ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : คืนนี้มีลุ้น (4)
“นายเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วไม่ใช่หรือ”
“นายนี่น้า  ก็เพราะเลิกกินไปแล้วถึงคิดถึงไง  ไม่ได้เห็นซะนาน” เฟรินเอ่ยขำๆ  แล้วพลันดวงตาก็เป็นประกายอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้  แล้วก็เหลือบมองใบหน้าคมคายข้างๆที่กำลังมองไปทางอื่นอย่างชั่งใจ  ก่อนจะเอ่ย
“ถามอะไรหน่อยสิคาโล”
“อะไร” ดวงตาสีฟ้าหันมาจับจ้องที่ดวงหน้าหวานที่ดูลังเลนิดๆ
“ถ้าฉันถาม นายต้องอย่าโกรธนะ” ร่างบางรีบขยับออกห่างเตรียมพร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อทำให้คิ้วเข้มเริ่มขมวดอย่างสงสัยว่าคนข้างๆจะมาไม้ไหนอีก
“นายอยากจะถามอะไรกันแน่”
“นายต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่โกรธ”
“...ก็ได้” ดวงตาสีฟ้ามองร่างตรงหน้าที่เริ่มจะถอยกรูดๆจนลุกขึ้นยืน เขาจึงลุกตาม
“คือว่า...คือว่าแหวน...” เฟรินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“แหวน” น้ำเสียงเริ่มกระด้าง ดวงหน้าราวรูปสลักดูเย็นเยียบไร้อารมณ์ขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน ทำให้เฟรินหดคอวูบแต่ความอยากรู้ก็ทำให้ตัดสินใจพูดต่อ
“ตอนฉันใส่แหวนให้นาย นายกลายเป็นผู้หญิงหรือเปล่าคาโล”
เปรี๊ยะ! เสียงอะไรบางอย่างในสมองเจ้าชายแห่งคาโนวาลขาดผึง
มันช่าง...เข้าใจกวนน้ำให้ขุ่นดีจริงๆ  บรรยากาศดีๆหายวับ
“นายคงไม่ได้เอามันมาด้วยหรอกนะ”  ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มพลางเดินเข้ามาใกล้  ซึ่งทำให้เฟรินถอยโดยไม่รู้ตัว
“แหะๆ  ยัยแองจี้ยึดไปแล้วล่ะ”  เจ้าตัวดีเอ่ยแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองที่ดันปากไวไปเผยไต๋ให้คนจุดเดือดต่ำรู้
“ดี”  รอยยิ้มเฮี่ยมปรากฏบนริมฝีปากได้รูป  หัวขโมยเห็นท่าไม่ดีก็รีบถอยหลังเตรียมเผ่น 
“ไหนว่านายจะไม่โกรธไง”
“ฉันไม่ได้โกรธ” 
ซวยแหล่ว  มันยังโกรธไม่หาย  เห็นเมื่อกี้หวานๆอยู่นึกว่ามันจะลืม
คนปากมากได้เรียนรู้อีกครั้งว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูด  แม้จะอยากรู้มากก็เถอะ
“คาโล...” เสียงหวานลากอย่างเว้าวอน “นายลืมๆมันไปเหอะ  นึกซะว่าฉันไม่ได้ถาม  ธุระนายมีแค่นี้ใช่ไหม  ฉันคอแห้งไปหาอะไรกินก่อนนะ” 
