ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BARAMOS-ฟิกบารามอส] โกโดม อำมหิตไม่เงียบ The Series

    ลำดับตอนที่ #8 : RELOADED! VI [END]

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 49


    โกโดม อำมหิตไม่เงียบ RELOADED VI


    ***************************************************************************


    หลายนาทีที่คิลค่อยๆเดินลากเกราะเข้ามานั้นเงียบเหมือนป่าช้า




    “ไง” นักฆ่ายกมือทักทาย แล้วคว้าแขนหล่อนไว้ “จับได้สักที”



    เฟรินสะบัดแขนจนหลุด แล้วระดมกำปั้นใส่เพื่อนอย่างไม่ยั้งมือดังแคร้งๆ



    “แกเองเรอะ เล่นอะไรบ้าๆ ไอ้เฮงซวย ฉันก็นึกว่าไอ้ปีศาจเกราะดำนั่นมันจะมาหักคอฉัน”



    “พอได้แล้ว ผู้หญิงอะไรมือหนักอย่างกับช้าง” แม้จะใส่เกราะ คิลก็ปัดป้องพัลวัน



    “ช้างมีมือที่ไหน ไอ้โง่ โอ้ย!” เฟรินสะบัดมือเร่าๆเพราะฟาดโดนเกราะเหล็กตรงช่วงไหล่เข้าไปเต็มๆจนบุบ



    คาโลที่ดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆเอ่ยแทรกการประทุษร้ายขึ้นมา



    “เฟริน นายฟังที่อาจารย์พูดไม่ครบ ปีศาจเกราะดำที่ว่าถูกขังอยู่ที่นี่เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว ป่านนี้คงกลายเป็นดิน แม้แต่วิญญาณก็คงไม่เหลือ ฉันสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง”



    “แล้วทำไมไม่บอกฉัน”



    เจ้าชายแห่งคาโนวาลยักไหล่อย่างที่คนมองนึกหมั่นไส้เป็นกำลัง



    “ฉันก็เผลอเชื่อตามนาย เราก็เห็นพร้อมกันว่ามันใส่เกราะดำ”



    เฟรินอยากจะโวย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เมื่อคาโลหันไปพิจารณาเพื่อนนักฆ่า



    “นายมาที่นี่ทำไม”



    “ฉันกะว่าจะลงมาหลอกไอ้เฟรินเล่น เพราะฉันดันไปเหยียบไอ้ปุ๋ยหมักในห้องมัน เหม็นจะแย่”



    ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆ แล้วถามต่อ



    “นายตามพวกเรามาทำไม ดูไม่รู้หรือว่ามันอันตราย”



    “เฟรินสั่งให้ตาม ฉันก็ต้องตาม” คิลตอบตาแป๋ว



    “ไอ้งี่เง่า ฉันกลัวแทบแย่ แกเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ฉันสั่งให้ตายก็จะไปตายเรอะ” หญิงสาววีนแตกทันที



    โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่สิ คาโลคาดคิดแต่ห้ามไม่ทัน คิลสะดุ้งขึ้นทั้งตัว แล้วลุกขึ้นเดินไปทิ้งกายลงในบ่อน้ำดังตูม



    “เฮ้ย”



    เฟรินรีบพุ่งตัวลงไปในน้ำอีกครั้ง แล้วลากเพื่อนที่ทิ้งตัวนิ่งไม่ยอมว่ายแม้แต่น้อยขึ้นมาให้คาโลจับดึงขึ้นจากน้ำ แต่คิลใส่เกราะเหล็ก เจ้าชายหอคอยงาช้างก็ไม่ใช่นักยกน้ำหนักมาจากไหน นักฆ่าจากซาเรสจึงจมแหล่มิจมแหล่แสนทุลักทุเล



    “เฟริน สั่งให้คิลขึ้นจากน้ำ”



    “ไอ้คิล แกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” สั่งตามโดยไม่ต้องคิด



