มาริโอ้ เมาเร่อ สุดเท่ - มาริโอ้ เมาเร่อ สุดเท่ นิยาย มาริโอ้ เมาเร่อ สุดเท่ : Dek-D.com - Writer

    มาริโอ้ เมาเร่อ สุดเท่

    -

    ผู้เข้าชมรวม

    2,334

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    2.33K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 51 / 14:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      มาริโอ้ เมาเร่อ


      ประวัติ
      ชื่อเล่น : โอ้
      ชื่อนามสกุล : มาริโอ้ เมาเร่อ
      ฉายาที่เพื่อนๆ เรียก : ไอ้แว่น
      วันเดือนปีเกิด : 4 ธ.ค.2531
      บิดามารดา : โรแลนด์-วรัญญา
      พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คน มาร์โค
      การศึกษา : อนุบาล อนุบาลลีนา, ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา ร.ร.เซนต์ดอมินิก, ปริญญาตรี ปี 1 คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน ม.รามคำแหง
      งานอดิเรก : เล่นสเก็ต
      ความสามารถพิเศษ : ร้องแร็พ
       

                                                                            

      มาริโอ้ รักแห่งสยาม คว้าโอกาส เลือกเดินเส้นทางมายา

               มาริโอ้ หนุ่มหน้าฝรั่งวัยละอ่อนในเรื่อง รักแห่งสยาม เป็นใครมาจากไหน เอาเป็นว่าไปทำความรู้จักกับหนุ่มหน้าใสกิ๊ก โอ้ มาริโอ้ ก่อนไป ดูหนัง รักแห่งสยาม กันดีกว่า

      มาริโอ้ เมาเร่อ




                โดดเด่นสะดุดตาอยู่ในจอหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" จนหลายคนถามไถ่ว่าหนุ่มหน้าฝรั่งวัยละอ่อนในเรื่องนี้เป็นใคร ถามไถ่กันเข้ามามากๆ เลยสนองตอบแฟนๆ ด้วยการคว้าหนุ่มหน้าใสกิ๊ก "โอ้" มาริโอ้ เมาเร่อ มาพูดคุย 

                        

      มาริโอ้ เมาเร่อ มาริโอ้ เมาเร่อ

      มาริโอ้ เมาเร่อมาริโอ้ เมาเร่อ

         



              

                                                    
      ชื่อน่ารักจัง ใครตั้งให้?

               
      มาริโอ้ :
      ขอบคุณครับ พ่อเป็นคนตั้งชื่อให้ ชื่อนี้ไม่มีความหมาย โอ้เคยถามเหมือนกัน แต่พ่อบอกว่าเขาเปิดหนังสือตั้งชื่อแล้ว ชอบชื่อนี้ มันออกแนวอิตาเลี่ยนดี โอ้เองก็ชอบชื่อนี้มาก ทุกวันนี้จะโดนเพื่อนล้อ เพราะชื่อเรามันไปพ้องกับชื่อเกมมาริโอ้

      มีชื่อไทยมั้ย? 

               
      มาริโอ้ :
      มีครับ ชื่อ "ณัฐวุฒิ"(หัวเราะ) เพราะมั้ยครับ มีชื่อไทยแต่ไม่เคยได้ใช้ คุณแม่ตั้งให้เนื่องจากว่าตอนโอ้เด็กๆ จะเข้าร.ร.เซนต์ดอมินิก สมัยก่อนถ้าเป็นชื่อฝรั่งทางร.ร.จะไม่ค่อยรับ แล้วพี่ชายโอ้ชื่อ "มาร์โค" ก็เปลี่ยนเป็น "ณัฐพล" ร.ร.ก็รับ โอ้เลยเป็น "ณัฐวุฒิ" ที่ขำคือพอเข้าไปเรียนก็ไม่เห็นว่าใครจะแอนตี้ฝรั่ง สรุปคือเพื่อนก็เรียก "มาริโอ้" นอกจากเพื่อนสนิทจริงๆ ถึงรู้ว่ามีชื่อ "ณัฐวุฒิ" แล้วพวกมันก็จะล้อกัน"

      พื้นเพโอ้เกิดที่ไหน? 

