ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความลับในหุบเขาหมอก

    ลำดับตอนที่ #4 : ++ เสียงเพลงในสายลม++ อัศวินศักดิ์สิทธิ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 970
      1
      18 มิ.ย. 50

    3

    อัศวินศักดิ์สิทธิ์

    หลานสาวของนางซิเครมกลับมาพร้อมๆ กับการมาเยือนของแสงแห่งรุ่งอรุณและการเปลี่ยนสีของใบไม้

    "คราวนี้ครูซให้อะไรมาอีกหรือเปล่า"

    อาการนิ่งเงียบหมายถึงปฏิเสธ หลังจากพยายามที่จะให้บาซันพูดมาหลายปี กลับกลายเป็นนางเองที่เริ่มเข้าใจภาษาใบ้

    "ไปคลุกอะไรมาบ้างนี่ มอมแมมอย่างกับลูกหมา"

    บาซันแขวนดาบไว้กับผนัง แล้วเดินหายไปหลังบ้านซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้ชำระล้างร่างกาย

    เด็กสาวสยายผมเปียยุ่งเหยิงเหมือนรังนกออก ปลดเสื้อผ้าฝ้ายหยาบออกจากร่างก่อนจะก้าวลงไปในถังน้ำอุ่นจัดจนขึ้นไอ หญิงชราเดินตามเข้ามา แล้วลงมือขัดเอาคราบดินทรายสกปรกออกจากผิวนวลใส

    "เป็นเด็กผู้หญิง ทำไมสกปรกแบบนี้"

    แม้จะรู้ว่าหลานไม่ตอบ หญิงชราก็ยังบ่นไปเรื่อยๆ

    "เสียดายหน้าตาสวยๆ ของเจ้า เปื้อนไปหมดแบบนี้ จะสวยหรือขี้ริ้วก็ดูไม่ต่างกัน"

    พูดเองแล้วก็นึกขึ้นได้ มือเหี่ยวย่นชะงักกึก ก่อนจะตกลงข้างกาย

    หากบาซันหน้าตาดูไม่ได้ พวกนั้นก็คงไม่สนใจเอาไปขาย

    เสียงโครมครามทำให้ความคิดหยุดชะงัก หญิงชราเดินออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ต้องใจหายวาบเมื่อชายฉกรรจ์สามคนพังประตูบ้านเข้ามา

    "เด็กคนนั้นกลับมาแล้วใช่ไหม ส่งนางออกมา"

    คราวนี้อูลไม่ได้มาด้วย นางซิเครมนึกรู้ขึ้นมาทันทีว่าคงพูดกันไม่รู้เรื่อง จึงรีบหยิบคราดที่พิงไว้กับกำแพงมากระชับมั่นไว้ในมือ

    "นี่ส่วนแบ่งของเจ้า"

    ถุงเงินหนักอึ้งถูกปามาตรงหน้า หญิงชราไม่พูดพล่ามทำเพลงเหวี่ยงคราดในมือเข้าหาชายกลุ่มนั้นทันที

    "ออกไป ข้าบอกแล้วว่าไม่ขาย"

    "พูดไม่รู้เรื่อง ยายเฒ่านี่ คนทั้งหมู่บ้านจะอดตายกันแล้วยังไม่สำนึก"

    "อดตายแล้วยังไง พวกเจ้าคิดจะฆ่าเด็กคนนั้นไปกี่หนแล้ว คิดวะว่าบาซันตายไปจากหมู่บ้านนี้แล้วก็แล้วกัน"

    คราดเหล็กถูกยื้อยุดฉุดกระชาก หญิงชราหรือจะสู้เรี่ยวแรงของบุรุษได้ ร่างงองุ้มถูกเหวี่ยงไปด้านหลัง ซิเครมหลับตาแน่น กัดฟันรับความเจ็บปวด แต่ร่างของนางถูกรับเอาไว้โดยคนที่เดินออกมาจากประตูหลัง