    คิลเกาะขอบบ่อหมับทันที แล้วเหวี่ยงกายขึ้นมานั่งริมน้ำ



    ทั้งเฟรินทั้งคาโลนั่งหอบแฮ่กอยู่ข้างๆ ดวงตาสีน้ำตาลมองไปที่เจ้าชายหนุ่มอย่างขอคำอธิบาย แต่คาโลกลับหันไปพูดกับคิล



    “นายเข้าไปในห้องเฟรินแล้วหยิบอะไรกินหรือเปล่า”



    คิลคิดนิดหนึ่ง แล้วส่ายหน้า



    “ไม่นี่ ฉันรู้ว่ามันหวงของกินจะตาย ฉันไม่...เฮ้ย ไอ้น้ำปุ๋ยหมักนั่น”



    หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างฉงน



    “น้ำอะไรของแกวะ”



    “ห้องแกเหม็นจะตาย ฉันก็เลยรินน้ำใส่แก้วกินล้างคอ ใครจะไปรู้ว่านายไม่ได้เอาแก้วไว้ใส่น้ำ ใส่ใบอะไรก็ไม่รู้”



    เฟรินนึกภาพตาม นานพอสมควรหล่อนจึงร้องอ๋อ



    “คิล ลุกขึ้นกระโดดตบซิ”



    ชายหนุ่มทำตามโดยไม่โต้แย้ง ร่างในเกราะเหล็กกระโดดตบดังคร้องแคร้ง ทำให้เฟรินตบมือชอบใจ



    “ยาสั่งของไอ้โกโดมนี่เอง ฉันห่อใบไม้ใส่เอาไว้ในแก้ว นายคงกินแล้วไปอาบน้ำอุ่นสินะ แหม ได้ผลดีชะมัด”



    “แก้อาคมให้คิลเดี๋ยวนี้เฟริน” เจ้าชายแห่งคาโนวาลเอ่ยเรียบ



    “เดี๋ยวสิ ขอฉันสนุกก่อน คราวนี้ขอจังหวะมันๆหน่อย เต้นแท็ปก็แล้วกันคิล”



    แม้จะเต้นแท็ปไม่เป็น แต่นักฆ่าก็พยายามเคาะเท้าเป็นจังหวะอย่างสุดชีวิต ดวงตาสีม่วงหันไปมองดวงตาสีฟ้าอย่างวิงวอน คาโลที่อยากจะทำไม่รู้ไม่ชี้จึงถอนหายใจเบาๆ แล้วคว้าร่างสาวคนรักให้หันมามองตัวเอง



    “วันนายก่อเรื่องมาพอแล้ว ปล่อยคิลซะ” เขาเอ่ยช้าชัด พร้อมจ้องตาหล่อนไปด้วย



    “ฮึ้ย ไม่เอา ขอฉัน...”



    “เฟริน” น้ำเสียงทุ้มนุ่มพาให้ใจหวิว “อย่าดื้อ ถ้าอยากสั่ง ก็มาสั่งฉัน”



    “พ...พูดอะไรของนาย ผีเจ้าชายมาดมากออกจากร่างเรอะ”



    รอยยิ้มกระชากใจผุดขึ้นมาบนดวงหน้าคมคาย มือใหญ่ขยับปัดปอยผมที่ระหน้าผากให้สาวคนรัก แล้วป้ายรอยโคลนที่หางคิ้วออกให้ด้วยปลายนิ้ว



    “ไม่เหนื่อยหรือ รีบกลับกันดีกว่า”



    “ฉันยังมีแรงเหลือเฟือ”



    “แต่ฉันไม่ นายทำคิลแบบนี้ ถ้าพ่อคิลมาเอาเรื่อง ฉันอาจจะช่วยนายไม่ไหว”



    “คาโล” หญิงสาวเสียงอ่อนยวบ ทั้งน้ำเสียง ทั้งแววตา เจอหมอนี่ทำตัวหวานๆสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันมันไม่ชินจนเริ่มทำอะไรไม่ถูก



    “ถอนอาคมให้คิล ที่ผ่านมายังเดือดร้อนไม่พอหรือ” แม้จะดุ แต่น้ำเสียงกลับนุ่มแสนนุ่ม



    “แต่ว่า...”



    “ว่าง่ายๆถึงจะน่ารักรู้ไหม”



    น่ารัก...