ร่างบางเตรียมจะออกวิ่งแต่มือกลับก็ถูกยึดไว้  ดวงตากลมโตซึ่งวันนี้หวานเป็นพิเศษค่อยๆเหลือบมองใบหน้าของคนที่ยึดมือหล่อนไว้  แล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดก่อนจะเลิกขึ้นอย่างโกรธๆ
มันยิ้ม
มันหลอกให้เธอคิดว่ามันโกรธ ไอ้บ้านี่
“นายไม่อยากรู้แล้วหรือเฟริน” เสียงทุ้มยังคงเรียบเฉย แต่ประกายขำขันในดวงตาระยิบระยับขึ้นจนคนมองหมั่นไส้
ไม่อยากรู้  นายจะเป็นสาวหรือเป็นลิงฉันก็ไม่สนแล้วโว้ย  ไอ้น้ำแข็งบ้างี่เง่า
คำพูดที่คิดจะพูดหยุดอยู่แค่ในใจเมื่อสมองดันคิดอะไรที่น่าสนุกกว่าขึ้นมาได้  ใบหน้าหวานขยับรอยยิ้มกริ่ม
“นายคงกลายเป็นผู้หญิงสินะคาโล” เฟรินหันกลับมาเผชิญหน้า
“แล้วไง” ความจริงเขาก็ไม่แน่ใจเพราะตอนนั้นมันเร็วมาก แต่ก็ยังแสร้งปั้นหน้าขรึม
“อย่างนายนี่คงจะสวยนะ” ร่างบางเบียดเข้ามาใกล้จนเจ้าชายแห่งคาโนวาลได้กลิ่นหอมจางๆ “ฉันอยากเห็นจัง”
“ฝันไปเถอะ”
เรื่องน่าอายแบบนั้นให้ตายเขาก็ไม่ทำ 
ดวงตาสีฟ้าสวยเมินไปทางอื่น ทำให้เฟรินอมยิ้ม
“นายก็รู้นี่ ฉันมันเป็นพวกนิยมสาวงาม”  วงแขนเรียวค่อยๆขยับโอบเอวคนตรงหน้าซึ่งกอดตอบอย่างไม่ต้องสงสัย
ลมเย็นพัดโชยมาทำให้ไหล่บางสะท้านนิดๆ  คาโลจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้า  เมื่อเห็นเจ้าตัวดียังนิ่งไม่โวยวายอะไรดวงหน้าคมคายก็โน้มลงมาใกล้
“ไม่”  มือบางดันใบหน้านั้นออกไป
“เฟริน”  คราวนี้มือใหญ่จับใบหน้าหวานให้อยู่นิ่งๆ “ยังไงตอนนี้นายก็เป็นผู้หญิง”
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง  ยังไงก็ต้องคู่กับนายที่เป็นผู้ชาย” เฟรินลากเสียงพลางแนบหน้าลงบนอกกว้างที่หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ “แต่ฉันเคยเป็นผู้ชาย  ถึงฉันจะรักนายยังไงก็อดรู้สึกพิลึกๆไม่ได้อยู่ดี  โดยเฉพาะเวลานายทำกับฉันเหมือนที่ฉันเคยทำกับผู้หญิง”
คำสารภาพนั้นทำให้คนเป็นผู้ชายรู้สึกช็อคนิดๆ
หน้าตาของเจ้าชายแห่งคาโนวาลปั้นยากขึ้นทุกที  ทั้งๆที่แสนจะงงกับสิ่งที่คนในอ้อมแขนกำลังพูดแต่หัวใจก็เต้นโครมๆให้อึดอัด  แล้วก็ต้องช็อครอบสองกับคำพูดที่ไร้ความเป็นกุลสตรีของสาวน้อยแสนสวย
“ถ้านายยอมกลายเป็นสาวสวย  ฉันอาจจะยอมทำทุกอย่างที่นายสั่งก็ได้นะ”
“เฟริน!”  ดวงหน้าคมคายแดงก่ำ ความร้อนแล่นขึ้นจนรู้สึกวูบวาบ เขาบอกไม่ถูกว่าตัวเองกำลังโกรธหรือลังเลกับข้อเสนออันแสนพิลึกแต่เย้ายวนตรงหน้า  เมื่อดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วเงยขึ้นสบตาเขาพลางแย้มรอยยิ้มใสซื่อ  ปากแดงๆยังขยับพูดต่อ