               
      มาริโอ้ :
      โอ้เกิดและโตที่เมืองไทยครับ โอ้เป็นลูกครึ่งไทย-จีน-เยอรมัน คุณพ่อเป็นเยอรมัน คุณแม่เป็นไทย-จีน คุณพ่อเปิดโรงงานทำสารส้มส่งออกอยู่ที่จ.นครนายก คุณแม่เป็นนักธุรกิจหญิงที่ช่วยคุณพ่อ ครอบครัวโอ้ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องเงิน ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนถือว่าดีขึ้น เลยเป็นจุดนึงที่ทำให้โอ้ต้องทำงานและเรียนไปด้วยตั้งแต่อายุ 16 

                ถือว่าโชคดีนะที่ตอนนั้นเดินอยู่สยาม มีโมเดลลิ่งมาติดต่อก็เลยได้งานถ่ายโฆษณา ซึ่งจริงๆ แล้วโอ้เป็นคนขี้อาย แต่พอเห็นตรงนี้เป็นโอกาสก็อยากคว้าไว้ เป็นโอกาสที่ดีและหาเงินไปช่วยที่บ้านด้วย โอ้เริ่มจากงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่ายมิวสิคฯ แล้วก็มาเล่นหนัง ทุกอย่างมันท้าทายตัวเอง ตอนได้รับเงินก้อนแรกดีใจมาก โชคดีที่โฆษณาชิ้นแรกได้เล่นเป็นตัวหลักก็ได้เงินมา 7 หมื่น ดีใจมาก เอาเงินให้แม่หมดเลย

      ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไร? 

               
      มาริโอ้ :
      โอ้ถูกเลี้ยงดูมาแบบฝรั่งและไทย ตั้งแต่เกิดมาโอ้ไม่เคยได้ไปไหนเลย อยู่แต่เมืองไทย เชื่อมั้ยว่าลูกครึ่งอย่างโอ้เคยขึ้นเครื่องบินแค่ครั้งเดียวตอนไปเที่ยวกระบี่ (หัวเราะ) พ่อแม่จะตามใจเป็นบางเรื่อง อะไรที่นอกกรอบไปคุณแม่ก็ดุ 

                ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเล็กจะโดนหวงมากหน่อย โอ้ไม่ใช่คนซนมากแต่จะดื้อเงียบ โอ้จะคุยกับพ่อเป็นภาษาอังกฤษ นานๆ จะเจอพ่อที เพราะพ่ออยู่นครนายก พอเจอกันก็คุยเยอะแยะไปหมด ด้วยความที่เราชอบธรรมชาติเหมือนกันก็คุยกันได้ลื่นไหล ส่วนแม่นี่โอ้จะถามเรื่องการทำงานของเค้า

      มาริโอ้ เมาเร่อ 

      มาริโอ้ เมาเร่อ

        
      มาเป็นส่วนหนึ่งของ "รักแห่งสยาม" ได้ยังไง? 

                มาริโอ้ : พี่ที่โมเดลลิ่งพาไปแคสติ้ง จากนั้นพี่มะเดี่ยว (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) ผกก.ก็เรียกตัวไป โอ้ก็เล่นให้เขาดู ตอนนั้นไม่คิดว่าตัวเองจะได้ ลึกๆ โอ้เป็นคนขี้เกียจ มีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่กับเพื่อนสนิท แต่พอได้มาเล่นหนังก็คิดมากเลย ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงตามมาทันที เดินไปไหนเหมือนมีอะไรมาแบกไว้ แต่โชคดีที่หนังเรื่องนี้ทีมงานมืออาชีพมาก ช่วยโอ้ได้เยอะ ตอนแรกกลัวมากว่าจะไปทำงานเขาเสีย"

      พอได้มาแสดงหนังแล้วชอบการแสดงหรือเปล่า? 

                มาริโอ้ : ชอบครับ ที่บ้านให้การสนับสนุนด้วย เขาอยากเห็นโอ้ถ่ายหนัง ที่บ้านเห่อกันทุกคน ตัวโอ้เองยังเห่อเลย มีรูปตัวเองลงหนังสือเล่มไหนซื้อเก็บหมดเลย (หัวเราะ) เมื่อก่อนเราเห็นแต่คนอื่นลงปก แต่เดี๋ยวนี้นั่งแท็กซี่แล้วเห็นหน้าตัวเองติดตามรถไฟฟ้าก็มีเขินๆ นะ เพื่อนในกลุ่มก็จะโทร.มาแซวว่าไปไหนเจอแต่หน้าแกว่ะ

      คิดว่าตัวเองหล่อมั้ย? 

                มาริโอ้ : เอาจริงๆ นะ คิดว่าตัวเองหน้าตาเฉยๆ แถมตอนเด็กหน้าตาตลกออกไปทางขี้เหร่ ตัวผอม หัวลีบเป็นถั่วเพราะตัดผมสกินเฮดแถมใส่แว่นอีกต่างหาก ตอนอยู่ที่ร.ร.ก็มีคนรู้จักเยอะนะ แต่ไม่ใช่ว่ารู้จักเพราะหน้าตาดี แต่จะรู้จักเพราะชื่อแปลก

      เสน่ห์ของมาริโอ้อยู่ตรงไหน? 

