ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (ฟิกบารามอส) ยิ้มหน่อยน่า คาโล

    ลำดับตอนที่ #7 : คืนนี้มีลุ้น (2)

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 48


    “วันนี้เธอสวยนะเฟริน”  ดวงตาสีน้ำเงินจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานอย่างประหลาดใจนิดๆ



    “พี่พูดเหมือนท่านอาเธอร์เลย  พี่ก็จะจีบผมเหรอฮะ”



    เฟรินเดินดุ่มๆฝ่าเข้าไปกลางวงสาวๆที่ล้อมรอบเจ้าชายเจ้าเสน่ห์แห่งเจมิไนจนวงแตก  ถอยหนีกันไปทีละคนสองคน  ดวงหน้าคมคายนั้นขยับรอยยิ้มน้อยๆ

        

    “ฉันคงไม่จีบเธอหรอก  ขี้เกียจละลายน้ำแข็ง”



    คำตอบนั้นทำให้เฟรินทำหน้าเหยเก  ทำไมใครๆก็ชอบพูดเรื่องนี้นักนะ  ทำยังกะมันเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัวเธอ



    “พี่เป็นไงบ้างฮะ  ได้ข่าวว่าพี่ป่วยจนเกือบมาไม่ได้  สาวๆเสียใจกันยกใหญ่”



    “ก็แค่เป็นหวัด  ตอนนี้ก็มาแล้วไง  ว่าแต่เธอเถอะ  ได้ข่าวว่าเกือบตกวิชาของอาจารย์แม่มดวิงกี้  คทาใหม่นั่นไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอ”



    “แฮะๆ  มันผิดพลาดตอนร่ายเวทย์น่ะฮะ  ผมมันคนสมองทึบ  จำอะไรยาวๆไม่ค่อยไหว”



    “ทั้งๆที่ฉันว่าจะยกตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายให้นายรับช่วงต่อแท้ๆ  เห็นนายท่าทางหน่วยก้านดี”



    “โอ้ย  ไม่ไหวหรอกฮะ  แค่นี้วันๆผมก็นอนไม่ค่อยพออยู่แล้ว  ถ้าเวลานอนลดลงไปอีกผมคงหลับทั้งยืนแน่ๆ”  เจ้าตัวดีตอบแล้วก็ฉีกยิ้มกว้าง



    ไฟบริเวณที่ยืนอยู่ดับลง  เฟรินมองซ้ายมองขวา  โรเวนเห็นแล้วก็อมยิ้มอย่างเอ็นดู



    พอมันทำตัวดีๆแล้วก็น่ารักไม่ใช่เล่น



    ทั้งสวยทั้งมีอำนาจ  สมกับที่อาเธอร์หมายปอง



    “เค้าให้รุ่นพี่ปีเจ็ดออกไปเปิดฟลอร์  ฉันเองก็คงต้องไปด้วย”



    “พี่จะเต้นกับใครฮะ” พูดพลางเหล่ไปที่กลุ่มสาวๆที่ยืนซุบซิบกันอยู่ใกล้ๆ สายตาที่พวกหล่อนมองมาวิบๆวับๆชอบกลจนเฟรินขนลุก



    “ไม่รู้สิ คงหาเอาแถวๆนี้มั้ง ฉันมันคนโชคไม่ดี ไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนเหมือนเธอ”



    ช่างน่าสงสารน้องสาวที่เวนอล  พี่โรเวนไม่เคยยอมรับความรู้สึกของเธอเลย



    ไหนว่าฉลาดนักหนา  ทำไมไม่หาทางให้ความรักสมหวัง  ทั้งๆที่ลึกๆแล้วตัวเองก็ชอบวิเวียนแท้ๆ



    เฟรินแอบประชดแทนน้องสาวอยู่ในใจ



    “เธอสนใจมั้ยล่ะเฟริน”



    “ฮะ?”