“ไม่ว่าจะนอนด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ” เสียงนั้นเหมือนกระซิบ ลมหายใจอุ่นๆคลอเคลียอยู่ที่ต้นคอของคนร่างสูง “จูบ  หรืออะไรก็ได้ที่นายชอบ”
เปรี้ยง! กำแพงแห่งศักดิ์ศรีของราชวงศ์วาเนบลีกำลังถูกหัวขโมยแห่งบารามอสเจาะรูด้วยอาวุธหนัก
“ลองจินตนาการดูสิคาโล  ฉันจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง”
เจ้าชายแห่งคาโนวาลคิดไปไกลลิบ
เฟรินแอบขำกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า
มันน่ารักจริงๆ  ให้ตายสิ
เสียงหัวเราะของคนในอ้อมแขนทำให้สติของคาโลค่อยๆกลับคืนมาพร้อมๆกับความโกรธที่สุดจะระงับ 
เขาคงเมาที่เผลอสนใจข้อเสนออุบาทว์นั่นไปวูบหนึ่ง
“ฉันล้อเล่นน่า  นายคงไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอกนะ”
ดวงหน้าเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เงยขึ้นมองดวงหน้าคมคายที่นิ่งราวกับรูปปั้นแล้วก็ชักจะหนาวๆ  เมื่อสายตาที่ทอดมาดุจนไม่เหลือเค้าของความเย็นไว้เป็นอนุสรณ์  เฟรินรีบปล่อยมือแล้วดันตัวออกห่างซึ่งก็ต้องแปลกใจที่หลุดออกมาได้ง่ายๆ
ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้
“ไม่เอาน่า  นายสัญญาแล้วว่าจะไม่โกรธ” 
“อย่างนั้นหรือ”  เสียงนั้นเย็นเยียบจนเฟรินขนลุก  ขาที่กำลังจะพาตัวหนีก็พลันแข็งเป็นหิน
ไอ้น้ำแข็งงี่เง่า  จะมาเล่นบทโหดอะไรตอนนี้  ฉันกลัวจริงนะเฟ้ย
“เอาน่า  นายอย่าดุนักสิ  ฉันก็แค่ล้อนายเล่น”  เจ้าหญิงจอมแสบยังพยายามยิ้มสู้
“อย่างนายนี่ถ้าอยู่คาโนวาลคงต้องสั่งตัดลิ้น”
“คาโล”
“งานวันเกิดฉัน  นายอย่าไปดีกว่า”
“คาโล!  อย่าโกรธสิ  นายก็รู้ว่าฉันมันคนปากไว  พูดอะไรไม่คิด”  เฟรินเริ่มหน้าเสียเมื่อคนตรงหน้าท่าทางเอาจริง  แต่คาโลเพียงขยับรอยยิ้มเหยียด
“ถ้านายเกิดปากไวใส่พ่อฉัน  ฉันคงไม่รู้จะช่วยนายยังไง  อย่างว่า  ถ้าพระราชาสั่ง  เจ้าชายมีหรือจะขัดได้”
สิ้นเสียงร่างสูงก็หันกายเดินหนีไปอย่างไม่รอช้า  ให้คนปากไวต้องรีบวิ่งตามไปง้อ  แต่พอขาดสติ  รองเท้ากับกระโปรงที่ไม่เคยชินก็ทำให้ร่างบางลงไปนอนวัดพื้นจนได้
“คาโล  ฉันขอโทษ” 
ร่างสูงยังเดินต่อ
“ฮือ  ขอโทษ”
คราวนี้ขายาวๆหยุดก้าว
“ขอโทษนะ  ขอโทษ”
โว้ย  จะหมดมุขแล้วนะ
ในที่สุดใบหน้าคมคายก็หันกลับมา  คนใจอ่อนทนใจแข็งไม่ได้นานอย่างที่เธอคาด  คาโลค่อยๆประคองเฟรินที่เจ็บจริงขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้  แต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้า 
