพงกว่า หากแต่เราเรียนแพทย์ด้วยใจรักนั่นก็ไม่ใช่คำตอบว่าเราจะต้องไปกอบโกยจากวิชาชีพ พวกเรายึดมั่นในพระราชดำรัสในพระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์ไทย ที่ทรงสอนให้พวกเราถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่1 คณะของเราก็มีการเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรมตั้งแต่วันแรกที่พวกเราเข้าปฐมนิเทศ โอวาทแรกที่ท่านคณบดีมอบให้ ในวันที่พี่เข้าปฐมนิเทศคือเรื่องความซื่อสัตย์ ความมีเมตตาของแพทย์ นอกจากนั้นเรายังมีการจัดอบรมค่ายพันธกิจทางการแพทย์ การสนับสนุนให้นักศึกษาแพทย์ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม การฝึกภาคสนามเวชศาสตร์ชุมชนโดยไปใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้านในชนบทและการสนับสนุนให้บัณฑิตแพทย์ไปเพิ่มพูนทักษะในต่างจังหวัดร่วมกับแพทย์ของรัฐหลังจากจบการศึกษา ดังนั้นแพทย์จะดีหรือไม่อยู่ที่ตัวเราไม่เกี่ยวกับสถาบัน

มหาวิทยาลัยเอกชนจะมีอาจารย์ที่มีคุณภาพพอเหรอ?

                การเรียนการสอนของแพทย์ มรส. เรียนกับอาจารย์จากหลายส่วนด้วยกันโดยเรียนวิชาพื้นฐานกับอาจารย์ของคณะต่างๆ ในมหา'ลัย ส่วนวิชา ปรีคลินิกเรียนกับอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และอาจารย์พิเศษจากสถาบันของรัฐExtern จะไปฝึกภาคสนามที่ รพ.ฉะเชิงเทรา รพ.สนามชัยเขต และ รพ.แปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทราส่วนชั้นคลินิกเรียนกับอาจารย์หมอสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยภาคคลินิกจะฝึกที่ รพ.ราชวิถี และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี(รพ.เด็ก) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และเป็นสถานพยาบาลชั้นนำของประเทศ ที่เปิดให้บริการประชาชนมานาน ภายใต้ความร่วมมือจากสถาบันร่วมผลิตแพทย์ กรมการแพทย์-มหาวิทยาลัยรังสิต ที่คอยดูแลนักศึกษาชั้นคลินิก นอกจากนี้พี่

มหา'ลัยเอกชน เข้าง่าย เรียนง่าย จบง่าย  แค่มีตังก็เรียน แต่ไม่มีงานทำ จริงหรือป่าว??

                เรื่องเข้าง่าย ก็ยอมรับครับว่าง่ายสำหรับบางคน แต่สำหรับพี่ยากมากครับ เพราะพี่ก็เรียนไม่เก่ง ที่นี่ให้โอกาสคนเรียนกลางๆได้เป็นแพทย์และทำตามความฝันครับ คณะของเราถ้าไปเทียบกับแพทย์ที่อื่นคะแนนไม่สูงมากแต่ก็ไม่ต่ำเสียทีเดียว เพราะจากสถิติ Ent' ระบบเก่าคะแนนที่นี่อยู่ประมาณสี่ร้อยปลายๆ-ห้าร้อยต้นๆ แต่เมื่อปีที่แล้ว ของเราอยู่ที่ 68XX ถึง 75XX ส่วนการสอบเข้าเรียนยังมีรอบสอบตรงอีก 2 รอบ ปีที่แล้วก็มีคนสมัครประมาณ 2,000 คน แต่รับเพียง 50 คนเท่านั้น ส่วนเรื่องการเรียน ส่วนใหญ่จะตัดเกรดกันเองในคณะแพทย์ ด้วยทั้งระบบอิงเกณฑ์และอิงกลุ่มครับ และยังดูเกรดเพื่อประกอบการพิจารณาในการขึ้นชั้นคลินิก โดยต้องได้เกรดเฉลี่ยสะสม 3 ชั้นปีไม่ต่ำกว่า 2 และวิชาปรีคลินิกเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2 เช่นกัน จึงจะมีสิทธิ์ ข้ามฝากไปฝั่งราชวิถี เพราะฉะนั้นกว่าจะจบ นักศึกษาแพทย์ทุกสถาบัน รวมทั้งที่รังสิตเองก็ตามต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ความขยันหมั่นเพียร เพื่อจะสำเร็จการศึกษา เป็นบัณฑิตแพทย์ตลอดระยะเวลา 6 ปี

