ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : พบกันอีกครั้ง
เจอกันแล้ววว  มาต่อด้วยใจระทึก  เราตื่นเต้นเหมือนกัน
******************************************************************************
“คาโล”  เฟรินผวากอดคนที่ยังอุ้มหล่อนอยู่แน่น  แต่หล่อนก็ต้องตกใจเพราะมือที่อุ้มหล่อนค่อยๆคลายจนร่างบางร่วงลงบนพื้น  ถ้าไม่ได้โรรีบรับไว้  หล่อนคงตกกระแทกพื้นเข้าจริงๆ
“นายรู้จักกับผู้หญิงคนนี้หรือ  โร”
“รู้จักสิ  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  เดอะปริ้นเซส ออฟ เดมอส แอนด์ บารามอส”
“ธิดาแห่งความมืด”  เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่แสดงอารมณ์
ชื่อที่ไม่ได้ยินมานานเรียกสติของเจ้าหญิงที่กำลังงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างยิ่งให้กลับมา
“คาโล”  เสียงหล่อนอุทานอย่างตกตะลึง  ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองดวงหน้าหวานที่ดูซูบซีดก่อนจะเอ่ยปาก
“คาโล  วาเนบลี  เดอะปริ้นซ์ออฟคาโนวาล  เมื่อครู่ขออภัยที่หม่อมฉันเสียมารยาท  ยินดีที่ได้รู้จัก  เจ้าหญิงเฟลิโอน่า 
มือใหญ่เอื้อมมาดึงมือเล็กไปสัมผัสกับริมฝีปากตามมารยาท  รอยจุมพิตบนมือน้อยชืดชายิ่งกว่าน้ำแข็งก้อนไหนๆในความรู้สึกของเฟริน
มีหลายอย่างที่หายไป
ความคุ้นเคย
ความสนิทสนม
ความห่วงหาอาทร
...ความรัก
หัวใจของหล่อนเจ็บปวดราวกับถูกบีบ เฟรินส่งสายตารวดร้าวให้คนร่างสูงก่อนสติสุดท้ายจะหลุดลอยไป
“ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรหรอกนายท่าน  แต่ร่างกายอ่อนเพลียมากเหมือนขาดการพักผ่อนมานาน  แถมยังขาดสารอาหาร  เดมอสนี่เลี้ยงเจ้าหญิงยังไงกันแน่ ”
โรมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย  ลมหายใจสม่ำเสมอ  ดวงหน้าขาวซีดเซียว  ริมฝีปากที่เคยเป็นสีกุหลาบแห้งผากแตกเป็นริ้วๆ  พิษรักทำให้หล่อนบอบช้ำขนาดนี้
“เฮ้อ..” คิลถอนหายใจ  “ตกลงมันไม่ได้  เอ่อ...ท้องแน่นะ”
คำพูดของนักฆ่าแห่งซาเรสทำเอาบุรุษอีกสองคนในห้องหันมามองตาปริบๆ  ดวงตาสีฟ้ามีแววฉงนเมื่อสบกับดวงตาสีม่วงที่จ้องมองมาเขม็ง  ส่วนดวงตาสีมรกตกลับเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะเบือนไปทางร่างสูงที่ยืนพิงกำแพงอยู่
“ไม่ได้ตั้งครรภ์แน่นอนขอรับ”  ผีหมอจากคทาพิพากษายืนยัน  “แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปคงจะล้มป่วยไปจริงๆ  ถึงจะเป็นคนป่วยแต่ตราบใดที่ยังกินได้ก็ไม่ตาย  แต่นี่กินไม่ได้นอนไม่หลับ  อาการแย่ยิ่งกว่าคนป่วย  ถ้าจะรักษาก็ต้องให้กินอาหารที่มีประโยชน์แล้วก็พักผ่อนให้มากกว่านี้”