“ขอบใจนะคาโล  ฉันรู้ว่าจริงๆแล้วนายใจดีจะตาย”
มือใหญ่ค่อยๆถอดรองเท้าส้นสูงของเจ้าหญิงแห่งเดมอสออก  แสงสีนวลแผ่ออกมาจากฝ่ามือไปยังบริเวณข้อเท้าที่เริ่มบวมทำให้ความเจ็บปวดคลายลง  เฟรินยิ้มกว้างพลางฮัมเพลงหงุงหงิง ให้คนรักษาเริ่มหงุดหงิด แต่พอรักษาเสร็จร่างบางก็โถมเข้ากอดเขาอย่างแรงจนต้องลงไปนั่งที่พื้น
“รักนายจัง”
คาโลถอนหายใจเฮือก  ทำไมเขาถึงโกรธให้มันนานกว่านี้ไม่ได้นะ  มือใหญ่ค่อยๆขยับโอบตอบร่างในอ้อมแขน 
“ความจริงนะคาโล” เฟรินเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาสีฟ้าคู่สวยที่มีภาพหล่อนสะท้อนอยู่ “ไอ้เรื่องที่นายคิด  มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“เรื่องอะไร”
“ก็...อย่างเรื่องอาบน้ำด้วยกัน  แล้วก็เรื่องโน้นเรื่องนี้” 
วาจาที่ไม่สมกับเป็นหญิงทำให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลเลือดวิ่งอีกรอบ  เผลอคิดตามจนหน้าแดงก่ำ  ขณะเตรียมจะสั่งสอนเจ้าหญิงปากพล่อยที่ไม่รู้อะไรควรไม่ควรเสียงหวานก็ดังสวนขึ้นมาก่อน
“แค่เราแต่งงานกัน”
ฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝ
ช่วงนี้จะอัพช้าหน่อย  ติดวิทยานิพนธ์  คงจะอัพได้แค่อาทิตย์ละครั้ง  รอกันหน่อยนะคะ
“นายนี่น้า  ก็เพราะเลิกกินไปแล้วถึงคิดถึงไง  ไม่ได้เห็นซะนาน” เฟรินเอ่ยขำๆ  แล้วพลันดวงตาก็เป็นประกายอย่างนึกอะไรขึ้นมาได้  แล้วก็เหลือบมองใบหน้าคมคายข้างๆที่กำลังมองไปทางอื่นอย่างชั่งใจ  ก่อนจะเอ่ย
“ถามอะไรหน่อยสิคาโล”
“อะไร” ดวงตาสีฟ้าหันมาจับจ้องที่ดวงหน้าหวานที่ดูลังเลนิดๆ
“ถ้าฉันถาม นายต้องอย่าโกรธนะ” ร่างบางรีบขยับออกห่างเตรียมพร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อทำให้คิ้วเข้มเริ่มขมวดอย่างสงสัยว่าคนข้างๆจะมาไม้ไหนอีก
“นายอยากจะถามอะไรกันแน่”
“นายต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่โกรธ”
“...ก็ได้” ดวงตาสีฟ้ามองร่างตรงหน้าที่เริ่มจะถอยกรูดๆจนลุกขึ้นยืน เขาจึงลุกตาม
“คือว่า...คือว่าแหวน...” เฟรินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“แหวน” น้ำเสียงเริ่มกระด้าง ดวงหน้าราวรูปสลักดูเย็นเยียบไร้อารมณ์ขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน ทำให้เฟรินหดคอวูบแต่ความอยากรู้ก็ทำให้ตัดสินใจพูดต่อ
“ตอนฉันใส่แหวนให้นาย นายกลายเป็นผู้หญิงหรือเปล่าคาโล”