                มาริโอ้ : พี่มะเดี่ยวบอกว่าที่โอ้ได้มาเล่นหนัง "รักแห่งสยาม" เพราะเขาเหมือนเห็นอะไรในแววตาโอ้ ตาเด็กคนนี้เล่าเรื่องอะไรได้สื่ออารมณ์ทางแววตาได้ดี ซึ่งตรงกับโอ้เลยเพราะโอ้ชอบตาตัวเองมาก บางทีก็นั่งดูตาตัวเองในกระจกว่าตาตัวเองแปลกดีเหมือนใส่คอนแท็กต์เลนส์เลยแต่ไม่ได้ใส่

      ถ้าจะแนะนำคนที่ชื่อ "มาริโอ้" ให้คนอื่นได้รู้จัก? 

                มาริโอ้ : โอ้เป็นคนพูดน้อยแต่ต่อยหนักนะครับ(หัวเราะ) บางทีพูดอะไรออกมาคนฟังก็อึ้งไปเหมือนกัน นิสัยโอ้เป็นคนที่ถ้าไม่สนิทด้วยจะไม่ค่อยคุยเท่าไร แต่ถ้าสนิทนะคุยไม่หยุดเลย เป็นคนคิดเยอะคิดไกลกว่าคนวัยเดียวคิดกัน อาจเพราะโอ้โตมาแบบที่ไม่ได้สบายมากนักบางอย่างก็สอนให้เราต้องคิดมากหน่อย

      มาริโอ้ เมาเร่อ

      มาริโอ้ เมาเร่อ


      คิดยังไงกับวงการ? 

                มาริโอ้ : โอ้เข้าวงการไม่ใช่เพราะอยากเท่ สำหรับโอ้นักแสดงก็คืออาชีพหนึ่งในสังคม จริงอยู่ว่างานนี้อาจจะได้เงินเยอะแต่เราก็ต้องเหนื่อยและยอมแลกกับอะไรหลายอย่าง เงินก็เป็นส่วนหนึ่ง เป็นรางวัลจากการทำงาน โอ้คิดอย่างเดียวว่าโอกาสแบบนี้ไม่ได้มาง่ายๆ วันนี้ถ้าเราปฏิเสธไปอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกเลยก็ได้ ตอนนั้นโอ้ก็ไม่ได้คิดว่าจะยึดทางนี้ เพราะโอ้ชอบช่วยพ่อทำงานมากกว่า ชอบไปนั่งฟังพ่อพูดเกี่ยวกับงานของพ่อ สนุกกว่าเยอะเลย เพราะโอ้อยากทำตามพ่อ แต่ตอนนี้เริ่มสนุกกับการทำงานในวงการแล้ว ได้เจออะไรใหม่ๆ ทุกวัน"

      เตรียมรับกับความไม่เป็นส่วนตัวบ้างหรือยัง? 

                มาริโอ้ : ก็พยายามเป็นตัวเองให้มากที่สุด ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องคิดว่าเราดังแล้ว สำหรับโอ้คิดว่ายิ่งเป็นที่รู้จักเรายิ่งต้องถ่อมตัว อย่าไปคิดว่าเรายิ่งใหญ่มาจากไหน เรามาจากเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก เพียงแต่วันนี้เรามีโอกาสที่ดีเท่านั้นเอง

      คนมักพูดว่าพอ "ดัง" แล้วจะเปลี่ยนไป คิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างนั้นมั้ย? 

                มาริโอ้ : โอ้ไม่มีทางเปลี่ยน โอ้ว่าคนที่ดังแล้วเปลี่ยนไปเขาน่าสงสารเหมือนกันนะ คือเขาคงต้องปรับตัวว่าเขาดังแล้วจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ดีมั้ย แต่ถ้าเราเป็นตัวเองมากที่สุดแล้วคนมาชอบเราที่เป็นแบบนี้ก็จะดีที่สุดครับ

      รู้สึกยังไงที่บอกว่าเด็กรุ่นใหม่เข้าวงการง่าย แล้วก็ออกจากวงการง่ายเหมือนกัน? 