    ร่างสูงค้อมลงนิดๆ  พลางยื่นมือมาด้านหน้า



    “ให้เกียรติเต้นรำกับฉันสักเพลง  เจ้าหญิงเฟลิโอน่า”



    “ไหนว่าพี่จะไม่จีบผมไง”  ปากก็ว่าแต่มือเล็กกลับวางลงบนอุ้งมือใหญ่



    “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว  เจริญไมตรีกับบารามอสไว้ไม่เสียหาย”  ดวงหน้าราวเทพบุตรขยับรอยยิ้มที่ดูไม่ออกว่าเอาจริงหรือล้อเล่น



    เฟรินยิ้มแยกเขี้ยว  เธอรักษาผลประโยชน์ให้น้องสาวหรอก  ขืนปล่อยให้เต้นกับคนอื่นวิเวียนรู้เข้าคงเสียใจแย่  หนี้แค้นที่พี่เคยเล่นงานคนของเธอจนอ่วมก็ยังไม่ได้ชำระ  เอามารวมทบต้นคราวนี้แหละ



    “ผมเต้นท่าผู้หญิงไม่เก่งนะฮะ”



    “ไม่เป็นไร  ฉันก็เต้นท่าผู้หญิงไม่เก่งเหมือนกัน”



    ร่างสูงพาร่างบางเดินลิ่วลงไปกลางแสงไฟ







    “นายไม่ไปหรือ”  โรเปรยลอยๆขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ที่คู่หนุ่มหล่อสาวสวยที่กำลังพลิ้วอยู่บนฟลอร์



    “นายชวนฉันเต้น?”  คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม  ดวงตาสีมรกตหันกลับมามองเพื่อนร่วมโต๊ะพลางขยับรอยยิ้มกับอารมณ์ขันหน้าตายของเจ้าชายน้ำแข็ง



    “ถ้าฉันชวน  นายจะไปมั้ยล่ะ” ขอทานแห่งทริสทอร์ต่อมุข  พลางจ้องตาเจ้าชายแห่งคาโนวาล  ดวงตาสีฟ้าจ้องตอบ



    “ฉันไม่มีรสนิยมชอบเต้นกับผู้ชาย”  มือขาวหมุนแก้วใสในมือเล่น



    “ฉันชวนนายให้ออกไปหาคู่เต้นกัน ไม่ได้ให้นายมาเต้นคู่กับฉัน”



    “ต้องรอให้พี่ปีเจ็ดเต้นสองเพลง”



    “แปลว่านายจะออก”



    “ไม่ ”



    “ไม่ไปเต้นกับเฟรินล่ะ”



    “หมอนั่นเต้นท่าผู้หญิงไม่เก่ง”



    โรแอบขำกับมาดของเจ้าชายคนนี้แต่พอมองไปที่ลานก็เห็นเฟรินเหยียบลงไปที่เท้าของเจ้าชายแห่งเจมิไนเข้าเต็มรัก  หน้าหล่อๆนั่นมีรอยเครียดขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะแทนที่ด้วยรอยยิ้มอย่างเคย



    “เฟรินมันแกล้งพี่โรเวนเหรอ” คิลซึ่งดูอยู่เงียบๆมาตลอดสังเกตเห็นมานานแล้ว “บ๊ะ! มันแน่จริง” ครั้งนี้เป็นครั้งที่หกที่เจ้าหญิงคนงามจากบารามอสและเดมอสเหยียบเน้นๆลงไปบนเท้าคู่เต้น  ไม่แปลกเลยที่คนใจเย็นอย่างเจ้าชายแห่งเจมิไนจะเริ่มมีอารมณ์



    “ฉันว่ามันไม่ได้แกล้ง” ความเห็นมาจากคาโล



    “หรือว่านายเคย” ดวงตาสีมรกตจ้องอย่างใคร่รู้



    รอยยิ้มหยันแทนคำตอบ





    ‘ถ้าฉันเต้นเป็นผู้หญิงล่ะก็จะกลายเป็นจอมทำลายล้าง’



    เจ้าตัวดีประกาศออกมาอย่างเขินๆหลังจากเหยียบเท้าเขาเป็นครั้งที่เจ็ดตอนเรียนลีลาศในวิชามารยาทพระราชา



    ‘ก็มันเคยเต้นแบบตรงกันข้ามจนอยู่ในสายเลือดแล้วนี่  จะให้เปลี่ยนตอนนี้ก็เหมือนให้หัดเขียนหนังสือมือซ้าย’



    เจ้าหล่อนรีบแก้ตัวเมื่อความร้อนในดวงตาเย็นชาของคนตรงหน้าเริ่มจะทะลุจุดเดือด





    “ถ้าหมอนั่นขอใครเต้นล่ะก็  แสดงว่ามันมีความแค้นกับคนนั้น”  คาโลขยายความเมื่อเห็นคนผมสีชาทำท่าอยากรู้จนออกนอกหน้า



    “ขนาดนั้น?”