    คำที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินดังก้องอยู่ในหัวเป็นล้านๆครั้งจนสมองเบลอไปหมด



    “คิล ไม่ต้องทำตามที่ฉันพูดแล้ว”



    เสียงเต้นแท็ปหยุดลงทันใด พร้อมๆกับจุมพิตแผ่วเบาที่ทาบลงมาเบาๆต่อหน้าเพื่อนฝูง



    “รางวัล”



    คนยิ้มยากยิ้มให้หล่อนอีกครั้ง ใบหน้าคมคายที่เคร่งดุอยู่เสมอดูละมุนลงมาก เฟรินหน้าร้อนฉ่า จะขยับปากจะเรียกร้องขอรางวัลเพิ่ม แต่ชายหนุ่มก็ผละไปเสียก่อน



    “ส่วนการลงโทษ นายไปรับจากอาจารย์คิงชามัลเอาเอง”



    “หา”



    มู้ดหวานแหววสลายไปไวเหมือนโกหก



    เย็นชาแบบนี้สิ ถึงสมเป็นไอ้น้ำแข็งงี่เง่า



    แล้วคาโลก็เดินไปพูดกับคิลโดยไม่สนใจเธออีก ทำให้เฟรินทึ้งผมตัวเองอย่างโกรธเกรี้ยว



    โดนอีกแล้ว มารยาชาย



    เธอเหมือนป้าโง่ๆที่โดนเด็กหนุ่มรูปหล่อหลอก



    นักรักผู้เจนโลกรู้สึกเสียศักดิ์ศรีจนอยากจะกรี๊ด มองตามหลังคนทั้งคู่ที่หาบันไดพบอย่างรวดเร็วแล้วเดินหายไปในความมืดแล้วก็เริ่มนึกกลัว รีบขยับลุกตาม




    โกโดมรอดตายหวุดหวิด และถูกปล่อยออกมาจากกรงดักหนูอย่างไร้รอยขีดข่วน เมื่อมองเห็นเจ้าชายแห่งคาโนวาลกลับร่างเดิมได้ ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือก แล้วหันไปมองเจ้าหญิงตาแป๋ว



    “นึกแล้ว ไม่ต้องให้กระหม่อมบอก เจ้าหญิงก็ต้องมอบจุมพิตให้ท่านราชบุตรเขย”



    “อย่ามามั่วนิ่ม ที่จริงแกลืมน่ะสิ เจ้ากวางโง่”



    “อ๋อ ต้องจูบนี่เอง” คิลแกล้งทำความเข้าใจด้วยเสียงอันดัง เรียกสีเลือดขึ้นมาบนใบหน้าของเพื่อนทั้งสอง "ชาวเดมอสนี่ก็โรแมนติกไม่เบา หึๆ จูบถอนคำสาป ตอนเฟรินกลายเป็นหมาก็น่าจะลองดูนะ อาจจะไม่ต้องไปลำบากลำบนถึงเดมอสก็ได้"



    “การดูดอาคมทางปากไม่ปลอดภัยพระเจ้าค่ะ ความจริงกระหม่อมไม่อยากแนะนำ” โกโดมเอ่ยเครียด



    “ทำไม” คาโลถาม คิ้วเข้มเริ่มขมวด ชายหนุ่มยังรู้สึกแขยงกับอาคมดำจากเดมอสอยู่ไม่น้อย



    “เพราะมันจะนำไปสู่การทำอย่างอื่น...”



    พูดค้างไว้ให้คนฟังทั้งสามหน้าแดง ดวงตาสีแดงก็เหลือบมองราชบุตรเขยขึ้นๆลงๆ แล้วก็หันไปพูดกับเฟริน



    “ท่านราชบุตรเขยขัดขืนหรือพระเจ้าค่ะ”



    คำถามแปลกๆของโกโดมทำให้สามชีวิตในห้องนอนของเจ้าหญิงแห่งเดมอสหันมามองหน้าเล็กๆของโคมุส แล้วหันไปมองสภาพคาโล ชุดนักเรียนของชายหนุ่มขาดวิ่น โดยเฉพาะตรงตะเข็บรอยต่อต่างๆ และยังเปื้อนโคลนเป็นด่างดวง หมดสภาพมิใช่น้อย



