ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความลับในหุบเขาหมอก

    ลำดับตอนที่ #7 : ++ เสียงเพลงในสายลม++ อัศวินคนใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 860
      1
      18 มิ.ย. 50

    6

    อัศวินคนใหม่


    "เอเธเนียลขอรับ ฝ่าบาท...มาสเตอร์โยชัวร์"

    ถึงเสียงจะยังเด็กจนแยกแยะไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่ผู้หญิงคงไม่ลงท้ายคำพูดว่า 'ขอรับ'

    อเล็กซิสย่นหัวคิ้วนิดหนึ่ง เขาจำได้ว่าแต่งตั้งนายทหารชื่อเอเธเนียลเป็นอัศวินไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่ก็ขยับยิ้มทักทายตามมารยาท

    "ลุกขึ้นเอเธเนียล งานของท่านเป็นยังไงบ้าง"

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองนามเอเธเนียลรีบลุกขึ้นตามคำบัญชา ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งมา เขาเพิ่งจะได้เข้าเฝ้าองค์ชายอเล็กซิสเป็นการส่วนตัวเป็นครั้งแรก เขาตื่นเต้นจนแทบจะระงับเสียงไม่ให้สั่นไม่ได้ ดวงตาสีฟ้าจัดจับจ้องไปยังใบหน้าของผู้บังคับบัญชาอย่างรอคอย แต่โยชัวร์ก็ยังยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ประมุขแห่งศาสนจักร ไม่มีที่ท่าว่าจะให้ความกระจ่างว่าเรียกเขามาเรื่องอะไร

    "ด้วยบารมีของฝ่าบาท ครูเซนสงบเรียบร้อย งานของกระหม่อมราบรื่นไร้ปัญหา"

    "ต้องขอบคุณในความเหนื่อยยากของท่าน"

    ใบไม้รอบวิหารเปลี่ยนเป็นสีแดงหมดแล้ว ตัดกับสีฟ้าสดของท้องฟ้าไร้เมฆหมอกและสีขาวของปราสาทราชวัง ทำให้บรรยากาศดูงดงามตามฤดูกาล

    ประมุขแห่งศาสนจักรให้สองอัศวินเข้าเฝ้าในอุทยานหลังวิหาร อุทยานแห่งนี้ตกแต่งด้วยไม้พุ่มตัดแต่งกิ่งและรูปปั้นหินอ่อนจำนวนมาก แซมสลับกับอ่างน้ำพุใหญ่น้อย ดูเป็นเรื่องราวให้จินตนาการได้ไม่รู้จบ

    ทั้งสามคนยืนยิ้มลมๆ แล้งๆ ให้แก่กันอยู่หลายอึดใจ สุดท้ายเจ้าของตาสีมรกตก็กระแอมออกมา องค์ชายผมสีเงินจึงได้โอกาสถาม

    "ท่านเอย์ระเอ่ยถึงอัศวินคนใหม่เขาหมายถึงท่านหรือเปล่า"

    อัศวินหน้าใหม่วัยเพียงสิบสามเลิกคิ้วอย่างงุนงง ส่วนโยชัวร์มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

    "ท่านเอย์ระ...ท่านขุนนางมาครูซที่เพิ่งรับตำแหน่งน่ะหรือขอรับ กระหม่อมยังไม่เคยพบเลย"

    บุรุษผู้สูงศักดิ์พยักหน้าช้าๆ แล้วหันไปทางคนข้างกาย อัศวินหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนเอ่ย

    "เด็กคนนั้นชื่อบาซัน กระหม่อมเพิ่งรับเข้าหน่วยไม่นาน ยังไม่ทันเข้าโรงเรียนทหารด้วยซ้ำ"

    "อย่างนั้นหรอกหรือ"

    "ท่านขุนนางมาครูซมาบอกท่านอย่างนั้นหรือ ช่างไวดีแท้กระหม่อม"

    "เขาบอกว่าท่านไปแย่งเขามา"

    โยชัวร์แค่นหัวเราะในลำคอ

    "ก็เรื่องอัศวินหญิงที่ฝ่าบาทเคยเปรยๆ ไว้ เด็กคนนั้นมาสมัครกับกระหม่อม แต่พอดีถูกขายให้ตระกูลมาครูซไปเสียก่อน"

    "ขาย? ดูเหมือนเอย์ระจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่"