เปรี๊ยะ! เสียงอะไรบางอย่างในสมองเจ้าชายแห่งคาโนวาลขาดผึง
มันช่าง...เข้าใจกวนน้ำให้ขุ่นดีจริงๆ  บรรยากาศดีๆหายวับ
“นายคงไม่ได้เอามันมาด้วยหรอกนะ”  ร่างสูงเอ่ยเสียงเข้มพลางเดินเข้ามาใกล้  ซึ่งทำให้เฟรินถอยโดยไม่รู้ตัว
“แหะๆ  ยัยแองจี้ยึดไปแล้วล่ะ”  เจ้าตัวดีเอ่ยแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองที่ดันปากไวไปเผยไต๋ให้คนจุดเดือดต่ำรู้
“ดี”  รอยยิ้มเฮี่ยมปรากฏบนริมฝีปากได้รูป  หัวขโมยเห็นท่าไม่ดีก็รีบถอยหลังเตรียมเผ่น 
“ไหนว่านายจะไม่โกรธไง”
“ฉันไม่ได้โกรธ” 
ซวยแหล่ว  มันยังโกรธไม่หาย  เห็นเมื่อกี้หวานๆอยู่นึกว่ามันจะลืม
คนปากมากได้เรียนรู้อีกครั้งว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูด  แม้จะอยากรู้มากก็เถอะ
“คาโล...” เสียงหวานลากอย่างเว้าวอน “นายลืมๆมันไปเหอะ  นึกซะว่าฉันไม่ได้ถาม  ธุระนายมีแค่นี้ใช่ไหม  ฉันคอแห้งไปหาอะไรกินก่อนนะ” 
ร่างบางเตรียมจะออกวิ่งแต่มือกลับก็ถูกยึดไว้  ดวงตากลมโตซึ่งวันนี้หวานเป็นพิเศษค่อยๆเหลือบมองใบหน้าของคนที่ยึดมือหล่อนไว้  แล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดก่อนจะเลิกขึ้นอย่างโกรธๆ
มันยิ้ม
มันหลอกให้เธอคิดว่ามันโกรธ ไอ้บ้านี่
“นายไม่อยากรู้แล้วหรือเฟริน” เสียงทุ้มยังคงเรียบเฉย แต่ประกายขำขันในดวงตาระยิบระยับขึ้นจนคนมองหมั่นไส้
ไม่อยากรู้  นายจะเป็นสาวหรือเป็นลิงฉันก็ไม่สนแล้วโว้ย  ไอ้น้ำแข็งบ้างี่เง่า
คำพูดที่คิดจะพูดหยุดอยู่แค่ในใจเมื่อสมองดันคิดอะไรที่น่าสนุกกว่าขึ้นมาได้  ใบหน้าหวานขยับรอยยิ้มกริ่ม
“นายคงกลายเป็นผู้หญิงสินะคาโล” เฟรินหันกลับมาเผชิญหน้า
“แล้วไง” ความจริงเขาก็ไม่แน่ใจเพราะตอนนั้นมันเร็วมาก แต่ก็ยังแสร้งปั้นหน้าขรึม
“อย่างนายนี่คงจะสวยนะ” ร่างบางเบียดเข้ามาใกล้จนเจ้าชายแห่งคาโนวาลได้กลิ่นหอมจางๆ “ฉันอยากเห็นจัง”
“ฝันไปเถอะ”
เรื่องน่าอายแบบนั้นให้ตายเขาก็ไม่ทำ 
ดวงตาสีฟ้าสวยเมินไปทางอื่น ทำให้เฟรินอมยิ้ม
“นายก็รู้นี่ ฉันมันเป็นพวกนิยมสาวงาม”  วงแขนเรียวค่อยๆขยับโอบเอวคนตรงหน้าซึ่งกอดตอบอย่างไม่ต้องสงสัย
ลมเย็นพัดโชยมาทำให้ไหล่บางสะท้านนิดๆ  คาโลจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้า  เมื่อเห็นเจ้าตัวดียังนิ่งไม่โวยวายอะไรดวงหน้าคมคายก็โน้มลงมาใกล้
“ไม่”  มือบางดันใบหน้านั้นออกไป
“เฟริน”  คราวนี้มือใหญ่จับใบหน้าหวานให้อยู่นิ่งๆ “ยังไงตอนนี้นายก็เป็นผู้หญิง”