แล้วเรียนแพทย์ ที่รังสิต เรียนอะไรแบบไหน
       ปี1 เราจะเรียนวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์  เช่น biology chemistry. Life-physics  stat  ethics computer English orchem  วิชาต่างๆ ส่วนใหญ่จะเรียนคล้ายวิชาใน ม.ปลาย ซึ่งน้องๆต้องรีบปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนเข้ากับชีวิตมหาลัยให้ได้ แต่ตอนปี 1 เราก็ต้องเรียนวิชา pre clinic แล้ว 1 วิชาตอนภาคเรียนที่ 2 คือ Human gross anatomy I ซึ่งเราจะเริ่มพบกับอาจารย์ใหญ่เลย
       ปี 2 เราจะเรียนวิชา Gross II Biochem Embryo Neuro Histo Physio จะอธิบายคล่าวตามลำดับนะคับ

 gross น้องที่จะเรียนหมอจะรู้จักกันดีอยู่แล้วนะครับนั่นคือวิชาที่จะศึกษากับท่านอาจารย์ใหญ่เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนต่างๆของร่างกายที่มองเห็นด้วยตาเปล่าBiochem ก็เรียนเกี่ยวกับสารเคมีในร่างกายเราต่างๆ สารอาหาร Embryo ก็เรียนเกี่ยวกับการเจริญของตัวอ่อนมนุษย์ Neuro เรียนเกี่ยวกับสมองและไขสันหลังอย่างละเอียด Histo เรียนเกี่ยวกับ cell ในร่างกายเรา Physio จะเรียนเกี่ยวกับการทำงานของร่างกายเราในยามปกติ ซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นวิชาที่หนักที่สุดในการเรียนแพทย์ทีเดียว

                ตอน summer ปี 2 เรา จะ Phamaco I และ II เรียนเกี่ยวกับยาการใช้การออกฤทธิ์
       ปี3 เราจะเรียนในพวก micro parasit และ pathology หรือก็คือวิชาร่างกายในยามผิดปกติต่าง และภาคเรียนที่ 2 เราจะเรียนวิชาพื้นฐานทางคลินิกต่างๆ  คือการไปดูงานตาม wardต่างๆ ที่ รพ ราชวิถี ซึ่งจะให้พวกเราได้สัมผัสกับภาค clinic ก่อนสอบ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ขั้นที่ 1 หรือที่เรียกว่า สอบ comprehensive เป็นการช่วยเหลือให้ นศพ. มีประสบการณ์และทำข้อสอบได้ดีขึ้น
       ปี4-6 จะเรียนที่รพ ราชวิถีและรพเด็ก ซึ่งจะไปศึกษาตาม Ward ต่างๆ ต้องมีการเข้าเวร เรียนรู้วิธีการรักษาคนไข้ ต่าง วิธีการักษาต่างๆ แล้วแต่ minor และ major ward ต่างๆ  และพี่ปี 6 ต้องไปออกภาคสนาม (extern)ในต่างจังหวัดเป็นเวลา 2 เดือน  ที่ รพ. เมืองฉะเชิงเทรา รพ.สนามชัยเขต รพ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และ รพ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