               มาริโอ้ : มันอยู่ที่คน ถ้าคนนั้นหลงแสงสีและคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นเหนือกว่าคนอื่น แบบนั้นก็ไปเร็ว แต่ถ้าเขารู้จักคิด รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ รู้จักถ่อมตัว เขาก็จะอยู่ได้ไปอีกนาน เพราะเดี๋ยวนี้ก็จะมีคนที่เข้ามาเพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องเงินอย่างเดียว อย่างนี้ไปเร็วเพราะเขาเห็นเงินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จริงอยู่ว่าเราทำงานก็อยากได้เงิน แต่เงินมันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ถ้ามาทำงานแล้วไม่คำนึงถึงคุณภาพเลย คนดูเขารู้สึกได้และสุดท้ายก็เป็นผลเสียกับตัวเราเอง

      วางตัวเองบนเส้นทางบันเทิงยังไงบ้าง? 

                มาริโอ้ : ถ้ามีงานหนังเข้ามาอีกโอ้ก็อยากทำ แต่ตอนนี้อยากพักมากครับ(หัวเราะ) อยากไปอยู่กับพ่อบ้าง เพราะรู้สึกว่าตัวเองช่วงนี้ทำงานเยอะแล้วเหมือนกัน

      ต้นแบบของมาริโอ้คือใคร?  

                มาริโอ้ : พ่อ แม่ และพี่ชายครับ(ตอบฉะฉานมาก) อย่างแม่โอ้เห็นเขาทำงานหนักมาตั้งแต่โอ้เป็นเด็กแล้ว ส่วนพ่อเป็นคนใจเย็นและน่ารัก สอนโอ้เยอะมาก เป็นคนที่โอ้คุยกับเขาแล้วสนุกที่สุด เวลาฟังเรื่องราวชีวิตพ่อ โอ้จะรู้สึกว่าเกิดมาเป็นลูกของพ่อคนนี้ดีใจมากเลย ส่วนพี่ชายโอ้เป็นคนที่ช่วยโอ้ทุกอย่าง ตอนเด็กเวลาโอ้มีเรื่องแถวบ้าน พี่ชายก็จะมาปกป้องโอ้ตลอด โอ้รักครอบครัวมากๆ และอ่อนไหวมากกับครอบครัว

      นิยามการทำงานของมาริโอ้คืออะไร? 

                มาริโอ้ : ต้องตรงต่อเวลาครับ รู้ว่าเวลาไหนเราควรทำอะไร

      หล่ออย่างนี้ จะเหลือเหรอที่จะไม่มีแฟน? 

                มาริโอ้ : ไม่เรียกว่าแฟน เพราะโอ้ยังเด็กอยู่ โอ้ยังไม่ได้คิดมากว่าจะต้องเป็นแฟนหรือว่าอะไร แต่ยอมรับว่ามีผู้หญิงที่สนิท เป็นคนที่โอ้รู้จักมาตั้งแต่เด็ก เขาก็รู้ว่าเขาเป็นคนสนิทของโอ้ ที่บ้านโอ้และบ้านเขาก็ทราบว่าสนิทกัน แต่เขาไม่ได้อะไรมาก เพราะรู้ว่าโอ้ยังเด็กอยู่ ยังไม่คิดอะไรกับเรื่องนี้ คือในช่วงวัยรุ่นโอ้เข้าใจว่าบางคนอาจจะเตลิดไปกับเรื่องความรัก แต่โอ้ว่าตัวเราเองต้องรู้ขอบเขต อย่าไปทุ่มเทกับความรักมากเกิน มันจะเสียเวลาไปเปล่าๆ

      มาริโอ้ เมาเร่อ



      มาริโอ้ เมาเร่อ


      เข้าวงการมาแบบนี้ แน่ล่ะว่าต้องมีสาวๆ มากรี๊ด ว่าแต่สาวคนสนิทเขามีอาการหึงบ้างมั้ย? 

               มาริโอ้ :  ไม่มีนะ เขาเข้าใจว่าโอ้ทำงานแบบนี้ก็ต้องมีคนชื่นชอบผลงานเราและเข้ามาแสดงความยินดีกับเรา เขาไม่คิดมากเรื่องพวกนี้ครับ"

      ประทับใจเขาตรงไหน?  

                มาริโอ้ : เขาเป็นคนดี ช่วยเหลือโอ้มาตลอดเลย

      เวลามีความรัก "มาริโอ้" เป็นยังไง ติดแฟนมั้ย? 

                มาริโอ้ : ไม่ติดแฟนนะ ยิ่งตอนนี้โอ้ทำงานทั้งวันด้วยเวลาจะได้เจอยังแทบไม่มีเลย ว่างๆ ก็โทร.คุยกัน คุยทุกอย่างที่เราเจอมาในวันๆ นึง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

      "มาริโอ้" มีสเป๊กหรือเปล่า? 