    หมอนั่นก็ไม่เคยพอใจอะไรในครูเซนอยู่แล้ว...โยชัวร์นึกแย้งในใจ สีหน้าที่เหมือนจะยิ้มเยาะคนทั้งโลกนั่นก็ทำให้เขาแทบทนไม่ได้ อยากจะท้าดวลให้รู้แล้วรู้รอด ทั้งหยิ่งทระนงถือดี ทั้งปากคอเราะร้าย และที่ร้ายแรงที่สุด เด็กเมื่อวานซืนคนนั้นดูจะไร้ความเคารพต่อศาสนจักรที่เขาจงรักภักดี

    "คืนให้เขาไปก็ได้นี่"

    เจ้าของดวงตาสีมรกตเม้มปากแน่น...ให้ใครก็ให้ได้ แต่ต้องไม่ใช่หมอนั่น

    "ตระกูลมาครูซคงจะไม่สนใจเด็กผู้หญิงคนเดียวหรอกกระหม่อม"

    "โยชัวร์ ทำอะไรก็เห็นแก่ท่านอากะบ้าง อย่าให้เขามาตำหนิเราได้"

    "หากมีการร้องขอ กระหม่อมก็จะคืนให้ขอรับ"

    องค์ชายอเล็กซิสส่ายหน้ากับความดื้อดึงของอัศวินหนุ่ม ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ

    "เอเธเนียล"

    "ขอรับ"

    "นี่คือยาบำรุงร่างกายที่เราปรุงเอง ถือซะว่าตอบแทนที่ทำให้ท่านเสียเวลา"

    กล้องไม้ใบย่อมถูกยื่นมาตรงหน้า เด็กหนุ่มรับไปอย่างงงๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าองค์ชายคงจะมีพระประสงค์จะสนทนากับผู้บังคับบัญชาของเขาตามลำพังแล้ว จึงรีบทำความเคารพแล้วถอยออกไป

    "ขอบพระทัยฝ่าบาท กระหม่อมทูลลา"


    เอเธเนียลเดินงงออกมาจากอุทยานหลังอาคารสีขาวโอ่อ่า

    องค์ชายเรียกเขาไปทำไม?

    ยังไม่ทันตั้งข้อสันนิษฐาน เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ตามมาก็ทำให้เขาต้องหันไปมอง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายวิ่งตามเขาออกมาติดๆ

    "เดี๋ยวกลับไปพร้อมกับข้า ฝากดูแลเด็กใหม่คน"

    "ขอรับ"

    เด็กหนุ่มขานรับแข็งขัน เขาเป็นน้องสุดท้องของหน่วยอัศวินศักดิ์สิทธิ์มาตลอดสามเดือน โดนสั่งสอนด้วยความเอ็นดูอยู่ทุกวัน คราวนี้ จะมีคนให้เขาสั่งสอนบ้าง

    แต่ก็ไม่แน่...

    เอเธเนียลได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ เขาเรียนข้ามชั้นตั้งแต่เด็กจนจบจากโรงเรียนทหารด้วยคะแนนสูงเป็นประวัติการ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของครูเซน

    "เขาอายุเท่าไหร่ครับ" เด็กหนุ่มถามเพื่อความแน่ใจ

    "คิดว่าสักสิบสี่สิบห้า ต้องไปดูประวัติอีกที มาจากบ้านป่าเมืองเถื่อนเชียวล่ะ เจ้าคงต้องเหนื่อยหน่อย"

    คิ้วเข้มของเด็กหนุ่มเลิกสูง จะสิบสี่หรือสิบห้าก็มากกว่าเขาอยู่ดี ถึงจะเป็นรุ่นพี่แต่ก็คงเบ่งไม่ถนัด แถมยังเป็นพวกบ้านนอก

    ตระกูลของเอเธเนียลเป็นขุนนางมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่ได้เป็นถึงระดับสมาชิกสภาสูงแห่งครูเซนก็หลายคน ทำให้มีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ที่เขามาเป็นอัศวินนี่ก็ได้รับการคัดค้านจากทางบ้านพอสมควร แต่ท่านปู่ของเขาบอกทุกคนในบ้านว่า

    "เอเธเนียลเป็นเด็กที่ได้รับพรจากครูซ จะทำอะไรก็ได้ดีทั้งนั้นแหละ"

    เขาแทบจะกระโดดกอดท่านปู่ แต่ก็ต้องรักษามาดคุณชายน้อยเอาไว้

    "ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่โปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง"

    แล้วนี่เขาจะต้องไปดูแลทหารใหม่จากบ้านนอก คงจะเป็นพวกตัวใหญ่ล่ำดำถึก ซื่อๆ เซ่อๆ ไม่ก็พวกฉลาดแต่เอาเปรียบคนต่างถิ่นเหมือนพวกคนภูเขา