    "บาซัน..." ผู้เป็นยายครางแผ่วในลำคอ

    เด็กสาวพยุงร่างของหญิงชราให้นั่งพิงกำแพงไว้ ส่วนตัวเองเดินไปหยิบดาบที่แขวนบนผนังอย่างไม่รีบร้อน

    ผู้บุกรุกจ้องมองผิวขาวเปียกชื้นที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อผ้าเนื้อหยาบตาไม่กะพริบ เส้นผมยาวชุ่มน้ำถูกปล่อยระไปกับแผ่นหลังจนเสื้อเริ่มเปียกแนบเนื้อ ลำคอระหงขาวเรียว มือไม้บอบบางอ้อนแอ้น หากไม่ติดว่าสัญญาจะขายนางแบบไม่บุบสลาย อีกทั้งยังยืนยันไปว่ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคีใด พวกเขาคงจะขอทดลองเจ้าสาวของครูซดูสักหน่อย

    บาซันเดินผ่านคนพวกนั้นออกไปนอกบ้านอย่างไม่สนใจ แล้วยืนรออยู่หน้าบ้าน แม้ชายกลุ่มนั้นจะนึกคลางแคลงใจที่เด็กสาวหยิบดาบออกมาด้วย แต่เมื่อเห็นหล่อนเดินตามไปโดยไม่มีปากมีเสียง พวกเขาก็เลิกสนใจ

    นางซิเครมรีบวิ่งตามออกมา แต่ก็ตามไม่ทันเพราะพวกเขาเดินกันอย่างรวดเร็วมาก หลานสาวของนางไม่เคยรอใครอยู่แล้ว ผู้ชายพวกนั้นก็อยากได้เงิน


    "ใส่ซะ"

    เสื้อคลุมสีสวยถูกยื่นมาตรงหน้า เด็กสาวจ้องมองมันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น

    "นุ่งชุดผ้าขี้ริ้วแบบนั้น เดี๋ยวก็ราคาตกกันพอดี"

    เมื่อเห็นเด็กสาวยังนิ่ง พวกผู้ชายก็ขับเข้ามาใกล้ แต่ชายชรายกมือห้ามเสียก่อน

    "ในเมื่อนางไม่ต้องการก็อย่าไปบังคับ ยังไงเราก็เคยถวายนางให้ครูซ"

    "แต่ว่า...ท่านอูล"

    หัวหน้าหมู่บ้านเดินมานั่งลงข้างๆ หล่อน

    "พวกทหารจะยกเสบียงที่เหลือทั้งหมดให้แก่เรา พวกเราจะแบ่งให้ยายของเจ้าด้วย"

    ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนยังคงจับจ้องไปที่ปลาตากแห้งบนผนัง ราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่

    "เพื่อปากท้องของพวกเราร้อยกว่าคน เจ้าเข้าใจใช่ไหมบาซัน"

    เด็กสาวลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วจนอูลไม่ทันตั้งตัว แล้วเดินออกไปจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ทำให้ชายทั้งสี่รีบเดินตามมา

    พวกทหารที่มาตั้งกระโจมอยู่บริเวณลานท้ายหมู่บ้านเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขากำลังจัดการตั้งปะรำพิธีสำหรับใช้รับสมัครทหารใหม่

    "เจ้าจะทำอะไร เดินมาที่นี่ทำไม พวกเรานัดเขาไว้ตอนเที่ยง"

    "นี่! เจ้าได้ยินไม่ใช่หรือ หยุดเดินเสียที"

    เสียงเอะอะโวยวายเรียกดวงตาสีมรกตให้ตวัดไปมอง เด็กสาวชาวบ้านร่างเล็กที่ดูคุ้นตากำลังเดินมาทางเขา โดยมีผู้ชายสามสี่คนเดินตามมาด้วย ชายหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมที่ระใบหน้า แล้วเดินเข้าไปหา