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง  ยังไงก็ต้องคู่กับนายที่เป็นผู้ชาย” เฟรินลากเสียงพลางแนบหน้าลงบนอกกว้างที่หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ “แต่ฉันเคยเป็นผู้ชาย  ถึงฉันจะรักนายยังไงก็อดรู้สึกพิลึกๆไม่ได้อยู่ดี  โดยเฉพาะเวลานายทำกับฉันเหมือนที่ฉันเคยทำกับผู้หญิง”
คำสารภาพนั้นทำให้คนเป็นผู้ชายรู้สึกช็อคนิดๆ
หน้าตาของเจ้าชายแห่งคาโนวาลปั้นยากขึ้นทุกที  ทั้งๆที่แสนจะงงกับสิ่งที่คนในอ้อมแขนกำลังพูดแต่หัวใจก็เต้นโครมๆให้อึดอัด  แล้วก็ต้องช็อครอบสองกับคำพูดที่ไร้ความเป็นกุลสตรีของสาวน้อยแสนสวย
“ถ้านายยอมกลายเป็นสาวสวย  ฉันอาจจะยอมทำทุกอย่างที่นายสั่งก็ได้นะ”
“เฟริน!”  ดวงหน้าคมคายแดงก่ำ ความร้อนแล่นขึ้นจนรู้สึกวูบวาบ เขาบอกไม่ถูกว่าตัวเองกำลังโกรธหรือลังเลกับข้อเสนออันแสนพิลึกแต่เย้ายวนตรงหน้า  เมื่อดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วเงยขึ้นสบตาเขาพลางแย้มรอยยิ้มใสซื่อ  ปากแดงๆยังขยับพูดต่อ
“ไม่ว่าจะนอนด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ” เสียงนั้นเหมือนกระซิบ ลมหายใจอุ่นๆคลอเคลียอยู่ที่ต้นคอของคนร่างสูง “จูบ  หรืออะไรก็ได้ที่นายชอบ”
เปรี้ยง! กำแพงแห่งศักดิ์ศรีของราชวงศ์วาเนบลีกำลังถูกหัวขโมยแห่งบารามอสเจาะรูด้วยอาวุธหนัก
“ลองจินตนาการดูสิคาโล  ฉันจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง”
เจ้าชายแห่งคาโนวาลคิดไปไกลลิบ
เฟรินแอบขำกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า
มันน่ารักจริงๆ  ให้ตายสิ
เสียงหัวเราะของคนในอ้อมแขนทำให้สติของคาโลค่อยๆกลับคืนมาพร้อมๆกับความโกรธที่สุดจะระงับ 
เขาคงเมาที่เผลอสนใจข้อเสนออุบาทว์นั่นไปวูบหนึ่ง
“ฉันล้อเล่นน่า  นายคงไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอกนะ”
ดวงหน้าเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เงยขึ้นมองดวงหน้าคมคายที่นิ่งราวกับรูปปั้นแล้วก็ชักจะหนาวๆ  เมื่อสายตาที่ทอดมาดุจนไม่เหลือเค้าของความเย็นไว้เป็นอนุสรณ์  เฟรินรีบปล่อยมือแล้วดันตัวออกห่างซึ่งก็ต้องแปลกใจที่หลุดออกมาได้ง่ายๆ
ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้
“ไม่เอาน่า  นายสัญญาแล้วว่าจะไม่โกรธ” 
“อย่างนั้นหรือ”  เสียงนั้นเย็นเยียบจนเฟรินขนลุก  ขาที่กำลังจะพาตัวหนีก็พลันแข็งเป็นหิน