ไข้ใจแบบนี้ใครมันจะไปทำอะไรได้  ในเมื่อเจ้าตัวมันเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ 
ดวงตาสีม่วงเหล่ไปยังเพื่อนที่ยืนหน้าตายอยู่  เขาไม่เข้าใจกับท่าทีเย็นชาเกินเหตุของมันเลย
“ออกไปกันเถิดนายท่าน  ให้นายหญิงได้พักผ่อนก่อน”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นน้อยกับสรรพนาม นายหญิง  ก่อนที่บุรุษทั้งสามคนจะเดินออกจากห้อง
บรรยากาศในห้องอาหารเงียบสงบ  เนื่องจากไม่มีแขกคนอื่นนอกจากพวกเขา  เหล่าคนแคระทยอยเสิร์ฟอาหารเช้าอย่างรวดเร็วแล้วก็หายตัวไป  ในหัวคิลมีคำถามผุดขึ้นมามากมายจนนับไม่ถ้วน  ระหว่างที่คิดว่าจะถามอะไรก่อนดีน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นมาก่อน
“คนรักของนายหรือคิล”
นักฆ่าหนุ่มหันไปมองอย่างไม่เชื่อหู  มันพูดอะไรของมัน  จะทำไม่รู้ไม่ชี้ไปถึงไหน  ตอนแรกเขาคิดว่ามันแค่เก๊กต่อหน้าเฟริน  แต่ดวงหน้าคมคายไม่แสดงอาการใดๆที่ผิดปกติ  ราวกับว่ามันไม่รู้จริงๆ
“นายว่าไงนะคาโล  นายพูดถึงเฟรินเหรอ”
“เฟรินไหน  เฟริน  เดอเบอโรว์?  ฉันหมายถึงเจ้าหญิงคนนั้นต่างหาก”
“พวกเราเพิ่งออกมาจากป่าหลงลืม”  เสียงโรดังแทรกขึ้นมา  “หมอนี่โดนอาคมของพวกเอล์ฟดำเข้าไปนิดหน่อย”
คิลนิ่งอึ้ง  เริ่มชักจะเข้าใจอะไรขึ้นมาลางๆ  แต่ก็ยังมีเรื่องที่สงสัยมากมายอยู่ดี
“อย่าบอกนะว่านายลืมมันไปแล้ว”
“ใคร?  ถ้าเป็นเฟริน  เดอเบอโรว์  เดอะทีฟ  ออฟ  บารามอส  ฉันจำได้  เพื่อนร่วมห้องที่เอดินเบิร์ก  หมอนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“...”  คิลอึ้งหนักกว่าเดิม  ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดีจึงหันไปถามโร
“แล้วนายมากับมันได้ยังไง  โร”
“ฉันมันก็เร่รอนไปเรื่อย  พอผ่านเข้าไปในป่าหลงลืมก็เจอหมอนั่นถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ  นอนพักรักษาตัวอยู่ในถ้ำ”
ไม่น่าเชื่อสิ้นดี 
ดวงตาสีม่วงหรี่ลงอย่างมีความหมาย
เร่ร่อนไปเรื่อย  ในเดมอสนี่นะ  แถมยังเข้าไปในป่าหลงลืมพร้อมๆกันกับหมอนั่น
เจอมันบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในถ้ำ  อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น  ปกติใครเขาจะเข้าไปในถ้ำกัน
คำพูดที่มากพิรุธของโรทำให้คิลชักสงสัยหนักว่ามันปิดบังเรื่องสำคัญอะไรเอาไว้  เรื่องที่ไม่อยากให้ไอ้คาโลรู้
“แถมยังโดนอาคมของพวกเอล์ฟดำ” 
คิ้วเข้มของคิลขมวดมุ่น
“อาคมแบบไหน  หรือว่าที่มันลืมเฟริน?”