    สองอัศวินกลับมาถึงตึกบัญชาการของกรมทหารเมื่อตะวันตกดินพอดี โยชัวร์ถามหาทหารใหม่ที่เขาพามาด้วยทันที

    "ท่านนายพลอามาสพาไปรับน้องแล้วขอรับ"

    คำตอบที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มถึงกับกุมขมับ พึมพำกับตัวเอง

    "หมอนั่นทำไปได้ไง"

    คนรายงานได้แต่ยิ้มแหยๆ เอเธเนียลมองท่าทางของผู้บังคับบัญชาและนายทหารเวรอย่างไม่เข้าใจ

    แปลกใจอะไรกัน ตอนเขาเข้ามาก็มีรับน้อง ท่านโยชัวร์เองนั่นแหละที่มอมเหล้าเขาเสียปางตาย

    "ร้านเดิมหรือเปล่า"

    "คิดว่าไม่ใช่ขอรับ ถ้าเป็นท่านนายพล ข้าคิดว่า..."

    โยชัวร์ถอนหายใจเฮือก ไหล่หนาลู่ลงเหมือนคนหมดเรี่ยวหมดแรง

    "ข้ารู้แล้วว่าร้านไหน"

    "เพิ่งออกไปกันก่อนท่านมาแป๊บเดียวขอรับ"

    อัศวินหนุ่มตวัดผ้าคลุมไหล่ที่เพิ่งถอดออกใส่กลับเข้าไปใหม่ ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นม้า

    "จำเป็นต้องตามไปด้วยหรือขอรับมาสเตอร์"

    เขาหันขวับกลับมาจิ้มนิ้วลงบนหน้าผากของเด็กหนุ่ม

    "ไม่ต้องตามมา กลับไปอาบน้ำนอนซะเจ้าหนู"

    คิ้วสีน้ำตาลทองเลิกขึ้นอย่างไม่พอใจ เด็กหนุ่มเดินนำหน้าผู้บังคับบัญชาไปขึ้นม้า

    "ข้าโตแล้วนะขอรับ เด็กใหม่ไปได้ทำไมข้าจะไปไม่ได้"

    "ก็ตามใจ ถือว่าข้าเตือนแล้ว มีอะไรอย่ามาบ่นก็แล้วกัน"

    โยชัวร์ตวัดกายขึ้นหลังม้า แล้วควบเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงของครูเซนที่เริ่มสว่างไสวไปด้วยแสงไฟแห่งราตรี



    "ดื่ม"

    เมื่อหนุ่มใหญ่ใบหน้าคมคายมีหนวดหรอมแหรมสั่งให้ดื่ม เด็กสาวก็กรอกเหล้าในถ้วยแก้วใบย่อมลงคอรวดเดียวหมดถ้วย

    คนสั่งให้ดื่มหันไปพยักพเยิดกับเสนาธิการหนุ่มแว่นร่างผอมสูง

    "สิบสี่แก้วแล้ว ดูซิว่าจะยอมเปิดปากไหม"

    ร่างอวบอัดที่นั่งอยู่บนตักรั้งใบหน้าคมคายให้หันกลับมาทางตน พลางตัดพ้ออย่างมีจริต

    "มีข้าอยู่ตรงหน้ายังหันไปซุบซิบกับท่านคาร์ล วีวี่งอนแล้วนะคะ"

    "โธ่วีวี่ ข้าก็มีเรื่องลับๆ ตามประสาผู้ชายมั่งซี่"

    ชายหนุ่มเอาคางสากๆ ของตนไปถูไถกับลำคอขาว ร่างบนตักจึงหัวเราะคิก

    คาร์ลเอาแว่นที่ขึ้นฝ้ามัวออกมาเช็ด ก่อนจะใส่กลับเข้าไปใหม่ คราวนี้เขาเห็นภาพเหตุการณ์ในห้องได้ชัดขึ้นมาก ท่านนายพลอามาสผู้บังคับบัญชาของเขานั่งอยู่ฟากหนึ่งของโต๊ะกลมใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง อีกฟากหนึ่งเป็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนที่แม้จะไม่ปริปากพูด แต่ก็ทำตามที่สั่ง

    เขากับท่านนายพลเจอหล่อนเดินเตร็ดเตร่อยู่ในกรม พอซักถามพวกทหารที่เพิ่งกลับมาจากหุบเขาหมอกก็ได้ความว่า เป็นว่าที่อัศวินหญิงคนใหม่ของโยชัวร์