    "เจ้ากำลังลำบากหรือเปล่าแม่หญิง"

    กลุ่มชายเหล่านั้นผงะไปเมื่อเห็นนายทหารท่าทางยศสูงเดินเข้ามาใกล้ ส่วนโยชัวร์เมื่อเห็นเด็กสาวไม่มีทีท่าว่าจะจำเขาได้ ก็นึกออกว่าเมื่อวานตอนพบกับตัวเองใส่หมวกเหล็กไว้

    "เมื่อวานเราพบกันครั้งหนึ่งแล้ว บนภูเขา เจ้าจำได้ไหม"

    เด็กสาวตรงหน้ายังคงนิ่ง แต่จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ชายหนุ่มจึงยืนกอดอกจ้องตอบ เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หล่อนจึงเอ่ยปากอย่างเสียไม่ได้

    "ทหาร..."

    "ว่าอะไรนะ"

    "ข้า...สมัคร"

    คิ้วเข้มของนายทหารหนุ่มขมวดเข้า ชาวบ้านที่เดินตามเด็กสาวมาหันไปมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนจะหัวเราะลั่น

    "นี่...พวกเราไม่ได้จะให้เจ้าไปเป็นทหารหรอกนะ กลับบ้านไปแต่งตัวดีกว่า"

    มือหยาบกร้านเอื้อมมาสัมผัสไหล่ของเด็กสาว แล้วลามปามไปยังลำคอขาวเรียว แต่บาซันก็ไม่ขยับตัว หล่อนยังคงจ้องหน้าของนายทหารหนุ่มนิ่ง

    "ท่าทางนางจะไม่ค่อยเต็มนะท่าน" นายทหารคนหนึ่งเดินมากระซิบ

    โยชัวร์นิ่งคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะขยับยิ้มบาง แล้วกวักมือเรียกเด็กสาวเข้ามาใกล้

    "น่าสนุกดี เราไม่มีนโยบายรับทหารหญิง แต่ข้าจะจัดการให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ"

    ชายหนุ่มเอ่ย ก่อนจะเดินไปกลางลานโล่งข้างปะรำพิธี

    "จะดีเหรอขอรับ องค์ชายอเล็กซิสจะตำหนิท่านได้" ทหารคนเดิมมีท่าทางกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขาหันไปสบตากับพวกชาวบ้านก่อนเอ่ย "คือว่าผู้หญิงคนนี้ ที่จริงแล้วนาง..."

    "มีอะไรข้ารับผิดชอบได้"

    บุรุษหนุ่มร่างสูงหยิบดาบไม้จากชั้นวางอาวุธขึ้นมา แล้วส่งให้เด็กสาว

    "แต่ข้าจะขอทดสอบเจ้าด้วยตนเอง"


    ลำต้นเป็นสีน้ำตาลแก่ ใบไม้เป็นสีแดงเหลือง ร่วงหล่นปูพื้นราวพรมธรรมชาติ ทั้งชื้นแฉะทั้งลื่น แต่ก็นุ่มเท้ากว่าดินเปล่าๆ หุบเขาหมอกทั้งหุบเขากำลังจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แดง และน้ำตาลตามลำดับ กลายเป็นสีขาวโพลน ก่อนจะกลับมาเขียวสดอีกครั้ง นอกจากยอดไกลลิบที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆ ที่จะมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลาไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    เป็นเช่นนี้ ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า หมุนเวียนเปลี่ยนสีสัน นับพันนับหมื่นปี

    สุนัขป่าสีขาวขนาดยักษ์ยืนนิ่งอยู่ริมเชิงผา เหนืออุ้งเท้าใหญ่โตประดับไปด้วยเครื่องรัดข้อเท้าทองคำประดับอัญมณีสีเขียวอ่อนดุจเดียวกับดวงตา สุกปลั่งวาววับแสดงถึงการได้รับการเอาใจใส่ขัดถูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