    น่าจะขาดตอนมันแปลงเป็นหมี



    เฟรินนึกรู้ในใจ แต่ก็อดแซวไม่ได้



    “นายก็ไม่น่าดิ้นซะขนาดนั้นเลยน้า ทำเป็นสาวบริสุทธิ์ไปได้”



    เหมือนระเบิดลงจนวงแตกกระจุย



    ผิวขาวจัดขึ้นสีแดงก่ำ อย่างที่คนมองเดาไม่ออกว่าแดงด้วยความโกรธหรืออาย แต่คิลชักรู้สึกตุ่ยๆไม่อยากอยู่ด้วยแล้ว จึงรีบลาไปนอน โกโดมเองก็ถือว่าเจ้าหญิงมีคนดูแลแล้ว จึงลาไปพักผ่อนด้วย



    เหลือแต่ชายหนุ่มรูปงามที่มอมแมมเล็กน้อย กับหญิงสาวผมเปียที่รุ่ยร่ายจนดูทรงไม่ออก และมอมแมมพอๆกัน



    รอยยิ้มเย็นแบบเดาอารมณ์ไม่ออกปรากฏบนใบหน้าคมคาย เฟรินเหลือบมองซ้ายมองขวาแล้วก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วหัวเราะปลอบใจตัวเอง เดินไปตบไหล่คาโลป๊าบๆ



    “ไปอาบน้ำนอนเหอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วเนอะ”



    ดวงตาสีฟ้าพิจารณาดวงหน้ามอมแมมที่กำลังยิ้มร่าปัญญาอ่อนอย่างเย็นชา



    “นายเคยจูบมาเยอะหรือ”



    เอื๊อก



    “ก็...ไม่ค่อยอยากคุยหรอกนะ แต่ก็คิดว่ามากพอที่จะสอนคนอื่นได้” แม้คำถามแปลกๆของคนมาดมากจะทำให้ร้อนๆหนาวๆ แต่คนขี้คุยก็อดโม้ไม่ได้



    “แล้วสาวบริสุทธิ์ล่ะ จูบมากี่คน”



    เฟรินนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ามองใบหน้าคมคายเมื่อรู้สึกว่ามือใหญ่จับไหล่ตนไว้ทั้งสองข้าง



    “ไหนลองบอกฉันหน่อย ว่ารสชาติมันเป็นยังไง ฉันจะได้เปรียบเทียบถูก”



    หญิงสาวหลบสายตาที่จ้องมาพร้อมๆกับใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้ มือใหญ่ประคองใบหน้าหล่อนให้แหงนเงยขึ้น แล้วประทับริมฝีปากลงช้าๆ



    หญิงสาวยอมเขาแต่โดยดี แต่จูบนั้นกลับไม่น่าประทับใจ เมื่อเฟรินนั้นนิ่งจนผิดปกติ จนเขารู้สึกเหมือนกำลังจูบซาลาเปานุ่มๆอยู่



    เจ้าชายน้ำแข็งเริ่มร้อนใจ นี่ยังไม่ได้ครึ่งของที่เขาคิดจะหยอกหล่อนเลยนะ อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ



    “เป็นอะไรไป”



    มือใหญ่ช้อนใบหน้าหวานที่ก้มงุดขึ้นสบตากับเขา ดวงตาคู่โตมีรอยเศร้าเจือเล็กน้อย



    “สาวบริสุทธิ์รสแบบไหนฉันไม่รู้หรอก ที่ฉันเคยจูบก็มีแต่พี่สาวไก่แก่แม่ปลาช่อน” เฟรินพูดเสียงเบาพยายามทำให้ร่าเริง “ตลกไหม ทั้งๆที่ฉันชอบโม้เรื่องผู้หญิง แต่กลับไม่เคยมีความรัก”



    ชายหนุ่มดึงร่างบางมากอดไว้เต็มอ้อมแขน แล้วก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากเนียน



    “ไม่เคยมีใครรักฉันจริงๆเลย...”