    "หญิงของโยชัวร์เรอะ" นายพลหน้าเข้มเอ่ยพลางลูบคางไปด้วย

    "อัศวินหญิงขอรับ" เขาแก้ให้ เพราะนึกสงสารคนที่ตกเป็นเป้า เกรงคนที่มาได้ยินจะคิดเป็นอื่น

    "จะมีอัศวินหญิงไปทำไมก็ไม่รู้ พวกผู้หญิงดีแต่พูดมากน่ารำคาญ"

    ชายหนุ่มขยับแว่นเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองเจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำที่ท่อนบนใส่แต่ผ้าคลุมไม่ยอมใส่เครื่องแบบ โชว์แผงอกรกขน

    ท่านนี่แหละ...ที่พิสมัยพวกดีแต่พูดมากน่ารำคาญที่สุด

    "ไปขู่ให้กลัวดีกว่า จะได้แจ้นกลับบ้านกลับช่องไปซะ"

    บ่นเสร็จก็เดินดุ่มๆ ไปหาเด็กสาวทันที

    "เฮ้ยแม่หญิง เจ้าน่ะ..."

    เมื่อหล่อนหันขวับมา นายพลคนกล้าก็อ้าปากค้าง

    หล่อนมีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสวยหวาน ผิวขาวเนียนละเอียด ริมฝีปากแดงระเรื่อจิ้มลิ้ม รูปร่างเพรียวลมอ้อนแอ้นอรชร แม้จะสวมใส่อาภรณ์แบบชาวป่า แต่ก็ยังเปล่งประกายความงามออกมาชัด ดวงตาคู่งามจับจ้องพวกเขาทั้งสองไม่วางตา

    "เอ้อ..." นายพลอามาสเกาศีรษะแกรกๆ แก้มกร้านเริ่มขึ้นสีระเรื่อ "มาใหม่เหรอน้อง"

    หล่อนพยักหน้า

    "อยู่หน่วยของเจ้าโยชัวร์หรือ" ชายหนุ่มผู้สวมแว่นเอ่ยถาม

    หล่อนนิ่ง ท่านนายพลก็นิ่งด้วย เสธ.อย่างเขาจึงพยายามสร้างบรรยากาศที่ดี

    "รู้จักใครบ้างหรือยัง เดินดูรอบๆ นี้กับพวกข้าไหม"

    "เฮ้ คาร์ล" ชายร่างใหญ่ทำท่าลังเลใจ

    "ยังไงพวกเราก็ว่างอยู่ไม่ใช่หรือขอรับ"

    "จะดีเหรอ เดี๋ยวใครเขาจะหาว่าฉันจีบเด็ก อืม...ที่จริงก็ดีนะ ไม่คิดมากใช่ไหมน้องหนู"

    ก็อย่าไปแทะโลมเขาสิโว้ย

    ในใจจะคิดอย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเสธ.หนุ่มก็ยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม

    "มีข้าไปด้วย คงไม่มีใครครหาหรอกขอรับ"

    เมื่อมีคนรับรอง มือใหญ่ก็โอบไหล่บางหมับ แล้วพาเดินชมกรมทหารท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ของนายทหารที่เข้าเวรอยู่ตามจุดต่างๆ ทำเอาเขาแว่นขึ้นฝ้าเพราะพยายามระงับอารมณ์

    "ตึกบัญชาการก็ไอ้ตึกขาวๆ นี่ หอพักนายทหารอยู่ตรงนี้ ส่วนหอพักของอัศวินจะอยู่ค่อนไปทางสนามฝึกม้า"

    หนุ่มใหญ่แกล้งก้มลงกระซิบข้างหู แล้วแอบสูดดมกลิ่นเนื้อสาวจนรูจมูกบาน มือที่โอบไหล่ก็ค่อยๆ เลื่อนลงสู่บั้นท้ายและสะโพก

    คาร์ลเห็นพฤติกรรมของผู้บังคับบัญชาแล้วก็อับอายขายขี้หน้าแทนในฐานะอัศวินผู้ทรงเกียรติแห่งครูเซน

    แต่เด็กสาวคนนี้ก็รักษาท่าทีได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าท่านนายพลจะเกี้ยวพาราสีทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างไร สีหน้าก็ไม่เปลี่ยนเลยสักนิดเดียว