     ดวงตาสีเขียวอ่อนผิดเผ่าพันธุ์ทอดนิ่งไปยังหมู่บ้านชาวป่าที่อยู่เลยไปเบื้องล่างไกลแสนไกล ก่อนจะส่งเสียงหอนโหยหวนให้ล่องลอยไปกับสายลมราวกับกำลังเจ็บปวดแสนสาหัส

    เสียงหอนทอดยาว...เนิบช้า ขาดเป็นห้วงๆ ดั่งเสียงร่ำไห้ เสียงลมพัดผ่านยอดไม้และหลืบเขา ผสมผสานเป็นจังหวะดุจทำนองเพลง

    "สุนัขป่า?"

    ชายหนุ่มหันกลับไปมองด้านหลัง ยอดเขาสูงที่หายไปในกลุ่มเมฆเห็นอยู่ลิบๆ ถัดออกไปจากทะเลสาบกลางหุบเขา แล้วจึงหันกลับมาที่คู่ต่อสู้

    'คู่ต่อสู้' ชักดาบข้างเอวออกมาอย่างไม่รีบร้อน แล้วเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับคนขอทดสอบ

    "นี่มันอะไรกัน"

    นางซิเครมที่เพิ่งมาถึงเอ่ยถึงถามชาวบ้านที่ยืนดูอยู่ ไม่รู้ว่าใครไปตามกันมา จากที่มีดูอยู่ไม่กี่คนก็กลับมามุงกันรอบลาน เสียงซุบซิบถึงความบ้าบิ่นของเด็กสาวดังไปทั่ว

    ชายหนุ่มซึ่งวันนี้ไม่ได้ใส่เกราะเสยเส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้า แล้วตวัดดาบไม้ไปมาทดสอบน้ำหนัก

    "โจมตีเข้ามาเลย เอาให้เต็มความสามารถของเจ้า"

    บาซันกระชากดาบข้างกายมากระชับไว้ในมือ เมื่อเขาเห็นดาบในมือหล่อนชัดๆ ก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

    "มีของดีเหมือนกันนี่"

    เด็กสาวพุ่งเข้าหาชายหนุ่มโดยไม่รีรอ การเคลื่อนไหวของหล่อนรวดเร็วราวกับหายตัวจากที่ที่ยืนอยู่ไปโผล่เบื้องหน้าเขา

    เคร้ง

    เขาปัดดาบของเธอออกไปอย่างง่ายดาย ดาบไม้รับดาบเหล็กคมกริบแล้วเบี่ยงเบนทิศทางของมันออกไปจนเด็กสาวได้แต่ฟาดฟันใส่อากาศ

    ชาวบ้านชมดูไปพลาง หัวเราะเยาะเย้ยในความไม่เจียมตัวของเด็กสาวไปพลาง แต่เหล่าทหารที่เจนจัดในการต่อสู้และชาวบ้านที่เคยฝึกอาวุธกลับเงียบกริบ

    บาซันพยายามอยู่ครู่ใหญ่จนเหงื่อเริ่มซึม รอยยิ้มของคนตาสีมรกตค่อยๆ เลือนหายจากใบหน้า ก่อนที่ประกายเย็นชาคุกคามจะค่อยๆ ครอบคลุมไปทั่วลาน

    "เลิกเล่นได้แล้ว"

    ดาบไม้ตวัดฉับเดียว ร่างเล็กของเด็กสาวก็กระเด็นไปไกล หล่อนกลับตัวตั้งหลักกลางอากาศได้ จึงไม่ล้มกลิ้งไปกับพื้นดิน

    ร่างสูงรุกคืบเข้ามา ดาบไม้กระหน่ำฟาดฟันเข้าใส่ไม่ยั้ง บาซันรับได้เพียงไม่กี่ครั้ง ก่อนจะถูกเตะเข้าช่องท้องกระเด็นไป

    "อาวุธไม่ได้มีแค่ดาบ ลุกขึ้นมาสาวน้อย"