                มาริโอ้ : สเป๊กแบบเป๊ะๆ เลยไม่มี คร่าวๆ ก็ชอบคนนิสัยดี เป็นคนดี และน่ารัก คนที่สนิทอยู่ก็มีบ้างที่ใช่ เขาน่ารักครับ

      ความรักของ "มาริโอ้" คืออะไร? 

                มาริโอ้ : คือการเข้าใจกัน ไว้ใจกัน แค่นี้พอแล้วครับ

                ผ่านงานโฆษณา ถ่ายมิวสิควิดีโอ มาหลายต่อหลายเรื่อง แต่ผลงานที่หนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ" เลือกให้เป็นชิ้นโบแดง คือผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก "รักแห่งสยาม" 

                โดยหนุ่มโอ้ขยายความว่า
      "รักแห่งสยาม เป็นหนังเรื่องแรกของโอ้ด้วย แล้วพี่มะเดี่ยว(ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) เก่งมาก อายุยังน้อยอยู่เลยแต่การทำงานมืออาชีพมาก โอ้ไว้ใจว่าเขาจะไม่พาโอ้ไปในทางที่แย่ แล้วเรื่องนี้โอ้ได้ร่วมงานกับนักแสดงมืออาชีพอย่างพี่กบ(ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี), พี่นก(สินจัย เปล่งพานิช) และพี่พลอย(เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) 

                ตอนแรกกดดันมาก ตอนแรกที่รู้ว่าพี่กบเล่นเป็นพ่อโอ้ก็ตกใจ เพราะดูละครพี่เขาตั้งแต่ตอน "3 หนุ่ม 3 มุม" พอมาเจอตัวจริงก็น่ารักมาก พี่นกก็เหมือนกันเวลาอยู่ในกองเหมือนแม่คนนึงเลย ส่วนพี่พลอยเล่นเป็นพี่สาว แรกๆ โอ้ก็เขิน แต่พี่พลอยก็สอนอะไรเยอะ ไม่ได้ถือตัวเลย โอ้พอใจกับหนังเรื่องแรกมาก อยากให้มาดูกันเยอะๆ" 





                               มาริโอ้ เมาเร่อ

        ผ่านตาจากโฆษณา และถ่ายแบบมาหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่านายแบบหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ แทบจะไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไร กระทั่งจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง "รักแห่งสยาม" เข้าฉาย ทำให้ชื่อเสียงของหนุ่มมาริโอ้โด่งดัง แม้ว่าบางกระแสจะถูกวิจารณ์ในฉากเลิฟซีนอันแสนจะวาบหวิว แต่ทั้งนี้ก็ถือว่าฝีมือในการแสดงครั้งแรกของเขาสอบผ่านเลยทีเดียว

      เรื่องงานแสดงครั้งแรก เริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงได้อย่างไร

                มาริโอ้ : โอ้ไปเดินสยาม แล้วไปเจอพี่โมเดลลิ่ง ก็เลยได้ลองถ่ายแบบดูบ้าง หลังจากนั้นก็มาถ่ายโฆษณาหลายๆ ชิ้น อย่าง โฆษณาเอ็กซิท โรลออน ขนมแจ็ค พิชซ่า และยังได้ถ่ายแบบอยู่เรื่อยๆ อย่าง "เธอกับฉัน" และหนังสือวัยรุ่นอีกหลายเล่ม การที่โอ้ได้มาอยู่ตรงนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เวลา ต้องขยันทำงาน แต่ละที่มันไม่ใช่ใกล้ๆ แต่นั่นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์สำหรับเรา

      กระแสตอบรับจากหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" เป็นอย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : ก็ดี มีคนทั้งชอบและไม่ชอบ ในส่วนที่ชอบ เขาก็จะบอกว่าเล่นดี แสดงแววตาได้ดี โอ้ก็ดีใจนะ ส่วนคนที่ไม่ชอบก็อาจจะเป็นเพราะฉากที่ต้องจูบกัน เขาบอกว่ารับไม่ได้ ถามว่ารู้สึกยังไง ที่คนไม่ชอบเรา คือโอ้เฉยๆ เพราะมันต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ อยู่ที่ว่าคนจะใจกว้างหรือเปล่า

      บางคนไม่ชอบเรา รู้สึกท้อหรือเปล่า

                มาริโอ้ : ไม่ท้อ...เพราะเราทำทุกอย่างให้เต็มที่ อีกอย่างฉากนั้น มันก็คืองาน โอ้เป็นนักแสดงก็ต้องทำหน้าที่นักแสดงให้เต็มที่