    พวกเขาเดินไปโน่นมานี่จนตกค่ำ หญิงสาวก็ยังไม่ยอมพูดด้วยสักคำ ทำให้หนุ่มใหญ่เริ่มไม่พอใจ เขาฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปสั่งทหารเวรที่อยู่ใกล้ๆ

    "เตรียมม้า ข้าจะพาเด็กใหม่ไปรับน้อง"

    ยิ่งเด็กสาวขี่ม้าไม่เป็นก็ยิ่งเข้าทาง คนมีขนหน้าอกจับหล่อนนั่งซ้อนด้านหน้าเสียเลย ทำให้ดูเผินๆเหมือนร่างบอบบางจะจมหายเข้าไปในอ้อมอกกำยำ คาร์ลไม่กล้าดูว่าชายหนุ่มล่วงเกินอะไรหล่อนไปบ้าง

    ทั้งสามควบม้าเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงครูเซนที่มีชื่อเดียวกับประเทศ แสงไฟในยามราตรีสว่างไสวสวยงาม แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข สายลมเย็นๆ พาให้จิตใจที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันผ่อนคลายสดชื่น

    แต่พอท่านนายพลหยุดม้า จิตใจของเขาก็เหมือนถูกก้อนหินหนักอึ้งกระแทกใส่

    ที่หน้าประตูมีโคมแดงแกว่งไกว มาม่าซังทำตาโตเมื่อเห็นเขาทั้งสองพาเด็กผู้หญิงมาด้วย แต่ก็ต้อนรับขับสู้อย่างแข็งขัน บรรยากาศภายในร้านครึกครื้นแบบโลกีย์ๆ มีคนนุ่งน้อยห่มน้อยเต้นอยู่บนเวที เหล่าชายฉกรรจ์จำนวนมากดื่มเหล้ากันแต่หัววัน มีสาวๆ แต่งกายวับๆ แวมๆ คอยออดอ้อนออเซาะอยู่ข้างๆ

    "อยากดูโชว์ หรืออยากดื่มกันเอง" ท่านนายพลทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี

    "ดื่ม" คนตอบตอบสั้นยิ่งกว่าสั้น

    เขาเพิ่งรู้ว่าท่านนายพลเป็นขาประจำของที่นี่ถึงขั้นมีห้องส่วนตัวที่ชั้นสองของร้าน พวกเขาดื่มกันไม่หยุดตั้งแต่หัวค่ำ ระหว่างนั้นก็มีหลายสาวมาแวะเวียนทักทาย

    เขาเริ่มมึนจนทรงตัวแทบไม่อยู่ แต่ท่านอามาสคอทองแดงยังคงซดเหล้าราวกับน้ำ และคอยสั่งให้สาวๆ รินบริการ 'เด็กใหม่' โดยไม่เปิดโอกาสให้ถ้วยว่าง

    "อายุเท่าไหร่จ๊ะ"

    แก้มนวลใสเริ่มแดงระเรื่อ แต่หล่อนก็ยังนิ่งเงียบ

    "บอกพี่หน่อย ตอบดีเดี๋ยวมีรางวัลให้"

    พี่อะไรวะ อายุห่างคราวพ่อโน่น

    ทั้งเขาและสาวๆ บริการหันไปดูรางวัลที่คนพูดควักออกมา ทองคำแท่งขนาดเท่านิ้วก้อยหลายแท่งสุกปลั่งล้อแสงโคม วีวี่ถึงกับตาลุกวาว

    "ท่านนายพลสั่งวีวี่มั่งสิคะ วีวี่ก็ว่าง่ายน้า"

    หล่อนลากเสียงยานคาง พลางเบียดกายกระแซะเข้ากับแผงอกรกเรื้อ

    "ขึ้นห้องกันเลยไหมล่ะ แต่ขอจัดการเจ้าเด็กปากหนักนี่ก่อน"

    ดวงตาที่ตกแต่งอย่างงดงามของวีวี่ตวัดฉับไปยังเด็กปากหนัก แล้วยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากแดงระเรื่อของเด็กสาวดังจ๊วบ

    คาร์ลอ้าปากค้าง ส่วนท่านนายพลหัวเราะชอบใจใหญ่

    "ดูสิคาร์ล ไม่ร้องโวยวาย ไม่ตกใจสักนิดเลย ตอนเจ้าหนูเอเธเนียลยังร้องเหมือนโดนเชือด หรือว่าเด็กนี่จะเป็นตุ๊กตา"

    "ข้าไม่ทราบ"