    “ฉันขี้เกียจไปเสี่ยง”  



    ตกลงเฟรินมันห่วยจริง  คาโลไม่ได้แค่แกล้งทำวางมาดหรอกรึ







    บรรยากาศระหว่างคู่หนุ่มหล่อสาวสวยเริ่มอึมครึม  เมื่อขโมยสาวเหยียบในสิ่งที่ไม่ควรจะเหยียบเป็นครั้งที่แปด



    การแก้แค้นที่ไม่ได้คาดคิดชักจะเลยเถิด  ยิ้มของเฟรินเริ่มจืดลงๆ



    “ขอโทษฮะ”



    “ไม่เป็นไร  แต่ฉันเชื่อแล้วล่ะว่าเธอเต้นท่าผู้หญิงไม่เก่ง”  ดวงตาสีน้ำเงินดูกรุ่นๆ  ถึงหน้าตาจะยังยิ้มอยู่ก็เถอะ



    เฟรินยิ้มแหย  พี่โรเวนจะคิดว่าเธอแกล้งมั้ยเนี่ย



    โว้ย  พลาดๆๆ  ความจริงเธอคิดว่าจะเต้นให้เริ่ดไปเลยตะหาก



    แผนที่คิดไว้ในใจ  --ยุทธการปั่นหัวเจ้าชายแห่งเจมิไนด้วยเสน่ห์สาวน้อยน่ารัก-- เริ่มต้นจากการสร้างบรรยากาศโรแมนติกโดยเต้นให้พลิ้วสุดๆจนพี่โรเวนทึ่ง จ้องตาแบบอายๆแล้วก็ยิ้มหวานหว่านเสน่ห์สักเล็กน้อย (หรือมากๆแล้วแต่ความต้านทานของฝ่ายตรงข้าม) สักพักพอไอ้คาโลทนไม่ได้เข้ามาแทรก (มันต้องมาแน่ ยังไง้  ยังไงมันก็ต้องมา) เธอก็จะหันไปสวีทกับมัน ให้พี่โรเวนหน้าแตก พอทั้งคู่เริ่มเขม่นกันเธอก็ทำเป็นกลุ้มไม่รู้จะเอายังไงแต่แอบสะใจ  แต่ในความเป็นจริง  



    เธอเต้นห่วย



    คาโลไม่มา



    แผนปัญญาอ่อนของเธอล่มไม่เป็นท่ากลายเป็นการแก้แค้นโดยการใช้กำลังอย่างโหดร้ายเพื่อให้ว่าที่คิงแห่งเจมิไนสูญเสียนิ้วเท้า  เป็นอีสาวใจโฉด  เล่นกันถึงพิการ



    เสียงดนตรีหยุดลงพร้อมๆกับการแอบถอนหายใจของคนทั้งคู่  



    “พี่จะเต้นต่ออีกมั้ยฮะ  ผมจะลงแล้ว”



    “ฉันคงไม่เต้นแล้วล่ะ”  โรเวนตอบยิ้มๆ  พลางคิดว่าพรุ่งนี้คงเดินกะเผลกแน่



    “ขอโทษนะฮะ  ผมก็ไม่นึกว่าตัวเองจะเต้นได้แย่ขนาดนี้” เฟรินก้มหน้างุด  มือประสานกันแน่น  ไม่ทันเห็นดวงตาสีน้ำเงินทอดที่มองมาอย่างเอ็นดู  เขาจับมือเธออย่างสุภาพแล้วพาเดินออกมาจากฟลอร์



    “งั้นวันหลังวันสอนให้เอามั้ย”