      หลังจากที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะหรือเปล่า

                มาริโอ้ : พอมีคนรู้จักผลงานของเรา ชีวิตก็เปลี่ยนไปบ้าง เวลาส่วนตัวไม่ค่อยมี เพราะต้องออกมาทำงาน หรือเวลาเดินไปห้างก็มีคนเข้ามาทัก ขอถ่ายรูปบ้าง ถามว่ารู้สึกแปลกๆ มั้ย โอ้ไม่แปลกใจ แต่กลับดีใจมากกว่า ที่เราทำงานไปแล้วมีคนชอบผลงานของเรา โอ้ไม่ได้รู้สึกอึดอัดที่มีคนเข้ามาหา แต่กลับรู้สึกดีที่เขาชอบผลงานเรามากกว่า

      คนส่วนใหญ่อาจจะชอบมาริโอ้เพราะหน้าตาที่หล่อ ในขณะที่มองข้ามเรื่องผลงาน รู้สึกอย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : มันก็มีส่วน คนเรามองกันที่หน้าตาอยู่แล้ว แต่โอ้ก็อยากให้คนมองที่ผลงานมากกว่า ส่วนเรื่องหน้าตาอยากให้มองเป็นเรื่ององค์ประกอบ

      ตั้งรับกับชื่อเสียงตรงนี้อย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : ก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เป็นตัวของตัวเอง แล้วก็ไม่ลืมตัว โอ้คิดไว้ตั้งแต่แรก และตั้งปณิธานไว้แล้ว ว่าเราจะไม่ลืมตัว คือพ่อกับแม่บอกว่าตรงนี้มันมีสิ่งยั่วยุเยอะ เราก็ต้องไม่ลืมที่มาว่าเรามาจากไหน โอ้ว่าชื่อเสียงโอ้ไม่ได้เป็นคนสร้างเอง คนอื่นสร้างให้เรา พี่ๆ ทีมงาน ผู้กำกับ โอ้ก็ป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเท่านั้นเอง จริงๆ ชื่อเสียงมันมาเร็ว โอ้ก็ต้องระวัง มาไวจนเราไม่ได้ตั้งตัว เราก็ต้องคอยดู เพราะเมื่อมันมาเร็วก็ไปเร็วได้เหมือนกัน

      มาริโอ้ กลัวตัวเองจะหลงระเริงไปกับตรงนี้หรือเปล่า

                มาริโอ้ : โอ้ว่าคนลืมตัวง่าย เพราะชื่อเสียงมันมาเร็ว ฉะนั้นเราต้องวางตัวดีๆ โอ้ว่าสิ่งเหล่านี้มันต้องมีอยู่แล้ว แต่โอ้ก็มีรุ่นพี่ที่เขาผ่านประสบการณ์มาเยอะ คอยแนะนำ บางคนอาจจะลืมตัว หลงระเริงไปกับแสง สี จนลืมตัวเอง คิดว่าตัวเองอยู่สูงกว่าคนอื่น ถ้าคิดแบบนี้มันก็ไม่ดีกับตัวเอง

      ชื่อเสียงเริ่มโด่งดัง ตอนนี้มีผลงานด้านอื่นติดต่อมาบ้างหรือเปล่า

                มาริโอ้ : งานที่เข้ามาก็มีหลายรูปแบบ อย่างช่วงนี้โอ้ต้องไปโปรโมทหนัง ในส่วนของงานละคร ก็มีติดต่อเข้ามาบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่คิดที่จะเล่นละคร เพราะยังไม่พร้อม อีกอย่างหนึ่งยังเรียนอยู่ปี 1 คณะมนุษยศาสตร์ สื่อสารมวลชน ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง โอ้อยากให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ถามว่าพอมาทำงานตรงนี้ กลัวเรื่องเกรดตกมั้ย โอ้ห่วงมาก ก็ต้องพยายามให้เพื่อนช่วยด้วย