“ฉันบอกว่าฉันจำหมอนั่นได้”  น้ำเสียงของเจ้าชายจากคาโนวาลเริ่มกรุ่น  หน้าตึงอย่างไม่สบอารมณ์
“นายเล่ามาให้ละเอียดซิ” คิลไม่สนใจหันไปซักโรต่อ 
พอเห็นคู่ปรับเก่ามีท่าทีร้อนรน  รอยยิ้มก็ปรากฏบนในหน้า
“ตอนแรกฉันก็ไม่รู้  เพราะมันไม่มีอาการอะไรผิดปกติ  แถมหมอนี่มันก็พูดน้อยเราก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก  ฉันเองก็เพิ่งรู้ตอนมาถึงที่นี่แหละว่ามันลืมเฟรินไปแล้ว”
มันโกหก
ดวงตาสีม่วงเป็นประกายวาบก่อนจะอ่อนแสงลง
มันต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง  หมอนี่ไม่น่าจะคิดร้ายต่อเฟริน 
บุรุษอีกคนที่นั่งอยู่กอดอกนิ่ง  ดวงตาสีฟ้าฉายแววหงุดหงิดชัด  ต้องให้บอกอีกสักกี่ครั้งว่าเขาจำหมอนั่นได้  หัวขโมยไม่เจียมตัวที่เอาแต่ก่อเรื่อง  เพื่อนร่วมห้องตัวแสบที่ทำให้เขาต้องปวดหัวอยู่เสมอ  พอถึงปีสามหมอนั่นก็ย้ายออกไปแล้วก็ไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมันอยู่ในความทรงจำอีก  คาโลกัดฟันกรอด 
“ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว  ฉันบอกว่าฉันจำนายเฟริน เดอเบอโรว์ได้”  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเอ่ยเสียงเข้ม
“นายจำไม่ได้!”  เสียงนักฆ่าแห่งซาเรสแข็งกระด้างไม่แพ้กัน
“เฟริน  เดอเบอโรว์  คือ  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  คนรักของนาย!”
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างฉงน  ก่อนจะหรี่ลง
ธิดาแห่งความมืด  ผู้หญิงท่าทางซูบซีดคนนั้น  เขาไม่เคยพบหล่อนมาก่อนด้วยซ้ำ  ส่วนเฟริน  เดอเบอโรว์ก็เป็นผู้ชาย  เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองมีรสนิยมแบบนั้น  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างจริงๆจัง
“หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว  ฉันไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นมาเกี่ยวอะไรด้วย  ถ้าไม่ใช่คนรักของนายก็ช่างเถอะ  แต่อย่ามาล้อเล่นกับฉัน”
“แก”
ดวงตาสีม่วงวาวโรจน์สบกับดวงตาเย็นชาที่วาววับไม่แพ้กัน  แล้วนักฆ่าหนุ่มก็ส่ายหน้า
“มีแต่เรื่องนี้ที่นายยังเหมือนเดิม” 
ไอ้ท่าทางหยิ่งยะโสนั่น
คิลเห็นว่าถ้าพูดเรื่องเฟรินกันต่อไปคงได้ออกแรงกันสักยกแน่  ในเมื่อเจ้าตัวมันจำไม่ได้จะไปโทษมันก็ไม่ถูก  จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วที่ผ่านมาพวกนายไปอยู่ที่ไหนมา  คาโลมันหายตัวไปตั้งแต่สี่เดือนที่แล้ว”
“ก็อยู่ในป่าหลงลืมนั่นแหละ  เราไม่มีม้าก็เลยเดินทางช้า  แถมยังหลงอยู่ในเขตอาคมเป็นเดือนกว่าจะออกมาได้”
“นายนี่นะหลง  คนเจ้าเล่ห์ที่มีเส้นสายไปทั่ว”
“ก็ฉันไม่ค่อยคุ้นกับเดมอสเท่าไหร่”
คิลรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก  สงสารเฟริน  หงุดหงิดไอ้คาโล  แถมยังหมั่นไส้ไอ้ขอทานจากทริสทอร์ที่เอาแต่ทำอมพะนำอยู่นั่นแหละ  ดูเหมือนนอกจากโรจะพยายามปิดบังเขาแล้ว  ยังมีอะไรผิดปกติกับคาโลด้วย  เขาคงต้องลองถามตอนพวกมันแยกกันน่าจะได้เรื่องได้ราวกว่า
“ฉันจะไปดูไอ้เฟรินมัน”  นักฆ่าหนุ่มลุกจากโต๊ะไป
***********************************************************************************
ตอนหน้าก็จะใจร้ายอีกแล้ว
******************************************************************************
“คาโล”  เฟรินผวากอดคนที่ยังอุ้มหล่อนอยู่แน่น  แต่หล่อนก็ต้องตกใจเพราะมือที่อุ้มหล่อนค่อยๆคลายจนร่างบางร่วงลงบนพื้น  ถ้าไม่ได้โรรีบรับไว้  หล่อนคงตกกระแทกพื้นเข้าจริงๆ
“นายรู้จักกับผู้หญิงคนนี้หรือ  โร”
“รู้จักสิ  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  เดอะปริ้นเซส ออฟ เดมอส แอนด์ บารามอส”
“ธิดาแห่งความมืด”  เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่แสดงอารมณ์
ชื่อที่ไม่ได้ยินมานานเรียกสติของเจ้าหญิงที่กำลังงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างยิ่งให้กลับมา
“คาโล”  เสียงหล่อนอุทานอย่างตกตะลึง  ดวงตาสีฟ้าเหลือบมองดวงหน้าหวานที่ดูซูบซีดก่อนจะเอ่ยปาก
“คาโล  วาเนบลี  เดอะปริ้นซ์ออฟคาโนวาล  เมื่อครู่ขออภัยที่หม่อมฉันเสียมารยาท  ยินดีที่ได้รู้จัก  เจ้าหญิงเฟลิโอน่า 
มือใหญ่เอื้อมมาดึงมือเล็กไปสัมผัสกับริมฝีปากตามมารยาท  รอยจุมพิตบนมือน้อยชืดชายิ่งกว่าน้ำแข็งก้อนไหนๆในความรู้สึกของเฟริน
มีหลายอย่างที่หายไป
ความคุ้นเคย
ความสนิทสนม
ความห่วงหาอาทร
...ความรัก
หัวใจของหล่อนเจ็บปวดราวกับถูกบีบ เฟรินส่งสายตารวดร้าวให้คนร่างสูงก่อนสติสุดท้ายจะหลุดลอยไป
“ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรหรอกนายท่าน  แต่ร่างกายอ่อนเพลียมากเหมือนขาดการพักผ่อนมานาน  แถมยังขาดสารอาหาร  เดมอสนี่เลี้ยงเจ้าหญิงยังไงกันแน่ ”
โรมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย  ลมหายใจสม่ำเสมอ  ดวงหน้าขาวซีดเซียว  ริมฝีปากที่เคยเป็นสีกุหลาบแห้งผากแตกเป็นริ้วๆ  พิษรักทำให้หล่อนบอบช้ำขนาดนี้
“เฮ้อ..” คิลถอนหายใจ  “ตกลงมันไม่ได้  เอ่อ...ท้องแน่นะ”
คำพูดของนักฆ่าแห่งซาเรสทำเอาบุรุษอีกสองคนในห้องหันมามองตาปริบๆ  ดวงตาสีฟ้ามีแววฉงนเมื่อสบกับดวงตาสีม่วงที่จ้องมองมาเขม็ง  ส่วนดวงตาสีมรกตกลับเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะเบือนไปทางร่างสูงที่ยืนพิงกำแพงอยู่