ด้านกิจกรรมนักศึกษาแพทย์ รังสิตทำอะไรกันบ้าง

                ชีวิตนักศึกษาแพทย์ ไม่มีเพียงแต่การเรียนเท่านั้น ยังมีกิจกรรมต่างๆทำให้พวกเรามีความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้าน มีความสามารถในการทำงานร่วมกัน การวางแผน มีกระบวนการคิด ความร่วมมือ และความรักที่มีต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ ความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดระยะเวลา 6 ปี นศพ.รังสิต จะต้องผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ซึ่งประกอบด้วย การไหว้พระศรีศาสดา พระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่นักศึกษาใหม่ การถวายสักการะพระบิดาแห่งการแพทย์ไทย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งถือเป็นบรมครูแห่งวิชาแพทย์ พิธีไหว้ครู เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์และเป็นการบูชาผู้มีพระคุณ ครูผู้ที่คอยประสิทธิ์ประสาทวิชา กิจกรรมพี่รหัส - น้องรหัส ที่จะคอยดูแลช่วยเหลือรุ่นน้องเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องแพทย์รังสิต เพราะการเรียนในรั้วโรงเรียนแพทย์ รุ่นพี่เป็นผู้ที่มีความสำคัญ เพราะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำในทุกเรื่อง กิจกรรมเฟรชชี ของมหาวิทยาลัย กีฬาเฟรชชี การประกวดดาวเดือน การประชุมเชียร์ และกิจกรรมสันทนาการ สุดท้ายน้องใหม่ก็จะลอดซุ้มวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งแสดงว่าเราได้ผ่านเข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยรังสิต อย่างเต็มตัว กิจกรรมต่อมาเป็นประเพณีที่สำคัญของ นศพ.ที่นี่ทุกรุ่น คือ โครงการค่ายพันธกิจทางการแพทย์ ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อ ปลูกฝังในเรื่องบทบาทและหน้าที่ ความรับผิดชอบของแพทย์และการประกอบวิชาชีพแพทย์ เพื่อพัฒนาให้พวกเราเป็นแพทย์ที่ดีในอนาคต พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและความสามัคคีให้แก่นศพ. เมื่อพวกเราเข้าร่วมกิจกรรมครบ ก็จะมีพิธีรับเข็มคณะ ซึ่งจะมีเลขรุ่นอยู่ด้วยในงานบายศรีสู่ขวัญ ต่อมาก็เป็นกีฬาภายในวิทยาลัยแพทยศาสตร์ หรือ กีฬา med cup พิธีมอบห้อง Gross   พิธีบุญบำเพ็ญกุศลอาจารย์ใหญ่ก่อนเรียน        งานพระราชทานเพลิงอาจารย์ใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่ออาจารย์ใหญ่ ครูผู้อุทิศร่างให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้ งาน med night เพื่อขอบคุณรุ่นพี่ที่คอยแนะนำ การใช้ชีวิตในโรงเรียนแพทย์ และเป็นที่ปรึกษาทุกด้าน พิธีไหว้ครูฝั่งคลินิก ที่สถาบันร่วมผลิตแพทย์ และรับน้องใหม่ฝั่งคลินิก วันประสาทปริญญา ฉลองบัณฑิตใหม่ หรืองาน bye 'nior กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ของนักศึกษาแพทย์ การออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้พี่น้องแพทย์รังสิต มีความรัก ความสามัคคี ความผูกพัน และพร้อมที่จะร่วมกันทำงานเพื่อต่อสู้กับโรคภัย และดูแลสุขภาพของประชาชนในสังคม ตามพันธกิจของแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์ สมกับปณิธานที่อยู่ในเพลงประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เพลงหมอมวลชน

                นอกจากนี้ตอนปิดภาคเรียนชั้นปีที่ 2 ยังมีการฝึกภาคสนามในวิชาเวชศาสตร์ชุมชน พวกเราจะได้ไปออกชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ 1 สัปดาห์ และต่างจังหวัด 1 สัปดาห์ โดยพักกับครอบครัวชาวบ้าน เพื่อเรียนรู้ชีวิตในชนบท และวิถีชีวิตของชาวบ้าน

เรียนแพทย์ก็หนัก แถวรังสิตมีที่ให้ผ่อนคลายไหมเนี่ย ?