    “วันหลัง?  แต่พี่เรียนจบแล้วนี่ฮะ  หรือพี่จะอยู่เอดินเบิร์กต่อสักพัก”  ดวงตาสีน้ำตาลมองคนข้างๆอย่างฉงน  



    “เปล่า  ฉันชวนเธอไปเที่ยวเจมิไน”



    ยังไม่ทันตอบคำ  เฟรินก็รู้สึกเสียววาบขนคอลกซู่  บรรยากาศเย็นยะเยือกแผ่มาจากด้านหลัง  พอหันไปดูก็พบกับดวงหน้าคมคายที่ยืนหน้าตายอยู่  พอหันไปทางพี่โรเวนก็รู้สึกตัวว่าเขายังไม่ได้ปล่อยมือเธอ  เฟรินพยายามสะบัดเบาๆ  แต่ไม่หลุด ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น



    เป็นไปตามแผนแล้วเหรอ



    พี่โรเวนจีบเธอ  คาโลมาแล้ว



    “อ้าวคาโล  เธอมาหาคู่เต้นหรือ”  น้ำเสียงเจ้าชายแห่งเจมิไนเป็นปกติ  แต่ตรงไหนสักแห่งที่เฟรินรู้สึกว่าเป็นการท้าทาย



    ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองไปที่มือของทั้งคู่แล้วก็เลยไปที่ดวงหน้างามที่เริ่มออกอาการกระอักกระอ่วน



    “ผมมีธุระจะคุยกับเฟริน”



    “ธุระงั้นหรือ  คอขาดบาดตายรึเปล่า  รอให้งานเลิกก่อนได้มั้ย  ฉันว่าจะคุยกับเฟรินเรื่องไปเที่ยวเจมิไนตอนปิดเทอมนี้”



    ขโมยสาวสาบานได้เลยว่าเมื่อกี้เห็นประกายไฟแวบหนึ่งในดวงตาเย็นชานั้น



    “งั้นผมไม่รบกวนพี่แล้ว”  ร่างสูงหันหลังกลับไปโดนไม่มองหน้าเธอสักแอะ



    เดี๋ยวคาโล  บทไม่ใช่แบบนั้น  อย่าเพิ่งยอมแพ้  ให้ตายสิ  ถึงคราวเธอเล่นแล้ว



    เฟรินดึงมือออกได้ในที่สุด  



    “ผมไปคุยกะมันดีกว่าฮะ เดี๋ยวมันงอน”



    “งั้นหรือ” เจ้าชายแห่งเจมิไนพยักหน้ายิ้มๆ “งั้นก็ไปเถอะ เรื่องที่ฉันชวนอย่าลืมลองไปคิดดู”



    “ฮะ ถ้าผมไปพี่จะพาผมไปเยี่ยมวิเวียนด้วยรึเปล่า” หัวขโมยไม่ลืมหย่อนลูกระเบิดตามนิสัย



    “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพระจักรพรรดินีแห่งเวนอลจะทรงอนุญาตรึเปล่า ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ” ดวงหน้าคมนั้นเดาอารมณ์ไม่ออก  “ทางที่ดีเธอไปเองไม่ต้องให้ฉันพาไปจะสะดวกกว่า  เพราะเธอเป็นพี่หญิงของพระจักรพรรดินี”



    ดวงตาสองคู่จ้องกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หญิงสาวจะเป็นฝ่ายหลบ



    “งั้นผมไปนะฮะ”



    เฟรินไม่ลืมฉีกยิ้มกว้างก่อนจาก  ตอนนี้ในหัวไม่มีเรื่องแผนบ้าๆเหลืออยู่  มีแต่ความสงสารน้องสาววิเวียนนานีย่าขึ้นมาจับใจ



    พี่โรเวนนะพี่โรเวน  จะใจร้ายใจดำก็น่าจะให้มีขอบเขตบ้าง







    “คาโล” กว่าเธอจะก้าวทันขายาวๆของคนตรงหน้าก็เล่นเอาเหนื่อย ไอ้รองเท้าส้นสูงนี่มันช่างไม่ได้ดั่งใจเลยให้ตายสิ



    “มีอะไร” ร่างสูงหันมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์อย่างเคย  



    “ก็นายบอกว่ามีธุระจะคุยกับฉัน”