      เสียดายโอกาสไหม เพราะโอกาสในการทำงานอาจจะไม่ได้มาง่ายๆ

                มาริโอ้ : โอ้ว่าการเรียนสำคัญ งานละครที่ติดต่อมา โอ้ก็ดีใจที่เขาอยากให้โอ้เล่น แต่คิดว่าโอ้ยังไม่พร้อมจริงๆ เล่นหนังเรื่อง "รักแห่งสยาม" ก็ถือว่ามันเป็นโอกาสแล้ว ตอนนั้นก็ถามพ่อกับแม่ว่าดีมั้ย เขาก็บอกว่าให้คว้าโอกาสตรงนี้ไว้ แต่สำหรับงานละคร โอ้ยังไม่เคยผ่านมาก่อน ใจก็อยากลองดู แต่ขอเวลาสัก 1 ปีแล้วกัน การมาทำงานตรงนี้มันก็เหนื่อย แต่พอมีคนชอบเรา ชื่นชอบผลงานเรา มันก็หายเหนื่อย ต้องยอมรับว่างานในวงการบันเทิงเป็นงานที่ดี เป็นงานที่มีเกียรติ พอได้มาทำ ทำให้เราได้อะไรเยอะ สอนทั้งในเรื่องการตรงต่อเวลา การเข้าหาผู้ใหญ่ การพูดจา

      เข้าวงการมาแป๊บเดียวก็มีแฟนคลับมากมายแล้ว

                มาริโอ้ : ดีใจมาก ที่เขาสร้างเว็บไซต์ให้ โอ้กับแฟนคลับมีโอกาสได้พูดคุยกันบ้าง เพราะบางคนจะไปตามงานที่เราไปตลอด ก็ดีใจนะที่มีแฟนคลับ

      ชีวิตครอบครัว วันพ่อปีนี้มีอะไรพิเศษไหม

                มาริโอ้ : โอ้ให้ความสำคัญกับวันนี้เหมือนกัน ถามว่าสนิทกับพ่อมั้ย โอ้กับพ่อสนิทกันมาก คุยกับพ่อทุกเรื่อง แต่โอ้ไม่ค่อยได้เจอกับพ่อเท่าไร เพราะเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด โอ้เลยอยู่กับแม่ซะส่วนใหญ่ แต่กับแม่ โอ้ก็ไม่ค่อยได้อยู่ เพราะช่วงนี้โอ้ต้องออกไปโปรโมทหนังบ่อย (หัวเราะ)

      มาริโอ้ถูกเลี้ยงมาแบบไหน

                มาริโอ้ : พ่อเขาก็เลี้ยงแบบตามใจเหมือนกัน โอ้ชอบอะไรก็ทำเลย ส่วนแม่ก็จะมีกรอบ สอนโอ้เยอะ แต่เขาก็เลี้ยงผสมกันระหว่างไทยกับฝรั่ง แต่ค่อนข้างมีความเป็นไทยสูง

      ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : ตอนเด็กๆ โอ้จะเป็นเด็กดื้อ แต่เป็นเด็กดื้อเงียบ แต่จะไม่เคยโดนตีเลย (หัวเราะ) อย่างพ่อกับแม่ไม่ให้เล่นพลุ เราก็จะแอบซื้อมาเยอะๆ แล้วเล่นทีเดียวเลย มันก็อาจจะมีบ้างที่ทำให้พ่อกับแม่เสียใจในบางเรื่อง อย่างวิชาคณิตศาสตร์ ที่ไม่อยากเรียน เราก็จะไม่ตั้งใจเรียน คือจะดื้ออย่างเดียว

      ข่าวค (ร) าวในวงการ อยู่วงการนี้ต้องเจอทั้งข่าวดีและไม่ดี ตั้งรับกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : โอ้ว่ามันก็เป็นเรื่องปกติ ดาราทุกคนก็ต้องมีข่าว เป็นเรื่องที่ขาดกันไม่ได้ เหมือนเป็นของคู่กัน

      ล่าสุดโดนโจมตีข่าวกับผู้กำกับ "มะเดี่ยว" ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล

                มาริโอ้ : โอ้ว่าข่าวนี้ไร้สาระมาก มั่วมาก มันไม่ใช่เรื่อง คือโอ้ไม่เสียความรู้สึกหรอก แต่วันที่โอ้ไปงาน มีนักข่าวมาถามโอ้เรื่องนี้ โอ้ว่ามันไม่ใช่คำถามที่น่าจะถามเลย ถามเรื่องหนังมันยังจะน่าฟังกว่า กับผู้กำกับไม่ใช่เลย เขาเป็นคนน่ารัก น่านับถือ ไม่น่าจะพูดกับเขาในทางไม่ดี หลังจากมีข่าว โอ้ก็คุยกับผู้กำกับ พี่เขาก็บอกว่าถ้าใครถาม ให้โอ้ตอบ ว่าขอถามเป็นเรื่องอื่นได้มั้ย โอ้ว่ามันมีอะไรที่น่าถามกว่านี้เยอะ

      แล้วเจอข่าวแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : คือเขาไม่ค่อยได้ติดตามข่าว เพราะเขาทำงาน โอ้เองก็ไม่คิดมาก เพราะมันก็แค่ข่าว นักแสดงกับข่าวมันเป็นของคู่กัน ซึ่งมันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้