                ถึงแม้ ม.รังสิต จะมีพื้นที่แคบก็ตาม แต่ภายในมหา'ลัยยังมีสนามกีฬาและอุปกรณ์กีฬาให้เราเลือกเล่นมากมาย มีร้านกาแฟ มีมุมพักผ่อนต่างๆ ในคณะเราก็มีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อผ่อนคลายความเครียดให้แก่นักศึกษา เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่น น้องหน้าม.ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ร้านคาราโอเกะ ให้เลือกผ่อนคลายได้ตามใจชอบ การเดินทางไปปากทางเมืองเอก มีรถสองแถวบริการในราคา 5 บาท หรือหากจะไปห้างฟิวเจอร์ฯ ก็มีรถตู้บริการให้ในราคา 10 บาท นอกจากนี้ในบริเวณใกล้ๆมหาวิทยาลัยยังมีโรงหนัง สวนสนุกให้น้องๆได้หาโอกาสไปผักผ่อนหย่อนใจ อย่างไรก็ตามถ้าน้องเรียนแพทย์ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาไม่เช่นนั้นจะเสียการเรียนได้
       ขยายความนิดนึง ในช่วง pre clinic เราก็จะมีที่ผ่อนคลายอย่างเป็นทางการคือที่ ฟิวเจอร์ และ เมเจอร์ รังสิต นะครับที่นี้จะมีทุกสิ่งที่น้องๆเลือกสรร อยาก ซื้อของ central โรบินสัน บ็กซี ก็มีหมด อยากโยนโบว์ ร้องเกะ ดูหนัง ก็มีหมด หรือหยุดเสาร์ทิตอยากไปเที่ยวก็มี ดรีมเวอร์ให้ได้เที่ยวกัน หรืออยากไปเที่ยวที่อื่นก็ไปขึ้นรถตู้ไปได้หลายที่จะมีรถตู้จากม.ไปฟิวฯ 10 บาท หรือไปแท็กซี่ 60 บาท
       ฝั่ง clinic  ก็มี century  มีโรงหนัง ร้านเกะ ร้านอาหารให้น้องๆเลือกใช้กันหรือน้องอยากไปสยาม jj  mbk และอีกหลายที่น้องก็สามารถขึ้น BTS ไปได้ซึ่งทางขึ้นอยู่หน้าราชวิถีนี้เอง
                สำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นหมอ  ลองถามตัวเองว่าน้องอยากเป็นเพราะอะไร และวิชาชีพนี้ใช่ตัวตนของน้องหรือไม่ ถ้ามั่นใจ เรายินดีต้อนรับครับ อย่าอยากเรียนหมอเพราะแค่สอบติด หรือคะแนนถึง แต่ให้อยากเรียนเพราะหมอคือวิชาชีพที่เรารักและศรัทธา แล้วเราพร้อมที่จำนำความรู้ไปใช้ประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ และชาติบ้านเมือง

                วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่มีความฝันอยากจะเป็นแพทย์ วิชาชีพที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และวันนี้แพทย์ รังสิต ได้ทำให้พวกเรารู้จักคำว่าหมอมากขึ้น คำสั้นๆ พยางค์เดียว ที่ประกอบจากตัวอักษร 3 ตัวที่มีความหมาย ห หีบ จากคำว่า ให้ ม ม้า จากคำว่า มอบ และ อ อ่าง จากคำว่า อุทิศและอดทน   พวกเราก็อยากให้ทุกๆคน ได้รู้จักคำ คำนี้ เช่นเรา

             
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ คุยกับรุ่นพี่ที่

สำนักงานรับนักศึกษา         สมัครสอบผ่านทางเว็บไซต์ www.rsu.ac.th  สอบถามข้อมูลโทร  0-2791-5500  ถึง 10

วิทยาลัยแพทยศาสตร์          ดูรายละเอียดหลักสูตรทาง  www.rsu.ac.th/medicine    หรือโทร  0-2354-4725

สถาบันร่วมผลิตแพทย์ฯ      โทร 0-2644-7000  ต่อ 2709

สโมสรนักศึกษาแพทย์ฯ       www.medrsu.com/webboard

เรียบรียง โดย FrAme Med XVIII  RSU