    เขาไม่ยุ่งด้วยแล้ว อยากทำอะไรก็ทำไปเลย คอยตามล้างตามเช็ดเอาทีหลังก็แล้วกัน

    "ต้องตรวจสอบแล้ว"

    ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดจากเก้าอี้ แขนกำยำเพียงข้างเดียวก็หิ้วร่างบางจนปลิวหวือ ชายหนุ่มทำท่าจะหิ้วเด็กสาวเข้าไปในห้องข้างๆ ที่เป็นห้องนอน คนใส่แว่นจึงรีบดึงแขนไว้สุดความสามารถ

    "ท่านนายพล อย่ามั่วนิ่มทำบัดสีกับทหารใหม่สิขอรับ"

    "กรี๊ด มาเที่ยวที่นี่ก็ต้องออฟเด็กที่นี่สิค้า หิ้วมาเองได้ไง" วีวี่ก็ช่วยเขาลากด้วย หล่อนเกาะแขนของชายหนุ่มร่างใหญ่ไว้แน่น

    "ไม่ได้ทำบัดสีซะหน่อย แค่จะตรวจสอบว่าเด็กคนนี้มีกลไกอยู่ข้างในรึเปล่า ถ้าเป็นคนก็ต้องมีลูกได้ใช่ไหมล่ะ อึก ข้าจะลองทำลูกดู"

    โครม!

    ประตูเปิดออกด้วยความแรงเหมือนถูกถีบ แล้วชายหนุ่มผมสีน้ำตาลในเครื่องแบบอัศวินก็เดินดุ่มๆ เข้ามาคว้าร่างเด็กสาวไปจากอ้อมแขนของชายผู้มีขนหน้าอก

    "ทำอะไรของท่านขอรับ ท่านนายพล"

    อามาสยักไหล่ แต่หลบสายตาลูกน้องวูบ

    ไอ้โยชัวร์มันเป็นคนจริงจัง เคร่งศีลธรรมยังกับพระคัมภีร์เดินได้ ขืนพูดไม่สวยแล้วมันเอาไปฟ้องอเล็กซิสขึ้นมา มีหวังโดนจับไปร่วมดื่มชา (เทศนา) สามวันสามคืน

    "ก็...เวลามีเด็กใหม่ข้าก็พาไปเลี้ยงทุกที แล้วเจ้าจะให้สาวน้อยคนนี้น้อยหน้าหรือไง"

    "งั้นเหรอขอรับ" น้ำเสียงตอบเย็นเฉียบ

    "ที่นี่ก็ไม่เลวนี่นา คราวก่อนเจ้าก็ยังเอาเด็กเอเธเนียลไปขึ้นครูเลยใช่ไหมคาร์ล"

    นายพลอามาสพยายามไหลไปเรื่อย แต่ลูกคู่กลับแกล้งถอดแว่นเมาพับกับโต๊ะเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงต้องเผชิญกับพายุอารมณ์ของลูกน้องเพียงลำพัง

    โยชัวร์ฉุนกึกขึ้นมาทันทีกับคำว่า 'ขึ้นครู' ดวงตาสีมรกตวาวโรจน์ดังมีไฟอยู่ข้างใน

    "ข้าพาเอเธเนียลไปกินเหล้าเฉยๆ ท่านก็รู้ว่าพวกเราไม่สนับสนุนการค้าประเวณี"

    "เข้าใจแล้ว กลับก็ได้" อามาสยกมือยอมแพ้

    "เดี๋ยวขอรับ"

    "อะไรอีกล่ะ"

    "ท่านยังไม่ตอบว่าพาบาซันมาที่นี่ทำไม"

    "ชื่อบาซันหรอกหรือ ข้าก็พาบาซันน้อยมาเลี้ยงเหล้าเหมือนเจ้าน่ะแหละน่า"

    "แต่นี่มันบาร์กะเทยนะขอรับ"

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่คนแกล้งเมาหลับก็ไม่กล้าหายใจแรง

    "แถมท่านยังทำท่าจะหิ้วนางเข้าห้อง"

    "ข้าจะพาน้องเขาไปอ้วกต่างหาก"

    "ท่านอามาส..."

    เขายังไม่ทันต่อให้จบประโยค ร่างเล็กในอ้อมแขนก็สะอึกถี่ๆ ขึ้นมา ก่อนจะพ่นสิ่งที่อยู่ในท้องออกมาพรวดเดียวหมด

    ชายร่างใหญ่หัวเราะอย่างมีชัย

    "เห็นไหมล่ะ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×