ไอ้น้ำแข็งงี่เง่า  จะมาเล่นบทโหดอะไรตอนนี้  ฉันกลัวจริงนะเฟ้ย
“เอาน่า  นายอย่าดุนักสิ  ฉันก็แค่ล้อนายเล่น”  เจ้าหญิงจอมแสบยังพยายามยิ้มสู้
“อย่างนายนี่ถ้าอยู่คาโนวาลคงต้องสั่งตัดลิ้น”
“คาโล”
“งานวันเกิดฉัน  นายอย่าไปดีกว่า”
“คาโล!  อย่าโกรธสิ  นายก็รู้ว่าฉันมันคนปากไว  พูดอะไรไม่คิด”  เฟรินเริ่มหน้าเสียเมื่อคนตรงหน้าท่าทางเอาจริง  แต่คาโลเพียงขยับรอยยิ้มเหยียด
“ถ้านายเกิดปากไวใส่พ่อฉัน  ฉันคงไม่รู้จะช่วยนายยังไง  อย่างว่า  ถ้าพระราชาสั่ง  เจ้าชายมีหรือจะขัดได้”
สิ้นเสียงร่างสูงก็หันกายเดินหนีไปอย่างไม่รอช้า  ให้คนปากไวต้องรีบวิ่งตามไปง้อ  แต่พอขาดสติ  รองเท้ากับกระโปรงที่ไม่เคยชินก็ทำให้ร่างบางลงไปนอนวัดพื้นจนได้
“คาโล  ฉันขอโทษ” 
ร่างสูงยังเดินต่อ
“ฮือ  ขอโทษ”
คราวนี้ขายาวๆหยุดก้าว
“ขอโทษนะ  ขอโทษ”
โว้ย  จะหมดมุขแล้วนะ
ในที่สุดใบหน้าคมคายก็หันกลับมา  คนใจอ่อนทนใจแข็งไม่ได้นานอย่างที่เธอคาด  คาโลค่อยๆประคองเฟรินที่เจ็บจริงขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้  แต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้า 
“ขอบใจนะคาโล  ฉันรู้ว่าจริงๆแล้วนายใจดีจะตาย”
มือใหญ่ค่อยๆถอดรองเท้าส้นสูงของเจ้าหญิงแห่งเดมอสออก  แสงสีนวลแผ่ออกมาจากฝ่ามือไปยังบริเวณข้อเท้าที่เริ่มบวมทำให้ความเจ็บปวดคลายลง  เฟรินยิ้มกว้างพลางฮัมเพลงหงุงหงิง ให้คนรักษาเริ่มหงุดหงิด แต่พอรักษาเสร็จร่างบางก็โถมเข้ากอดเขาอย่างแรงจนต้องลงไปนั่งที่พื้น
“รักนายจัง”
คาโลถอนหายใจเฮือก  ทำไมเขาถึงโกรธให้มันนานกว่านี้ไม่ได้นะ  มือใหญ่ค่อยๆขยับโอบตอบร่างในอ้อมแขน 
“ความจริงนะคาโล” เฟรินเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาสีฟ้าคู่สวยที่มีภาพหล่อนสะท้อนอยู่ “ไอ้เรื่องที่นายคิด  มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“เรื่องอะไร”
“ก็...อย่างเรื่องอาบน้ำด้วยกัน  แล้วก็เรื่องโน้นเรื่องนี้” 
วาจาที่ไม่สมกับเป็นหญิงทำให้เจ้าชายแห่งคาโนวาลเลือดวิ่งอีกรอบ  เผลอคิดตามจนหน้าแดงก่ำ  ขณะเตรียมจะสั่งสอนเจ้าหญิงปากพล่อยที่ไม่รู้อะไรควรไม่ควรเสียงหวานก็ดังสวนขึ้นมาก่อน
“แค่เราแต่งงานกัน”
ฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝฝ
ช่วงนี้จะอัพช้าหน่อย  ติดวิทยานิพนธ์  คงจะอัพได้แค่อาทิตย์ละครั้ง  รอกันหน่อยนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น