“ไม่ได้ตั้งครรภ์แน่นอนขอรับ”  ผีหมอจากคทาพิพากษายืนยัน  “แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปคงจะล้มป่วยไปจริงๆ  ถึงจะเป็นคนป่วยแต่ตราบใดที่ยังกินได้ก็ไม่ตาย  แต่นี่กินไม่ได้นอนไม่หลับ  อาการแย่ยิ่งกว่าคนป่วย  ถ้าจะรักษาก็ต้องให้กินอาหารที่มีประโยชน์แล้วก็พักผ่อนให้มากกว่านี้”
ไข้ใจแบบนี้ใครมันจะไปทำอะไรได้  ในเมื่อเจ้าตัวมันเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ 
ดวงตาสีม่วงเหล่ไปยังเพื่อนที่ยืนหน้าตายอยู่  เขาไม่เข้าใจกับท่าทีเย็นชาเกินเหตุของมันเลย
“ออกไปกันเถิดนายท่าน  ให้นายหญิงได้พักผ่อนก่อน”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นน้อยกับสรรพนาม นายหญิง  ก่อนที่บุรุษทั้งสามคนจะเดินออกจากห้อง
บรรยากาศในห้องอาหารเงียบสงบ  เนื่องจากไม่มีแขกคนอื่นนอกจากพวกเขา  เหล่าคนแคระทยอยเสิร์ฟอาหารเช้าอย่างรวดเร็วแล้วก็หายตัวไป  ในหัวคิลมีคำถามผุดขึ้นมามากมายจนนับไม่ถ้วน  ระหว่างที่คิดว่าจะถามอะไรก่อนดีน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นมาก่อน
“คนรักของนายหรือคิล”
นักฆ่าหนุ่มหันไปมองอย่างไม่เชื่อหู  มันพูดอะไรของมัน  จะทำไม่รู้ไม่ชี้ไปถึงไหน  ตอนแรกเขาคิดว่ามันแค่เก๊กต่อหน้าเฟริน  แต่ดวงหน้าคมคายไม่แสดงอาการใดๆที่ผิดปกติ  ราวกับว่ามันไม่รู้จริงๆ
“นายว่าไงนะคาโล  นายพูดถึงเฟรินเหรอ”
“เฟรินไหน  เฟริน  เดอเบอโรว์?  ฉันหมายถึงเจ้าหญิงคนนั้นต่างหาก”
“พวกเราเพิ่งออกมาจากป่าหลงลืม”  เสียงโรดังแทรกขึ้นมา  “หมอนี่โดนอาคมของพวกเอล์ฟดำเข้าไปนิดหน่อย”
คิลนิ่งอึ้ง  เริ่มชักจะเข้าใจอะไรขึ้นมาลางๆ  แต่ก็ยังมีเรื่องที่สงสัยมากมายอยู่ดี
“อย่าบอกนะว่านายลืมมันไปแล้ว”
“ใคร?  ถ้าเป็นเฟริน  เดอเบอโรว์  เดอะทีฟ  ออฟ  บารามอส  ฉันจำได้  เพื่อนร่วมห้องที่เอดินเบิร์ก  หมอนั่นมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“...”  คิลอึ้งหนักกว่าเดิม  ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดีจึงหันไปถามโร
“แล้วนายมากับมันได้ยังไง  โร”
“ฉันมันก็เร่รอนไปเรื่อย  พอผ่านเข้าไปในป่าหลงลืมก็เจอหมอนั่นถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ  นอนพักรักษาตัวอยู่ในถ้ำ”
ไม่น่าเชื่อสิ้นดี 
ดวงตาสีม่วงหรี่ลงอย่างมีความหมาย
เร่ร่อนไปเรื่อย  ในเดมอสนี่นะ  แถมยังเข้าไปในป่าหลงลืมพร้อมๆกันกับหมอนั่น
เจอมันบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในถ้ำ  อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น  ปกติใครเขาจะเข้าไปในถ้ำกัน
คำพูดที่มากพิรุธของโรทำให้คิลชักสงสัยหนักว่ามันปิดบังเรื่องสำคัญอะไรเอาไว้  เรื่องที่ไม่อยากให้ไอ้คาโลรู้
“แถมยังโดนอาคมของพวกเอล์ฟดำ” 
คิ้วเข้มของคิลขมวดมุ่น
“อาคมแบบไหน  หรือว่าที่มันลืมเฟริน?”