    นางซิเครมเอามือปิดปากด้วยความตกใจ หญิงชราพยายามแหวกคนออกจะเข้าไปห้าม แต่ทหารนายหนึ่งรั้งไหล่ของนางไว้

    "อันตราย ท่านยายอย่าเข้าไป"

    "เขาทำร้ายหลานสาวข้า บอกให้เขาหยุดเร็ว"

    นายทหารคนนั้นมองกลับไปที่คนทั้งสอง แล้วก็หันมาบอกหญิงชรา

    "ท่านนายกองไม่รังแกคนอ่อนแอหรอก ท่านจะสู้กับคนที่คู่ควรเท่านั้น"

    นางซิเครมรู้ว่าบาซันมีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ก็ไม่คิดว่าหลานสาวของตนจะสู้กับผู้ชายตัวใหญ่ๆ ได้ การล่านกล่ากระต่ายจะไปเทียบกับการต่อสู้กับทหารอาชีพได้อย่างไร

    เสียงดาบปะทะกันอย่างต่อเนื่องทำให้ซิเครมตัวสั่น ไม่กล้าดูจนต้องหลับตา

    เสียงเฮดังลั่น ร่างบอบบางราวกับจะปลิวลมได้ถูกซัดจนกระเด็นไปอีกครั้ง

    เด็กสาวลุกขึ้นมาใหม่อย่างไม่ย่อท้อ พลางกรีดเลือดออกจากมุมปาก แล้วเดินลากดาบในมือที่ดูหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเข้าหาชายหนุ่ม

    ริมฝีปากบางขยับยิ้ม ก่อนที่ดาบไม้จะตวัดผ่านอากาศดังหวือเข้าสู่ช่วงลำตัวของเด็กสาว คราวนี้บาซันรับได้ แต่ก็ถึงกับแขนสั่นระริก ดาบเหล็กลดลงต่ำทันทีเพราะเจ้าตัวถือไม่ไหว ชายหนุ่มเห็นดังนั้น ก็วาดดาบลงด้านล่างหมายโจมตีที่ขาอย่างไม่ปรานี

    ในชั่ววินาทีแห่งความเป็นความตาย ดวงตาสีทรายจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีมรกต ริมฝีปากของชายหนุ่มขยับเล็กน้อยเหมือนจะเอื้อนเอ่ยคำ

    กระโดดสิ...

    ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา แต่บาซันก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

    เหล่าผู้คนที่มุงดูอยู่รอบลานเงียบกริบ ทุกคนได้แต่กลั้นหายใจมองภาพที่เกิดขึ้น

    สายลมพัดแรงวูบ พยุงให้เด็กสาวลอยตัวขึ้นสูงกว่ายอดไม้ราวกับขนนก ก่อนจะลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวล

    นายกองนามโยชัวร์ลดดาบลง ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กสาวที่ยืนนิ่งอยู่กับที่

    "ยอดเยี่ยม นี่แหละ...สิ่งที่ข้าอยากเห็น"

    เสียงเฮลั่นดังจากทหารที่อยู่รายรอบ แต่ชาวบ้านเงียบกริบ โดยเฉพาะนักบวชเมราซและหัวหน้าหมู่บ้านอูลที่หน้าซีดลงทันตา

    "ครูซอยู่ข้างนาง...พวกเจ้าเห็นไหม"

    เสียงกระซิบกระซาบกระพือไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลม และท่ามกลางเสียงโห่ร้องอย่างสนุกสนานและเสียงฮือฮาของชาวบ้าน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลก็หยิบเหรียญสีเงินขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะส่งให้เด็กสาวตรงหน้า

    "ยินดีต้อนรับสู่หน่วยอัศวินศักดิ์สิทธิ์"

    เสียงสุนัขป่าโหยหวนขึ้นอีกครั้ง เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองไปยังยอดเขาไกลแสนไกล ก่อนจะหลั่งน้ำตาออกมา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×