    จุมพิตที่ร้อนแรงกว่าเดิมทาบลงหยุดคำพูดของหล่อน



    “จำไม่ได้หรือ ว่ามีคนเกือบตายเพราะนายตั้งหลายครั้ง”



    “คาโล” หล่อนมองเขาตาใส



    “ถ้านายบอกว่าไม่มีใครรักอีก ฉันจะโกรธ”



    ดวงตาคู่โตเบิกกว้างเหมือนแปลกใจเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนหวานจะแย้มออกมาให้เขาชื่นใจ



    “นี่นายบอกรักฉันอยู่เหรอนี่ ฟังยากชะมัด คิดตั้งนาน”



    โหนกแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ เขารีบดันหลังหล่อนเข้าห้องน้ำ



    “ไปอาบน้ำนอนซะ”



    “ไม่เข้ามาด้วยกันเหรอ” เฟรินถามเสียงเคร่ง



    ไม่รู้จักจำ



    เมื่อเขาทำท่าจะเข้าไปจริงๆ แม่ตัวยุ่งก็ปิดประตูใส่หน้าดังโครม




    เหตุการณ์วุ่นๆในวันนั้นทำให้เฟรินเหนื่อยจนแทบสลบ และสลบไปจริงๆเมื่อต้องคัดลอกกฎการใช้เวทมนตร์สำหรับนักเรียนหนึ่งร้อยจบ เจ้าชายคาโลเมื่อซักโกโดมจนรู้ต้นสายปลายเหตุของยาสั่งว่าที่จริงมีเป้าหมายที่เขา ก็ไม่ยอมพูดกับเธออีกเป็นอาทิตย์



    ไหนว่ายอมตายเพื่อเธอได้ไง ไอ้คนขี้โกหก



    คิลเองก็ดูหมางเมินบอกไม่ถูก แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอสำนึกได้อย่างจริงจัง



    “เฟริน นายใส่บราแล้วนี่” แองเจลีน่าทักเมื่ออยู่กันสองคน



    “อืม ฉันรู้แล้วว่ามันโจ๋งครึ่งไปหน่อยจริงๆแหละ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย เปียกแล้วเสียวไส้”



    “หืม”



    แองเจลีน่าเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เฟรินยักไหล่แล้วก็เดินไปหาแฟนหนุ่มที่ยังไม่อยากจะมองหน้าเธอเท่าไหร่



    “ไปกินข้าวกันเถอะ”



    ความเงียบคือคำตอบ



    “อย่าโกรธเลยน่า”



    ชายหนุ่มยังเงียบ



    “ฉันรักนายนะ นะ ผู้ชายขี้งอนไม่น่ารักรู้ไหม” เสียงเอ่ยแสนออดอ้อนหวานหยด



    “งั้นก็ไม่ต้องมารัก” เสียงตอบนิ่งราวผิวน้ำยามไร้ลม



    “ก็รักไปแล้วนี่” พูดแล้วเฟรินก็งงตัวเองที่หน้าทนขึ้นทุกวัน



    เพิ่งรู้ว่าของแบบนี้พูดบ่อยๆเข้าก็ชินได้



    ใบหน้าคมคายยอมหันมามอง เจ้าหล่อนจึงถือวิสาสะกอดเอวเจ้าชายหนุ่มไว้ แล้วฉีกยิ้มหวานให้



    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทนเปลืองตัวง้อมันอีกสักหน่อย เดี๋ยวก็ใจอ่อน



    “ฉันไม่ได้คิดจะใช้ยานั่นกับนายจริงๆนะ สาบานเลยเอ้า”



    “คำพูดของขโมย เชื่อถือไม่ได้” ร่างสูงยังวางฟอร์ม



    “งั้นจะให้ทำยังไง นายถึงจะเชื่อ”



    คาโลมองออกไปนอกระเบียง คนง้อจึงรีบงัดไม้ตายที่คิดมาหลายวันแต่ไม่กล้าทำออกมา



    “งั้นฉันยอมสาบานแบบคาโนวาลก็ได้”



    “อะไรของนาย”