    “นายกำลังยุ่งไม่ใช่เหรอ รอให้งานเลิกก่อนก็ได้” แล้วคาโลก็หันกลับไปทำท่าจะเดินต่อแต่มือเล็กรีบคว้าแขนคนตรงหน้าเอาไว้



    “ฉันว่างแล้ว นายอย่างอนสิ”



    “ฉันไม่ได้งอน”



    “นายก็รู้ว่าพี่โรเวนเค้าแกล้งนายเล่นไปยังงั้นเอง”



    “เขาจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”



    “คาโล!”  หญิงสาวชักจะมีน้ำโห “เออ  ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว  นายมีธุระอะไรก็รีบๆบอกมาสิฉันจะได้ไปคุยกับพี่โรเวนต่อ”



    “นายไปเถอะ  ฉันไม่รีบ”



    ไม่รีบแล้วเมื่อกี้เข้ามาขวางทำไมวะ



    “ถ้านายไม่รีบก็อยู่คุยกับฉันหน่อยสิ”  เฟรินเริ่มงัดไม้อ่อนออกมาใช้  ดวงตาสีฟ้าเหล่มามองนิดๆก่อนจะเมินไปทางอื่น



    “มีไรก็พูดมา”



    “...”



    เป็นครั้งแรกที่หัวขโมยจอมเจ้าเล่ห์อับจนด้วยคำพูด  คนเย็นชาทำเอาคนร่าเริงเริ่มบูดสนิท



    พูดไปพูดมาก็วนกลับมาที่เดิม  ทำไมหมอนี่ถึงหัวแข็งมาดมากแบบนี้นะ  



    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักใหญ่  ในที่สุดหญิงสาวก็ถอนหายใจเฮือก  ดวงตาสีน้ำตาลมองร่างสูงตรงหน้าที่กำลังยืนกอดอกทำเป็นเมินเธออย่างพิจารณา



    ผมสีเงินสว่างท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องวันนี้มันถูกเสยขึ้นทำให้ใบหน้าคมคายดูแปลกตา  อีกอย่างที่ไม่เหมือนเดิมคือผิวที่เคยขาวกลายเป็นสีระเรื่อ แต่ดวงตาสีฟ้าคู่เดิมยังคงสวยจนน่าหลงใหล



    นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้มองหน้าเขาให้ชัดๆ



    นานแค่ไหนแล้วที่เธอกับเขาไม่ได้คุยกันดีๆ



    เขาเอาแต่ยุ่ง



    เธอเอาแต่กวน



    “อะไร”  ร่างสูงเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกจ้อง







    ชัก....   อยากจะอ้อน









    “วันนี้นายหล่อจัง”



    ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างกับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินและไม่คิดว่าจะได้ยิน



    “ไปเต้นกันเถอะคาโล”  ร่างนุ่มเบียดเข้าไปเกาะแขนคนตรงหน้าอย่างถือสิทธิ์



    “ไม่  นายเต้นห่วย”  น้ำเสียงยังเย็นชาแต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นแรงขึ้นจนควบคุมไม่ได้



    “นะ  คาโล  ฉันจะพยายามเต้นให้ดี  ไม่เหยียบเท้านายอีก”  ว่าแล้วเจ้าตัวดีก็เอาแก้มเนียนแนบกับแขนที่ตัวเองเกาะ



    เจ้าชายแห่งคาโนวาลลอบถอนหายใจ  



    มันรู้จุดอ่อนเขาดีเกินไป



    “ก็ได้”  



    ดวงหน้าหวานแย้มรอยยิ้มกว้าง  เป็นรอยยิ้มที่กระชากใจคนมองให้หวั่นไหว  เฟรินรีบคล้องแขนคนขี้งอนกึ่งดึงกึ่งลากไปที่ลานเต้นรำ  คาโลยอมไปแต่โดยดี  แต่แล้วริมฝีปากก็ขยับพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้สาวน้อยหน้าร้อนวาบ  เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับคนข้างๆกาย



    “ถ้านายเหยียบเท้าฉันล่ะก็...”  



    ประกายในดวงตาสีฟ้าคู่นั้นให้หัวขโมยคิดไปไกลแสนไกล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×