      อย่างล่าสุดคนดูหนังก็อินกับการแสดงของมาริโอ้ ถึงขนาดคิดว่ามาริโอ้เป็นเหมือนในหนังจริงๆ

                มาริโอ้ : คงมีคนอินอยู่แล้ว แต่ถ้าใครที่ติดตามผลงานของโอ้จะรู้ว่าเราไม่ใช่ โอ้เป็นนักแสดง เมื่อผู้กำกับสั่งโอ้ก็เป็น "โต้ง" แต่พอผู้กำกับสั่งคัต โอ้ก็เป็นโอ้ จริงๆ มันก็มีคนเข้ามาถามเลย ว่าโอ้เป็นเกย์หรือเปล่าเนี่ย ถ้าคนรู้จักเรา จะรู้ว่าโอ้ไม่ใช่แน่นอน โอ้ชอบผู้หญิงแน่นอน

      ด้วยบทบาทในหนัง นอกจากสาวๆ แล้วมีหนุ่มๆ เข้ามาหาเยอะไหม

                มาริโอ้ : เกย์น่ะเหรอ...มีเพียบเลยนะ ส่วนใหญ่แฟนคลับโอ้เป็นเกย์เยอะเลย ถามว่ากลัวมั้ย ใจจริงก็กลัว แต่โอ้เข้าใจเขา เขาก็คงไม่อยากเป็น โอ้ว่าเขาก็น่าสงสารมากกว่า เพราะบางทีคนมองข้ามพวกเขา คิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี จริงๆ เขาทำอะไรให้ประเทศเยอะ ส่วนที่เข้ามาในลักษณะแปลกๆ ก็มี อย่างเวลาขอลายเซ็น เขาก็จะส่งตาหวาน จ้องเราตลอด (หัวเราะ) โอ้ก็พยายามทำเฉยๆ หันหน้าไปมองทางอื่นแทน จริงๆ แฟนคลับโอ้จะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

      อนาคตในวงการบันเทิง วางแผนอนาคตในวงการบันเทิงไว้อย่างไรบ้าง

                มาริโอ้ : โอ้ก็ทำงานให้เต็มที่ แต่ยังคงไม่ทิ้งการเรียน แล้วก็อยากร้องเพลงกับพี่ชายต่อไป เพราะโอ้กับพี่ชายมีอัลบั้มใต้ดินด้วยกัน กับค่ายเอ็นวายยู ที่เมื่อก่อนเขาทำให้กับดาจิม พี่ชายโอ้เขาแต่งเพลงเองหมดเลย โอ้เป็นคนร้องสวนกันไปสวนกันมากับพี่ชาย

      แสดงว่าสนใจงานเพลง แล้วแบบนี้จะมีโอกาสทำอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองหรือเปล่า

                มาริโอ้ : ชอบร้องเพลง แต่จะมีโอกาสทำอัลบั้มเดี่ยวหรือเปล่าเนี่ย ตอนนี้ก็ดูอยู่ ก็คงจะทำแนวอาร์ แอนด์ บี หรือฮิพฮอพ ก็คงจะให้พี่ชายช่วยด้วย

      เรื่องความรัก ล่าสุดมีภาพหลุดกับผู้หญิงออกมาด้วย คนนี้ใช่แฟนหรือเปล่า

                มาริโอ้ : ภาพหลุดมันก็เป็นเรื่องปกติ คนทั่วไปก็ต้องมีเพื่อนสนิท หรือมีคนที่รู้จัก กับคนนี้ก็เป็นคนที่โอ้รู้จักตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ใช่แฟน แหม...ยังเด็กอยู่ เรียนกับทำงานไปก่อนดีกว่า

      กลัวเปิดเผยเรื่องแฟนแล้วเรตติ้งตกหรือเปล่า

                มาริโอ้ : ไม่กลัวเรตติ้งตกเลย ไม่ได้คิดแบบนั้น พอเขาถูกไปลงข่าวด้วย โอ้ก็คุยกับเขา บอกเขาว่ามันแค่ข่าว ที่เขียนไปเรื่อย อย่าไปซีเรียส คิดเรื่องอื่นดีกว่า

      ยืนยันว่าตอนนี้ยังโสด

                             มาริโอ้ : ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย อย่างที่บอกว่า โอ้ยังเด็ก     
      เอ้า...สาวๆ หนุ่มๆ ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ เพราะตอนนี้หนุ่มมาริโอ้โสดสนิทจ้า...
       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×