“ฉันบอกว่าฉันจำหมอนั่นได้”  น้ำเสียงของเจ้าชายจากคาโนวาลเริ่มกรุ่น  หน้าตึงอย่างไม่สบอารมณ์
“นายเล่ามาให้ละเอียดซิ” คิลไม่สนใจหันไปซักโรต่อ 
พอเห็นคู่ปรับเก่ามีท่าทีร้อนรน  รอยยิ้มก็ปรากฏบนในหน้า
“ตอนแรกฉันก็ไม่รู้  เพราะมันไม่มีอาการอะไรผิดปกติ  แถมหมอนี่มันก็พูดน้อยเราก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก  ฉันเองก็เพิ่งรู้ตอนมาถึงที่นี่แหละว่ามันลืมเฟรินไปแล้ว”
มันโกหก
ดวงตาสีม่วงเป็นประกายวาบก่อนจะอ่อนแสงลง
มันต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง  หมอนี่ไม่น่าจะคิดร้ายต่อเฟริน 
บุรุษอีกคนที่นั่งอยู่กอดอกนิ่ง  ดวงตาสีฟ้าฉายแววหงุดหงิดชัด  ต้องให้บอกอีกสักกี่ครั้งว่าเขาจำหมอนั่นได้  หัวขโมยไม่เจียมตัวที่เอาแต่ก่อเรื่อง  เพื่อนร่วมห้องตัวแสบที่ทำให้เขาต้องปวดหัวอยู่เสมอ  พอถึงปีสามหมอนั่นก็ย้ายออกไปแล้วก็ไม่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมันอยู่ในความทรงจำอีก  คาโลกัดฟันกรอด 
“ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว  ฉันบอกว่าฉันจำนายเฟริน เดอเบอโรว์ได้”  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเอ่ยเสียงเข้ม
“นายจำไม่ได้!”  เสียงนักฆ่าแห่งซาเรสแข็งกระด้างไม่แพ้กัน
“เฟริน  เดอเบอโรว์  คือ  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  คนรักของนาย!”
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างฉงน  ก่อนจะหรี่ลง
ธิดาแห่งความมืด  ผู้หญิงท่าทางซูบซีดคนนั้น  เขาไม่เคยพบหล่อนมาก่อนด้วยซ้ำ  ส่วนเฟริน  เดอเบอโรว์ก็เป็นผู้ชาย  เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองมีรสนิยมแบบนั้น  เจ้าชายแห่งคาโนวาลเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างจริงๆจัง
“หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว  ฉันไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นมาเกี่ยวอะไรด้วย  ถ้าไม่ใช่คนรักของนายก็ช่างเถอะ  แต่อย่ามาล้อเล่นกับฉัน”
“แก”
ดวงตาสีม่วงวาวโรจน์สบกับดวงตาเย็นชาที่วาววับไม่แพ้กัน  แล้วนักฆ่าหนุ่มก็ส่ายหน้า
“มีแต่เรื่องนี้ที่นายยังเหมือนเดิม” 
ไอ้ท่าทางหยิ่งยะโสนั่น
คิลเห็นว่าถ้าพูดเรื่องเฟรินกันต่อไปคงได้ออกแรงกันสักยกแน่  ในเมื่อเจ้าตัวมันจำไม่ได้จะไปโทษมันก็ไม่ถูก  จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วที่ผ่านมาพวกนายไปอยู่ที่ไหนมา  คาโลมันหายตัวไปตั้งแต่สี่เดือนที่แล้ว”
“ก็อยู่ในป่าหลงลืมนั่นแหละ  เราไม่มีม้าก็เลยเดินทางช้า  แถมยังหลงอยู่ในเขตอาคมเป็นเดือนกว่าจะออกมาได้”
“นายนี่นะหลง  คนเจ้าเล่ห์ที่มีเส้นสายไปทั่ว”
“ก็ฉันไม่ค่อยคุ้นกับเดมอสเท่าไหร่”
คิลรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก  สงสารเฟริน  หงุดหงิดไอ้คาโล  แถมยังหมั่นไส้ไอ้ขอทานจากทริสทอร์ที่เอาแต่ทำอมพะนำอยู่นั่นแหละ  ดูเหมือนนอกจากโรจะพยายามปิดบังเขาแล้ว  ยังมีอะไรผิดปกติกับคาโลด้วย  เขาคงต้องลองถามตอนพวกมันแยกกันน่าจะได้เรื่องได้ราวกว่า
“ฉันจะไปดูไอ้เฟรินมัน”  นักฆ่าหนุ่มลุกจากโต๊ะไป
***********************************************************************************
ตอนหน้าก็จะใจร้ายอีกแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น