    หญิงสาวเขย่งกายขึ้นจุมพิตเจ้าชายหนุ่มแล้วก้มหน้างุด แก้มใสๆแดงระเรื่อ



    “จุมพิตสาบานของเจ้าชายไง ทีนี้เชื่อฉันหรือยัง”



    คนฟังฟังแล้วเกือบยิ้ม แต่ก็แกล้งถอนหายใจเฮือก พลางส่ายหน้าอย่างปลงๆ



    “นายจำผิดแล้ว นั่นฉันต้องเป็นคนทำ”



    อยากจะบอกต่ออีกว่าเป็นจุมพิตสาบานรัก แต่ดูจะเข้าทางคนตรงหน้าเกินไป เขายังไม่อยากให้อภัยหล่อนเร็วนัก ถึงเขาจะหายโกรธแล้วก็เถอะ



    “งั้นฉันต้องสาบานแบบไหน”



    “สาบานทุกวัน”



    “หา”



    “ทำแบบเมื่อกี้ทุกวัน แล้วฉันจะยอมเชื่อ”



    “อะ...”



    หล่อนผละหนีหน้าแดงก่ำ แต่มือทั้งสองข้างถูกรั้งไว้ ใบหน้าคมคายก้มต่ำ ต่ำจนแนบสนิทกับใบหน้าหวาน



    คบกับเจ้าหล่อนมีแต่ขาดทุนย่อยยับ ตอนนี้ต้องขอเอากำไรเสียหน่อย



    คราวนี้หญิงสาวไม่ดิ้นหนี ไม่โวยวาย แม้เขาจะถือโอกาสขยับมือลงไปลูบที่ต้นขาของหล่อน หล่อนเพียงแต่หยิกหลังมือเขาแรงๆแล้วจับขึ้นมาไว้ที่เอวเหมือนเดิม



    นับว่าเจ้าหล่อนยอมเขามากเอาการ แต่คงไม่ยอมไปมากกว่านี้ เขาจึงยอมวางไม้วางมือไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำตัวสงบเสงี่ยม จูบเบาๆแบบสุภาพสมเป็นผู้ดีต่อไป ก่อนที่คนครึ่งหญิงครึ่งชายจะทนการปลุกเร้าไม่ไหวแล้วแก้เขินโดยการทำร้ายร่างกายเขา



    วันหลังค่อยรุกให้มากกว่านี้



    กอดเพลินๆ จูบไปเพลินๆ หน้าผากกับสองมือก็รู้สึกอุ่น



    แล้วแสงสีทองก็สว่างวาบ









    THE END






    ส่วนผสมยาแปลงเพศ





    เลือดหมี โกโดมอยากได้เลือดหมีแพนด้าแห่งป่าไผ่ทองคำในซาเรส


    เลือดแมว โกโดมอยากได้เลือดแมวเก้าชีวิตแห่งนครจันทรา


    เลือดโคอาล่า โกโดมอยากได้เลือดโคอาล่าลึกลับแห่งป่ายูคาลิปตัสเงาจันทร์ในเจมิไน


    เลือดปลาทอง โกโดมอยากได้เลือดปลาทองหัววุ้นอเมซอน


    เลือดเพนกวิน โกโดมอยากได้เลือดคิงเพนกวินจากทุ่งน้ำแข็งมรณะในสโนวแลนด์


    เลือดเสือ โกโดมอยากได้เลือดเสือเบงกอลจากพริสท์โบโรว์


    น้ำตากุมารทอง โกโดมหาได้



    *หมายเหตุ
    ตอนทำจริงเฟรินเร่งยิกๆ ทำให้โกโดมหาของที่ต้องการไม่ทัน เลยใช้ ‘เลือดรวมบรรจุขวด’ สำหรับนักปรุงยามือใหม่ ง่ายจนลิงก็ทำได้ สรรพคุณครอบจักรวาล ใช้ดมใช้ทาในขวดเดียวกัน มีขายแถวตลาดมืดเมืองหน้าด่าน แทนส่วนผสมหายากทั้งหลาย แล้วใช้น้ำตากุมารทองเป็นกระสายยา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×